เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 18 กรกฎาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,412
    ค่าพลัง:
    +26,227
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,412
    ค่าพลัง:
    +26,227
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ภารกิจสำคัญของกระผม/อาตมภาพคือไปร่วมพิธีปลุกเสกพระกริ่งเทวโมฬีและรูปหล่อพระสุนทรีวาณี ตามฎีกานิมนต์ของพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี (เชิด จิตฺตคุตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม

    ครั้นไปถึงเท้าแตะพื้น ฝนก็กระหน่ำลงมาทันทีทันใด จึงทำให้ปลอดภัยจากญาติโยมที่รออยู่เป็นพัน ๆ คนจนแทบจะไม่มีทางเดิน ครั้นเข้าสู่ที่พักเสร็จสรรพเรียบร้อย ฝนก็หยุดทันทีเหมือนกัน ต้องขอบคุณพระพิรุณที่ทำหน้าที่ในการป้องกันญาติโยมให้อย่างแข็งขัน..!

    เมื่อเข้าไปถึงก็กราบพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร)
    กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ ซึ่งท่านไปทำหน้าที่เจริญพระพุทธมนต์ในพิธี โดยที่ต้องเข้าสู่มณฑลพิธีพระอุโบสถก่อน หลังจากนั้นพระเกจิอาจารย์ผู้เข้าทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล จึงจะได้รับนิมนต์ให้ตามเข้าไป กระผม/อาตมภาพจึงนั่งคุยกับหลวงพ่อขวัญชัย (พระครูวิจิตรธรรมรัตน์) วัดนามะตูม ซึ่งท่านก็ส่งฎีกานิมนต์ให้ไปร่วมงานหล่อพระเนื่องในอายุ ๗๓ ปีของท่านด้วย

    สถานที่ซึ่งนั่งคุยกันนั้นก็คือกุฏิของพระเดชพระคุณหลวงปู่เสงี่ยม - สมเด็จพระพุฒาจารย์ (จนฺทสิริมหาเถร ป.ธ.๖) ซึ่งเป็นสหธรรมิกร่วมเทศน์กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงมาบ่อยมาก สถานที่ต้องบอกว่าเย็นโดยพลังงานที่มีอยู่ ไม่ใช่เย็นเพราะเครื่องปรับอากาศหรือว่าฝนตก พระที่ต้อนรับอยู่ยังบอกว่า ด้วยความที่เคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่เสงี่ยม ก็เลยไม่กล้าที่จะขยับขยายเคลื่อนย้ายอะไรของท่านเลย

    แม้แต่ผู้ที่อยู่กุฏิถัดมา ก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อวีระ - สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ภทฺทจาริมหาเถร ป.ธ. ๙) นั้น ท่านก็อาศัยจำวัดอีกด้านที่หนึ่ง ไม่กล้าที่จะเข้าไปจำวัดในสถานที่เดียวกับหลวงปู่เสงี่ยมท่าน กระผม/อาตมภาพจึงแนะนำพระท่านไปว่า "ให้ลองไปค้นดูว่ามี "พระกริ่งหลังปิ" เหลืออยู่บ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่ามีเหลือก็เอามาแบ่งกันบ้าง" แล้วก็เป็นที่หัวเราะเฮฮากัน

    บรรดาพระภิกษุรุ่นใหม่ ๆ ในกรุงเทพมหานครนี้เป็น FC วัดท่าขนุนกันเยอะมาก หลายท่านก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่น เรียนโน่นเรียนนี่กับบรรดาพระมหาเปรียญวัดท่าขนุนมาเหมือนกัน หรือไม่ก็เป็นเพื่อนร่วมการอบรมมา จึงทำให้ทุกท่านตั้งใจถวายการรับใช้ จนกระผม/อาตมภาพรู้สึกเขิน ๆ อยู่เหมือนกัน..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,412
    ค่าพลัง:
    +26,227
    เมื่อใกล้เวลา ท่านเจ้าคุณสุริยัน (พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ.) วัดป่าวังน้ำเย็นก็มากราบ เรียนถามว่า "หลวงพ่อเล็กมานานแล้วหรือครับ ?" ได้บอกกับท่านไปว่า "มาถึงได้พักใหญ่แล้ว แต่ว่าท่านเจ้าคุณออกจากวัดมาหลายวัน ระวังญาติโยมจะจำไม่ได้ว่าใครเป็นเจ้าอาวาส..!" แล้วก็หัวเราะกันเป็นการใหญ่

    เมื่อเจ้าหน้าที่มานิมนต์ให้ขึ้นสู่มณฑลพิธีพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม หลังจากกราบพระประธานแล้ว กระผม/อาตมภาพก็กราบรายงานตัวกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายการสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์ไทย

    โดยรายงานตัวว่า "วัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรีครับ" เพราะว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ นั้น ได้เมตตาตั้งให้วัดท่าขนุนเป็นวัดพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์ต้นแบบ ซึ่งเป็นวัดแรกที่คณะศิษย์ของท่านไปทำการสัมภาษณ์ เพื่อที่จะเอามาลงในรายการ "พระนักพัฒนาต้นแบบการสาธารณสงเคราะห์"

    แล้วก็กราบพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณหลวงปู่เชิด (พระพรหมวชิรมุนี) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งท่านบอกว่า "กราบหลวงพ่อสมเด็จฯ ก็พอแล้ว" แต่กระผม/อาตมภาพก็ยังขออนุญาตกราบท่านเป็นการส่วนตัว แล้วก็มาทักทายกับท่านเจ้าคุณอิฏฐ์ (พระสมุทรวชิรโสภณ วิ.) วัดจุฬามณีที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ท่านได้นิมนต์ให้กระผม/อาตมภาพไปงานฉลองเจ้าคุณใหม่ของท่านด้วย

    ครั้นได้เวลาพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ได้ทำการเจิมและจุดเทียนชัย กระผม/อาตมภาพเข้าสมาธิได้ก็ไปยาวตามระเบียบ

    วัดที่มีครูบาอาจารย์ที่สุดยอดอย่างวัดสุทัศนเทพวราราม ไม่ว่าจะเป็นพระเดชพระคุณท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ติสฺสเทวมหาเถร) หรือที่คนเรียกกันแบบคุ้นเคยว่าสมเด็จพระสังฆราช (แพ) นั้น แล้วยังมีสุดยอดพระอย่างหลวงปู่เสงี่ยม - พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (จนฺทสิริมหาเถร) อีก
    สำหรับกระผม/อาตมภาพจึงเป็นวัดที่ปลุกเสกอะไรก็ง่ายไปหมด เนื่องเพราะว่าบารมีของอดีตเจ้าอาวาสทั้ง ๒ รูปก็กินไม่ไหวใช้ไม่หมดแล้ว..!

    ทุกท่านลองนึกดูว่า การที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชแห่งคณะสงฆ์ไทยนั้น ตกอยู่ในฝ่ายธรรมยุติกนิกายมาตลอด ๙๒ ปี แล้วอยู่ ๆ ก็มีสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายมหานิกาย ก็คือหลวงปู่สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนเทพวราราม ทะลุขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสังฆราชได้ ถ้าไม่ใช่ฝีไม้ลายมือในการปกครองเป็นที่ยอมรับของคณะสงฆ์ทั้งหมด และไม่ใช่บุญญาบารมีที่ท่านสร้างสมมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันแล้ว จะมีใครทำแบบนี้ได้..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,412
    ค่าพลัง:
    +26,227
    โดยเฉพาะหลวงปู่เสงี่ยมนั้น "ท่านเป็นพระที่ไม่เอาอะไรแล้ว" เป็นเพื่อนสนิทชิดเชื้อกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ชนิดที่ถึงเวลารับกิจนิมนต์แล้ว สวดมนต์ให้เขาเสร็จเรียบร้อย ก็ขอลาเจ้าภาพออกไปหาก๋วยเตี๋ยวฉันกัน..! ท่านบอกว่า "เขาเตรียมข้าวปลาอาหารกันมาแต่เช้า กว่าที่จะถึงเพลก็เย็นหมดแล้ว ไปหาก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ฉันกันข้างนอกดีกว่า" ว่าแล้วสองสหายคู่หูก็หนีออกจากงานไปหาก๋วยเตี๋ยวฉันกันจริง ๆ เรื่องนี้เล่ากันขึ้นมาทีไร กระผม/อาตมภาพก็ขำทุกที..!

    ครั้นเมื่อพระมหานาคท่านสวดก็สวดของท่านไป กระผม/อาตมภาพก็เข้าสมาธิของตนเองไป
    จนกระทั่งมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว "สาธุ..สาธุ..สาธุ" ดังขึ้น แปลว่าหลวงปู่ท่านเจ้าคุณศิลามาถึงแล้ว จากนั้นหูได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่ามีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ๓ ครั้งติด ๆ กัน เมื่อกำหนดใจดู เห็นพระเถระหลายรูปที่อยู่ในพิธีมีอาการสะดุ้งตกใจ แต่กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ "ตกใจไม่เป็น" มาหลายปีแล้วจึงเข้าสมาธิยาวไปเลย

    หลวงปู่พระราชวัชรธรรมโสภณ วัดพระธาตุหมื่นหินนั้น ระยะนี้ต้องบอกว่าเป็นที่ทุกสำนัก ทุกงานพุทธาภิเษก จำเป็นที่จะต้องมีท่านไปด้วย ญาติโยมจำนวนมหาศาลที่มานั้น ก็เพื่อที่จะมากราบหลวงปู่เจ้าคุณศิลาของเรานี่เอง

    ครั้นเมื่อพระท่านบอกว่า "เต็มแล้ว" กระผม/อาตมภาพก็ถอนจิตออกมาทำน้ำมนต์ เสร็จตอนที่พระมหานาคสวดจบพอดี จึงได้ทำการพรมน้ำมนต์ในวัตถุมงคลและโปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา ครั้นรับไทยธรรมแล้วยังต้องฝ่ารถติดออกมา กว่าจะถึงที่พักก็เล่นเอาทุลักทุเล ยังโชคดีที่ว่าฝนไม่ได้ตกลงมาซ้ำเติมด้วย..!

    ในส่วนของญาติโยมนั้น มีจำนวนมากต่อมากด้วยกันที่ตั้งใจไปทำบุญกับกระผม/อาตมภาพ แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเมื่อได้รับบทเรียนจากพระเถรานุเถระหลายราย ที่ย่ามหายเพราะว่ามีผู้ทุจริตตั้งใจที่จะขโมย ก็เลิกถือย่าม
    ไปในงานต่าง ๆ ดังนั้น..จึงไม่มีย่ามเอาไว้รองรับศรัทธาญาติโยมเลยแม้แต่เล็กน้อย ต้องขออภัยญาติโยมทั้งหลายที่ตั้งใจไปทำบุญกับกระผม/อาตมภาพด้วย
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,412
    ค่าพลัง:
    +26,227
    เมื่อท่านตั้งใจทำบุญก็ได้บุญแล้ว ถ้าหากว่าพบพระเถระรูปหนึ่งรูปใดก็ให้ทำบุญไปเลย กระผม/อาตมภาพขออนุโมทนาด้วย หรือว่าท่านจะร่วมบุญกับหลวงปู่เชิด (พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามก็ได้ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเช่นกัน

    การที่เราจำเพาะเจาะจง จะถวายปัจจัยไทยธรรมร่วมบุญกับพระเถระรูปใดรูปหนึ่งนั้น เป็นได้แค่ปาฏิปุคคลิกทาน ก็คือทานเฉพาะตน ซึ่งอานิสงส์น้อยกว่าสังฆทานเป็นแสนเท่า..! เพราะว่าสังฆทานนั้น พระหนุ่มเณรน้อยทั้งหลายมีส่วนในการร่วมกินร่วมใช้ทั้งหมด กลายเป็นทานค้ำจุนพระพุทธศาสนา

    คราวหน้าญาติโยมทั้งหลายถ้าจะทำบุญกับกระผม/อาตมภาพ ขอให้ทุกท่านตั้งใจให้เป็นสังฆทานดีกว่า ไม่ว่าหลวงปู่หลวงพ่อ หรือพระหนุ่มเณรน้อยรูปใดเดินผ่านมา ท่านก็ถวายไปเลย ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะมีผลานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่มาก แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสเอาไว้ว่า "ถวายทานกับพระองค์ท่าน ๑๐๐ ครั้ง ยังไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง"

    ในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการถอนการยึดติดในตัวบุคคลไปด้วย เมื่อเราสามารถถอนการยึดติดในตัวบุคคลผู้อื่นได้ แม้ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ที่เรารักอย่างยิ่งก็ตาม ก็จะทำให้เราสามารถถอนการยึดติดในตัวตนของเราไปได้ด้วย ถ้าสามารถทำกำลังใจแบบนี้ได้ โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะขยับเข้าใกล้มรรคใกล้ผลก็จะมีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...