เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 กรกฎาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งก็คือวันเข้าพรรษาวันแรก แต่ว่าพระภิกษุสงฆ์วัดท่าขนุนนั้น ได้ทำการเข้าพรรษาไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ก็คืออธิษฐานพรรษาและเริ่มการจำพรรษาตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อให้ครบถ้วนไตรมาสตามพระพุทธบัญญัติที่มีไว้ในกฐินขันธกะว่า บุคคลที่ควรแก่การรับกฐินนั้น ต้องจำพรรษาอยู่ในอาวาสนั้นครบถ้วนไตรมาส

    กิจกรรมในช่วงเช้าก็มีการทำบุญใส่บาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม ฟังการเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารสังฆทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่หลวงปู่พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ หรือว่าหลวงปู่สาย อคฺควํโส อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนรูปที่ ๓ อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งหลวงปู่ท่านมรณภาพลงเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ แล้วทางวัดท่าขนุนทำบุญถวายหลวงปู่ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือน ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา ๓๐ ปีแล้ว

    ส่วนในระยะเวลาเข้าพรรษานั้น เนื่องจากว่าทางวัดท่าขนุนมีการทำบุญทุกวันพระ ถ้าหากว่าจัดงานทำบุญถวายหลวงปู่สายเพิ่มขึ้นมาอีกวันหนึ่ง ก็จะทำให้ญาติโยมทั้งหลายจะต้องลำบากในการเดินทางมาทำบุญที่วัดเพิ่มขึ้นอีก ๑ วัน ทางวัดจึงตกลงกันว่า ถ้าเป็นช่วงเข้าพรรษานั้น จะเลือกเอาวันพระที่ใกล้เคียงวันที่ ๑๔ ของเดือนมากที่สุด แล้วทำบุญถวายหลวงปู่สายไปพร้อมกับการทำบุญวันพระทีเดียว

    พอดีว่าวันนี้ตรงกับวันเข้าพรรษา ซึ่งมีการทำบุญเป็นปกติอยู่แล้ว มัคคนายกทั้งหลายจึงได้กล่าวคำถวายภัตตาหารสังฆทาน พร้อมกับอุทิศส่วนกุศลให้แก่หลวงปู่ไปด้วย

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นการแสดงออกซึ่งกตเวทิตาธรรมของหมู่ลูกศิษย์ที่มีต่อหลวงปู่ ซึ่งเป็นที่พึ่งแก่เขาทั้งหลายเหล่านั้นมายาวนาน ตั้งแต่ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสในปี ๒๔๙๘ แล้วอยู่ดูแลชาวทองผาภูมิ แผ่บารมีปกเกศปกเกล้าชาวบ้านทุกหมู่ทุกเหล่า ไม่ว่าจะเป็นไทย มอญ พม่า กะเหรี่ยง จนกระทั่งมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือ ตลอดระยะเวลา ๓๗ ปีที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ทำให้ชาวบ้านทุกคนต่างยังคงรำลึกถึงคุณความดีของหลวงปู่อยู่เป็นปกติ

    ดังนั้น...การทำบุญถวายหลวงปู่สายจึงมีแต่ข้อดี คือแสดงออกซึ่งกตเวทิตาธรรมของกตัญญุตาบุคคล คือผู้ที่รู้คุณท่าน แล้วแสดงการตอบแทนด้วยการสนองคุณท่านในทางด้านดี
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ประการที่สองคือ เป็นการผ่อนคลายให้กับทางพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน ซึ่งมีการเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ คือทำวัตรเช้า ๑ รอบ ทำวัตรเย็น ๒ รอบมาตลอดทั้งปีในแต่ละเดือน ช่วงเย็นวันที่ ๑๓ ก็เปลี่ยนจากการทำวัตรเย็น ๒ รอบ เหลือแค่การสวดพระพุทธมนต์เย็นถวายหลวงปู่สายเท่านั้น

    ส่วนในเช้าวันที่ ๑๔ ก็จะมีการแสดงพระธรรมเทศนา และให้ชาวบ้านทำบุญใส่บาต รอุทิศส่วนกุศลให้แก่หลวงปู่สาย ในเมื่อมีแต่ส่วนดีเช่นนี้ กระผม/อาตมภาพจึงได้คงแบบธรรมเนียมที่ดีนี้เอาไว้ ตั้งแต่มาเป็นรองเจ้าอาวาสจนกระทั่งมาเป็นเจ้าอาวาส ระยะเวลาก็ยาวนานถึง ๒๑ ปีแล้ว

    ดังนั้น...ในส่วนนี้ท่านทั้งหลายที่อยู่ในอำเภอทองผาภูมิจะรู้ดี ในช่วงเช้าวันที่ ๑๓ ของทุกเดือน ถ้าหากว่าพระที่ออกบิณฑบาตบอกว่า "ขออนุญาตหยุดบิณฑบาตพรุ่งนี้ ๑ วัน" ส่วนใหญ่ก็จะถามว่า "ถึงวันทำบุญถวายหลวงปู่แล้วหรือ ?" ก็คือเป็นที่ทราบทั่วกันว่า ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือน ทางวัดท่าขนุนจะทำบุญถวายหลวงปู่สาย

    สำหรับในช่วงบ่ายวันนี้นั้น มีการเก็บผางประทีป ซึ่งได้แปรภาพแปรอักษรเป็นพุทธบูชาไปตั้งแต่เมื่อวาน ตรงส่วนนี้นั้น ผอ.โม้ย (นางสาวสุภาภรณ์ เจริญศิริโสภาคย์) ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้พาคณะมาร่วมการวางผางประทีป จุดถวายเป็นพุทธบูชา และได้ถ่ายทำภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ประกอบการประชาสัมพันธ์ของงานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน

    ผอ.โม้ย ท่านได้ปรารภว่า "เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก" เพราะว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามานั้น ฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก จนกระทั่ง ๕ โมงเย็นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ได้รับคำสั่งจากกระผม/อาตมภาพว่า ให้วางผางประทีปโดยการคว่ำเอาไว้ก่อน ถ้าหากว่าฝนไม่หยุดตกตามเวลา เราก็จะไม่จุดถวายเป็นพุทธบูชา

    แต่ถ้าหากว่าเทวดา นางฟ้า พรหมทั้งหลาย ต้องการบุญต้องการกุศลตรงส่วนนี้ เดี๋ยวท่านก็จะจัดสรรให้เองว่าจะให้ฝนหยุดในช่วงไหน ปรากฏว่าประมาณ ๕ โมงครึ่ง ฝนก็เริ่มขาดเม็ด กระผม/อาตมภาพจึงได้นำพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ฆราวาส นักท่องเที่ยวและผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ทำการตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง ถวายเป็นพุทธบูชา

    เรื่องพวกนี้ชาวบ้านท่าขนุนเจอมา ๒๑ ปี จนเขาไม่รู้สึกว่าแปลกกันแล้ว หากแต่บอกต่อ ๆ กันไปตามความเคยชินว่า "ถ้าหากว่าเป็นหน้าฝนแล้ววัดท่าขนุนจัดงาน เลิกงานเมื่อไรให้รีบกลับทันที ถ้าช้าแปลว่าเปียกแน่..!"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ในเมื่อมีการบอกกล่าวกันเช่นนี้ ทุกคนเมื่อเวียนเทียนเสร็จตอนประมาณ ๒ ทุ่มครึ่ง ก็พากันถอนตัวจากวัดท่าขนุน ทั้งที่ผางประทีปยังคงงดงามสว่างไสวอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะฝนตก แต่พอ ๓ ทุ่มตรง ฝนก็เริ่มปรอยลงมาจาง ๆ แล้วก็ตกหนักขึ้นมาเรื่อยจนกระทั่งสว่าง..!

    ในส่วนนี้ต้องบอกว่าเทวดา พรหม ตลอดจนกระทั่งเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ท่านก็ล้วนแล้วแต่ปรารถนาในส่วนกุศล เพื่อที่จะยังภพภูมิของตนให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยเฉพาะการสั่งสมบุญกุศลนั้น มีแต่ความดีโดยส่วนเดียว เพราะว่าตราบใดที่กุศลยังส่งผลให้อยู่ ตราบนั้นเราก็จะได้รับแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเกิดในชาติใดภพใดก็ตาม

    ญาติโยมทั้งหลายจึงควรที่จักสั่งสมบุญกุศล ใน ทาน ศีล ภาวนา ให้ต่อเนื่องกัน อันดับแรก...ถ้าหากว่าล่วงลับดับขันธ์ไป บุญกุศลนั้นย่อมส่งผลให้ท่านไปสู่สุคติ

    อันดับที่สอง...ถ้าท่านยังดำรงชีวิตอยู่ แล้วสร้างบุญกุศลได้นานพอ ผลบุญก็จะส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตนี้ของท่านทั้งหลายด้วย

    และอันดับต่อไป...ถ้าหากว่าสร้างสมจนเคยชิน ท่านจะมีคติที่แน่นอน ก็คือมีสุคติเป็นที่ไปโดยส่วนเดียว

    ในช่วงบ่ายนั้น เมื่อเก็บผางประทีปและทำความสะอาดวัดกันแล้ว ก่อนที่จะทำวัตรเย็น ถือว่าเป็นเวลาพักผ่อน แต่ญาติโยมทั้งหลายที่เป็นนักท่องเที่ยว มีระยะเวลาในการหยุดวันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้อีก ๒ วัน จึงยังคงปักหลักกันอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ

    ประการแรก เพราะว่าทางหน้าวัดท่าขนุน ยังมีผลไม้เลื่องชื่อของทองผาภูมิที่ทยอยกันออกมา ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนทองผาภูมิก็ดี เงาะทองผาภูมิ สะตอและพืชผักสดปลอดสารพิษอื่น ๆ ก็ตาม ตรงส่วนนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่าย ยกเว้นปีที่พิเศษแบบนี้ เพราะว่าปีนี้นั้น การออกของผลไม้เป็นไปตามสภาพอากาศที่แปรปรวน ผลไม้จึงได้ออกไม่พร้อมกัน แต่แบ่งออกเป็นหลายรุ่น จึงยังคงพอมีที่จะแบ่งปันให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายที่มาถึงได้
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    อีกส่วนหนึ่งก็มาวัดท่าขนุนเพื่อบูชาวัตถุมงคลต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งที่ร่ำลือกันไปก็คือว่า "วัตถุมงคลวัดท่าขนุนสามารถกันเชื้อไวรัสโควิด ๑๙..!" กระผม/อาตมภาพพยายามที่จะปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธให้พวกท่านเชื่อถือได้

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตัวกระผม/อาตมภาพเอง ในระยะเวลาประมาณ ๑๐ วันที่ผ่านมา ได้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ สองรายติด ๆ กัน เป็นการคลุกคลีใกล้ชิดโดยที่แทบจะไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นจะบอกว่าประมาทก็ไม่ได้ หากแต่เป็นการแส่หาเรื่องให้ตัวเองติดเชื้อไวรัส จะได้มีงานน้อย ๆ ลงหน่อย...! แต่ก็ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ ตรงจุดนี้เลยทำให้ญาติโยมทั้งหลายไปจับแพะชนแกะว่า วัตถุมงคลวัดท่าขนุน สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ได้

    กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า ท่านที่กำลังใจต่ำ มีความไม่แน่นอน ศรัทธาในพระพุทธศาสนาไม่แน่นแฟ้น อย่าได้เสี่ยงเลย เพราะว่าถ้ากำลังใจท่านตกเมื่อไร หรือว่าอกุศลกรรมเข้ามาสนองเมื่อไร ท่านทั้งหลายก็จะเดือดร้อนทันที เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้นไม่เข้าใครออกใคร

    แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัยเหมือนกับอาตมภาพ หรือว่ามีความเข้าใจในการใช้คาถาอาคม หรือวัตถุมงคลในระดับเดียวกับอาตมภาพ ท่านทั้งหลายก็อาจจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ศรัทธาที่แน่นแฟ้นประการหนึ่ง กำลังสมาธิสมาบัติที่สูงอีกประการหนึ่ง ทำให้สามารถรักษาตัวตนของเราได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้เสมอกัน คล้ายกับว่ากระผม/อาตมภาพสามารถยกข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัมได้ ก็ไม่ใช่ว่าญาติโยมทุกคนจะยกไหว บางท่านก็อาจจะยกได้แค่กระสอบละ ๕๐ กิโลกรัม บางท่านก็ยกได้แค่กระสอบละ ๑๕ กิโลกรัม บางท่านก็ยกได้แค่ถุงละ ๕ กิโลกรัม บางท่านแค่ ๒ กิโลกรัมก็ลำบากแล้ว เป็นต้น

    ในส่วนนี้จึงไม่อยากให้ท่านทั้งหลายมาปักใจเชื่อตรงนี้ เพราะว่าถ้าหากกำลังใจที่ไม่เท่ากัน เราจะไปหวังให้วัตถุมงคลสามารถคุ้มครองให้เท่ากันย่อมเป็นไปไม่ได้
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    อีกส่วนหนึ่งก็คือ บรรดาท่านทั้งหลายที่เข้าไปบูชาวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพสังเกตว่า ท่านทั้งหลายทำอะไรที่ค่อนข้างจะห่างไกลจากพระรัตนตรัย ก็คือมักจะไปบูชาวัตถุมงคลที่เป็นเครื่องรางเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่วัตถุมงคลที่เป็นรูปพระ

    กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า วัตถุมงคลที่เป็นรูปพระพุทธก็ดี ที่เป็นรูปพระสงฆ์ก็ดี โดยเฉพาะที่เป็นองค์ใหญ่นั้น กระผม/อาตมภาพไม่ได้สร้างมานานแล้ว ยกเว้นว่านำพระพุทธรูปมาเข้าพิธีตอนภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ แล้วทำการจารเพิ่มเติมเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า พระพุทธรูปองค์นี้เข้าพิธีมาแล้ว

    โดยเฉพาะว่าพระพุทธรูปเหล่านี้ สำเร็จลงมาด้วยคุณพระรัตนตรัย โดยเฉพาะพุทธานุภาพ ดังนั้น..ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในสถานที่ หรือว่าบ้านเรือนแห่งไหนก็ตาม เวลาดึก ๆ ก็จะมีพรหม มีเทวดา ที่อยู่ในบริเวณนั้น ลงมากราบไหว้บูชา เพื่อสร้างบุญกุศลให้เกิดแก่ตนเอง

    ผู้ที่บูชาพระพุทธรูปไปจากวัดท่าขนุน จึงควรมีข้อปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ควรจะลืมเลยก็คือ อย่านอนขวางหน้าหิ้งพระของตนเอง เพราะว่าหลายท่านที่นอนขวางหน้าหิ้งพระ ถึงเวลาพรหมหรือเทวดาท่านมาบูชาพระ เห็นเราเกะกะอยู่ ท่านก็จะดึงเราออกไป แล้วท่านทั้งหลายก็อาจจะสงสัยว่า ตัวเองนอนดิ้นไปไกลขนาดนั้นเชียวหรือ ?

    ขอบอกว่าท่านเองอาจจะไม่ได้ดิ้นเลยก็เป็นได้ แต่บังเอิญไปเกะกะการสร้างบุญสร้างกุศลของท่านทั้งหลายเหล่านี้ จึงได้มีการ "เชิญ" เราออกไป ด้วยวิธีการที่เราเองก็ไม่รู้ตัว

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ วัตถุมงคลที่สำเร็จลงด้วยบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น ถ้าหากว่าท่านบูชาด้วย อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ทั้ง ๓ ห้อง วันละ ๓ จบ บุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นผี เป็นเทวดา เป็นมาร เป็นพรหม ถ้าหากว่าคิดร้ายต่อพวกเรา เขาทั้งหลายจะแพ้ภัยไปเอง ด้วยพุทธานุภาพซึ่งหาประมาณไม่ได้

    วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...