เมื่อพระบวชใหม่กะนายจาเข้าป่าช้าด้วยกัน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย jaruzuke, 22 เมษายน 2010.

  1. jaruzuke

    jaruzuke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +555
    สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่น้องทุกคน
    หายไปนานเนื่องด้วย ช่วงที่ผ่านมาโดนเตะไปอยู่นครสวรรค์มาครับ และบ้านพักที่อยู่อย่าว่าแต่เน๊ตเลย โทรศัพย์ยังไม่มีให้ใช้เลย
    จำได้ว่าจาเคยเล่าเรื่องไปเที่ยวนครสวรรค์ให้ฟังไปทีแล้ว ตอนนั้นไปที่ตำบลโกรก
    พระ

    แต่เที่ยวนี้จาไปประจำที่อำเภอชุมแสงครับ และอย่างที่บอก บ้านพักของจาเรียกได้ว่าห่างไกลความเจริญ ยังดียังมีไฟฟ้าใช้ น้ำก็โยกก๊อกนอกบ้านแล้วหิ้วเอา เหมือนไปทัวร์โฮมสเตย์ยังไงยังงั้นเลยครับ

    ตำบลที่จาอยู่คือตำบลหนองกระเจา และใกล้ๆก็มีวัดหนองกระเจา ซึ่งเป็นวัดที่ค่อนข้างจะติดบรรยากาศวัดชนบท ตัววัดดูเก่าแก่และที่สำคัญ เงียบมากๆ เหมาะแก่การศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้

    และที่วัดนี้แหละครับที่เป็นที่เกิดเหตุ เนื่องจากระยะทางที่ใกล้เคียงระหว่างวัดกับที่พัก จาเลยมีโอกาสแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนและกราบบรรดาหลวงตาหลวงลุงและหลวงพี่ทั้งหลายในวัดบ่อยๆ บางครั้งเข้าไปหลังฉันเพลก็มีข้าวก้นบาตรให้(ตลกบริโภค)กินเป็นลาภปากอีกด้วย

    และเมื่อเป็นวัดชนบท สิ่งที่จะขาดไม่ได้คล้ายเป็นเครื่องหมายการค้าเลยก็คือ ต้องมีป่าช้าท้ายวัด และโกดังเก็บศพแถมมาเป็นแพคคู่ ขนาดตอนกลางวันจาลองเดินผ่านดู ยังอดขนหัวลุกไม่ได้ จึงไม่ต้องพูดถึงตอนกลางคืน ที่ไม่มีแม้แสงไฟ

    ที่วัดมีพระบวชใหม่อยู่รูปนึงครับ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับจาแหละ ท่านชื่อพระสมพร เป็นคนกรุง แต่ปลีกวิเวกมาบวชที่นี่เพราะโยมแม่เป็นคนที่นี่ และตัวพระท่านเองอยากอยู่วัดที่สงบ แต่ไม่กันดารจนเกินไปนัก จึงได้มาลงเอยที่วัดหนองกระเจาแห่งนี้แล

    พระสมพรนี่ท่านคุยเก่งครับ หากเปิดประเด็นเรื่องอะไรมาให้ท่านสักเรื่อง ท่านจะต่อให้ยาวจนลืมเวลาไปเลย ยิ่งถ้ามีหลวงพี่สองสามรูปมาร่วมสนทนาด้วยละ กว่าจะได้กลับบ้านก็เผลอๆสี่ห้าทุ่ม

    แล้วก็มาถึงวันเกิดเหตุ วันนั้นเป็นวันหยุดของจา และเพราะความห่างไกลแสงสี
    ที่เที่ยวทั้งหลายจึงไม่มี เมื่อไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านเฉยๆก็ย่อมเบื่อ ครั้นจะไปนั่งสีหญิงแถวนี้ ไอ้กระผมก็เป็นคนต่างถิ่น ไปทำกระลิ้มกระเหลี่ยกับสาวๆแถวนั้นก็เกรงจะเจอสหบาทาเจ้าถิ่น เผลอๆจะเจอตาพ่อไล่ยิงให้ได้วิ่งตับทรุดซะอีก

    ดังนั้นหนทางแก้เบื่อก็เลยมีแต่เดินเข้าวัด หลังซักผ้าซักผ่อนเสร็จจาก็ตรงเข้าวัดทันที ไปเจอเอาท่านสมพรนั่งจิบชาอยู่หน้ากุฏิ ท่านเเห็นผมเดินเข้าวัดไปก็รีบเรียก โยมจาเอ๊ย มาสนทนาธรรมกันสักประโยคเป็นไงเล่า

    ผมเลยไม่ขัดศรัทธา เข้าไปนั่งกราบพระกราบท่านเสร็จ ก็เป็นคนรินชาให้ท่าน ก่อนจะพูดคุยเรื่องสัพเพเหระไปเหมือนปกติ นั่งไปได้สักครึ่งชั่วโมง หลวงตาหลองท่านก็เดินมาจากทางท้ายวัด จาเห็นก็เลยนิมนต์มานั่งสนทนาด้วยกัน

    หลังจากนิมนต์นั่งเสร็จสรรพ์รินน้ำชาประเคนเรียบร้อย พระสมพรท่านก็ถามหลวงตาว่าท่านไปไหนมา หลวงตาท่านก็ว่าเข้าไปนั่งกรรมฐานในป่าช้า ออกมาเอาธูปเทียนไว้จุดคืนนี้ เท่านั้นแหละ พระสมพรหูผึ่งทันที

    "เมื่อคืนหลวงตาเข้าไปนั่งในป่าช้ามาเหรอครับ" พระสมพรถามอย่างสนอกสนใจเต็มที่ "ผมอยากลองเข้าไปดูสักครั้ง คืนนี้ผมเข้าไปนั่งกับหลวงตาได้ไหมครับ"

    พระสมพรคะยั้นคะยอถาม แต่หลวงตาดูท่าไม่ค่อยอยากพาเข้าไปเท่าไหร่ ไม่ทราบว่าเพราะกลัวอันตราย หรือเพราะท่านต้องการความสงบก็ไม่ทราบได้
    แต่พระสมพรของขึ้นซะแล้ว ก็รบเร้าเอาจนหลวงตาใจอ่อน

    หลวงตาท่านเลยให้พระสมพรตกลงว่าจะนั่งห่างจากท่านในระยะที่จะไม่ส่งเสียงรบกวนขณะท่านปฏิบัติกรรมฐาน พระสมพรท่านก็อึ้งๆไปพักนึง ก่อนจะหันมา "โยมจา เข้าไปนั่งเป็นเพื่อนอาตมาหน่อยเป็นไง"

    เอาแล้วไง หางานให้กันซะงั้นละท่าน จาโบกไม้โบกมือก่อนจะส่ายหัวยิก "เชิญพระตามอัธยาศัยครับ กระผมขอผ่าน" จาบอกก่อนจะโบกมืออีกรอบ แต่ท่านก็คะยั้นคะยอจะให้ตามเข้าไปให้ได้ จาเลยต้องบอกว่าเคยเข้าไปแล้วตอนยังเป็นวัยสะรุ่น

    นึกว่าจะยอมถอย ที่ไหนได้ ยิ่งรบเร้าเข้าไปใหญ่ อ้างให้จาไปช่วยดูว่าท่านปฏิบัติถูกรึผิดยังไงจะได้ช่วยบอกช่วยเตือน ปอดลอยไม่กล้าไปรูปเดียวก็ว่ามาเหอะ จาบ่นในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมา

    กระทั่งในที่สุด จาก็ต้องยอมเข้าไปค้างในป่าช้าเป็นเพื่อนท่านจนได้ จาบอกให้ท่านเตรียมกลด เตรียมกาน้ำชา ก่อนที่จาจะเดินเข้าโบสถ์ไปเอาทรายในกระถางธูปใส่ถุง หลวงตาหลองท่านเห็นท่านถามจาว่าใครสอน จาเลยบอกตอนเด็กๆหลวงตาที่วัดที่บ้านเคยพาเข้าป่าช้าท่านเป็นคนสอน

    หลังจากนั้นก็ต้องเตรีียมตัวกันอีกทั้งวัน ก่อนจะเริ่มเคลื่อนทัพเข้าป่าช้าตั้งกะยังไม่เย็นดี ไปดูทำเลกางกลดถา่งหญ้า ห่างจากหลวงตาเกือบสามร้อยเมตร จนกระทั่งแล้วเสร็จก็ล่วงเย็นย่ำพอดี จาก็จัดการโรยทรายกระถางธูปรอบกลด

    พอของจาเสร็จก็กำลังจะไปโรยที่กลดพระสมพร แต่ท่านโบกไม้โบกมือ ไม่เป็นไรโยมจา อาตมาคิดว่าไหว จาเลยถอยกลับกลด แล้วอย่าวิ่งให้เห็นเชียว จาคิดก่อนจะปูผ้ารองนั่ง(อันที่จริงคงรองไว้นอนมากกว่า)

    เรานั่งสวดมนต์กันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินดี จนกระทั่งแสงหายไปหมด จากับพระสมพรก็จุดเทียนปักไว้หน้ากลด ก่อนจะต่างคนต่างนั่งสมาธิ เนื่องจากความเงียบ แม้แต่หนูรึตัวไรสักอย่างวิ่งไปวิ่งมา ก็ทำให้เกิดเสียงดังฟังชัด

    "หลับไปรึยังโยมจา" พระสมพรถามเสียงเบามาจากกลดท่าน ผมก็บอกทำใจให้เป็นสมาธิครับพระ อย่าวอกแวก (นี่ มีสอนพระ) ท่านก็เงียบไปพักนึง จานั่งไปอีกพักใหญ่ก็เริ่มง่วงตามนิสัยอันดี

    จาก็เตรียมเอนตัวนอน แต่เสียงพระสมพรท่านดังฮึกๆฮักๆ มาจากข้างๆ จาเลยเกิดสงสัย เลยเปิดกลดออกดู นั่นปะไร! อาตมาพอไหวซะที่ไหน

    หน้ากลดท่านเลย ทั้งผู้ชายผู้หญิง คนแก่และไม่แก่ นั่งตบกลดจนกลดกระเพื่อมเลย บางคนเอาหน้าแนบกลด ด้านพระสมพรก็นั่งหอบตัวโยนเลยครับ จาว่า
    นะโมท่องไงท่านคงท่องไม่ถูกแล้วละตอนนี้ ท่านสมพรท่านหันมาทางจา พลางทำปากพะงาบพะงาบ

    ช่วยด้วยโยม ท่านพูดไปก็ร้องไห้ไป จาเองก็น้อยหน้าท่านที่ไหนละ ขาสั่นผับๆ
    เหมือนกันนั่นละ แต่ยังดียังจำบทแผ่เมตตาได้ จาเลยท่องสัพเภสัตตา ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า พระท่านเพิ่งบวชใหม่ ยังไม่แก่พรรษาพอจะตั้งจิตมั่นต่อรูปสังขารหลังความตายได้ หากอยากได้ส่วนบุญส่วนกุศล ไปหาหลวงตาที่นั่งอยู่ด้านโน่นดีกว่า(โยนซะเลย อิอิ)

    พวกที่นั่งสลอนหน้ากลดพระสมพรพากันหายไปทีละคนสองคน จนกระทั่งไปกันหมด เท่านั้นแหละ พระสมพรลุกขึ้นได้ก็จ้ำอ้าวออกป่าช้าจนจาวิ่งตามแทบไม่ทัน
    ไปถึงกุฏิท่านก็ก้าวพรวดๆเข้าไปก่อนจะมุดมุงเข้าไปคลุมโปงสั่นงั่กๆ

    ตกลงคืนนั้นก็ไม่ได้ค้างที่ป่าช้าอย่างที่ตั้งใจไว้ จาเองก็ต้องกลับไปนอนบ้าน แถมเช้ามายังต้องไปตามเก็บกลดมาอีก เพราะหัวเด็ดตีนขาดพระท่านก็ไม่ยอมเข้าไปอีก จาเลยต้องแบกทั้งกลดทั้งกาน้ำและผ้าห่มอย่างละสองชุด

    พระสมพรก็จับไข้ออกไปบิณทบาตรไม่ไหว เดือดร้อนหลวงตาหลองต้องรดน้ำมนต์และคอยส่งยาส่งน้ำไปอีกสองวัน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นพระสมพรถามเข้าป่าช้าอีกเลย หึหึ
     
  2. T.cha

    T.cha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +641
    เหอะๆ ผมเองก็เคยคิดว่าตัวเองไม่กลัว แต่พอเจอเข้าแค่เสียงแค่นั้นแหละ แผนที่วางไว้ว่าถ้าเจอผี ต้องเริ่มแผนA สวดแผ่เมตตาครับ ถ้าไม่ไปก็ แผนB ใจดีสู้เสือ ไม่กลัวตาย เรากำลังปฏิบัตินี่ ถ้าเจ้ากรรมนายเวรจะมาเอาชีวิตก็ยอมตายจะได้หมดเวรกรรมกันไป วันนั้นสวดมนต์อยู่ ได้ยินเสียงอยู่ข้างหลังเลย เสียงรูดมือ ขึ้นลงบันได ที่เคยสวดได้อย่างคล่องโดยไม่เปิดหนังสือ มันสวดผิดได้ไงก็ไม่รู้ แผนA B ลืมหมด หัวใจจะวาย...
     
  3. m@c

    m@c เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +2,435
    อ่านไป ขำไป ขำกระจาย สงสารพระใหม่

    สาธุค่ะคุณจา... นี่แหละเขาเรียกศิษย์มีครู
     
  4. karatekung

    karatekung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,624
    ค่าพลัง:
    +2,195
    ขอบคุณมากๆครับ
     
  5. คนข้างทาง

    คนข้างทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +392
    ไม่ได้อ่านเรื่องของคุณจานานเลยคับ กลับมาคราวนี้มาเรื่องแรกก้อเริ่มสนุกแล้วคับ

    ยางไงก้อรออ่านเรื่องต่อๆไปของคุณจานะคับ
     
  6. At_nat

    At_nat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +59
    เอาเรื่องต่อไป ไว ไว นะคะ

    จะรออ่านค่ะ
     
  7. phaktee

    phaktee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +98
    .....ขอบคุณ...... และ...
    ...ปูเสื่อนั่งรอเรื่องต่อไป.... ^^
     
  8. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    จำได้ว่าเคยตามอ่านกระทู้เก่าๆ สนุกมากค่ะ(เล่าได้เป็นธรรมชาติ ฮาดี อดขำไม่ได้)

    เอ่อ...มาเล่าต่อให้ไวๆนะคะ

    ขอบพระคุณสำหรับเรื่องเล่า และอนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  9. oamiamgod

    oamiamgod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +3,223
    โอ อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับ

    ปล.ความจริง(อาจจะ)ไม่ต้องใช้ทรายโรยก็ได้นะครับ

    เพียงแค่เวลาปักกลดให้ท่องคาถา บารมี 30 ทัศไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปักเสร็จ
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำเมตตาสอนมาน่ะครับ)
     
  10. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +425
    ขอถามเพื่อเป็นวิทยาทานนี๊ดส์ ก๊าบบ..

    สงสัย..เรื่องทรายในกระถางธูปครับ

    คือเป็นกระถางธูปไหนก็ได้ที่พระท่านใช้ในวัด หรือต้องเฉพาะว่าในโบสถ์เท่านั้นครับ

    จะได้ไปขอท่านได้ถูก มีไว้กันเหนียวหน่อยท่าจะดี เผื่อไปนอนค้างอ้างแรมแปลกถิ่น จะได้โรยๆ ไว้รอบเตียงก๊าบบ..
     
  11. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ไปเขียนหนังสือสิ
     
  12. kanetheripper

    kanetheripper สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +17
    มันดีครับ รอเรื่องต่อไปอยู่นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...