เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

“สุนัขแสนรู้นี่ถ้าไม่เกิดเป็นเทวดาก็เป็นคนแน่
คนเรานี่ไม่แน่นอนจะไปอบายภูมิก็ได้ ไปสวรรค์
ก็ได้ ไปพรหมก็ได้”

โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

” บุญภาวนา ”

..ต้องคิดว่าขึ้นชื่อว่าบุญ ถ้ายังไม่ป่วยก็ต้องพยายามทำไว้ก่อน ให้จิตทรงบุญ ถึงแม้เวลาป่วย เวลาเริ่มป่วยยังไม่หนักมากก็ทำบุญไว้ พอพูดถึงบุญก็บอกว่าสตางค์ไม่มี แต่ความจริง การทำบุญไม่ต้องใช้สตางค์ก็มี แต่มีอานุภาพมากและมีอานิสงส์หนัก นั่นก็คือการภาวนา…

โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

พบพระอรหันต์วัดท่าซุง (วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๑)

“..ตอนสายนอนภาวนา เห็นพระมายืนห่างๆ ๒ องค์
ผิวคล้ำทั้งคู่ คิดว่าผี! จึงทำเฉยๆ ต่อมาคิดว่าผีพระ
จะมาทำไม จึงถามท่าน

ท่านบอกว่า…..”ผมไม่ใช่ผี! ผมเป็นพระ”
ถามท่านว่า….”ท่านอยู่ที่ไหน”
ท่านบอกว่า…..”เป็นพระอรหันต์ก่อนตาย”
ถามท่านว่า….”ท่านเป็นพระสมัยไหน”
ท่านบอกว่า…..”สมัย หลวงพ่อเล่ง หลวงพ่อไล้”

เมื่อถามถึงหลวงพ่อทั้งสอง ท่านทั้งสองก็ปรากฏองค์

หลวงพ่อเล้ง ท่านพูดว่า….”คุณ! อย่าหนักใจคนแถวนี้
เลยว่ามันขโมยของวัด เพราะมันขโมยมาเป็นปกติอยู่
แล้ว สมัยผมมันก็ขโมยไม่เลือก”

ถามพระหนุ่มสององค์ว่า….”สมัยหลวงพ่อทั้งสองมีพระ
อรหันต์ทำไมวัดไม่เจริญ เพราะพระอรหันต์มีที่วัดไหน
วัดนั้นจะเจริญถึงที่สุด เป็นกฎธรรมดา”

ท่านทั้งสองบอกว่า….”วัดเจริญครับ มีกุฏิ ๘ หลังเรียง
กับหอสวดมนต์ และมีกุฏิ ๙ ห้องอยู่หนึ่งหลัง ศาลา
อุโบสถ วิหาร สมัยนั้นเจริญ แต่เมื่อสิ้นพระอรหันต์แล้ว
พวกเจ้าอาวาส ทายก ชาวบ้าน ช่วยกันขายหมด”

หลังจากนั้น หลวงพ่อเล้ง หลวงพ่อไล้ ตายแล้ว ก็มีภิกขุ
พานิชครองวัดขายวัดกิน วัดนั้นรุ่งเรืองมาก ขายกินหมด
แต่ว่าสมัยนั้นก็เป็นไม่เกิน ๓ ปี อย่างมากก็ ๓ ปี พอเริ่ม
เป็นก็เรี่ยไรได้ คนละหมื่น ๒ หมื่น ก็สึกไปสร้างบ้าน องค์
ต่อมาก็เป็นเจ้าอาวาสใหม่ เรี่ยไรอีก ว่ากันแบบนั้นตลอด
มาจนกระทั่งสมัยฉันไปอยู่

“ดินแดนไหนก็ตาม ถ้ามีพระเคยบรรลุอรหันต์ ดินแดน
นั้น จะฝึกพระกรรมฐานได้ง่ายที่สุด”

สถานที่ฝึกกรรมฐานนี่ไม่เหมือนกันนะ กุฏิหลังเดียวกัน
ยังทำได้ไม่เสมอกัน ในที่ที่เรานั่ง ที่บ้านซอยสายลมนี่
เป็นที่ของหลวงปู่แสง หลวงปู่แสงเป็นพระอรหันต์นะ

ฉันมาทีแรกพอนั่งปั๊ป! ประเดี๋ยวท่านก็มา ท่านบอกที่นี่
(บ้านซอยสายลม) ที่เดิมจริงๆ มันมีกอพงอยู่กอหนึ่ง
และที่นี่เป็นวัด แต่เป็นวัดที่ไม่มีมาตรฐาน เป็นไม้ ลองถาม
ท่านเจ้ากลมเสริม ว่ามีกอพงไหม ท่านบอกว่ามี ยืนยัน
แน่นอน

ฉะนั้น ที่ตรงนี้จึงฝึกกรรมฐานได้แน่นอนกว่า ถ้าหาก
ว่าไปฝึกกรรมฐานในดินแดนที่ไม่มีคนบรรลุอรหันต์
ได้ยาก!..”

โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“พ่อคิดว่าถ้าพ่อตายเป็นผี พ่อคงยังไม่
ทิ้งลูก นี่จะเห็นว่าพ่อรักลูกมากเกินไปละมั้ง”

..พระราชพรหมยานมหาเถระ



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“..ฉันมั่นใจว่าลูกหลานของฉันทุกคนเวลา
ตาย อย่างต่ำก็ต้องไปสวรรค์ชั้นกามาวจร
อย่างกลางต้องไปพรหมโลก
อย่างดีที่สุดมีอยู่แล้วก็คือพระนิพพาน
แต่ใครจะหมุนกลับลงมามนุษยโลก ฉันแน่ใจว่า
ลูกหลานของฉันไม่จน คนที่รวยอยู่แล้วจะรวย
มากกว่านี้ คนที่ไม่เคยร่ำรวยจะพบกับความร่ำ
รวยอย่างคาดไม่ถึง”

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ฉันขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข พร้อมด้วยพระอริยสงฆ์ทั้งหมด และพระพรหม และเทพเจ้าทั้งหมด ขอทุกท่านจงกำหนดจิตจดจำลูกหลานของฉันไว้ว่า บุคคลใดก็ตาม เมื่อเวลาจะตายขอให้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีจิตน้อมไปในกุศลกรรม และขอให้ได้รับผลที่ฉันได้ทำไปแล้ว ทุกประการแก่ลูกหลานของฉันทุกคน

พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก
อยู่สองครองทุกข์แสนสนุกแต่ไม่สบาย”

หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หลวงพ่อเล่าให้ฟัง
*** สมเด็จฯท่านไขข้อข้องใจเรื่อง ถวายเงินโดยสเด็จพระราชกุศล ***

“…มีเรื่องข้องใจอยู่เรื่องหนึ่ง คือปีนี้เป็นปีที่พระบรมราชินีทรงมีพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ได้บอกให้อาจารย์พรนุช คืนคงดี อาจารย์ใหญ่ ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา (ปัจจุบันลาออกแล้ว) บอกบุญเพื่อนและญาติผู้ใหญ่ ” เพื่อรวบรวมเงินถวายโดยเสด็จพระราชกุศล” จัดเป็นปีแรกและให้ทำทุกๆ ปีไปจนกว่าจะไม่มีใครร่วมมือและหมดกำลังทรัพย์อาจารย์พรนุชจัดหาได้ ๒ แสนบาท จึงบอกให้ถวายพระเจ้าอยู่หัว ๑ แสนบาท พระราชินี ๑ แสนบาท

นอกจากนั้นคณะวิมาลี (ยังไม่ทราบว่ากี่คน) กำลังชักชวนกันจัดหาเงินถวาย และปีต่อไปคิดจะบอกบุญเป็นรายเดือน คนละมากน้อยตามจะหาได้ เมื่อถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคมก็ถวายทั้งสองพระองค์ ถ้าใครจะเข้าไปถวายเอง ขอให้รวบรวมเงินของตนเองหรือเพื่อนก็ตาม ๑ หมื่นบาทขึ้นไป ส่วนรายละเล็กละน้อย แต่บ่อยๆ ก็มาก ให้จัดผู้แทนเข้าทูลเกล้าถวาย เงินทั้งหมดนี้ถวายตามอัธยาศรัย แต่บังเอิญ

..ท่านนำไปเลี้ยงลูกปลา แล้วนำปลาไปปล่อยเพื่อให้เป็นอาหารของคนผู้ถวายจะพลอยมีบาปไปด้วยหรือไม่ ..?

ท่านฟังแล้วท่านก็ยิ้ม แล้วทรงตรัสว่า
“ฉันคิดว่าฤาษีเป็นครูบาอาจารย์คน จะฉลาดหลักแหลม แหม…ในที่สุดก็โง่ดักดานตามปกติ”

ฟังแล้วชื่นใจ เพราะโง่จริงๆ เมื่อจะสอนศิษย์ครั้งไร ต้องขึ้นไปถามท่านทุกครั้งว่าจะสอนอย่างไรดี เมื่อท่านบอกมายังไงก็สอนตามนั้น ไม่อวดตัวเป็นนักปราชญ์เกินครูแนะนำ….ท่านตรัสว่า

“เมื่อยอมรับว่าโง่ ฉันจะบอกให้ฟังและจำให้ดีนะ..
๑.การถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ทั้งสองพระองค์ท่านเอาช่วยคนทั้งชาติ ไม่เฉพาะคนใดคนหนึ่งเป็นสังฆทาน คำว่า “สังฆะ” แปลว่า หมู่ คือคนมาก…เมื่อคนมีกินมีใช้ เขาก็นำอาหารมาถวายพระ มีเงินมากพอควรก็เอาเงินมาถวายพระ จากผลที่เราช่วย อย่างนี้เป็น “สังฆทานใหญ่” คือช่วยคนทั้งประเทศและถวายพระทั้งประเทศ ทำให้บารมีเข้าถึงพระนิพพานเต็มง่ายเข้า

๒.เรื่องปล่อยปลาเลี้ยงปลาเป็น “มหากุศล” เพราะช่วยเลี้ยงให้เขาเติบโตขึ้นมาและปล่อยให้เป็นอิสรภาพ เมื่อปลาเป็นอิสรภาพเพราะการถูกปล่อย ปลาก็มีความสุข เราผู้มีส่วนในการปล่อยปลา เราก็จะมีอิสระจากอบายภูมิ คือ ไม่ลงนรก…ส่วนเรื่องปลาที่ถูกคนจับไปกินนั้น คนที่จับไม่ได้ขออณุญาตจากเรา เขาจับเอง เขาก็บาปไปตามกรรมของเขา เราไม่พลอยบาป ปลาที่ถูกจับไปนั้น ไม่ใช่ถูกจับทุกตัวที่ปล่อย…เมื่อสัตว์ตัวใดถูกกรรมเก่าบังคับก็ถูกจับไป แต่ปลาที่ปลอดภัยจากการถูกจับมีมากกว่ามากมาย. จงจำไว้ว่าทำตามที่คิดนั้น ดีแล้ว ไม่มีบาป จงเลิกโง่ต่อไป…เมื่อฟังท่านพูดจบก็ตื่นจากหลับพอดี “…

จากหนังสือ สังโยชน์ ๑๐ หน้า ๑๙
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

” ไปนิพพานเลยดีกว่า นิพพานมีแต่สุข หาทุกข์ไม่ได้ ”

..คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เห็นนิมิตก่อนตาย

ก่อนจะตายทุกคนจะเห็นเหมือนกันหมดทุกคน แต่จะพูดได้หรือไม่ได้เท่านั้นเอง ตามบาลีท่านบอกว่า ถ้าไปนรกจะเห็นไฟ จะเห็นดวงไฟดวงเล็กดวงใหญ่ก็ตาม อย่างนี้ต้องลงนรก ไม่ผ่านสำนักพยายม
ถ้าเห็นป่า ก็จะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ถ้าเห็นก้อนเนื้อ ก็จะเกิดเป็นคน
บางคนเห็นวัตถุธาตุ อย่างขันข้าว ปิ่นโตโถอาหาร ที่เคยไปทำบุญมันจะลอยมาให้เห็น แล้วก็คิดว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราใส่อาหารไปถวายพระจิตใจก็เป็นบุญ บางคนเห็นวิมาน บางคนเห็นพระสงฆ์ บางคนก็เห็นพระพุทธรูป เห็นพระพุทธเจ้า ถ้าเห็นอย่างนี้จะไม่ไปนรก ถึงแม้ว่าจะมีบาปอยู่มากก็จริงแหล่ แต่ทว่าเมื่อบุญเข้าถึงก่อน บาปเข้าไม่ได้ บุญจะต้องนำไปสู่สุคติก่อน

โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดํา)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หลวงพ่อปานท่านบอกว่า ถ้าเรานั่งกรรมฐานอยู่
ไม่ต้องกลัวผี ผีก็ดี เทวดาก็ดี จะแสดงตนได้ต้อง
ห่างจากเราออกไป ๑ วา เข้ามาใกล้กว่านั้นไม่ได้

บันทึกธรรมโดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หลับในฌาน

ก็ต้องเวลานอน เวลานอนลงไปก็จับหนึ่งถึงสิบ ถ้าถึงสิบแล้ว รู้สึกว่าจิตมันจะซ่านก็ปล่อยมันคิดไป สิบเราได้พอแล้ว ถ้าตื่นขึ้นมาเอาอีกสิบ ตื่นขึ้นมานี่อย่าเพิ่งลุกจากที่นอน เพราะว่าถ้าเราภาวนาอยู่ ถ้าเวลาจับลมหายใจเข้าออก ควบภาวนาหรือไม่ควบก็ตาม จับลมหายใจเข้าออกอยู่ เราจะว่าสิบนี่ มันจะหลับก่อนสิบ อย่าดึงไว้นะ ถ้ายังไม่ถึงสิบมันจะหลับอย่าดึง เพราะตอนนี้จิตเข้าถึงปฐมฌาน พอจิตเข้าถึงฌานมันจะตัดหลับทันที อันนี้อย่าดึง หายใจเข้านึกว่า พุท ไม่ทันจะ โธ มันจะหลับ ปล่อยเลย เราต้องการจุดนี้ ต้องการจุดที่จิตเป็นฌานเร็ว ถ้าจิตเข้าถึงฌานเร็วเท่าไร อันนี้ดีมาก

จาก คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕๒ หน้า ๕๔



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“อย่าคบคนพาล ถึงแม้ตัวเราจะไม่พาล
ถ้าเราเดินกับคนพาลเขาก็คิดว่าพาลไปด้วย”

..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

วิธีบูชาพระพุทธเจ้าให้จิตเป็นฌาน

“….ท่านโบราณาจารย์ทั้งหลายจึงแนะนำให้ใช้วิธีถวายข้าวพระพุทธรูป เรื่องนี้สำคัญมาก ตอนเช้ามีข้าวหรือมีผลไม้อะไรก็ได้นิดเดียว ถ้าเราขี้เกียจหาของอย่างอื่น ก็ข้าวที่เราจะกิน ตักเอามาก่อนถ้วยเล็กๆ กับข้าวจะเป็นพริก จะเป็นกะปิ หอมกระเทียม น้ำปลา ปลาร้า พระพุทธเจ้าท่านรับทุกอย่าง เอาไปบูชาท่าน ท่านไม่ได้ฉัน เป็นนิมิตเป็นเครื่องหมายว่า ทุกวันต้องบูชาพระพุทธเจ้าตามเวลานี้
ถ้าทำอย่างนี้ถึงขั้นเป็นห่วง ถ้าเมื่อถึงเวลานั้นไม่ทำไม่ได้ เราต้องทำ กำลังใจไม่สบาย อย่างนี้ถือว่าเป็นฌานในพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าทำอย่างนี้ท่านไม่ลืมแน่ แล้วก็ถ้าจะตายเมื่อไรภาพที่เราบูชา ถวายข้าวพระหรือถวายพระพุทธรูป จะมาลอยอยู่ข้างหน้า หลังจากนั้นจะเห็นภาพพระพุทธรูปก็ดี ภาพพระพุทธเจ้าก็ดี ปรากฏอย่างนี้ทุกคน ตายแล้วไปสวรรค์แน่ ถ้าไปสวรรค์ก็ฟังเทศน์จากพระศรีอาริย์จบเดียวเป็นพระโสดาบัน นี่กำลังบารมีอ่อนนะ…”

จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๖๑ หน้า ๔๐
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

การอุทิศส่วนกุศลให้ผีที่มาขอบุญ

“..ที่ว่าผีหลอกๆ น่ะ ผีไม่หลอก นี่ฉันรู้เรื่องผีดี
พวกที่จะล้อพวกเรานี่ ต้องเป็นพวกเทวดา ถ้าต่ำ
กว่าเทวดานี่ล้อพวกเราไม่ได้ เพราะพวกเขามีทุกข์
อย่างพวกเปรตนี้มีทุกข์มาก หิวมาก เดือดร้อน
มาก นี่ก็หลอกไม่ได้
พวกอสุรกายนี้มีการหิวโหย พวกอสุรกายนี่ยิ่งไม่
ต้องการให้คนเห็นมากขึ้น

ที่จะแสดงตัวได้ต้องเป็นพวกสัมภเวสี
พวกสัมภเวสีนี่ยังมีทุกข์น้อย แต่ก็หิว ในเมื่อหิวเขา
ก็ต้องการให้เราช่วยเหลือเขา ที่ต้องมาแสดงตัว
ตรงนั้นน่ะ ความจริงเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก พอ
แสดงตัวปั๊บขึ้นมา เราจะรู้เลยว่าไอ้นี่ผีใคร ใช่ไหม
ถ้าอุทิศส่วนกุศลเดี๋ยวนั้นเขาจะได้รับเดี๋ยวนั้น
นี่ฉันถามเขาดูแล้ว ถามเขาดู
เขาบอกว่าไม่มีเวลาหลอกเลยครับ
ถามเขาที่แกแสดงตัวทำไม
มันหิวนี่ ต้องการให้เขาช่วย

แต่ผีเขารู้นะ ทำไมจึงไม่เห็นผีทุกคน ไอ้ที่ไม่
เห็นทุกคนมันเป็นอย่างนี้ คนที่ไม่มีบุญพอที่จะ
ช่วยเขาเหลือได้ ถึงเขาแสดงตัวให้เห็น เขาก็ไม่
มีประโยชน์ เขารู้

แล้วประการที่สอง คนมีบุญมากที่จะช่วยเหลือ
เขาได้ดี แต่เขาก็ไม่มีโอกาสมาในวันนั้น เขาก็ต้อง
อาศัยโอกาสเหมือนกัน
บางทีคนที่มีบุญมากแต่ก็ไม่เนื่องถึงเขา ไม่เคยสืบ
เนื่องกันมาตั้งแต่ชาติก่อนหรือชาติปัจจุบัน เขาก็
ไม่มีสิทธิ์จะขอ ต้องอาศัยคนที่เขาพอจะขอได้ถึง
จะแสดงตัวให้เห็น

ทีนี้ก็ตั้งท่ากันเสียใหม่นะ เวลาอุทิศส่วนกุศลไม่
ต้องไปรอทำบุญ เวลานั้นเรามีพร้อมแล้วเขาจึงมา
ขอ ให้เดี๋ยวนั้นเลย ก็นึกในใจบอก
…บุญที่ฉันทำมาแล้วมีเพียงใดก็ตาม ฉันขอมอบ
ให้แก่เธอ ขอเธอจงโมทนา…เท่านี้แหละ พูดง่ายๆ
ไม่ต้องไปว่า อิมินา ว่าอิมินาผีก็รับไม่ได้อีก ไม่ตรง
กัน ใช้ภาษาไทยตรงๆ”

ที่มาจาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๒๖๘ หน้า ๗๓-๗๔
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
(ท่าซุง) อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

วิธีปฏิบัติให้ละจากความชั่ว

” ทุกคนจงอย่าทำความชั่ว คืออย่าทำบาปทั้งหมด ขึ้นชื่อว่าสิ่งใดที่มันเป็นบาป คำว่าบาปแปลว่า ความชั่ว จงอย่าทำทุกอย่าง ถ้าบังเอิญมีบางกรณีถ้ามีความจำเป็นจะต้องทำ เพราะจิตมันชิน ค่อยๆ หาทางละ ค่อยๆ หาทางตัดมัน คิดไว้ในใจว่าวันนี้ทั้งวันตื่นขึ้นมาเราจะไม่ทำความชั่วทุกอย่าง บางครั้งมันก็เผลอ เมื่อวันนี้เผลอ พรุ่งนี้ก็คิดใหม่ เราจะไม่ทำความชั่วอย่างนี้ทุกอย่าง ไม่ช้าอารมณ์มันก็จะชิน มันก็จะไม่ทำความชั่วนั้น”

พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

แผ่เมตตาก่อนทำกรรมฐาน

ก่อนที่จะภาวนา ก่อนที่จะพิจารณา พระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอบรรดาท่านทั้งหลายจงแผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง อันนี้ต้องทำ ยังไม่ภาวนาด้วย ยังไม่พิจารณาด้วย พอนั่งปั๊บ จะนั่ง นอน ยืน เดินเหมือนกัน ทำได้หมด ให้ตั้งใจแผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง
จงมีความรู้สึกว่ามนุษย์ก็ดี สัตว์ก็ดีทั้งหมด เราจะเป็นมิตรที่ดีของสัตว์ในโลกทั้งหมด เราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร เราจะมีความสงสารเพื่อการสงเคราะห์ นั่นก็หมายความว่าส่งเคราะห์เป็นวัตถุก็ดี สงเคราะห์ด้วยวาจาก็ดี สงเคราะห์ด้วยการงานก็ดี ถ้าไม่เกินวิสัยจากเรา เขาขัดข้องเราจะสงเคราะห์ให้เขามีความสุข ถ้าหากว่าเราไม่สามารถจะทำได้ จิตสงสารยังมีอยู่ อันดับแรก องค์สมเด็จพระบรมครูให้ทำอย่างนี้ก่อน

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่า เล่ม ๔ หน้า ๗๓-๗๔



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“การสงัดอยู่คนเดียวในป่านั่นมันไม่จริง ถ้าจริง
ต้องสงัดอยู่ในฝูงกลุ่มคนเป็นที่เกลื่อนกล่นไปด้วย
ประชาชน และก็ต้องสัมผัสอารมณ์ต่างๆ ในเมื่อ
สัมผัสอารมณ์ต่างๆ แล้วฌานสมาบัติเราไม่
เคลื่อนอย่างนี้ใช้ได้ ต้องทำให้มันได้จริงๆ แบบนี้
จิตสงัดก็หมายถึงว่าได้ฌานสมาบัติ”

(ธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๘๙ หน้า ๒๖)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“…เราเกิดมาเพื่อแก่ เพื่อเจ็บ เพื่อพลัดพรากจากของ
รัก ของชอบใจ แล้วก็เพื่อตาย…”

พระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง