เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พระโสดาบันยังมีกิเลสอยู่

    พระโสดาบันยังมีความรักในระหว่างเพศ ยังมีการแต่งงาน แต่ความรักของพระโสดาบันยังอยู่ในขอบเขตของศีล ๕ ไม่ละเมิดศีล ๕

    พระโสดาบันยังยังมีความอยากร่ำรวยต้องการความร่ำรวย ต้องการมีทรัพย์มาก
    แต่การร่ำรวยและมีทรัพย์สินของพระโสดาบันอยู่ในขอบเขตศีล ๕ คือไม่โกงใคร ไม่ลักขโมยไม่ยื้อแย่งทรัพย์

    พระโสดาบันยังมีความโกรธ แต่ความโกรธของพระโสดาบันไม่เข้มข้น คือไม่คิดจะฆ่าใคร โกรธน่ะโกรธจริง แต่ว่ายังไม่คิดฆ่าใคร คืออารมณ์เบาลง

    พระโสดาบันยังมีความหลง คิดว่ายังมีความต้องการความสวยสดงดงามอยู่ แต่ไม่ลืมความตาย

    รวมความว่าเนื้อแท้จริงๆ พระโสดาบันก็ได้แก่ชาวบ้านชั้นดี ที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่าพระอริยเจ้าก็เพราะว่าหากจิตใจเราเข้าถึงพระโสดาบันจริงๆ จิตใจจะมีความมั่นคงในศีล ๕ และ
    พระไตรสรณคมน์ จริงๆ แล้วมีเท่านี้

    “ไตรสรณคมน์” คือพระพุทธเจ้า
    พระธรรม พระอริยสงฆ์ และก็มีศีล ๕
    นี่คือองค์ของพระโสดาบัน

    ในเมื่ออารมณ์ทรงตัวอย่างนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท เราตายกี่ชาติก็ตาม คำว่าเกิดเป็นสัตว์นรกก็ดี เกิดเป็นเปรตก็ดี เปิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ดี จะไม่มีสำหรับเรา

    บาปเก่าๆ ที่ทำไว้แล้วทั้งหมดไม่สามารถให้ผลได้

    พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
    ___________
    จากหนังสือ “ธัมมวิโมกข์” ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔๒๔ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๙
    หน้า ๔๕- ๔๕

    68657007_2125100990934966_1952247547258994688_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำสังฆทานแทนการเลี้ยงพระที่บ้าน

    กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกอยู่บ้านที่ห้วยขวางมาเป็นเวลา ๔ ปีเศษแล้ว ยังไม่เคยทำบุญบ้านเลย วันนี้ลูกมาหาหลวงพ่ออยากจะกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ถ้าลูกถวายสังฆทานที่ซอยสายลม แทนการนิมนต์พระมาทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน จะทำให้ผีทุกระดับชั้นภายในบ้านโมทนา และช่วยเหลือลูกต่อไปข้างหน้าได้หรือไม่เจ้าคะ?

    ต้องบอกเขาโมทนานะ ใช้ได้เลยได้ผลเท่ากัน สังฆทานเหมือนกัน แต่ว่าสังฆทานที่บ้านยุ่งยากไปหน่อย นี่บุญจะลดตัวลง

    ทำไมถึงจะลดตัวลงครับ?

    อ้าว! ไอ้นั่นขาด ไอ้นี่ไม่มี คนนั้นทำอะไรไม่ชอบใจ จิตใจมัวหมอง ความจริงอานิสงส์สังฆทานเหมือนกัน ที่บ้านนิมนต์พระไปก็สังฆทาน อย่างนี้ก็สังฆทาน ทำสังฆทานอย่างนี้ไม่มีกังวล หมดเรื่อง จิตใจเป็นสุข ลงทุนไม่มากด้วย แต่ก็อย่าลืมว่าทำแล้วบอกให้ผีหรือเทวดาที่บ้านท่านโมทนาด้วยเท่านั้นแหละ….

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง

    68609959_2126285540816511_9099559515669397504_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    #เรื่อง.* #เอาเงินจากหวยใต้ดิน มาทำบุญ จะได้บุญกี่เปอร์เซ็นต์ ?

    *หลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ~หลวงพ่อฤาษีลิงดำ.. ตอบปัญหาธรรม*

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ..

    ~ #เงินที่ได้จากการเสี่ยงโชคก็ดี #จากการเล่นการพนันก็ดี เมื่อทำบุญมาถวายสังฆทาน ชุดใหญ่ ที่ ซ.สายลม อานิสงส์จะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์ เจ้าคะ

    หลวงพ่อฯ : #อ้าว..! #โกงเขาหรือเปล่าล่ะ #เล่นการพนันถ้าไม่โกงเขาก็สมบูรณ์ #ถือว่าเป็นรายได้สุจริตเหมือนกัน ใช่ไหม ถ้าโกงเขามานี่ ทุจริต อานิสงส์ก็ไม่สมบูรณ์แบบ ใช่ไหม

    ผู้ถาม : เล่นหวยใต้ดินล่ะครับ.?

    หลวงพ่อฯ : หวยใต้ดิน ไม่มีใครเขาเล่นกันหรอก ไม่มี .. ถ้าเล่นหวยใต้ดิน ทำบุญเท่าไร ก็ไม่ได้บุญ ถ้าหวยบนดินนี่ ได้บุญ

    ผู้ถาม : อ๋อ..เขาเขียนภาษาโบราณ ก็ ใต้ดิน ๆ ..ครับ

    หลวงพ่อฯ : นั่นนะซิ

    ผู้ถาม : อ๋อ..อย่างนี้เอามาทำบุญ ก็…

    หลวงพ่อฯ : ก็ไม่มีอะไรนี่ ก็เล่นตามปกติ.. เขาสัญญาว่า ถูกหวย เขาให้เท่านั้น ไม่ใช่ถูกแล้วเราจะเอา มากกว่า นั้น เอาปืนไปจี้เขา.. อันนี้สิ เงินไม่สุจริต ใช่ไหม.. เขาใช้ได้นะ สมบูรณ์แบบ ใช้ได้.

    ( จากหนังสือ *รวมคำสอนธรรมปฏิบัติของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน* เล่มที่ ๑๓ หน้าที่ ๔๗๒ – ๔๗๓ ของวัดท่าซุง..คัดลอก โดย ยุพยง พัฒนเจริญ )
    #ขอบคุณเครดิต อ. ยุพยง พัฒนเจริญ

    68573017_2126770960767969_3190321700541562880_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การทำบุญมากๆ
    …..คำว่า “ทำมาก” หมายความว่า ทำบ่อยๆ แต่คำว่า “บ่อย” ไม่ต้องทุกวันก็ได้นะ คำว่า “มาก” หมายความว่า ทำเต็มกำลังที่พึงทำ ไม่ใช่ขนเงินมามากเวลาทำบุญ ต้องดูก่อนว่า ค่าใช้จ่าย เรามีความจำเป็นเพียงไร เงินที่มีความจำเป็น อย่านำมาทำบุญ มันจะเดือดร้อนภายหลัง และให้เหลือส่วนนั้นไว้บ้าง แล้วแบ่งทำบุญพอสมควรและประการที่ ๒ การทำบุญ ถ้าใช้วัตถุมาก แต่กำลังใจน้อย ก็มีอานิสงส์น้อยถ้าหากใช้วัตถุน้อย กำลังใจมีมาก ก็มีอานิสงส์มาก อย่างถวายสังฆทาน ที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทนำมานี่ ลงทุนไม่มาก แต่อานิสงส์มหาศาล ความจริง ถ้าจะพูดถึงอานิสงส์กันจริงๆล่ะก็รู้สึกว่าจะมากกว่าจัดงานที่บ้าน หรือที่วัดตั้ง เยอะแยะทั้งนี้เพราะว่าอะไร เพราะว่าถวายสังฆทาน เราทำกันแบบเงียบๆ ไม่มีกังวล
    …..การบำเพ็ญกุศลแต่ละคราว ถ้ามีกังวลมาก อานิสงส์มันก็น้อย เพราะว่าจิตที่เราเข้าสู่กุศลมันห่วงงานอื่นมากกว่าไม่ตั้งจิตโดยเฉพาะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถวายสังฆทานในหมู่สงฆ์ ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ตามพระวินัย ท่านเรียกกันว่า คณะสงฆ์ ถ้าต่ำกว่านั้น เป็น คณะบุคคล ถ้าบุคคลเดียว เป็น ปาฏิปุคคลิกทาน โดยเฉพาะ
    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    68766475_2128391760605889_8876275281325719552_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “พระคุณบิดามารดา”

    มีลูกหลายคนที่เห็นว่า บิดา มารดาเป็นคนไม่ดี
    หาว่าอคติ รักไม่เท่ากัน
    อย่างนี้เห็นมาซะมาก

    ชีวิตและเลือดเนื้อของเรานี่ เป็นของท่านให้เรามา
    ถ้าเราไม่ได้ท่าน
    เราจะมีชีวิตและเลือดเนื้อขึ้นมาได้อย่างไร

    ลูกอกตัญญูไม่รู้คุณคน
    บางพวก เขาบอกว่า บิดา มารดา ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด
    ก็ต้องขอพูดแบบภาษาชาวบ้านสักนิดว่า

    ถ้ารู้ว่า เขาไม่ตั้งใจให้เกิดแล้วล่ะ
    ก็เสือกเกิดมาให้เขาเลี้ยงทำไม

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บิดา มารดา
    นี่ท่านทั้งหลาย อยากจะพูดต่อสักนิดหนึ่งว่า
    นอกจากท่านเลี้ยงมาแล้ว
    เราจะเลี้ยงท่านตอบ

    ทำกิจการของท่าน ดำรงวงศ์ตระกูล
    ประพฤติตนให้เป็นคน
    ควรแก่การรับมรดก
    ไม่ใช่อันธพาล
    กินเหล้าเมายา

    เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว
    ทำบุญอุทิศให้ นี่เป็นความดี

    ขอเตือนท่านทั้งหลายว่า
    ความต้องการในทรัพย์สิน
    ที่บิดา มารดา ให้ในภายนอก อย่าสนใจ

    ท่านหาให้เราได้
    เพราะอาศัยความขยันหมั่นเพียร
    รู้จักเก็บหอมรอมริบตั้งตัวไว้ดี

    ทรัพย์ภายนอกเหล่านี้
    เราอาจจะหามาได้มากกว่า บิดา มารดา ให้เราก็ได้

    ท่านไม่ให้เราก็จงอย่าสนใจ

    จงเทิดทูนความดีของท่านไว้
    นั่นคือทรัพย์ที่ให้ไว้เป็นกรณีพิเศษ
    แล้วก็เป็นทรัพย์สำคัญกว่าทรัพย์ใดๆ ทั้งหมด คือ
    ชีวิตและเลือดเนื้อของเรา

    ชีวิตและเลือดเนื้อของเรานี่
    เป็นของท่านให้เรามา

    ถ้าเราไม่ได้ท่าน
    เราจะมีชีวิตและเลือดเนื้อขึ้นมาได้อย่างไร

    และมีคนบางพวก เขาบอกว่า

    “บิดา มารดา ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด”

    อันนี้ไม่จริง อาตมาเป็นพระมีประสบการณ์มามาก
    มีคนอยากจะได้ลูก แต่ก็ไม่มีลูก

    ท่านถามว่า “ทำไมถึงจะมีลูก”

    มาถามพระ มันจะได้เรื่องอะไร
    พระไม่มีความรู้ ในการสร้างลูก
    อยากได้ลูกดีๆ แหม…
    เราก็นั่งนึกในใจว่า

    “อยู่สบายๆ ไม่ชอบ
    มีลูกขึ้นมาคน มันจนไปหลายปี
    ดีไม่ดีเกิดทุกข์ระทม ไปจนวันตาย
    ถ้าลูกอกตัญญูไม่รู้คุณคน”

    ฉะนั้น ขอบรรดาท่านทุกคน
    ถ้าหากว่า ท่านจะไม่ให้ทรัพย์สินอันใด
    ก็จงนึกถึงความดีของท่าน
    มองดูร่างกายของเราทั้งหมด
    หรือแม้แต่ชีวิตจิตใจ ที่เราได้ขึ้นมานี่

    เพราะอาศัยท่านเป็นเหตุ
    ท่านเป็นแดนเกิด

    ถ้าบางคนจะคิดว่า เขาไม่ได้ตั้งใจให้เกิด
    ก็ต้องขอพูดแบบภาษาชาวบ้านสักนิดได้ไหม ว่า

    “แล้วเสือกเกิดมาให้เขาเลี้ยงทำไม”

    นี่เป็นความเลว ของคนที่คิดอย่างนั้น
    บางที ท่านอาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด
    เราเกิดมาแล้ว
    ท่านก็ยังไม่เว้นความดี

    หากว่า ท่านไม่เลี้ยงเรา
    ไม่ปราณีกับเรา
    ท่านทำให้แท้งเสียก่อนจะออกมา เราก็ตาย
    หรือออกมาแล้ว ท่านไม่เลี้ยงไม่ดู เราก็ตาย

    หรือว่าออกมาแล้ว ท่านเลี้ยง
    แต่ไม่ให้การศึกษา เราก็โง่

    เป็นอันว่า บิดา มารดา นี่เอง
    ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ถือว่าเป็นพรหมของบุตร

    คำว่า “พรหม” ก็คือผู้ประเสริฐ”

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
    คัดย่อจากหนังสือ ธรรมวิภาค (ภาคปฏิบัติ) ตอนที่ ๒๕ หน้าที่ ๒๕๕-๒๖๐

    68656431_2128447070600358_8222126512032186368_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เมื่อกี้ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ให้มาบอกว่า “ถ้าลูกหลานคนใดไปที่วัด
    ให้เอาขนมปังไปคนละปอนด์ แล้วไปวางไว้ที่หน้าโบสถ์ เป็นการแก้
    “วิชาและอาถรรพ์” ถามท่านว่า “ทำที่อื่นไม่ได้หรือ” ท่านก็บอกว่า
    “เขาทำที่วัด แก้ที่อื่นมันก็ไม่ได้ ไอ้วิชาและอาถรรพ์นี่เขาทำให้ซวย
    ให้ทุกคนหากินยาก มีความเป็นอยู่ยาก มีการป่วยไข้ไม่สบาย”
    ตัวต้นจริงๆ ก็คือฉัน เขาต้องการให้ตาย นี่บังเอิญไม่ตาย
    ถ้าตายจะมีความสุขมาก

    ก็รวมความว่า เขาทำมามาก เขาทำมาจริงๆ ตั้งแต่ปี ๑๗ แล้วก็ทำ
    เพิ่มเติมทุกปี ทุกครั้งที่มีงาน มีงานวัดพวกนักไสยศาสตร์เขาไปทุกเที่ยว
    ฉันรู้หมด ทำที่ไหนก็ทราบ แต่ว่าที่ไม่พูดเพราะอะไร
    เพราะเกรงว่าพวกเราบางคนจะเข้าตะรางไป เอาแน่ เพียงได้ยินข่าวยังเอาเลย
    ไม่งั้นก็ขยี้ตายไปเลย ก็เห็นว่าอันตรายมันมีไม่มาก

    และต่อมาเมื่อวานซืนนี้มีเทวดามาองค์หนึ่ง เป็นเทวดาของ
    ท้าวเวสสุวรรณ ฉันก็นอนภาวนารอเวลารับแขก
    ก่อนจะรับแขกไม่รู้จะทำอะไรก็นอนภาวนาไปเรื่อยๆ
    เสียงท่านพูดดังๆ ว่า “นี่ เอาขนมปังไปวางหน้าโบสถ์สักปอนด์ไม่ได้รึ”
    ก็นึกว่าเสียงใครวะ เราอยู่คนเดียวนี่ แล้วท่านก็พูดอีก
    “นี่ เอาขนมปังไปวางหน้าโบสถ์ ๑ ปอนด์ไม่ได้รึ”
    พอเหลียวไปดูก็เจอเทวดาลูกศิษย์ท้าวเวสสุวรรณ

    “ผมอยู่ป้องกันอันตรายที่วัดนี้ประมาณ ๑๐๐๐ องค์เศษ”
    ท่านก็บอกว่า “วิชาก็ดี อาถรรพ์ก็ดี เขาทำมามากแล้ว เขาต้องการ
    อย่างน้อยที่สุด ให้ท่านขยับตัวไม่ได้ คล้ายคนเป็นอัมพาต
    แล้วประการที่ ๒ เขาต้องการให้ตาย” แล้วท่านก็ให้ดูทุกจุดว่า
    วิชาก็ดี อาถรรพ์ก็ดี เขาทำอะไรบ้าง ก็เลยบอกว่า “ทั้งหมดนี้
    ทราบทุกครั้งเขาที่ทำ”

    ท่านก็เลยบอกว่า “ผมเองก็ทราบว่าท่านไม่เป็นไร มันเข้าไม่ได้
    และลูกศิษย์ของท่าน คนที่เคารพยันต์เกราะเพชรจริงๆ
    มันเข้าไม่ได้เช่นกัน”

    ท่านอธิบายต่อไปว่า “สมมติเป็นกองไฟกองใหญ่ ถ้าเขาเอาท่านไปเผาได้ท่านก็ไหม้
    แต่เผอิญพวกท่านไม่ได้เข้ากองไฟ พวกผมกันไว้ แล้วเปลวไฟที่แลบออกมา
    ก็ไม่ถึงตัวท่าน แต่อย่าลืมว่าสถานที่เดียวกัน ไอร้อนมันมี ละอองคือไอร้อนทีละน้อยๆ
    มันก็สะสมในตัว อย่างนี้ก็ทำให้การคล่องตัวไม่มี อาการที่ป่วยไข้ของท่าน ก็ด้วยเหตุนี้เช่นกัน
    นี่ละอองนะ ไม่ใช่เนื้อแท้ ทีนี้ลูกหลานทุกคน ที่มีความเป็นอยู่ไม่ปกติ
    ก็เป็นด้วยเหตุนี้เหมือนกัน เป็นละออง”

    เมื่อกี้ท่านท้าวเวสสุวรรณ บอกตอนบวงสรวง บอกว่า
    “ให้บอกลูกหลานทุกคน ถ้าไปวัด เอาขนมปัง ๑ ปอนด์วางที่หน้าโบสถ์”
    ตอนที่เทวดามาบอกท่านย้ำว่า “หน้าโบสถ์นะ ไม่ใช้ข้างโบสถ์”
    ก็เลยบอกว่า “ที่หน้าโบสถ์ วางบนพื้นสูงด้านหน้าได้ไหม”

    ท่านบอกว่า “นั่นมันบนโบสถ์” ดุด้วยนะ เขาว่าเทวดาไม่ดุ ไม่จริง
    แต่เสียงเทวดาชั้นจาตุมหาราช เสียงท่านห้าวหาญ ไม่ใช่ดุนะ
    เลยถามว่า “ตรงไหนล่ะ” ท่านตอบว่า “ตรงไหนก็ได้ ที่ใม่ใช่ข้างโบสถ์”
    ก็ถามว่า “เวลาวางต้องทำแท่นต้องทำที่ไหม” ท่านบอกว่า
    “ผมไม่ได้บอกนี่” ถามว่า “เวลาวางทำยังไง” ท่านบอก

    “เวลาวางทุกคนให้ว่าตามนี้นะ วิชาและอาถรรพ์จงพินาศไป” เท่านี้
    ถ้าเราจะเคารพในท่าน ก็จุดธุปบอกหน่อยนะ ท่านบอกว่า
    “หลังจากนั้นต่อไป เป็นหน้าที่ของผม”

    ต่อมาเวลา ๖ โมงเย็น ก็นอนทำกรรมฐานอยู่ ฉันหากินนอนมากว่านั่ง
    ก็เห็นลูกศิษย์ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านมา ท่านบอกว่า “เวลาที่เขาทำ
    ใช้เวลามานาน ลูกน้องผมและลูกน้องท้าวมหาราชทั้งหมด พันคนเศษ
    คุมวัดอยู่ ท่านรอโอกาสนี้มานานแล้ว รอโอกาสที่อกุศลกรรมเปิดทางให้
    ฝ่ายที่เขาทำนะ ที่เขากลั่นแกล้ง”

    ถามท่านว่า “การกลั่นแกล้งนี้มาจากไหน เรื่องส่วนตัวรึ เรื่องส่วนตัวนี่
    ไม่มีกับใคร” ท่านบอกว่า “ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันเรื่องส่วนรวมและ
    ความโลภ เขาต้องการให้ท่านพับไป แม้ลูกหลานทั้งหมด
    แต่มันพับไม่ลง” แล้วท่านก็บอกว่า “ผมรอเวลานี้มานาน วันนี้เวลา
    ๑๔.๐๐ น. กรรมที่เป็นอกุศลกรรมเขาเปิด”

    ท่านเลยมาบอกเวลา ๑๓.๑๒ น. ไม่ใช่ให้หวยนะ และตอนสัคเคฯ
    พระพุทธเจ้าท่านเสด็จ บวงสรวงต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยนะ
    อันดับแรกก็แค่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถ้าเขายืนกับที่พระพุทธเจ้าท่าน
    เสด็จด้วย พอมาถึงท่านก็บอกว่า “บอกลูกหลานเขานะ ความเจริญ
    รุ่งเรืองจะมีขึ้นตามลำดับ ถอยหลังไม่มี…” ลงท้ายท่านก็บอกว่า
    “เธอยังตายไม่ได้ตามเดิม” ……

    69036752_2130123627099369_1969370267608154112_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขอให้ลูกจงยอมรับนับถือกฎของธรรมดา
    …..ถ้ารู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดาเสียแล้ว ความอาลัยในชีวิตมันก็ไม่มี
    …..เราศึกษาพระธรรมวินัยกัน ปฏิบัติสมถวิปัสสนาธุระกันก็เพื่อความดับไม่มีเชื้อ
    …..คือการตัดอาลัยในชีวิตเท่านั้น อารมณ์ที่จะตัดอาลัยในชีวิตได้ ก็มีอารมณ์รักธรรมดา
    …..คือ ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้มากนัก
    …..ไอ้เรื่องที่จะทำให้ถูกใจเราทุกอย่างมันไม่มีถ้าใจเราเลว แต่ว่าถ้าใจเราดีเสียอย่างเดียว
    …..ทุกอย่างในโลกมันไม่มีอะไรผิดใจเรา เพราะว่าเราทราบว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
    คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    ที่มา: โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม๑

    68931125_2133075220137543_3492536103661993984_o.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    โมทนาย้อนหลังไปนานๆ
    ผู้ถาม: กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกได้อ่านหนังสือที่มีรายชื่อบุญต่างๆ เมื่อ 10 ปี 100 ปีบ้าง ปรากฏว่าชื่นอกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก เลยนั่งยกมือไหว้โมทนาไป อย่างนี้เรียกว่าปัตตานุโมทนามัยหรือไม่… เพราะลูกเห็นว่านานเกินไป จำต้องเรียนถามหลวงพ่อเพื่อความแน่ใจ
    หลวงพ่อ: เป็น… เป็นปัตตานุโมทนามัย เขาเรียกว่า โมทนาขั้นลายคราม หลายร้อยปีแล้วนี่นะ ได้นะ มีผล 100% โมทนา หมายความว่า ยินดีด้วย ใช่ไหม… มัยแปลว่า สำเร็จ โมทนามัย… สำเร็จด้วยความยินดี ในเมื่อเรายินดีในการกระทำด้วยความดีของใคร เชื่อว่าผลนั้นสนองผล แต่ว่าจะนานเท่าไรก็ช่าง บุญไม่สลายตัว
    จาก… หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 9 หน้า 57

    68780893_2135382333240165_8648364748728958976_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f449.png ตอนนี้มีเจ้าภาพแล้ว13ซองยังต้องการเจ้าภาพอีก37ซองค่ะ
    1f607.png บอกบุญกฐินค่ะ วัดที่4ของปีนี้
    1f64f.png ขอเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน สร้างศาลาการเปรียญ ณ.วัดป่าพุทธเจดีย์ศรีสุทโธ(นาคราช)ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่จ.หนองคาย(ถ้ายังจำกันได้วัดนี้ฝนช่วยบอกบุญมา2-3ปีแล้วค่ะตั้งแต่บอกบุญซื้อที่ดิน ปลอดหนี้ฯลฯ)
    2728.png งานกฐินตรงกับวันที่10พฤศจิกายน2562
    1f4f2.png ท่านใดร่วมบุญ100บาทจะได้รับพระพุทธเมตตา1องค์ค่ะ จากประเทศอินเดีย พุทธาภิเษกเรียบร้อย(ค่าจัดส่งลงทะเบียน30บาท)หรือร่วมบุญได้ตามกำลังนะคะ
    1f449.png งานนี้ฝนรับมา50ซองค่ะ
    โอนเงินแล้วส่งรายชื่อมานะคะฝนจะเขียนหน้าซองให้
    1f4f2.png โอนร่วมบุญได้ที่ธ.ไทยพาณิชย์406-337594-3
    น้ำฝน บุญสิงห์

    69164928_2139752306136501_751215687313129472_n.jpg
    69227054_2139752389469826_8336744255561138176_o.jpg
    69400413_2139752439469821_196398714028294144_n.jpg
    68678737_2139752499469815_4800825245587996672_n.jpg
    69354730_2139752586136473_6739563316814807040_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f6a9.png 1f6a9.png วิธีวิปัสสนาที่ทำให้บรรลุมรรคผลใน ๑๐ วัน

    1f4cd.png 1f4cd.png ได้พบพระมหาเถระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นพระอรหันต์ไม่ได้บอกชื่อไว้เสียด้วย น่าจะกลัวพระงูเหลือม ท่านก็บอกว่าเป็นอรหันต์นิพพานเมื่ออายุ ๙๗ ปีกับ ๓ วัน นี่ท่านพบกันแล้วท่านก็บอกว่า ฉันเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ฉันเป็นพระอรหันต์ แล้วฉันนิพพานเมื่ออายุ ๙๗ ปี ๓ วัน พระคุณเจ้ารูปนี้ นั้นได้โปรดแนะนำให้ทำวิปัสสนา ว่า จะเห็นผลภายในสิบวัน นี่อาจารย์นี่ย่องมาสอนเป็นพิเศษ ปกติพระมหากัจจายนะและสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อาจารย์องค์นี้ย่องมาสอนต้องลัดคิว ว่าจะเห็นผลภายในสิบวัน ว่า…

    1f4cd.png 1f4cd.png (๑) ให้ทำฌานแล้วให้ปลงในนิวรณ์ก่อน (จำได้ไหมนิวรณ์ห้าประการ ปลงตัดมันเสียให้หมด แล้วก็ทำสมาธิ)

    1f4cd.png 1f4cd.png (๒) แล้วพิจารณาขันธ์ห้าตามไตรลักษณญาณ (ไตรลักษณ์ก็รู้แล้ว อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
    แต่ให้มันสูง ปลงให้เห็นว่าอนิจจังนี่มันเป็นของไม่เที่ยงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งหมดในโลกนี้ ถ้าไม่เที่ยงเราไปยึดมันเข้าแล้วมันเป็นทุกข์ ต้องปล่อยตามมัน มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน แล้วในที่สุดมันก็เป็นอนัตตา พังสลายตัวหมด อย่าไปยึดไปถือมัน อย่าไปยึดว่าจะมีอะไรเป็นเราเป็นของเราต่อไป แม้แต่ร่างกายเรายังพัง ในเมื่อร่างกายเรายังพังแล้วจะมีอะไรทรงอยู่ อะไรมันทรงอยู่แล้วก็ตาม ถ้าหากว่าร่างกายเราพังแล้ว เราก็ไม่มีสิทธิ์จะมายึดว่ามันเป็นเราเป็นของเรา ท่านบอกว่าต้องทำอย่างนี้จริงๆ จังๆ ปล่อยไม่ได้

    1f4cd.png 1f4cd.png (๓) แล้วก็ต่อมาจงปล่อยความยึดมั่นจากรูปที่เห็นทางตา จงอย่ายึดว่ารูปนั้นเป็นเราเป็นของเรา
    ปล่อยเสียงที่ได้ยินทางหู
    ปล่อยกลิ่นที่รับทราบทางจมูก
    ปล่อยรสที่รับทราบทางลิ้น
    ปล่อยสัมผัสที่รับทราบทางกาย
    ปล่อยอารมณ์ใจที่เป็นอกุศล อย่าเอาเข้ามายุ่ง

    1f52e.png ฟังแล้วก็จำนะ นี่เราเรียนกันมาแล้ว นี่ท่านย่อมา ผมเห็นว่าไม่ยาก ผมก็ย่อไป

    1f4cd.png 1f4cd.png ท่านก็บอกว่า ปล่อยใจว่าเป็นเชื้อของเดิมมา เพราะอารมณ์ทั้งหมดเนื่องจากรูป ท่านบอกว่าที่ต้องมาเกิดอย่างนี้ต้องมาเป็นทุกข์อย่างนี้เชื้อเดิมมาเพราะอาศัยรูปเป็นสำคัญ คืออาศัยรูปทางตา อาศัยเสียงทางหู อาศัยกลิ่นทางจมูก อาศัยรสทางลิ้น อาศัยสัมผัสทางกาย อาศัยอารมณ์ใจที่เกลือกกลั้วในกามารมณ์

    1f4cd.png 1f4cd.png นี่ที่ต้องมาเกิดเป็นอย่างนี้อาศัยตัณหาเป็นเจ้าเรือน ตัณหาก็คือความอยาก อยากได้รูปสวยๆ อยากได้เสียงหวานๆ อยากได้กลิ่นหอมๆ อยากได้รสอร่อยๆ อยากได้รับการสัมผัสที่เราพอใจ อยากได้อารมณ์ที่พึงปรารถนา ท่านบอกว่า นี่พวกนี้เป็นเจ้าเรือน ต้องทำลายไปเสียให้หมด ต้องทำให้ได้ แล้วจะรู้ผลภายในสิบวัน

    1f52e.png จำไว้นะ ใครอยากจะได้บรรลุมรรคผลเร็วๆ ละก็ปล่อยตามที่ท่านบอก จะรู้ผลในสิบวัน..

    ———————————-
    1f58a.png 1f4d6.png ที่มา : หนังสือ ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า (บันทึกแนวทางการปฏิบัติพระกรรมฐาน โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

    1f58a.png คัดลอก นภา อิน 1f33a.png 1f33a.png 1f33a.png

    69424870_2145504232227975_4021664486707429376_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พระคาถากันฟ้าผ่า

    ” อากาเสจะ พุทธทีปังกะโร นะโมพุทธายะ ”

    คาถากันไฟไหม้ และคาถากันฟ้าผ่านี้ ท่านพิมพ์เป็นใบปลิวแจกในขณะที่อยู่วัดสะพาน ท่านพิมพ์ไว้ว่า คาถานี้ของหลวงพ่อปาน ท่านให้บูชาไว้ทุกวันๆ ละ ๓-๕-๗-๙ จบ ท่องทุกเช้าค่ำ จะปลอดภัยจากไฟไหม้และฟ้าผ่า

    ต่อมาเมื่อหลวงพ่อมาอยู่ที่วัดท่าซุงแล้ว ท่านให้ใช้เฉพาะ

    “ โส นามะ ยักโข ”

    เท่านั้น โดยกล่าวว่า “ ให้เขียนเป็นภาษาไทยไว้บนหัวนอน สวดมนต์กราบไหว้อยู่เสมอ ไฟไม่ไหม้ ฟ้าไม่ผ่า และกันนิวเคลียร์นิวตรอนได้ด้วย….”

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดจันทาราม(ท่าซุง)อุทัยธานี

    ที่มาจาก..หนังสือ สมบัติพ่อให้ เล่ม๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ หน้า ๒๑๐ – ๒๑๑.

    69694828_2153967861381612_1211997366719086592_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...