อาการ จากการปฏิบัติ ใครเคยเป็นแบบนี้ บ้างไหม ครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tanachit komin, 28 มีนาคม 2010.

  1. tanachit komin

    tanachit komin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +49
    อาการซึ่งมีมาในหลักสูตร ในขณะที่จิตทรง อยู่ใน อุปจารสมาธิ ย่อม อาจมีปิติ ๕ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง เกิดขึ้น คือ ขนลุก น้ำตาไหล กายโยก ตัวลอย กายพองซ่าน

    แต่นอกเหนือ จากอาการ ปิติ อาการเช่นนี้ ใครเคยเกิด บ้างไหมครับ ในขณะกำหนดจิต ทำสมาธิ ผมทำทุกท่า ไม่ว่า จะนั่ง ยืน เดิน นอน ควบพิจารณา
    ผม และ กลุ่ม ปฏิบัติ ตามแนวคำสอน พระราชพรหมยาน หลวงพ่อ ฤาษี ครับ แต่ไม่ทันหลวงพ่อ ครับ ( เกิดทัน ครับ )<O:p

    ขณะกำหนดจิต เหมือนมีมด หรือแมลง มาไต่บน ใบหน้า ลำตัว เส้นผม<O:p
    เวลาหลับตาทำสมาธิ สว่างเหมือน คล้ายลืมปิดไฟ บางครั้ง สว่างมาก<O:p
    จิ้งจกร้อง ผิดจากปกติ<O:p
    เส้นผมมีกลิ่น เหมือนยาฉุนแห้งๆ (แฮ่ .. สระผมแล้ว นะ)<O:p
    ฝ่ามือร้อน ฝ่าเท้าร้อน กว่าปกติ<O:p
    เหมือนมีโทรศัพท์เข้า ในระบบตั้งสั่น<O:p
    เหมือนมีไฟฟ้าสถิตในตัว ยิ่งอากาศเย็นจะชัดเจนมาก<O:p
    มีอารมณ์ ปรามาส พระรัตนตรัย หรือ ครูบาอาจารย์ ที่เราเคารพ<O:p
    ขณะนอนกำหนดเพื่อตัดหลับ เหมือนมีใครมาเป่าหัว ดังมาก <O:p
    บางครั้ง เห็นเทวดา ด้วยตาเปล่า หรือเห็นจุดสว่างขาวสว่างใส ชั่วพริบตา<O:p
    ความฝันส่วนมาก มักจะจำไม่ค่อยได้ ต้องแคะ<O:p
    เห็นดวงเทพ ด้วยตาเปล่า ลักษณะ เดียวกับการถ่ายภาพ ติดดวงเทพ<O:p
    มีความเบื่อหน่าย ต่อทุกสิ่ง ในช่วงสั้นๆ เห็นความตายเป็นเรื่อง ธรรมดา <O:p
    ฝันวนเวียนเกี่ยวกับ เรือสุวรรณหงส์ บ้านเก่า สิ่งของเก่า นั่งเรือ อาบน้ำ เป็นพระ ขึ้นที่สูง ขับรถ นั่งรถ เทวดา เจ้านายเก่าในปัจจุบัน

    แต่อาการเหล่านี้ ผมไม่ได้ใส่ใจ นะครับ คือ ปล่อยผ่าน อยากทราบความเห็นจากนักปฏิบัติ ด้วยกัน ครับ น้อมจิต ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 เมษายน 2010
  2. F-5E

    F-5E เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +964
    ผมก็เป็นครับ เหมือนว่า มีอะไรเป็นๆชาๆ ค่อนๆ กลืน ไล่มาจนถึงคอ เหมือนน้ำจะท่วมอ่ะครับ เรื่องการคันเหมือนมีมดไต่ตามตัว ก็ได้ยินว่าเป้นหลายท่าน แต่ผมไม่เคยครับ ต้องรอ ผู้รู้มาตอบ ดีกว่า อนุโมทนาครับ
     
  3. ศิลปินชนบท

    ศิลปินชนบท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    773
    ค่าพลัง:
    +1,678
    โห๊ะ...เป็นเหมือนกันค่ะเป็นบางข้อ...หรือจะเป็นอุปปาทาน โดยเฉพาะข้อนี้
    "มีอารมณ์ ปรามาส พระรัตนตรัย หรือ ครูบาอาจารย์ ที่เราเคารพ"
    คือไม่มีเจตนาอยากจะปรามาสท่านเลย แต่ทำไมจิตมันชอบคิดไปเช่นนั้นต้องคอยปราม
    งง เหมือนกันค่ะ<O:p

     
  4. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    เป็นเหมือนกันค่ะ บางข้อนะค่ะ เราเคยนั่งได้ถึงตอนที่ นั่งแล้วมันรู้สึก อิ่มบุญ มีความสุข สุขที่บอกใครไม่ได้นะค่ะ คือต้องปฎบัติค่ะ แต่ตอนหลังๆไม่ค่อยได้นั่งค่ะ ไม่ได้รับความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วค่ะ ตอนนี้เริ่มนับหนึ่งใหม่ค่ะ
     
  5. kungfuloma

    kungfuloma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,011
    เท่าที่ศึกษามานะครับ
    บางอย่างก็เป็นอาการของปิตินะครับ
    หลายอย่างก็เป็นสภาวะในสมาธิ

    หากเป็นสิ่งรบกวนเช่นเหมือนมดไต่ แมลงสัตว์กัดต่อย ท่านว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร รู้สึกเมื่อไรก็ให้แผ่บุญกุศลเพื่อขออโหสิกรรม ให้เดี๋ยวนั้นทันที
    ถ้ามีอารมณ์ปรามาสพระรัตนตรัย ให้ตั้งจิตขอขมาพระรัตนตรัยทันที เมื่อรู้สึกให้ทำทันที บ่อยเข้าจิตจะจำได้ และหมดโทษในที่สุด

    ขอให้ก้าวหน้าในธรรมครับ
     
  6. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676

    เป็นเหมือนกันนะครับ แต่ขีดเส้นใต้ไว้ไม่เหมือน เห็นแต่ไม่เห็นเป็นเทพเทวดา แต่เห็นเรื่องราวอะไรซักอย่างแล้วก็ไม่ซ้ำกันซะที บางทีเห็นตอนลืมแต่ไม่ใช่เห็นผีนะ ไม่เหมือนในหนังหรอก บางทีเวลากระพริบตายังเห็นเลย

    สรุปคือ เราหรือใครๆ ก็ทำได้เหมือนกัน เป็นสิ่งให้รู้ไม่ใช่สิ่งลึกลับ เราทุกคนเราไปรู้ได้เหมือนห้องสมุดเลย


    อนุโมทนาครับ ปฏิบัติต่อไป สิ่งที่เห็นก็สักแต่ว่าเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเอง
     
  7. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    จะเรียกขันธ์มารก็ได้ อะไรที่จะขัดขวางสมาธิ เพื่อให้จิตสงบมันเกิดขึ้นได้เสมอ
    อะไรที่ได้มาง่าย ก็ไม่หนุก....หากทำได้ ก็คือสิ่งที่ภูมิใจ เพื่อจะมีกำลังเดินหน้าต่อไป
    ..สู้..สู้..
     
  8. pongtera24p

    pongtera24p ชมรมศิษย์หลวงปู่เทพโรคอุดร พิจิตร

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,905
    ปิติ* นั้นเป็นอาการของจิตก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่อารมณ์
    ที่ละเอียดขึ้นคือฌานนั่นเอง* ปิติทั้ง5 ได้แก่....



    1.ปิติมีอาการขนลุกซู่* เป็นอาการของปิติ ที่มีการอิ่มเอมใจ สุขใจ
    บางครั้งก็เกิดขึ้น เนื่องจาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ท่านยืนยันเหตุการณ์หรือ เรื่องราวบางอย่าง
    ปิติ ชนิดนี้จะมีผลทางวิทยาศาสตร์ทางร่างกาย คือ จะมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านจากไขสันหลังเข้าสู่
    สมอง กระตุ้นให้ต่อมฮอร์โมน ที่ใต้สมองหลั่งฮอร์โมนที่มีความสุข ออกมาหลายชนิด ครับ ปิติ
    ชนิดนี้มีผลดีอย่างยิ่งในการปฏิบัติสมาธิครับ วิธีรับมือ หรือ จัดการเมื่อเกิดปิติชนิดนี้ ก็คือ
    การกำหนดรู้ ถ้าทำให้ปรากฏได้บ่อยก็จะทำให้จิตใจสบาย มีความสุขครับเมื่อ
    ปิติผ่านไป ก็ จงปล่อยวาง แล้วเคลื่อนจิตขึ้นสู่ความละเอียดของจิตที่สูงขึ้นครับ<O:p

    <O:p

    2.ปิติที่มีอาการตัวโยก ตัวเอียงเอนตัว*มักเกิดขึ้นเวลานั่งหลับตาทำสมาธิ
    เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้จิตเกิดความสงสัย ว่าตอนนี้เรานั่งตัวเอียงตัวเอน หรือเปล่า เมื่อลืมตา
    ขึ้นก็จะพบว่าที่จริงตัวเราตั้งตรงอยู่ ไม่ได้เอียงแต่อย่างไร แต่ความสงสัย และ ลืมตาดูก็จะ มี
    ผลให้จิตถอนออกจากสมาธิ วิธีจัด การกับปิติชนิดนี้ก็ คือการ <O:p
    กำหนดรู้ว่าสิ่งที่เกิดอยู่นี้คือปิติก็ไม่ต้องไปสงสัย+ ไม่ต้องสนใจ<O:p
    -------


    ไม่ต้องไปลืมตาดูแล้วจิตจะเคลื่อนสู่ฌานและอารมณ์ที่ละเอียดขึ้น<O:p
    3.ปิติที่มีความรู้สึกว่าตัวพองใหญ่*หรือ จิต มารวมกัน


    ที่หัว แล้วรู้สึกว่า หัวโตขึ้นขยายขึ้นวิธีการปฏิบัติ เหมือนข้อที่ผ่านมา
    คือ กำหนดรู้แล้วปล่อยวางผ่านเข้าสู่สมาธิขั้นต่อไปครับ

    <O:p

    4.ปิติที่มีอาการเหมือนมี มดหรือ แมลง มาไต่ตามใบหน้า*
    หรือ ตามแขนขาครับ ปิตินี้จะทำให้จิตใจเราเกิดความรำคาญหงุดหงิด และ ออกจากสมาธิลืมตาขึ้นดู
    หรือลูบตามหน้าตามตัวดูแต่ก็ไม่มีตัวอะไรทั้งสิ้น ความจริงเกิดจากการที่ จิตเราเริ่มหยุดนิ่ง + ลดการ
    ทำงานของประสาทสัมผัสอื่น คือ ตา หู จมูก ลิ้น คงเหลือแต่ผิวหนังร่างกายที่ ทำให้ประสาททำงาน
    ละเอียดขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังเพียงเล็กน้อย เราก็รู้สึกได้ชัดเจนกว่าปรกติ จึงทำให้รู้สึก
    ว่า คล้ายว่ามีแมลงไต่ตอมอยู่วิธีปฏิบัติ คือ การ กำหนดรู้ครับว่าเรารู้ว่าที่ปรากฏนี้คือปิติ เมื่อจิตเรา
    รู้ทัน แล้ว ปิติตัวนี้ จะไม่เกิดอีกในครั้งนั้น และ จิตจะเคลื่อนสู่ฌานที่สูงขึ้น<O:p
    <O:p


    <O:p

    5.ปิติที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเราเบาเหมือนจะลอยหรือ จะเหาะไปในอากาศ*
    ปิติตัวนี้เมื่อเกิดขึ้นในครั้งแรกจะทำให้ตกใจบ้าง หลงบ้าง ว่าเราได้อภิญญา แล้ว
    เหาะ ได้แล้ว ที่จริงเป็นปิติเป็นความดีขั้นต้นก่อนที่จิตจะยกขึ้นสู่ฌาน ดังนั้นจึง
    ควรกำหนดรู้แล้วปล่อยวางเพื่อให้จิตเข้าสู่สมาธิที่สูงขึ้น
    <O:p

    สรุปแล้ว* ปิตินั้นเป็นสิ่งที่ดี และ เป็นเครื่องแสดงว่าจิตใจเรากำลังจะเข้าสู่สมาธิ
    ที่สูงขึ้นแต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้หลายๆคน ติดอยู่ในจุดนี้นาน เป็นปี ๆ ก็มี จนกว่า
    จะผ่านปิติไปได้ปิตินั้น ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะเกิดปิติครบทั้ง 5 ประการ บางคนก็เกิด <O:p
    -------


    บางคนก็ไม่เกิดปิติอะไรเลยแต่ก็เข้าสู่ ฌานได้เช่นกัน
    -------


    บางคนได้ปิติก็เข้าใจว่าบรรลุธรรม เหาะ ได้แล้วก็มีปรากฏ * บางคนก็บอกว่าตนเอง ไม่สามารถ
    นั่งสมาธิได้ เพราะ นั่งที่ไรก็รู้สึกว่า มี มด แมลง มาไต่มาตอมทุกครั้ง ถาม อาจารย์บางท่านท่าน
    ก็บอกว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร แต่ความจริงแล้ว อาการที่ปรากฏ เป็น อาการของปิติ ถ้ากำหนดรู้
    หรือ จิตรู้ ทัน ก็จะหายไปเอง เหมือน เราทำข้อสอบ หรือ ผ่านด่านทดสอบได้
    เพื่อการก้าวขึ้นสู่สมาธิที่ลึกขึ้นสูงขึ้นครับ<O:p

    <O:p

    ส่วนปิติชนิดที่ตัวสั่น*ซึ่งเป็นอาการของฌานหยาบคล้ายเวลา ฝึกมโนเต็มกำลัง
    วิธีการก็ คือ ปล่อยวางจากร่างกาย อย่าไปสนใจในอาการสั่นอย่ารู้สึกว่าสั่น แล้วจะดี
    เพราะ เป็นการแสดงว่าจิตของเรายังมีความยึดในร่างกายอยู่อีกมาก ให้พิจารณา
    ในวิปัสสนาญาณให้มากขึ้นจนจิตเคลื่อนขึ้นสู่อารมณ์ที่สูงขึ้นละเอียดขึ้นครับ<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2010
  9. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    มีอีก คือ ตัวสั่น ตัวโยก ตัวเอียง ลมออกหัว อยู่เฉยๆ ได้ยินเสียงในหู คลิกๆ คลิกๆ ฟังดีๆ แล้วเหมือนเสียงค้างคาวร้องเล็กๆ แหลมๆ
     
  10. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    อารมณ์ปรามาศนี้คลาสสิคมากคับ

    มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่า ตอนที่ไม่เคร่งไม่เห็นปรามาศถึงขนาดนี้เลย

    นี้ขนาดเคร่งปฏิบัติแท้ๆยังเป็น รู้งี้ไม่เคร่งดีกว่า ( เคยคิดนะคับ )

    แต่ได้ยินเขาบอกว่าไม่ต้องสนใจ ขอขมาพระรัตนไตรบ่อยๆ
     
  11. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    เป็นอาการของปิติห้า และก็บางอย่างเป็นอาการของสัมผัสที่หก เมื่อเกิดอาการ เราก็แค่รู้และดูอยู่เฉยๆ เมื่อผ่านสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะไปสู่จุดที่ดีกว่านี้ เช่นหากสัมผัสขนลุกอยู่เสมอๆ นานๆไปก็จะสามารถรู้ได้ว่าสัมผัสกับอะไร และต่อไปก็เป็นโทรจิต และสามารถคุยกับผีสาง เทวดาได้ ต่อจากนั้นก็สามารถส่งจิตไปรู้ในเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเราได้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นด้วยจิตที่ฝึกผ่านการละวางมาเป็นลำดับ


    การเข้าถึงครูบาอาจารย์ที่อยู่ในโลกทิพย์ ก็เข้าถึงด้วยการฝึกผ่านสภาวะเหล่านี้แหละ ครับ
     
  12. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ต้นเหตุของอารมณ์ปรามาสคือ ความชั่วที่ฝังอยู่ในจิต.....ที่ในอดีตเคยคิด ปรามาสพระรัตนตรัย และผู้ปฏิบัติ ยกตัวอย่างเช่นเห็นพระท่านทำอะไรบางอย่างแล้วเราไม่ชอบใจคิดในใจว่าท่านไม่ดี...ทั้งๆที่ท่านอาจไม่เป็นเช่นที่เราคิดหรือถ้าเป็นก็เป็นอาบัติที่เล็กน้อย...เมื่อปลงอาบัติก็ตก......แต่จิตเรายังผูกอยู่ทั้งๆที่ศีลเราน้อยกว่าท่าน เป็นต้น...จนก่อเกิดเป็นมโนกรรม...เมื่อปฏิบัติ มันก็จะเด้งขึ้นมาในตอนปฏิบัติ...เป็นสิ่งขัดขวางในสมาธิ....หรือไม่ถ้าตอนตาย...จิตดวงนี้มันเด้งขึ้นมา...ตอนจบพอดี....ก็เสวยผลกรรมในนรกภูมิก่อนอย่างนี้......ไม่ใช่ของเล่นๆนะ.....

    แก้โดยการ หยุดสร้างกรรมใหม่คือการปรามาสพระรัตน์ตรัย และผู้ร่วมปฏิบัติ ไม่ว่าแม้แต่ในใจก็ตาม....และเมื่อมันเด้งขึ้นมาตอนปฏิบัติ ครูบาอาจารย์บางท่านก็บอกว่าให้ขอขมาตอนนั้นเลย....บางท่านก็กำหนดรู้พอถอนจากสมาธิก็ขมากรรม....

    แต่สิ่งที่ควรทำบ่อยๆอีกอย่างของผู้ปฏิบัติคือ...ขอขมาพระรัตนตรัย...ให้เป็นปกตินิสัย....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2010
  13. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    โมทนาสาธุธรรมกับ จขกท หลายข้อเป็นอาการทางสมาธิ ที่เป็นเรื่องปกติของผู้ปฏิบัติที่จะเจอ...แม้ผมเองก็ตาม....

    และมีบางข้อที่มีความสามารถพิเศษ ก็ต้องบอกว่า จขกท เป็นคนมีบุญพอสมควรที่พิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างแน่ใจว่าตายแล้วไม่สูญ.....

    และบางสิ่งก็เป็นของนอกกาย....เมื่อเราปฏิบัติก็ไม่ควรที่จะไปใส่ใจในข้อปลีกย่อยที่ไม่สำคัญ....เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกรรมฐานที่เราปฏิบัติอยู่......


    ถ้าถามในเรื่องของการปฏิบัติ จขกท ศึกษากับหลวงพ่อฤาษีมา ก็คงไม่ต้องบอกอะไรมากมาย...เพราะไม่มีสิ่งใดที่หลวงพ่อท่านไม่บอกไม่สอนไว้.....

    ในอาการหลายๆข้อ....ตามที่กล่าว..ถ้าให้เอามาแชร์ ก็เป็นเรื่องปกติครับ.....จริงๆหลวงพ่อท่านก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดกับผู้ปฏิบัติอยู่แล้ว.....

    โมทนาสาธุธรรมครับ....ยังดีที่ยังมีผู้ปฏิบัติอยู่.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2010
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ยินดีครับ....เป็นกัลญาณมิตร...แต่ผมคงต้องเคารพท่านเป็นอาจารย์....อย่าเอาผมไปนับเข้ารวมเป็นสำนักหลวงพ่อท่านครับ......อายตัวเอง...อายหลวงพ่อ..เลวอยู่มากเลยครับ.....
     
  15. indear

    indear เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +733
    เคยค่ะ ปรามาสเนี่ย ตอนนั้นยังไม่รู้จักอะไรมาก รู้แต่ว่ามันคิดเองเราไม่ได้สั่งให้คิด ก็เลยเฉยๆรอมันเลิกคิดเอง ครั้งที่ไปวัดอัมพวันครั้งแรกเพื่อปฏิบัติรู้จักโลกแห่งธรรมครั้งแรกในชีวิต ขณะที่นั่งสวดมนต์กับคนที่บวชไปเรื่อยๆ ซักพักมันมาเลยค่ะภาพวาบหวิวหญิงชาย งงมากคิดได้ไงรู้สึกบาปมาก ยิ่งไม่ยอมยิ่งคิดเลยเถิด อูยยย อยากจะบ้าเลยเพราะกำลังสวดมนต์ในสถานที่ศักสิทธิ์ด้วย ขอขมาตอนนี้ยังทันไหมเนี่ย
     
  16. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    ผมเป็นเหมือนคุณ Mr.Boy_jakkrit แต่เพิ่มเติมตรงมีความรู้สึกหน่ายด้วย
    หลังๆมาบางครั้งรู้สึกขยะขแยงตัวเอง มีแต่สิ่งสกปรกเน่าเหม็น(อันนี้เป็นอยู่สามสี่วัน) ต่อมาก้อรู้สึกถึงใบหน้าที่เหี่ยวย่นแก่ชราของตนเอง(อันนี้เห็นขณะนั่งกรรมมัฏฐาน) อนุโมทนาด้วยกับจขกท.นะคับ ขอให้หมั่นปฏิบัติต่อไป
    ศาสนาพุทธจะไม่มีวันเสื่อมสลาย มีแต่จะเจริญรุ่งเรือง
    สา....ธุ
     
  17. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อนุโมทนากับข้อความด้านบนนี้ครับ ปัญหามีอยู่ว่าหากว่ารู้ว่าจิตตนตกต่ำก็แก้ได้แต่บางคนที่ไม่รู้ มีสองทางคือปล่อยให้เขารับเวรกรรมที่เขาก่อกับชี้บอกว่าที่เป็นอยู่นั้น เรียกว่าไม่ดี คือการปรามาส เห็นโทษมันไหมเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งกรณีนี้ผมทราบว่า ถ้าเป็นผู้ปฏิบัติที่ถือพระรัตนตรัยเป็นสิ่งระลึกสูงสุดแล้ว มีทาน ศีล ภาวนา สมาธิ ปัญญา เป็นปกติแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ได้มีการหลบหลู่ปรามาส พระรัตนตรัยเกิดขึ้น จิต จะไม่สงบตัวลงได้ นอนจะไม่ค่อยหลับ แต่ชัดเจนที่สุดคือ จิตที่เคยฝีกสมาธิได้ความสงบจะไม่สามารถทำให้ได้ความสงบเลย เป็นที่กังวลและสงสัยต่อผู้เป็น แต่นั่นสำหรับผู้ที่ปฏิบัติภาวนาเป็นปกติโดยมากจะรู้ทันที แต่ผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติเป็นปกติละครับ และผู้ที่ไม่เคยพบความสงบในสมาธิเลยละครับ เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่า เขาได้ปรามาสพระรัตนตรัยแล้ว ก่อกรรมอกุศลขึ้นแล้ว เพราะหากเป็นเช่นนั้น มีทางเดียวคืออย่าให้เกิดคือ ใช้สติพิจารณาก่อนจะพูดอะไรคิดอะไรทำอะไร ว่านั่นจริงหรือไม่จริงถึงจริงก็พิจารณาว่านั่นเขาเป็นใครเราเป็นใคร แบบนี้คือวิธีแก้ใช่ไหมครับ
     
  18. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    รู้สึกเข้าท่านะ ขอถามทุก ๆ ท่าน เรื่องอารมณ์ ท่านนิดนะ ปัญหานี้ ผมไม่มีคำเฉลย นะครับ เพราะหลายท่าน คงรู้กันแล้ว การสร้างบ้าน ย่อมอาศับ แบบแปลนฉันใด นักปฏิบัติ ย่อมอาศัย ปริยัติ ฉันนั้น ผมจำมาจาก ครูบาอาจารย์ ท่านนะ

    เอาละ เรามาดูปัญหา นะ
    ๑... เราเห็นเรื่องความตาย ที่จะมาถึงเรา เรารู้สึกยังไง ความสุข และ ความทุกข์ ต้นเหตุ มาจากใหน เพราะอะไร เรารู้สึก อย่างไร กับกฎของไตรลักษณ์ เวลาเรา สนทนา กับนักปฏิบัติ ด้วยกัน เราชอบคุยเรื่องอะไร ?


    ๒... เราสงสัย หรือมั่นใจ ในผลการปฏิบัติ และแนวทางที่เราปฏิบัติ เพียงใด ?


    ๓... เราคิดว่า ศิล เราบริบูรณ์ เพียงใด เพียงกาย เพียงวาจา เพียงใจ หรือทั้งหมด เราเห็นว่า
    พรหมวิหาร ๔ มีความสำคัญ ขนาดใหน ?


    ๔... อานิสงค์ใด ที่เป็นกุศล ที่เราพึงจะได้รับ เรามัก อธิฐานขอพร ว่าอย่างไร และ เรารักในพระนิพพานแค่ใหน ?

    อุปมา ความหิว ความกระหาย ย่อมรู้ได้ด้วยตัวเองฉันใด นักปฏิบัติ ย่อมรู้ได้ ด้วยตัวเอง ฉันนั้น

    ใครจะถาม หรือช่วยกันตอบ ก็ได้นะ ครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มีนาคม 2010
  19. Ukie

    Ukie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +594
    หวัดดีค่ะลุงอริยบุตร มาทักทายอ่ะค่ะ คริ ๆ
     
  20. kkookk

    kkookk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ผมเกิดแต่อาการที่ขีดเส้นใต้ไว้ครับ
    เช่นอาการเหมือนมีโทรศัพท์(ระบบสั่น) เข้าผมเป็นช่วงกำลังนั่งทำงานแบบมีสมาธิครับ...
    เมื่อก่อนตอนฝึกใหม่ๆ ไม่เป็นครับเพิ่งมาเป็นได้ 1 อาทิตย์นี้เองครับ...
    อาการปรามาสครูบา-อาจารย์นี้เป็นตลอดครับทั้งขณะเวลาทำสมาธิ และใช้ชีวิตประจำวัน(เหมือนฟุ้งซ่านครับ)ครับ...
    (แต่ผมแก้ไขด้วยการขอขมาลาโทษ-ขออโหสิกรรมก่อนทำสมาธิทุกครั้ง หรือเวลาเกิดประมาสในระหว่างชีวิตประจำวัน)ครับ...
    อาการเบื่อหน่ายทุกสิ่งในช่วงสั้นๆ(สั้นมาก) นี้เป็นอยู่เกือบตลอดเวลาครับ...
    (เวลาที่เกิดอาการนี้ขึ้นผมใช้อาการเบื่อหน่ายนี้เป็นอุบายสอนใจให้ความเป็นจริงและเป็นไปของโลกเห็นอริยสัจและไตรลักษณ์ครับ)...
    อาการเห็นเทวดา + สิ่งเร้นลับด้วยตาเปล่า(แว๊บๆ) นี้เมื่อก่อนจะเห็นช่วงสวดมนต์...
    แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องสวดมนต์ก็เห็น(แว๊บๆ)ครับ(ไม่แน่ใจอาจจะอุปทานไปเองก็ได้ครับ)...
    จำความฝันไม่ได้อาการนี้เป็นบ่อยๆ ครับเลยไม่เคยบอกเลขใครได้สักที...555+
    เพราะตื่นปุ๊บ!! ก็ลืมปั๊บ!! เลยครับ...
    นอกจากตื่นปุ๊บแล้วพยายามนึกถึงสิ่งที่ฝันโดยทันที อันนี้จะจำได้แต่ก็ไม่ครบไม่ 100% ครับ...


    ใครมีความเห็นยังไงต่ออาการหรือการปฏิบัติของผมก็แบ่งปันได้ครับ...
    ผมไม่มีครูบาอาจารย์คอยให้คำปรึกษาเวลาติดขัดอะไร...
    มีแต่ลองผิดลองถูกดู และก็ระลึกถึงพระพุทธเจ้า หลวงพ่อฤษี และพระอริยสงฆ์ที่เรานับถือและให้ความเคารพครับ...
    กัลยาณมิตรท่านใดมีอะไรจะแนะนำ หรือตักเตือนก็บอกกล่าวได้ครับจะขอบพระคุณและอนุโมทนาด้วยเป็นอย่างสูงครับ...

    ปล.อีกอาการหนึ่งที่ผมเป็นคือมักจะได้ยินเสียงที่ผู้อื่นไม่ได้ยินครับ เช่นสวดมนต์...
    เสียงพูดสนทนากัน(เสียงเหมือนกระซิบ ไม่ชัดเจนครับ) หรือเสียงที่เบามากๆ
    เช่นเพื่อนผมขับรถมาหาที่บ้านแต่ยังไม่ถึง...
    ผมแค่นึกถึงเพื่อนก็ได้ยินเสียงรถเพื่อนมาจอดที่หน้าบ้านแล้วครับจึงเดินออกไปเปิดประตูดู...
    ปรากฏว่าพอเปิดประตูปุ๊บ!!!รถของเพื่อนเพิ่งโพล่เข้ามาในบริเวณของบ้านครับซึ่งปรกติน่าจะเป็นระยะที่ไม่ได้ยินเสียงครับ...
    (แต่อาการแบบนี้เป็นไม่บ่อยนะครับนานๆ จะเป็นซักครั้งครับ)...

    หากข้อความหรือความเห็นผิดพลาดประการใดก็ขออภัยและอดหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ...

    ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...