วิญญาณรุ่นพี่ในสายขิม

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย kamakura, 24 มีนาคม 2006.

  1. kamakura

    kamakura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +210
    ตอนนั้น ผมจำได้ว่าผมอยู่ประมาณมัถยมต้นชั้นกลาง (ม.2) ตอนนั้นผมเรียนดนตรีไทย และมอบจิตวิญญาณให้กับดนตรีไทยอย่างมาก เรียกได้ว่ามีงานไหน ไม่ไปไม่ได้เลยทีเดียว แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในงานศพของคนรวย(ขอเรียกว่าอย่างนี้) ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือตอนล่าง ที่ซึ่งประสบการณ์ครั้งนี้ของผม เริ่มต้นขึ้น......
    วงดนตรีไทยที่ผมอยู่ ออกเดินทางจากจังหวัดพิจิตรประมาณ 6.00 (เย็น) เนื่องด้วยการมาสายของเพื่อนร่วมวงอีก 4 คน จึงเลยกำหนดการไปมาก แต่ทว่างานนี้จะเริ่ม ในวันรุ่งขึ้น ดังนั้นอาจารย์จึงจะพาไปค้างที่บ้านญาติท่าน ที่จังหวัดนั้นก่อน การเดินทางของเราราบเรียบมาก มีรถ 2 คัน ในการเดินทาง คันหนึ่งเป็นรถกระบะของอาจารย์ วีโก้ 4 ประตูคันใหญ่ ที่สามารถจุลูกศิษย์นักดนตรี ผู้หญิงจำนวน 4 คนที่ด้านใน และลูกศิษย์นักดนตรีชาย อีก 7 คน ในกระบะหลัง และรถอีกคันหนึ่งเป็นรถ 6 ล้อ ซึ่งขนเครื่องดนตรีไปเต็มคับรถ ซึ่งออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
    พวกผู้หญิงที่นั่งข้างใน แน่นอนแหละ ทั้งอากาศ ทั้งแอร์ และความเงียบ ทำให้พวกเธอเคลื้อมหลับไป แต่พวกผู้ชายข้างหลังก็มีกิจกรรมที่สนุกสนานทำกัน นั่นคือ แหกปากร้องเพลง ตอนนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ระยะทางในการเดินทาง บอกได้เลยว่าเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น เนื่องจากจังหวัดที่เรากำลังจะไป ก็ไกลมากพอสมควร ดังนั้นเราจึงมีเวลาสนุกกันอีกนาน ด้วยการร้องเพลงแหกปากโวยวายไปเรื่อย ตามประสาเด็กวัยรุ่นผู้ชาย
    แต่มีเพื่อนเราคนหนึ่งในวง คนนี้ชื่อ "เม้ง" เป็นคนที่ขี้กลัว แต่ชอบเกี่ยวกับเรื่องเร้นลับ และเรื่องของวิญญาณ มันได้ชวนให้เพื่อนๆเลิกแหกปาก แล้วมันจะเล่าเรื่องน่ากลัวๆให้ฟัง
    เรื่องที่มันเล่านั้น ก็คล้ายๆว่าจะแต่งขึ้นเอง แต่ก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย เป็นเรื่องของนักดนตรีไทยรุ่นพี่ในชมรมดนตรีไทย รุ่นก่อนที่ผมจะเข้ามาเรียนที่นี่เสียอีก ซึ่งรุ่นพี่คนนี้เป็นมือขิม หน้าตาสระสวย เรียบร้อย แล้วเรียนเก่ง แต่เธอถูกข่มขืนในขณะที่กลับจากซ้อมดนตรีไทยประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆที่หอพักของเธอเอง แล้วใครก็ตามที่เล่นขิมอันนั้น จะเจอกับพี่คนนี้ ถ้าไม่ในฝัน ก็ตรงๆ
    แล้วคนที่เล่นขิมอันนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ "เฟิร์น" ผู้หญิงที่นอนอยู่ในรถนั่นแหละครับ เธอหน้าตาน่ารัก ยิ้มง่าย และขี้กลัว แต่นิทานเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่พวกเรา จะจดจำไม่มีวันลืม.....
    เมื่อถึงวันงาน (เช้าวันรุ่งขึ้น) พวกเราเตรียมเครื่องดนตรีลงมาจากรถ และจัดเรียงให้เรียบร้อย ในบ้านของเจ้าภาพ ซึ่งเป็นบ้านปูน 2 ชั้น และกว้างขวาง ในตอนกลางวัน เจ้าภาพบอกว่า "ตอนกลางวันยังไม่ต้องเล่นอะไรหรอกนะ เพราะแขกเหร่อยังไม่ค่อยมา เอาไว้ประมาณเย็นๆแล้วค่อยลงมือกัน"
    เจ้าภาพจึงให้อาจารย์ของพวกเรา พาไปเที่ยวน้ำตก และพวกเราก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่พวกเราเริ่มจะสังเกตุพฤติกรรมของเฟิร์นซึ่งดูแปลกไป เธอนั่งหงอยเหม่อมองฟ้องฟ้า ด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ดูไม่เหมือนเฟิร์นคนเดิม แต่พวกเราก็คิดว่า เธอคงคิดถึงบ้าน เลยเศร้าเป็นธรรมดา แต่ดวงตาของเฟิร์นนั้น บ่งบอกได้ถึงความ..."กลัว"
    เมื่อตกเย็น วงดนตรีก็เริ่มบรรเลง เพลงแรกเป็นเพลงโศกพม่า ตามด้วยธรณีกรรแสง และเพลงโศกอื่นๆ ซึ่งสร้างบรรยากาศเศร้าสลดให้กับผู้ที่ได้ยินเป็นอย่างยิ่ง
    เมื่อเล่นไปได้ไม่นาน เฟิร์น ก็ก้มหน้าลงต่ำ มือที่จับไม้ขิมสั่นเทิ้ม ผมยาวสลวยของเธอปกปิดหน้าจนมิดชิด ทุกคนที่เห็นต่างเบนความสนใจมาที่เฟิร์นคนเดียว นักดนตรีจึงหยุดเล่นโดยอัตโนมัน แล้วเข้าไปถามว่า "เฮ๊ย เฟิร์น เป็นไร" เฟิร์นหัวเราะเหมือนคนบ้าอำนาจ (ฮ่าๆๆๆๆๆๆ) เสียงดังยาวนาน แต่นั่นไม่ใช้น้ำเสียงของเธอเลย ทุกคนกระเจิงจากวงแล้วไปออกันกับคนกลุ่มมาก ยืนมุงดูเฟิร์นทำพฤติกรรมน่าสยองอย่างจดจ่อ เฟิร์นตะคอกออกมาว่า "พวกมึง!! ไม่ให้เกียรติ์กู พวกมึงไม่ให้เกียรติ์ขิมกู ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ) จากนั้นเฟิร์นก็กรี๊ดดังลั่นด้วยความตกใจ เพราะมีลุงคนหนึ่งนำประคำสีดำ มาคล้องคอเฟิร์นไว้ แล้วด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ เฟิร์นก็หลับไป แล้วนักดนตรี ก็ไปเฝ้าดูอาการของเฟิร์นในบ้าน ผมได้ยินอาจารย์ เจ้าภาพงาน และคนขับรถคุยอะไรกันก็ไม่ทราบ แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองกำลังต่อว่าคนขับรถขนเครื่องดนตรี ผมเลยถามความเห็นเพื่อนๆว่า "อยากรู้ป่ะว่าเค้าคุยไรกัน" เมื่อการสนทนาของผู้หญ่จบสิ้น อาจารย์ก็เดินมาหาเฟิร์นด้วยความเป็นห่วง เพื่อนผม จึงถามอาจารย์ว่า "มีอะไรหรอครับอาจารย์" อาจารย์ทำถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่ ลแวพูดว่า "คนขับรถแอบเล่นขิมตอนแวะจอดเติมน้ำมัน แล้วแคะขี้มูกป้ายที่ขิม) "ห๊า!!!" คำอุทานจากเพื่อนร่วมวงซึ่งออกมาโดยพร้อมเพรียงพร้อมกับการหันไปมองคนขับรถนั้นด้วยความขยะแขยง
    ไม่นานเท่าไรนักหลังจากจบคำถามของพวกผม เฟิร์น ก็ฟื้นขึ้นมาด้วยท่าทีงัวเงีย จากนั้นก็ปล่อยโฮยาวนาน ร้องไห้เสียงดังลั่นโอบกอด "พัด" เพื่อนร่วมวงซึ่งเป็น ทอม เอาไว้แน่น แล้วพูดเสียงสั่นๆทั้งน้ำตาว่า "พี่เค้ามาหากุ บอกว่าขอยืมร่างกูหน่อย กูก็นึกว่าเค้าเอาร่างกูไปแล้ว" จากนั้นพวกเราก็ทำพิธีขอขมาขิมอันนั้น แล้วพาเฟิร์น ไปให้หลวงพ่อท่านทำพิธีเรียกขวัญที่วัด
    จากนั้นเป้นต้นมา เฟิร์น ก็ไม่ได้เจอพี่เต้ หรือวิญญาณประจำขิมอันนั้นอีกเลย.............................................

    ปล.เครื่องดนตรีไทยทุกชิ้น ล้วนแต่มีครูทั้งสิ้น ดังนั้นควรให้ความเคารพ แม้แต่ขลุ่ยท่อ พีวีซี ก็ต้องเก็บไว้ในที่สูงเช่นเดียวกับขลุ่ยไม้พญางิ้วดำ เหมือนกัน
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,608
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    เห็นด้วยครับที่เราควรต้องทำความเคารพเครื่องดนตรีไทยก่อนเล่นทุกครั้ง ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ดีกว่า เรื่องนี้น่ากลัวดีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...