ลางอาเพศ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 17 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    คอลัมน์ ขนหัวลุก

    ใบหนาด

    "ป้าลำจวน" เล่าเรื่องลางอาเพศน่าขนหัวลุก

    ตั้งแต่ปีใหม่มานี้ พวกเราชาวไทยมีเหตุให้ต้องอึดอัดขัดใจ สถานการณ์บ้านเมืองน่าหวั่นหวาด คนไทยมีอันต้องแตกแยกปั่นป่วน ไม่รู้ใครเป็นใคร ไม่รู้ใครคิดอะไร...ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร?

    ดิฉันคงไม่ต้องบรรยายซ้ำซากให้เสียเวลานะคะ คุณๆ ก็ทราบดีว่าขณะนี้เกิดเหตุอะไรขึ้นในบ้านเมืองเรา รวมถึงโลกทั้งใบ...มันจะอะไรกันนักหนา!

    ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปทางไหน ก็มักจะเจอคนบ่นพึมพำว่าทุกวันนี้โลกเป็นอะไร ทุกอย่างดูน่าวิตก ธรรมชาติวิปริตรุนแรง ผู้คนหงุดหงิดขุ่นมัว ทะเลาะกันทั่วหัวระแหง แต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นดูจะร้ายหนักขึ้นทุกๆ ทีแล้ว

    จะหยิบจะจับอะไรก็พาลก่อให้เกิดสถานการณ์เลวร้ายเสียทั้งหมด! จริงๆ นะคะ ลองคิดดูเถิด อะไรที่เราไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็เกิดให้เห็นขึ้นมาจะจะ! ดุเดือดเผ็ดร้อนยิ่งกว่าหนังฮอลลีวู้ดที่ได้รับรางวัลสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ยอดเยี่ยมซะอีกแน่ะ

    เรื่องมันเริ่มจากอะไรบ้างนะ? คุณลองลำดับดูซีคะ

    เรื่องแรกที่ทำให้ตะลึงจังงัง ก็คือการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า! โถ...เจ้าหญิงที่เราคิดว่าจะมีความสุขตลอดไปเหมือนในเทพนิยาย ชีวิตจริงของท่านน่าเศร้าใจจริงๆ เรื่องต่อมาก็ 11 กันยายน นั่งไงคะ ไนน์-วัน-วัน สะเทือนไปทั้งโลก

    ...และที่เหมือนโลกจะแตกจริงๆ ก็สึนามิถล่มเอเชีย! ใครจะคิดล่ะคะว่าประเทศไทยมีสึนามิ? ญี่ปุ่นเรียกพี่เลยละ! ปีกลายก็เกิดธรณีถล่มที่ปากีสถาน...และตราบเท่าทุกวันนี้ แผ่นดินไหวก็ยังสะท้านสะเทือนทั้งโลกาไม่เว้นวันก็ว่าได้

    บนแผ่นดินไทย รัฐบาลที่เราเชื่อมั่นว่ามีความมั่นคงสุดฤทธิ์ ก็เกิดสั่นคลอนเสียแล้ว จนป่านนี้ก็ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย?

    ดิฉันเขียนมานี่ก็เพราะรู้สึกประหลาดกับลางอาเพศหลายอย่าง เรื่องแรกเป็นความรู้สึกส่วนตัวของดิฉันเอง จะผิดถูกอย่างไรไม่ทราบ แต่อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ

    สิ่งแรกที่ดิฉันสังเกตก็คือ ในเดือนธันวาคม 2547 ตอนต้นเดือนนั้น เช้าวันหนึ่งดิฉันกำลังตากผ้า รู้สึกว่าแสงแดดมันสีส้มๆ มัวๆ คล้ายส่องลอดควันไฟลงมา พอเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ก็เห็นว่าเหนือขอบฟ้ารอบด้านมีแสงเรืองๆ สีส้มๆ เหลืองๆ และมีกลุ่มเมฆดำลอยเหมือนควันที่กำลังพวยพุ่ง มันคล้ายกับไฟไหม้พร้อมกันรอบๆ ทิศ

    ดิฉันคิดในใจว่า นี่หรือเปล่าที่คนโบราณท่านเรียกว่า "ธุมเพลิง" คือแสงในอากาศนั้นผิดธรรมดา เป็นลางว่าจะมีเรื่องร้าย ขณะนั้นดิฉันนึกไม่ออกว่าจะมีเหตุอะไร แต่อีกเพียงยี่สิบกว่าวันต่อมา คือวันที่ 26 ธันวาคม ตอนเช้าก็เกิดเหตุสึนามิ!

    ราวต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ขณะที่นั่งรถอยู่บนทางด่วน น้องชายของดิฉันขับรถอยู่ดีๆ ก็เอ่ยปากว่า เอ๊ะ...ควันอะไรลอยเต็มไปทั้งเมือง! ดิฉันเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านอยู่ แล้วก็เห็นว่าจริงอย่างที่น้องบอก ดิฉันคิดว่านั่นมันก็คือหมอกควันธรรมดานี่เอง แต่ลักษณะมันแปลก เห็นแล้วใจหายค่ะ

    แบบนี้หรือเปล่าที่โบราณท่านเรียกว่า "ธุมเกตุ" ซึ่งหมายถึงหมอกเป็นควัน เกิดขึ้นในอากาศอย่างผิดธรรมดา เป็นลางอาถรรพณ์ก่อนเกิดเหตุใหญ่กับบ้านเมือง

    ขณะที่ดูรายการข่าว วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่นี้ ก็มีผู้ชมส่ง SMS เข้ามาหลายครั้งว่า เดือนนี้มีลูกช้างล้มสองเชือก เป็นลางร้ายหรือเปล่า? น่ากลัวนะคะ ช้างคือสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ แล้วดูซิคะ! พลายเขาใหญ่ ลูกช้างหลงแม่ที่เจ้าหน้าที่ช่วยประคับประคองอยู่ตั้งนาน อยู่ดีๆ ก็ท้องอืดและล้มไปอย่างน่าสงสารที่สุดเลย

    จากนั้นก็มีแต่ข่าวเด็กตาย อย่างเด็กสองคนที่ถูกเสาทับ เด็กที่เคี้ยวเม็ดมะกล่ำตาหนู...ฟังแล้วใจคอไม่ดีอย่างแรง

    อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสังเกตคือวันที่ 5 หรือ 6 กุมภาพันธ์นี่ละ ดิฉันจำไม่ได้ว่าวันไหนแน่ รู้แต่หลังจากคืนชุมนุมม็อบต่อต้านรัฐบาล และเริ่มมีม็อบให้กำลังใจนายกฯ นั้น ในตอนพลบ สาวใช้ของดิฉันขยันมาก นึกยังไงไม่รู้ กวาดใบไม้มากองโตแล้วสุมไฟ

    ขณะเดียวกัน ดิฉันก็ต้องตกใจตาเหลือก เมื่อเห็นฝูงแมงเม่าเป็นพันเป็นหมื่นตัว เคลื่อนขบวนขึ้นมาเต็มหน้าต่างมุ้งลวด มันพยายามมุดเข้าบ้านจนหลุดเข้ามาตอมหลอดไฟได้ราวๆ สิบตัว ดิฉันรีบปิดไฟ ทำให้ฝูงแมงเม่าเปลี่ยนทิศ บินเข้าไปในกองไฟจนหมด! สยองจริงๆ

    ดิฉันถอยมานั่งอีกห้องหนึ่ง มือก็เปิดวิทยุฟังจส.100 ด้วยความเคยชินแล้วก็ต้องตัวชา เพราะประโยคแรกที่ได้ยินคือ สมาชิกผู้ฟังโทร.แจ้งว่ามีแมงเม่าบินกันให้เต็มเมือง ผู้ดำเนินรายการบอกว่า แมลงเม่าหรือแมงเม่ามักจะออกมาตอนฝนตก

    ดิฉันก็เชื่อเช่นนั้น แต่วันนั้นไม่มีฝนสักแปะนะคะ มันอาจจะเป็นลางอาถรรพณ์ที่บอกให้เรารู้นัยยะของอะไรสักอย่าง

    เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคะ! มนุษย์เราแต่โบราณทุกชนชาติมักจะเชื่อเรื่องโชคลาง คิดดูซิคะ กองทัพสมัยก่อนโน้น ก่อนจะเดินทัพได้ยังต้องดูเมฆ ดูลมหายใจ มองไปรอบๆ ตัวเพื่อเหลียวหน้าแลหลัง หาลางบอกเหตุ

    ท่านดูกันกระทั่งชื่อของสถานที่ที่ตั้งทัพ!

    ตัวอย่างลางดีเช่น มีฟ้าร้องเบื้องหลัง มีผึ้งบินถาไปข้างหน้า มีเมฆเคลื่อนทางข้างหลังเป็นรูปฉัตร ล้วนเป็นลางดี แต่ถ้าลางร้ายก็เช่น ช้างม้าตื่น ฝูงคนทะเลาะกัน เถียงกันวุ่นวาย ผู้คนจลาจล ช้างม้าสำรอกเป็นเลือด...ถ้าเป็นเช่นนี้ห้ามเคลื่อนทัพเด็ดขาด

    สัตว์ที่มาปรากฏให้เห็นในเวลาต่างๆ ก็เป็นลางได้ อย่าง นกยูง, นกเขา, แมงกระชอน, ผึ้ง, สุนัขป่า, สุนัขบ้าน, แมว, กระต่าย, จิ้งจก, แมงมุม, ตุ๊กแก, ปู, เต่า, แย้, กระรอก ฯลฯ ถ้ามาถูกเวลาก็ถือเป็นลางดี ถ้าผิดเวลาก็เป็นลางร้าย

    เล่ามาเท่านี้ แต่ที่จริงยังมีอีกนะคะ โอกาสหน้าดิฉันจะเขียนมาเล่า แต่ในระยะนี้ขอให้คุณๆ สังเกตดูลักษณะ ดิน ฟ้า อากาศ และลางต่างๆ ดูซิคะ อย่างน้อยก็เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจ และหลีกเลี่ยงไม่ทำสิ่งที่จะก่อให้เกิดเรื่องเลวร้ายหนักขึ้นไงคะ!
     

แชร์หน้านี้

Loading...