ร่วมเสวนา: คุณคิดว่า อากาศหนาวในไทยครานี้ 'ปกติ' หรือ 'ไม่ปกติ' ?

สวัสดีครับ ทุกท่านคงสัมผัสกันได้ทั่วประเทศนะครับว่า ช่วงใหญ่ๆที่ผ่านมานี้ มีอากาศที่หนาวเย็นลงมากทั่วประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ยาวนานกว่าทุกครั้งคราที่ผ่านๆมานะครับ

เเน่นอนว่าทุกคนก็ได้มีรอยยิ้มกันทั่วหล้าเมื่อลมหนาวสัมผัสผิว เราคนไทยทุกคนก็สูดหายใจเต็มปอดกันเป็นเฮือกใหญ่ ทว่า วันเเล้ววันเล่าที่ อากาศหนาวก็ยังคงอยู่กับเราครับ

เมื่อไปอ่านข่าวต่างประเทศ ก็ได้พบข้อมูลว่า เกิดจากความผิดปรกติของกระเเสลมเย็นที่ขั้วโลกเหนือ เเละ เกิด polar vortex หรือการดันเอามวลอากาศเย็นที่ขั้วโลก ให้ปูดพุ่งลงมาทางใต้ จนแม้ประเทศที่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างไทยเรายังรู้สึกถึงความเย็นถึงหนาวได้อย่างชัดเจนและยาวนาน

ผมในฐานะผู้สังเกตุเก็บข้อมูลสิ่งต่างๆรอบตัวเสมอ ผมเองอยากจะรู้ว่า ทชาวพลังจิตทุกท่าน คิดว่า ลมหนาว อากาศหนาว เเละ การหนาวเย็นยาวนานระรอกนี้ ตั้งเเต่ธันวาคม 2556- ตอนนี้ 2557 นั้น สำหรับท่านทั้งหลายเเล้ว mท่านคิดว่า.......

ปกติ หรือ ไม่ปกติ ?

ขอเชิญร่วมเเสดงความคิดเห็นในแบบของท่าน ยกเหตุผล ยกเมฆ ชักเเม่น้ำทั้งห้า และอันเชิญองค์ของนักวิทยาศาสตร์มาลง เเล้วเปิดเสวนากันเลยครับ.....

 

คิดว่า ผิดปกตินะครับ
ที่บ้าน (กำแพงเพชร) พ่อเคยบอกว่า เคยเจอต่ำสุด 12 องศา ปีนี้เจอ แถมหลายระลอกด้วย...

 

ขอบอกจากความรู้สึกก่อนนะครับ ว่ามันเป็นการเย็นลงอย่างไม่ปกติ
และถ้าจะถามเหตุผล ขอบอกว่าเมื่อพยายามคิดแบบองค์รวมให้เป็นระบบ
ยิ่งคิดยิ่งมึนครับ เพราะเหตุและปัจจัยที่เข้ามาประกอบกันมีมากมายเหลือเกินครับ
เลยต้องละวางเสียบ้าง เดี๋ยวจะเพี้ยนไปเสียก่อน ถ้าคิดออกเมื่อไหร่ หรืออาจเห็นแค่แสงสว่างแว๊บๆ อยู่ที่ปลายอุโมงค์บ้างก็จะเข้ามาร่วมอธิบายด้วยครับ

อ้อ.. ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของเจ้าหมูด้วยครับ และขออนุโมทนากับการที่เจ้าหมูได้แสดงสัจธรรมของชีวิตให้คุณ sunny 430 ได้เห็นครับ

 

สังเกตได้ความหนาวเย็นผิดปรกติ ที่คนกทม.ต้องระมัดระวังสุขภาพ เพราะมีความต่อเนื่องเป็นช่วงยาวผิดสังเกต หรือจะมีหิมะมาตกลง ดังลือเล่าโหรทำนาย น่าคิดแม้แองการ่า ยังทอดยาวเป็นแท่ง เกิดมีมหกรรมการปีนไต่น้ำตกแข็ง ที่จีนญี่ปุ่น เกิดเป็นกีฬาใหม่ที่ผุดฮิตขึ้นมาในศตวรรษ ขอทุกคนจงอย่าได้ประมาท เพราะทุกคนบนโลกนี้กำลังตั้งอยู่บนรอยร้าวฉานของธรรมชาติที่มีผลจากที่เราทำลายเขาก่อน โดนคืนบ้าง ก็ยุติธรรมดี และที่สำคัญทุกคนกำลังตั้งอยู่ในความร้าวฉานของการแก่งแย่งฉกชิงผลประโยชน์ของมหาอำนาจและกลุ่มทุนสามานย์ข้ามศตวรรษมากอบโกยทุกวิถีแม้จะไร้มนุษย์ธรรมก็ไม่ละเว้น ดังเช่นชาวนาไทยกำลังได้รับขณะนี้ สาธุขออย่าได้เกิดกับชาวนาอีกเลย สงสารเขา ด้วยใจจริง อย่าประมาท ขอให้ท่านติดตามข่าวสารอย่างผู้ไม่ประมาทกับท่าน Sunny430 และยินดีต้อนรับผู้เดือดร้อนจากทุกข์ภัยชาวไทยทั้งน้องพี่ สองร้อยกว่าไร่พอรับไว้ได้บ้างใต้ร่มยางพารา ที่ชาติตระการ สวัสดี ขอชาวไทยทุกคนโชคดีมีสุขครับผม

 

การเก็บ "สุริยธาตุ"


ในสมัยโบราณ พระสุริยเทพทีมหนึ่งมี ๑๐ องค์ หมุนเวียนกันดูแลพระอาทิตย์
ครั้งหนึ่ง "โหวอี้" ยิงพระสุริยเทพด้วยศร ทำให้โลกเย็นลงและเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง
จนเมื่อเกิดการสร้างพระสุริยเทพชุดใหม่ขึ้นมา โลกก็ได้รับความอบอุ่นที่พอดี


ครั้งนี้ มีการเก็บ "พระสุริยธาตุ" อันเป็นธาตุแก่นแท้ ที่ส่งผลต่อการทำกิจของ
พระอาทิตย์ (เหมือนธาตุน้ำ มีผลให้เกิดน้ำมากบนโลกได้) เมื่อพระสุริยธาตุ
ถูกเก็บ จะทำให้พลังอาทิตย์อ่อนลง และจะเกิดการสร้างพระอาทิตย์ใหม่แทน
ที่ชุดเก่า ที่เรียกว่า Golden sun ตามบทความของลัทธินิวเอจที่เผยแพร่ใน
อินเตอร์เน็ต ในช่วงที่มีการเก็บพระสุริยธาตุนั้นเอง โลกจึงคล้ายกับยุคน้ำแข็ง


เมื่อ Golden sun กำเนิดใหม่สมบูรณ์แล้วปัญหาต่างๆ จะจบลงในที่สุดครับ

 

คาดว่า Golden sun จะกำเนิดใหม่สมบูรณ์ได้ในปีหน้า (๒,๕๕๘) ครับ
ผลจากการกระทำนี้จะทำให้ เทพพระจันทร์ (ยิ่งลักษณ์) ต้องไปอยู่ที่อื่น

 

พระอาทิตย์ (สีแดง) โดนยิง?


คนเสื้อแดงบริวารของพระอาทิตย์ (สีแดง) จะค่อยๆ หมดไปได้เมื่อพระนารายณ์
แผลงศร (โหวอี้) ยิงพระอาิทิตย์ ที่ร้อนแรงเกินไป เพื่อปรับสมดุลให้แ่ก่โลกครับ
แต่เนื่องจาก พระอาทิตย์มีหลายองค์ก็ต้องค่อยๆ เก็บทีละองค์ (เก็บเข้านิพพาน)
พลังอำนาจของเหล่าคนเสื้อแดง ก็จะ่ค่อยๆ อ่อนลงไปเืรื่อยๆ ด้วย


แต่เพราะพระอาทิตย์เป็นเทพภาคสว่าง หากเราทำลายท่าน เราจะกลายเป็นภาค
มืดทันที คือ ต้องคำสาปไม่อาจไ้ด้ขึ้นสวรรค์ จะต้องวนเวียนอยู่กับโลกมนุษย์ ไป
ตลอดกาลเฉกเช่น โหวอี้ ฉะนั้น ดังนั้น เราจะไม่โง่ทำแบบนั้นใช่ไหมครับ? ก็เพื่อ
ให้พลังพระอาทิตย์ลดลง เราจึงเก็บ "พระสุริยธาตุ" เข้านิพพานแทน แค่นี้เราก็จะ
สว่างยิ่งกว่าพระอาทิตย์ (เพราะพระอาทิตย์ยังเข้านิพพานไม่ได้เลย เหอๆ) เราก็
จะไม่ต้องคำสาปดังเช่นโหวอี้ แต่จะสามารถช่วยปรับโลกให้เข้าสู่ความพอดีได้ละ


รอให้เจ้าแม่แห่งพระอาทิตย์ ให้กำเนิด Golden sun ใหม่ ทุกอย่างก็ Ok ครับ

 

นิทานโฮ่วอี้ยิงพระอาทิตย์


ในสมัยดึกดำบรรพ์ ในท้องฟ้ามีพระอาทิตย์ 10 ดวงอยู่พร้อมกัน แสงอาทิตย์ที่แรงกล้าได้เผาแผ่นดินจนเหี่ยวแห้ง พืชพันธ์ธัญญาหารล้วนเหี่ยวเฉาไปหมด มนุษย์รู้สึกร้อนจนหายใจไม่ออก ล้มลงสลบไสล เนื่องจากอากาศร้อนเกินไป สัตว์ร้ายต่างๆก็พากันออกจากป่าและแหล่งน้ำที่แห้งแล้งมาทำร้ายมนุษย์

หลังจากจักรพรรดิแห่งสวรรค์รับทราบภัยพิบัติของมนุษย์แล้ว จึงสั่งโฮ่วอี้เทพแห่งธนูจุติลงมาในโลกมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ โฮ่วอี้ได้เอาคันธนูสีแดงที่จักรพรรดิประทานให้และ ลูกธนูสีขาวถุงหนึ่งและฉางเอ๋อภรรยาผู้งดงามของเขาจุติมาในโลกมนุษย์

เมื่อถึงโลกมนุษย์ โฮ่วอี้ได้เกลี้ยกล่อมพระอาทิตย์สิบดวง ให้พวกเขาหมุนเวียนโคจรวันละดวง ถ้าทำเช่นนี้ได้ นอกจากจะส่งความอบอุ่นและแสงสว่างแก่มนุษย์ ขณะเดียวกันกจะไม่ทำให้โลกร้อนเกินไป แต่พระอาทิตย์ทั้งหลายไม่ยอมฟัง โฮ่วอี้โมโหจึงตกลงจะยิงพระอาทิตย์ให้ตก เขาจึงใช้ธนูสีแดงและลูกธนูสีขาวยิงใส่พระอาทิตย์ที่หยิ่งผยอง ไม่นาน พระอาทิตย์สิบดวงถูกยิงตกลง 9 ดวง เหลืออยู่เพียงดวงเดียว มนุษย์จึงอยู่เย็นเป็นสุขได้ และขอบคุณโฮ่วอี้ที่ช่วยเหลืออย่างมาก

ผลสำเร็จของโฮ่วอี้ถูกเทพยดาอื่นๆอิจฉา พวกเขาจึงทูลใส่ร้ายเขาแด่จักรพรรดิ ทำให้จักรพรรคิห่างเหินจากโฮ่วอี้ และในที่สุด พระจักรพรรดิจึงตกลงลดขั้นตำแหน่งของโฮ่วอี้และฉางเอ๋อภรรยาเขาให้อยู่แต่ในโลกมนุยษ์ ไม่ให้พวกเขากลับขึ้นสวรรค์อีก โฮ่วอี้กับฉางเอ๋อกล้ำกลืนกับความไม่เป็นธรรมจำเป็นต้องอาศัยในโลกมนุษย์ และดำรงชีวิตโดยพึ่งพาอาศัยการล่าสัตว์มาดำรงชีพจึงยากจนแร้นแค้นมาก

เมื่อกาลเวลาผ่านไป โฮ่วอี้เริ่มไม่สบายใจที่ทำให้ภรรยาต้องพลอยเดือดร้อน เขาได้ยินมาว่า ซีหวางหมู่พระแม่เจ้าทางแถบตะวันตกในภูเขาคุนหลุนมียาวิเศษ กินแล้วจะขึ้นสู่สวรรค์ได้ เขาจึงลุยน้ำข้ามเขา จนเหน็ดเหนื่อยแทบล้มประดาตาย เดินทางไปถึงภูเขาคุนหลุนเพื่อขอยาวิเศษจากพระแม่เจ้าตะวันตก แต่น่าเสียดายที่ พระแม่เจ้าตะวันตกมียาวิเศษเพียงพอสำหรับกินคนเดียว โฮ่วอี้ไม่ยอมละทิ้งภรรยาที่รักมากเพื่อขึ้นสวรรค์แต่คนเดียว และก็ไม่ยอมให้ภรรยาขึ้นสวรรค์และเหลือตัวคนเดียวอยู่โลกมนุษย์ต่อ เขาจึงเอายาวิเศษกลับบ้านและซ่อนไว้

แต่ฉางเอ๋อไม่ค่อยชินกับชีวิตยากจน เธอค้นหายาวิเศษจนพบและกินในขณะที่โฮ่วอี้ไม่อยู่บ้าน พอกินยาแล้ว เธอรู้สึกว่า ร่างกายเบาลงๆและค่อยๆลอยไปสู่ท้องฟ้า และลงที่ดวงจันทร์ และพำนักอยู่ที่วังกว่างหาน หลังจากโฮ่วอี้พบว่า ภรรยาได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าตามลำพังผู้เดียว จึงรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก แต่ก็ไม่ยอมยิงธนูทำร้ายภรรยา ได้แต่กล่าวอำลากับฉางเอ๋อ

ตอนนี้เหลือแต่โฮ่วอี้เพียงคนเดียว เขาได้อาศัยการล่าสัตว์เลี้ยงชีพต่อไป รับสมัครลูกศิษย์ และสอนวิธีการยิงธนู ในบรรดาลูกศิษย์ของเขามีคนหนึ่งชื่อว่าเผิงหมง มีความก้าวหน้ารวดเร็วมาก ไม่นาน ผีมือการยิงศรก็ดีขึ้นมาก แต่เขาเห็นว่า ถ้าโฮ่วอี้ยังมีชีวิตอยู่ เขามีวันจะได้เป็นผู้ยิงธนูอันดับหนึ่งของโลก จึงฉวยโอกาสยิงโฮ่วอี้ข้างหลังจนตายขณะที่โฮ่วอี้เมาเหล้า

แม้ว่า ฉางเอ๋อได้ขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์ ที่นั่นก็มีแต่กระต่ายน้อยคอยตำยาตัวหนึ่งกับผู้เฒ่าตัดฟืนคนหนึ่งเท่านั้น เธอได้คิดถึงเวลาที่ดีและความรู้สึกอันอบอุ่นในโลกมนุษย์สมัยอดีตเมื่ออยู่กับสามี จึงรู้สึกโดดเดี่ยวและเศร้าวังเวงเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้น เธอจึงได้แต่อยู่ในวังพระจันทร์ด้วยความกลัดกลุ้มไม่มีความสุข


China ABC----ตำนานพื้นเมืองและเทพนิยาย

 

ไม่ปกติแน่นอนคะ เพราะที่จ.ระนองจะมีแค่ 2 ฤดูเท่านั้น คือ ฤดูร้อนก้อบฤดูฝนคะ ข้นชื่อว่าเป็นเมือง ฝน 8 แดด 4 ... แต่นี้อะไร หนาวมา 2 เดือนแล้วคะ อากาศหนาวชนิดที่ต้องใส่ถุงเท้านอน ใส่เสื้อหนาวแขนยาวอย่างหนานอนกันเลยทีเดียว ....วิปริตไปแล้วอากาศเมืองไทย...

 

ที่สงขลา(สะเดา)อากาศเย็นค่อนข้างหนาวมานับเดือนแล้วครับโดยเฉพาะช่วงรุ่งสาง ตอนกลางวันแดดหลุบหลู่แถมมีลมกรรโชกเป็นระยะๆบางวันต้องควักเสื้อมาใส่ซ้อนทับสองสามตัวก็มี

 

เมื่อเช้า (23 ม.ค.) จ.กำแพงเพชร บ้านผมเย็นทะลุสถิติเก่า 10 องศาแล้วครับ....

 

ยังจำกันได้มั้ยครับ ว่าหมอดูพม่้า ทำนายเมืองไทยและทั่วโลกเอาไว้ว่าอย่างไร

จะมีอากาศหนาวจัด ร้อนจัด ฉับพลัน
(ถ้ายังไม่ถึงเดือนเมษา ก็ยังถือว่้าเป็นปีที่แล้วอยู่นะ แสดงว่าทำนายถูก)

 

“สมิทธ” แจงอากาศโลกแปรปรวน

วันที่ 24 ม.ค. 2014 เวลา 05:06 น.


นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการสภามูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อธิบายว่า สภาวะอากาศร้อนสะสม ทำให้น้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 27 องศาเซลเซียส ส่งผลให้อากาศบริเวณเส้นศูนย์สูตรยกตัวสูงขึ้น มวลอากาศเย็นจากขั้วโลกเหนือ จึงดันตัวลงมาแทนที่มากกว่าปกติ หลายประเทศใกล้ขั้วโลกเหนือ อุณหภูมิติดลบ 40-50 องศาเซลเซียส ถือว่าหนาวเย็นนานที่สุดในรอบ 20 ปี สำหรับประเทศไทย ต้องเจอกับอากาศหนาวที่ยาวนานกว่าทุกปีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณสุข รายงานว่า ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ถึง 19 มกราคมปีนี้ รวมประมาณ 3 เดือน มีคนหนาวตายแล้ว 63 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และผู้มีอายุน้อยที่สุด คือ ทารกวัย 1 เดือน.

“สมิทธ” แจงอากาศโลกแปรปรวน

 

อยู่กทม. แต่ก่อนซื้อมอสมาเลี้ยงก็ตายเพราะอากาศร้อน แต่เมื่อปี 2ปีมานี่ มอสขึ้นที่พื้นสวนเอง ไม่ต้องดูแลก็เขียวดี ปัจจัยอย่างอื่นเหมือนเดิม บ้านไม่ได้เปลี่ยน สวนไม่ได้เปลี่ยน แสดงว่าเพราะอากาศเปลี่ยน

 

คิดว่าหนาวนี้ไม่ปกติค่ะ แม่สามีอยู่เมืองSan Antonio บอกไม่เคยมีหิมะ
ปกติแค่หนาวเฉยๆ แต่ปีนี้หิมะลงด้วย

 

ไม่ปกติครับ

เมื่อก่อนที่ จ.เลย หนาววันสองวันก็ร้อนแล้ว แต่นี่กลับหนาวนานติดกันเป็นสัปดาห์ ๆ
และเขตพื้นราบอุณหภูมิอยู่ที่ ๕ - ๑๐ องศาติดต่อกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน
แล้วก็หนาวยะเยือกทั้งวันจริง ๆ แทบไม่อยากออกจากกองผ้าห่ม

 

ตอนเด็ก ๆเมื่อสักยี่สิบปีห้าที่แล้ว อากาศหนาวนานๆ แบบนี้แหละ หนาวควันออกปาก

 

นึกถึงคุณปู่คุณย่าขึ้นมาเลย จำได้ว่าพวกเราพากันนั่งรอบกองไฟตั้งแต่ก่อนอาทิตย์ขึ้น หนาวจนต้องผิงไฟ ขาลายเหมือนตุ๊กแก ควันออกปาก แต่หลานก็ได้ผลพลอยได้ คือ มันเผาและเผือกเผา หอมและอร่อยมาก

 

จะว่าปกติก็ปกตินะ (เพราะแม่บอกว่าเมื่อก่อน ในกทม. ก็หนาวอย่างนี้เหมือนกัน แต่เพราะอะไรไม่รู้ ทำให้หนาวไม่กี่วันก็ร้อนแล้ว) ส่วนในต่างจังหวัด ก็หนาวเย็นมากขึ้น

 

พวกมนุษย์ก็งี้แหละ หนาวก็ว่า ร้อนก็บ่น ฝนตกก็ด่า
แล้วจะเอายังงัยกันเนี่ย

หนาวก็ดีแล้ว ประหยัดค่าไฟมหาโหด