ร่วมทำบุญบูชา ถาวรมงคลสำเร็จขอกำลังมหาบูรพาจารย์(รับภาระทรงเรือจ้าง) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ใครมีกำลังพอให้เก็บไว้คู่ตัวนะ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากและเป็นชุดปิดตำนานนั่นคือไม่ทำแล้ว..แม้จะขอรึเอาทองมากองก็ไม่ทำเพราะมวลสารใส่ไปทั้งหมด ท่านว่าเป็นพระที่จะสร้างปัจจุบันและอนาคตไปพร้อมกับผู้ที่ได้ครอบครอง สำคัญมาก..มีเครื่องมงคลไม่กี่ชิ้นที่ท่านเชิญกำลังองค์พระแก้ว..ให้ทำเสมือนองค์พระแก้ว
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    แจ้งการส่ง ems

    พี่ฐิตกาญจน์ ED 4765 2261 2 TH

    พี่ศิระ ED 4765 2262 6 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ร่วมทำบุญบูชา ผนึกน้ำมันเทพอสูรกาณะเข้าวิชาพระเจ้าแบ่งฤทธี(มงคลสะกดโลกชนส่วนน้อย)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนนั้นมีดีมีร้ายต่างกันแต่ในที่สุดก็วัดกันที่ใครจะเอาตัวรอดได้หรืออยู่ไม่รอดเท่านั้น ต่างกันตรงนี้
    1. อยู่รอดตั้งแต่ต้นจนจบ
    2. อยู่ไม่รอดในท่ามกลาง
    3. อยู่ไม่รอดในท้ายที่สุด
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ค่าของคนนั้นก็วัดกันตรงนี้ว่าตลอดชีวิตนั้นจะไปได้แบบสวยๆ..และจบลงแบบสวยๆรึเปล่า รึจะไปได้แบบสวยๆและจบลงแบบไม่น่าดูตลอดจนแค่เริ่มก็จบไม่สวยเสียแล้วก็มี พ่ออาจารย์ท่านว่าจบลงสวยๆนี่ไม่ใช่ตายนะแต่มันขึ้นอยู่กับความพอใจและสมใจอยากในชีวิตของเราว่าเราตั้งความหวังเป็นอย่างไรเดินไปทางไหนแล้วผลมันออกมามากน้อยแค่ไหน คนที่เอาตัวรอดไปตลอดรอดฝั่งได้นั้นมีน้อยนักหนาถ้าจะบอกว่าไม่ถึง 1%...เท่านั้นก็ย่อมได้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่ามงคลชนส่วนน้อยเพราะเป็นส่วนยอดสุด..ที่มีน้อยที่สุดในโลกนั่นเองแบบนี้ท่านถึงตั้งใจทำเครื่องมงคลนี้เพื่อให้ผู้ใช้เอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์และหวังผลให้ชีวิตผู้บูชา..ไปได้สุด...และจบได้สวยทุกเรื่อง

    ที่สุดแห่งการเอาชีวิตรอดและจบแบบสวยงามสูงสุด...คือผนึกเทพอสูรกาณะ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นของเก่าของโบราณที่นำออกมาด้วยเครื่องรางบางอย่างสมัยนี้คิดจะสร้างก็หมดสิทธิ์ไปแล้วทำได้แค่คิดแต่เรายังดีที่ครูบาอาจารย์ยุคเก่าท่านสืบทอดกันลงมานับสิบนับร้อยปีพอได้ทำวิชาไว้บ้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพอสูรณกาณะนี้เป็นที่สุดแห่งขุมพลังของการเอาชีวิตรอดไม่มีสิ่งใดเหนือไปกว่านี้และการแสวงหามวลสารมาทำอีกก็ทำได้ยากยิ่งท่านตั้งใจให้เอาไปใช้เพื่อเป้าหมายใหญ่คือ *** ให้คนใช้เขาเอาชีวิตได้รอดและจบสวยในทุกเรื่อง เพราะกาณะนี่เก่งทางเอาชีวิตรอดได้และผ่านมาทั้งหมดไม่มีอุปสรรคศัตรูใดจะหยุดได้

    เทพอสูรกาณะก็คือวิชาเสือสมิงอย่างนึงหากแต่ต้องใช้สังขารของสมิงในหมวด "กาณะ" ซึ่งหาได้ยากที่สุดมาทำ พ่ออาจารย์ท่านว่ากาณะก็คือสมิงตาบอดที่มีตาอยู่ข้างเดียวแต่กลับแกร่งกล้าในการใช้ชีวิตทุกรูปแบบเผชิญมาได้ทุกสถานการณ์ไม่ถูกล่าไม่ตายด้วยน้ำมือของมนุษย์..เรียกว่าสมิงเฒ่ากาณะอันเป็นตำนาน 1 ไม่มี 2 ก็ได้ ซึ่งการสร้างเครื่องรางกาณะนั้นทำได้ยากมากเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่า
    1.ต้องใช้กาณะจริงมาทำ ซึ่งสมัยนี้มันหมดไปแล้ว
    2.ต้องทำให้ผู้ใช้เอาตัวรอดและจบสวยได้จริงในทุกสถานการณ์เช่น..กาณะ
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เทพอสูรกาณะนี่แกร่งกล้าและเชี่ยวชาญในการใช้ชีวิตอยู่เหนือห่วงโซ่อาหารมากๆไม่เป็นรองผู้ใดเลย ที่ว่าสมิงหายากแล้วสมิงเฒ่ากาณะที่ผ่านชีวิตมาโชกโชนและทิ้งร่างสังขารจบลงแบบสวยๆยิ่งหายากกว่านับร้อยเท่า

    เทพอสูรกาณะเป็นวิชาที่ว่าด้วย "ยอด" ทั้งสิบ
    1.คือยอดในการเอาชีวิตรอด
    2.คือยอดในการใช้ชีวิตง่าย
    3.คือยอดในห่วงโซ่อาหารทั้งหมด
    4.คือยอดในการดึงดูดโชคชะตาของเผ่าพันธ์
    5.คือยอดในการหลบหลีกปัญหา
    6.คือยอดในการสร้างรากฐานสั่งสมอำนาจ
    7.คือยอดในการล่าเหยื่อ
    8.คือยอดในการปีนขึ้นสู่จุดสูงสุด
    9.คือยอดในการปราบ,ข่ม,สยบเผ่าพันธ์ทั้งหลาย
    10.คือยอดในการจบเหตุแห่งความโกลาหล
    พ่ออาจารย์ท่านว่ากาณะนี่คือ
    ยอดแห่งการเอาตัวรอดแล้วยังไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดของสมิงได้เรียกว่าเป็นเทพสมิงกาณะ อย่าลืมว่าสมิงกาณะนั้นมีตาข้างเดียว(บอดไปหนึ่งข้าง)แต่ความสามารถทุกอย่างกลับทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปมากขึ้นกว่าปกติหลายเท่าตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอาถรรพ์สูงสุดการทดแทนสิ่งที่หายไปจากชีวิตเราและเรื่องการเอาชีวิตรอดและจบได้สวยหากนำมาทำเป็นเครื่องรางไว้ซักครั้งซักคราวหนึ่งผู้อาราธนาย่อมได้คุณสมบัติทั้ง 10 แห่งกาณะมาไว้เป็นคุณสมบัติส่วนตัว พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละชีวิตเธอมันจะเปลี่ยนไปตั้งแต่เบื้องต้นคือปัจจุบันวันนี้..ไปจนถึงท่ามกลาง..ไปจนถึงที่สุด ด้วยคุณสมบัติแห่งกาณะทั้งสิบทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป

    -ให้เธอเอาชีวิตรอดได้ทุกสถานการณ์
    -ให้เธอใช้ชีวิตง่ายในทุกรูปแบบ
    -ให้เธอไปถึงยอดของห่วงโซ่อาหาร
    -ให้เธอดึงดูดโชคชะตาขอเผ่าพันธ์มาเสริมบารมี
    -ให้เธอสามารถหลบหลีกปัญหาพ้นเนื้อพ้นตัว
    -ให้เธอสร้างรากฐานสั่งสมอำนาจได้มั่นคง
    -ให้เธอได้ในสิ่งที่เธออยากจะล่า
    -ให้เธอปีนขึ้นสู่จุดหมายแต่ละเรื่องได้สะดวก
    -ให้เธอปราบ,ข่ม,สยบชนทั้งหลายได้ทั่วไป
    -ให้เธอยุติเหตุแห่งความโกลาหลได้ทุกรูปแบบ
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    อาถรรพ์ทั้ง 10 นี้คือการเปลี่ยนชีวิตเธอไปในอีกหลายแง่มุม โดยปกติพ่ออาจารย์ท่านไม่เคยออกเครื่องมลคลกาณะเลยด้วยเหตุผลว่าจะทำเพียงวิชามันก็ไปได้ไม่สุด หากทำต้องใช้มวลสารจริงๆซึ่งหาได้ยากอย่างยิ่งมาทำ เช่นนี้ท่านจึงตัดสินใจทำไว้ให้ครั้งหนึ่ง..ไม่ใช่เพื่อให้คนบูชาได้ใช้ชีวิตง่ายผ่านๆไปทีละเรื่องเท่านั้น...หากแต่เพื่อจุดหมายสูงสุดคือการเอาชีวิตรอดและจบสวยในทุกเรื่อง

    ท่านว่านั่นแหละวิชาพญากาณะยากตรงหามวลสารมาใช้..แต่หากหาได้ทำจบแล้วชีวิตคนใช้นี่จะเปลี่ยนไปในหลายแง่มุมทันทีเรียกว่า..
    1.จากคนเอาตัวไม่รอด
    2.จากคนได้ครึ่งๆกลางๆ
    3.จากคนหัวบอดหางกุด
    4.จากคนไปไม่ถึงฝั่ง
    4.จากคนท่าดีทีเหลว
    5.จากคนเริ่มสวยจบเน่า
    ...ท่านว่าต่างๆเหล่านี้มันจะกลายเป็นคนเอาตัวรอดเก่งจบได้สวยทุกเรื่องไปทั้งหมด
    ทั้งอาถรรพ์แห่งกาณะยังปรับแต่งชีวิตเขาจนไม่เหลือเค้าความพินาศให้ลามปามได้อีกเลย...แต่การเอาวิชากาณะมาใช้พ่ออาจารย์ท่านว่า ### เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลสูงสุด เราจึงทำพร้อมไปกับวิชาพระเจ้าแบ่งบารมี

    วิชาพระเจ้าแบ่งบารมี
    วิชานี้ส่วนนี้ตรงนี้สำคัญมากเพราะ...
    - คนที่ขาด
    - คนที่พร่อง
    - คนที่แหว่ง
    - คนที่หาย
    - คนที่ไม่มี

    ..คนเหล่านี้บางคนวาสนาเขารับไม่ได้ เสริมอะไรเข้าไปมันรับได้เล็กน้อยหรือรับไม่ได้เลยก็มาก ท่านว่าอาถรรพ์ของพระเจ้าแบ่งบารมีนั้นแก้เรื่องนี้ได้โดยตรงมันทำให้คนที่ขาดเรื่องไหนหายเรื่องอะไรไปขาดตกบกพร่องตรงไหนเหล่านี้สามารถรับเข้าไปปรับเปลี่ยนชีวิตเขาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระเจ้าแบ่งบารมีนี่สำคัญมาก..เรียกว่าวิชาภาคโปรดได้อย่างแท้จริงเพราะเป็นวิชาที่ท่านเอาไว้ใช้ยามโปรดคนตกทุกข์ได้ยากในกรณีที่หินสุดๆ..คือช่วยไปก็รับไม่ได้ในทุกเรื่อง

    ตรงนี้จะทำให้เขารับได้ทุกเรื่อง..อันนี้พูดถึงในกรณีที่หินที่แย่ที่สุดแล้วนะ หากเป็นคนปกติพ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ก็โปรดได้หมดเช่นกันเรียกว่าสำคัญมาก
    1. แบ่งนี้คือมอบให้ถาวร..ให้แล้วให้เลย
    2. แบ่งนี้คือแบ่งสิ่งที่เหนื่อยหนักหนา..ให้เบาให้คลายลง
    3. แบ่งนี้คือแบ่งเข้าไปทดแทน..ในสัดในส่วนที่ขาดที่หาย
    4. แบ่งนี้คือแบ่งเพื่อให้พ้นไป..จากกองทุกข์เดิม
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระเจ้าแบ่งบารมีนี้เราไม่ได้ทำบ่อย ส่วนมากจะใช้ยามโปรดเพราะต้องอาราธนาบารมีคุณพระทั้งหมดมาสงเคราะห์พร้อมกันเพื่อโปรดและเปลี่ยนกายภาพให้ไปสู่อุดมคติ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่ความสุขเป็นที่ไปทั้งสิ้น

    *** อันว่าตัวเรา..พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออาราธนาส่วนของเครื่องมงคลในหมวดพระเจ้าแบ่งบารมีแล้วเราก็จะมีหน้าที่เป็นผู้รับ ท่านว่ามีแต่รับการโปรดอย่างเดียวแบบนี้เขาเรียกว่ามีแต่ได้ไม่มีเสีย ตัวเราก็จะเป็นผู้รับการโปรดได้รับการสงเคราะห์เสมอยามสิ่งไหนขาดไปพร่องไป แม้เป็นคนที่มีลักษณะไม่สามารถรับการสงเคราะห์หรือถูกเติมเต็มได้...จากการขัดขวางของปัจจัยต่างๆ ก็จะได้รับการสงเคราะห์และเติมเต็มในสิ่งที่ขาดตกบกพร่องไปเพราะวิชาพระเจ้าแบ่งบารมี

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระเจ้าแบ่งบารมีนี้เอามาใช้กับเทพอสูรกาณะก็เพื่อจะควบรวมและกำหนดทิศทางให้อาถรรพ์พญากาณะนี้เข้ามาโปรดเข้ามาหนุนส่งเสริมเข้าที่ตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่คุณไม่มีโทษเลยด้วยตั้งใจทำไว้เป็นเครื่องรางที่สุดแห่งยุคเธอจะได้เอาชีวิตรอดไปได้ในทุกยุคทุกสมัยและมีจุดจบอันงดงามในทุกๆเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าในขวดแก้วนี้จะบรรจุไว้ด้วยของสำคัญของพญากาณะ คือ
    1.เนื้อหนังเส้นขนพญากาณะ มีอาถรรพ์มากพ่ออาจารย์ท่านว่าภูติผีปีศาจแม้กระทั่งเทวดาเกเรไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย ทั้งยังเป็นอาถรรพ์ทางสะท้อนคุณไสยมนต์ดำอวิชชาด้วยตรงนี้สำคัญมากพ่ออาจารย์ท่านว่าพกติดตัวไว้ใครทำอะไรอุบาทว์ต่ำเช้ามาย้อนคืนหมด..แม้ของนั้นจะมีเหตุปัจจัยพัวพันหลายประการเกินที่อำนาจเบี้ยแก้หรือตะกรุดที่ลงคุณวิชาไว้จะแก้ไขได้ท่านว่านี่แหละ..แม้เพียงเส้นขนพญากาณะก็ใช้ได้แล้ว

    2. ผงกระดูกพญากาณะ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากใช้แก้ทางคุณผี,คุณมนต์,คุณไสย,ยาสั่ง,ของอาถรรพ์,ของดำ,ของฝ่ายต่ำทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงกระดูกนี้ใช้แก้ไขเรื่องราวความตกต่ำในชีวิตได้ทุกประการอะไรที่เคยต่กเคยล้มเหลวมันจะกลับไปสู่จุดสูงสุด

    3. นัยน์ตาแก้วพญากาณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าคตลูกตาหินนี้มีค่ามากที่สุด..ท่านยอมเอามาทุบบรรจุไว้เพื่อเป็นอาถรรพ์แก่เครื่องมงคลชุดนี้ ด้วยท่านว่าพญากาณะจ้องสิ่งใดไม่มีทางหลุดพ้นรอดไปจากสายตา..อุปมาว่าตัวเราเมื่อหมายตาหมายใจจะเอา,จะทำสิ่งใดแล้วย่อมได้รับสมใจไม่นอกเหนือความตั้งใจไปได้เลย จับตาสิ่งใดเล็งสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น..จริงๆพ่ออาจารย์ท่านว่าจุดนี้สำคัญที่สุดเพราะทั้งตบะและอำนาจของราชาเจ้าป่าเจ้าพิภพมันแสดงออกผ่านจุดนี้เพียงจุดเดียว(ที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านจะเลี่ยงส่วนนี้เพราะเป้นยอดของอาถรรพ์)

    4. ปั้นเหน่งพญากานะ อีกหนึ่งจุดรวบรวมควบแน่นอาถรรพ์ตบะบารมีทั้งหมดเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากในการที่เราจะทำอะไรซึ่งเราขาดหรือบารมีแต่เดิมเราไม่เปิดไม่รองรับในเรื่องต่างๆอย่าลืมนะว่าพญากาณะเขาเป็นเจ้าเป้นผู้ปราบป่าปราบคน นั่นคือบารมีเขาสงเคราะห์เราได้ทั้งหมด

    5. คมฟันพญากาณะ
    ด้วยกฤติยาคมว่าไม่มีสิ่งใดที่ฟันพญากาณะฉีกกระชากออกมาไม่ได้ ท่านว่าแม้สิ่งนั้นจะโดนปิดกั้นขัดขวางอย่างไรตัวเราย่อมเอามาได้ไม่คลาดแคล้วเลยมีอาถรรพ์ทำลายอาถรรพ์ฝ่ายตรงข้ามได้ทุกกรณี...พ่ออาจารย์ท่านว่าเกิดเราไปเจอคนที่เขาเล่นของทำของนี่แหละอาถรรพ์ฟันพญากาณะจะเข้าทำลายเขาได้ไม่ให้อาถรรพ์นั้นมาเป้นผลกับตัวเรา

    6. ชิ้นส่วนเขี้ยวพญากาณะ คนจะเข้าใจว่าเขี้ยวนี้สำคัญที่สุดแต่สำหรับพ่ออาจารย์ท่านเขี้ยวก็ยังเป็นรองดวงตาแต่ท่านว่าอาถรรพ์ของเขี้ยวนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกันเพราะใช้เปิดทาง,เบิกไพร,เปิดปัญหาอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปได้ เรียกว่าเปลี่ยนชีวิตคนที่ตกยากลำบากลำบนให้มีชีวิตง่ายขึ้นได้ทันตาเห็น ท่านว่าจะใช้ชีวิตได้ง่ายจนไม่น่าเชื่อทีเดียว

    7. ลิ้นพญากาณะ ตรงนี้ก็สำคัญมากเพราะลิ้นนั้นใช้เปิดแผลทั้งเสพย์ทั้งกลืนกินพ่ออาจารย์ท่านว่าอยากกินอะไร(คือต้องการอะไร)ต้องได้กินได้สมความต้องการสิ่งที่ขัดข้องจะได้รับการแก้ไขได้ง่ายขึ้น เรื่องที่เป็นไปไม่ได้,จุดที่เราเข้าถึงไม่ได้,ฐานะที่เป็นไปไม่ได้,ความสำเร็จที่เป็นไปได้ยาก...ต่างๆเหล่านี้มันจะส่งเราเข้าไปยืนอยู่ในจุดนั้นได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

    8. น้ำมันพญากาณะ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละอาถรรพ์ที่สุดเพราะทุกส่วนของพญากาณะทั้งตัวจบลงที่จุดนี้เป็นดั่งร่างและจิตวิญญาณพญากาณะที่ส่งต่อสืบทอดมา พ่ออาจารย์ท่านว่าก็สุดแล้วแต่จะใช้ ด้วยพญากาณะนี้ครูบาอาจารย์ทุกรุ่นสืบมาถึงเราได้ตั้งใจแผ่กุศลอุทิศบุญให้ตลอดเวลาจนพ้นชาติสัตว์เดรัจฉานไปแล้วท่านจึงเรียกของท่านว่าเป็นเทพอสูร

    9. ผงปั้นวิชาพระเจ้าแบ่งบารมีเข้ากับวิชาพญาสมิงทุกวิชา พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือที่สุดแล้วเพราะเราเอาผงวิชาสมิงทุกวิชาของเราลบใส่ไปด้วยทั้งสมิงตระเวณไพร,สมิงตระเวณเมือง,สมิงสะกดป่า,สมิงล่าเหลื่อ,สมิงเสพย์เหยื่อ,สมิงเฝ้าถ้ำทอง,สมิงนอนกิน,สมิงหางด้วน,สมิงโผนทะยาน,สมิงแว้งกลับ,สมิงสะกดไพร...พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาสมิงของเราคุมไว้เป็นอาการสมิงทุกอย่างให้คุณทุกด้านมีกำลังวิชาพระเจ้าแบ่งบารมีชักนำ สุดแล้วแต่สถานการณืชีวิตเธอจะไปเจออะไรก็อาราธนาใช้ได้เลย

    ผนึกเทพอสูรกาณะนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำเลยว่าตัวอื่นอย่างไรไม่รู้แต่ตัวนี้ ห้าม...
    1.ไม่ต้องใช้ของสดเซ่นไหว้
    2.ไม่ต้องใช้เนื้อสดเซ่นไหว้
    3.ไม่ต้องใช้เลือดสดเซ่นไหว้
    ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เขาพ้นชาติเดรัจฉานไปแล้วเป็นเทพอสูรจริงๆแค่พกก็เต็มที่แล้วหากจะบนจะขออะไรกลิ่นธูปควันเทียนเท่านั้นก็พอ...ยามสุขสมหวังอะไรกันก็ชวนกันไปทำบุญอุทิศแก่เขาเพียงเท่านี้ *** ของสดทุกรูปแบบไม่ต้องเอามาไหว้ไม่ต้องตั้งมาเซ่น

    คาถาบูชา
    มอบให้เฉพาะผู้อาราธนา

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ในขวดน้ำมันนี้พ่ออาจารย์ท่านลงผนึกไว้เป็นอย่างดีคือป้ายกาวปิดผนึกไปเลยท่านว่าแค่พกก็เพียงพอแล้วหากเอาออกมาโดนเนื้อโดนตัวจริงๆก็ไม่เป็นอันตรายแต่เสียดายมวลสารต่างๆที่มันจะหล่นจะหายไปในอนาคต

    ร่วมทำบุญบูชา ผนึกน้ำมันเทพอสูรกาณะเข้าวิชาพระเจ้าแบ่งฤทธี(มงคลสะกดโลกชนส่วนน้อย) บูชา 4,000 บาท
    f09626f6-e69a-491d-875e-1ea050e83399.jpg
    c83bd20c-4124-4166-a0fe-00853f234762.jpg
    tiger-eye-problem02-cornea.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    - ของที่หาได้ยาก
    - ของที่เห็นได้ยาก
    - ของที่เอาได้ยาก
    พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันรวบรวมให้หมดแล้ว ..แต่นั่นแหละพญากาณะเขาจะเลือกมิตรสหายของเขาเอง
    ชาติเสือเจ้าไม่คบหาสหายต่ำศักดิ์กว่าตน
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ผนึกน้ำมันใครจองทันโชคดีไปเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นลักษณะเฉพาะอันหาได้ยาก พญากาณะใจดีมากๆ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลกาลผู้ไม่รู้ไม่เห็น(รู้แทนวาสนาบุญหล่นทับบารมีสัมพันธ์ใจ)

    "ผู้ไม่รู้".....แต่พยายามแล้วอย่างดีที่สุด
    พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลที่ไม่รู้เหตุเหมือนตาบอดคลำทางย่อมแสวงหาการแก้ไขไม่เจอต้องทำสักร้อยสักพันเรื่องเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานะติดขัดต่างๆ ซึ่งบางเรื่องชัดเจนก็ดี,บางเรื่องไม่ชัดเจนก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้นี่น่าเห็นใจมากเพราะต้องเสียเวลาแก้ไขเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ องค์ปฐมท่านว่าความไม่รู้นี่น่ากลัวนัก..จึงให้พ่ออาจารย์ท่านทำมงคลกาลผู้ไม่รู้ขึ้นเพื่อแก้ไขในผลที่ไม่ทราบเหตุทั้งหลาย

    1.ไม่รู้เหตุเกิดจากอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าบางเรื่องที่เสียหายนั้นความเป็นไปได้ย่อมมีมากมายแม้สาเหตุเกิดจากอะไรก็ไม่สามารถเข้าใจได้จะกรรมเก่า,โดนกระทำ,มิตรทรยศ,หรือผิดที่ตัวเรา..ต่างๆเหล่านี้เมื่อไม่ทราบสาเหตุก็เหมือนตาบอดคลำทางแก้ไขอย่างไรก็แก้ไม่ถูก

    2.ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์แบบนี้ย่อมเกิดในทามกลางเมื่อเกิดแล้วย่อมมีทั้งต้นทั้งปลาย เมื่อไรู้จะแก้ไขอย่างไรต้นก็เสียหายปลายก็ย่อยยับเป็นสถานการณ์ที่ดำเนินต่อไปไม่ได้เลยเพราะเห็นแต่ผลเสียไม่มีผลดีทั้งนั้น

    3.ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าบางครั้งจุดเล็กในชีวิตมันก็ขยายลุกลามเหมือนฟืนติดไฟกระพือไปแบบที่ตัวเรายังไม่ทราบสาเหตุ เมื่อไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหนจะดับไฟกองเล็กๆนั้นก็ทำไม่ทันเช่นนั้นจึงพาลให้ลุกลามไปอีกหลายๆเรื่อง

    4.ไม่รู้ว่ามันผิดตั้งแต่เมื่อใด พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนบางเรื่องนี่ก็ไม่ได้รู้ตัวว่าผิดแต่ยังทำต่อไปพอมารู้ตัวมันก็สายไปแล้วทั้งหมด นั่นคือไม่รู้ตัวว่าผิดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ทำให้สถานการณ์ของชีวิตยากจะแก้..ท่านว่านี่สำคัญมากนะ เพราะเรื่องที่แก้ไขได้กับเรื่องที่ยากจะแก้ไม่เหมือนกันหากยากจะแก้แล้วปล่อยเลยตามเลยยิ่งทำให้ชีวิตสึกหรอลงไปเรื่อยๆ

    5.ไม่รู้ว่าจะทำหรือดำเนินการต่ออย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจับต้นชนปลายชีวิตไม่ถูกจะต่อทางไหนจะแก้อย่างไรมันก็มืดแปดด้านทั้งหมด พอมาถึงจุดนี้ก็ยอมรับสภาพบ้างลอยตัวเหนือปัญหาบ้าง หรือไปพึ่งอบายมุขที่ผิดบ้างเพื่อให้ลืมแต่ปัญหานั้นไม่ได้ลดลงเลย

    6.ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้มากสักเท่าใด พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกคนย่อมมีขีดจำกัดเมื่อไม่รู้ว่าจะทนต่อได้อีกเท่าใดจะไปได้ไกลแค่ไหนท่านจึงเรียกว่าสถานการณ์ที่ใกล้แตกสลายมากเต็มที เพราะประเมินศักยภาพตัวเองผิดและทำไปด้วยความจำเป็นบวกกับแรงใจมุมานะเท่านั้น

    7.ไม่รู้ว่าดวงจะมาตอนไหน พ่ออาจารยย์ท่านว่าบางคนก็พยุงชีวิตเพื่อรอดวงชะตารอให้ชีวิตตัวถึงขาขึ้นแต่ระหว่างรอนั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องทนและต้องเจอกับอะไรบ้าง และดวงที่ว่าจะมาตอนไหนหรือมาสั้นยาวอย่างไรจะมาหรือไม่และท้ายสุดอาจจะไม่มาเลย

    8.ไม่รู้ว่าจะกู้คืนกลับมาได้แค่ไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์เช่นนี้คือความสูญเสียยิ่งเสียเวลาแก้ไขไปกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียเพื่อกอบกู้คืนมาเล็กน้อยแต่ต้องจ่ายมากเช่นนี้จึงเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้ว่าเสียหายมากกว่าแต่ก็ต้องทนทำต่อไป

    ....พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มงคลผู้ไม่รู้นี้จริงๆครอบคลุมสาเหตุความฉิบหายทั้งปวง เพื่อแก้ไขอาการที่จะนำไปหาความวิบัตินำไปสู่ความพินาศทั้งเหตุที่แก้ไขไม่หาย..เหตุที่แก้ได้ไม่จบ..เหตุที่ไม่รู้จะแก้ที่ตรงไหน..เหตุที่ไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อใด..เหตุที่ไม่รู้ขีดจำกัดตนเองต่างๆ

    **** พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกวิชานี้สั้นๆว่า"ผู้ไม่รู้"..แต่จริงๆแล้วจะเรียกว่าผู้ไม่รู้ไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวงนั่นคือความวิบัติต่างๆไม่สามารถสัมผัสโดนเนื้อตัวได้
    - เป็นวิชาที่ไม่เปิดรับ..คือพาให้ชีวิตเราไม่เปิดรับความทุกข์,ความวิบัติฉิบหายทุกประการ
    - เป็นวิชาที่รู้จบ..คือพาให้ปัญหาทุกอย่างรู้จบได้ แยกออกจากวงจรปัญหาวนเวียนไม่รู้จบ
    - เป็นวิชาที่ไม่นำเรื่อง..คือพาให้ชีวิตไม่เจอไม่ต้องไปรู้เรื่องข้องเกี่ยวกับความตกต่ำทั้งปวง
    - เป็นวิชาของผู้ไม่รู้ตัว..คือพาให้เหตุทั้งหลายที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันคาดไม่ถึงสูญไปตั้งแต่ต้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่ของสามัญทั้งการผสมว่านยาและลบผงอักขระพระยันต์ทั้งปวงที่องค์ปฐมท่านกำหนดให้ทำจะเรียกว่าเป็นเครื่องมงคลที่ตั้งใจสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่รู้เรื่องทั้งปวงก็ได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหากใช้สติพิจารณาแล้วยังมองไม่เห็นก็อนุโลมว่าเรื่องทั้งหลายนั้นมีเหตุปัจจัยแทรกซ้อนขึ้นมา
    - ทั้งเวรกรรมบังตา
    - ทั้งเจ้ากรรมนายเวรบังตา
    - ทั้งอบายมุขบังตา
    - ทั้งดวงชะตาพาให้เป็นไป

    ยังไม่รวมการกลั่นแกล้งของสิ่งที่เรียกว่า"คน",การเอาเปรียบของสิ่งที่เรียกว่าชนชั้น,การใช้เราเพื่อหาผลประโยชน์ของบุคคลอื่น,การกระทำด้วยคุณไสย,ภูติผีฝ่ายต่ำทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียกรวมๆไปเลยคือ 108 สาเหตุความตกต่ำทุกประการหากรวมแล้วได้คำว่าผู้ไม่รู้..ย่อมแก้ไขได้

    "มงคลกาลผู้ไม่รู้" พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่ต้องทำผงวิชาลบถมถึง 84,000 รอบขึ้นมาโดยเฉพาะทั้งตะกรุดที่ฝังก็เป็นวิชาเฉพาะต้องใช้คู่กันสถาปนาเป็นมงคลกาลผู้ไม่รู้จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เลยโดยเครื่องมงคลนี้จะสงเคราะห์ให้ผลทั้งต่อตัวเองไปพร้อมกับบริวารญาติมิตรสหายของเรา
    - เพราะความเสียมีทั้งเกิดแก่ตัวเรา
    - เพราะความเสียหายมีทั้งแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
    เช่นนั้นมงคลกาลผู้ไม่รู้จึงต่างจากเครื่องมงคลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่า
    หากจะแก้ไขความตกต่ำได้เด็ดขาดเสร็จสิ้นไม่เหลือเชื้อไฟให้ไหม้ลามต่อ ย่อมต้องจัดการได้ทั้งในระดับเฉพาะจุดและผลที่กระทบเป็นลูกโซ่ขยายความเดือดร้อนออกไปในวงกว้าง เพราะหากส่งผลเฉพาะแก่เราพอครบวงจรปัญหาลูกโซ่มันก็พันมัดเราให้เดือดร้อนอยู่ดี พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลกาลผู้ไม่รู้นี้จึงเน้นสงเคราะห์แบบแก้ทั้งภาพรวมโดยให้ความสำคัญที่ตัวเราเป็นศูนย์กลางทั้งหมด เรียกว่าแม้ในเรื่องที่เราไม่รู้..แม้ในเรื่องที่เราไม่เห็น..แม้ในเรื่องที่เราพึ่งตัวเองไม่ได้จะพาให้เราเอาตัวออกจากปัญหาทั้งปวงได้แบบไร้มลทิน

    ผงบารมีสัมพันธ์ใจ
    คนเรามีใจเป็นใหญ่จะแก้ไขอะไรให้ใช้ใจเป็นสื่อเช่นนี้คาถาใดก็ไม่ต้องอาราธนาให้เสียเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำยากมีความสำคัญมากเพราะมันจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ง่าย..ได้ตรง..ได้ถูกปัญหา..ได้ทันเวลา
    - เพราะยามมีสุขมีทุกข์อะไร..
    ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเวลามีเรื่องเดือดร้อนอะไร..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราโดนกระทำอะไรมา..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราคิดเห็นอย่างไร..ใจย่อมแสดงออกชัดเจน
    - เพราะเราต้องการอะไร..ใจเรารู้ดีที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีความสำคัญมากและทำได้ยาก
    เพราะต้องลบถมให้ทะลุกระดานถึง 84,000 รอบเอามาลบทับถมไปมาได้เพียงแค่ถ้วยเล็กๆ ทั้งพระพุทธคุณนั้นจะสงเคราะห์จะเข้าไปอยู่ได้ในทุกกรรมของชีวิต ด้วยป็นผงที่ผูกขึ้นให้ใจเราเป็นใหญ่และแรงเร็วเท่าทันกับใจของเรา แบบที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า..ตามทันใจของเรา

    1.เพื่อให้ผูกพันเข้าไปกับวิถีชีวิตและรูปแบบการดำเนินชีวิตของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับวิถีและรูปแบบการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แม้คนทั้งโลกจะโกงเธอแต่ใจเธอจะไม่โกงตัวเอง เช่นนั้นเมื่อผูกพันกับวิถีและรูปแบบแล้วจึงพร้อมสงเคราะห์ได้ทุกสถานการณ์

    2.เพื่อสร้างสายใยความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งปวงทุกกรณี สายใยความเกี่ยวข้องนี้ย่อมสัมพันธ์ใจและพระพุทธคุณพ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีสายใยคือไม่เข้ากับใจเราตัั้งแต่แรกแล้ว ย่อมไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรม่ได้เลยเพราะไม่มีสายใย..ไม่มีกรรมร่วมกัน..จึงไม่มีสิทธิ

    3.เพื่อประสานเราเข้ากับพระพุทธคุณที่สงเคราะห์..ต่อเนื่อง..ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าความต่อเนื่องและต่อไปได้ตลอดเวลานี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะมันส่งตรงและเชื่อมโยงกับใจเธออย่าลืมว่าคนเรานี้ใจไวที่สุด(แบบนี้เรียกว่าต่อเนื่องเท่าทันใจตน)

    4.เพื่อเป็นหนึ่งเดียวไปกับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ารวมกับใจเราไม่แตกแยกเมื่อเป็นหนึ่งเดียวกับเราย่อมเข้าใจเราได้ดีที่สุดอุปมาว่าใครจะเข้าใจตัวเรามากไปกว่าตัวเราเอง ผสานกันรวมกันดุจเป็นพรสวรรค์และการสงเคราะห์จากครูเบื้องบนเฉพาะของตัวเรา

    5.เพื่อเกี่ยวพันกับเราและซ่อมแซมอาการวิบัติวิปริตทั้งปวง เมื่อเกี่ยวกันสัมพันธ์เป็นหนึึ่งเดียวกัันย่อมรู้อาการ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่สัมพันธ์ใจจะไม่รู้อาการหรือสิ่งที่ต้องจัดการเลย พอสัมพันธ์ใจแล้วทีนี้เรานึกคิดอย่างไร..ทนมามากเท่าไร..เจ็บช้ำมาแค่ไหน..ย่อมซอมแซมสงเคราะห์ได้เข้ากับสถานการณ์ทันทีไม่ต้องเสียเวลาจับต้นชนปลายไม่ถูก

    6.เพื่อให้เราเข้ากันได้กับพระพุทธคุณที่คอยซ่อมแซมชีวิตนั้น ไม่มีอาการขัดขืนหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าดื้อยาอุปมาว่าสงเคราะห์อย่างไรก็ไม่ถูกช่องถูกอาการ มีสถานการณ์ของสิ่งที่มองไม่เห็นปิดกั้นแทรกซ้อนการสงเคราะห์นั้นๆเสมอ

    7.เพื่อให้จังหวะชีวิตเราไม่ผิดที่ผิดทางตกต่ำลง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุดเพราะใช้ชีวิตผิดที่อยู่ผิดทางผิดเวลาแม้เพียงนิดย่อมนำมาซึ่งความฉิบหายวุ่นวายไม่รู้จบเช่นนี้จังหวะชีวิตจึงสำคัญมาก หากจะใช้ชีวิตให้ราบรื่นไม่สะดุดไม่สะดุุ้งแล้วจังหวะชีวิตจ้องเป็นจังหวะทิพย์จังหวะสวรรค์ หากไปเจอจังหวะนรกแล้วแม้ไม่รู้ตัวก็ยากแก้ไขเช่นนี้ผงสัมพันธ์ใจจึงแปลงให้เป้นจังหวะทิพย์ไปตลอดกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้สำคัญมากยิิ่ง
    อะไรที่เราไม่รู้ตัวคือพระพุทธคุณท่านรู้แทนเราและสงเคราะห์นำเราไปแล้วนี่คือผลดีของสัมพันธ์ใจ
    - ไม่ต้องรอจนกว่าเราจะระลึกได้รู้ตัว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมสายไปแล้ว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมยากเกินการแก้ไข

    ด้วยผงนี้แม้เราจะรู้ตัวก็ดี,ไม่รู้ตัวก็ดี,ระลึกได้ก็ดี,ระลึกไม่ได้ก็ดี,อยู่ถูกจังหวะก็ดี,อยู่ผิดจังหวะก็ดี..พระพุทธคุณย่อมจัดการสงเคราะห์แก่เราเสมอ พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดง่ายๆเลยคือไวเท่าทันใจเราแม้ยามใดสติเราตามไม่ทันใจตนเองหลงลืมจุดด้อยข้อพลั้งพลาดเล็กๆน้อยๆนั่นแหละทุกอย่างจะได้ "ไม่มีคำว่าสายเกินไป..สำหรับชีวิตเธอ"

    นอกจากผงที่สำคัญแล้วที่ต้องใช้ควบคู่กันไปเลยแบบขาดกันไม่ได้ก็คือตะกรุดซึ่งตีตารางลงกลซับซ้อนที่พ่ออาจารย์ท่านว่า "ตะกรุดกลไม่รู้" เพราะพุทธคุณสงเคราะห์หลักก็คือแก้กลความไม่รู้ทั้งปวง
    - ทำยังไงก็ไม่รวย
    - ทำยังไงก็หากินไม่ขึ้น
    - มันติดขัดที่ตรงไหน
    - สาเหตุให้ฐานะตกต่ำเกิดจากอะไร
    - ทำไมคบใครก็โดนทิ้ง
    - ทำไมเพื่องถึงโกง
    - ทำไมเจ้านายต้องขัดขา
    - ทำไมพ่อแม่รักเราน้อยกว่าพี่น้องคนอื่น
    - ทำไมเขาทำได้แต่เราทำไม่ได้
    ...พ่ออาจารย์ท่านว่า 108 อาการ(เรียกรวมสำหรับอาการไม่รู้ครอบจักรวาล) ที่ไม่ได้และไม่รู้ในทุกๆเรื่องเพราะตะกรุดกลไม่รู้นี่สำคัญมากเมื่อทำงานกับผงสัมพันธ์ใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอไม่ต้องไปแสวงหาอะไรอีกเลย

    ตะกรุดนี้
    นอกจากแก้กลไม่รู้แล้วยังใช้แก้ได้ในอีกหลายๆเรื่องที่เธอไม่รู้และคาดไม่ถึง
    1. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตไม่มีโชคลาภ
    2. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตขาดโอกาส
    3. ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งทำยิ่งขาดทุน
    4. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตเกิดมาด้อยกว่าคนอื่น
    5. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตเหนื่อยกว่าคนอื่น
    6. ไม่รู้ว่าตนเองไปซวยไปโดนอะไรมา
    7. ไม่รู้ว่าต้องอดทนอีกนานเท่าใดสิ่งที่ทำจะผลิดอกออกผล
    8. ไม่รู้ว่าใครที่คอยแกล้งรึประสงค์ร้าย
    9. ไม่รู้ว่าชีวิตมันเกิดอาถรรพ์อาเพศอะไรขึ้น
    10. ไม่รู้ว่าที่แก้ๆไปทั้งหมดมันเกิดจากสาเหตุอะไร

    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้ง 108 ความไม่รู้คือควบรวมทั้งหมดเรียกว่าใช้แก้อาการที่ไม่รู้สาเหตุ *** และแก้ไม่ถูกจุดมาทั้งชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะไม่เพียงแก้สิ่งที่ไม่รู้แม้สิ่งที่เราแก้ไขไปแล้วผิดๆถูกๆหรือไม่ถูกเลยทั้งหมดทั้งมวลก็คลี่คลายอาถรรพ์สลายออกไปได้

    ยามอาราธนานี่สติเธอจะแจ่มใสกว่าปกติ สัมปชัญญะจะทำงานสดใสมากคือเธอจะรู้สึกว่าเธอรู้และเข้าใจในทุกเรื่องได้อย่างน่าอัศจรรย์เรียกว่าคิดอะไรก็ไม่ติดขัดนี่คือกฤติยาคมแฝดที่เกิดขึ้นทับซ้อนเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปนี้สบายไม่ต้องทำตัวตาบอดคลำทางเสียเวลาไปครึ่งค่อนชีวิต ทางไหนไปได้เดินได้(ทางชีวิต)เธอจะรู้ได้ด้วยตัวเองแม้ทางที่ไม่ควรเดินไม่ควรไปก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้แก้ได้สารพัดแม้แต่เรื่องที่เธอคิดไม่ถึงเลย
    *** ถูกฝังรูปฝังรอยมา..ยังแก้ได้
    *** ถูกฝังของทำอาถรรพ์มา..ยังแก้ได้
    *** ถูกอาถรรพ์ผีมา..ยังแก้ได้
    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้ได้ 108 ที่ว่าใช้แก้ได้ร้อยแปดประการเป็นคำอุปมาว่าแก้ได้ทั้งหมดที่ตัวเราไม่รู้สาเหตุต่อให้สภาพครึ่งผีครึ่งคนจะเฉียดตายแล้วก็ยังแก้ไขได้(ยกเว้นสภาพใกล้จะตายเกินแก้จริงๆ) คือตัวเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปถูกไปเจออะไรมาแล้วมันซวยมันตกต่ำลงไปเรื่อยๆเคยเป็นหรือไม่..ถ้าเคยก็นี่แหละต้องใช้มงคลกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากดพิมพ์พระผงมงคลกาลนี้ให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เราพอทำได้เพื่อให้สะดวกต่อผู้อาราธนา และถือโอกาสทำเป็นพิมพ์ขี่ไก่เป็นอนุสติว่า
    - ให้ขยันทำมาหากินและตื่นก่อนไก่ย่อมได้ดีทุกคน
    - ไก่ของเรานี้เราก็แยกเสกลงวิชาพญาไก่เถื่อนไว้
    - ไก่ของเราหากินเก่งมากจะพาเธอให้หากินคล่องแคล่วไปด้วย
    - ไก่ของเราก้าวหน้าไม่หยุดไม่มีถอยหลัง
    - ไก่ของเราพาคนไปเจริญรุ่งเรืองได้
    -
    ไก่ของเราตีใครไม่แพ้เลย
    ลูกอมสองลูกข้างหลังท่านว่าเป็นวิชาทำผงขององค์ปฐมที่่ออาจารย์ท่านเรียกว่าห่างทุกข์คือลูกหนึ่งว่าชีวิตไม่รู้จักความทุกข์อีกลูกคือไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ว่าติดตัวไว้ไม่ต้องใช้ต้องท่องอะไร..แม้สลายย่อยเป็นอณูฝุ่นก็ยังใช้ได้

    *** ท่านว่าเราพยายามทำพระพิมพ์ที่เล็กที่สุด..และทำผงก็ทำไปด้วยอุตสาหะที่สุด..แม้ลงตะกรุดก็บีบอักขระมากที่สุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆลงตะกรุดยาวห้านิ้วได้สบาย) เหมาะสมกับคนที่รู้ค่าเพราะของบางอย่างก็ปรากฏมาเฉพาะกาลโอกาสเท่านั้น

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องแจ้งอะไรเลยเพราะทำสำเร็จแล้วทุกอย่าง มีคุณครอบความไม่รูอุปมา 108 ประการทั้งสิ้น

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลกาลผู้ไม่รู้ไม่เห็น(รู้แทนวาสนาบุญหล่นทับบารมีสัมพันธ์ใจ) บูชา 4,000 บาท
    5c28dd4f-efe5-4e22-ad1b-13f6cc4d56ae.jpg
    a783867c-0464-4dea-818e-363b4c7c58b2.jpg
    585ee4ad-4268-40f7-b765-ab087b2dcf53.jpg
    327ab8680f97e9e3b690cdf90368dc3d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2024
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    1. ดีกว่าเป็นผู้ไม่รู้
    2. ดีกว่าเป็นตาบอดคลำทาง
    เพราะโอกาสและเวลาย่อมไม่ย้อนคืนมาอีก พระชุดนี้ท่านว่า
    เราทำไหวครั้งเดียวเพราะต้องทำแบบบีบอักขระและลบถมผง 84,000 รอบ ตั้งใจทำพระพิมพ์องค์เล็กที่สุดให้ใช้แขวนได้สะดวกไม่หนักคอ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    มงคลกาลผู้ไม่รู้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูข้างบนท่านสงเคราะห์มากเพราะวันโกนวันพระจะเกิดมหัศจรรรย์ขึ้นเนืองๆ ถือเป็นเครือมงคลรุ่นเดียวที่พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนอาราธนาครูเสกได้เห็นดวงแก้วบ้างลูกไฟบ้างมีรัศมีขาวนวลบ้าง,เป็นทองอร่ามบ้าง,ทั้งบางมีก็เป็นท่อน้ำท่อไฟลอยสว่างหายเข้าไปในองค์พระทีละองค์ๆ เป็นเช่นนี้จนครบทุกองค์ *** ท่านว่าใครจองทันก็อย่าประมาท สวมแขวนไว้จะเข้าใจได้เอง
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    มี INBOX เข้ามาว่าฝันถึงหลวงพ่อปานท่านให้มาตามให้หาพระผงจันทร์ลอยผง 84,000 ของพ่ออาจารย์มาบูชากันไว้ในครอบครัวให้ได้จะเจริญมาก เพราะครูเบื้องบนท่านแยกทำวิชาสงเคราะห์ไว้แล้ว

    ซึ่งหลังจากที่แจ้งมาก็ได้ตรวจสอบซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ได้ทำพระจันทร์ลอยใดๆไว้แต่พอพิจารณาดีๆ "ชุดมงคลกาล" ที่พ่ออาจารย์ท่านกดลองพิมพ์ด้วยผงลบถม 84,000 ไว้นั้นท่านไม่ได้ตัดขอบออกเลยบังเอิญว่ากดไว้เป็นดวงกลมๆทั้งหมด(ปกติท่านจะตัดขอบเรียบร้อยไม่เคยกดเป็นแป้นกลมเช่นนี้)จึงเข้าใจได้ว่าจันทร์ลอย 84,000 ชุดนี้คือสิ่งใดและคงสำคัญมาก...เดี๋ยวจะนำออกมาเอาแค่คนที่ทันนะ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ร่วมทำบุญบูชา จันทร์ลอยพระเจ้า 84,000(ลองพิมพ์มงคลกาลบารมีสัมพันธ์ใจ)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลที่ไม่รู้เหตุเหมือนตาบอดคลำทางย่อมแสวงหาการแก้ไขไม่เจอต้องทำสักร้อยสักพันเรื่องเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานะติดขัดต่างๆ ซึ่งบางเรื่องชัดเจนก็ดี,บางเรื่องไม่ชัดเจนก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้นี่น่าเห็นใจมากเพราะต้องเสียเวลาแก้ไขเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ องค์ปฐมท่านว่าความไม่รู้นี่น่ากลัวนัก..จึงให้พ่ออาจารย์ท่านทำมงคลกาลผู้ไม่รู้ขึ้นเพื่อแก้ไขในผลที่ไม่ทราบเหตุทั้งหลาย

    1.ไม่รู้เหตุเกิดจากอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าบางเรื่องที่เสียหายนั้นความเป็นไปได้ย่อมมีมากมายแม้สาเหตุเกิดจากอะไรก็ไม่สามารถเข้าใจได้จะกรรมเก่า,โดนกระทำ,มิตรทรยศ,หรือผิดที่ตัวเรา..ต่างๆเหล่านี้เมื่อไม่ทราบสาเหตุก็เหมือนตาบอดคลำทางแก้ไขอย่างไรก็แก้ไม่ถูก

    2.ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์แบบนี้ย่อมเกิดในทามกลางเมื่อเกิดแล้วย่อมมีทั้งต้นทั้งปลาย เมื่อไรู้จะแก้ไขอย่างไรต้นก็เสียหายปลายก็ย่อยยับเป็นสถานการณ์ที่ดำเนินต่อไปไม่ได้เลยเพราะเห็นแต่ผลเสียไม่มีผลดีทั้งนั้น

    3.ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าบางครั้งจุดเล็กในชีวิตมันก็ขยายลุกลามเหมือนฟืนติดไฟกระพือไปแบบที่ตัวเรายังไม่ทราบสาเหตุ เมื่อไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหนจะดับไฟกองเล็กๆนั้นก็ทำไม่ทันเช่นนั้นจึงพาลให้ลุกลามไปอีกหลายๆเรื่อง

    4.ไม่รู้ว่ามันผิดตั้งแต่เมื่อใด พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนบางเรื่องนี่ก็ไม่ได้รู้ตัวว่าผิดแต่ยังทำต่อไปพอมารู้ตัวมันก็สายไปแล้วทั้งหมด นั่นคือไม่รู้ตัวว่าผิดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ทำให้สถานการณ์ของชีวิตยากจะแก้..ท่านว่านี่สำคัญมากนะ เพราะเรื่องที่แก้ไขได้กับเรื่องที่ยากจะแก้ไม่เหมือนกันหากยากจะแก้แล้วปล่อยเลยตามเลยยิ่งทำให้ชีวิตสึกหรอลงไปเรื่อยๆ

    5.ไม่รู้ว่าจะทำหรือดำเนินการต่ออย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจับต้นชนปลายชีวิตไม่ถูกจะต่อทางไหนจะแก้อย่างไรมันก็มืดแปดด้านทั้งหมด พอมาถึงจุดนี้ก็ยอมรับสภาพบ้างลอยตัวเหนือปัญหาบ้าง หรือไปพึ่งอบายมุขที่ผิดบ้างเพื่อให้ลืมแต่ปัญหานั้นไม่ได้ลดลงเลย

    6.ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้มากสักเท่าใด พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกคนย่อมมีขีดจำกัดเมื่อไม่รู้ว่าจะทนต่อได้อีกเท่าใดจะไปได้ไกลแค่ไหนท่านจึงเรียกว่าสถานการณ์ที่ใกล้แตกสลายมากเต็มที เพราะประเมินศักยภาพตัวเองผิดและทำไปด้วยความจำเป็นบวกกับแรงใจมุมานะเท่านั้น

    7.ไม่รู้ว่าดวงจะมาตอนไหน พ่ออาจารยย์ท่านว่าบางคนก็พยุงชีวิตเพื่อรอดวงชะตารอให้ชีวิตตัวถึงขาขึ้นแต่ระหว่างรอนั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องทนและต้องเจอกับอะไรบ้าง และดวงที่ว่าจะมาตอนไหนหรือมาสั้นยาวอย่างไรจะมาหรือไม่และท้ายสุดอาจจะไม่มาเลย

    8.ไม่รู้ว่าจะกู้คืนกลับมาได้แค่ไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์เช่นนี้คือความสูญเสียยิ่งเสียเวลาแก้ไขไปกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียเพื่อกอบกู้คืนมาเล็กน้อยแต่ต้องจ่ายมากเช่นนี้จึงเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้ว่าเสียหายมากกว่าแต่ก็ต้องทนทำต่อไป

    ....พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มงคลผู้ไม่รู้นี้จริงๆครอบคลุมสาเหตุความฉิบหายทั้งปวง เพื่อแก้ไขอาการที่จะนำไปหาความวิบัตินำไปสู่ความพินาศทั้งเหตุที่แก้ไขไม่หาย..เหตุที่แก้ได้ไม่จบ..เหตุที่ไม่รู้จะแก้ที่ตรงไหน..เหตุที่ไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อใด..เหตุที่ไม่รู้ขีดจำกัดตนเองต่างๆ

    **** พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกวิชานี้สั้นๆว่า"ผู้ไม่รู้"..แต่จริงๆแล้วจะเรียกว่าผู้ไม่รู้ไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวงนั่นคือความวิบัติต่างๆไม่สามารถสัมผัสโดนเนื้อตัวได้
    - เป็นวิชาที่ไม่เปิดรับ..คือพาให้ชีวิตเราไม่เปิดรับความทุกข์,ความวิบัติฉิบหายทุกประการ
    - เป็นวิชาที่รู้จบ..คือพาให้ปัญหาทุกอย่างรู้จบได้ แยกออกจากวงจรปัญหาวนเวียนไม่รู้จบ
    - เป็นวิชาที่ไม่นำเรื่อง..คือพาให้ชีวิตไม่เจอไม่ต้องไปรู้เรื่องข้องเกี่ยวกับความตกต่ำทั้งปวง
    - เป็นวิชาของผู้ไม่รู้ตัว..คือพาให้เหตุทั้งหลายที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันคาดไม่ถึงสูญไปตั้งแต่ต้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่ของสามัญทั้งการผสมว่านยาและลบผงอักขระพระยันต์ทั้งปวงที่องค์ปฐมท่านกำหนดให้ทำจะเรียกว่าเป็นเครื่องมงคลที่ตั้งใจสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่รู้เรื่องทั้งปวงก็ได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหากใช้สติพิจารณาแล้วยังมองไม่เห็นก็อนุโลมว่าเรื่องทั้งหลายนั้นมีเหตุปัจจัยแทรกซ้อนขึ้นมา
    - ทั้งเวรกรรมบังตา
    - ทั้งเจ้ากรรมนายเวรบังตา
    - ทั้งอบายมุขบังตา
    - ทั้งดวงชะตาพาให้เป็นไป

    ยังไม่รวมการกลั่นแกล้งของสิ่งที่เรียกว่า"คน",การเอาเปรียบของสิ่งที่เรียกว่าชนชั้น,การใช้เราเพื่อหาผลประโยชน์ของบุคคลอื่น,การกระทำด้วยคุณไสย,ภูติผีฝ่ายต่ำทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียกรวมๆไปเลยคือ 108 สาเหตุความตกต่ำทุกประการหากรวมแล้วได้คำว่าผู้ไม่รู้..ย่อมแก้ไขได้

    "มงคลกาลผู้ไม่รู้" พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่ต้องทำผงวิชาลบถมถึง 84,000 รอบขึ้นมาโดยเฉพาะทั้งตะกรุดที่ฝังก็เป็นวิชาเฉพาะต้องใช้คู่กันสถาปนาเป็นมงคลกาลผู้ไม่รู้จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เลยโดยเครื่องมงคลนี้จะสงเคราะห์ให้ผลทั้งต่อตัวเองไปพร้อมกับบริวารญาติมิตรสหายของเรา
    - เพราะความเสียมีทั้งเกิดแก่ตัวเรา
    - เพราะความเสียหายมีทั้งแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
    เช่นนั้นมงคลกาลผู้ไม่รู้จึงต่างจากเครื่องมงคลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่า
    หากจะแก้ไขความตกต่ำได้เด็ดขาดเสร็จสิ้นไม่เหลือเชื้อไฟให้ไหม้ลามต่อ ย่อมต้องจัดการได้ทั้งในระดับเฉพาะจุดและผลที่กระทบเป็นลูกโซ่ขยายความเดือดร้อนออกไปในวงกว้าง เพราะหากส่งผลเฉพาะแก่เราพอครบวงจรปัญหาลูกโซ่มันก็พันมัดเราให้เดือดร้อนอยู่ดี พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลกาลผู้ไม่รู้นี้จึงเน้นสงเคราะห์แบบแก้ทั้งภาพรวมโดยให้ความสำคัญที่ตัวเราเป็นศูนย์กลางทั้งหมด เรียกว่าแม้ในเรื่องที่เราไม่รู้..แม้ในเรื่องที่เราไม่เห็น..แม้ในเรื่องที่เราพึ่งตัวเองไม่ได้จะพาให้เราเอาตัวออกจากปัญหาทั้งปวงได้แบบไร้มลทิน

    ผงบารมีสัมพันธ์ใจ
    คนเรามีใจเป็นใหญ่จะแก้ไขอะไรให้ใช้ใจเป็นสื่อเช่นนี้คาถาใดก็ไม่ต้องอาราธนาให้เสียเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำยากมีความสำคัญมากเพราะมันจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ง่าย..ได้ตรง..ได้ถูกปัญหา..ได้ทันเวลา
    - เพราะยามมีสุขมีทุกข์อะไร..
    ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเวลามีเรื่องเดือดร้อนอะไร..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราโดนกระทำอะไรมา..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราคิดเห็นอย่างไร..ใจย่อมแสดงออกชัดเจน
    - เพราะเราต้องการอะไร..ใจเรารู้ดีที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีความสำคัญมากและทำได้ยาก
    เพราะต้องลบถมให้ทะลุกระดานถึง 84,000 รอบเอามาลบทับถมไปมาได้เพียงแค่ถ้วยเล็กๆ ทั้งพระพุทธคุณนั้นจะสงเคราะห์จะเข้าไปอยู่ได้ในทุกกรรมของชีวิต ด้วยป็นผงที่ผูกขึ้นให้ใจเราเป็นใหญ่และแรงเร็วเท่าทันกับใจของเรา แบบที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า..ตามทันใจของเรา

    1.เพื่อให้ผูกพันเข้าไปกับวิถีชีวิตและรูปแบบการดำเนินชีวิตของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับวิถีและรูปแบบการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แม้คนทั้งโลกจะโกงเธอแต่ใจเธอจะไม่โกงตัวเอง เช่นนั้นเมื่อผูกพันกับวิถีและรูปแบบแล้วจึงพร้อมสงเคราะห์ได้ทุกสถานการณ์

    2.เพื่อสร้างสายใยความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งปวงทุกกรณี สายใยความเกี่ยวข้องนี้ย่อมสัมพันธ์ใจและพระพุทธคุณพ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีสายใยคือไม่เข้ากับใจเราตัั้งแต่แรกแล้ว ย่อมไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรม่ได้เลยเพราะไม่มีสายใย..ไม่มีกรรมร่วมกัน..จึงไม่มีสิทธิ

    3.เพื่อประสานเราเข้ากับพระพุทธคุณที่สงเคราะห์..ต่อเนื่อง..ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าความต่อเนื่องและต่อไปได้ตลอดเวลานี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะมันส่งตรงและเชื่อมโยงกับใจเธออย่าลืมว่าคนเรานี้ใจไวที่สุด(แบบนี้เรียกว่าต่อเนื่องเท่าทันใจตน)

    4.เพื่อเป็นหนึ่งเดียวไปกับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ารวมกับใจเราไม่แตกแยกเมื่อเป็นหนึ่งเดียวกับเราย่อมเข้าใจเราได้ดีที่สุดอุปมาว่าใครจะเข้าใจตัวเรามากไปกว่าตัวเราเอง ผสานกันรวมกันดุจเป็นพรสวรรค์และการสงเคราะห์จากครูเบื้องบนเฉพาะของตัวเรา

    5.เพื่อเกี่ยวพันกับเราและซ่อมแซมอาการวิบัติวิปริตทั้งปวง เมื่อเกี่ยวกันสัมพันธ์เป็นหนึึ่งเดียวกัันย่อมรู้อาการ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่สัมพันธ์ใจจะไม่รู้อาการหรือสิ่งที่ต้องจัดการเลย พอสัมพันธ์ใจแล้วทีนี้เรานึกคิดอย่างไร..ทนมามากเท่าไร..เจ็บช้ำมาแค่ไหน..ย่อมซอมแซมสงเคราะห์ได้เข้ากับสถานการณ์ทันทีไม่ต้องเสียเวลาจับต้นชนปลายไม่ถูก

    6.เพื่อให้เราเข้ากันได้กับพระพุทธคุณที่คอยซ่อมแซมชีวิตนั้น ไม่มีอาการขัดขืนหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าดื้อยาอุปมาว่าสงเคราะห์อย่างไรก็ไม่ถูกช่องถูกอาการ มีสถานการณ์ของสิ่งที่มองไม่เห็นปิดกั้นแทรกซ้อนการสงเคราะห์นั้นๆเสมอ

    7.เพื่อให้จังหวะชีวิตเราไม่ผิดที่ผิดทางตกต่ำลง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุดเพราะใช้ชีวิตผิดที่อยู่ผิดทางผิดเวลาแม้เพียงนิดย่อมนำมาซึ่งความฉิบหายวุ่นวายไม่รู้จบเช่นนี้จังหวะชีวิตจึงสำคัญมาก หากจะใช้ชีวิตให้ราบรื่นไม่สะดุดไม่สะดุุ้งแล้วจังหวะชีวิตจ้องเป็นจังหวะทิพย์จังหวะสวรรค์ หากไปเจอจังหวะนรกแล้วแม้ไม่รู้ตัวก็ยากแก้ไขเช่นนี้ผงสัมพันธ์ใจจึงแปลงให้เป้นจังหวะทิพย์ไปตลอดกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้สำคัญมากยิิ่ง
    อะไรที่เราไม่รู้ตัวคือพระพุทธคุณท่านรู้แทนเราและสงเคราะห์นำเราไปแล้วนี่คือผลดีของสัมพันธ์ใจ
    - ไม่ต้องรอจนกว่าเราจะระลึกได้รู้ตัว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมสายไปแล้ว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมยากเกินการแก้ไข

    ด้วยผงนี้แม้เราจะรู้ตัวก็ดี,ไม่รู้ตัวก็ดี,ระลึกได้ก็ดี,ระลึกไม่ได้ก็ดี,อยู่ถูกจังหวะก็ดี,อยู่ผิดจังหวะก็ดี..พระพุทธคุณย่อมจัดการสงเคราะห์แก่เราเสมอ พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดง่ายๆเลยคือไวเท่าทันใจเราแม้ยามใดสติเราตามไม่ทันใจตนเองหลงลืมจุดด้อยข้อพลั้งพลาดเล็กๆน้อยๆนั่นแหละทุกอย่างจะได้ "ไม่มีคำว่าสายเกินไป..สำหรับชีวิตเธอ"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากดพิมพ์พระผงมงคลกาลนี้ให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เราพอทำได้เพื่อให้สะดวกต่อผู้อาราธนา และถือโอกาสทำเป็นพิมพ์ขี่ไก่เป็นอนุสติว่า
    - ให้ขยันทำมาหากินและตื่นก่อนไก่ย่อมได้ดีทุกคน
    - ไก่ของเรานี้เราก็แยกเสกลงวิชาพญาไก่เถื่อนไว้
    - ไก่ของเราหากินเก่งมากจะพาเธอให้หากินคล่องแคล่วไปด้วย
    - ไก่ของเราก้าวหน้าไม่หยุดไม่มีถอยหลัง
    - ไก่ของเราพาคนไปเจริญรุ่งเรืองได้
    - ไก่ของเราตีใครไม่แพ้เลย
    ลูกอมสองลูกข้างหลังท่านว่าเป็นวิชาทำผงขององค์ปฐมที่่ออาจารย์ท่านเรียกว่าห่างทุกข์คือลูกหนึ่งว่าชีวิตไม่รู้จักความทุกข์อีกลูกคือไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวง

    คาถาบูชา

    พ่ออาจารย์ว่าติดตัวไว้ไม่ต้องใช้ต้องท่องอะไร..แม้สลายย่อยเป็นอณูฝุ่นก็ยังใช้ได้

    *** ท่านว่าเราพยายามทำพระพิมพ์ที่เล็กที่สุด..และทำผงก็ทำไปด้วยอุตสาหะที่สุด เหมาะสมกับคนที่รู้ค่าเพราะของบางอย่างก็ปรากฏมาเฉพาะกาลโอกาสเท่านั้น


    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น


    ร่วมทำบุญบูชา จันทร์ลอยพระเจ้า 84,000(ลองพิมพ์มงคลกาลบารมีสัมพันธ์ใจ) บูชา 900 บาท
    813965df-64bd-4064-a091-3b81629d9183.jpg 813965df-64bd-4064-a091-3b81629d9183.jpg
    327ab8680f97e9e3b690cdf90368dc3d.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ถามพ่ออาจารย์ท่านว่าพิมพ์จันทร์ลอยนี่สำคัญยังไง ท่านว่าเฉพาะผงก็เสมอด้วยเธอคาดตะกรุด 84,000 ดอกพร้อมกัน ที่เหลือครูเบื้องบนท่านลงมาสงเคราะห์ให้ต่างออกไป(ท่านว่าพูดได้เท่านี้)
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    แจ้งการส่ง ems

    พี่ศิระ ED 4765 4171 3 TH

    พี่ภาคภูมิ ED 4765 4172 7 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ED 4765 4173 5 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    พรุ่งนี้จะเปิดจองเครื่องมงคลชุด “คนลืมตัว” ..เป็นชื่อแปลกๆที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกและตั้งไว้เป็นอนุสติว่าเมื่อสำเร็จแล้วในสิ่งใดๆอย่าได้ลืมตัว

    จริงๆชุดนี้ท่านทำเสร็จมาตกกว่า 5 ปีเมื่อได้ให้คนบูชาไปก็เห็นผลที่เกินคาดมากๆถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านว่า
    “จากคนย่อยยับ..ฟื้นมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน” เสียแต่ที่ว่าลืมคำบนที่บอกครูไปทั้งสิ้น เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมักพูดเสมอว่าขอได้แต่อย่าบน..เวลาบนอะไรอย่าบนเกินตัวจนรู้สึกเสียดายยามต้องแก้บน

    เช่นนี้ท่านจึงตั้งชื่อเครื่องมงคลชุดนี้ว่าชุดคนลืมตัวและเก็บไว้มานานมากกว่า 5 ปี พรุ่งนี้จะเปิดให้จองกันอย่าลืมว่าขอได้..และบนได้ยามเมื่อสำเร็จต้องแก้แต่ถ้าขอก็ไม่ต้องแก้
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลมหาพิฆาตเนรเทศฝากตะวันลาโลก("บรมสุข"อินทร์พรหมยมยักษ์ชุดคนลืมตัว)

    อินทร์พรหมยมยักษ์ = ควบรวมกำลังบรมครูทั้งหมื่นจักรวาลเพื่อใช้ยามปัดออก
    มหาพิฆาต =
    ตัวเราเป็นผู้ทำลายและตัวเราเลือก..สิ่งที่จะทำลาย
    ฝากตะวัน = วิชานี้สามารถปัดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาออกพ้นชีวิตได้ ฝากให้ตก,ลับ,ดับ,หายไม่อาจโผล่กลับมาได้ให้ตกตามไปกับพระอาทิตย์ยามตกดิน..วันละเรื่องๆไม่มีข้อแม้

    เครื่องมงคลชุด “คนลืมตัว” ..เป็นชื่อแปลกๆที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกและตั้งไว้เป็นอนุสติว่าเมื่อสำเร็จแล้วในสิ่งใดๆอย่าได้ลืมตัว จริงๆชุดนี้ท่านทำเสร็จมาตกกว่า 5 ปีเมื่อได้ให้คนบูชาไปก็เห็นผลที่เกินคาดมากๆถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านว่า “จากคนย่อยยับ..ฟื้นมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน” เสียแต่ที่ว่าลืมคำบนที่บอกครูไปทั้งสิ้น เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมักพูดเสมอว่าขอได้แต่อย่าบน..เวลาบนอะไรอย่าบนเกินตัวจนรู้สึกเสียดายยามต้องแก้บน เช่นนี้ท่านจึงตั้งชื่อเครื่องมงคลชุดนี้ว่าชุดคนลืมตัวและเก็บไว้มานานมากกว่า 5 ปี ท่านว่าอย่าลืมว่าขอได้..และบนได้ยามเมื่อสำเร็จต้องแก้แต่ถ้าเพียงขอก็ไม่ต้องแก้

    มงคลมหาพิฆาต..พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาทำตะกรุดของบรมครูบรมพรหมสฮัมบดีที่ให้คุณแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากที่สุดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บไว้ยาวนานด้วยกลัวคนปรามาสว่าเป็นเพียงตะกรุดธรรมดาไม่รู้คุณค่า ท่านว่าตะกรุดดอกนี้เมื่อได้รับเกินไปมากๆแล้ว(ให้รีบเลี่ยมทองเสีย) เข้าเรื่องมงคลมหาพิฆาตพ่ออาจารย์ท่านว่าชื่อนี้ดูดุเด็ดเพราะเป็นวิชาที่ใช้อำนาจบังคับเด็ดขาดสูงสุด
    1. ตัวเราเป็นผู้ทำลาย แล้วจะทำลายอะไรพ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งที่จะทำลายคือเรื่องที่ชีวิตเราไม่ต้องการ,ไม่ปรารถนาจะให้เกิด,ไม่ปรารถนาจะให้มี,ไม่ปรารถนาจะให้ปรากฏแก่ชีวิตของเรา นั่นคือเรื่องที่เราเป็นผู้ทำลายเพราะเราย่อมรู้ตัวเราดีที่สุดว่าอันไหนสุขอันไหนทุกข์อันไหนคือความอิ่มเอิบ...แล้วสิ่งใดเล่าคือความสูญเสีย

    2. ตัวเราเป็นผู้เลือกสิ่งที่ทำลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งที่ทำลายนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะไม่ใช่ว่าจะทำลายให้สูญหายไปเสียหมด เรื่องไหนควรคงไว้ขยายผลมันต่อไปเรื่อยๆหรือเรื่องไหนควรหาย,หมด,จบ,สิ้นไปจากชีวิตนั่นคือเลือกและจำกัดสิ่งที่ทำลายเพื่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลสูงสุดยามอาราธนา

    3. ตัวเราเป็นผู้ล้างผลาญ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เมื่อเลือกสิ่งที่ทำลายและใช้แล้วสิ่งนั้นย่อมระงับไปเสมอว่าไม่เคยมีมาก่อน ตรงนี้ท่านเรียกว่าโดนล้างผลาญไปทั้งหมด(แต่เป็นล้างผลาญในทางที่ดีกับเราที่สุด) คือที่ไม่ดีที่ไม่เอาก็หมดไปแบบไม่มีเหลือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อันใหญ่ยิ่งไม่ใช่การสึกกร่อนหากแต่เป็นการสูญสิ้นแบบราบคาบ

    4. ตัวเราเป็นผู้กำจัด จากสิ่งที่ไล่ไม่ไปไสส่งอย่างไรก็ไม่พ้นด้วยกำลังของผู้กำจัดนี้สิ่งที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆเราจะมีกำลังบังคับปราบปรามเอามันลง พูดง่ายๆคือตัวเรามีสิทธิและกำลังเหนือกว่ามันและมากพอที่จะเหวี่ยงทิ้งมันออกไปเป็นอาญาสิทธิ์ให้เรื่องที่ไม่พึงประสงค์ในชีวิตหลุดออกไปทั้งยวงไม่เหลือเชื้อไฟคุกคามใดๆอีก

    เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงไม่เคยทำมงคลมหาพิฆาตเลยและตั้งใจทำเพียงหนเดียวเท่านั้น ด้วยครูบรมพรหมสฮัมบดีโองการเป็นปกาศิตฟ้าดินไว้ว่า.. "วิชานี้ใช้ได้สืบไปทั้งอายุขัยผู้อาราธนา" พ่ออาจารย์ท่านว่าคำสั้นๆนั้นแต่ความหมายยิ่งใหญ่มาก
    - เพราะเธอสามารถทำลายกำจัดล้างผลาญสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ให้คงอยู่ในชีวิตเธออีกต่อไป
    ..อธิษฐานสะบัดออกไปจากตัวได้วันละเหตุวันละเรื่อง
    - ตะกรุดนี้ใช้ได้ทุกวันไม่มีข้อห้าม..ไม่มีวันหยุด..ไม่มีข้อยกเว้น หากเพียงแต่มีประสงค์จะใช้ก็ใช้ได้เลย
    - เมื่อสะบัดพ้นตัวไปแล้วท่านว่าเหตุอุบัติอาเพศสิ่งวิกลทั้งเล่ห์กลมารยาใดๆในชีวิตที่เราได้รับผล
    มันจะถอนรากถอนโคนออกไป

    วิธีใช้
    1. ให้เราพิจารณาเหตุแห่งความตกต่ำทั้งสิ้นทุกประการทั้งอาเพศและเรื่องวิบัติในชีวิตรวมไปถึงสิ่งที่เราไม่พึงปรารถนาให้เกิดขึ้นให้คงอยู่ในชีวิตของเรา และจดเรียงลำดับไว้ก่อนหลังตามความสำคัญเร่งด่วนอย่างไร
    2. เมื่อเลือกสิ่งที่จะพิฆาตออกไปแล้ว..เรื่องนึงให้รอเวลายามพระอาทิตย์ตกดิน
    3. เมื่อพระอาทิตย์ตกดินให้ระลึกถึงคุณท้าวสฮัมบดีบรมพรหม นำตะกรุดแตะไว้ที่หน้าผาก
    4. แล้วออกปากพูดเบาๆพอตัวเองได้ยินถึงสิ่งที่เราอยากพิฆาตเนรเทศออกไป
    5. ในระหว่างที่พูดตะกรุดนี้ก็ยังแปะไว้ที่หน้าผากอยู่
    6. เมื่อพูดจบแล้วจึงรูดตะกรุดลงไปในลักษณะสะพานโค้งแล้วตวัดสะบัดออกไป
    7. หลังสะบัดออกไปแล้วให้ออกปากกับพระอาทิตย์ว่า
    เรื่อง...ของเราขอฝากให้ตก,ลับ,ดับ,หายไม่อาจโผล่กลับคืนมาแก่เราได้ ให้ตกตามไปกับดวงตะวัน
    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพระอาทิตย์ตกก็ใช้ได้เลยและใช้ได้ทุกวัน ด้วยคนเราย่อมมีปัญหาใหม่เก่ารุมเร้าไม่รู้จบ ตะกรุดนี้จึงใช้ได้ทุกวันเดือนปีตามเวลาที่เคลื่อนจรไป ยามพระอาทิตย์ขึ้นมาก็จะรับเรื่องและพาเหตุอาเพศต่างๆของเราคล้อยต่ำตกลับดับหายลงไปด้วยตามโองการท้าวสฮัมบดีบรมพรหม

    ด้วยควบกำลังของบรมครูทั้งหมื่นจักรวาลพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้จึงเป็นสื่อชั้นยอด
    - นั่นคือเวลาเธอพูดอะไรแม้พูดลอยๆ
    ..ครูยังรับรู้
    - นั่นคือยามเธอพูดอะไรแม้พูดเล่นๆ..ก็ยังมักได้
    จุดนี้เองพ่ออาจารย์ท่านว่าจึงใช้อาราธนาขอพรได้ทั้งสิ้นและเห็นผลไม่ช้านานด้วยกำลังครูที่รอช่วยอยู่นั้นมหาศาล องค์ไหนใกล้องค์นั้นช่วยก่อนเรื่องไหนองค์ใดทำได้องค์นั้นแหละมาทำก่อน..เป็นเช่นนี้ *** จึงไม่จำเป็นต้องนำตะกรุดขึ้นมาบนบานศาลกล่าวเลย ไม่ใช่ว่าจะบนบานไม่ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าบนได้และยังเห็นผลไวที่สุดด้วยหากแต่อย่าบนแล้วลืมแก้..พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญมากปกติเธอบนใครก็เหมือนพูดกับคนๆนั้นใช่มั๊ย แต่ตะกรุดนี้เหมือนเธอขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วมีคนดูอยู่มหาศาล(ระดับหมื่นโลกธาตุ) เพราะฉนั้นยามผิดคำบนมันจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆพ่อาอจารย์ท่านว่าเพียงขอพรและใช้งานตามปกติก็พอ ถ้าจะบนอะไรให้จดไว้ด้วยและเลือกบนเฉพาะในสิ่งที่แก้ได้เท่านั้น

    เนรเทศสิ่งใด..ไปกับตะวัน
    1.ภูติผีปีศาจที่เกาะกินไม่ได้ทำคุณประโยชน์
    2.ภยันตรายเรื่องทุกข์ร้อนที่เกิดไปแล้วหรือมีโอกาสเกิดขึ้น
    3.สิ่งอัปมงคลอันสัมผัสไปทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
    4.ปัญหาร้ายแรงตามกาลต่างๆ
    5.ภัยจากศัตรูทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว
    6.เสนียดจัญไรที่พอกพูนตามกาลโอกาส
    7.เคราะห์เข็ญเวรภัยทั้งหลาย
    8.ดวงชะตาที่ตกต่ำลงแบบไม่รู้สาเหตุ
    9.คุณไสยคุณมนต์ที่เราไปโดนมาจากลมเพลมพัดที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
    10.อาคมอาถรรพ์อาเพศที่เขาใช้มาทำลายชีวิตเรา
    11.โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายที่ย่ำยีเราอยู่

    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ทั้งหมดอันนี้พูดในภาพรวมหรือในมุมกว้างๆแต่หากใครที่มีเป้าหมายตรงๆแบบชัดเจนไปเลยก็ใช้ได้เช่นกัน...เรื่องจน..เรื่องฐานะไม่ดีดขึ้น..เรื่องคดีความทั้งหลาย..เรื่องไม่ได้รับความรักตอบ..พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ยกตัวอย่างจริงๆเรียกว่าร้อยแปดพันประการ

    เนรเทศไปกับตะวันอุปมาเหมือนหายจ้อยคล้อยตามพระอาทิตย์ที่ลาลับดับไปแม้นรู้ว่ามีอยู่แต่จะหาอย่างไรก็ไม่พบไม่ส่งผลต่อตัวเราอีกต่อไปให้ไฟแห่งสุริยะเทพย่อมเผาทุกข์..เผาโศก..เผาเรื่องที่เราเนรเทศให้มอดไหม้ไปไม่กลับมาอีกเลย..พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุที่เราฝากไปจะทุกข์โศกโรคภัยอาถรรพ์อาเพศความฉิบหายตกต่ำใดๆก็ดีมันจะเคลื่อนตามพระอาทิตย์หายไปทั้งหมดพอขึ้นวันใหม่ก็นับ 1 ใหม่เป็นเรื่องใหม่เวลาใหม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้แม้พกไว้เฉยๆไม่ต้องไปทำอะไรเลย จากคนเคราะห์หนักๆก็ยังบันดาลให้เคราะห์กรรมเบาบางไปได้อย่างน่าอัศจรรย์

    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้ในเวลาตะวันตกดินแล้วตะกรุดนี้พกไว้ในยามปกติทุกๆเวลายังมีคุณช่วยให้เรื่องที่เธอทำสำเร็จได้แบบง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญเพราะคุณแห่งบรมพรหมท่านลงไว้ให้
    - เสริมทั้งหมด
    - เสริมทุกเรื่อง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอะไรเป็นเรื่องมงคลนี่เสริมทั้งหมดเลย
    เริ่มต้นจากตัวจากหน้าเธอเองคือเสริมสง่าราศีไปถึงดวงชะตา..โชคะชะตา..แบบนี้ทำอะไรย่อมสำเร็จง่ายเพราะมันเป็นมงคลแก่เราเสมอเช่นนี้เราจึงรุ่งเรืองขึ้นสถานเดียวเสมอไป

    ในความหมายของมหาพิฆาตนี้แท้จริงคือ "บรมสุข" ..คือพิฆาตสิ่งไม่พึงข้องแวะไม่พึงประสงค์ออกไปจนชีวิตเหลือแค่บรมสุขตามคติของแต่ละตัวตน เช่นนี้จึงเสริมมงคลทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใช้เฉพาะยามตะวันตกก็จะใช้ได้ตามกฤติยาคมหากแต่จะพกไว้ทั้งวันทั้งคืนด้วยก็จะเกิดวงจรมงคลที่ช่วยเราพิฆาตเรื่องที่ไม่ถูกใจสบายใจไปด้วย

    1.เรื่องใดที่ต้องปรุงแต่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจปฐมแห่งมหาพรหมของตะกรุดนี้คือพื้นฐานวงจรที่จะปรุงแต่งหมื่นปรารถนาขึ้นมา ยามเธออาราธนาแล้วอำนาจของพระผู้สร้างและปกาศิตที่ให้เธอใช้งานนี่แหละจะคอยปรุงแต่งสิ่งที่เหมาะที่ควรให้เกิดขึ้นกับเธอได้เสมอแบบไม่ต้องขอ

    2.เรื่องใดที่ต้องขยับขยาย วงจรนี้สำคัญมากคือหนทางใดที่เธอเดินไปแล้วมันจะเจริญงอกงามได้นั่นคือวงจรที่ต้องขยับขยายออกไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันหนทางใดมันไปแล้วจะพังพินาศชะตาชีวิตก็จะบันดาลให้ตีบตันให้เธอไม่สามารถเดินไปตามหนทางนั้นได้..พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ตะกรุดนี้แล้วอย่าดื้อทางไหนถ้าลองทำแล้วไปไม่ได้ให้หยุดเลยเพราะนั่นไม่ใช่ทางของเรา

    3.เรื่องใดที่ต้องเติมต่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าถัดมาจากขยับขยายก็คือวงจรเติมต่อที่จะทำให้เธอโตไปได้เรื่อยๆแบบไม่ปล่อยผ่านไม่ปล่อยทิ้ง คือต่อเติมเสริมสร้างไม่ให้ชีวิตเธอหยุดอยู่กับที่แบบไร้ประโยชน์ไปเปล่าๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่มีวงจรนี้ชีวิตคนมันโตไม่ได้จะเรียกว่าพัฒนาไม่ได้เลยเพราะมันจะหยุดอยู่เท่าเดิม แต่พอมีวงจรนี้ความเจริญมันไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่แต่มันจะเจริญต่อไปเรื่อยๆไม่รู้จบตราบใดที่เรายังมีความมุ่งมั่นก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ

    4.เรื่องใดที่ควรหนุนนำ วงจรนี้จะเข้ามาหนุนนำกิจที่ถูกเรื่องเรียกว่าหนุนขึ้นไปให้สูงได้ง่ายๆและขึ้นไปจนถึงจุดที่ไม่ตกลงมาอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญมากเพราะมันเข้ามาหนุนไปทุกอย่างในทางที่จะทำให้เธอเจริญแล้วมันจะสะดวกง่ายดายทั้งหมดเพราะวงจรนี้มันเข้าไปหนุนตลอดทุกเรื่อง..เปลี่ยนเธอจากผู้ตามสรรพชีวิตอื่นๆให้เป็นผู้นำได้

    5.เรื่องใดที่ต้องเพิ่มพูน วงจรเพิ่มพูนนี้จะหนักไปในเรื่องทรัพย์และความมั่นคงของชีวิตเธอไม่ให้สิ่งที่หามาพังทลายลงไป พ่ออาจารย์ท่านว่ามันจะเพิ่มพูนและมีมากขึ้นๆไปเรื่อยๆจะเรียกว่าพอกพูนก็ได้เป็นวงจรอาถรรพ์ที่ทำให้หน้าที่การงานฐานะของเธอมั่นคงแข็งแกร่ง

    คาถาบูชา
    เวลาขับต้องมีคาถากำกับ (มอบให้เฉพาะเจ้าของ)

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น วิชานี้ตีตารางยันต์และลงยากดอกนึงต้องใช้ฤกษ์ถึง 3 ฤกษ์ลงต่อกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดที่ทำยากกว่าจะได้แต่ละดอกจึงเป็นตะกรุดเปลือยๆแบบไม่ฝังไม่อุดอะไรทั้งสิ้นพ่ออาจารย์ท่านว่าครูบรมพรหมท่านโองการไว้ว่าให้ทำแบบนี้เน้นใช้งานจริงไปชั่วกาล คนไม่รู้ค่าจะมองข้ามความเมตตาของฉันไปที่ให้เธอทำวิชานี้ ด้วยวิชาบางอย่างร้อยปีพันปีย่อมไม่ปรากฏขึ้นมาจะปรากฏเพียงยามที่เหมาะแก่คนที่คูควร

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลมหาพิฆาตเนรเทศฝากตะวันลาโลก("บรมสุข"อินทร์พรหมยมยักษ์ชุดคนลืมตัว) บูชา 4,000 บาท
    66098aaa-63bb-42d1-b695-e036f8e18972.jpg
    a9ad8a70-4bf4-46a7-a467-18a55dbfdefd.jpg
    996b91a9ce17a76dd30b3aa0b44086c0.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ครูบรมพรหมท่านโองการไว้ว่าให้ทำแบบนี้เน้นใช้งานจริงไปชั่วกาล คนไม่รู้ค่าจะมองข้ามความเมตตาของฉันไปที่ให้เธอทำวิชานี้ ด้วยวิชาบางอย่างร้อยปีพันปีย่อมไม่ปรากฏขึ้นมาจะปรากฏเพียงยามที่เหมาะแก่คนที่คู่

    ใช้อาราธนาขอพรได้ทั้งสิ้นและเห็นผลไม่ช้านานด้วยกำลังครูที่รอช่วยอยู่นั้นมหาศาล องค์ไหนใกล้องค์นั้นช่วยก่อนเรื่องไหนองค์ใดทำได้องค์นั้นแหละมาทำก่อน..เป็นเช่นนี้ *** จึงไม่จำเป็นต้องนำตะกรุดขึ้นมาบนบานศาลกล่าวเลย ไม่ใช่ว่าจะบนบานไม่ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าบนได้และยังเห็นผลไวที่สุดด้วยหากแต่อย่าบนแล้วลืมแก้..พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญมากปกติเธอบนใครก็เหมือนพูดกับคนๆนั้นใช่มั๊ย แต่ตะกรุดนี้เหมือนเธอขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วมีคนดูอยู่มหาศาล(ระดับหมื่นโลกธาตุ) เพราะฉนั้นยามผิดคำบนมันจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆพ่อาอจารย์ท่านว่าเพียงขอพรและใช้งานตามปกติก็พอ ถ้าจะบนอะไรให้จดไว้ด้วยและเลือกบนเฉพาะในสิ่งที่แก้ได้เท่านั้น
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    มงคลมหาพิฆาตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราว่าคาถาเพื่อใช้และสะบัดขับออกไป ### มีเคล็ดนิดนึง หากเป็นเรื่องที่ต้องการเห็นผลฉับพลัน ในดอกตะกรุดให้เอากระดาษเขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดตนเองบรรจุไว้ภายใน …เคล็ดนี้ท่านก็ใช้กับดอกประจำตัวของท่านเองท่านว่าจะให้ผลแบบถาวรและเร็วมาก

    คือบรรจุถาวรไปเลยไม่ต้องเอาออกมาอีก แล้วเวลาใช้จะได้ผลทันใจจะเห็นอะไรดีที่น่าอัศจรรย์แก่ชีวิตมากขึ้นไปเรื่อยๆ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    มีถามเข้ามาเลยตอบรวมๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าคาถาสั้นๆจำไม่ยาก เวลาทำสำคัญที่สุดคือก่อนทำจิตเราไหว้ตะกรุดนึกถึงคุณบรมพรหมกับอาทิตย์เทพเพียงนิดนึงชั่วครู่กะพริบตาเท่านั้น ..ทุกวันเมื่อจะทำอย่าลืมเรื่องนี้พอทำแล้วจะเห็นผลมากจนอัศจรรย์ใจตน
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    จากที่ให้ PM นำเสนอและปิดการสอบถามไป มีผู้ถามหาเครื่องมงคลท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีหรือท่านอื่นๆเข้ามามากซึ่งหมดไปนานแล้ว กับขอให้ตรวจค้นว่ามีสายวิชามหาเศรษฐีใดๆพอเหลือให้บูชามั๊ยก็ติดตามกันไว้ถ้าลงจะลงให้แบบเวอไพร้เลยเอาแค่คนติดตามกันจริงๆ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    แจ้งการส่ง ems

    พี่วุฒิชัย ED 4765 4913 3 TH

    พี่ศิระ ED 4765 4914 7 TH

    พี่กฤตยชญ์ ED 4765 4915 5 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,707
    ค่าพลัง:
    +16,544
    ร่วมทำบุญบูชา มหาสิทธิปะทะชะตาพลิกสถานการณ์พระปิดตามนุษย์ทองคำ(กลโลกท่านโชติกะ)

    *** เอาไว้เลี้ยงคนทั้งโลก
    *** เมื่อปรารถนาจะให้แล้วสิ่งใดก็เอาไปได้ทั้งสิ้น
    *** หากไม่ปรารถนาจะเสียไปใครก็เอาไปไม่ได้ไม่มีเสีย,ไม่มีลด,ไม่พร่องลง
    *** ทั้งบรรเทาเหล่ามารร้ายสิ่งที่ติดขัดทั้งปวงให้ย่อยยับลงไป
    *** ทั้งผู้จองล้าง..ผู้จองผลาญ เจ้ากรรมนายเวรย่อมพินาศสิ้น


    มหาสิทธิปะทะชะตาเป็นวิชาสร้างเครื่องมงคลที่พระโชติกะ(อดีตมหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในโลก)ได้บอกให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ เป็นเครื่องมงคลที่มีอำนาจปะทะกับชะตาผู้บูชาได้ แม้ทั่วโลกธาตุจะไม่มีสิ่งใดยินดีเข้าปะทะเพื่อตัวเราแต่วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่เพียงปะทะแต่ยังหักเอาได้ทุกเรื่อง
    - กิจใดที่ไม่เป็นไปตามดวงชะตา! ทั้งที่เราอยากให้เป็น
    - โชคใดที่ไม่มีในโชคชะตา! ทั้งที่เราอยากได้รับ
    - การณ์ใดที่คาดหวังไม่ได้ในดวงชะตา! ทั้งที่เราตั้งใจทำแล้ว
    - ฐานะใดที่เกินฐานการเปลี่ยนแปลงในชะตา! ทั้งที่เราพยายามแล้ว
    พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกเรื่องที่เป็นเรื่องโชคชะตาที่ตัวเราต้องฝืนจนเหนื่อยหอบก็ไม่สามารถพ้นอำนาจชะตากรรมได้ วิชาพระปิดตาชุดนี้คือสร้างไว้ปะทะชะตากรรมอันไม่ได้ดั่งใจทุกเรื่องของเราพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปเธอจะได้...ไม่ต้องเหนื่อย..ไม่ต้องเจ็บ..ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ

    กลโลกท่านโชติกะ
    1.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้มีทรัพย์มากอุปมาว่าเลี้ยงคนได้ทั้งโลก
    2.ท่านโชติกะเศรษฐีเป็นดั่งเเสงสว่างแห่งยุคสมัย
    3.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้มีสมบัติจักรพรรดิที่เกิดด้วยบารมีตน
    4.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้มีสมบัติมหาศาลตักไม่พร่อง
    5.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้ร่ำรวยสูงสุดในพุทธกาล
    6.ท่านโชติกะเศรษฐีคือ
    ผู้อาศัยอยู่ในปราสาทที่พระอินทร์เนรมิตถวาย
    ด้วยบารมีของท่านโชติกะนี้มากถึงขนาดที่ว่าปราสาทที่มนุษย์สร้างไม่อาจรองรับบุญบารมีท่านได้ ต้องเป็นพระอินทร์ลงมาเป็นช่างก่อสร้างเท่านั้นแม้นปราสาทนี้ก็สำเร็จด้วยสัตตะรัตนะทั้ง 7 ประการล้อมให้ทั้งกำแพงแก้วแล้วพระอินทร์จึงนำต้นกัลปพฤกษ์สมบัติคู่ดาวดึงส์สวรรค์(แม้นปรารถนาสิ่งใดต่อกัลปพฤกษ์ก็จะเกิดขึ้นเป็นจริง)มาปลูกไว้ในปราสาท

    ด้วยบารมีของท่านโชติกะนั้นจึงมีมหาขุมทรัพย์ทั้งสี่ขุมเกิดขึ้นที่มุมทั้งสี่ทิศของปราสาทเป็นขุมทรัพย์ที่ย่อมเต็มเสมอไม่มีวันตักพร่องลงได้เลย ทั้งเป็นปราสาทที่ไม่ต้องจุดไฟจุดประทีปใดๆถึงยามกลางคืนหากท่านโชติกะปรารถนาจะให้สว่างในปราสาทนั้นก็ย่อมสว่างดั่งกลางวันด้วยรัศมีแห่งแก้วมณีที่พระอินทร์ใช้สร้างปราสาทนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านโชติกะเศรษฐีนี่เอาดีๆก็คือมหาเทวราชที่ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นเทวราชอยู่ในโลกมนุษย์แม้ยามจะมีคู่ครอง..พระอินทร์ยังต้องไปเชิญนางอตุลกายเทวีซึ่งเป็นนางแก้วจากอุตรกุรุทวีปมาให้ ซึ่งนางได้มาพร้อมกับศิลาทั้ง 3 คือหินโชติปาสาณที่ได้นำมาหุงต้มอาหารใช้ในปราสาทของท่านโชติกะ(ในปราสาทนี้ไม่ต้องก่อไฟให้เกิดควันรำคาญใจเลย)

    ที่เป็นดั่งนี้เพราะสมัยพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านโชติกะนั้น
    - เกิดมาเพื่อเสวยสมบัติที่เกิดจากผลบุญอย่างเดียว จากการที่ได้ถวายมหาทานและไตรจีวรแด่พระวิปัสสีพุทธะพร้อมพระอรหันต์ทั้ง 6 ล้านแปดแสนรูปภายในวิหารที่ท่านสร้างถวายติดต่อกันทั้ง 9 เดือนครบทุกรูป
    - เกิดมาพร้อมสิริมงคลครบถ้วนทุกประการและมหาขุมทรัพย์ ด้วยอานิสงส์โปรยมหาทานสูงถึงหัวเข่าแก่ชนทั้งหลายรอบพระคันธกุฎีวันละ 3 เวลาป่าวประกาศแก่ชนทั้งโลกด้วยความปลื้มปิติว่าใครก็ได้ทุกรูปทุกนามให้มานำทรัพย์นี้ไปตั้งเนื้อตั้งตัว
    - เป็นบุคคลที่โลกนี้ไม่อาจข่มเหงได้ ด้วยได้ขอพระพระวิปัสสีพุทธะไม่ให้มีสิ่งมีชีวิตใดตั้งแต่โจรไปถึงพระราชาตลอดจนคนที่ชื่อว่ามีความสามารถจะข่มเหงท่านได้ ก็ข่มเหงไม่ได้แม้นปรารถนาในทรัพย์ต่อให้เข็มเล่มเดียวก็เอาไปไม่ได้ ทั้งภัยใดอย่าได้บีบคั้นตัดรอนชีวิตและทรัพย์สินของข้าพเจ้า...(พ่ออาจารย์ท่านว่าพรที่ท่านขอพระวิปัสสีนี้สำคัญมาก)
    ท่านโชติกะนี้แม้เกิดมาแล้วก็ยังได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีดุจ "เทพกุมาร" หากปรารถนาสิ่งใดท่านโชติกะ
    ลำบากเพียงอาศัย "มณีรัตนะ" ซึ่งเป็นสมบัติจักรพรรดิทำความปรารถนาของท่านให้สำเร็จได้ทุกประการ เรียกว่าแม้ตัวอยู่บนโลกก็เสวยทิพย์สมบัติดุจดั่งท้าวสักกะเทวราชในแดนดินประดุจอยู่บนสวรรค์บนดิน พระเจ้าพิมพิสารทราบความทั้งหมดจึงส่งฉัตรสถาปนาท่านโชติกะขึ้นเป็นมหาเศรษฐีของกรุงราชคฤห์

    ทั้งทรัพย์ของท่านโชติกะเศรษฐีนั้นหากผู้ใดมีใจคิดปรารถนาคดโกงหรือหวังในสมบัติของท่านต่อให้เป็นพระราชาเจ้าแคว้นกรีฑากองทัพมาล้อมชิง..ถ้าท่านโชติกะไม่ปรารถนาจะให้เพียงเม็ดทรายก็เอาไปไม่ได้(ดั่งที่พระเจ้าอชาติศัตรูเคยจะปล้นชิงก็ไม่ได้รับสิ่งใดกลับไป) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชากลโลกท่านโชติกะนี้ให้คุณแก่ผู้บูชามาก
    1.ให้คุณแก่ผู้บูชา จะไม่อดอยาก
    ดั่งท่านโชติกะเต็มใจมอบหนทางตั้งตัวให้แก่เธอ
    2.ให้คุณแก่ผู้บูชา ดั่งมีสมบัติจักรพรรดิแห่งท่านโชติกะคอยรองรับชีวิตเธอไว้
    3.ให้คุณแก่ผู้บูชา ในทุกกิจ..ทุกการ..ทุกงาน..ทุกสถานที่ที่เธอไป
    4.ให้คุณแก่ผู้บูชา ให้เธอเจริญด้วยข้าวของเงินทองบริวารพร้อมมูลดั่งท่านเศรษฐี
    5.ให้คุณแก่ผู้บูชา แม้นในทุกหนแห่งที่เธอดำรงค์อยู่
    6.ให้คุณแก่ผู้บูชา ในความสุขปิติใจ(ไม่คอยพะวงรันทด)ของเงินทอง
    7.ให้คุณแก่ผู้บูชา เกิดลาภสักการะเพิ่มพูนได้ดั่งขุมทรัพย์มหาจักรพรรดิทั้ง 4 ของท่านเศรษฐี
    8.ให้คุณแก่ผู้บูชา บันดาลให้สิ่งที่ติดขัดทั้งหมดย่อยยับพังพินาศไป
    9.ให้คุณแก่ผู้บูชา บรรเทาแรงกรรมปิดทางคนปองร้ายแม้มากบารมีดั่งพญามารก็พินาศสิ้น


    ท่านโชติกะนั้นเกิดมาก็มีสมบัติเลื่องลือไปทั่วทั้งทวีปถึงขนาดที่..ชนทั้งโลกต้องแห่มาดูสมบัติและบุญบารมีของท่าน แต่เหนือสิ่งใดคือนิสัยและพรที่ท่านขอพระวิปัสสีนี้เมื่อทำ "พระปิดตากลโลกท่านโชติกะ" จึงส่งผลแก่ผู้อาราธนาโดยเฉพาะว่า
    - ให้ตัวเธอ "รับได้" รับในที่นี้คือรับการช่วยเหลือจากท่านโชติกะได้เพราะบารมีของท่านโชติกะนั้นท่านอธิษฐานไว้ดีแล้วว่าตัวท่าน..คือผู้ช่วยให้ชนทั้งหลายตั้งตัวได้ด้วยวาสนาและทรัพย์สมบัติของท่าน(คือท่านทำเช่นนี้มาทุกภพทุกชาติ) ให้มหาชนถือเอาทรัพย์ตามที่ตัวเองคิดว่าจะมีปัญญานำไปนำกลับไปตั้งเนื้อตั้งตัว ด้วยบารมีของท่านปากขุมทรัพย์นั้นมิได้พร่องลงแม้เพียงองคุลีเดียว
    - ให้ตัวเธอ "เป็นบุุคลที่ไม่มีใครข่มเหงได้" ทั้งที่มีฐานะสูงกว่าเหนือกว่าหรือผู้ขึ้นชื่อว่ามีความสามารถมากพอที่จะกดหัวข่มเหงเธอได้
    - ให้ตัวเธอ "ไม่พบอุปสรรคบีบคั้น" เปลี่ยนจากที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจะก้าวขาต่อไปออกไปทางไหนก็ทำไม่ได้เพราะอุปมาว่าชีวิตโดนบีบคั้นจากทุกสถานการณ์ให้เป็นคนที่เดินไปได้ทุกที่
    - ให้ตัวเธอ "ไม่พบกรรมตัดรอนชีวิต" พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ส่งผลไปถึงผู้จองเวร,ผู้ล้างผลาญ,ผู้จองผลาญ,เจ้ากรรมนายเวร เหล่านี้คือเขามีสิทธิ์เอาคืนทวงคืนกับชีวิตเธอเมื่อไหร่ก็ได้
    - ให้ตัวเธอ "ไม่พบภัยในทรัพย์สินทั้งสิ้น" ตรงนี้สำคัญมากคือทรัพย์ไม่เป้นภัยและทรัพย์ขยับขยายเจริญงอกงามออกไปได้ไม่สิ้นสุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปิดตากลโลกท่านโชติกะนี้ทำยาก เพราะต้องใช้ "ชุมแสงนิพพาน" ที่เกิดในบ้านตระกูลเศรษฐี 9 ชั่วโคตรไม่ขาดสักรุ่นมาทำ กว่าจะสืบหาและขอเขาพลีตัดมาได้สักนิดหนึ่งนั้นก็ยากมาก พอทำพระปิดตาท่านว่าทำยากเพราะต้องแช่น้ำว่านน้ำยาตามตำรับของท่านโชติกะที่ให้คุณด้านต่างๆควบรวมไว้ครบถ้วน
    - ย่อมถึงฐานะความเป็นมหาเศรษฐี
    - บารมีจะเพิ่มพูนวาสนาจะไหลมาทั้งสิบทิศ
    - จะมีวาสนาชะตาแห่งสมบัติพัสถานรองรับทุกที่(ด้วยบารมีรัตนะแห่งมหาจักรพรรดิโชติกะ)
    - จะเปิดโชคลาภวาสนาให้ถ่ายเทเข้ามาถึงเธอได้โดยสะดวก
    - อำนวยลาภผลโภทรัพย์ได้อย่างมหาศาล

    - ดั่งชีวิตมีมณีรัตนะเป็นแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว
    - ช่วยปิดเคราะห์ปิดอุปสรรคขวางกั้นทั้งปวง
    - จะทำให้ชีวิตเธอร่มเย็นแม้บ้านเรือนก็ร่มเย็น
    - ชีวิตจะห่างไกลอันตราย,ภัย,คนพาลทั้งปวง
    - รอดจากเคราะห์ร้ายทั้งโชคชะตาที่วิบัติ,ชะตาที่แตกหัก
    - พ้นจากการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปสู่ความตกต่ำ
    - ปิดอันตรายจากสิ่งอัปมงคลและสิ่งไม่ดีไม่งามทั้งปวง
    - ไปอยู่ที่ไหน(หากยังอยู่ในโลก)ก็จะเจริญต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำสิ่งใดย่อมประสบความสำเร็จได้ง่าย..และคนเอาไปใช้ก็ใช้ได้ง่ายๆหากแต่ยากตอนเสกมากๆ *** เพราะข้อแม้ของท่านโชติกะยามเราทำพระปิดตานี้ คือต้องทำทานตลอดเวลาอันใดสละได้เป็นทานได้ในระหว่างพิธีหากมีคนขอก็ต้องยกให้เขาไปทั้งหมด ระหว่างเวลานี้เรียกว่าเอาถึงที่สุดและให้ถึงที่สุดแม้ขอบ้านขอชีวิตถ้าในเวลานั้นฉันก็ต้องให้ ต้องให้โดยอารมณ์ปิติมีแต่อยากเป็นผู้ให้..ให้โดยไม่รู้สึกเสียดาย(ถ้าติดหวงนี่พังเลย) ยิ่งให้ก็ยิ่งปลื้มปีติถ้าเกิดผิดจากนี้คือเสียเลยใช้ไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระปิดตาท่านโชติกะนี้นอกจากบารมีของท่านที่อัญเชิญมาฝังโลหิตธาตุท่านโชติกะซึ่งให้คุณเสมอเลือดเนื้อและชีวิตท่านสถิตย์อยู่กับเรานำมาซึ่งวาสนาบารมีของท่านแบบปราณีตที่สุด หากแต่เมื่อเสกยังต้องทำให้ครบคือ
    1.ขอคุณแห่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์.. ผู้เป็นเลิศอันไม่มีผู้อื่นผู้ใดเลิศยิ่งไปกว่า ทั้งเป็นมหาบุรุษที่ถึงพร้อมทุกสิ่งหาผู้เสมอเหมือนมิได้ เพื่อให้ชีวิตเธอบริบูรณ์ถึงพร้อมในทุกด้าน
    2.ขอคุณแห่งพระอัญญาโกณทัญญะ.. ผู้เป็นพระสงฆ์รูปแรก,ผู้ทำให้พระรัตนตรัยครบองค์สาม เป็นเคล็ดว่าทำอะไรเธอก็ได้ก็สำเร็จก่อนใครและชนะก่อนใครทั้งหมด แม้สิ่งที่ขาดก็มีครบ
    3.ขอคุณแห่งพระกัสสปะ.. ผู้เป็นเลิศกว่าผู้อื่นในธุดงควัตร,ผู้มีร่างกายเสมอเหมือนองค์พระภควันต์พุทธะแม้พระพุทธเจ้ายังยอมรับพระราชทานผ้าสังฆาฎิให้แก่กัสสปะ เป็นเคล็ดว่าให้เธอเป็นใหญ่เป็นที่ยอมรับแก่มหาชนทั้งปวง
    4.ขอคุณแห่งพระสารีบุตร.. ผู้เป็นเลิศทางปัญญาแม้นกอบเม็ดทรายขึ้นมาก็สามารถรู้จบได้ ให้เธอเป็นผู้มีปัญญาฉลาดเฉลียวรู้เท่าทันการณ์ทั้งปวงและชนทั้งหลาย
    5.ขอคุณแห่งพระอุบาลี.. ผู้ทรงพระวินัยอยู่ในกฏระเบียบ ให้ชีวิตเธออยู่ในระเบียบวินัยไม่หลงไปกับอบายมุขสิ่งล่อลวงทั้งปวง
    6.ขอคุณแห่งพระอานนท์.. ผู้เป็นพุทธอุปัฏฐาก,ผู้ได้รับฟังธรรมทั้งหมดของพระพุทธเจ้าดูแลทุกอย่างตั้งแต่ตื่นบรรทมจนจำวัด ให้ชีวิตเธอมีสายตากว้างขวางฉลาดรอบรู้มีผู้อุปถัมภ์
    7.ขอคุณแห่งพระสีวลีและพระควัมปติ.. ผู้เป็นเลิศในโชคลาภ ให้เธอได้ในขุมทรัพย์ทั้งหลายทั้งปวงมีอำนาจบารมีคนเกรงอกเกรงใจ
    8.ขอคุณแห่งพระโมคคัลลานะ.. ผู้ยิ่งในอิทธิปาฎิหาริย์ ให้ชีวิตเธอมีปาฎิหาริย์เนืองๆทำสิ่งใดก็เจริญรุ่งเรืองพูดสิ่งใดก็เป็นเงินเป็นทองมีฤทธิ์ทางใจคิดสิ่งใดก็สำเร็จ แม้ทำการงานก็คล่องแคล่วคล่องตัวมีความสุขสบาย
    9.ขอคุณแห่งพระราหุล.. ผู้ใคร่ต่อการศึกษาเรียนรู้ ให้ชีวิตเธอได้เรียนรู้สนุกไปกับชีวิตไม่รู้จบมีสติปัญญาเป็นเลิศสมบูรณ์ด้วยเกียรติยศชื่อเสียง

    นอกจากนั้นท่านยังต้องทำ "ผงยามหาเมตตาใหญ่" อุดไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงยานั้นทำยากกว่าลบผงนักเพราะต้องใช้แร่ธาตุและว่านยาจำนวนมาก(มีอิทธิคุณแรงกล้ากว่าหมื่นเท่า) ผงยามหาเมตตาใหญ่นี้มีพลังงานขับเคลื่อนที่เรียกว่าเดินกำลังอยู่ตลอดเวลามีอานุภาพแผ่อัปมัญญาคือเมตตากรุณามุทิตาอุเปกขาแก่สรรพชีวิตทั้ง 12 จำพวกออกไปทั้งสิบทิศ ไม่ว่าจะเป็นสัตตา,ปาณา,ภูตา,ปุคคะลา,อัตตะภาวะปริยาปันนา,อิตถิโย,ปุริสา,อริยา,อนริยา,เทวา,มนุสสา,วินิปาติกา พ่ออาจารย์ท่านว่าผงยานี้ทำยากต้องนั่งทำทีละทิศเสกทีละจำพวก จะทำแบบควบรวมทีเดียวไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกถึง 528 ครั้งจึงครอบคลุมทุกทั่วตัวสัตว์ทั้งหมื่นโลกธาตุผงนี้มีคุณใหญ่ไม่นำพาพลังงานอาฆาตแค้นแม้สักนิดหนึ่งก็ไม่มี เป็นมหาเมตตาที่ก่อตัวและสืบเนื่องไปไม่รู้จบ

    - อำนาจแห่งกุศลกรรมจะแผ่ออกไปกว้างใหญ่ไพศาล แรงอกุศลกรรมใดๆไม่แผ้วพาน
    - จะชนะมารทั้งห้าดั่งพระผู้พิชิตมาร(องค์พุทธะชนะพญามาร)
    - บันดาลให้ความปรารถนาทั้งหลายทั้งปวงสำเร็จได้ ด้วยมหาเมตตาใหญ่
    - แม้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็ไม่เบียดเบียนเรา คงอยู่โดยปราศจากการเบียดเบียน
    - มีอำนาจเมตตาแผ่ไปถึงสัตว์ทั้งหลายที่มีกรรมเป็นของตนเอง ตั้งแต่อยู่สูงขึ้นไปในภวัคคพรหมาน ตลอดจนถึงที่อยู่แดนกลางและแดนล่างไปจนถึงนรกอเวจีในจักรวาลโดยรอบ
    - เมื่อยามท่องเที่ยวไปในแผ่นดิน,ในน้ำ,ในอากาศย่อมคงอยู่โดยปราศจากทุกข์และปราศจากอุปัทวอันตราย


    ### ฝังตะกรุดพลิกสถานการณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาตะกรุดพลิกสถานการณ์ของท่านโชติกะนี้ท่านให้ทำใส่เฉพาะพระปิดตาของท่านห้ามเอาไปกระทำใส่วัตถุมงคลใดๆ โดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วควรจะเรียกว่าพลิกสถานการณ์โลกทั้ง 3 ดีกว่าเพราะตอนเสกนั้นนิมิตพลิกฟ้าพลิกดินได้ทั้งหมดเกินกว่าพลิกสถานการณ์ทั่วไปมากๆ นอกจากนั้นยังใช้ในทางสารพัดชุบด้วยไปพร้อมๆกันคือชุบตัว..ชุบชะตา..ชุบราศี..ชุบดวงเช่นนี้จึงเรียกว่าพลิกชีวิตพลิกสถานการณ์ได้จริงแก้ไขปัจจัยเคราะห์ภัยทั้งหมดให้สูญไป .
    1.หากยังติดเคราะห์อยู่ก็จะพ้นไป
    2.หากทำมาหากินไม่ขึ้นจะได้สิ่งที่หวังสมปรารถนา
    3.หากมีโรคาพาธพยาธิไม่หาย ก็จะกลับดีฟื้นคืนมา
    4.แก้อาถรรพ์ภูติผีปีศาจอันมาราวีเบียดเบียน
    5.แก้อาถรรพ์ไสยศาสตร์และของต่ำการฝังรูปฝังรอย
    6.แก้ธรณีสารและเสนียดจัญไรทั้งสิ้น
    7.แก้อัญหาอันถูกเขารังแกข่มเหง
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มันพลิกไปทั้งหมดไม่ให้เธอติดขัดอะไรเลย เรียกว่าแม้อาถรรพ์อุบาทว์ในแผ่นดินนี้ที่เกิดจากที่..เกิดจากทาง..เกิดจากคน..เกิดจากสัตว์ในแผ่นดิน..เกิดจากภูติผีปีศาจที่สิงสถิตย์อยู่..เกิดจากเจ้าที่เจ้าทางอันให้โทษแก่คน ทุกอย่างมันพลิกกลับหมดอุบาทว์อะไรเริ่มมาจากตรงไหนก็กลับไปตรงนั้น ทั้งคำสาปแช่งที่ติดตัวมาหรือโดนใครสาปใครปองร้ายก็ย้อนกลับคืนไปแก่อริศัตรู

    คาถาบูชา
    (มอบให้เฉพาะไว้ใช้อาราธนา)


    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้จองให้แจ้งเวรกรรมที่ติดขัดมาด้วยจะอธิษฐานขอบารมีท่านโชติกะเปิดทางให้

    ร่วมทำบุญบูชา มหาสิทธิปะทะชะตาพลิกสถานการณ์พระปิดตามนุษย์ทองคำ(กลโลกท่านโชติกะ) บูชา 4,000 บาท
    62c4f8c1-b207-4f6d-9212-0773028842ad.jpg
    6c8c914f-4cf9-4444-851d-67ef39535f3d.jpg
    Lifeof-Buddha039.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...