ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. ออนเนอร์

    ออนเนอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +258
    พระชินบัญชร ฉบับย่อ

    ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุสัพพะทา หรือ

    วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ (สวด ๙จบ)
     
  2. natimm

    natimm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +93
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    คาถาเมตตามหานิยม
    ตั้งนะโม ๓จบ
    นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ

    ใช้ภาวนาคาถาก่อนออกจากบ้าน จะทำให้คนที่พบเจอมีความรู้สึกที่ดี การติดต่อใดๆ ก็จะราบรื่นไม่ติดขัด
     
  3. Grey

    Grey Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +42
    ร่วมเล่นเกมส์ค่ะ
    สวดพระคาถาโสฬสมงคล ทุกวันค่ะ

    ....โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรจะมหาทีปา
    ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา
    ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ
    ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา
    สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิสะณุราชา
    สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปะลายังตุ เตสัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม
     
  4. naiburit

    naiburit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    740
    ค่าพลัง:
    +578
    พระคาถามหาจักพรรดิของ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา นั้นเป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก และถือว่ามีพลังครอบจักรวาล ทั้งทำให้ชะตาชีวิตดีขึ้น ปฏิบัติธรรมได้เร็วขึ้น ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม ใช้ปรับพภูมิได้ทุกดวงจิตวิญญาณเพื่อให้ท่านไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น และเป็นคุณกับผู้สวดเป็นอย่างยิ่ง

    วิธีสวด
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ (3 จบ)
    และรวบรวมสมาธิระลึกถึงหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ , หลวงปู่ดู่ วัดสะแก หรือครูบาอาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพ พระคาถานี้มีเคล็ดลับอยู่ที่ให้สวดตามกำลังวัน เช่นถ้าเริ่มสวดตรงกับวันอาทิตย์ก็สวดพระคาถา 6 จบ , วันจันทร์ก็สวดพระคาถา 15 จบ, วันอังคารสวดพระคา 8 จบ, วันพุธสวดพระคาถา 17 จบ, วันพฤหัสบดีสวดพระคา 19 จบ, วันศุกร์สวดพระคาถา 21 จบ, วันเสาร์สวดพระคา 10 จบ ซึ่งจะตรงกับกำลังวันของแต่ละวัน สวดเฉพาะตัวพระคาถามหาจักรพรรดิ ส่วนบทอื่น ๆ ก็สวดตามจำนวนที่บอกไว้ด้านล่าง ค่อย ๆ สวดทีละบทไล่ลงไปจนถึงบทแผ่เมตตา
    และจะให้ดียิ่งขึ้นควรสวดตอน 2 ทุ่มครึ่ง เพราะในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาเปิดที่เหล่าเทพเทวดาจะมาร่วมอนุโมทนา และมีลูกศิษย์สายหลวงปู่ดู่กำลังสวดอยู่เป็นจำนวนมาก

    พระคาถามหาจักรพรรดิ
    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะปูเชมิ

    พระคาถาสำหรับแผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาณ และเชิญพระเข้าตัว
    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
    ( 5 จบ )

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    (ให้อธิษฐานจิตแผ่บุญไปทั่วทั้งสามโลกธาตุภพภูมิทั้งหมดทั้งมวล รวมทั้งบิดามารดา ญาติ เทวดารักษาตัว เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ และส่งวิญญาณ)

    ที่มา: http://prakatha.blogspot.com/2010/10/blog-post_25.html
     
  5. Pook1324

    Pook1324 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า สวด 9 จบ
    อิติปิ โส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ

    คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ใช้ในการกระทำอะไรทั้งหลายทั้งปวง ที่จะเป็นมงคลหรือป้องกันสรรพภัยได้ร้อยแปด ให้สวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้าทุกคืน ๆ ละ 9 จบ อานุภาพของพระคาถา ศัตรูจะพินาศเองเมื่อคิดประทุษร้าย จะเกิดผลในด้านมงคลทุกประการ
     
  6. PALA 5

    PALA 5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +822
    ร่วมเล่นเกมส์

    คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
    ตั้งนะโมสามจบ น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่าคาถาดังนี้

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา ( ๓ ครั้ง )
     
  7. paramajan_t

    paramajan_t Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +112
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    พระคาถาธารณปริตร


    น้อมรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระเมตตาธิคุณ

    พระมหากรุณาธิคุณ แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

    โดยกล่าวคำนอบน้อมนมัสการคือ


    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ๓ จบ


    ๑.พุทธานัง ชิวิตตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ อันตะราโย กาตุง ตถา เม โหตุ

    อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง อนาคตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง

    ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง

    ๒.อิเมหิ ตีหิ ธัเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต

    สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง

    สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง

    ๓.อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต

    นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ นัตถิ ธัมมะเทสนายะ หานิ นัตถิ วิริยัสสะ หานิ นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ

    นัตถิ สมาธิธัสสะ หานิ นัตถิ วิมุตติยา หานิ

    ๔.อิเมหิ ทะวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต

    นัตถิ ทะวา นัตถิ ระวา นัตถิ อัปผุฏฏัง นัตถิ เวคายิตัตตัง นัตถิ พะยาวะฏะมะโน นัตถิ อัปปฏิสังขารุเปกขา

    ๕.อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง

    สัมมาสัมพุทธัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจริตตัง

    นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มโนทุจริตตัง นัตถิ อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ อนาคตัง เส

    พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง นัตถิ ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง

    นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

    นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

    นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง

    อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง ตาณังเลณัง สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง

    ๖.อิมัง อานันทะ ธาระณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ
    ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเกนะ ลัคเคยยะ อัคคีนะ ทะเหยยะ นานาภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก นะ ทะวิหาระโก นะ ติหาระโก นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง นะ มุฬะหะกัง มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา

    ๗.ตัง ธาระณัง ปริตตัง ยถา กะตะเม

    ชาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

    ๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง สัตตังสะเตหิ สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

    วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธาระเณ

    อิลลิ มิลลิ ติลลิ มิลลิ โยรุกเข มหาโยรุกเข ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง

    ๙.อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ นะ วุติยา สัมมาสัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง

    ทิฏฐิลา ทัณทิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา.





    คำแปลพระคาถาธารณปริตร


    ๑.อันชีวิตแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย อันใครๆ ไม่อาจทำอันตรายได้ฉันใด

    ขอชีวิตความเป็นอยู่แห่งข้าพเจ้า จงเป็นเหมือน เช่นกัน

    อันว่าญาณที่ไม่มีเครื่องกระทบของพระพุทธเจ้าผู้มีบุญมีย่อมมีในอดีต ในอนาคต ในปัจจุบัน

    ๒.อันว่ากายกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ

    อันว่าวจีกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ

    อันว่ามโนกรรมทั้งปวงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้มีญาณเป็นประธานเป็นไปตามญาณ

    ๓.อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของประโยชน์ที่ประสงค์ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีบุญ ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๖ ประการเหล่านี้


    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงแห่งการแสดงธรรม ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของความเพียร ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงของวิปัสสนาญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลงแห่งกามาวจรและรูปาวจรวิมุตติ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ๔.อันว่าการพูดเล่น ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ผู้ประกอบด้วยคุณธรรมทั้งหลาย ๑๒ ประการเหล่านี้

    อันว่าการพูดพลั้งเผลอโดยขาดสติ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าความไม่แพร่หลายในเญยยะธรรม ๕ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าการกระทำใดๆ อย่างผลุนผลัน โดยไม่การพิจารณาเสียก่อน ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าความมีใจวุ่นวายด้วยกิเลส ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าการกระทำที่ไม่มีอุเบกขาในเตภูมิสังขาร ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัม
    พุทธเจ้า

    ๕.อันว่าความเคารพนอบน้อม ขอจงมีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๑๘ ประการเหล่านี้

    อันว่ากายทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต

    อันว่าวจีทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต

    อันว่ามโนทุจริต ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต

    อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในอดีต

    อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในปัจจุบัน

    อันว่าญาณ อันมีเครื่องกระทบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในอนาคต

    อันว่ากายกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่าวจีกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแด่องค์สมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    อันว่า ธารณปริตร นี้ ไม่มีเครื่องเทียบ ไม่มีเครื่องเสมอเหมือน เป็นที่ต่อต้าน เป็นที่หลบซ่อนของสัตว์

    ผู้ที่กลัวภัยในสังสารวัฏทั้งหลาย อัคคัง ประเสริฐ มหาเตชัง มีเดชมาก

    ๖.ดูกรอานนท์ ท่านจงท่องจดจำ สอบถาม ซึ่งธารณปริตรนี้

    อันว่ากายของผู้ท่องสวดมนต์ธารณปริตรนี้ ไม่พึงตายด้วยพิษงู พิษนาค

    ไม่พึงตายในน้ำ อันว่าไฟไม่พึงไหม้เป็นผู้พ้นภัยพิบัติต่างๆ

    ใครคิดทำร้ายในวันเดียวก็ไม่สำเร็จ ใครคิดร้ายทำลายในสองวัน สามวัน สี่วัน...ก็ไม่สำเร็จ

    ไม่พึงเป็นโรคหลงลืม ไม่พึงเป็นบ้าใบ้ อันอมนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถเบียดเบียนได้

    ๗.อันว่าธารณปริตรนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ

    ชาโล มีอานุภาพเหมือนพระอาทิตย์ ประชุมกัน ๗ ดวง ที่ขึ้นมาในเวลาโลกาพินาศ

    มหาชาโล มีอานุภาพเหมือนมุ้งเหล็ก ที่สามารถป้องกันภัยจาก เทวดา อินทร์ นาค ครุฑ ยักษ์ เป็นต้น

    ชาลิตเต มีอานุภาพประหารศัตรูทั้งหลาย

    มหาชาลิตเต มีอานุภาพให้พ้นจากกัปทั้ง ๓ คือ โรคันตรกัป, สัตถันตรกัป และทุพภิกขันตรกัป

    มีอานุภาพให้พ้นจากโลกต่างๆ ในเวลาปฏิสนธิคือ การเป็นใบ้ เป็นพิการ เป็นคนหูหนวก

    อีกทั้งไม่พึงตกต้นไม้ ตกเหว ตกเขาตาย สามารถได้สมบัติที่ยังไม่ได้

    ทรัพย์สมบัติที่ได้มาแล้วก็จะเจริญขึ้นโดยความเป็นจริง สามารถประหารความมืด แล้วได้ความสว่าง

    ๘.ดูกรอานนท์ อันธารณปริตร ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงตรัสไว้พึงสมาคมคนดี ไม่พึงสมาคมคนชั่ว

    พึงนำมาซึ่งกลิ่นและรสอันเป็นธรรม พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจดี ไม่พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจร้าย พึงทำกายให้เป็นกายดี พึงนำมาแต่สิ่งอันเป็นกุศล ไม่ถึงนำมาซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศล พึงฟังแต่สิ่งที่ดีไม่พึงฟังสิ่งที่ไม่ดี พึงเห็นแต่นิมิตดี ไม่ถึงเห็นนิมิตร้าย
    โยรุกเข ต้นไม้ที่ตายแล้วสามารถฟื้นขึ้นมาได้

    มหาโยรุกเข ต้นไม้ที่ยังเป็นอยู่ ก็ทำให้เจริญงอกงามโดยความเป็นจริง

    สามารถประหารความมืด แล้วได้ความสว่าง

    ๙.ดูกรอานนท์ อันธารณปริตรนี้ สามารถรู้ความคิดร้ายของผู้อื่น

    อาวุธต่างๆ มีเครื่องประหาร เช่น มีด หอก ปืน ไฟ เป็นต้น ไม่สามารถทำอันตรายได้

    มันติลา สามารถทำน้ำมนต์คาถา ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น สามารถประหารโรคต่างได้ และโรคร้ายแรงต่างๆ ไม่อาจทำอันตรายได้

    ทุพพิลา สามารถหลุดพ้นจากเครื่องผูกมัด

    ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดีมีชัยจงมีแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อเถิด
     
  8. PaChaRah

    PaChaRah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +63
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    บทสวดมนต์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

    นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
    ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
    สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
    โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
    สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
    โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
    ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
    ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
    สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
    อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
    สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
    ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
    สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
    กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
    กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโว ฯ
    เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม วะจะสา มะนะสา เจวะ
    วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา
     
  9. po_ood

    po_ood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    บทสวดมนต์ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (อิติปิโส)

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.

    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ.

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
     
  10. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    บทสวดมนต์



    บทชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา)

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ )

    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติฯ

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ

    พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
    ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
    โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
    ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
    ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
    เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
    ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
    อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
    จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกาวาทะเกตุง
    วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
    ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
    พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

    เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฉฐะคาถา โย
    วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
    โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

    มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ

    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัมหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต



    บทชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) (แปล)

    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง (สามครั้ง)

    ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้าเป็นสะระณะ
    ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้าเป็นสะระณะ
    ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเป็นสะระณะ

    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้าเป็นสะระณะ
    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้าเป็นสะระณะ
    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเป็นสะระณะ

    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้าเป็นสะระณะ
    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้าเป็นสะระณะ
    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเป็นสะระณะ

    พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ทรงแจกจ่ายธรรม เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้ดีโดยชอบด้วยพระองค์เอง ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชา และ จรณะ (ความรู้และความประพฤติ) เสด็จไปดี (คือไปที่ใดก็ยังประโยชน์ให้ที่นั้น) ทรงรู้แจ้งโลก ทรงเป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก หาผู้อื่นเปรียบมิได้ ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงเป็นผู้ตื่น ทรงเป็นผู้แจกจ่ายธรรม

    พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว อันผู้ปฏิบัติเห็นชอบได้ด้วยตนเอง ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา ควรเรียกมาดูได้ ควรนอบน้อมเข้าไปหา อันผู้รู้พึงรู้ได้ด้วยตนเอง

    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติตรง พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความรู้ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติชอบ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคนั้น จัดเป็นบุรุษสี่คู่ เป็นบุคคลแปด เป็นผู้ควรบูชา เป็นผู้ควรรับทิกษิณา เป็นผู้ควรกราบไหว้ เป็นเนื้อนาบุญของโลก หาสิ่งอื่นเปรียบมิได้

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นจอมของนักปราชญ์ ทรงชนะพญามารพร้อมด้วยเสนา ซึ่งเนรมิตแขนได้ตั้งพัน มีมือถืออาวุธครบทั้งพันมือ ขี่ช้างคิรีเมขล์ ส่งเสียงสนั่นน่ากลัว ทรงชนะด้วยธรรมวิธีมีทานบารมี เป็นต้น และด้วยเดชะของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะอาฬวกยักษ์ผู้โหดร้ายบ้าคลั่ง น่าสพึงกลัว ซึ่งต่อสู้กับพระองค์ ตลอดทั้งคืนรุนแรงยิ่งกว่าพญามาร จนละพยศร้ายได้สิ้น ด้วยขันติธรรมวิธีอันพระองค์ได้ฝึกไว้ดีแล้ว และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพญาช้าง ชื่อ นาฬาคิรี ซึ่งกำลังตกมันจัด ทารุณโหดร้ายยิ่งนัก ดุจไฟป่าจักราวุธและสายฟ้า ด้วยพระเมตตาธรรม และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะมหาโจร ชื่อ องคุลีมาล ในมือถือดาบเงื้อง่าโหดร้ายทารุณยิ่ง วิ่งไล่ตามพระองค์ห่างออกไปเรื่อย ๆ เป็นระยะทางถึง ๓ โยชน์ ด้วยทรงบันดาลมโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ) และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะคำกล่าวใส่ร้ายท่ามกลางชุมชน ของนางจิญจมาณวิกา ผู้ผูกท่อนไม้ซ่อนไว้ที่ท้องแสร้งทำเป็นหญิงมีครรภ์ ด้วยความจริง ด้วยความสงบเยือกเย็นด้วยวิธีสมาธิอันงาม และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะสัจจกนิครนถ์ ผู้เชิดชูลัทธิของตนว่าจริงแท้อย่างเลิศลอย ราวกับชูธงขึ้นฟ้า ผู้มุ่งโต้วาทะกับพระองค์ ด้วยพระปัญญาอันเป็นเลิศดุจประทีปอันโชติช่วง ด้วยเทศนาญาณวิถี และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพญานาคชื่อนันโทปนันทะ ผู้หลงผิดและมีฤทธิ์มาก ด้วยทรงแนะนำวิธี และ อิทธิฤทธิ์แก่พระโมคคัลลานะ พระเถระภุชงค์ พุทธบุตร ให้ไปปราบจนเชื่อง และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    สมเด็จพระผู้มีพระภาค พระจอมมุนีทรงชนะพรหม ชื่อ ท้าวพูกะ ผู้รัดรึงทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดไว้แนบแน่น โดยสำคัญผิดว่าตนบริสุทธิ์มีฤทธิ์รุ่งโรจน์ด้วยวิธีวางยาอันวิเศษ คือ เทศนาญาณ และด้วยเดชของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    แม้นรชนใดไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพุทธชัยมงคลคาถา ๘ บทนี้ ทุกวัน ย่อมเป็นเหตุให้พ้นอุปัทวอันตรายทั้งปวง นรชนผู้มีปัญญาย่อมถึงซึ่งความสุขสูงสุดแล สิวโมกข์นฤพานอันเป็นเอกันตบรมสุข

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุด ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    ขอข้าพเจ้าจงมีชัยชนะในชัยมงคลพิธี ดุจพระจอมมุนีผู้ยังความปีติยินดีให้เพิ่มพูนแก่ชาวศากยะ ทรงมีชัยชนะมาร ณ โคนต้นมหาโพธิ์ทรงถึงความเป็นเลิศยอดเยี่ยม ทรงปีติปราโมทย์อยู่เหนืออชิตบัลลังก์อันไม่รู้พ่าย ณ โปกขรปฐพี อันเป็นที่อภิเษกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ฉะนั้นเถิด เวลาที่กำหนดไว้ดี งานมงคลดี รุ่งแจ้งดี ความพยายามดี ชั่วขณะหนึ่งดี ชั่วครู่หนึ่งดี การบูชาดี แด่พระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กายกรรมอันเป็นกุศล วจีกรรมอันเป็นกุศล มโนกรรมอันเป็นกุศล ความปรารถนาดีอันเป็นกุศล ผู้ได้ประพฤติกรรมอันเป็นกุศล ย่อมประสบความสุขโชคดี เทอญ

    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ



    พาหุงมหาการุณิโก คืออะไร

    (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)

    พาหุงมหากา คือ บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วก็ พรพาหุงอันเริ่มด้วย พาหุงสะหัส จนไปถึง ทุคคาหะทิฏฐิ แล้วเรื่อยไปจนถึง มหาการุณิโกนาโถหิตายะ และจบลงด้วย "ภะวะตุสัพพะมังคะลัง สัพพะพุทธา สัพพะธรรมา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต" อาตมาเรียกรวมกันว่า "พาหุงมหากาฯ"

    อาตมาจึงเข้าใจในบัดนั้นเองว่า บทพาหุงนี้คือ บทสวดมนต์ที่ สมเด็จพระพนรัตน์ วัด ป่าแก้ว ได้ถวายให้พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้สวดเป็นประจำ เวลาอยู่กับพระบรมราชวัง และในระหว่างศึกสงคราม จึงปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ทรงรบ ณ ที่ใดทรงมีชัยชนะอยู่ตลอดมา มิได้ทรงเพลี่ยงพล้ำเลย แม้จะเพียงลำพังสองพระองค์กับสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า ท่ามกลางกองทัพพม่า ด้วยการกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ณ ดอนเจดีย์ปูชนียสถาน แม้ข้าศึกจะยิงปืนไฟเข้าใส่พระองค์ในตอนที่เข้ากันพระศพของพระมหาอุปราชาออกไปราวกับห่าฝนก็มิปาน แต่ก็มิได้ต้องพระองค์ ด้วยเดชะพาหุงมหากา ที่ทรงเจริญอยู่เป็นประจำนั่นเอง อาตมาได้พบตามที่นิมิตแล้วก็ไต่ขึ้นมาด้วยความสบายใจ ถึงปากปล่องที่ลงไป เนื้อตัวมีแต่หยากไย่ เดินลงมาแม่ชีเห็นเข้ายังร้องว่า หลวงพ่อเข้าไปในโพรงนั่นมาหรือ แต่อาตมาไม่ตอบ

    ตั้งแต่นั้นมา อาตมาจึงสอนการสวดพาหุงมหากาฯ ให้แก่ญาติโยมเป็นต้นมา เพราะอะไร เพราะพาหุงมหากานั้น เป็นบทสวดมนต์ที่มีค่ามากที่สุด มีผลดีที่สุด เพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดา จากพญาวัสดีมาร จากอาฬาวกะยักษ์ จากช้างนาฬาคีรี จากองคุลิมาล จากนางจิญมานวิกา จากสัจจะกะนิครนธ์ จากพญานันโทปนันทนาคราช และท่านท้าวผกาพรหม เป็นชัยชนะที่พระพุทธองค์ทรงได้มา ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ ผู้ใดได้สวดไว้เป็นประจำทุกวัน จะมีชัยชนะ มีความเจริญรุ่งเรือง ตลอดกาลนาน มีสติระลึกได้จะตายก็ไปสู่สุคติภูมิ

    ขอให้คุณโยมช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วยนะ ว่าให้สวดพาหุงมหากากันให้ถ้วนหน้า นอกจากจะคุ้มตัวแล้วยังคุ้มครอบครัวได้ สวดมาก ๆ เข้า สวดกันทั้งหลายประเทศ ก็ทำให้ประเทศมีแต่ความรุ่งเรือง พวกคนพาลสันดานหยาบก็แพ้ภัยไปอย่างถ้วนหน้า

    ไม่เพียงแต่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้น ที่พบความมหัศจรรย์ของพบพาหุงมหากา แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงพบเช่นกัน โดยมีบันทึกโบราณบอกไว้ดังนี้

    "เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้วก็ทรงเล็งเห็นว่า สงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไปจะต้องหนักหนาและยืดยาว จึงทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้น แล้วนิมนต์พระเถระทั้งหลายมาสวดบทพาหุงมหากาบรรจุไว้ในองค์พระ และพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตาม พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้วยการเจริญพาหุงมหากา จึงบันดาลให้ทรงกู้ชาติสำเร็จ"
     
  11. Maestro

    Maestro เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    676
    ค่าพลัง:
    +2,411
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    คาถาชินบัญชร โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา
    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ
    ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง
    ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ
    ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงหลวงปู่โตและตั้งคำอธิษฐานแล้วเริ่มสวด

    เริ่มสวด นโม 3 จบ

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐาน

    ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง
    อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะ ราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
    มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

    ๑. ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.

    ๒. ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา.

    ๓. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.

    ๔. หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก.

    ๕. ทักขิเณสะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.

    ๖. เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว.

    ๗. กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเนนัจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร.

    ๘. ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลี นันทะสีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเฏ ตีละกา มะมะ.

    ๙. เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอตาสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเต เชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.

    ๑๐. ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง.

    ๑๑. ขันทะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา.

    ๑๒. ชินาณา วะระสังยุตตา สัตตะปาการะลังกะตา
    วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชณัตตุปัททะวา.

    ๑๓. อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.

    ๑๔. ชินะปัญชะระมัชณัมหิ วิหะรันตัง มะฮีตะเล
    สะทา ปาเลน ตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.

    ๑๕. อิจเจวะมันโต สุคุโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ ชิตูปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติ.

    คาถานี้พอเจอกับตัวเอง ขอให้เจอครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนเราได้ก็ได้เจอ ยังกับปาฎิหาร์ย คาถานี้ศักดิ์สิทธิ์จริงๆครับ

    กราบหลวงปู่โตครับ
     
  12. ยอดกตัญญู

    ยอดกตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +329
    บทสวดนี้ชื่อ จุลชัยยะมงคลคาถา หรือชัยมงคลคาถา หรือในท้องถิ่นอีสานเรียนสวดไชยน้อย ประพันธ์ในสมัยล้านช้างร่มขาว ประเทศลาวโดยพระมหาปาสมันตระมหาเถร ว่าด้วยชัยชนะของพุทธเจ้าต่อเทพพรหม ครุฑ นาค ปีสาจ ฯลฯ และอวมงคลทั้งหลาย

    นิยมสวดในยุคสมัย หลวงปู่ เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ ปัจจุบันนี้มีสวดเพียงไม่กี่ที่ ในอีสานจะเห็นสวดที่วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หรือวัดที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปงพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี และสวดเนื่องในงานที่สำคัญ ๆ


    นะโม เม พุทธะ เตชัสสา ระตะนะตะยะ ธัมมิกา
    เตชะ ปะสิทธิ ปะสีเทวา นารา ยะปะระเมสุรา
    สิทธิ พรัหมา จะ อินทา จะ จะตุโลกา คัมภี รักขะกา
    สะมุททา ภูตุง คังคา จะ สะหรัมพะ ชัยยะ ปะสิทธิ ภะวันตุ เต

    ชัยยะ ชัยยะ ธ รณิ ธ รณี อุทะธิ อุทะธี นะ ทิ นะ ที
    ชัยยะ ชัยยะ คะคนละตนละนิสัย นิรัยสัย เสน นะ เมรุราช ชะพล น ระชี
    ชัยยะ ชัยยะ คัมภีระ โสมภี นาเคน ทะนาคี ปิศาจ จะ ภูตะกาลี
    ชัยยะ ชัยยะ ทุน นิมิต ตะ โรคี ชัยยะ ชัยยะ สิงคีสุทา ทา นะมุขะชา

    ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ศาตรา ชัยยะ ชัยยะ จัมปาทินาคะ กุละคัณโถ

    ชัยยะ ชัยยะ คัชชะคน นะตุรง สุกะระภุชง สีหะ เพียคฆะ ทีปา
    ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ยาตรา ชิตะ ชิตะ เสน นารี ปุนะสุทธิ น ระดี

    ชัยยะ ชัยยะ สุขา สุขา ชีวี ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี ตะเล สะทา สุชัยยา
    ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี สาน ติน สะทา

    ชัยยะ ชัยยะ มังกะ ราชรัญญา ภะวัคเค ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะยักเข

    ชัยยะ ชัยยะ รักขะเส สุระภุ ชะเตชา ชัยยะ ชัยยะ พรัหเมนทะคะณา

    ชัยยะ ชัยยะ ราชา ธิราช สาชชัย ชัยยะ ชัยยะ ปะฐะวิง สัพพัง

    ชัยยะ ชัยยะ อะระหันตา ปัจเจกะพุทธะสาวัง ชัยยะ ชัยยะ มะเหสุโร หะโรหะริน เทวา

    ชัยยะ ชัยยะ พรัหมา สุรักโข ชัยยะ ชัยยะ นาโค วิรุฬหะโก วิรูปักโข จันทิมา ระวิ

    อินโท จะ เวนะเตยโย จะ กุเวโร วะรุโณปิจะ
    อัคคิ วาโย จะ ปาชุณโห กุมาโร ธะตะรัฏฐะโก
    อัฏฐาระสะ มะหาเทวา สิทธิตาปะสะอาทะโย
    อิสิโน สาวะกา สัพพา ชัยยะ ราโม ภะวันตุ เต
    ชัยยะ ธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะสะปาโล จะ ชัยยะกัง
    เอเตนะ ชัยยะเตเชนะ ชัยยะ โสตถี ภะวันตุ เต
    เอเตนะ พุทธะเตเชนะ โหตุ เต ชัยยะมังคะลัง


    ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา พ๎รัหมะคะณา มะเหสิโน

    ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา อินทะคะณา มะเหสิโน

    ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา เทวะคะณา มะเหสิโน

    ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา สุปัณณะคะณา มะเหสิโน

    ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา นาคะคะณา มะเหสิโน

    ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา สะหรัมพะคะณา มะเหสิโน


    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักกะยานัง นันทิวัฑฒะโน
    เอวัง ตฺวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
    อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
    สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง

    สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พ๎รัหมะจาริสุ
    ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
    ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณีธี เต ปะทักขิณา
    ปะทักขิณานิ กัตฺวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ


    เต อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสาสะเน
    อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ
    สุณันตุ โภนโต เย เทวา อัสมิง ฐาเน อะธิคะตา
    ฑีฆายุกา สะทา โหนตุ สุขิตา โหนตุ สัพพะทา
    รักขันตุ สัพพะสัตตานัง รักขันตุ ชินะสาสะนัง

    ยา กาจิ ปัตถะนา เตสัง สัพเพ ปูเรนตุ มะโนระถา
    ยุตตะกาเล ปะวัสสันตุ วัสสัง วัสสา วะราหะกา
    โรคา จุปัททะวา เตสัง นิวาเรนตุ จะ สัพพะทา
    กายาสุขัง จิตติสุขัง อะระหันตุ ยะถาระหัง

    อิติ จุลละชัยยะสิทธิมังคะลัง สะมันตัง
     
  13. sos1234

    sos1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,131
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    คาถาใช้อาราธนาพระขุนแผนเกราะเพชร วัดท่าขนุน

    อิติปาระมิตาติงสา
    อิติสัพพัญญูมาคะตา
    อิติโพธิมะนุปปัตโต
    อิติปิโสจะเตนะโม
    นะ โม พุท ธา ยะ
     
  14. runkey

    runkey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,114
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    บทสวดที่สวดประจำครับ
    เป็นบท จุลชัยยะมงคลคาถา
    นะโม เม พุทธะ เตชัสสา ระตะนะตะยะ ธัมมิกา
    เตชะ ประสิทธิ ปะสีเทวา นารา ยะปะระเมสุรา
    สิทธิ พรัหมา จะ อินทา จะ จะตุโลกา คัมภี รักขะกา
    สะมุทา ภูตุง คังกา จะ สะพรัหมา ชัยยะ ประสิทธิ ภะวันตุเต

    ชัยยะ ชัยยะ ธ รณี ธ รณี อุทะธิ อุทะธิ นะ ทิ นะ ที
    ชัยยะ ชัยยะ คะคน ละตน ละนิสัย นิรัย สัยเสน นะ เมรุราช ชะพล น ระชี
    ชัยยะ ชัยยะ คัมภี ระ โสมภี นาเคน ทะนาคี ปิ ศาจ จะ ภู ตะกาลี
    ชัยยะ ชัยยะ ทุน นิมิต ตะ โรคี ชัยยะ ชัยยะ สิงคีสุทา ทา นะมุขะชา

    ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ศาตรา ชัยยะ ชัยยะ จัม ปาทินา คะ กุละคัณโถ

    ชัยยะ ชัยยะ คัชชะคน นะตุรง สุกะระภุ ชง สีหะ เพียคฑะ ทีปา
    ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ยาตรา ชิตะ ชิตะ เสน นารี ปุนะสุทธิ น ระดี

    ชัยยะ ชัยยะ สุขา สุขา ชีวี ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี ตะเล สะทา สุชัยยา
    ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี สาน ติน สะทา

    ชัยยะ ชัยยะ มังกะ ราชรัญญา ภะวัคเค ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะยักเข

    ชัยยะ ชัยยะ รักขะเส สุระภุ ชะเตชา ชัยยะ ชัยยะ พรัหมเมณ ทะคะณา

    ชัยยะ ชัยยะ ราชา ธิราช สาชชัย ชัยยะ ชัยยะ ปะฐะวิง สัพ พัง

    ชัยยะ ชัยยะ อะระหันตา ปัจเจ กะพุทธะสา วัง ชัยยะ ชัยยะ มะเห สุโร หะโร หะริน เทวา

    ชัยยะ ชัยยะ พรัหมา สุรักโข ชัยยะ ชัยยะ นาโค วิรุฬ หะโก วิรู ปักโข จัน ทิมา ระวิ

    อินโท จะ เวนะ เตยโย จะกุเว โร วะรุโณ ปิ จะ
    อัคคิ วาโย จะ ปา ชุณโห กุมาโร ธะตะรัฏฏะโก
    อัฏฐา ระสะ มะหา เทวา สิทธิตา ปะสะอา ทะโย
    อิสิ โน สา วะกา สัพ พา ชัย ยะ ราโม ภะวัน ตุเต
    ชัยยะ ธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะสะปาโล จะ ชัยยะ กัง
    เอเต นะ ชัยยะ เต เชนะ ชัยยะ โสตถี ภะวันตุ เต
    เอเตนะ พุทธะ เต เชนะ โหตุ เต ชัยยะมัง คะลัง


    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัยะตะทา พรัหมะคะนา มะเหสิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัย ยะตะทา อินทะ คะณา มะเห สิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัยยะตะทา เทวะ คะณา มะเห สิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มันเฑ ปะโม ทิตา ชัยยะตะทา สุปัณณะ คะนา มะเหสิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มา รัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัยยะตะทา นาคะ คะณา มะเหสิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตาชัยยะตะทา สะพรัหมะคะณา มะเหสิโน



    ชะยันโต โพธิยา มูเล สัก กะยานัง นันทิ วัฑฒะโน
    เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมัง คะเล
    อะปะรา ชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปก ขะเร
    อะภิเสเก สัพ พะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโม ทะติ
    สุนักขัตตัง สุมัง คะลัง สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง

    สุกขะโน สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ
    ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
    ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณีธี เต ปะทักขิณา
    ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภัณตัตเถ ปะทักขิเณ


    เต อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสา สะเน
    อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิญาติภิ
    สุณันตุ โภนโต เยเทวา อัสมิง ฐาเน อะธิคะตา
    ฑีฆายุกา สะทา โหนตุ สุขิตา โหนตุ สัพพะทา
    รักขันตุ สัพพะสัต ตานัง รักขันตุ ชินะสาสะนัง

    ยา กาจิ ปัตถะนา เตสัง สัพเพ ปูเรนตุ มะโนระถา
    ยุตตะกาเล ปะวัสสันตุ วัสสัง วัสสา วะราหะกา
    โรคา จุปัททะวา เตสัง นิวาเรนตุ จะ สัพ พะทา
    กายาสุขัง จิตติสุขัง อะระหันตุ ยะถาระหัง

    อิติ จุลละชัยยะสิทธิมังคะลัง สะมันตัง
    คำแปล

    บทสวดพรรณนาชัยชนะของพระพุทธเจ้า เหนือหมู่มารทั้งปวง
    ทั้งล่วงพ้นอำนาจท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ และเป็นชัยชนะเหนือเทวดาทุกๆ ชั้น
    ทั้งเป็นชัยชนะอมนุษย์ ยักษ์ ภูติผีปีศาจ อาวุธทั้งหลายก็ทำอันตรายไม่ได้
    ทั้งชัยชนะพญานาคราช ทั้งพระจันทร์ พระอาทิตย์ พระอินทร์ พระพรหม
    ทั้งลม และไฟ ก็ทำอันตรายไม่ได้
    ขอเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ ๑๘ พระองค์ จงมารักษา
    ทั้งพระฤาษี พระสาวก พระธรรม พระสงฆ์ จงมาอวยชัย
    ขอความสวัสดีมีชัยจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระรัตนตรัย
    ในครั้งนั้น มารผู้ชั่วช้าได้พ่ายแพ้ต่อพระรัศมีของพระพุทธเจ้า
    ครั้นแล้วพระองค์ก็ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ
    พระพรหม พระอินทร์ เทวดาทั้งหลาย ผู้มีเดชานุภาพมาก
    ทั้งหมู่พญานาค หมู่พญาครุฑผู้มีศักดายิ่งใหญ่
    ต่างชื่นชมชอบใจในชัยชนะของพระพุทธเจ้า ต่อหมู่มาร ณ โพธิบัลลังก์
    เป็นชัยชนะที่เป็นอุดมมงคล ทั้งเป็นฤกษ์ดียามดี
    และขณะดีที่ได้ประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ขององค์สม เด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ขอความสวัสดีมีชัย จงมีแก่ท่านด้วยเดชแห่งคุณพระรัตนตรัย
    ขอให้ท่านจงได้รับประโยชน์และความสุข
    ทั้งเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา ขอให้มีอายุยืนยาว
    ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้ได้ดังใจประสงค์
    และปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง ทั้งห่างไกลความทุกข์
    ขอให้ประสบสุขทั้งกายและใจ
     
  15. mokku

    mokku Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +70
    ร่วมเล่นเกมส์ค่ะ

    บทสวด ปฏิจจสมุปบาท

    อิธะ ภิกขะเว อะริยะสาวะโก ปะฏิจจะสะมุปปาทัญเญวะ สาธุกัง โยนิโสมะนะสิกะโรติ
    (ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ย่อมกระทำไว้ในใจ โดยแยบคายเป็นอย่างดี ซึ่งปฏิจจสมุปบาทนั่น เทียว ดังนี้ว่า)
    อิมัส๎มิง สะติ อิทัง โหติ (ด้วยอาการอย่างนี้ เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี)
    อิมัสสุปปาทา อิทัง อุปปัชชะติ (เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงเกิดขึ้น)
    อิมัส๎มิง อะสะติ อิทัง นะ โหติ (เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี)
    อิมัสสะ นิโรธา อิทัง นิรุชฌะติ (เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงดับไป)
    ยะทิทัง (ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ)
    อวิชชาปัจจะยา สังขารา (เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี)
    สังขาระปัจจะยา วิญญานัง ( เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี )
    วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง ( เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี )
    นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง ( เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี )
    สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส ( เพราะสฬายตนเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี )
    ผัสสะปัจจะยา เวทนา ( เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี )
    เวทะนายะปัจจะยา ตัณหา ( เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี )
    ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง ( เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี )
    อุปาทานะปัจจะยา ภะโว ( เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี )
    ภะวะปัจจะยา ชาติ ( เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี )
    ชาติปัจจะยา ชะรามะระณัง ( เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี )
    โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ
    ( ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม )
    เอวะเม ตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ สะมุทะโย โหติ
    ( การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้ ฯ )

    ลำดับแห่งปฏิจจสมุปบาทฝ่ายดับทุกข์
    อวิชชา ยะ เตววะ อะเสสะวิราคะนิโรธา สังขาระนิโรโธ( เพราะอวิชชาดับไปไม่เหลือ สังขารจึงดับ )
    สังขาระนิโรธา วิญาณะนิโรโธ ( เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ )
    วิญญาณะนิโรธา นามรูปะนิโรโธ ( เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ )
    นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ ( เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ )
    สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ ( เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ )
    ผัสสะนิโรธา เวทนานิโรโธ ( เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ )
    เวทนานิโรธา ตัณหานิโรโธ ( เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ )
    ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ ( เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ )
    อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ ( เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ )
    ภะ วะนิโรธา ชาตินิโรโธ ( เพราะภพดับ ชาติจึงดับ )
    ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง ( เพราะชาติดับ ชรามรณะจึงดับ )
    โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ
    ( ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจจึงดับ )
    เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ นิโรโธ โหติ
    ( การดับแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้ ฯ )

    หมายเหตุ : ชาติ (การเกิดอัตตา"ตัวตน"คิดว่าตนเป็นอะไรอยู่),ภพ (การมีภาระหน้าที่และภาวะทางใจ),อุปาทาน (ความยึดติดในสิ่งต่าง ๆ),ตัณหา (ความอยาก),เวทนา (ความรู้สึกในทางทุกข์หรือสุขหรือความรู้สึกเฉยๆไม่สุขไม่ทุกข์),ผัสสะ (การสัมผัสด้วยประสาทต่าง ๆ),อายตนะหรือสฬายตนะ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ),นามรูป (ร่างกายและจิตใจ),วิญญาณ (การรับรู้ด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ),สังขาร (การนึกคิดหรือการปรุงแต่งของใจ),อวิชชา (ความโง่เขลาหรือความไม่รู้:ไม่รู้ทุกข์อย่างแจ่มแจ้ง)
     
  16. sereenon

    sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,725
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    ร่วมเล่นเกมส์ค่ะ

    พระคาถารวมทรัพย์ ของพระเรวตพุทธเจ้า
    (ตั้งนะโม ๓ จบ)
    อิติสัมพุทธัสสะ อะระหานัง
    สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
    อริยทรัพย์มา โภคทรัพย์มา วิหาระติ
    อัมหากัง หิตายะ สุขายะ ฯ (นิพพานายะจะ)
    หมายเหตุ -คำว่า "นิพพานายะจะ"
    สำหรับผู้ปรารถนาพระนิพพานชาตินี้ให้ต่อทุกจบ)
    วิธีอาราธนาพระคาถา
    สำหรับวิธีการอาราธนาพระคาถา ทำดังนี้..

    ๑. อาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ มีพระเรวตพุทธเจ้าเป็นที่สุด และภาวนาครั้งละ ๙ จบ หลังสวดมนต์ปกติ หากสวดร่วมกับพระคาถาเงินล้าน ให้สวดก่อนคาถาเงินล้าน (ในกรณีนี้คาถามหาลาภหลวงปู่ชื่น)

    ๒.วิธีการภาวนา ขณะนั่งสมาธิ ท่านให้กำหนดภาพพระก่อน แล้วกำหนดวงกลมตรงกลางท้องขององค์พระ (คล้ายวิชาธรรมกาย) แต่เป็นภาพแสงสว่างในวงกลมนั้น

    จากนั้นเริ่มภาวนาพระคาถาไปเรื่อย ๆ ดูวงกลมนั้นไปนิ่ง ๆ เรื่อย ๆ ไม่ต้องสนใจลมหายใจ จนจนสว่างค่อย ๆ ขยายไปเรื่อย ๆ หรือจนกว่าจะเข้าองค์ฌาณ

    ๓. ให้อธิษฐานจิตในสมาธิ ในสิ่งที่เราค้องการ ๑ อย่าง เมื่อสำเร็จแล้วค่อยอธิษฐานสิ่งที่ต้องการ อื่น ๆ ต่อไป

    คาถาเงินล้าน

    (ตั้งนโม 3 จบ)

    สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)

    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ


    ระยะนี้สวดสองบทนี้คู่กันตลอด สวดแล้วถูกหวยมาสองงวดติดกันแล้วค่ะ สามตัวบ้าง สองตัวบ้าง ใครที่มีปัญหาติดขัดเรื่องเงิน ลองสวดดูได้นะคะ

    เคล็ดลับให้สวดก่อนทำบุญให้ทาน หรือก่อนนอน ใครที่ไม่ค่อยมีเงิน ให้จบเงินทำบุญ 1 บาท แล้วตั้งใจอธิษฐานว่าจะใช้เงินนี้ถวายเป็นค่าภัตตาหารพระ เมื่อรวบรวมเงินได้จำนวนหนึ่ง ก็นำไปซื้ออาหารใส่บาตร หรือใส่ซองถวายพระ เจาะจงไว้ว่าเป็นค่าภัตตาหารพระค่ะ
     
  17. nostradamod

    nostradamod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2011
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +226
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    คาถาเงินล้าน

    (ตั้งนโม 3 จบ)

    สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)

    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ

    * (บูชากี่จบก็ได้ ตัวคาถาต้องกล่าวทั้งหมด ข้อความอธิบายในวงเล็บไม่ต้องสวด)
    (พรหมา-อ่านว่า พรม-มา)
    (สวาโหม-อ่านว่า สะ-หวา-โหม)
     
  18. popconn

    popconn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +114
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
    ตั้งนโม 3 จบ


    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2016
  19. Akkra1978

    Akkra1978 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +1,490
    คาถาบูชาพระสีวลี

    นะโม 3 จบ

    สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
    สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ภะวันตุ เมฯ

    จากนั้นให้ทำจิตให้นิ่งและเพ่งมองไปที่พระสีวลีที่อยู่เบื้องหน้า

    “ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) ขอน้อมวันทาพระมหาเถระ องค์เอตทัคคะพระสีวลี ผู้เปี่ยมบารมีแห่งโภคทรัพย์อันสุดนับประมาณ ด้วยทานบารมีทุกมหากัปอันไพศาล จงบันดาลการกิจของข้าพเจ้า ให้ก้าวหน้าในมหาลาภผล และบันดาลดลให้เกิดมหามงคล ขึ้นชื่อว่าอับจนไม่มี จงอย่าได้มีบังเกิด ขอความเป็นเลิศในโภคทรัพย์สุดนับประมาณ จงอภิบาลเกื้อหนุนบุญชะตา นำพาให้ได้พบความมั่งคั่ง ขอพลังบุญพลังทิพย์จงหยิบยื่นความเจริญให้บังเกิด ขอให้เปิดขุมทรัพย์มหาศาล เงินแสนเงินล้านให้ได้ชื่นชม ขอให้ได้สุขสมในกองทอง ให้ได้ครอบครองกองเงินเท่าเนินเขา ขอให้รุ่งเรืองยาวไกลไม่ขัดสน ไม่อับจนตลอดปีตลอดไป ขอเงินทองเข้ามาดั่งสายธารไหลไม่ขาดสาย ทั้งจากแดนใกล้แดนไกล หากปรารถนาในลาภผลใดๆ ขอให้สมหวังดั่งตั้งจิต ขอความร่ำรวยในชีวิตปรากฏทั่วแดนทั่วทิศ ด้วยจิตตานุภาพแห่งองค์พระสีวลี นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ”

    แล้วกล่าวสาธุ 3 ครั้ง
     
  20. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,954
    ค่าพลัง:
    +5,658
    พระคาถามหาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    (ก่อนสวดหายใจลึกๆ นึกถึงภาพหลวงปู่ดู่ หรือหยิบรูปมาดูก็ได้ และถ้าเป็นไปได้ควรสวดเวลา 20.30 น.)
    บทตั้งสัจจะอธิษฐาน)

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน (ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวัน หรือ สัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    ด้วย สัจจะที่ลูกอธิษฐาน ลูกขอความเมตตาหลวงปู่ดู่โปรดเมตตารวมบุญน้อมนำกระแสความคล่องตัว ทั้งทางโลกและทางธรรม กระแสสัมมาอาชีพ และกระแสโภคทรัพย์แห่งจักรพรรดิเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของลูก และลูกขออธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังค์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ลูกอธิษฐานนี้ ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน ขอบารมีหลวงปู่ดู่โปรดเมตตาน้อมนำบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆ พระองค์
    ขอ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด ขอบารมีรวมของดวงจิตพระโสดาบัน พระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน และอนาคต
    ขออาราธนาบารมีทั้งหมดทั้งมวลแผ่ไปทั่วภพภูมิต่างๆทั้งหลาย ทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้นพรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดย ทั่วทั้งหมื่นแสนโกฎิจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลาย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พระยายมราชพร้อมบริวารพญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรณ์ ชาวเมืองลับแล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายมาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิ พร้อมกันกับพวกข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด

    บทบูชาพระ

    พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
    ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
    สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ

    กราบพระ ๖ ครั้ง

    พุทธัง วันทามิ (กราบ)
    ธัมมัง วันทามิ (กราบ)
    สังฆัง วันทามิ (กราบ)
    ครูอุปัชฌาย์อาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)
    มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ)
    พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)

    บทสมาทานศีล ๕

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
    อทินนาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
    อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
    มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
    สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ

    อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ(๓ ครั้ง)
    สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา
    สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย

    บทอาราธนาพระ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)
    พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
    ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ
    สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ

    คาถาหลวงปู่ทวด

    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่าคาถาดังนี้
    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ ครั้ง)

    คาถาหลวงปู่ดู่

    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วว่าคาถาดังนี้
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ (๓ ครั้ง)

    บทขอขมาพระรัตนตรัย

    โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
    โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
    โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

    บทสวดมหาจักรพรรดิ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)
    * สวดตามกำลังวัน อาทิตย์ ๖, จันทร์ ๑๕, อังคาร ๘, พุธ ๑๗, พฤหัส ๑๙, ศุกร์ ๒๑, เสาร์ ๑๐ *
    นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะ มหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    คำอธิษฐานสัพเพทั้งสามแดนโลกธาตุ

    ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีรวมแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์ และพระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ โดยตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดย มีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอพระบารมี อันหาที่สุดมิได้นี้ โปรดจงส่งไปให้ถึงภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้น พรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดย ทั่วทั้งหมื่นแสนโกฏิจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลาย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรพ์ ชาวเมืองลับแล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ตลอดจนถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย สรรพสัตว์ในดินแดนอบายภูมิทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้น ขอโปรดจงได้รับมหากุศลผลบุญบารมีนี้ โดยถ้วนทั่วทุกตัวตน ทุกคนทุกท่าน เทอญ…
    (ตั้งใจโน้มนำบุญและแผ่บุญออกไปด้วยบทสัพเพฯ)

    บทอัญเชิญพระเข้าตัว (แผ่เมตตา)
    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (สวด ๕ จบ)
    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (ให้อธิษฐานเอา)

    คำอธิษฐานรวมกำลังจักรพรรดิ์

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน (ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวัน หรือ สัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    ด้วย สัจจะอธิษฐาน ลูกขอบารมีหลวงปู่ดู่โปรดเมตตารวมบุญน้อมนำบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆ พระองค์
    ขอ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด ขอบารมีรวมของดวงจิตพระโสดาบัน พระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต
    สิ่งที่ลูกอธิษฐาน ลูกอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    สิ่ง ที่ลูกอธิษฐานนี้ ลูกขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่น้อมนำบารมีรวมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์
    ขอ บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ขอได้โปรดเมตตารวมกำลังพระจักรพรรดิในทุกรูปลักษณ์ และที่ลูกได้สวดทุกวัน เพื่อนำกำลังนี้มาเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของลูก (ฯลฯ)
    และ แผ่ออกไปให้กับประเทศไทย (กำหนดภาพแผนที่ประเทศไทย) พระเจ้าแผ่นดินองค์ปัจจุบัน ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาทั่วโลก ผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติศาสนา
    (สัพเพฯ 3 ครั้ง)

    คำอธิษฐานรวมบารมี 10

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน (ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวัน หรือ สัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    และ ลูกขออนุโมทนาบุญแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพร รดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระโสดาบัน พระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต
    สิ่งที่ลูกอธิษฐาน ลูกอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    สิ่ง ที่ลูกอธิษฐานนี้ ลูกขออาราธนาบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพร รดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ บุญบารมีใดที่ลูกเคยสะสมอบรมมา เคยปฏิบัติมาจากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็นบุญบารมีทั้ง 10 ทัศ อันได้แก่ ทาน, ศีล, เนกขัมมะ, ปัญญา, วิริยะ, ขันติ, สัจจะ, อธิษฐาน, เมตตา และอุเบกขา
    ลูกขอบารมีหลวงปู่ดู่รวมบุญบารมีนี้ น้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ ถวายหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอถวายเป็นพุทธบูชา มหาเตชวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญ สังฆะบูชา มหาโภควะโห ถวายแด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ขอ อาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่ โปรดน้อมนำบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้กลับมายังลูกเป็นเท่าทวีคูณ เพื่อลูกจะได้นำมาเป็นกำลังในการช่วยชาติ ศาสนา ราชบัลลังค์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งมวล
    (ตั้งจิตแผ่เมตตาให้กับผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวรทั้งที่บ้านและหมู่คณะ)

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
    (กล่าว 5 ครั้งและอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา)

    ขอสิ่งที่ลูกอธิษฐาน จงศักดิ์สิทธิ์สำเร็จเป็นจริง โดยฉับพลันทันใจทุกประการ
    อิมัง สัจจะวาจานัง อธิฐามิ พุทธัง อธิฐามิ ธัมมัง อธิฐามิ สังฆัง อธิฐามิ

    ** ให้อธิษฐานทุกวัน เช้าตอนก่อนออกทำงาน-ก่อนนอน หากได้เวลา 20.30 น.ด้วยยิ่งดีมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...