ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จทิพย์สภาพมหาวงจรทวีโชตนาการ(ทิพย์โอสถส่องหน้าพระเจ้า) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญ น้ำมันปฐมภูมิพรหมนิมิตรอนันต์ภาค (วิชาพระเจ้าแบ่งรัศมี)

    น้ำมันที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างรุ่นนี้สำเร็จโดยวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีที่องค์ปฐมท่านเมตตาทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมี..หรือจะเรียกอีกอย่างว่าแบ่งบารมี หลักๆเลยเมื่อของเก่าเราไม่พอหรือคนที่ทำมาไม่มากชีวิตไม่ดีเมื่อใดที่ชีวิตเริ่มสะดุดให้อาราธนาพุทธคุณนำน้ำมันนี้เจิมหน้าผาก ท่านว่าไอ้ตัวบารมีนี่แหละที่ทำให้ชีวิตคนต่างกันบางคนไม่ต้องพยายามอะไรก็เอาดีได้แต่บางคนพยายามให้ตายก็ไปต่อไม่ได้ ซึ่งบารมีไม่ใช่เราเดินไปวัดถวายสังฆทานยกมือไหว้พระแล้วมันจะออกฤทธิ์เดชให้ผลทันทีเสียเมื่อไหร่ หากแต่มันเกิดจากการทำความดีมีให้ทาน,รักษาศีล,บวชเนกขัมมะ,เจริญปัญญา,เจริญวิริยะ,เจริญขันติ,ยึดมั่นสัจจะ,ยึดมั่นอธิษฐาน,เจริญเมตตา,เจริญอุเบกขา..ที่เราต้องทำทับถมซับซ้อนนับภพชาติไม่ได้ยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร มันสะสมมามากมายปานนั้นจนให้ผลในชีวิตปัจจุบันนั่นจึงเรียกว่าบารมี คนที่ทำมาน้อยผลก็มีน้อยหรือยังไม่เห็นผลเลยจนเรียกว่าไม่มีก็หาได้อยู่มาก เมื่อบารมีไม่มีแล้วทำอะไรมันก็ยากก็หนักเพราะความดีที่บำเพ็ญมามันไม่มากพอ ### คุณสมบัติที่จะสร้างตัวเองให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่..ให้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากบารมีที่สะสมมาตรงนี้มันไม่มี ..เมื่อไม่มีเหตุสงเคราะห์มาแต่ต้นทำอะไรไปผลมันจึงไม่เกิดขึ้นเลยเพราะเราไม่มีบารมีสนับสนุนกรรมปัจจุบันของเรา ไม่มีบารมีสนับสนุนให้เรานั้นยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงน้ำมันวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีไว้ตามโองการสมเด็จองค์ปฐมที่ท่านว่าจำเป็นจะต้องทำไว้เพื่อเป็นโอกาสแก่คนที่ของเก่าเขาไม่พอ ..ยังสะสมบารมีมาได้ไม่เต็ม ..ยังขาดคุณสมบัติที่จะทำให้ชีวิตยิ่งใหญ่

    น้ำมันวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีคือน้ำมันที่ใช้แบ่งหรือแยกบารมีจากองค์ปฐมมาสงเคราะห์ผู้ที่ขาดบารมี...เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายิ่งใช้ยิ่งดียิ่งพวกทุนน้อยของเก่าทำมาไม่พอหรือบารมีเราเอาสิ่งที่ต้องการไม่ถึงไม่คู่ควรกันเหล่านี้ยิ่งต้องขยันทาขยันป้าย ดีกว่าจะไปขอพึ่งบารมีไปยืมบารมีเป็นหนี้สินทางจิตวิญญาณไปทุกชาติทุกภพ เดี๋ยวนี้คนเราเวลาไปวัดไหนไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใดก็มักจะไปขอนั่นขอนี่จนลืมคิดไปว่าถ้าได้มาจริงแล้วเราใช้เขาหมดหรือ..อีกกี่ชาติที่เราจะลำบาก ไปเอาบารมีเทวดาบารมีหลวงปู่หลวงพ่อที่ไหนมาใช้ทั้งที่ของเก่ายังไม่มี พอทำของใหม่ขึ้นมาได้ก้ต้องยกไปใช้หนี้เก่าแต่ของตนเองก็ยังพร่องไปทุกภพทุกชาติอยู่แบบนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เององค์ปฐมท่านจึงให้ทำน้ำมันวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีเพราะบารมีของท่านเต็มแล้ว.ไม่พร่องแล้ว.ทำมาดีแล้ว จะได้ใช้น้ำมันพุทธบารมีนี้เติมเต็มบารมีที่เราขาดซึมลึกเข้าเนื้อหนังเข้าจิตวิญญาณลึกซึ้งติดตัวไปทุกภพทุกชาติ เพราะเป็นพุทธบารมีที่เกิดจากวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีจึงไม่เป็นหนี้เวรหนี้กรรมหนี้บารมีแก่ใคร

    *** ไม่มีต้นไม่มีดอกที่ต้องตามใช้ในวัฏสงสาร
    พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังคนที่เขาทุกข์ยากก็หนักมากพอแล้วยังเป็นหนี้สินในบารมีอีกยิ่งน่าเวทนาหนักไปกว่าเดิมเคยคิดมั๊ยคนที่ทำบุญหนักๆแต่ยังอับจน ก็เพราะชาติก่อนๆเราเป็นหนี้สินบารมีใครรึเปล่า เช่นนั้นน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีจึงเป็นยอดน้ำมันที่ใช้เติมเต็มบารมีที่ขาดที่พร่องไปเป็นวิชาทางด้านสว่างที่ทำลายด้านมืด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนแสงสว่างเมื่อปรากฏขึ้นความมืดย่อมคลายตัวออก น้ำมันนี้ก็เหมือนกันเราทามันทุกวันมันก็ซึมลึกเข้าเนื้อหนังเข้าจิตวิญญาณ ทีนี้ไอ้พวกคนที่เคยโดนคุณไสย..โดนน้ำมันพราย..โดนการกระทำด้วยอวิชชาต่างๆหรือเสนียดจัญไรสิ่งเลวร้ายเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เกาะติดจิตวิญญาณอยู่เหล่านี้ ร้อยแปดพันประการเหตุแห่งความเสื่อมทรามตกต่ำพ่ออาจารย์ท่านว่ามันต้องหมดไปเป็นคติเดียวเท่านั้นเพราะมันจะอยู่ไม่ได้เลยดั่งแสงสว่างเมื่อปรากฏขึ้นความมืดย่อมคลี่คลายไปฉับพลันทันที ถ้าเราใช้เราทามากขึ้นไปเรื่อยๆมันก็ยิ่งสว่างมากขึ้นๆจนไม่เหลือช่องให้ความมืดมันกลับมาอีก นี่คือน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีที่พ่ออาจารย์ท่านว่าให้คุณหนักหน่วงสงเคราะห์ข้ามภพข้ามชาติ คนที่ขาดบารมีไม่ได้บำเพ็ญมามากพอ..คนที่ความดียังไม่ส่งผลให้ชีวิตมีอิสระจะได้หลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการ

    น้ำมันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ใช้เจิมตนเองได้ดีที่สุดแก้อาถรรพ์ร้ายได้ทุกอย่าง แม้แต่คนเคยต้องเสน่ห์ยาแฝดที่เชื่อกันหนักหนาว่าหากโดนเข้าไปแล้วไม่มีอะไรแก้ไขได้เลยแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีนี้ยังแก้ไขได้แต่ต้องขยันหมั่นเจิมทาบ่อยๆ ท่านว่าแม้ความมืดที่เข้มข้นที่สุดดำมืดที่สุดถ้าเราหมั่นขยันราดสีขาวใส่เติมแสงสว่างลงไปเรื่อยๆมันยังจะมืดได้อยู่หรือ เช่นนั้นอาถรรพ์ร้ายใดๆย่อมแก้ไขได้ทั้งทั้ง
    - น้ำมันนี้ใช้เจิมเล่นฤทธิ์ได้ร้อยแปดพันประการ
    - น้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีนี้ใช้เจิมเรียกฤทธิ์เสริมบารมีวัตถุมงคลได้
    - น้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีใช้เจิมดุจเสกวัตถุมงคลที่เป็นภาชนะเปล่าให้มีพุทธคุณเต็มได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมฟื้นคืนสง่าราศีที่เสื่อมถอยได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมแก่คนที่เสื่อมถอยในยศฐาบรรดาศักดิ์ให้คงคืนได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้เป็นที่รักแก่มนุษย์,อมนุษย์,เทพ,พรหม,เดรัจฉานได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมคลี่คลายโทษกรรมอันถึงขั้นตกตายได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้พ้นทุกข์ภัยที่พลาด,ที่ล้ม,ชีวิตที่ฉิบหายดุจตายไปกลับ
    เป็นฟื้นขึ้นมาได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้ปรากฏชื่อเสียงเกียรติยศเลื่องลือได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมถูมือเรียกลาภได้จนกว่าตนเองจะเป็นเศรษฐี(พิกัดคำว่าเศรษฐีแต่ละคนไม่เท่ากัน)
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้วาสนาสูงดุจจันทร์ค้างฟ้าได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมเพิ่มความสามารถที่พร่อง เป็นอำนาจแก่ตนเองได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้เป็นที่รักแก่ผู้ต้องประสงค์ได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมยาจกให้พ้นความยากจนได้

    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าร้อยแปดพันประการสุดแต่จะใช้ไม่ใช่เพียงใช้แบ่งบารมีเปิดทางชีวิตแต่องค์ปฐมท่านทำมาให้ครอบคลุมทั้งหมดสมกับเป็นวิชาของท่าน
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ไม่ทาแค่พกขวดน้ำมันไปก็เกิดมงคลเที่ยงแท้แก่ชีวิตแล้วชีวิตจะไม่อับจนเลยด้วยน้ำมันในขวดนี้ อาเพศใด..เภทภัยใด..เอาน้ำมันป้ายกระหม่อมแล้วจะไม่ต้องเนื้อตัวต้องรอดต้องพ้นทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าหนนี้ถ้าองค์ปฐมท่านไม่ลงให้ก็เห็นควรว่าศาสตร์น้ำมันนี้จะสูญหายไปหมดสิ้นด้วยพระเจ้าแบ่งรัศมีนั้นถ้าพระเจ้า(พุทธองค์)ไม่ทำให้แล้วใครล่ะจะทำแทนท่านได้ จริงๆท่านสรรเสริญคุณน้ำมันชุดนี้ไว้ว่าชีวิตของใครแม้ร้อนดุจไฟนรกก็ยังดับเหตุแห่งความร้อนนั้นได้ เช่นนี้เมื่อผู้ใดได้ใช้แล้วจึงนับว่าบุญเก่ายังพอทำมาบ้าง

    *** คนที่ทุกข์หนักเจอเรื่องเลวร้ายมาเยอะจริงๆท่านว่าจะเอาไปผสมน้ำผสมอาหารกินเพื่อให้อำนาจพุทธคุณซึมซับและออกฤทิ์ได้มากขึ้น..ไวขึ้น..เพื่อให้เกิดผลทันตาก็ย่อมได้พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงดีดใส่แต่น้อยหรือป้ายๆก็พอไม่ต้องเทลงไปหมดขวดจะน้อยจะมากฤทธิ์ก็เท่ากันเพราะข้างบนเขาเสกมาเต็มแล้ว ท่านว่าขอให้เอาไปใช้เถอะชีวิตจะดีขึ้นจนผิดสังเกตุไปเลย ในร่างกายเราหากเคยโดนกระทำหรือตัวเองกินอะไรทำอะไรรับของต่ำของสกปรกเข้าไปมีภูติมีพรายมีผีมีของอาถรรพ์ให้โทษอยู่ในร่างกายนี่คือขับออกหมดเลย ท่านว่าเอาง่ายๆสิ่งใดที่มันไม่ดีมันทำให้เกิดทุกข์ที่มันสิ่งมันแฝงอยู่ในร่างเราคอยให้ผลข้างเคียงดึงเราให้ตกต่ำหมดสง่าราศีทำอะไรไม่เจริญไม่ก้าวหน้าทั้งหลายนั่นแหละน้ำมันจะซึมลงไปขับออกทั้งสิ้นเหลือไว้เพียงต้นตอของแสงสว่างของความสุขในชีวิตให้เราได้สมหวังดั่งความตั้งใจเป็นคนที่เลือกชีวิตเองได้..เป็นตัวของเราแบบที่เราอยากจะเป็น

    น้ำมันชุดนี้หากเราประสงค์จะช่วยใครแล้วแม้รูปถ่ายเขียนวันเดือนปีเกิดเขาก็ยังสามารถใช้เจิมเปิดบารมีแก่เขาผู้นั้นได้ ท่านว่าตอนเจิมขอให้จิตเรานึกถึงเขาก็พอให้ทำในยามรุ่งจะได้ผลดีที่สุดชีวิตเขาจะเปลี่ยนเป็นรุ่งโรจน์ขึ้นตามลำดับ
    ### แม้กับตัวเองเวลาที่ดีที่สุดที่เราจะเจิมตัวเองก็คือยามรุ่งเช่นกันพ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อแก้เคล็ดที่ชีวิตตกต่ำให้รุ่งโรจน์ท่านว่าจำเอาไว้เวลาตกดินเหล่านี้ไม่เอาเจิมเฉพาะยามรุ่งเท่านั้น เจิมไปหนึ่งทีอยู่ได้เจ็ดวันแต่ถ้าเราเจิมทับถมซับซ้อนทุกวันมันก็ทับถมคูณกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้ขยันเจิมเถอะได้ผลมามากแล้วจะไม่ตกต่ำลงเลย ไม่มีช่องให้ชีวิตพลาดเป้าหมายหรือแคล้วคลาดจากโชคลาภใดๆเลย เพราะเจิมหนหนึ่งอยู่ได้เจ็ดวันถ้าเราขยันเจิมนี่เท่ากับชีวิตเราดักทางไว้หมดแล้ว ในระยะเวลาเท่าจำนวนครั้งที่เจิมนี้มันมีแต่รุ่งโรจน์มีแต่ได้กับได้ไม่มีเสีย..ต่ำไม่เป็น..จนไม่ได้ ทีนี้ชีวิตมันก็มีพร้อมทั้งหมดจะเจิมแก้กลเสน่ห์แก้ยากแฝดแก้อาถรรพ์ต่างๆท่านว่าทำได้ทั้งสิ้น

    ถ้าได้เจิมตอนย่ำรุ่งทุกวัน กำลังที่แฝงอยู่ซึมซับเข้าไปในร่างกายจิตใจตัวตนของเรานั้นจะไม่มีเสื่อมถอยใดๆเลย(พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนฉันสั้งให้เธอลุกขึ้นมาสวดมนต์บูชาพระพุทธคุณอิติปิโสภควา..หนึ่งจบตอนย่ำรุ่งทุกวันไปตลอดชีวิตนั่นแหละ) ถ้าคนไหนศรัทธามากทำได้มากทำได้ทุกวันมันก็จะยิ่งดียิ่งเร็วมากตามกำลังศรัทธา เพียงน้ำน้ำมันมาเจิมหน้าผากคลึงนิ้วว่าอิติปิโสภควา..บทพุทธคุณไปจนจบเป็นอันใช้ได้ ถ้าจะป้ายมือคลึงมือตนเองเอาเคล็ดจับสิ่งใดก็เป็นเงินเป็นทองเป็นโชคลาภไปตลอดชีวิตแบบนี้ก็ได้..แต่ถ้าคนฉลาดเขาจะนำมาเจิมลูบผมซักหนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละไปไหนดุจมีธงชัยองค์ปฐมไปด้วยเสมอด้วยท่านนั่งอยู่เหยียบอยู่เหนือหัวเราทำอะไรทุกอย่างจะเป็น,จะมี,จะเจอแต่สิริมงคลทั้งหมด แต่ถ้าไม่พกพาจะเาอไปเก็บก็อย่าวางซี้ซั้วท่านว่าให้เลือกสถานที่เป็นมงคลของเราเพื่อวางจะได้หนุนเสริมบารมีแก่สิ่งที่เราขาดไป ถ้าคนไหนยากจนชีวิตไม่มีโชคเวลาจะวางขวดน้ำมันก็ให้เอาไปวางตามที่เก็บเงินเก็บของมีค่าในที่สูง ถ้าคนไหนรูปต้วว่าดวงตกดวงไม่ดีหรือเกิดมาดวงแย่ตั้งแต่เริ่มแรกก็ให้เอารูปตัวเองเขียนวันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากเวลาจะเก็บขวดน้ำมันไม่ใช้งานก็วางทับรูปเราไว้แก้เคล็ดเปิดบารมีแปลงชีวิตเปลี่ยนดวงชะตาเช่นนี้ ...ทำแบบนี้ท่านว่าจะช่วยเรียกเงินเรียกทองได้ดีมากกิจการใดที่ทำอยู่ทำท่าจะเจ๊งจะไม่รุ่งก็จะฟื้นคืนกลับมาดีดังเดิม การเงินจะดีขึ้น ดวงชะตามีแต่พุ่งขึ้น
    ### หากใครชอบขอหวยถ้ามีโชคให้นำน้ำมาขันหนึ่งป้ายน้ำมนลงไปแล้วจึงเทแป้งฟุ่นไปบนน้ำนั้นถ้าดวงเปิดพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเห็นเลขให้นำไปเล่นเอง ต่จำไว้เลขของเราที่ขอข้างบนท่านมาจะบอกใครต่อไม่ได้เลย จะเจิมข้าวสารก่อนหุงเมื่อจะกินเป็นสิริมงคลก็ได้ ท่านว่าสมัยนี้ให้เจิมกระเป๋าเงินที่ใส่เงินเราด้วยจะดีที่สุดต่อไปจะได้มีเงินเข้ามีเงินเก็บจนนับไม่ทัน ท่านว่านั่นแหละเจิมกระเป๋าตังไปเรื่อยๆจะได้นับเงินกันจนมืองอไปข้าง...น้ำมันนี้มีคุณวิเศษใช้ได้ทุกด้านทั้งสิ้น ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้เถิด

    น้ำมันปฐมภูมิพรหมนิมิตรอนันต์ภาคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายากมากตอนทำขวดน้ำมันนี่แหละเพราะต้องแสวงหามวลสารต่างๆตามที่องค์ปฐมท่านกำชับเพื่อนำมาลงผงลบผงจนได้ผงดำปฐมภูมินำมาพอกขวดน้ำมันไว้ เพื่อให้น้ำมันชุดนี้มีฤทธิ์แรงเร็วเต็มขั้นตลอดไป ขอให้น้ำมันหมดเถิดพ่ออาจารย์ท่านว่าเอาน้ำมันจันทร์ธรรมดาเติมลงไปหรือจะเอาน้ำมันอะไรก็ได้ที่เราตั้งใจจะใช้เจิมตัวเองเติมลงไปท่านว่าย่อมให้คุณได้เสมอกันแรงแบบไม่มีตกเพราะท่านสำเร็จให้แล้วที่ขวดน้ำมันอันเป็นภาชนะบรรจุ ดุจดั่งท่านว่าปฐมภูมิอนันต์ภาคจะเติมเป็นอนันต์แค่ไหนท่านก็ทำให้แบ่งภาคแบ่งรัศมีแบ่งบารมีมาโปรดเราทุกคราวทุกวาระ เพียงทำง่ายๆเมื่อจะเติมน้ำมันท่านให้จุดธูปสามดอกถวายพวงมาลัยดอกไม้สดบูชาพระพุทธคุณในน้ำมันและสวดบทพุทธคุณแล้วจึงเติมเท่านั้นเป็นอันใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันนี้สำคัญนักเป็นอนันต์ภาคแม้เราเอาไปเจิมพระเจิมสิ่งใดก็ดีท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้ฉันพูดมากแต่ฉันก็บอกตรงตัวอยู่ในชื่อน้ำมันแล้ว ท่านว่าเอาไปใช้เถอะจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองมหาศาล น้ำมันนี้จะทำอะไรก็ดีให้เราถือบทพุทธคุณกำกับไว้แล้วส่งจิตบอกองค์ปฐมว่าจะทำอะไรใช้ทางไหนแค่นั้นย่อมใช้เอาดีได้ทุกอย่าง ไม่ต้องไปท่องไปจำอะไรมากมายเลยแค่พุทธคุณบทเดียวกำกับน้ำมันนี้เจิมเอาได้ทุกอย่างใช้ได้ทุกทางสุดแต่จะปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านจึงสรรเสริญว่าเป็นน้ำมันที่แรงที่สุด แรงไม่มีตก..และใช้ได้ยาวนานสืบทอดกาลสมัย

    น้ำมันทุกขวดพ่ออาจารย์ท่านผูกเข้ากับรูปแกะสลัก"พระฤๅษีพรหมนิมิตร"
    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระฤาษีพรหมนิมิตรนี้เป็นครูชั้นพรหมของท่าน ซึ่งท่านได้ให้พ่ออาจารย์แกะรูปให้ท่านหน่อยทั้งยังได้เสกไว้ยาวนานนับสิบปีตามศาสตร์สายวิชาพรหมนิมิตร ...

    พรหมฤาษีองค์นี้ท่านเป็นผู้ควบคุมนิมิตและความฝันทั้งปวงของสรรพชีวิตมาทุกยุคทุกสมัย เรียกว่าเป็นเจ้าแห่งความฝันก็ไม่ผิด ท่านเป็นพรหมฤาษีที่มีฤทธิ์มีบารมีมากเป็นพิเศษ สามารถทำฝันคนให้เป็นความจริงได้และสามารถทำให้สิ่งที่คนฝันไม่เป็นความจริงก็ได้ ทั้งยังอาศัยนิมิตฝันบอกเหตุเภทภัยทั้งหลายทั้งปวงให้ชนได้รู้ตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณแห่งองค์พรหมนิมิตนี้จะช่วยให้ฝันที่เราอยากได้อยากเป็นเป็นจริงเสมอ...เช่นนั้นจึงถือเป็นเรื่องร้ายแรงแต่ยุคโบราณว่ารูปพรหมฤาษีพรหมนิมิตนี้จะไม่มีใครสร้างไม่มีใครทำขึ้นมาเลยเพื่อมอบให้แก่ลูกศิษย์ เพราะเขากลัวว่าจะไปคิดหวังคาดฝันในสิ่งที่เกินเอื้อมเกินควร

    แต่มาในสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    บ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลงไปมันจแข่งขันกันสูง ถ้าฝันไม่ไกลตัว ไม่ฝันเกินเอื้อมก็ยากที่จะสู้กับคนอื่น เช่นนั้นท่านจึงนำองค์ฤาษีพรหมนิมิตที่ท่านสร้างเสกลงอาถรรพ์เชิญครูไว้ยาวนานนับสิบปีออกมาผูกไว้คู่กับขวดน้ำมันด้วยประสงค์จะให้ความฝันความคิดความปรารถนาแก่ผู้ที่ใช้นำมันขวดนี้เป็นจริงเกิดขึ้นได้จริงทุกประการตามอาถรรพ์แห่งองค์พรหมนิมิต

    ท่านว่าองค์บรมครูท่านจะให้ฝันเพื่อความรุ่งโรจน์เพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตตนเป็นจริงเสมอ อย่าลืมว่าท่านมีหน้าที่ดูแลตรงนี้มีฤทธิ์ควบคุมทางด้านนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นลูกๆคนไหนที่มีฝันแต่ทำไม่ได้ไปไม่ถึงนั่นแหละท่านว่าเพราะองค์พรหมนิมิตท่านไม้โปรดให้เป็นจริง เช่นนั้นเเราจึงแก้ชะตาอาถรรพ์นั้นใหม่หนนี้ขอให้เป็นฝันที่เป็นไปได้ไม่ใช่เรื่้องไร้สาระงมงายก็จะเป็นไปตามฝันตามความปรารถนาที่เราหวังไว้ทุกประการนั่นคือปกาศิตแห่งองค์พรหมนิมิต ส่วนฝันอะไรที่ร้ายที่เลวที่ทำให้วิตกกังวลหากมีนิมิตอันร้ายกาจปรากฏขึ้นยามหลับแก่เรา เมื่อมีองค์พรหมนิมิตท่านอยู่เรื่องเลวร้ายที่บอกเหตุแจ้งเตือนเหล่านั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วองค์พรหมนิมิตรนั้นจะเป็นยอดบรมครูชั้นพรหมที่แก่กล้าในวิชาอาคมสามารถสร้างและทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้...ท่านว่านี่ความลับเลยสิ่งต่างๆที่มีชีวิตบางสายพันธ์ท่านก็สร้างขึ้นมาเช่นนั้นเรื่องสร้างสรรค์และเปลี่ยนความฝันความคิดของศิษย์ให้เป็นความจริงนอกจากท่านซึ่งมีหน้าที่ตรงนี้แล้วย่อมไม่มีใครทำได้อีกเลย..เพราะนี่คืองานของท่าน ปกติแล้วท่านจะมีศิษย์อยู่ทั่วทุกโลกธาตุคอยทำงานแทนทั้งเทวดา,อสูร,คนธรรพ์,วิทยาธร,รากษส...ทั้งหลายทุกเผ่าพันธ์แต่รูปองค์พรหมนิมินนั้นกลับไม่มีใครกล้าสร้างด้วยกลัวว่าจะแรงเกินไปพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือคนที่รู้ไม่จริงเพราะโดยแท้จริงแล้วท่านมีเมตตาต่อโลกทั้งหลายอยู่มาก ท่านมีความตั้งใจจะสร้างสรรค์จรรโลงให้ความฝันของสิ่งมีชีวิตเป็นจริงได้...ดั่งเรื่องฟลุ๊คๆที่ชะตาลิขิตให้สิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้เป็นไปได้ แต่โลกธาตุนั้นมีอยู่มากมายทั้งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนแต่มีความฝันของตนเช่นนี้จึงเรียกว่างานตึงมือ พ่อาอจารย์ท่านจึงสร้างรูปองค์พรหมนิมิตรขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์จะให้ท่านเชื่อมต่อกับเราสงเคราะห์ในความฝันของเราได้โดยตรงไม่ต้องผ่านคณะศิษย์ผู้วิเศษทุกสายพันธุ์ของท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปนี้จะได้ฝันกันสมใจอยากไม่เจอฝันเหลวไหลไร้สาระไม่เป็นความจริงอีกต่อไปตามปกาศิตในองค์พรหมนิมิตร ท่านว่ารูปปู่พรหมนิมิตรนี้ใครได้ไว้เหมือนเขาโกงชีวิตได้เลย ### ปกติรูปแกะสลักชุดแรกแบบนี้สมัยก่อนพ่ออาจารย์ท่านให้บูชาองค์ละ 6,000 บาท แต่ชุดนี้ท่านเลือกที่จะเก็บไว้เมื่อทำน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีนี้ท่านจึงนำมาผูกเป็นอาถรรพ์ไว้คู่กัน ดุจว่าใครได้ไปชุดนี้เหมือนได้ฟรีได้เปล่าเช่าน้ำมันท่านแถมองค์ฤาษีให้ไปประหยัดทรัพย์ไปอีกหกพันบาท ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันกับคุณขององค์พรหมฤาษีนั้นหนุนส่งและเป็นไปในทางเดียวกันคล้อยตามกันอย่างน่าประหลาด ท่านว่านี่แหละขอให้เอาไปใช้เถอะฉันพูดมากไม่ได้บอกได้แค่ว่าพรหมนิมิตรองค์นี้ท่านมีหน้าที่ทำความฝันให้เป็นจริง มีท่านอยู่นี่ก็โคตรโกง..ในหนทางสร้างบารมีแห่งชีวิตเลย จะหาพรหมฤาษีองค์ใดที่ใจดีได้เท่านี้คงไม่มีอีกแล้ว

    คาถาบูชา
    (พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้แค่พุทธคุณคือบทอิติปิโสภควา...ใช้ได้ถ้วนทุกประการ)


    *** รายการนี้แจ้งล่วงหน้าไว้เลยว่ามีน้อยมากและ...น้ำมันขวดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้หมดไปเติมของใหม่ลงในขวดเท่าไหร่ก็ใช้ได้แรงเร็วเกินร้อยเหมือนของเก่า ทั้งยังพกง่ายติดตัวง่าย เหนือสิ่งใดเลยคือวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมี...ท่านว่าเอาไว้ช่วยตัวเองในยามที่ของเดิมทำมาไม่พอ ### ส่วนรูปแกะสลักพระฤาษีองค์นี้จัดว่าเป็นยอดของสำคัญในสายวิชาพ่ออาจารย์ท่านเลย(แอบกะซิบว่าท่านเก่งทางโกงชีวิตแบบสุดๆ) รายการนี้ใครที่จองทันเหมือนได้องค์พรหมนิมิตรไปฟรีๆด้วย พ่ออาจารย์ท่านนำมาผูกแถมไว้ให้ทุกขวด ท่านว่าให้คุณหนุนกันเสริมกันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยได้ไปขอแค่ขยันทาขยันเจิมเพียงเท่านั้นใช้ได้ทุกทาง รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญ น้ำมันปฐมภูมิพรหมนิมิตรอนันต์ภาค (วิชาพระเจ้าแบ่งรัศมี) บูชา 4,000 บาท

    130463072-1332804090387258-850807111986821640-n.jpg 130535746-520946322392621-988303189702215594-n.jpg 130449911-411290656720639-6432813101303738067-n.jpg
    130465751-299167761433054-6608197701582536235-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2020
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ลงรายละเอียดให้ครบแล้วนะครับ รายการนี้บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในชุด"โกงชีวิต"ของพ่ออาจารย์ท่าน ทั้งใครจองทันได้ไปก็เหมือนได้เปล่าประหยัดไปอีกหกพันบาทไม่ต้องเสียเพิ่ม เรียกว่าใครทันถือว่าความไวเป็นวาสนาอย่างนึง
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วุฒิชัย ED 4838 2510 6 TH

    พี่วุฒิชัย ชล ED 4838 2511 0 TH

    พี่ภิญโญ ED 4838 2512 3 TH

    พี่เกษมธิดา ED 4838 2513 7 TH
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มียอดขอเช่าน้ำมันที่เหลือทั้งหมดเข้ามา รายการนี้จำกัดแค่คนละขวดนะครับ เพราะขวดนึงใช้ได้หลายคน
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อุเบกขาบารมี

    ในบารมี๑๐ ประการมีทานบารมีเป็นต้น อุเบกขาบารมีเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก จึงขออธิบายเรื่องนี้ดังต่อไปนี้

    โดยทั่วไปคําว่า อุเบกขา แปลว่า ความวางเฉย คือ การวางใจเป็นกลางโดยไม่มีเมตตา กรุณา หรือมุทิตา รู้สึกวางเฉยโดยคิดว่าเป็นกรรมของเขา อุเบกขาประเภทนี้เป็นอุเบกขาในพรหมวิหาร ไม่ใช่อุเบกขาบารมีที่จะทําให้สําเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้

    อุเบกขาในบารมี๑๐ มีความหมายว่า การวางใจเป็นกลางในสุขและทุกข์คือ เมื่อมีสุขก็ไม่ยึดติดผูกพัน เมื่อมีทุกข์ก็ไม่ทุรนทุรายเสียใจ วางใจให้เสมอกันในสุขและทุกข์

    ผู้ที่ไม่อาจวางใจเป็นกลางในสุข เมื่อได้รับสุขก็จะขวนขวายให้ได้รับสุขมากขึ้น แม้ผู้ที่ไม่อาจวางใจเป็นกลางในทุกข์เมื่อประสบทุกข์ก็จะทุรนทุรายเสียใจ ขาดความอดทนที่ควรกระทํา ดังนั้น จึงไม่อาจสร้างบารมีอันยิ่งใหญ่ได้เพราะผู้ที่ยึดติดในสุขยิ่งๆขึ้นไป และผู้ที่ปฏิเสธทุกข์ย่อมไม่อาจบําเพ็ญประโยชน์แก่บุคคลอื่นได้

    ดังข้อความในคัมภีร์อรรถกถาว่า

    สุขปฺปตฺโต น รชฺชามิ ทุกฺเข น โหมิ ทุมฺมโน
    สพฺพตฺถ ตุลิโต โหมิ เอสา เม อุเปกฺขาปารมี.

    “เราได้รับสุขก็ไม่เพลิดเพลิน และไม่เสียใจในทุกข์มีใจเสมอกันในสุขและทุกข์ทั้งปวง
    ข้อนี้เป็นอุเบกขาบารมีของเรา”



    unnamed.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ที่โอนค้างไว้จัดส่งรอบพรุ่งนี้นะครับ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    สมัยก่อนใครเคยพลาดเหรียญชุดบูรพาจารย์อย่างเจ้าขรัวแสงไป เดี๋ยวติดตามกันดีๆนะ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    วันนี้ไปส่งของที่ไปรษณีย์ให้แล้วนะครับแต่ไปรษณีย์ปิด เห็นกำหนดการแจ้งไว้ว่าปิดแค่วันที่10 เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองไปส่งให้อีกรอบนะครับถ้าปิดอีกก็ต้องวันจันทร์เลย
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    พรุ่งนี้เย็นห้ามพลาดกันนะครับ กับเหรียญบูรพาจารย์ชุดพิเศษ...
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรหมพล ED 4838 4643 2 TH

    พี่ณธพรหม ED 4838 4644 6 TH

    พี่พรเทพ ED 4838 4645 0 TH

    พี่จารุวรรณ ED 4838 4646 3 TH

    พี่ธวัช ED 4838 4647 7 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    นานๆจะเห็นเครื่องมงคลเป็นจักราวุธซักรุ่นหนึ่ง ยิ่งเป็นเหรียญบูรพาจารย์ด้วยแล้วติดตามกันดีๆนะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแทนคุณบูรพาจารย์ปฐมวงศ์โลกอุดร (เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ผงปราสาทเศรษฐี)

    เหรียญชุดนี้เป็นเหรียญที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างเพื่อสื่อถึงพระปิณโฑลภารทวาชะผู้มากอภินิหาริย์ซึ่งท่านนับถือเป็นต้นวงศ์ของพระโลกอุดรและเป็นอาจารย์ใหญ่สูงสุดในสายโลกอุดรทั้งหมด ด้วยพ่ออาจารย์กับองค์หลวงปู่ใหญ่นั้นดูจะมีอะไรที่ลึกซึ้งมาก แต่ทำอย่างไรท่านก็ไม่ค่อยยอมเล่าเท่าไหร่รู้และทราบกันดีว่าหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือหลวงปู่ใหญ่นั้นคือเอกองค์อรหันต์ที่ยังอยู่ช่วยงานของพระพุทธศาสนาดูแลพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ครบถ้วน 5,000 พระวัสสา ซึ่งท่านก็ได้รับศิษย์หลายต่อหลายรุ่น ซ้ำยังคอยสั่งสอนและช่วยเหลือเหล่าผู้ทรงศีลในเวลายากลำบากเรื่องของท่านนั้นยิ่งกว่าตำนานของเหล่ามหาเทพ ด้วยว่าหาตัวจับยากและเป็นเรื่องที่เกินจริงทั้งสิ้นครั้งนี้จะพูดเพียงสั้นๆเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้พูดอะไรมาก...พ่ออาจารย์ท่านเคารพยึดมั่นถือมั่นมาเสมอว่าพระปิณโฑลภารทวาชะคือต้นวงศ์ของพระเถระสายโลกอุดรทั้งหมด ซ้ำยังมีอาวุโสมากเป็นผู้รู้ราตรีนานด้วยนับได้ว่าเป็นมหาสาวกองค์เดียวที่รับภาระรักษาพระศาสนาจากพระพุทธเจ้าตั้งแต่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ตราบเท่าปัจจุบัน

    ตำนานต้นวงศ์โลกอุดร...
    พระปิณโฑลภารทวาชะผู้ทรงสังขารอยู่ดูแลศาสนาด้วยฤทธิ์อภิญญานั้นจะเรียกว่าท่านเป็นต้นวงศ์ของคณะโลกอุดรที่คนสมัยนี้นิยมเรียกขานกันก็ได้ ซึ่งพระเถระเหล่านี้เราจะไปกำหนดกฏเกณฑ์การพบเจอท่านไม่ได้เลย ดั่งตำนานที่ทราบโดยทั่วกันว่า "เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ในขณะนั้นพระปิณโฑลภารทวาชะท่านกำลังเย็บจีวรอยู่จึงตามเสด็จคณะของพระพุทธองค์ไม่ทัน ด้วยความรีบเร่ง(อาศัยว่าท่านเป็นเลิศด้านการแสดงฤทธิ์อภินิหาริย์สูงสุด ..ในด้านพุทธสาวกด้วยกันแล้วเว้นแต่พระโมคคัลลานะเท่านั้นไม่มีผู้ใดชeนาญเรื่องการแสดงอิทธิฤทธิ์เสมอท่าน) เมื่อตามไม่ทันท่านจึงเข้าพละจตุตถฌานเพื่อเหาะตามเสด็จให้ทันคณะพระพุทธองค์ แต่กลับกลายเป็นว่าก่อนหน้านั้นท่านกำลังเย็บจีวรอยู่จึงทำให้เข็มที่เย็บจีวรนั้นไปปักอยู่บนก้อนศิลาซึ่งมีขนาดประมาณภูเขาหินยักษ์ ด้วยฤทธิ์แห่งพระเถระเมื่อท่านเหาะขึ้นไปด้วยอำนาจอภิญญาจึงบันดาลให้เข็มเย็บจีวรที่ปักบนภูเขาลอยขึ้นไปด้วยดั่งยกเคลื่อนปุยสำลีก้อนหนึ่ง ภูเขาที่พระเถระท่านนั่งเย็บจีวรนั้นก็ลอยติดปลายเข็มมาทางอากาศ... เหตุการณ์นั้นทำให้หญิงท้องแก่ที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ประสบพบเจอภูเขาลอยได้ทำให้นางตกใจจนแท้งลูกในครรภ์ เหตุการณ์ครั้งนี้พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณจึงเรียกให้พระโมคคัลลานะไปเตือนพระปินโฑลภารทวาชะว่ามีสิ่งใดติดขึ้นมาด้วยทำให้พระเถระรู้ว่าบัดนี้ท่านได้เหาะยกภูเขาทั้งลูกลอยตามขึ้นมา เมื่อท่านรู้ท่านจึงได้สละภูเขาลูกนั้นให้กลับไปตั้งอยู่ในที่เดิมของมัน ### เหตุการณ์ครั้งนั้นพระพุทธองค์จึงปรับโทษแก่พระปิณโฑลภารทวาชะให้ดำรงค์สังขารอยู่รักษาพระศาสนาของพระองค์ให้ครบกำหนดก่อน "

    พ่ออาจารย์ท่านจึงยึดว่าในหมู่สงฆ์ยุคนี้ด้วยกันแล้วพระปิณโฑลท่านเป็นต้นวงศ์โลกอุดรอย่างแท้จริงทั้งยังเป็นผู้รู้ราตรีนานมากด้วยพรรษา..มากด้วยอายุขัย...มากด้วยฤทธิ์อภิญญาสูงสุดในปัจจุบัน ท่านได้รับการยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านเป็นผู้บันลือสีหนาท พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละคือประธานของพระในดงที่ลึกลับและเข้าถึงได้ยากที่สุด เมื่อจะทำรูปหลวงปู่เทพโลกอุดรแล้วท่านจึงทำเป็นรูปเปรียบของพระปิณโฑลและคณะศิษย์ของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเป็นเหรียญบูรพาจารย์ที่ฉันใช้สักการะแทนพระปิณโฑลเช่นนี้ เหรียญนี้จึงเป็นเหรียญที่ทรงปาฏิหาริย์สูงสุดตามนิสัยของผู้ชอบแสดงอภินิหาริย์ของพระเถระ...อย่าลืมเสียล่ะว่าไหว้เหรียญนี้แล้วถึงท่านทันทีเพราะปัจจุบันท่านยังไม่ละสังขารไปไหนตามพุทธบัญชาที่ให้ท่านอยู่ดูแลพระศาสนาท่านจึงมีอายุเท่ากับอายุของพระศาสนานั่นทีเดียว

    โดยเหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ใช้เป็นตัวแทนของคณะพระโลกอุดรทั้งหมดทุกองค์ท่านหล่อเหรียญด้วยโลหะกายสิทธิ์ที่เรียกว่าเหล็กไหลนิพพานหรือวัชรธาตุท่านว่าเบิกฤกษ์ทำบูชาคุณครูในวงศ์โลกอุดรท้งหมด โดยครูใหญ่ท่านกำหนดให้ทำเป็นเหรียญจักราวุธจึงเป็นที่มาของพิมพ์"เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์" ซึ่งใครเห็นก็จะงงๆเเละสงสัยว่าเหรียญอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้มีบารมีสูงมากด้วยพระปิณโฑลท่านมีบารมีมากทั้งรู้ราตรีนานสูงสุดในหมู่สงฆ์จึงเป็นที่เคารพนับถือเเก่ผู้ที่ทราบว่าท่านยังไม่ได้ละสังขารอย่างสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญพระเถระที่มีบารมีมากเพราะท่านมีหน้าที่สำคัญคือรักษาพระศาสนาท่านเก่ง..ท่านแกล้วกล้าเชี่ยวชาญในฤทธิ์และอิทธิวิธีท่านทำได้สารพัด เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำเหรียญคณะโลกอุดรนี้องค์ปฐมท่านได้แนะนำว่าให้ทำเพื่อเป็นเหรียญแทนตัวของคณะพระปิณโฑลเช่นนั้นจึงจะช่วยคนได้อีกมาก หากพูดถึงพระปิณโฑลแล้วน้อยคนนักจะรู้จักท่านแต่ต่อไปคนเขาจะเริ่มรู้จักกันมากขึ้นไปเรื่อยๆเพราะบารมี..ของผู้พิทักษ์ศาสนา เหรียญนี้มีคุณมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณต่อไปพลิกแผ่นดินหาก็ยากจะพบเจอ ท่านว่าให้เราทำไว้จะได้ช่วยเผยเเผ่เกียรติคุณของต้นวงศ์โลกอุดรให้คนได้รู้จัก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวัชรธาตุหรือที่เรียกกันว่าเหล็กนิพพานหรือหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี ที่ศิษย์ของท่านอัญเชิญออกมาได้จากถ้ำทางภาคใต้มาหลอมเป็นเหรียญแทนคุณบบูรพาจารย์ชุดบรมจักรซึ่งวัชรธาตุนั้นก็มีอานุภาพมากมาย
    - เป็นธาตุที่ชักชวนผู้ที่เป็นเจ้าของให้ฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศล,สวดมนต์,ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่น น้อมจิตให้ชอบสวดมนต์,นั่งสมาธิ,ประพฤติปฏิบัติธรรมจนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จะทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย
    - เป็นธาตุที่จะจะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ใช้และผู้คนที่อยู่รอบข้างและผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆดับลงไป ทำให้ปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจและทำให้จิตไม่คิดเกินใจไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำ เพราะธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้มีเมตตาคุ้มครองแคล้วคลาดคงกระพันโชคลาภมีบารมีในทุกๆด้าน1000% สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน
    - เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณ แห่งสัมมาทิฐิบารมีดูแลรักษาอริยธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาลที่สามารถหลอมละลายธาตุได้ ถ้าอยู่ในเมืองมนุษย์เรียกว่าเหล็กไหลขาว,เหล็กเปียก,เหล็กน้ำนมแห่งพระแม่ธรณี เป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากพระแม่ธรณีเอาไว้ผู้รู้มักจักนำธาตุชนิดนี้สร้างเป็นยอดปลีของพระธาตุหรือเป็นวัตถุมงคลมีทั้งสำเร็จรูปเป็นธาตุที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ถ้าล่องลอยอยู่ในจักรวาลเรียกว่าจันทราธาตุซึ่งหมายถึงแสงแห่งความร่มเย็นที่จะนำเข้าสู่อริยธรรม ส่วนใหญ่จะถูกเทพเทวาอัญเชิญไปรวมไว้ณ.จุดเดียวกันเพื่อรักษาคุ้มครองป้องกันพระบรมสารีริกธาตุพระอรหันตธาตุเพื่อเป็นฐานรองรับพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีณ.ห้องพระนิพพานแห่งแดนสุขาวดี จึงกลายเป็นธาตุที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลแห่งเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในธาตุชนิดนี้เราเรียกธาตุชนิดนี้ว่าเป็นวัชรธาตุ
    - เมื่อโลกมนุษย์เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลสวัชรธาตุก็เกิดความเร่าร้อนตามไปด้วย จึงเกิดการละลายตัวหยดลงณ.โลกมนุษย์ เราจึงเรียกว่าวัชรหยดน้ำฟ้าหรือเหล็กไหลพระนิพพานเพื่อลงมาช่วยเหลือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลาย จนสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไปและตั้งมั่นแห่งการสะสมบุญบารมีกันต่อไปจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์


    เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์...หมุนล้อจักรแห่งชีวิต
    อันเทพศาสตราจักราวุธนั้นนับเป็นอาวุธวิเศษซึ่งมีอานุภาพมากด้วยจักรนั้นมีหลายชนิดทั้งจักรของพระเป็นเจ้า,ของเทพเจ้า,ของพระโพธิสัตว์และจักรของพระจักรพรรดิ์
    ด้วยจักราวุธนั้นย่อมมีนามต่างๆกันไปอย่างบรมจักรศิวาทิตย์นี้เอง..ก็ได้ชื่อว่าเป็นกงล้อแห่งชีวิต

    กงล้อแห่งชีวิตคือพลังวิญญาณที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นพลังที่จะเติมเต็มชีวิตและใช้ขับเคลื่อนชีวิตทั้งในคติบรมจักรศิวาทิตย์นี้ยังหมุนไม่หยุดนิ่งตราบใดที่วัฏจักรยังดำรงค์อยู่ เพราะพลังแห่งชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่บำรุงสังสารวัฏและให้คุณแก่สรรพชีวิตอย่างสูงสุดถือเป็นหนึ่งในจักราวุธชั้นยอด พ่อาอจารย์ท่านว่าการสร้างจักราวุธนั้นสำเร็จได้ยากยิ่งอย่างแท้จริงเพราะเมื่อทำแล้วต้องสมบูรณ์พร้อมทั้งรูปนามและพลังเทพวิญญาณ ด้วยจักราวุธนั้นปราบได้ทั้งโลกแม้สวรรค์อสูรพิภพและใต้บาดาล มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ทำลายจักรวาลได้อีกชนิดหนึ่ง

    บรมจักรศิวาทิตย์คือ
    การหมุนวนพลังชีวิตในกายที่เสื่อมโทรมให้ฟื้นฟู วัฏจักรที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนที่ขาดสิ่งเร้าไร้ปัจจัยกระตุ้นทำให้ทุกสิ่งชะงักหยุดนิ่งนี่คือปัญหาของชีวิตในปัจจุบันด้วยอาศัยวัฏจักรและบุพกรรมของแต่ละคนทำให้การเคลื่อนการโคจรของพลังชีวิตมนุษย์นั้นไม่ได้เสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญเคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ดุจการหมุนวนพลังชีวิตในห้วงสังสารวัฏนอกจากจะมีอานุภาพทำลายล้างที่รุนแรงแล้วจักรศิวาทิตย์ยังเป็นที่พึ่งพิงแก่สิ่งมีชีวิตทั้งมวลทั้งสิ้นอีกด้วย เพราะพลังงานชีวิตที่บกพร่องขาดการฟื้นฟูไร้สิ่งเติมเต็มนั้นจะนำมาสู่จุดตกต่ำในที่สุด เช่นนั้นจักรศิวาทิตย์จึงเป็นตัวแทนขององค์คุณอันประเสริฐ เป็นพลังชีวิตที่จะยังให้เกิดฤกษ์ดี,มงคลดีและความสว่างดีแก่ชีวิต เป็นพลังงานของสรรพมงคลในกาลทั้งปวง

    แม้จะเป็นจักรแห่งชีวิตก็ไม่ทิ้งพลังทำลายล้างอันรุนแรงของจักราวุธ เพราะจักรศิวาทิตย์นี้สามารถใช้ประหารศัตรูอันเป็นสิ่งมีชีวิตไม่จำกัดได้ทุก
    เผ่าพันธุ์จึงเป็นเทพอาวุธที่ให้ทั้งคุณและสร้างภัยพิบัติได้อย่างรุนแรง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติอาวุธนั้นมีไว้แต่ทำลายแต่จักรศิวาทิตย์นั้นต้องเรียกว่ารุก - รับครบเครื่อง ด้วยสมัยนี้คนเราจะไปฆ่าฟันกับใครจะป้องกันตัวอะไรกันนักหนา ก็เห็นๆอยู่ว่าแต่ละคนนั้นพลังชีวิตบกพร่องชะตาแปรปรวนไม่สมบูรณ์ไร้สิ่งเติมเต็มที่จะนำความบริบูรณ์มาสู่วัฏจักรของตนเอง ครูใหญ่เบื้องบนจึงเจาะจงให้เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่ฉันทำจักรของพระศิวะนะเห็นชื่อศิวาทิตย์เช่นนี้ไม่ใช่พระศิวะ หากแต่เป็นศิวาที่หมายถึงพระนิพพานเป็นศิวาที่หมายถึงความเจริญ..ความเป็นมงคล..ให้คุณ..ให้ผลดั่งจินตนา จักรศิวาทิตย์นี้ชื่อก็บอกตรงตัวอยู่แล้วว่าเป็นจักรที่ให้คุณใหญ่ให้ผลประโยชน์ใหญ่มนุษย์ใดที่มีวาสนาเคลื่อนกงล้อบรมจักรศิวาทิตย์ชีวิตเขาจะมีเพียงคติเดียวเท่านั้น นั่นคือเป็นผู้รับคุณ..รับผลอันยิ่งใหญ่

    จักรศิวาทิตย์นี้ใช้คลายอำนาจการลงทัณฑ์ของเทพเจ้าได้แม้อำนาจทัณฑ์แห่งดาวบาปเคราะห์ทั้งปวงก็เสื่อมลง พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวเราในปัจจุบันนั้นยังยากจะรู้ตัวเองแล้วจะเอาอะไรกับในอดีตที่จะรู้ตัวเองได้เป็นไม่มี เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเคยโดนใครสาปใครแช่งคนที่สาปเราเป็นคนรึตอนนี้เขาเป็นเทพเจ้ามากบารมีที่ไหน ท่านว่านั่นแหละบรมจักรศิวาทิตย์หมุนวนทำลายกฏแห่งคำสาปร้ายได้ทั้งสิ้นทั้งยังใช้พลิกแพลงวิถีชีวิตยิ่งตัวเราดิ่งตัวเราหยุดอยู่กับที่มานานเท่าไหร่จักรแห่งชีวิตก็จะยิ่งเติมเต็มมากขึ้นหมุนเร็วมากขึ้น แรกๆชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนกำลังชีวิตเราไม่ขาดไม่พร่องนั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าติดเหรียญนี้เป็นคุณแก่ตัวเองหนักหนาเพราะเขาตัดวงจรกรรมกลางวิถีกฏที่ผันแปรนับหมื่นพันได้

    ในสกลจักรวาลนั้นหากนับจักรพระนารายณ์ว่าเป็นราชันแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่า
    จักรศิวาทิตย์นั้นก็เสมือนด้วยเงาแห่งราชันเพราะเป็นอำนาจที่จะเติมเต็มพลังชีวิตให้สมบูรณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำจักราวุธให้ศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องให้เบื้องบนช่วยทำเพราะจักรศิวาทิตย์นั้นเป็นเทพวิญญาณเมื่อสำเร็จแล้วจึงมีอานุภาพใช้ได้ทุกทางแม้ทางรุกก็ปราบศัตรูแม้ทางรับก็เติมเต็มพลังชีวิตเคลื่อนหมุนโคจรวงล้อชะตากรรมของเราให้รุดหน้าไม่เสื่อมถอยจะปราบทุกข์เข็ญทั้งอุปสรรคทั้งปวงให้สลายหายสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าขึ้นชื่อว่าจักราวุธแล้วไม่ว่าจะพิชิตหมู่มาร,มีชัยเหนือศัตรู,ทำลายทะลุทะลวงคุณไสยมนต์ดำอวิชชาต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ทั้งเขายังเป็นของทิพย์มีธาตุทิพย์ของตนเองทั้งจักรศิวาทิตย์ยังเป็นจักราวุธในแดนนิพพานแม้ทวยเทพยังไม่อาจควบคุมหรือเข้าใจได้

    โดยทั่วไป
    เมื่อบังเกิดจักรรัตนะขึ้นในโลก จักรจะสามารถมอบให้ซึ่งความเป็นใหญ่ในทวีปใหญ่ทั้งสี่มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารแก่ผู้ครอบครอง แม้จักรศิวาทิตย์ก็เช่นกันทั้งนี้ด้วยได้ชื่อว่าเป็นจักรที่เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายให้..ไม่ว่าจะให้คุณ..ให้ผลประโยชน์ทั้งหลายท่านจึงยกไว้ว่าพูดอะไรมากไม่ได้เพราะจักราวุธชิ้นนี้ต่างจากอาวุธทำลายล้างใดๆท่านว่าผู้ได้ต้องมีวาสนาสูงดุจยอดเขากว้างใหญ่ดั่งท้องพระสมุทร ด้วยศิวาทิตย์จะหมุนวัฏจักรแห่งชีวิตคนเข้าหาผลประโยชน์อันเกื้อกูลเฉพาะตนทั้งสิ้น
    **** พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อได้ไปแล้วให้เอาปากกาเขียนชื่อเราสลักไว้ที่จักรศิวาทิตย์เลยเป็นคติว่าชีวิตเราจะเคลื่อนที่เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งจักรยังจะได้เติมเต็มพลังแก่บุคคลผู้นี้ตลอดไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเขียนครั้งนี้ดุจเป็นพันธะทางพลังวิญญาณจะเกิดชาติหน้าหรือเกิดอีกกี่ชาติคุณของจักรศิวาทิตย์ก็จะเติมเต็มแก่ชีวิตเราตลอดไป

    เหรียญบูรพาจารย์ชุดเคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงมากหนึ่งคือยอดอริยะสงฆ์ต้นวงศ์โลกอุดรผู้เชี่ยวชาญการแสดงฤทธิ์อีกหนึ่งคือยอดจักราวุธแห่งชั้นนิพพานจึงเป็นเหรียญที่ใช้แก้ไขชะตาและสิ่งต่างๆอันรวนเรในวงจรชีวิตตนเองได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเราสลักชื่อลงไปที่จักรศิวาทิตย์นี้เสมอด้วยการปรับภพภูมิให้ตนเองแบบฉับพลันทันที บรมจักรนั้นจะมีสิทธิ์ในการแก้ไขชะตาทั้งมีสิทธิ์ในการประหารสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายอันอยู่หลังความพินาศย่อยยับของเราโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ไม่ต้องบอกหรือขออะไรเลยนะเพราะกายทิพย์ของจักรศิวาทิตย์ย่อมหมุนวนอยู่ตลอดเขาทำงานเองอยู่ตลอดเวลา

    ***สิ่งที่น้อยคนนักยากจะรู้

    บรมจักรศิวาทิตย์นี้เมื่อสถิตย์อยู่ตำแหน่งใดหากมีคนให้ร้ายแก่เราทั้งต่อหน้าและลับหลังหรือหากเขาทำเรื่องเลวร้ายให้เกิดขึ้นแก่เรา พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละบรมจักรนั้นมีเทพวิญญาณเขาจะแก้ไขทันทีแม้เราไม่ได้บอกเขา...บางอย่างจะบอกอะไรได้กำลังเจอกับอะไรบางทีเราก็ไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่ในทางรบนั้นบรมจักศิวาทิตย์จะใช้ป้องกันตัวเราเองดีที่สุดอย่าเอาไปอธิษฐานเรื่องที่พิเรนทร์หรือประทุษร้ายต่อใครอยู่ดีๆอยากให้ใครพินาศโดยไม่มีสาเหตุเท่านั้นก็พอ
    - แม้นปรารถนาทรัพย์ ปรารถนาหนทางเส้นทางการไขว่คว้าชะตา บรมจักรย่อมผันกาลเวลานั้นมาถึง
    - แม้นจะปราบปรามศัตรู กำราบทุกข์เข็ญ ตัดอุปสรรค ลดทอนแรงกรรมเจ้ากรรมนายเวร ถอดถอนแก้กลอาถรรพ์ บรมจักรย่อมเคลื่อนกำราบ
    - แม้นจะเปลี่ยนชะตาอันติดมาแต่ชาติกำเนิด บรมจักรย่อมแปลงกฏแห่งมหาวิถี

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้ใช้เอาดีได้หมดไม่ว่าจะทางโลกและทางธรรม มี
    บรมจักรอยู่ตัวปัญญาจะสุกใสความคิดจะไม่หม่นหมองติดขัดอับจนหนทาง แม้ปฏิบัติสมาธิตัวปัญญาความรู้ก็ใสกระจ่างวิชชาทั้งหลายย่อมเข้าถึงได้ง่าย เพราะบรมจักรศิวาทิตย์เป็นจักรนิพพานที่หมุนเอาความสุขทุกเรื่องในมหาจักรวาลเข้ามารวมกันจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ถือครองจะเลี่ยงหลีกความสุขไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องปัญหาของมนุษย์คนเดียวนั้นจึงเป็นเรื่องเล็กอย่างถึงที่สุดถ้าจะใช้บรมจักรแก้ไข เหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านหล่อและเสกมาหลายปีท่านพูดยิ้มๆเหมือนปัดออกไปว่ากว่าจะสำเร็จได้เรียกกันว่าเสกจนลืมตายทีเดียวลืมไปเสียแล้วว่าทำอะไรไปบ้างเพราะมันยากเหลือเกินยากจนไม่อยากจะจำ บรมจักรศิวาทิตย์ชุดนี้แม้พ่ออาจารย์ท่านก็ใช้ติดตัวท่านว่าป้องกันภัยทุกอย่าง,ปรับธาตุกันแก้,ล้างคุณไสยเสนียดจัญไร,อาถรรพณ์วิชาชั้นต่ำ แถมยังขอบารมีให้ปราบคนทุจริตคิดชั่ว,คนที่กระทำเล่ห์กลใส่เราได้ หากจะทำมาหากินเมื่อจักรผันย่อมบันดาลความสุขจะใช้ดูดทรัพย์,ดูดวาสนา,ดูดชะตาคน,ดูดลาภในสัตว์จตุบททวิบาท,ดูดโชคลาภ,ดูดสิ่งมงคลที่เราปรารถนาท่านว่าใช้ได้ทั้งสิ้นจะนำมาแช่ทำน้ำมนต์ก็มีฤทธิ์สารพัดตามอธิษฐาน เจ็บป่วยไร้หนทางเยียวยาหาสาเหตุไม่ได้ให้อาราธนาบรมจักรคลี่คลายโรคเวรโรคกรรมนั้น แม้นแขวนคอไว้ก็จะช่วยปรับคลื่นพลังจักรวาลดูดสลายคลายก่อเปิดสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ตลอดเวลา เพราะบรมจักรเป็นดั่งตัวเชื่อมเรากับพลังงานในชั้นนิพพานให้เราสามารถใช้ประโยชน์แก่ยอดธาตุยอดพลังงานนั้นได้ตามบุญวาสนาของตน พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรมเพิ่มพูนอำนาจวาสนาบารมี จะหนุนกิจและหน้าที่ทั้งหลายให้สำเร็จ นับเป็นวัตถุที่มีอานุภาพใหญ่เมื่อสถิตย์เป็นมงคลแก่ชีวิตผู้ใดจะเปลี่ยนวาสนาชะตาคน นอกจากนี้ยังมีคุณแห่งจักราวุธคือพื้นฐานจักราวุธทุกรุ่นของพ่ออาจารย์จะมีอำนาจดุจเดียวกัน
    1. ตัวกูผู้ชนะ
    2. มหาอำนาจราชศักดิ์
    3. เมตตาชนนิยม
    4. ป้องกันโรคภัย
    5. ความมั่นคงและมั่งคั่ง
    6. ป้องกันภัยพิบัติ
    7. ปรับภพหนุนนภูมิ
    8. เปลี่ยนลิขิตดวงดาวหลีกเลี่ยงบาปเคราะห
    9. บารมี โชคลาภ ความก้าวหน้า


    ด้านหลังท่านอุดด้วยมวลสารล้วนๆคือผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญอยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้นซ้ำยังเป็นยอดคนทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด ผงเจดีย์100ยอดนี้ท่านว่าทำยากเพราะเดินทางหลายครั้งหลายวาระเสียเวลามากต้องขอต้องพลีนำมาตำมาบดกว่าจะเสกเก็บไว้ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าดีหนุนนำความเจริญได้ทุกทางจะใช้ไปทางโปรดสรรพสัตว์ที่ตกยากขอให้ยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัยเป็นอันใช้ได้ หากเอาเหรียญบูรพาจารย์ชุดบรมจักรนี้สวมคอจำเอาไว้เลยว่าในโลกทิพย์ที่เรามองไม่เห็นนั้นบรมจักรเขาจะออกหน้าออกรับอันตรายทั้งหลายแทนเราทั้งสิ้นไปไหนเทวดาก็เกรงใจเพราไม่ใช่จักราวุธสามัญ ด้วยผงสำคัญที่เสริมกำลังกับคุณบูรพาจารย์และบรมจักราวุธนี้จะมีพลังพิเศษเพื่อหนุนชีวิตเราให้ลอยขึ้นสูงดุจดาวค้างฟ้าได้ ทั้งยังฝังขวดบรรจุอุดด้วยผงปราสาทเศรษฐี
    - ผงปราสาทเศรษฐี พ่ออาจารย์ท่านว่าตั้งแต่ยุคโบราณศูนย์รวมความเจริญ ศูนย์รวมความสุข ศูนย์รวมความบรรเทิง สิ่งต่างๆที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดในแผ่นดินย่อมไม่มีปรากฏในเรือนคนสามัญธรรมดา ความสุขเหล่านั้นจะมีจะปรากฏก็เฉพาะในปราสาทเท่านั้น ผู้ที่อาศัยในปราสาทแม้อยู่บนดินเหมือนคนทั้งหลายแต่กลับเสวยสุขดุจเทวดาได้ พ่ออจารย์ท่านว่าผงปราสาทเศรษฐีก็ให้คุณดุจเดียวกันแต่ทำยากเพราะต้องไปพลีดินปราสาทที่รุ่งเรืองที่สุดมาทำท่านจึงเลือกใช้ดินปราสาทในราชวงศ์เขมรบ้าง สุโขทัยบ้าง อยุธยาบ้าง จะใช้ได้เฉพาะปราสาทที่เจ้าของตายดีตายแบบปกติเท่านั้นนำมาทำอาถรรพ์เขียนลบยันต์ปราสาทเศรษฐี ท่านว่าผงนี้จะเป็นดุจพาหนะนำไปให้เราถึงความสุขเจริญด้วยสิ่งสุขสบายทั้งหลาย...ท่านว่าเปรียบกับพระเจ้าจักรพรรดิ์นั่นเลยนี่คือความสุขของวิชาผงปราสาทเศรษฐี เป็นความสุขที่เกินคนธรรมดา เป็นวิชาที่บันดาลความสุขให้เสมอด้วยเราเป้นเทวดาที่เหยียบดินเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนปกติเขาทำมาทั้งชีวิตเขาจะแสงหาพยายามอย่างไรก็ยังมีพิกัดอยู่แค่คนธรรมดาเท่านั้นไม่อาจพัฒนาไปสูงส่งกว่านี้ สูงที่สุดของคนธรรมดาก็คือคนธรรมดา แต่ผงปราสาทเศรษฐีเป็นวิชาเนรมิตความสุขทุกด้านให้สมบูรณ์พร้อม ทั้งท่านยังนำมาฝังเหรียญคณะโลกอุดรที่มีพระปิณโฑลเป็นองค์ต้นวงศ์จึยิ่งมีฤทธิ์เร่งเร้าอานุภาพสิ่งมงคลทั้งหลายในเหรียญให้เกิดขึ้นฉับพลันตามความถนัดของท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันบอกได้แค่เหรียญที่หล่อที่ทำไว้ชุดนี้มีประสบการณ์ดีมากก็เพราะผงลบปราสาทเศรษฐีนี่แหละที่แก้อาถรรพ์เปลี่ยนทางเปลี่ยนแนววิถีชีวิตคนได้ ที่เคยมีคนมาบูชาไปเดี๋ยวนี้สร้างบ้านได้ใหญ่โตอย่างกับปราสาทจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญใครวาสนาของใครเราจะไปชี้นำเขาไม่ได้ท่านว่าบอกเค้าสั้นๆ ไม่ต้องพูดอะไรเยอะของดีอย่างไรก็ย่อมดีสายครูบาอาจารย์ของใครก็ของคนนั้นเค้าไม่เอาก็ไม่ต้องไปฝืนท่านกล่าวว่าทำไว้เป็นอาจาริยบูชาศิษย์ไม่ทิ้งครูครูก็ไม่ลืมศิษย์เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้นำเหรียญมาเสกเก็บตลอด โดยท่านทำเป็นเหรียญหล่อเเบบบาตรน้ำมนต์ไม่ให้ใหญ่จนเกินไปเด็กหรือผู้หญิงห้อยคอบูชาไม่น่าเกลียด ก่อนจะเชิญบารมีองค์พระปิณโฑลต้นวงศ์โลกอุดรลงมาเสกลงมาเเฝงบารมีของท่านลงในเหรียญหล่อทุกเหรียญ ท่านเสกเก็บจนครบทุกฤกษ์ทั้งราชาฤกษ์,เพชรฆาตฤกษ์,มหัทธโนฤกษ์,เทวีฤกษ์,สมโณฤกษ์,ทลิทโทฤกษ์,เทศาตรีฤกษ์ ท่านเสกเก็บจนครบทุกฤกษ์เเม้เเต้วันสำคัญอย่างวันสงกรานต์ท่านก็เอาไปเสก,เสกบนดอยท่านก็นำขึ้นไป,ฤกษ์จันทรุปราคา-สุริยุปราคาในพิธีอุปราคาทั้งสองท่านก็นำไปเสก พ่ออาจรย์ท่านว่านี่แหละเจ้าของเขาจะไขว่คว้าเองอย่าถามเราเชียวว่าดีอย่างไร เพราะเหรียญนี้ต้องมีบารมีอย่างเดียวถึงจะดลใจให้ได้ครอบครองทันกาลทันจังหวะ

    คาถาบูชา
    โยอะริโยมหาเถโร อะระหังอภิญญาธะโรปะฏิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโชพุทธะสาวะโก พะหูเมตตาทิวาสะโนมหาเถรานุสาสะโก อะมะตัญเญวะสุชีวะติ อภินันทีคุหาวะนัง โสโลกุตตะโรนาโม อัมเหหิอภิปูชิโต อิธะฐานูปะมาคัมมะ กุสะเลโนนิโยชะเย ปุตตะเมวะปิยังเทสิ มัคคะผะลังวะเทสสะติ ปะระมะสารีริกะธาตุวะชิรัญจาปิวานิตัง โสโลเกจะอุปปันโน เอเกเนวะหิตังกะโร อะยังโนโขปุญญะลาโภ อัปปะมัตโตภะเวตัพโพ สาธุกันตังอะนุกะริสสามะ ยังวะเรนะสุภาสิตัง โลกุตตะโรจะมหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตังอะหังวันทามิตังสะทา มหาเถรานุภาเวนะ สุขังโสตถีภะวันตุเม


    ชุดเคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์นี้ด้วยเป็นของเก่าที่ท่านชอบส่วนตัวเพราะใช้ได้หลายทางทั้งเป็นเหรียญที่เคยมีคนใช้ประสบพบเจอประสบการณ์มากมายหลายๆเรื่องดุจอภินิหาริย์ เนื่องจากองค์พระสร้างไว้ได้เพียง 9 เหรียญเพราะมวลสารอุดหลังมีจำกัดมากและท่านอาราธนาห้อยคอเองเหรียญหนึ่งจึงมีให้บูชาจำนวนจำกัด ท่านให้เปิดจองเพียงหกเหรียญเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแทนคุณบูรพาจารย์ปฐมวงศ์โลกอุดร (เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ผงปราสาทเศรษฐี) บูชา 4,000 บาท

    130091841-1451445181728311-2602110125868773751-n.jpg 131208815-234083608076854-5277711495535258367-n.jpg
    131207950-722546565350626-426064900608280394-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2020
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ลงรายละเอียดให้คร่าวๆก่อนนะครับ พรุ่งนี้ติดตามกันแบบเต็มๆอีกที แค่รู้ว่าเป็นพระปิณโฑลผู้เชี่ยวชาญการแสดงฤทธิ์ทั้งเป็นต้นวงศ์คณะโลกอุดรหลายๆคนก็ตื่นเต้นแล้ว หนนี้บอกเลยว่าเป็นยอดเหรียญบูรพาจารย์ทั้งจักรศิวาทิตย์นี้เป็นจักราวุธที่ใช้เพื่อรับคุณ..รับผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ ท่านว่าจักราวุธสำคัญนี้ทำได้แค่ครั้งเดียว
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ลงรายละเอียดให้ครบแล้วนะครับวันนี้ ใครจองเหรียญชุดบูรพาจารย์ทันก็ดีใจด้วยเพราะนานๆทีจะเห็นพ่ออาจารย์ท่านทำจักราวุธ และจักราวุธชุดนี้ยังให้คุณต่างจากอาวุธที่มีไว้ทำลายเพียงอย่างเดียว"บรมจักรศิวาทิตย์..ที่ผันเร่งกาลให้ได้รับ..ได้ผล..แห่งความสุข"
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    9 วิธีทำชีวิตให้สงบสุข

    ในชีวิตของคนเรามีเรื่องต่างๆมากมายให้ต้องประสบพบเจอ แถมเรื่องบางเรื่องยังเป็นเรื่องที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอีกต่างหาก ซึ่งนี่เองอาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อสภาพร่างกายและจิตใจ ดังนั้นแล้ววันนี้จึงนำเสนอวิธีการดีๆที่สามารถช่วยให้คุณจัดการกับชีวิตและปัญหาที่เกิดขึ้นได้ มาดูกันว่าวิธีการที่ว่านั้นมีอะไรบ้างและจะช่วยให้ชีวิตคุณสงบสุขได้อย่างไร

    1. กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
    การกำหนดระยะเวลานี้จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งเวลาให้มีความเหมาะสมและลงตัวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน,เรื่องการเรียนหรือเรื่องใดๆก็ตามแต่ การจัดสรรเวลาจะมีประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญเมื่อคุณแบ่งเวลาได้แล้วก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกกังวลหรือเกิดความครียดใดๆขึ้นเลย

    2. หาวิธีให้ร่างกายได้พักผ่อน
    การพักผ่อนถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายจากหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบได้มากเลยทีเดียว ลองหากิจกรรมที่คุณชอบและถนัดเช่นไปออกกำลังกาย,อ่านหนังสือ,เล่นโยคะ ฯลฯเหล่านี้จะช่วยได้มาก

    3. อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
    เรื่องเล็กน้อยยิบย่อยก็ไม่ควรนำมาใส่ใจแต่อย่างใด ปล่อยวางไปซะบ้างไม่อย่างนั้น ะทำให้เกิดความเครียดตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณอย่างยิ่ง

    4. ช้าๆได้พร้าเล่มงาม
    บางครั้งการรีบร้อนมากเกินไปอาจไม่ส่งผลดีเท่าที่ควร ดังนั้นแล้วลดสปีดลงสักนิดค่อยๆทำ ค่อยๆพิจารณา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถจัดการงานต่างๆได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น

    5. เก็บกวาดข้าวของซะบ้าง
    ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือที่บ้าน หากคุณมีสิ่งของที่วางระเกะระกะกระจัดกระจายอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางแล้วล่ะก็ ทำการปัดกวาดเช็ดถูเก็บข้าวของนั้นๆโดยไว เพราะเมื่อคุณเก็บกวาดเสร็จแล้วจะทำให้คุณมีความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้นจะหยิบจับอะไรก็สะดวก

    6. ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานซะบ้าง
    ถ้าชีวิตมัวแต่จมปลักอยู่กับเรื่องเครียดๆมากจนเกินไปจะทำให้คุณมีแต่แย่ลงและแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นแล้วอะไรก็ตามที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับตัวคุณได้ก็หามาใส่ตัวเองซะบ้าง ชีวิตนี้จะได้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

    7. หลีกหนีจากโลกแห่งความวุ่นวาย
    หากงานที่ทำมีความยุ่งยากซับซ้อนชวนวุ่นวายชีวิตมากมาย ก็ขอให้รีบๆเคลียร์งานนั้นๆแล้วหาเวลาออกไปพักผ่อนซะบ้าง จะออกไปเที่ยวไปดูหนังฟังเพลงอ่านหนังสือฯลฯก็เป็นทางออกที่น่าสนใจเช่นกัน

    8. ตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเต็มที่
    ประเภทที่ว่าชอบทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันขอให้เลิกทำแบบนั้นซะ เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่มีสมาธิกับสิ่งใดเลย เผลอๆอาจจะทำให้งานที่ทำไม่มีประสิทธิภาพแถมยังส่งผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่หนักไปกว่าเดิมอีกต่างหาก

    9. จัดการกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
    ขอให้จำเอาไว้เสมอว่า "ทุกปัญหา ย่อมมีทางออก" ไม่ว่าปัญหาที่เข้ามาในชีวิตจะมีความรุนแรงต่อสภาพจิตใจมากน้อยขนาดไหนก็ขอให้ใจเย็นๆ คิดอย่างรอบคอบค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละขั้นๆ หรืออาจจะปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยก็ได้จะสามารถช่วยแก้ปัญหานั้นๆได้มากเลยทีเดียว

    ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการดีๆที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ และทำให้คุณเกิดความสบายใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วยลองนำไปปรับใช้ดูก็ได้
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ใครที่รอชุดหลักร้อยอยู่หนนี้ติดตามกันดีๆนะครับคุ้มแน่ๆ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    นานๆทีจะมีชุดหลักร้อยออกมา หนนี้ใครทันคุ้มจริงๆครับห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ ED 4838 3615 7 TH

    พี่วุฒิชัย ED 4838 3616 5 TH

    พี่กฤตยชญ์ ED 4838 3617 4 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าซ้อนเงามหิทธิเมธาจารย์เนื้อเหล็กนิพพาน (เจ้าขรัวเเสงชุดเงาะถอดรูป)

    วิชาลงตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงานั้นถือเป็นวิชาสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านจะนับครั้งทำได้เลยและหนนี้ถือเป็นความโชคดีกับคนที่รอเหรียญชุดบูรพาจารย์ และกลุ่มบุคคลต่างๆที่ติดต่อมาขอบูชาเหรียญเจ้าขรัวแสงยุคแรกซึ่งไม่มีอีกแล้วจะได้มีโอกาสอาราธนาเจ้าขรัวแสงยอดครูผู้ศักดิ์สิทธิ์์อีกคราหนึ่ง
    เจ้าขรัวแสงฝังตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงาตำรับสำนักพระราชวังเขมรโบราณ(เงาะถอดรูป)
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเงาะถอดรูปนี้จะหาคนที่ทำเป็นและทำได้จริงนั้นหายากอย่างยิ่ง แต่เดิมนั้นเป็นวิชาที่บรมครูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายมักจะนิยมหยิบนำมาใช้กัน วิชานี้ท่านว่าคุณพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั้นก็เก่งอย่างหาตัวจับยาก แม้แต่หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัวก็ยังทำได้ขลังเช่นกัน ท่านว่าแม้สายวัดประดู่โรงธรรมก็ยังมีวิชานี้ ซึ่งทุกที่แต่ละตำรับนั้นครูบาอาจารย์ท่านจะเพิ่มเติมเคล็ดหรือวิธีการสร้างให้แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มนั้นมีแนวทางคล้ายกันอยู่แต่ก็มีความต่างอยู่ในตัวเอง ท่านจึงนำวิชาของทั้งสองสายมาบูรณาการและเรียกวิชานี้ว่าพระเจ้าซ้อนเงา ท่านว่าลำพังเคยสร้างก็เพียงเสี้ยววิชาหรือใช้คาถานำมาเสกเฉยๆก็นับว่าพุทธคุณสูงแล้ว และสำนักต่างๆก็มักจะทำกันเพียงเท่านี้ ไม่มีที่จะสร้างเงาะถอดรูปตัวเต็ม เพราะมันยากและวุ่นวายมากนั่นเอง แต่ในวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างบูชาคุณครูวิชาเสียชุดหนึ่ง ท่านตั้งใจจะลงตะกรุดตัวนี้ให้มีลักษณะเล็กๆเพื่อที่จะได้นำไปฝังในเจ้าขรัวแสงชุดพิเศษ กล่าวให้เข้าใจคือนอกจากวิชาพระเจ้าซ้อนเงาหรือเงาะถอดรูปที่ท่านลงแล้วท่านยังเมตตาชักพระยันต์ลงวิชา.....(บางอย่าง) *ท่านว่าวิชานี้ท่านไม่สามารถบอกชื่อได้เพราะเป็นวิชาของขอมโบราณ มีอุปเท่ห์ในการชักยันต์ที่ยากลำบากและกว่าจะสำเร็จนั้นยากเลือดตาแทบจะกระเด็นทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ต้องไปนั่งจารนั่งลงอยู่ในประสาทขอมโบราณ โดยเลือกฤกษ์ยามให้ตรงกับเวลาที่สงัด เมื่อคิดจะทำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าความยากอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงผูกอาถรรพ์เลยทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ปกติจะสืบทอดต่อกันมาและใช้กันเฉพาะในสายของสำนักพระราชวังแต่โบราณ ไม่เคยปรากฏว่าจะได้มาตกถึงมือคนนอกเพราะเค้าหวงแหนและบดบังกันมาก

    จะกล่าวถึงวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะไปนึกถึงนิยายรจนาเลือกคู่ไป ที่ไปนึกถึงมนต์จินดามณีก็มี ในครั้งหลังนั้นท่านว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายถึงกับอุปโลกเป็นเรื่องเดียวกับจินดามนต์ไปเลยก็มาก ท่านว่าความจริงแล้ววิชาเงาะถอดรูปเป็นวิชาที่ต้องใช้ความเพียรอย่างมากเนื่องจากเวลาลงทุกตัวอักขระต้องจรดเหล็กจารว่าพระคาถาเฉพาะทุกตัวไม่มีขาดหรือคลาดเคลื่อน แม้ชักยันต์ก็ต้องว่าสูตรชักยันต์เฉพาะทางของเค้ามีคาถาลงและเสกซับซ้อนมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าเห็นกันว่าเป็นตะกรุดดอกเล็กนี่แหละทำยากกว่าสร้างพระเสียอีกแต่ท่านก็ตั้งใจทำ ท่านว่าทำไว้ให้ดู ให้คนมีวาสนากับคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มท่านเอาไปใช้ ทุกดอกล้วนมีตราบัญญัติมีเจ้าของครอบครองเขาทั้งสิ้น โดยวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ว่าอย่างแรกเลยที่จริงแล้วมันเป็นวิชาเสน่ห์เห็นพบสบตาให้เกิดจิตปฏิพัทธ์ในใจ ให้หลงรูปของเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่ให้ผลในวงกว้าง ท่านว่าแม้ไม่สวยไม่หล่อ แต่พอเค้าเห็นเราเท่านั้นจิตใจเขามันจะแกว่ง ต้องมอง อยากมอง อยากจ้องคนที่มีวิชานี้ จ้องเข้าไปแล้วให้เกิดความชื่นชมนิยมยินดี จ้องเข้าไปแล้วหากมีวาสนาต้องกันย่อมมีจิตหลงใหล จ้องเข้าไปแล้วอดใจไม่อยู่เก็บความรู้สึกไม่ได้เช่นนั้น นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าความจริงแล้ววิชาของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มนั้น มิได้หวังแค่อานุภาพพทธคุณฉาบฉวยแต่เรื่องโลกีย์วิสัยแต่อย่างใด เงาะถอดรูปคือถอดออกทั้งหมด..เกิดเป็นคนใหม่..รูปใหม่..โฉมใหม่เลยทีเดียวท่านว่าพลิกฟื้นคืนกลับถึงปานนั้น เพราะเป็นวิชาที่สูงมาก เมื่อทำต้องเสี่ยงบารมีนำเอาบารมีของแต่ละชาติในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายดึงบารมีท่านลงมาอาบมาฉาบมาเคลือบตะกรุดนี้ มีแรงครูสูงมากถึงขนาดรับรองได้เลยว่าย่อมทำให้ความปรารถนาทุกประการนั้นกลายเป็นเรื่องจริงและเกิดผลสำเร็จได้ ท่านว่าคุณของวิชามันซึมซับไม่ใช่ส่งผลเฉพาะกับรูปกายเท่านั้นที่ว่าทำให้คนอยากมองอยากเห็น แต่มันซึมลึก ซึมลงไปถึงจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อแตกกายย่อยยับดับสังขารลงแล้วยังจะตามคุ้มครองไปถึงชาติหน้าภพหน้า และยังเป็นปัจจัยติดตัวทำให้พบพระศาสนาในสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่คุณวิชามันค่อยๆถอดทีละชั้นทีละชาติภพถอดจนกระทั่งมีนิพพานเป็นที่ไปในศาสนาสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าทีเดียว นี่แหละคือเงาะถอดรูป

    นอกจากนั้นท่านว่าโดยเนื้อแท้แล้ว
    วิชาเงาะถอดรูปท่านกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีใครใช้แล้วจนลงหรือมีทรัพย์เท่าเดิมกันซักคน เพราะมันเป็นวิชาเรียกลาภอยู่ที่ไหนทรัพย์สินเงินทองไม่ขาด ปิดช่องทางจนหรือกระเป๋าแห้งไปเลย ท่านว่าใช้ได้หมดใช้ทางเรียกทรัพย์เป็นมหาลาภ,ชนะคู่แข่ง,ไม่มีศัตรูมารบกวนใช้ได้แม้กระทั่งอาราธนาแช่น้ำใช้น้ำนั้นถอดถอนอวมงคลทั้งหลายทีเดียว แต่คนมักไม่รู้โง่เขลาเบาปัญญาคิดเพียงแต่เสน่ห์ชู้สาว โดยท่านว่าวิชานี้มีอำนาจรุนแรงมาก แม้แต่แขกทางใต้ก็ยังต้องมาเรียนดัดแปลงไปใช้ให้คนติดคนชมคนนิยมในตัวตนของตนท่านว่าถ้าเทียบก็แรงกว่าขุนแผนทั้งหลายอยู่มากทีเดียว ท่านว่านี่เพียงแต่อำนาจพุทธคุณของตะกรุดเงาะถอดรูปเท่านั้น แต่ท่านเพิ่มในส่วนที่แตกต่างกันและเป็นข้อดีหนุนส่งกันของวิชาทั้งสองสายทั้งคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มลงไปจึงเกิดเป็นวิชาพระเจ้าซ้อนเงาขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากใช้แทนของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มได้อย่างสนิทใจ * ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนักเมื่อได้ไปแล้วให้เอาไปแช่น้ำผึ้งเสียก่อนซักสามวัน เขาจะเสพย์น้ำผึ้งเข้าไปและเคลือบอาบฉาบทาน้ำผึ้งด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพุทธบารมี เมื่อครบกำหนดแล้วให้เอาน้ำผึ้งที่แช่ตะกรุดนั้นมาดื่มกิน ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจแห่งวิชาส่วนหนึ่งจะถูกขับเข้าไปอยู่ในตัวของเราซ้อนร่างซ้อนเงาของเราทำให้เราเป็นผู้ทรงวิชาเงาะถอดรูปไปโดบปริยาย ตรงนี้แม้วันไหนเราไม่ได้พกตะกรุดก็ยังใช้อานุภาพนั้นได้ดุจเดียวกัน หากยิ่งอาราธนาตัวตะกรุดไว้ด้วยเรากับเขาก็จะเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ท่านว่าให้ทำครั้งแรกครั้งเดียวหรือจะทำกินทุกครั้งตามแต่สะดวกก็แล้วแต่เมื่อทำแล้วก็ให้นำตะกรุดมาล้างให้สะอาดก่อนจะตากให้แห้งแล้วอาราธนาพกต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาเงาะถอดรูปเต็มสูตรนั่งภาวนาพระคาถาชักพระยันต์ต่างๆท่านว่าทำยากจะทำให้เต็มสูตรเช่นนี้ครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่ขอทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ต้องเสี่ยงบารมี และมีผลกับคนใช้สืบต่อไปจนถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์ทีเดียว ท่านว่าไม่ใช่ของทำเล่นๆ ซ้ำวิชาอาถรรพ์ท่านว่ายิ่งทำยาก ท่านว่าวิชานี้จะปรับสมดุลย์ขับล้างสิ่งไม่ดีซ้ำยังปรับให้อยู่ในระดับที่พอดีไม่มากไปหรือน้อยไป ท่านว่าเกินไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดีการจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับที่พอดี วิชาอาถรรพ์นี้ความจริงจะเรียกว่าใช้แก้อาถรรพ์ก็ได้ท่านว่าตะกรุดอาถรรพ์นี้มีคุณอยู่มากแต่จะพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้นหลังจากนั้นต้องใช้เองเห็นเองท่านว่าจึงจะดีที่สุด พ่ออาจารย์ทานปรารภว่าการแก้อาถรรพ์นั้นคือแก้ที่เกี่ยวพันสืบเนื่องมาแต่ชาติกำเนิดท่านว่าจุดนี้มีกันทุกคนเป็นอัฉริยภาพของครูบาอาจารย์นับพันปีที่คิดกระบวนการวิชานี้ขึ้นมาแต่ไม่ได้แพร่หลายเพราะต้องการใช้กันเองใช้เป็นรายบุคคลไปไม่มีการสืบทอดเป็นของสาธารณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำกันถึงขนาดนั้นสืบทอดมาแต่ในวังของเขมรโบราณเพราะสมัยยุคขอมนั้นกษัตริย์จะยกตัวเทียบเท่าเทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ต่างๆดังนั้นเขาจะมีชุดกระบวนการวิชาต่างๆที่ใช้แก้อาถรรพ์อันติดมาแต่ชาติกำเนิดของตนเองท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ต้องมีวาสนามีบุญต้องกันมีความสัมพันธ์กับแรงครูและคุณวิชาจริงๆจึงจะได้มาเห็นและนำไปบูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปอธิษฐานใช้ไ้ดทุกประการสุดแต่ความปรารถนานั่นแหละ

    คาถาใช้ตะกรุด
    - อาราธนาตะกรุด โส ภะคะวา อิติปิวิชชาจะระณะสัมปันโน พุทโธ รูปงาม เหมือนรูปพระพรหม พุทธัง มะ รูปงามเหมือนรูปพระอินทร์ พุทธะสัง รูปงามเหมือนโฉมพระนารายณ์ จะแปลง ลงมา เหมือนเทวดาสวาหะ อะวิสุนุสสานุสสติ ติวาปิภะ
    - ภาวนาเน้นเสน่ห์เมตตา ธะนังสุก๊ะริ สวาหุม


    สืบเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านเคยสร้างเหรียญหล่อสมเด็จโตให้บูชากันไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นท่านได้หล่อเหรียญเนื้อโลหะกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเหล็กไหลนิพพานหรือวัชรธาตุเอาไว้ ท่านว่าเบิกฤกษ์ทำบูชาคุณครรูชั้นปฐมาจารย์ซึ่งใครเห็นก็งงเเละสงสัยว่าเหรียญอะไรเพราะมีตัวหนังสือจารึกไว้ให้รู้เพียงคำเดียวสั้นๆว่า "แสง" พ่ออาจารย์ท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์ทางจิตตอนนี้ว่า สำหรับเจ้าขรัวแสงนั้นท่านรู้จักมานานเเล้ว เพราะเป็นครูใหญ่อีกองค์หนึ่งที่มีบารมีสูงมาก เป็นอัฉริยาจารย์เจ้าที่มีบารมีมากเป็นที่เคารพนับถือเเก่หมู่ชน แต่ตัวท่านไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่เพราะเป็นเรื่องทางจิตของท่านพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสำหรับเจ้าขรัวแสงนี้ท่านเป็นพระเถระที่มีบารมีมาก...มากเสียยิ่งกว่าสมเด็จโตหรือหลวงปู่ทวดเสียอีก ท่านเก่งมากเชี่ยวชาญในฤทธิ์และอิทธิวิธีท่านทำได้สารพัด

    เมื่อเราจะสร้างสมเด็จโตสมเด็จอาจารย์ใหญ่ของเรานั้นขรัวโตท่านได้มาขอไว้ ท่านว่าให้เราสร้างเจ้าขรัวเเสงเสียก่อนต่อไปคนเขาจะเริ่มรู้จักกันสิ่งนี้จะมีคุณมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณต่อให้พลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ ท่านว่าให้เราทำไว้ให้เราช่วยเผยเเพร่เกียรติคุณของพระมหาเถราจารย์ใหญ่รูปนี้เเทนท่านทีซึ่งในตอนนี้ท่านไม่อาจจะทำได้เสียเเล้ว ต้องอาศัยร่างกายเราเป็นกระบอกเสียงบอกผ่านออกไป บอกให้เขารู้ทีว่านี่คืออาจารย์ของฉัน(ขรัวโต)ท่านสอนฉัน(ขรัวโต)ทุกอย่างทั้งกรรมฐานวิทยาคมเเละเเม้เเต่วิชาการทำผงทำพระซึ่งท่านได้ค้นพบมา วิชาที่ฉัน(ขรัวโต)ได้เรียนจากเจ้าขรัวท่านนั้นเหมือนดั่งเศษเสี้ยววิชาของท่าน พ่ออาจารย์ท่านได้รับปากครูสมเด็จของท่านไว้เป็นมั่นหมอกว่าท่านจะทำให้เป็นประวัติการณ์จึงได้นำวัชรธาตุหรือที่เรียกกันว่าเหล็กนิพพานหรือหยาดน้ำฟ้าทวาราวดีที่ศิษย์ของท่านอัญเชิญออกมาได้จากถ้ำทางภาคใต้มาหลอมเป็นเจ้าขรัวแสงขึ้นมา ซึ่งวัชรธาตุนั้นก็มีอานุภาพมากมาย
    - เป็นธาตุที่ชักชวนผู้ที่เป็นเจ้าของให้ฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศลสวดมนต์ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่นน้อมจิตให้ชอบสวดมนต์นั่งสมาธิประพฤติปฏิบัติธรรมจนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จนทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย
    - เป็นธาตุที่จะจะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ใช้และผู้คนที่อยู่รอบข้างผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆดับลงไปทำให้ปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจและทำให้จิตไม่คิดเกินใจไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำเพราะธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้มีเมตตาคุ้มครองแคล้วคลาดคงกระพันโชคลาภ มีบารมีในทุกๆด้าน1000%สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน
    - เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณแห่งสัมมาทิฐิบารมีดูแลรักษาอริยธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาลที่สามารถหลอมละลายธาตุได้ถ้าอยู่ในเมืองมนุษย์เรียกว่าเหล็กไหลขาว,เหล็กเปียก,เหล็กน้ำนมแห่งพระแม่ธรณีเป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากพระแม่ธรณีเอาไว้ ผู้รู้มักจักนำธาตุชนิดนี้สร้างเป็นยอดปลีของพระธาตุหรือเป็นวัตถุมงคลมีทั้งสำเร็จรูปเป็นธาตุที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ถ้าล่องลอยอยู่ในจักรวาลเรียกว่าจันทราธาตุซึ่งหมายถึงแสงแห่งความร่มเย็นที่จะนำเข้าสู่อริยธรรม ส่วนใหญ่จะถูกเทพเทวาอัญเชิญไปรวมไว้ณ.จุดเดียวกัน เพื่อรักษาคุ้มครองป้องกันพระบรมสารีริกธาตุพระอรหันตธาตุเพื่อเป็นฐานรองรับพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีณ.ห้องพระนิพพานแห่งแดนสุขาวดี จึงกลายเป็นธาตุที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลแห่งเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในธาตุชนิดนี้ เราเรียกธาตุชนิดนี้ว่าเป็น วัชรธาตุ
    - เมื่อโลกมนุษย์เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลส วชรธาตุก็เกิดความเร่าร้อนตามไปด้วยจึงเกิดการละลายตัวหยดลงณ.โลกมนุษย์ เราจึงเรียกว่าวัชรหยดน้ำฟ้าหรือเหล็กไหลพระนิพพานเพื่อลงมาช่วยเหลือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลายจนสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไปและตั้งมั่นแห่งการสะสมบุญบารมีกันต่อไปจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์ดีนักแล


    น้อยครั้งนักก็อาจกล่าวได้ที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ธาตุกายสิทธิ์ในส่วนของเนื้อวัชรธาตุหรือเหล็กไหลนิพพานล้วนๆมาอัญเชิญลงบล๊อกขึ้นรูปเป็นเจ้าขรัวแสงองค์ปฐมบูรพาจารย์ของสมเด็จโต ท่านกล่าวว่าทำไว้เป็นอาจาริยบูชาศิษย์ไม่ทิ้งครู ครูก็ไม่ลืมศิษย์เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้นำเหล็กนิพพานนี้มาประกอบพิธีกรรมทางไสยเวทย์เพิ่มโดยการนำเเช่น้ำมนต์ธรณีสารเเละเชิญครูบาอาจารย์เทพยดาตลอดจนกายทิพย์ทั้งหลายลงมาสอบถามเพื่อจะขอบารมีเทพเจ้าทั้งหลายบรรจุไว้ในเหล็กนิพพานนี้ ท่านว่าของเดิมเขาเกิดมาก็ดีแล้วเเต่เราจะเอามาทำของสำคัญทั้งทีต้องทำให้เป็นอิทธิคุณแฝดซ้อนเข้าไปหลายๆชั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก ด้วยการอ่านโองการต่างๆมากมายประจุเข้าไปให้ตัวกายสิทธิ์นี้มีพลังงานที่มีดุลยภาพสมบูรณ์เต็มทุกอณูท่านว่าทำทั้งที่จะไม่ให้สูญเปล่าไปเสียแม้ซักอณูเนื้อเดียว เมื่ออัญเชิญลงบล๊อกนั้ เหล็กนิพพานตัวนี้ท่านว่าเป็นของมีชีวิตมีพลังงานเพราะมันจะดิ้นได้ดิ้นอยู่ในบล้อกนั้นจนเเข็งตัวเป็นเช่นนี้ทุกองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้าขรัวเเสงนี้เป็นที่นับถือเเละศรัทธาของมหาชนกันมาก เเม้เเต่สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 หรือสมเด็จกรมพระยาดำรง ท่านก็ยังนึกแปลกใจในบุญบารมีของเจ้าขรัวแสงนี้เพราะท่านสามารถสร้างพระเจดีย์สูงตระหง่านไว้ให้เราดูเป็นอนุสรณ์นึกถึงท่านได้ ที่สำคัญพระเจดีย์นี้สวยงามมากเเละท่านลงมือสร้างเพียงคนเดียว ไม่ให้ใครยุ่งหรือเข้ามาช่วยเลยจะมีเพียงก็เเต่ชาวบ้านเท่านั้นที่สละทรัพย์สินตามศรัทธาให้ท่านเปลี่ยนเป็นอิฐเป็นปูนมาสร้างพระเจดีย์เพื่อเป็นพุทธบูชา พ่ออาจารย์กล่าวว่าท่านทำโดยอิทธิวิธีทั้งสิ้นพระเจดีย์นี้ถ้าเหาะเหินเดินฟ้าไม่ได้ก็ยากที่จะทำได้เพียงลำพังด้วยตัวคนเดียว

    เจ้าขรัวแสงหรือที่เรารู้จักกันในนามของท่านพระครูมหิทธิเมธาจารย์นี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวรับรองว่าท่านเป็นพระทองคำทั้งองค์เป็นพระสำเร็จที่มีบารมีมาก โดยท่านพูดถึงขรัวแสงได้น่าฟังว่า "ขรัวโตนั้นท่านค้นพบชินบัญชรนำมาแปล เจ้าขรัวเเสงผู้อาจารย์ก็ค้นพบยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนำมาแปลให้เราสวดบูชากัน ศิษย์เเละครูคู่นี้ยากที่จะหาใครมาเปรียบเทียบให้เสมอเหมือนได้ บารมีท่านหนักท่วมฟ้าท่วมเเผ่นดินทั้งทางโลกเเละทางธรรม" เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้หล่อเสร็จท่านก็เสกเก็บมาตลอดโดยท่านทำเป็นเหรียญหล่อไม่ให้ใหญ่จนเกินไปเด็กหรือผู้หญิงห้อยคอบูชาไม่น่าเกลียด เมื่อท่านหล่อเสร็จเเล้วท่านได้นำมาบรรจุสรรพวิชาทุกด้านของท่านก่อนที่จะเชิญบารมีของเจ้าขรัวเเสงเเละครูสมเด็จโตลงมาเสกลงมาเเฝงบารมีของท่านลงในเหรียญหล่อทุกเหรียญ ซึ่งพ่ออาจารย์ได้เล่าถึงบรมครูท่านไว้สมเด็จอาจารย์นั้นถึงกับกล่าวด้วยอารมณ์ปิติว่า"เราขอบน้ำใจคุณมาก เราจะทำให้ดีที่สุด" เเละตัวเจ้าขรัวแสงเองนั้นก็กล่าวขึ้นหลังเสกเสร็จว่า"เหรียญนี้เป็นสมบัติในสวรรค์ชั้นฟ้าที่ปรากฏรูปลงมาเราเเฝงญาณของเราลงไปทุกเหรียญใส่วิชาที่เรามีลงไปให้ครบแล้ว ให้เขาใช้เเทนตัวเราได้เลยฝากคุณบอกคนที่ได้ว่า เขาโชคดี" พ่ออาจารย์ท่านปิติยินดีมากในคำรับรองของ 2 ยอดมหาบูรพาจารย์แห่งยุครัตนโกสินทร์อันหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ ท่านได้นำเหรียญนี้มาสัมผัสดูท่านว่าเพียงแค่จับขึ้นมาพลังงานก็เเผ่ซ่านไปหมดเค้าเต้นได้ดิ้นได้เหมือนกับสิ่งมีชีวิตเลย หลังจากนั้นท่านก็นำมาเสกอีกเก็บจนครบทุกฤกษ์เเม้เเต้วันสำคัญท่านก็เอาไปเสกจนสุดท้ายในวันวิสาขาบูชาจันทร์เต็มดวงเต็มฟ้าเป็นฤกษ์ที่หาไม่ได้อีกเเล้วในรอบหลายสิบปีคือวิสาขบูชาจันทร์ซ้อนจันทร์ท่านก็เสกเก็บอีก 3 เวลา คือใกล้รุุ่งเที่ยงตรงตะวันตรงหัวเเละรอบกลางคืน ซึ่งเหรียญนี้ท่านว่าเจ้าของเขาเห็นเขาจะไขว่คว้าเองอย่าถามเราเชียวว่าดีอย่างไรธาตุกายสิทธิ์แบบนี้ดีทุกอย่างบารมีเจ้าขรัวเเสงนั้นท่านพร้อมที่จะเปิดออกช่วยเหลือคนที่มีศรัทธาอยู่เเล้ว
    คาถาบูชา
    มหิทธิเมธาจาริโยนามัง อะหังวันทามิตัง สะทา (หากจะบูชาจะบนบานศาลกล่าวขออะไรท่านให้สวดพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก เจ้าขรัวเเสงท่านจะชอบฟังมากหากมีเวลาว่างให้สวดทุกเช้าเเละก่อนนอนจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ให้สวดถวายท่าน แม้จะบนก็ให้บนด้วยการสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก 3จบ 7จบ 108จบ)
    * เมื่อได้รับองค์พระไปให้นำองค์พระอาราธนาไว้ในมือสวดพระคาถาอิติปิโสบทพระพุทธคุณเท่าอายุ โดยสวดเกินอายุตน 1 จบสมมติอายุ 30 ปีก็สวด 31 จบเช่นนี้ อธิษฐานบอกกล่าวเจ้าขรัวเเสงว่าตัวเรานั้นชื่ออะไรนามสกุลอะไรเกิดวันเดือนปีอะไร ขออาราธนาหลวงปู่เจ้าขรัวเเสงมาเป็นหลักชัยเป็นร่มโพธิ์ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาเเก่ชีวิตของเราเป็นที่พึ่งของเรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าศิษย์ของเจ้าขรัวเเสงนั้นได้ดีทุกคนเช่นสมเด็จโตเป็นอย่างไร เเม้จะเป็นคนธรรมดาก็ได้ดิบได้ดีเป็นมหาเศรษฐีท่านว่าเหรียญนี้ประเมินด้วยรูปภายนอกไม่ได้เลยเพราะพลังงานภายในนั้นมหาศาล เรารับประกันเลยว่าเธอจะดีขึ้นขอให้เอาไปห้อยศรัทธาปฏิบัติให้ถูกตามที่บอกไป ชีวิตเธอนั้นจะเจริญโดยส่วนเดียวเเม้จะเอาเหล็กนิพพานวัชรธาตุธรรมดามาสอบเทียบก็ยังมีอานุภาพได้ไม่ถึงครึ่งของเหรียญเจ้าขรัวเเสงนี้ แสงแห่งบุญ..แสงแห่งมหากุศล..แสงสว่างที่ใช้ทำคลายความมืด..แสงที่เป็นประกายความหวังแก่สรรพชีวิต เธอเอาไปแล้ว เธอต้องได้ดี

    *** เจ้าขรัวเเสงรุ่นนี้
    ท่านว่าไม่ต้องบอกอะไรเค้ามากเพราะท่านลงไว้เยอะหลายด้านหลายอย่าง วันไหนเขาดีขึ้นชีวิตเขาเปลี่ยนไปวันนั้นให้เขางงตัวเองให้เขาหาคำตอบเองเเบบนี้ดีกว่า ด้านหลังนั้นท่านฝังตะกรุดเงาะถอดรูปทุกองค์ายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษษเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าซ้อนเงามหิทธิเมธาจารย์เนื้อเหล็กนิพพาน (เจ้าขรัวเเสงชุดเงาะถอดรูป) บูชา 900 บาท


    131615629-384657439292066-2345535998880153490-n.jpg 131889826-433368034487246-5756080803350558231-n.jpg
    1295014515.jpg
    131891886-740291156590491-8753313004921001536-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    เจ้าขรัวแสงรุ่นนี้ถือเป็นการสร้างรูปเจ้าขรัวครั้งสุดท้ายในชีวิตพ่ออาจารย์ท่าน ท่านว่าทำเอาไว้ให้คนที่เขามีสายเลือด สายใย สายศรัทธาในบรมครูได้ทันใช้เพราะจะหาพระที่มีบารมีสูงแบบเจ้าขรัวแสงได้หาไม่มีอีกแล้ว

    *** ถ้าคนที่ทันยุคแรกๆจะรู้ว่าเจ้าขรัวแสงตอนนั้นเหรียญละสามพันแค่พริบตาเดียวหมดทันที ตะกรุดวิชาเงาะถอดรูปก็ดอกละพันชุดนี้ใครทันได้จึงเหมือนกับได้ชุดละสี่พัน ทั้งตะกรุดและเหรียญเจ้าขรัวแสงล้วนแต่เป็นยอดวิชาที่คนถามกันมากใช้ได้ผลกันมากที่สุดนี่แหละที่อยากบอกว่าพ่ออาจารย์ท่านกำชับว่าทำไว้ให้พวกตัวใหญ่ตัวเล็กได้แขวน(จะผู้ใหญ่ผู้หญิงหรือเด็กและคนในครอบครัว) ท่านว่าหาพระยุคเจ้าขรัวแสงหรือสมเด็จแท้ๆยากก็เอาไปใช้แทน ท่านมาทำให้อยู่นานมากๆเสกกันหลายปีทั้งสององค์นั่นแหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...