ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ขุนกลโลกานี่ถ้าจะให้แรงมีเคล็ดวิธีใช้อีกเล็กน้อยที่ไม่ได้ลงไว้แต่แรก พ่ออาจารย์ท่านว่าสองฝั่งหน้าหลังนั้นถ้าทำได้ตามนี้จะแรงมากแต่เจ้าของต้องเป็นคนทำเอง
    - ฝั่งขุนกล ให้เอาเหล้าอะไรก็ได้..ป้ายที่ปากท่านถ้าจะขอเรื่องเทาๆหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ..แต่หากมั่นใจว่าสิ่งที่จะขอเป็นเรื่องที่ดีเป็นไปเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตให้เอาน้ำมะพร้าวป้ายที่ปากท่าน
    - ฝั่งหุ่นโมหิณี ด้านนี้ท่านว่าเอาน้ำหอมหรือเครื่องหอมใดๆก็ได้ถูๆหรือป้ายที่องค์ท่านไว้ฝั่งนี้ขอได้ทุกเรื่อง..จะป้ายแล้วขอก็ในกรณีที่ต้องการปลุกแม่โมหิณี ต้องการให้ท่านทำกิจใดอย่างรวดเร็วก็ค่อยเอาของหอมมาป้ายมาปลุกท่าน
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญ น้ำมันปฐมภูมิพรหมนิมิตรอนันต์ภาค (วิชาพระเจ้าแบ่งรัศมี)

    น้ำมันที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างรุ่นนี้สำเร็จโดยวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีที่องค์ปฐมท่านเมตตาทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมี..หรือจะเรียกอีกอย่างว่าแบ่งบารมี หลักๆเลยเมื่อของเก่าเราไม่พอหรือคนที่ทำมาไม่มากชีวิตไม่ดีเมื่อใดที่ชีวิตเริ่มสะดุดให้อาราธนาพุทธคุณนำน้ำมันนี้เจิมหน้าผาก ท่านว่าไอ้ตัวบารมีนี่แหละที่ทำให้ชีวิตคนต่างกันบางคนไม่ต้องพยายามอะไรก็เอาดีได้แต่บางคนพยายามให้ตายก็ไปต่อไม่ได้ ซึ่งบารมีไม่ใช่เราเดินไปวัดถวายสังฆทานยกมือไหว้พระแล้วมันจะออกฤทธิ์เดชให้ผลทันทีเสียเมื่อไหร่ หากแต่มันเกิดจากการทำความดีมีให้ทาน,รักษาศีล,บวชเนกขัมมะ,เจริญปัญญา,เจริญวิริยะ,เจริญขันติ,ยึดมั่นสัจจะ,ยึดมั่นอธิษฐาน,เจริญเมตตา,เจริญอุเบกขา..ที่เราต้องทำทับถมซับซ้อนนับภพชาติไม่ได้ยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร มันสะสมมามากมายปานนั้นจนให้ผลในชีวิตปัจจุบันนั่นจึงเรียกว่าบารมี คนที่ทำมาน้อยผลก็มีน้อยหรือยังไม่เห็นผลเลยจนเรียกว่าไม่มีก็หาได้อยู่มาก เมื่อบารมีไม่มีแล้วทำอะไรมันก็ยากก็หนักเพราะความดีที่บำเพ็ญมามันไม่มากพอ ### คุณสมบัติที่จะสร้างตัวเองให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่..ให้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากบารมีที่สะสมมาตรงนี้มันไม่มี ..เมื่อไม่มีเหตุสงเคราะห์มาแต่ต้นทำอะไรไปผลมันจึงไม่เกิดขึ้นเลยเพราะเราไม่มีบารมีสนับสนุนกรรมปัจจุบันของเรา ไม่มีบารมีสนับสนุนให้เรานั้นยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงน้ำมันวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีไว้ตามโองการสมเด็จองค์ปฐมที่ท่านว่าจำเป็นจะต้องทำไว้เพื่อเป็นโอกาสแก่คนที่ของเก่าเขาไม่พอ ..ยังสะสมบารมีมาได้ไม่เต็ม ..ยังขาดคุณสมบัติที่จะทำให้ชีวิตยิ่งใหญ่

    น้ำมันวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีคือน้ำมันที่ใช้แบ่งหรือแยกบารมีจากองค์ปฐมมาสงเคราะห์ผู้ที่ขาดบารมี...เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายิ่งใช้ยิ่งดียิ่งพวกทุนน้อยของเก่าทำมาไม่พอหรือบารมีเราเอาสิ่งที่ต้องการไม่ถึงไม่คู่ควรกันเหล่านี้ยิ่งต้องขยันทาขยันป้าย ดีกว่าจะไปขอพึ่งบารมีไปยืมบารมีเป็นหนี้สินทางจิตวิญญาณไปทุกชาติทุกภพ เดี๋ยวนี้คนเราเวลาไปวัดไหนไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใดก็มักจะไปขอนั่นขอนี่จนลืมคิดไปว่าถ้าได้มาจริงแล้วเราใช้เขาหมดหรือ..อีกกี่ชาติที่เราจะลำบาก ไปเอาบารมีเทวดาบารมีหลวงปู่หลวงพ่อที่ไหนมาใช้ทั้งที่ของเก่ายังไม่มี พอทำของใหม่ขึ้นมาได้ก้ต้องยกไปใช้หนี้เก่าแต่ของตนเองก็ยังพร่องไปทุกภพทุกชาติอยู่แบบนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เององค์ปฐมท่านจึงให้ทำน้ำมันวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีเพราะบารมีของท่านเต็มแล้ว.ไม่พร่องแล้ว.ทำมาดีแล้ว จะได้ใช้น้ำมันพุทธบารมีนี้เติมเต็มบารมีที่เราขาดซึมลึกเข้าเนื้อหนังเข้าจิตวิญญาณลึกซึ้งติดตัวไปทุกภพทุกชาติ เพราะเป็นพุทธบารมีที่เกิดจากวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมีจึงไม่เป็นหนี้เวรหนี้กรรมหนี้บารมีแก่ใคร

    *** ไม่มีต้นไม่มีดอกที่ต้องตามใช้ในวัฏสงสาร
    พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังคนที่เขาทุกข์ยากก็หนักมากพอแล้วยังเป็นหนี้สินในบารมีอีกยิ่งน่าเวทนาหนักไปกว่าเดิมเคยคิดมั๊ยคนที่ทำบุญหนักๆแต่ยังอับจน ก็เพราะชาติก่อนๆเราเป็นหนี้สินบารมีใครรึเปล่า เช่นนั้นน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีจึงเป็นยอดน้ำมันที่ใช้เติมเต็มบารมีที่ขาดที่พร่องไปเป็นวิชาทางด้านสว่างที่ทำลายด้านมืด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนแสงสว่างเมื่อปรากฏขึ้นความมืดย่อมคลายตัวออก น้ำมันนี้ก็เหมือนกันเราทามันทุกวันมันก็ซึมลึกเข้าเนื้อหนังเข้าจิตวิญญาณ ทีนี้ไอ้พวกคนที่เคยโดนคุณไสย..โดนน้ำมันพราย..โดนการกระทำด้วยอวิชชาต่างๆหรือเสนียดจัญไรสิ่งเลวร้ายเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เกาะติดจิตวิญญาณอยู่เหล่านี้ ร้อยแปดพันประการเหตุแห่งความเสื่อมทรามตกต่ำพ่ออาจารย์ท่านว่ามันต้องหมดไปเป็นคติเดียวเท่านั้นเพราะมันจะอยู่ไม่ได้เลยดั่งแสงสว่างเมื่อปรากฏขึ้นความมืดย่อมคลี่คลายไปฉับพลันทันที ถ้าเราใช้เราทามากขึ้นไปเรื่อยๆมันก็ยิ่งสว่างมากขึ้นๆจนไม่เหลือช่องให้ความมืดมันกลับมาอีก นี่คือน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีที่พ่ออาจารย์ท่านว่าให้คุณหนักหน่วงสงเคราะห์ข้ามภพข้ามชาติ คนที่ขาดบารมีไม่ได้บำเพ็ญมามากพอ..คนที่ความดียังไม่ส่งผลให้ชีวิตมีอิสระจะได้หลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการ

    น้ำมันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ใช้เจิมตนเองได้ดีที่สุดแก้อาถรรพ์ร้ายได้ทุกอย่าง แม้แต่คนเคยต้องเสน่ห์ยาแฝดที่เชื่อกันหนักหนาว่าหากโดนเข้าไปแล้วไม่มีอะไรแก้ไขได้เลยแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีนี้ยังแก้ไขได้แต่ต้องขยันหมั่นเจิมทาบ่อยๆ ท่านว่าแม้ความมืดที่เข้มข้นที่สุดดำมืดที่สุดถ้าเราหมั่นขยันราดสีขาวใส่เติมแสงสว่างลงไปเรื่อยๆมันยังจะมืดได้อยู่หรือ เช่นนั้นอาถรรพ์ร้ายใดๆย่อมแก้ไขได้ทั้งทั้ง
    - น้ำมันนี้ใช้เจิมเล่นฤทธิ์ได้ร้อยแปดพันประการ
    - น้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีนี้ใช้เจิมเรียกฤทธิ์เสริมบารมีวัตถุมงคลได้
    - น้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีใช้เจิมดุจเสกวัตถุมงคลที่เป็นภาชนะเปล่าให้มีพุทธคุณเต็มได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมฟื้นคืนสง่าราศีที่เสื่อมถอยได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมแก่คนที่เสื่อมถอยในยศฐาบรรดาศักดิ์ให้คงคืนได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้เป็นที่รักแก่มนุษย์,อมนุษย์,เทพ,พรหม,เดรัจฉานได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมคลี่คลายโทษกรรมอันถึงขั้นตกตายได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้พ้นทุกข์ภัยที่พลาด,ที่ล้ม,ชีวิตที่ฉิบหายดุจตายไปกลับ
    เป็นฟื้นขึ้นมาได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้ปรากฏชื่อเสียงเกียรติยศเลื่องลือได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมถูมือเรียกลาภได้จนกว่าตนเองจะเป็นเศรษฐี(พิกัดคำว่าเศรษฐีแต่ละคนไม่เท่ากัน)
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้วาสนาสูงดุจจันทร์ค้างฟ้าได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมเพิ่มความสามารถที่พร่อง เป็นอำนาจแก่ตนเองได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมให้เป็นที่รักแก่ผู้ต้องประสงค์ได้
    - น้ำมันชุดนี้ใช้เจิมยาจกให้พ้นความยากจนได้

    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าร้อยแปดพันประการสุดแต่จะใช้ไม่ใช่เพียงใช้แบ่งบารมีเปิดทางชีวิตแต่องค์ปฐมท่านทำมาให้ครอบคลุมทั้งหมดสมกับเป็นวิชาของท่าน
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ไม่ทาแค่พกขวดน้ำมันไปก็เกิดมงคลเที่ยงแท้แก่ชีวิตแล้วชีวิตจะไม่อับจนเลยด้วยน้ำมันในขวดนี้ อาเพศใด..เภทภัยใด..เอาน้ำมันป้ายกระหม่อมแล้วจะไม่ต้องเนื้อตัวต้องรอดต้องพ้นทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าหนนี้ถ้าองค์ปฐมท่านไม่ลงให้ก็เห็นควรว่าศาสตร์น้ำมันนี้จะสูญหายไปหมดสิ้นด้วยพระเจ้าแบ่งรัศมีนั้นถ้าพระเจ้า(พุทธองค์)ไม่ทำให้แล้วใครล่ะจะทำแทนท่านได้ จริงๆท่านสรรเสริญคุณน้ำมันชุดนี้ไว้ว่าชีวิตของใครแม้ร้อนดุจไฟนรกก็ยังดับเหตุแห่งความร้อนนั้นได้ เช่นนี้เมื่อผู้ใดได้ใช้แล้วจึงนับว่าบุญเก่ายังพอทำมาบ้าง

    *** คนที่ทุกข์หนักเจอเรื่องเลวร้ายมาเยอะจริงๆท่านว่าจะเอาไปผสมน้ำผสมอาหารกินเพื่อให้อำนาจพุทธคุณซึมซับและออกฤทิ์ได้มากขึ้น..ไวขึ้น..เพื่อให้เกิดผลทันตาก็ย่อมได้พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงดีดใส่แต่น้อยหรือป้ายๆก็พอไม่ต้องเทลงไปหมดขวดจะน้อยจะมากฤทธิ์ก็เท่ากันเพราะข้างบนเขาเสกมาเต็มแล้ว ท่านว่าขอให้เอาไปใช้เถอะชีวิตจะดีขึ้นจนผิดสังเกตุไปเลย ในร่างกายเราหากเคยโดนกระทำหรือตัวเองกินอะไรทำอะไรรับของต่ำของสกปรกเข้าไปมีภูติมีพรายมีผีมีของอาถรรพ์ให้โทษอยู่ในร่างกายนี่คือขับออกหมดเลย ท่านว่าเอาง่ายๆสิ่งใดที่มันไม่ดีมันทำให้เกิดทุกข์ที่มันสิ่งมันแฝงอยู่ในร่างเราคอยให้ผลข้างเคียงดึงเราให้ตกต่ำหมดสง่าราศีทำอะไรไม่เจริญไม่ก้าวหน้าทั้งหลายนั่นแหละน้ำมันจะซึมลงไปขับออกทั้งสิ้นเหลือไว้เพียงต้นตอของแสงสว่างของความสุขในชีวิตให้เราได้สมหวังดั่งความตั้งใจเป็นคนที่เลือกชีวิตเองได้..เป็นตัวของเราแบบที่เราอยากจะเป็น

    น้ำมันชุดนี้หากเราประสงค์จะช่วยใครแล้วแม้รูปถ่ายเขียนวันเดือนปีเกิดเขาก็ยังสามารถใช้เจิมเปิดบารมีแก่เขาผู้นั้นได้ ท่านว่าตอนเจิมขอให้จิตเรานึกถึงเขาก็พอให้ทำในยามรุ่งจะได้ผลดีที่สุดชีวิตเขาจะเปลี่ยนเป็นรุ่งโรจน์ขึ้นตามลำดับ
    ### แม้กับตัวเองเวลาที่ดีที่สุดที่เราจะเจิมตัวเองก็คือยามรุ่งเช่นกันพ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อแก้เคล็ดที่ชีวิตตกต่ำให้รุ่งโรจน์ท่านว่าจำเอาไว้เวลาตกดินเหล่านี้ไม่เอาเจิมเฉพาะยามรุ่งเท่านั้น เจิมไปหนึ่งทีอยู่ได้เจ็ดวันแต่ถ้าเราเจิมทับถมซับซ้อนทุกวันมันก็ทับถมคูณกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้ขยันเจิมเถอะได้ผลมามากแล้วจะไม่ตกต่ำลงเลย ไม่มีช่องให้ชีวิตพลาดเป้าหมายหรือแคล้วคลาดจากโชคลาภใดๆเลย เพราะเจิมหนหนึ่งอยู่ได้เจ็ดวันถ้าเราขยันเจิมนี่เท่ากับชีวิตเราดักทางไว้หมดแล้ว ในระยะเวลาเท่าจำนวนครั้งที่เจิมนี้มันมีแต่รุ่งโรจน์มีแต่ได้กับได้ไม่มีเสีย..ต่ำไม่เป็น..จนไม่ได้ ทีนี้ชีวิตมันก็มีพร้อมทั้งหมดจะเจิมแก้กลเสน่ห์แก้ยากแฝดแก้อาถรรพ์ต่างๆท่านว่าทำได้ทั้งสิ้น

    ถ้าได้เจิมตอนย่ำรุ่งทุกวัน กำลังที่แฝงอยู่ซึมซับเข้าไปในร่างกายจิตใจตัวตนของเรานั้นจะไม่มีเสื่อมถอยใดๆเลย(พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนฉันสั้งให้เธอลุกขึ้นมาสวดมนต์บูชาพระพุทธคุณอิติปิโสภควา..หนึ่งจบตอนย่ำรุ่งทุกวันไปตลอดชีวิตนั่นแหละ) ถ้าคนไหนศรัทธามากทำได้มากทำได้ทุกวันมันก็จะยิ่งดียิ่งเร็วมากตามกำลังศรัทธา เพียงน้ำน้ำมันมาเจิมหน้าผากคลึงนิ้วว่าอิติปิโสภควา..บทพุทธคุณไปจนจบเป็นอันใช้ได้ ถ้าจะป้ายมือคลึงมือตนเองเอาเคล็ดจับสิ่งใดก็เป็นเงินเป็นทองเป็นโชคลาภไปตลอดชีวิตแบบนี้ก็ได้..แต่ถ้าคนฉลาดเขาจะนำมาเจิมลูบผมซักหนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละไปไหนดุจมีธงชัยองค์ปฐมไปด้วยเสมอด้วยท่านนั่งอยู่เหยียบอยู่เหนือหัวเราทำอะไรทุกอย่างจะเป็น,จะมี,จะเจอแต่สิริมงคลทั้งหมด แต่ถ้าไม่พกพาจะเาอไปเก็บก็อย่าวางซี้ซั้วท่านว่าให้เลือกสถานที่เป็นมงคลของเราเพื่อวางจะได้หนุนเสริมบารมีแก่สิ่งที่เราขาดไป ถ้าคนไหนยากจนชีวิตไม่มีโชคเวลาจะวางขวดน้ำมันก็ให้เอาไปวางตามที่เก็บเงินเก็บของมีค่าในที่สูง ถ้าคนไหนรูปต้วว่าดวงตกดวงไม่ดีหรือเกิดมาดวงแย่ตั้งแต่เริ่มแรกก็ให้เอารูปตัวเองเขียนวันเดือนปีเกิดเวลาตกฝากเวลาจะเก็บขวดน้ำมันไม่ใช้งานก็วางทับรูปเราไว้แก้เคล็ดเปิดบารมีแปลงชีวิตเปลี่ยนดวงชะตาเช่นนี้ ...ทำแบบนี้ท่านว่าจะช่วยเรียกเงินเรียกทองได้ดีมากกิจการใดที่ทำอยู่ทำท่าจะเจ๊งจะไม่รุ่งก็จะฟื้นคืนกลับมาดีดังเดิม การเงินจะดีขึ้น ดวงชะตามีแต่พุ่งขึ้น
    ### หากใครชอบขอหวยถ้ามีโชคให้นำน้ำมาขันหนึ่งป้ายน้ำมนลงไปแล้วจึงเทแป้งฟุ่นไปบนน้ำนั้นถ้าดวงเปิดพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเห็นเลขให้นำไปเล่นเอง ต่จำไว้เลขของเราที่ขอข้างบนท่านมาจะบอกใครต่อไม่ได้เลย จะเจิมข้าวสารก่อนหุงเมื่อจะกินเป็นสิริมงคลก็ได้ ท่านว่าสมัยนี้ให้เจิมกระเป๋าเงินที่ใส่เงินเราด้วยจะดีที่สุดต่อไปจะได้มีเงินเข้ามีเงินเก็บจนนับไม่ทัน ท่านว่านั่นแหละเจิมกระเป๋าตังไปเรื่อยๆจะได้นับเงินกันจนมืองอไปข้าง...น้ำมันนี้มีคุณวิเศษใช้ได้ทุกด้านทั้งสิ้น ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้เถิด

    น้ำมันปฐมภูมิพรหมนิมิตรอนันต์ภาคนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายากมากตอนทำขวดน้ำมันนี่แหละเพราะต้องแสวงหามวลสารต่างๆตามที่องค์ปฐมท่านกำชับเพื่อนำมาลงผงลบผงจนได้ผงดำปฐมภูมินำมาพอกขวดน้ำมันไว้ เพื่อให้น้ำมันชุดนี้มีฤทธิ์แรงเร็วเต็มขั้นตลอดไป ขอให้น้ำมันหมดเถิดพ่ออาจารย์ท่านว่าเอาน้ำมันจันทร์ธรรมดาเติมลงไปหรือจะเอาน้ำมันอะไรก็ได้ที่เราตั้งใจจะใช้เจิมตัวเองเติมลงไปท่านว่าย่อมให้คุณได้เสมอกันแรงแบบไม่มีตกเพราะท่านสำเร็จให้แล้วที่ขวดน้ำมันอันเป็นภาชนะบรรจุ ดุจดั่งท่านว่าปฐมภูมิอนันต์ภาคจะเติมเป็นอนันต์แค่ไหนท่านก็ทำให้แบ่งภาคแบ่งรัศมีแบ่งบารมีมาโปรดเราทุกคราวทุกวาระ เพียงทำง่ายๆเมื่อจะเติมน้ำมันท่านให้จุดธูปสามดอกถวายพวงมาลัยดอกไม้สดบูชาพระพุทธคุณในน้ำมันและสวดบทพุทธคุณแล้วจึงเติมเท่านั้นเป็นอันใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันนี้สำคัญนักเป็นอนันต์ภาคแม้เราเอาไปเจิมพระเจิมสิ่งใดก็ดีท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้ฉันพูดมากแต่ฉันก็บอกตรงตัวอยู่ในชื่อน้ำมันแล้ว ท่านว่าเอาไปใช้เถอะจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองมหาศาล น้ำมันนี้จะทำอะไรก็ดีให้เราถือบทพุทธคุณกำกับไว้แล้วส่งจิตบอกองค์ปฐมว่าจะทำอะไรใช้ทางไหนแค่นั้นย่อมใช้เอาดีได้ทุกอย่าง ไม่ต้องไปท่องไปจำอะไรมากมายเลยแค่พุทธคุณบทเดียวกำกับน้ำมันนี้เจิมเอาได้ทุกอย่างใช้ได้ทุกทางสุดแต่จะปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านจึงสรรเสริญว่าเป็นน้ำมันที่แรงที่สุด แรงไม่มีตก..และใช้ได้ยาวนานสืบทอดกาลสมัย

    น้ำมันทุกขวดพ่ออาจารย์ท่านผูกเข้ากับรูปแกะสลัก"พระฤๅษีพรหมนิมิตร"
    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระฤาษีพรหมนิมิตรนี้เป็นครูชั้นพรหมของท่าน ซึ่งท่านได้ให้พ่ออาจารย์แกะรูปให้ท่านหน่อยทั้งยังได้เสกไว้ยาวนานนับสิบปีตามศาสตร์สายวิชาพรหมนิมิตร ...

    พรหมฤาษีองค์นี้ท่านเป็นผู้ควบคุมนิมิตและความฝันทั้งปวงของสรรพชีวิตมาทุกยุคทุกสมัย เรียกว่าเป็นเจ้าแห่งความฝันก็ไม่ผิด ท่านเป็นพรหมฤาษีที่มีฤทธิ์มีบารมีมากเป็นพิเศษ สามารถทำฝันคนให้เป็นความจริงได้และสามารถทำให้สิ่งที่คนฝันไม่เป็นความจริงก็ได้ ทั้งยังอาศัยนิมิตฝันบอกเหตุเภทภัยทั้งหลายทั้งปวงให้ชนได้รู้ตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณแห่งองค์พรหมนิมิตนี้จะช่วยให้ฝันที่เราอยากได้อยากเป็นเป็นจริงเสมอ...เช่นนั้นจึงถือเป็นเรื่องร้ายแรงแต่ยุคโบราณว่ารูปพรหมฤาษีพรหมนิมิตนี้จะไม่มีใครสร้างไม่มีใครทำขึ้นมาเลยเพื่อมอบให้แก่ลูกศิษย์ เพราะเขากลัวว่าจะไปคิดหวังคาดฝันในสิ่งที่เกินเอื้อมเกินควร

    แต่มาในสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    บ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลงไปมันจแข่งขันกันสูง ถ้าฝันไม่ไกลตัว ไม่ฝันเกินเอื้อมก็ยากที่จะสู้กับคนอื่น เช่นนั้นท่านจึงนำองค์ฤาษีพรหมนิมิตที่ท่านสร้างเสกลงอาถรรพ์เชิญครูไว้ยาวนานนับสิบปีออกมาผูกไว้คู่กับขวดน้ำมันด้วยประสงค์จะให้ความฝันความคิดความปรารถนาแก่ผู้ที่ใช้นำมันขวดนี้เป็นจริงเกิดขึ้นได้จริงทุกประการตามอาถรรพ์แห่งองค์พรหมนิมิต

    ท่านว่าองค์บรมครูท่านจะให้ฝันเพื่อความรุ่งโรจน์เพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตตนเป็นจริงเสมอ อย่าลืมว่าท่านมีหน้าที่ดูแลตรงนี้มีฤทธิ์ควบคุมทางด้านนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นลูกๆคนไหนที่มีฝันแต่ทำไม่ได้ไปไม่ถึงนั่นแหละท่านว่าเพราะองค์พรหมนิมิตท่านไม้โปรดให้เป็นจริง เช่นนั้นเเราจึงแก้ชะตาอาถรรพ์นั้นใหม่หนนี้ขอให้เป็นฝันที่เป็นไปได้ไม่ใช่เรื่้องไร้สาระงมงายก็จะเป็นไปตามฝันตามความปรารถนาที่เราหวังไว้ทุกประการนั่นคือปกาศิตแห่งองค์พรหมนิมิต ส่วนฝันอะไรที่ร้ายที่เลวที่ทำให้วิตกกังวลหากมีนิมิตอันร้ายกาจปรากฏขึ้นยามหลับแก่เรา เมื่อมีองค์พรหมนิมิตท่านอยู่เรื่องเลวร้ายที่บอกเหตุแจ้งเตือนเหล่านั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วองค์พรหมนิมิตรนั้นจะเป็นยอดบรมครูชั้นพรหมที่แก่กล้าในวิชาอาคมสามารถสร้างและทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้...ท่านว่านี่ความลับเลยสิ่งต่างๆที่มีชีวิตบางสายพันธ์ท่านก็สร้างขึ้นมาเช่นนั้นเรื่องสร้างสรรค์และเปลี่ยนความฝันความคิดของศิษย์ให้เป็นความจริงนอกจากท่านซึ่งมีหน้าที่ตรงนี้แล้วย่อมไม่มีใครทำได้อีกเลย..เพราะนี่คืองานของท่าน ปกติแล้วท่านจะมีศิษย์อยู่ทั่วทุกโลกธาตุคอยทำงานแทนทั้งเทวดา,อสูร,คนธรรพ์,วิทยาธร,รากษส...ทั้งหลายทุกเผ่าพันธ์แต่รูปองค์พรหมนิมินนั้นกลับไม่มีใครกล้าสร้างด้วยกลัวว่าจะแรงเกินไปพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือคนที่รู้ไม่จริงเพราะโดยแท้จริงแล้วท่านมีเมตตาต่อโลกทั้งหลายอยู่มาก ท่านมีความตั้งใจจะสร้างสรรค์จรรโลงให้ความฝันของสิ่งมีชีวิตเป็นจริงได้...ดั่งเรื่องฟลุ๊คๆที่ชะตาลิขิตให้สิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้เป็นไปได้ แต่โลกธาตุนั้นมีอยู่มากมายทั้งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนแต่มีความฝันของตนเช่นนี้จึงเรียกว่างานตึงมือ พ่อาอจารย์ท่านจึงสร้างรูปองค์พรหมนิมิตรขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์จะให้ท่านเชื่อมต่อกับเราสงเคราะห์ในความฝันของเราได้โดยตรงไม่ต้องผ่านคณะศิษย์ผู้วิเศษทุกสายพันธุ์ของท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปนี้จะได้ฝันกันสมใจอยากไม่เจอฝันเหลวไหลไร้สาระไม่เป็นความจริงอีกต่อไปตามปกาศิตในองค์พรหมนิมิตร ท่านว่ารูปปู่พรหมนิมิตรนี้ใครได้ไว้เหมือนเขาโกงชีวิตได้เลย ### ปกติรูปแกะสลักชุดแรกแบบนี้สมัยก่อนพ่ออาจารย์ท่านให้บูชาองค์ละ 6,000 บาท แต่ชุดนี้ท่านเลือกที่จะเก็บไว้เมื่อทำน้ำมันพระเจ้าแบ่งรัศมีนี้ท่านจึงนำมาผูกเป็นอาถรรพ์ไว้คู่กัน ดุจว่าใครได้ไปชุดนี้เหมือนได้ฟรีได้เปล่าเช่าน้ำมันท่านแถมองค์ฤาษีให้ไปประหยัดทรัพย์ไปอีกหกพันบาท ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันกับคุณขององค์พรหมฤาษีนั้นหนุนส่งและเป็นไปในทางเดียวกันคล้อยตามกันอย่างน่าประหลาด ท่านว่านี่แหละขอให้เอาไปใช้เถอะฉันพูดมากไม่ได้บอกได้แค่ว่าพรหมนิมิตรองค์นี้ท่านมีหน้าที่ทำความฝันให้เป็นจริง มีท่านอยู่นี่ก็โคตรโกง..ในหนทางสร้างบารมีแห่งชีวิตเลย จะหาพรหมฤาษีองค์ใดที่ใจดีได้เท่านี้คงไม่มีอีกแล้ว

    คาถาบูชา
    (พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้แค่พุทธคุณคือบทอิติปิโสภควา...ใช้ได้ถ้วนทุกประการ)


    *** รายการนี้แจ้งล่วงหน้าไว้เลยว่ามีน้อยมากและ...น้ำมันขวดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้หมดไปเติมของใหม่ลงในขวดเท่าไหร่ก็ใช้ได้แรงเร็วเกินร้อยเหมือนของเก่า ทั้งยังพกง่ายติดตัวง่าย เหนือสิ่งใดเลยคือวิชาพระเจ้าแบ่งรัศมี...ท่านว่าเอาไว้ช่วยตัวเองในยามที่ของเดิมทำมาไม่พอ ### ส่วนรูปแกะสลักพระฤาษีองค์นี้จัดว่าเป็นยอดของสำคัญในสายวิชาพ่ออาจารย์ท่านเลย(แอบกะซิบว่าท่านเก่งทางโกงชีวิตแบบสุดๆ) รายการนี้ใครที่จองทันเหมือนได้องค์พรหมนิมิตรไปฟรีๆด้วย พ่ออาจารย์ท่านนำมาผูกแถมไว้ให้ทุกขวด ท่านว่าให้คุณหนุนกันเสริมกันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยได้ไปขอแค่ขยันทาขยันเจิมเพียงเท่านั้นใช้ได้ทุกทาง รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญ น้ำมันปฐมภูมิพรหมนิมิตรอนันต์ภาค (วิชาพระเจ้าแบ่งรัศมี) บูชา 4,000 บาท

    130463072-1332804090387258-850807111986821640-n.jpg 130535746-520946322392621-988303189702215594-n.jpg 130449911-411290656720639-6432813101303738067-n.jpg
    130465751-299167761433054-6608197701582536235-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2020
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อุเบกขาบารมี

    ในบารมี๑๐ ประการมีทานบารมีเป็นต้น อุเบกขาบารมีเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก จึงขออธิบายเรื่องนี้ดังต่อไปนี้

    โดยทั่วไปคําว่า อุเบกขา แปลว่า ความวางเฉย คือ การวางใจเป็นกลางโดยไม่มีเมตตา กรุณา หรือมุทิตา รู้สึกวางเฉยโดยคิดว่าเป็นกรรมของเขา อุเบกขาประเภทนี้เป็นอุเบกขาในพรหมวิหาร ไม่ใช่อุเบกขาบารมีที่จะทําให้สําเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้

    อุเบกขาในบารมี๑๐ มีความหมายว่า การวางใจเป็นกลางในสุขและทุกข์คือ เมื่อมีสุขก็ไม่ยึดติดผูกพัน เมื่อมีทุกข์ก็ไม่ทุรนทุรายเสียใจ วางใจให้เสมอกันในสุขและทุกข์

    ผู้ที่ไม่อาจวางใจเป็นกลางในสุข เมื่อได้รับสุขก็จะขวนขวายให้ได้รับสุขมากขึ้น แม้ผู้ที่ไม่อาจวางใจเป็นกลางในทุกข์เมื่อประสบทุกข์ก็จะทุรนทุรายเสียใจ ขาดความอดทนที่ควรกระทํา ดังนั้น จึงไม่อาจสร้างบารมีอันยิ่งใหญ่ได้เพราะผู้ที่ยึดติดในสุขยิ่งๆขึ้นไป และผู้ที่ปฏิเสธทุกข์ย่อมไม่อาจบําเพ็ญประโยชน์แก่บุคคลอื่นได้

    ดังข้อความในคัมภีร์อรรถกถาว่า

    สุขปฺปตฺโต น รชฺชามิ ทุกฺเข น โหมิ ทุมฺมโน
    สพฺพตฺถ ตุลิโต โหมิ เอสา เม อุเปกฺขาปารมี.

    “เราได้รับสุขก็ไม่เพลิดเพลิน และไม่เสียใจในทุกข์มีใจเสมอกันในสุขและทุกข์ทั้งปวง
    ข้อนี้เป็นอุเบกขาบารมีของเรา”



    unnamed.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแทนคุณบูรพาจารย์ปฐมวงศ์โลกอุดร (เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ผงปราสาทเศรษฐี)

    เหรียญชุดนี้เป็นเหรียญที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างเพื่อสื่อถึงพระปิณโฑลภารทวาชะผู้มากอภินิหาริย์ซึ่งท่านนับถือเป็นต้นวงศ์ของพระโลกอุดรและเป็นอาจารย์ใหญ่สูงสุดในสายโลกอุดรทั้งหมด ด้วยพ่ออาจารย์กับองค์หลวงปู่ใหญ่นั้นดูจะมีอะไรที่ลึกซึ้งมาก แต่ทำอย่างไรท่านก็ไม่ค่อยยอมเล่าเท่าไหร่รู้และทราบกันดีว่าหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือหลวงปู่ใหญ่นั้นคือเอกองค์อรหันต์ที่ยังอยู่ช่วยงานของพระพุทธศาสนาดูแลพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ครบถ้วน 5,000 พระวัสสา ซึ่งท่านก็ได้รับศิษย์หลายต่อหลายรุ่น ซ้ำยังคอยสั่งสอนและช่วยเหลือเหล่าผู้ทรงศีลในเวลายากลำบากเรื่องของท่านนั้นยิ่งกว่าตำนานของเหล่ามหาเทพ ด้วยว่าหาตัวจับยากและเป็นเรื่องที่เกินจริงทั้งสิ้นครั้งนี้จะพูดเพียงสั้นๆเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้พูดอะไรมาก...พ่ออาจารย์ท่านเคารพยึดมั่นถือมั่นมาเสมอว่าพระปิณโฑลภารทวาชะคือต้นวงศ์ของพระเถระสายโลกอุดรทั้งหมด ซ้ำยังมีอาวุโสมากเป็นผู้รู้ราตรีนานด้วยนับได้ว่าเป็นมหาสาวกองค์เดียวที่รับภาระรักษาพระศาสนาจากพระพุทธเจ้าตั้งแต่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ตราบเท่าปัจจุบัน

    ตำนานต้นวงศ์โลกอุดร...
    พระปิณโฑลภารทวาชะผู้ทรงสังขารอยู่ดูแลศาสนาด้วยฤทธิ์อภิญญานั้นจะเรียกว่าท่านเป็นต้นวงศ์ของคณะโลกอุดรที่คนสมัยนี้นิยมเรียกขานกันก็ได้ ซึ่งพระเถระเหล่านี้เราจะไปกำหนดกฏเกณฑ์การพบเจอท่านไม่ได้เลย ดั่งตำนานที่ทราบโดยทั่วกันว่า "เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ในขณะนั้นพระปิณโฑลภารทวาชะท่านกำลังเย็บจีวรอยู่จึงตามเสด็จคณะของพระพุทธองค์ไม่ทัน ด้วยความรีบเร่ง(อาศัยว่าท่านเป็นเลิศด้านการแสดงฤทธิ์อภินิหาริย์สูงสุด ..ในด้านพุทธสาวกด้วยกันแล้วเว้นแต่พระโมคคัลลานะเท่านั้นไม่มีผู้ใดชeนาญเรื่องการแสดงอิทธิฤทธิ์เสมอท่าน) เมื่อตามไม่ทันท่านจึงเข้าพละจตุตถฌานเพื่อเหาะตามเสด็จให้ทันคณะพระพุทธองค์ แต่กลับกลายเป็นว่าก่อนหน้านั้นท่านกำลังเย็บจีวรอยู่จึงทำให้เข็มที่เย็บจีวรนั้นไปปักอยู่บนก้อนศิลาซึ่งมีขนาดประมาณภูเขาหินยักษ์ ด้วยฤทธิ์แห่งพระเถระเมื่อท่านเหาะขึ้นไปด้วยอำนาจอภิญญาจึงบันดาลให้เข็มเย็บจีวรที่ปักบนภูเขาลอยขึ้นไปด้วยดั่งยกเคลื่อนปุยสำลีก้อนหนึ่ง ภูเขาที่พระเถระท่านนั่งเย็บจีวรนั้นก็ลอยติดปลายเข็มมาทางอากาศ... เหตุการณ์นั้นทำให้หญิงท้องแก่ที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ประสบพบเจอภูเขาลอยได้ทำให้นางตกใจจนแท้งลูกในครรภ์ เหตุการณ์ครั้งนี้พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณจึงเรียกให้พระโมคคัลลานะไปเตือนพระปินโฑลภารทวาชะว่ามีสิ่งใดติดขึ้นมาด้วยทำให้พระเถระรู้ว่าบัดนี้ท่านได้เหาะยกภูเขาทั้งลูกลอยตามขึ้นมา เมื่อท่านรู้ท่านจึงได้สละภูเขาลูกนั้นให้กลับไปตั้งอยู่ในที่เดิมของมัน ### เหตุการณ์ครั้งนั้นพระพุทธองค์จึงปรับโทษแก่พระปิณโฑลภารทวาชะให้ดำรงค์สังขารอยู่รักษาพระศาสนาของพระองค์ให้ครบกำหนดก่อน "

    พ่ออาจารย์ท่านจึงยึดว่าในหมู่สงฆ์ยุคนี้ด้วยกันแล้วพระปิณโฑลท่านเป็นต้นวงศ์โลกอุดรอย่างแท้จริงทั้งยังเป็นผู้รู้ราตรีนานมากด้วยพรรษา..มากด้วยอายุขัย...มากด้วยฤทธิ์อภิญญาสูงสุดในปัจจุบัน ท่านได้รับการยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านเป็นผู้บันลือสีหนาท พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละคือประธานของพระในดงที่ลึกลับและเข้าถึงได้ยากที่สุด เมื่อจะทำรูปหลวงปู่เทพโลกอุดรแล้วท่านจึงทำเป็นรูปเปรียบของพระปิณโฑลและคณะศิษย์ของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเป็นเหรียญบูรพาจารย์ที่ฉันใช้สักการะแทนพระปิณโฑลเช่นนี้ เหรียญนี้จึงเป็นเหรียญที่ทรงปาฏิหาริย์สูงสุดตามนิสัยของผู้ชอบแสดงอภินิหาริย์ของพระเถระ...อย่าลืมเสียล่ะว่าไหว้เหรียญนี้แล้วถึงท่านทันทีเพราะปัจจุบันท่านยังไม่ละสังขารไปไหนตามพุทธบัญชาที่ให้ท่านอยู่ดูแลพระศาสนาท่านจึงมีอายุเท่ากับอายุของพระศาสนานั่นทีเดียว

    โดยเหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ใช้เป็นตัวแทนของคณะพระโลกอุดรทั้งหมดทุกองค์ท่านหล่อเหรียญด้วยโลหะกายสิทธิ์ที่เรียกว่าเหล็กไหลนิพพานหรือวัชรธาตุท่านว่าเบิกฤกษ์ทำบูชาคุณครูในวงศ์โลกอุดรท้งหมด โดยครูใหญ่ท่านกำหนดให้ทำเป็นเหรียญจักราวุธจึงเป็นที่มาของพิมพ์"เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์" ซึ่งใครเห็นก็จะงงๆเเละสงสัยว่าเหรียญอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้มีบารมีสูงมากด้วยพระปิณโฑลท่านมีบารมีมากทั้งรู้ราตรีนานสูงสุดในหมู่สงฆ์จึงเป็นที่เคารพนับถือเเก่ผู้ที่ทราบว่าท่านยังไม่ได้ละสังขารอย่างสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญพระเถระที่มีบารมีมากเพราะท่านมีหน้าที่สำคัญคือรักษาพระศาสนาท่านเก่ง..ท่านแกล้วกล้าเชี่ยวชาญในฤทธิ์และอิทธิวิธีท่านทำได้สารพัด เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำเหรียญคณะโลกอุดรนี้องค์ปฐมท่านได้แนะนำว่าให้ทำเพื่อเป็นเหรียญแทนตัวของคณะพระปิณโฑลเช่นนั้นจึงจะช่วยคนได้อีกมาก หากพูดถึงพระปิณโฑลแล้วน้อยคนนักจะรู้จักท่านแต่ต่อไปคนเขาจะเริ่มรู้จักกันมากขึ้นไปเรื่อยๆเพราะบารมี..ของผู้พิทักษ์ศาสนา เหรียญนี้มีคุณมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณต่อไปพลิกแผ่นดินหาก็ยากจะพบเจอ ท่านว่าให้เราทำไว้จะได้ช่วยเผยเเผ่เกียรติคุณของต้นวงศ์โลกอุดรให้คนได้รู้จัก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวัชรธาตุหรือที่เรียกกันว่าเหล็กนิพพานหรือหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี ที่ศิษย์ของท่านอัญเชิญออกมาได้จากถ้ำทางภาคใต้มาหลอมเป็นเหรียญแทนคุณบบูรพาจารย์ชุดบรมจักรซึ่งวัชรธาตุนั้นก็มีอานุภาพมากมาย
    - เป็นธาตุที่ชักชวนผู้ที่เป็นเจ้าของให้ฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศล,สวดมนต์,ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่น น้อมจิตให้ชอบสวดมนต์,นั่งสมาธิ,ประพฤติปฏิบัติธรรมจนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จะทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย
    - เป็นธาตุที่จะจะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ใช้และผู้คนที่อยู่รอบข้างและผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆดับลงไป ทำให้ปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจและทำให้จิตไม่คิดเกินใจไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำ เพราะธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้มีเมตตาคุ้มครองแคล้วคลาดคงกระพันโชคลาภมีบารมีในทุกๆด้าน1000% สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน
    - เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณ แห่งสัมมาทิฐิบารมีดูแลรักษาอริยธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาลที่สามารถหลอมละลายธาตุได้ ถ้าอยู่ในเมืองมนุษย์เรียกว่าเหล็กไหลขาว,เหล็กเปียก,เหล็กน้ำนมแห่งพระแม่ธรณี เป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากพระแม่ธรณีเอาไว้ผู้รู้มักจักนำธาตุชนิดนี้สร้างเป็นยอดปลีของพระธาตุหรือเป็นวัตถุมงคลมีทั้งสำเร็จรูปเป็นธาตุที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ถ้าล่องลอยอยู่ในจักรวาลเรียกว่าจันทราธาตุซึ่งหมายถึงแสงแห่งความร่มเย็นที่จะนำเข้าสู่อริยธรรม ส่วนใหญ่จะถูกเทพเทวาอัญเชิญไปรวมไว้ณ.จุดเดียวกันเพื่อรักษาคุ้มครองป้องกันพระบรมสารีริกธาตุพระอรหันตธาตุเพื่อเป็นฐานรองรับพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีณ.ห้องพระนิพพานแห่งแดนสุขาวดี จึงกลายเป็นธาตุที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลแห่งเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในธาตุชนิดนี้เราเรียกธาตุชนิดนี้ว่าเป็นวัชรธาตุ
    - เมื่อโลกมนุษย์เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลสวัชรธาตุก็เกิดความเร่าร้อนตามไปด้วย จึงเกิดการละลายตัวหยดลงณ.โลกมนุษย์ เราจึงเรียกว่าวัชรหยดน้ำฟ้าหรือเหล็กไหลพระนิพพานเพื่อลงมาช่วยเหลือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลาย จนสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไปและตั้งมั่นแห่งการสะสมบุญบารมีกันต่อไปจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์


    เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์...หมุนล้อจักรแห่งชีวิต
    อันเทพศาสตราจักราวุธนั้นนับเป็นอาวุธวิเศษซึ่งมีอานุภาพมากด้วยจักรนั้นมีหลายชนิดทั้งจักรของพระเป็นเจ้า,ของเทพเจ้า,ของพระโพธิสัตว์และจักรของพระจักรพรรดิ์
    ด้วยจักราวุธนั้นย่อมมีนามต่างๆกันไปอย่างบรมจักรศิวาทิตย์นี้เอง..ก็ได้ชื่อว่าเป็นกงล้อแห่งชีวิต

    กงล้อแห่งชีวิตคือพลังวิญญาณที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นพลังที่จะเติมเต็มชีวิตและใช้ขับเคลื่อนชีวิตทั้งในคติบรมจักรศิวาทิตย์นี้ยังหมุนไม่หยุดนิ่งตราบใดที่วัฏจักรยังดำรงค์อยู่ เพราะพลังแห่งชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่บำรุงสังสารวัฏและให้คุณแก่สรรพชีวิตอย่างสูงสุดถือเป็นหนึ่งในจักราวุธชั้นยอด พ่อาอจารย์ท่านว่าการสร้างจักราวุธนั้นสำเร็จได้ยากยิ่งอย่างแท้จริงเพราะเมื่อทำแล้วต้องสมบูรณ์พร้อมทั้งรูปนามและพลังเทพวิญญาณ ด้วยจักราวุธนั้นปราบได้ทั้งโลกแม้สวรรค์อสูรพิภพและใต้บาดาล มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ทำลายจักรวาลได้อีกชนิดหนึ่ง

    บรมจักรศิวาทิตย์คือ
    การหมุนวนพลังชีวิตในกายที่เสื่อมโทรมให้ฟื้นฟู วัฏจักรที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนที่ขาดสิ่งเร้าไร้ปัจจัยกระตุ้นทำให้ทุกสิ่งชะงักหยุดนิ่งนี่คือปัญหาของชีวิตในปัจจุบันด้วยอาศัยวัฏจักรและบุพกรรมของแต่ละคนทำให้การเคลื่อนการโคจรของพลังชีวิตมนุษย์นั้นไม่ได้เสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญเคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ดุจการหมุนวนพลังชีวิตในห้วงสังสารวัฏนอกจากจะมีอานุภาพทำลายล้างที่รุนแรงแล้วจักรศิวาทิตย์ยังเป็นที่พึ่งพิงแก่สิ่งมีชีวิตทั้งมวลทั้งสิ้นอีกด้วย เพราะพลังงานชีวิตที่บกพร่องขาดการฟื้นฟูไร้สิ่งเติมเต็มนั้นจะนำมาสู่จุดตกต่ำในที่สุด เช่นนั้นจักรศิวาทิตย์จึงเป็นตัวแทนขององค์คุณอันประเสริฐ เป็นพลังชีวิตที่จะยังให้เกิดฤกษ์ดี,มงคลดีและความสว่างดีแก่ชีวิต เป็นพลังงานของสรรพมงคลในกาลทั้งปวง

    แม้จะเป็นจักรแห่งชีวิตก็ไม่ทิ้งพลังทำลายล้างอันรุนแรงของจักราวุธ เพราะจักรศิวาทิตย์นี้สามารถใช้ประหารศัตรูอันเป็นสิ่งมีชีวิตไม่จำกัดได้ทุก
    เผ่าพันธุ์จึงเป็นเทพอาวุธที่ให้ทั้งคุณและสร้างภัยพิบัติได้อย่างรุนแรง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติอาวุธนั้นมีไว้แต่ทำลายแต่จักรศิวาทิตย์นั้นต้องเรียกว่ารุก - รับครบเครื่อง ด้วยสมัยนี้คนเราจะไปฆ่าฟันกับใครจะป้องกันตัวอะไรกันนักหนา ก็เห็นๆอยู่ว่าแต่ละคนนั้นพลังชีวิตบกพร่องชะตาแปรปรวนไม่สมบูรณ์ไร้สิ่งเติมเต็มที่จะนำความบริบูรณ์มาสู่วัฏจักรของตนเอง ครูใหญ่เบื้องบนจึงเจาะจงให้เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่ฉันทำจักรของพระศิวะนะเห็นชื่อศิวาทิตย์เช่นนี้ไม่ใช่พระศิวะ หากแต่เป็นศิวาที่หมายถึงพระนิพพานเป็นศิวาที่หมายถึงความเจริญ..ความเป็นมงคล..ให้คุณ..ให้ผลดั่งจินตนา จักรศิวาทิตย์นี้ชื่อก็บอกตรงตัวอยู่แล้วว่าเป็นจักรที่ให้คุณใหญ่ให้ผลประโยชน์ใหญ่มนุษย์ใดที่มีวาสนาเคลื่อนกงล้อบรมจักรศิวาทิตย์ชีวิตเขาจะมีเพียงคติเดียวเท่านั้น นั่นคือเป็นผู้รับคุณ..รับผลอันยิ่งใหญ่

    จักรศิวาทิตย์นี้ใช้คลายอำนาจการลงทัณฑ์ของเทพเจ้าได้แม้อำนาจทัณฑ์แห่งดาวบาปเคราะห์ทั้งปวงก็เสื่อมลง พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวเราในปัจจุบันนั้นยังยากจะรู้ตัวเองแล้วจะเอาอะไรกับในอดีตที่จะรู้ตัวเองได้เป็นไม่มี เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเคยโดนใครสาปใครแช่งคนที่สาปเราเป็นคนรึตอนนี้เขาเป็นเทพเจ้ามากบารมีที่ไหน ท่านว่านั่นแหละบรมจักรศิวาทิตย์หมุนวนทำลายกฏแห่งคำสาปร้ายได้ทั้งสิ้นทั้งยังใช้พลิกแพลงวิถีชีวิตยิ่งตัวเราดิ่งตัวเราหยุดอยู่กับที่มานานเท่าไหร่จักรแห่งชีวิตก็จะยิ่งเติมเต็มมากขึ้นหมุนเร็วมากขึ้น แรกๆชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนกำลังชีวิตเราไม่ขาดไม่พร่องนั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าติดเหรียญนี้เป็นคุณแก่ตัวเองหนักหนาเพราะเขาตัดวงจรกรรมกลางวิถีกฏที่ผันแปรนับหมื่นพันได้

    ในสกลจักรวาลนั้นหากนับจักรพระนารายณ์ว่าเป็นราชันแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่า
    จักรศิวาทิตย์นั้นก็เสมือนด้วยเงาแห่งราชันเพราะเป็นอำนาจที่จะเติมเต็มพลังชีวิตให้สมบูรณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำจักราวุธให้ศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องให้เบื้องบนช่วยทำเพราะจักรศิวาทิตย์นั้นเป็นเทพวิญญาณเมื่อสำเร็จแล้วจึงมีอานุภาพใช้ได้ทุกทางแม้ทางรุกก็ปราบศัตรูแม้ทางรับก็เติมเต็มพลังชีวิตเคลื่อนหมุนโคจรวงล้อชะตากรรมของเราให้รุดหน้าไม่เสื่อมถอยจะปราบทุกข์เข็ญทั้งอุปสรรคทั้งปวงให้สลายหายสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าขึ้นชื่อว่าจักราวุธแล้วไม่ว่าจะพิชิตหมู่มาร,มีชัยเหนือศัตรู,ทำลายทะลุทะลวงคุณไสยมนต์ดำอวิชชาต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ทั้งเขายังเป็นของทิพย์มีธาตุทิพย์ของตนเองทั้งจักรศิวาทิตย์ยังเป็นจักราวุธในแดนนิพพานแม้ทวยเทพยังไม่อาจควบคุมหรือเข้าใจได้

    โดยทั่วไป
    เมื่อบังเกิดจักรรัตนะขึ้นในโลก จักรจะสามารถมอบให้ซึ่งความเป็นใหญ่ในทวีปใหญ่ทั้งสี่มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารแก่ผู้ครอบครอง แม้จักรศิวาทิตย์ก็เช่นกันทั้งนี้ด้วยได้ชื่อว่าเป็นจักรที่เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายให้..ไม่ว่าจะให้คุณ..ให้ผลประโยชน์ทั้งหลายท่านจึงยกไว้ว่าพูดอะไรมากไม่ได้เพราะจักราวุธชิ้นนี้ต่างจากอาวุธทำลายล้างใดๆท่านว่าผู้ได้ต้องมีวาสนาสูงดุจยอดเขากว้างใหญ่ดั่งท้องพระสมุทร ด้วยศิวาทิตย์จะหมุนวัฏจักรแห่งชีวิตคนเข้าหาผลประโยชน์อันเกื้อกูลเฉพาะตนทั้งสิ้น
    **** พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อได้ไปแล้วให้เอาปากกาเขียนชื่อเราสลักไว้ที่จักรศิวาทิตย์เลยเป็นคติว่าชีวิตเราจะเคลื่อนที่เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งจักรยังจะได้เติมเต็มพลังแก่บุคคลผู้นี้ตลอดไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเขียนครั้งนี้ดุจเป็นพันธะทางพลังวิญญาณจะเกิดชาติหน้าหรือเกิดอีกกี่ชาติคุณของจักรศิวาทิตย์ก็จะเติมเต็มแก่ชีวิตเราตลอดไป

    เหรียญบูรพาจารย์ชุดเคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงมากหนึ่งคือยอดอริยะสงฆ์ต้นวงศ์โลกอุดรผู้เชี่ยวชาญการแสดงฤทธิ์อีกหนึ่งคือยอดจักราวุธแห่งชั้นนิพพานจึงเป็นเหรียญที่ใช้แก้ไขชะตาและสิ่งต่างๆอันรวนเรในวงจรชีวิตตนเองได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเราสลักชื่อลงไปที่จักรศิวาทิตย์นี้เสมอด้วยการปรับภพภูมิให้ตนเองแบบฉับพลันทันที บรมจักรนั้นจะมีสิทธิ์ในการแก้ไขชะตาทั้งมีสิทธิ์ในการประหารสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายอันอยู่หลังความพินาศย่อยยับของเราโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ไม่ต้องบอกหรือขออะไรเลยนะเพราะกายทิพย์ของจักรศิวาทิตย์ย่อมหมุนวนอยู่ตลอดเขาทำงานเองอยู่ตลอดเวลา

    ***สิ่งที่น้อยคนนักยากจะรู้

    บรมจักรศิวาทิตย์นี้เมื่อสถิตย์อยู่ตำแหน่งใดหากมีคนให้ร้ายแก่เราทั้งต่อหน้าและลับหลังหรือหากเขาทำเรื่องเลวร้ายให้เกิดขึ้นแก่เรา พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละบรมจักรนั้นมีเทพวิญญาณเขาจะแก้ไขทันทีแม้เราไม่ได้บอกเขา...บางอย่างจะบอกอะไรได้กำลังเจอกับอะไรบางทีเราก็ไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่ในทางรบนั้นบรมจักศิวาทิตย์จะใช้ป้องกันตัวเราเองดีที่สุดอย่าเอาไปอธิษฐานเรื่องที่พิเรนทร์หรือประทุษร้ายต่อใครอยู่ดีๆอยากให้ใครพินาศโดยไม่มีสาเหตุเท่านั้นก็พอ
    - แม้นปรารถนาทรัพย์ ปรารถนาหนทางเส้นทางการไขว่คว้าชะตา บรมจักรย่อมผันกาลเวลานั้นมาถึง
    - แม้นจะปราบปรามศัตรู กำราบทุกข์เข็ญ ตัดอุปสรรค ลดทอนแรงกรรมเจ้ากรรมนายเวร ถอดถอนแก้กลอาถรรพ์ บรมจักรย่อมเคลื่อนกำราบ
    - แม้นจะเปลี่ยนชะตาอันติดมาแต่ชาติกำเนิด บรมจักรย่อมแปลงกฏแห่งมหาวิถี

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้ใช้เอาดีได้หมดไม่ว่าจะทางโลกและทางธรรม มี
    บรมจักรอยู่ตัวปัญญาจะสุกใสความคิดจะไม่หม่นหมองติดขัดอับจนหนทาง แม้ปฏิบัติสมาธิตัวปัญญาความรู้ก็ใสกระจ่างวิชชาทั้งหลายย่อมเข้าถึงได้ง่าย เพราะบรมจักรศิวาทิตย์เป็นจักรนิพพานที่หมุนเอาความสุขทุกเรื่องในมหาจักรวาลเข้ามารวมกันจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ถือครองจะเลี่ยงหลีกความสุขไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องปัญหาของมนุษย์คนเดียวนั้นจึงเป็นเรื่องเล็กอย่างถึงที่สุดถ้าจะใช้บรมจักรแก้ไข เหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านหล่อและเสกมาหลายปีท่านพูดยิ้มๆเหมือนปัดออกไปว่ากว่าจะสำเร็จได้เรียกกันว่าเสกจนลืมตายทีเดียวลืมไปเสียแล้วว่าทำอะไรไปบ้างเพราะมันยากเหลือเกินยากจนไม่อยากจะจำ บรมจักรศิวาทิตย์ชุดนี้แม้พ่ออาจารย์ท่านก็ใช้ติดตัวท่านว่าป้องกันภัยทุกอย่าง,ปรับธาตุกันแก้,ล้างคุณไสยเสนียดจัญไร,อาถรรพณ์วิชาชั้นต่ำ แถมยังขอบารมีให้ปราบคนทุจริตคิดชั่ว,คนที่กระทำเล่ห์กลใส่เราได้ หากจะทำมาหากินเมื่อจักรผันย่อมบันดาลความสุขจะใช้ดูดทรัพย์,ดูดวาสนา,ดูดชะตาคน,ดูดลาภในสัตว์จตุบททวิบาท,ดูดโชคลาภ,ดูดสิ่งมงคลที่เราปรารถนาท่านว่าใช้ได้ทั้งสิ้นจะนำมาแช่ทำน้ำมนต์ก็มีฤทธิ์สารพัดตามอธิษฐาน เจ็บป่วยไร้หนทางเยียวยาหาสาเหตุไม่ได้ให้อาราธนาบรมจักรคลี่คลายโรคเวรโรคกรรมนั้น แม้นแขวนคอไว้ก็จะช่วยปรับคลื่นพลังจักรวาลดูดสลายคลายก่อเปิดสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ตลอดเวลา เพราะบรมจักรเป็นดั่งตัวเชื่อมเรากับพลังงานในชั้นนิพพานให้เราสามารถใช้ประโยชน์แก่ยอดธาตุยอดพลังงานนั้นได้ตามบุญวาสนาของตน พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรมเพิ่มพูนอำนาจวาสนาบารมี จะหนุนกิจและหน้าที่ทั้งหลายให้สำเร็จ นับเป็นวัตถุที่มีอานุภาพใหญ่เมื่อสถิตย์เป็นมงคลแก่ชีวิตผู้ใดจะเปลี่ยนวาสนาชะตาคน นอกจากนี้ยังมีคุณแห่งจักราวุธคือพื้นฐานจักราวุธทุกรุ่นของพ่ออาจารย์จะมีอำนาจดุจเดียวกัน
    1. ตัวกูผู้ชนะ
    2. มหาอำนาจราชศักดิ์
    3. เมตตาชนนิยม
    4. ป้องกันโรคภัย
    5. ความมั่นคงและมั่งคั่ง
    6. ป้องกันภัยพิบัติ
    7. ปรับภพหนุนนภูมิ
    8. เปลี่ยนลิขิตดวงดาวหลีกเลี่ยงบาปเคราะห
    9. บารมี โชคลาภ ความก้าวหน้า


    ด้านหลังท่านอุดด้วยมวลสารล้วนๆคือผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญอยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้นซ้ำยังเป็นยอดคนทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด ผงเจดีย์100ยอดนี้ท่านว่าทำยากเพราะเดินทางหลายครั้งหลายวาระเสียเวลามากต้องขอต้องพลีนำมาตำมาบดกว่าจะเสกเก็บไว้ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าดีหนุนนำความเจริญได้ทุกทางจะใช้ไปทางโปรดสรรพสัตว์ที่ตกยากขอให้ยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัยเป็นอันใช้ได้ หากเอาเหรียญบูรพาจารย์ชุดบรมจักรนี้สวมคอจำเอาไว้เลยว่าในโลกทิพย์ที่เรามองไม่เห็นนั้นบรมจักรเขาจะออกหน้าออกรับอันตรายทั้งหลายแทนเราทั้งสิ้นไปไหนเทวดาก็เกรงใจเพราไม่ใช่จักราวุธสามัญ ด้วยผงสำคัญที่เสริมกำลังกับคุณบูรพาจารย์และบรมจักราวุธนี้จะมีพลังพิเศษเพื่อหนุนชีวิตเราให้ลอยขึ้นสูงดุจดาวค้างฟ้าได้ ทั้งยังฝังขวดบรรจุอุดด้วยผงปราสาทเศรษฐี
    - ผงปราสาทเศรษฐี พ่ออาจารย์ท่านว่าตั้งแต่ยุคโบราณศูนย์รวมความเจริญ ศูนย์รวมความสุข ศูนย์รวมความบรรเทิง สิ่งต่างๆที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดในแผ่นดินย่อมไม่มีปรากฏในเรือนคนสามัญธรรมดา ความสุขเหล่านั้นจะมีจะปรากฏก็เฉพาะในปราสาทเท่านั้น ผู้ที่อาศัยในปราสาทแม้อยู่บนดินเหมือนคนทั้งหลายแต่กลับเสวยสุขดุจเทวดาได้ พ่ออจารย์ท่านว่าผงปราสาทเศรษฐีก็ให้คุณดุจเดียวกันแต่ทำยากเพราะต้องไปพลีดินปราสาทที่รุ่งเรืองที่สุดมาทำท่านจึงเลือกใช้ดินปราสาทในราชวงศ์เขมรบ้าง สุโขทัยบ้าง อยุธยาบ้าง จะใช้ได้เฉพาะปราสาทที่เจ้าของตายดีตายแบบปกติเท่านั้นนำมาทำอาถรรพ์เขียนลบยันต์ปราสาทเศรษฐี ท่านว่าผงนี้จะเป็นดุจพาหนะนำไปให้เราถึงความสุขเจริญด้วยสิ่งสุขสบายทั้งหลาย...ท่านว่าเปรียบกับพระเจ้าจักรพรรดิ์นั่นเลยนี่คือความสุขของวิชาผงปราสาทเศรษฐี เป็นความสุขที่เกินคนธรรมดา เป็นวิชาที่บันดาลความสุขให้เสมอด้วยเราเป้นเทวดาที่เหยียบดินเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนปกติเขาทำมาทั้งชีวิตเขาจะแสงหาพยายามอย่างไรก็ยังมีพิกัดอยู่แค่คนธรรมดาเท่านั้นไม่อาจพัฒนาไปสูงส่งกว่านี้ สูงที่สุดของคนธรรมดาก็คือคนธรรมดา แต่ผงปราสาทเศรษฐีเป็นวิชาเนรมิตความสุขทุกด้านให้สมบูรณ์พร้อม ทั้งท่านยังนำมาฝังเหรียญคณะโลกอุดรที่มีพระปิณโฑลเป็นองค์ต้นวงศ์จึยิ่งมีฤทธิ์เร่งเร้าอานุภาพสิ่งมงคลทั้งหลายในเหรียญให้เกิดขึ้นฉับพลันตามความถนัดของท่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันบอกได้แค่เหรียญที่หล่อที่ทำไว้ชุดนี้มีประสบการณ์ดีมากก็เพราะผงลบปราสาทเศรษฐีนี่แหละที่แก้อาถรรพ์เปลี่ยนทางเปลี่ยนแนววิถีชีวิตคนได้ ที่เคยมีคนมาบูชาไปเดี๋ยวนี้สร้างบ้านได้ใหญ่โตอย่างกับปราสาทจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญใครวาสนาของใครเราจะไปชี้นำเขาไม่ได้ท่านว่าบอกเค้าสั้นๆ ไม่ต้องพูดอะไรเยอะของดีอย่างไรก็ย่อมดีสายครูบาอาจารย์ของใครก็ของคนนั้นเค้าไม่เอาก็ไม่ต้องไปฝืนท่านกล่าวว่าทำไว้เป็นอาจาริยบูชาศิษย์ไม่ทิ้งครูครูก็ไม่ลืมศิษย์เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้นำเหรียญมาเสกเก็บตลอด โดยท่านทำเป็นเหรียญหล่อเเบบบาตรน้ำมนต์ไม่ให้ใหญ่จนเกินไปเด็กหรือผู้หญิงห้อยคอบูชาไม่น่าเกลียด ก่อนจะเชิญบารมีองค์พระปิณโฑลต้นวงศ์โลกอุดรลงมาเสกลงมาเเฝงบารมีของท่านลงในเหรียญหล่อทุกเหรียญ ท่านเสกเก็บจนครบทุกฤกษ์ทั้งราชาฤกษ์,เพชรฆาตฤกษ์,มหัทธโนฤกษ์,เทวีฤกษ์,สมโณฤกษ์,ทลิทโทฤกษ์,เทศาตรีฤกษ์ ท่านเสกเก็บจนครบทุกฤกษ์เเม้เเต้วันสำคัญอย่างวันสงกรานต์ท่านก็เอาไปเสก,เสกบนดอยท่านก็นำขึ้นไป,ฤกษ์จันทรุปราคา-สุริยุปราคาในพิธีอุปราคาทั้งสองท่านก็นำไปเสก พ่ออาจรย์ท่านว่านี่แหละเจ้าของเขาจะไขว่คว้าเองอย่าถามเราเชียวว่าดีอย่างไร เพราะเหรียญนี้ต้องมีบารมีอย่างเดียวถึงจะดลใจให้ได้ครอบครองทันกาลทันจังหวะ

    คาถาบูชา
    โยอะริโยมหาเถโร อะระหังอภิญญาธะโรปะฏิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโชพุทธะสาวะโก พะหูเมตตาทิวาสะโนมหาเถรานุสาสะโก อะมะตัญเญวะสุชีวะติ อภินันทีคุหาวะนัง โสโลกุตตะโรนาโม อัมเหหิอภิปูชิโต อิธะฐานูปะมาคัมมะ กุสะเลโนนิโยชะเย ปุตตะเมวะปิยังเทสิ มัคคะผะลังวะเทสสะติ ปะระมะสารีริกะธาตุวะชิรัญจาปิวานิตัง โสโลเกจะอุปปันโน เอเกเนวะหิตังกะโร อะยังโนโขปุญญะลาโภ อัปปะมัตโตภะเวตัพโพ สาธุกันตังอะนุกะริสสามะ ยังวะเรนะสุภาสิตัง โลกุตตะโรจะมหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตังอะหังวันทามิตังสะทา มหาเถรานุภาเวนะ สุขังโสตถีภะวันตุเม


    ชุดเคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์นี้ด้วยเป็นของเก่าที่ท่านชอบส่วนตัวเพราะใช้ได้หลายทางทั้งเป็นเหรียญที่เคยมีคนใช้ประสบพบเจอประสบการณ์มากมายหลายๆเรื่องดุจอภินิหาริย์ เนื่องจากองค์พระสร้างไว้ได้เพียง 9 เหรียญเพราะมวลสารอุดหลังมีจำกัดมากและท่านอาราธนาห้อยคอเองเหรียญหนึ่งจึงมีให้บูชาจำนวนจำกัด ท่านให้เปิดจองเพียงหกเหรียญเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญแทนคุณบูรพาจารย์ปฐมวงศ์โลกอุดร (เคลื่อนบรมจักรศิวาทิตย์ผงปราสาทเศรษฐี) บูชา 4,000 บาท

    130091841-1451445181728311-2602110125868773751-n.jpg 131208815-234083608076854-5277711495535258367-n.jpg
    131207950-722546565350626-426064900608280394-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2020
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    9 วิธีทำชีวิตให้สงบสุข

    ในชีวิตของคนเรามีเรื่องต่างๆมากมายให้ต้องประสบพบเจอ แถมเรื่องบางเรื่องยังเป็นเรื่องที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอีกต่างหาก ซึ่งนี่เองอาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อสภาพร่างกายและจิตใจ ดังนั้นแล้ววันนี้จึงนำเสนอวิธีการดีๆที่สามารถช่วยให้คุณจัดการกับชีวิตและปัญหาที่เกิดขึ้นได้ มาดูกันว่าวิธีการที่ว่านั้นมีอะไรบ้างและจะช่วยให้ชีวิตคุณสงบสุขได้อย่างไร

    1. กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
    การกำหนดระยะเวลานี้จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งเวลาให้มีความเหมาะสมและลงตัวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน,เรื่องการเรียนหรือเรื่องใดๆก็ตามแต่ การจัดสรรเวลาจะมีประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญเมื่อคุณแบ่งเวลาได้แล้วก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกกังวลหรือเกิดความครียดใดๆขึ้นเลย

    2. หาวิธีให้ร่างกายได้พักผ่อน
    การพักผ่อนถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายจากหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบได้มากเลยทีเดียว ลองหากิจกรรมที่คุณชอบและถนัดเช่นไปออกกำลังกาย,อ่านหนังสือ,เล่นโยคะ ฯลฯเหล่านี้จะช่วยได้มาก

    3. อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
    เรื่องเล็กน้อยยิบย่อยก็ไม่ควรนำมาใส่ใจแต่อย่างใด ปล่อยวางไปซะบ้างไม่อย่างนั้น ะทำให้เกิดความเครียดตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณอย่างยิ่ง

    4. ช้าๆได้พร้าเล่มงาม
    บางครั้งการรีบร้อนมากเกินไปอาจไม่ส่งผลดีเท่าที่ควร ดังนั้นแล้วลดสปีดลงสักนิดค่อยๆทำ ค่อยๆพิจารณา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถจัดการงานต่างๆได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น

    5. เก็บกวาดข้าวของซะบ้าง
    ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือที่บ้าน หากคุณมีสิ่งของที่วางระเกะระกะกระจัดกระจายอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางแล้วล่ะก็ ทำการปัดกวาดเช็ดถูเก็บข้าวของนั้นๆโดยไว เพราะเมื่อคุณเก็บกวาดเสร็จแล้วจะทำให้คุณมีความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้นจะหยิบจับอะไรก็สะดวก

    6. ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานซะบ้าง
    ถ้าชีวิตมัวแต่จมปลักอยู่กับเรื่องเครียดๆมากจนเกินไปจะทำให้คุณมีแต่แย่ลงและแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นแล้วอะไรก็ตามที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับตัวคุณได้ก็หามาใส่ตัวเองซะบ้าง ชีวิตนี้จะได้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

    7. หลีกหนีจากโลกแห่งความวุ่นวาย
    หากงานที่ทำมีความยุ่งยากซับซ้อนชวนวุ่นวายชีวิตมากมาย ก็ขอให้รีบๆเคลียร์งานนั้นๆแล้วหาเวลาออกไปพักผ่อนซะบ้าง จะออกไปเที่ยวไปดูหนังฟังเพลงอ่านหนังสือฯลฯก็เป็นทางออกที่น่าสนใจเช่นกัน

    8. ตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเต็มที่
    ประเภทที่ว่าชอบทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันขอให้เลิกทำแบบนั้นซะ เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่มีสมาธิกับสิ่งใดเลย เผลอๆอาจจะทำให้งานที่ทำไม่มีประสิทธิภาพแถมยังส่งผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่หนักไปกว่าเดิมอีกต่างหาก

    9. จัดการกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
    ขอให้จำเอาไว้เสมอว่า "ทุกปัญหา ย่อมมีทางออก" ไม่ว่าปัญหาที่เข้ามาในชีวิตจะมีความรุนแรงต่อสภาพจิตใจมากน้อยขนาดไหนก็ขอให้ใจเย็นๆ คิดอย่างรอบคอบค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละขั้นๆ หรืออาจจะปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยก็ได้จะสามารถช่วยแก้ปัญหานั้นๆได้มากเลยทีเดียว

    ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการดีๆที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ และทำให้คุณเกิดความสบายใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วยลองนำไปปรับใช้ดูก็ได้
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าซ้อนเงามหิทธิเมธาจารย์เนื้อเหล็กนิพพาน (เจ้าขรัวเเสงชุดเงาะถอดรูป)

    วิชาลงตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงานั้นถือเป็นวิชาสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านจะนับครั้งทำได้เลยและหนนี้ถือเป็นความโชคดีกับคนที่รอเหรียญชุดบูรพาจารย์ และกลุ่มบุคคลต่างๆที่ติดต่อมาขอบูชาเหรียญเจ้าขรัวแสงยุคแรกซึ่งไม่มีอีกแล้วจะได้มีโอกาสอาราธนาเจ้าขรัวแสงยอดครูผู้ศักดิ์สิทธิ์์อีกคราหนึ่ง
    เจ้าขรัวแสงฝังตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงาตำรับสำนักพระราชวังเขมรโบราณ(เงาะถอดรูป)
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเงาะถอดรูปนี้จะหาคนที่ทำเป็นและทำได้จริงนั้นหายากอย่างยิ่ง แต่เดิมนั้นเป็นวิชาที่บรมครูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายมักจะนิยมหยิบนำมาใช้กัน วิชานี้ท่านว่าคุณพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั้นก็เก่งอย่างหาตัวจับยาก แม้แต่หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัวก็ยังทำได้ขลังเช่นกัน ท่านว่าแม้สายวัดประดู่โรงธรรมก็ยังมีวิชานี้ ซึ่งทุกที่แต่ละตำรับนั้นครูบาอาจารย์ท่านจะเพิ่มเติมเคล็ดหรือวิธีการสร้างให้แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มนั้นมีแนวทางคล้ายกันอยู่แต่ก็มีความต่างอยู่ในตัวเอง ท่านจึงนำวิชาของทั้งสองสายมาบูรณาการและเรียกวิชานี้ว่าพระเจ้าซ้อนเงา ท่านว่าลำพังเคยสร้างก็เพียงเสี้ยววิชาหรือใช้คาถานำมาเสกเฉยๆก็นับว่าพุทธคุณสูงแล้ว และสำนักต่างๆก็มักจะทำกันเพียงเท่านี้ ไม่มีที่จะสร้างเงาะถอดรูปตัวเต็ม เพราะมันยากและวุ่นวายมากนั่นเอง แต่ในวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างบูชาคุณครูวิชาเสียชุดหนึ่ง ท่านตั้งใจจะลงตะกรุดตัวนี้ให้มีลักษณะเล็กๆเพื่อที่จะได้นำไปฝังในเจ้าขรัวแสงชุดพิเศษ กล่าวให้เข้าใจคือนอกจากวิชาพระเจ้าซ้อนเงาหรือเงาะถอดรูปที่ท่านลงแล้วท่านยังเมตตาชักพระยันต์ลงวิชา.....(บางอย่าง) *ท่านว่าวิชานี้ท่านไม่สามารถบอกชื่อได้เพราะเป็นวิชาของขอมโบราณ มีอุปเท่ห์ในการชักยันต์ที่ยากลำบากและกว่าจะสำเร็จนั้นยากเลือดตาแทบจะกระเด็นทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ต้องไปนั่งจารนั่งลงอยู่ในประสาทขอมโบราณ โดยเลือกฤกษ์ยามให้ตรงกับเวลาที่สงัด เมื่อคิดจะทำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าความยากอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงผูกอาถรรพ์เลยทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ปกติจะสืบทอดต่อกันมาและใช้กันเฉพาะในสายของสำนักพระราชวังแต่โบราณ ไม่เคยปรากฏว่าจะได้มาตกถึงมือคนนอกเพราะเค้าหวงแหนและบดบังกันมาก

    จะกล่าวถึงวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะไปนึกถึงนิยายรจนาเลือกคู่ไป ที่ไปนึกถึงมนต์จินดามณีก็มี ในครั้งหลังนั้นท่านว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายถึงกับอุปโลกเป็นเรื่องเดียวกับจินดามนต์ไปเลยก็มาก ท่านว่าความจริงแล้ววิชาเงาะถอดรูปเป็นวิชาที่ต้องใช้ความเพียรอย่างมากเนื่องจากเวลาลงทุกตัวอักขระต้องจรดเหล็กจารว่าพระคาถาเฉพาะทุกตัวไม่มีขาดหรือคลาดเคลื่อน แม้ชักยันต์ก็ต้องว่าสูตรชักยันต์เฉพาะทางของเค้ามีคาถาลงและเสกซับซ้อนมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าเห็นกันว่าเป็นตะกรุดดอกเล็กนี่แหละทำยากกว่าสร้างพระเสียอีกแต่ท่านก็ตั้งใจทำ ท่านว่าทำไว้ให้ดู ให้คนมีวาสนากับคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มท่านเอาไปใช้ ทุกดอกล้วนมีตราบัญญัติมีเจ้าของครอบครองเขาทั้งสิ้น โดยวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ว่าอย่างแรกเลยที่จริงแล้วมันเป็นวิชาเสน่ห์เห็นพบสบตาให้เกิดจิตปฏิพัทธ์ในใจ ให้หลงรูปของเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่ให้ผลในวงกว้าง ท่านว่าแม้ไม่สวยไม่หล่อ แต่พอเค้าเห็นเราเท่านั้นจิตใจเขามันจะแกว่ง ต้องมอง อยากมอง อยากจ้องคนที่มีวิชานี้ จ้องเข้าไปแล้วให้เกิดความชื่นชมนิยมยินดี จ้องเข้าไปแล้วหากมีวาสนาต้องกันย่อมมีจิตหลงใหล จ้องเข้าไปแล้วอดใจไม่อยู่เก็บความรู้สึกไม่ได้เช่นนั้น นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าความจริงแล้ววิชาของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มนั้น มิได้หวังแค่อานุภาพพทธคุณฉาบฉวยแต่เรื่องโลกีย์วิสัยแต่อย่างใด เงาะถอดรูปคือถอดออกทั้งหมด..เกิดเป็นคนใหม่..รูปใหม่..โฉมใหม่เลยทีเดียวท่านว่าพลิกฟื้นคืนกลับถึงปานนั้น เพราะเป็นวิชาที่สูงมาก เมื่อทำต้องเสี่ยงบารมีนำเอาบารมีของแต่ละชาติในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายดึงบารมีท่านลงมาอาบมาฉาบมาเคลือบตะกรุดนี้ มีแรงครูสูงมากถึงขนาดรับรองได้เลยว่าย่อมทำให้ความปรารถนาทุกประการนั้นกลายเป็นเรื่องจริงและเกิดผลสำเร็จได้ ท่านว่าคุณของวิชามันซึมซับไม่ใช่ส่งผลเฉพาะกับรูปกายเท่านั้นที่ว่าทำให้คนอยากมองอยากเห็น แต่มันซึมลึก ซึมลงไปถึงจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อแตกกายย่อยยับดับสังขารลงแล้วยังจะตามคุ้มครองไปถึงชาติหน้าภพหน้า และยังเป็นปัจจัยติดตัวทำให้พบพระศาสนาในสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่คุณวิชามันค่อยๆถอดทีละชั้นทีละชาติภพถอดจนกระทั่งมีนิพพานเป็นที่ไปในศาสนาสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าทีเดียว นี่แหละคือเงาะถอดรูป

    นอกจากนั้นท่านว่าโดยเนื้อแท้แล้ว
    วิชาเงาะถอดรูปท่านกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีใครใช้แล้วจนลงหรือมีทรัพย์เท่าเดิมกันซักคน เพราะมันเป็นวิชาเรียกลาภอยู่ที่ไหนทรัพย์สินเงินทองไม่ขาด ปิดช่องทางจนหรือกระเป๋าแห้งไปเลย ท่านว่าใช้ได้หมดใช้ทางเรียกทรัพย์เป็นมหาลาภ,ชนะคู่แข่ง,ไม่มีศัตรูมารบกวนใช้ได้แม้กระทั่งอาราธนาแช่น้ำใช้น้ำนั้นถอดถอนอวมงคลทั้งหลายทีเดียว แต่คนมักไม่รู้โง่เขลาเบาปัญญาคิดเพียงแต่เสน่ห์ชู้สาว โดยท่านว่าวิชานี้มีอำนาจรุนแรงมาก แม้แต่แขกทางใต้ก็ยังต้องมาเรียนดัดแปลงไปใช้ให้คนติดคนชมคนนิยมในตัวตนของตนท่านว่าถ้าเทียบก็แรงกว่าขุนแผนทั้งหลายอยู่มากทีเดียว ท่านว่านี่เพียงแต่อำนาจพุทธคุณของตะกรุดเงาะถอดรูปเท่านั้น แต่ท่านเพิ่มในส่วนที่แตกต่างกันและเป็นข้อดีหนุนส่งกันของวิชาทั้งสองสายทั้งคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มลงไปจึงเกิดเป็นวิชาพระเจ้าซ้อนเงาขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากใช้แทนของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มได้อย่างสนิทใจ * ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนักเมื่อได้ไปแล้วให้เอาไปแช่น้ำผึ้งเสียก่อนซักสามวัน เขาจะเสพย์น้ำผึ้งเข้าไปและเคลือบอาบฉาบทาน้ำผึ้งด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพุทธบารมี เมื่อครบกำหนดแล้วให้เอาน้ำผึ้งที่แช่ตะกรุดนั้นมาดื่มกิน ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจแห่งวิชาส่วนหนึ่งจะถูกขับเข้าไปอยู่ในตัวของเราซ้อนร่างซ้อนเงาของเราทำให้เราเป็นผู้ทรงวิชาเงาะถอดรูปไปโดบปริยาย ตรงนี้แม้วันไหนเราไม่ได้พกตะกรุดก็ยังใช้อานุภาพนั้นได้ดุจเดียวกัน หากยิ่งอาราธนาตัวตะกรุดไว้ด้วยเรากับเขาก็จะเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ท่านว่าให้ทำครั้งแรกครั้งเดียวหรือจะทำกินทุกครั้งตามแต่สะดวกก็แล้วแต่เมื่อทำแล้วก็ให้นำตะกรุดมาล้างให้สะอาดก่อนจะตากให้แห้งแล้วอาราธนาพกต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาเงาะถอดรูปเต็มสูตรนั่งภาวนาพระคาถาชักพระยันต์ต่างๆท่านว่าทำยากจะทำให้เต็มสูตรเช่นนี้ครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่ขอทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ต้องเสี่ยงบารมี และมีผลกับคนใช้สืบต่อไปจนถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์ทีเดียว ท่านว่าไม่ใช่ของทำเล่นๆ ซ้ำวิชาอาถรรพ์ท่านว่ายิ่งทำยาก ท่านว่าวิชานี้จะปรับสมดุลย์ขับล้างสิ่งไม่ดีซ้ำยังปรับให้อยู่ในระดับที่พอดีไม่มากไปหรือน้อยไป ท่านว่าเกินไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดีการจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับที่พอดี วิชาอาถรรพ์นี้ความจริงจะเรียกว่าใช้แก้อาถรรพ์ก็ได้ท่านว่าตะกรุดอาถรรพ์นี้มีคุณอยู่มากแต่จะพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้นหลังจากนั้นต้องใช้เองเห็นเองท่านว่าจึงจะดีที่สุด พ่ออาจารย์ทานปรารภว่าการแก้อาถรรพ์นั้นคือแก้ที่เกี่ยวพันสืบเนื่องมาแต่ชาติกำเนิดท่านว่าจุดนี้มีกันทุกคนเป็นอัฉริยภาพของครูบาอาจารย์นับพันปีที่คิดกระบวนการวิชานี้ขึ้นมาแต่ไม่ได้แพร่หลายเพราะต้องการใช้กันเองใช้เป็นรายบุคคลไปไม่มีการสืบทอดเป็นของสาธารณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำกันถึงขนาดนั้นสืบทอดมาแต่ในวังของเขมรโบราณเพราะสมัยยุคขอมนั้นกษัตริย์จะยกตัวเทียบเท่าเทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ต่างๆดังนั้นเขาจะมีชุดกระบวนการวิชาต่างๆที่ใช้แก้อาถรรพ์อันติดมาแต่ชาติกำเนิดของตนเองท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ต้องมีวาสนามีบุญต้องกันมีความสัมพันธ์กับแรงครูและคุณวิชาจริงๆจึงจะได้มาเห็นและนำไปบูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปอธิษฐานใช้ไ้ดทุกประการสุดแต่ความปรารถนานั่นแหละ

    คาถาใช้ตะกรุด
    - อาราธนาตะกรุด โส ภะคะวา อิติปิวิชชาจะระณะสัมปันโน พุทโธ รูปงาม เหมือนรูปพระพรหม พุทธัง มะ รูปงามเหมือนรูปพระอินทร์ พุทธะสัง รูปงามเหมือนโฉมพระนารายณ์ จะแปลง ลงมา เหมือนเทวดาสวาหะ อะวิสุนุสสานุสสติ ติวาปิภะ
    - ภาวนาเน้นเสน่ห์เมตตา ธะนังสุก๊ะริ สวาหุม


    สืบเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านเคยสร้างเหรียญหล่อสมเด็จโตให้บูชากันไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นท่านได้หล่อเหรียญเนื้อโลหะกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเหล็กไหลนิพพานหรือวัชรธาตุเอาไว้ ท่านว่าเบิกฤกษ์ทำบูชาคุณครรูชั้นปฐมาจารย์ซึ่งใครเห็นก็งงเเละสงสัยว่าเหรียญอะไรเพราะมีตัวหนังสือจารึกไว้ให้รู้เพียงคำเดียวสั้นๆว่า "แสง" พ่ออาจารย์ท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์ทางจิตตอนนี้ว่า สำหรับเจ้าขรัวแสงนั้นท่านรู้จักมานานเเล้ว เพราะเป็นครูใหญ่อีกองค์หนึ่งที่มีบารมีสูงมาก เป็นอัฉริยาจารย์เจ้าที่มีบารมีมากเป็นที่เคารพนับถือเเก่หมู่ชน แต่ตัวท่านไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่เพราะเป็นเรื่องทางจิตของท่านพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสำหรับเจ้าขรัวแสงนี้ท่านเป็นพระเถระที่มีบารมีมาก...มากเสียยิ่งกว่าสมเด็จโตหรือหลวงปู่ทวดเสียอีก ท่านเก่งมากเชี่ยวชาญในฤทธิ์และอิทธิวิธีท่านทำได้สารพัด

    เมื่อเราจะสร้างสมเด็จโตสมเด็จอาจารย์ใหญ่ของเรานั้นขรัวโตท่านได้มาขอไว้ ท่านว่าให้เราสร้างเจ้าขรัวเเสงเสียก่อนต่อไปคนเขาจะเริ่มรู้จักกันสิ่งนี้จะมีคุณมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณต่อให้พลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ ท่านว่าให้เราทำไว้ให้เราช่วยเผยเเพร่เกียรติคุณของพระมหาเถราจารย์ใหญ่รูปนี้เเทนท่านทีซึ่งในตอนนี้ท่านไม่อาจจะทำได้เสียเเล้ว ต้องอาศัยร่างกายเราเป็นกระบอกเสียงบอกผ่านออกไป บอกให้เขารู้ทีว่านี่คืออาจารย์ของฉัน(ขรัวโต)ท่านสอนฉัน(ขรัวโต)ทุกอย่างทั้งกรรมฐานวิทยาคมเเละเเม้เเต่วิชาการทำผงทำพระซึ่งท่านได้ค้นพบมา วิชาที่ฉัน(ขรัวโต)ได้เรียนจากเจ้าขรัวท่านนั้นเหมือนดั่งเศษเสี้ยววิชาของท่าน พ่ออาจารย์ท่านได้รับปากครูสมเด็จของท่านไว้เป็นมั่นหมอกว่าท่านจะทำให้เป็นประวัติการณ์จึงได้นำวัชรธาตุหรือที่เรียกกันว่าเหล็กนิพพานหรือหยาดน้ำฟ้าทวาราวดีที่ศิษย์ของท่านอัญเชิญออกมาได้จากถ้ำทางภาคใต้มาหลอมเป็นเจ้าขรัวแสงขึ้นมา ซึ่งวัชรธาตุนั้นก็มีอานุภาพมากมาย
    - เป็นธาตุที่ชักชวนผู้ที่เป็นเจ้าของให้ฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศลสวดมนต์ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่นน้อมจิตให้ชอบสวดมนต์นั่งสมาธิประพฤติปฏิบัติธรรมจนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จนทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย
    - เป็นธาตุที่จะจะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ใช้และผู้คนที่อยู่รอบข้างผู้ที่อยู่ใกล้ตัว ให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆดับลงไปทำให้ปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจและทำให้จิตไม่คิดเกินใจไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำเพราะธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้มีเมตตาคุ้มครองแคล้วคลาดคงกระพันโชคลาภ มีบารมีในทุกๆด้าน1000%สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน
    - เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณแห่งสัมมาทิฐิบารมีดูแลรักษาอริยธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาลที่สามารถหลอมละลายธาตุได้ถ้าอยู่ในเมืองมนุษย์เรียกว่าเหล็กไหลขาว,เหล็กเปียก,เหล็กน้ำนมแห่งพระแม่ธรณีเป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากพระแม่ธรณีเอาไว้ ผู้รู้มักจักนำธาตุชนิดนี้สร้างเป็นยอดปลีของพระธาตุหรือเป็นวัตถุมงคลมีทั้งสำเร็จรูปเป็นธาตุที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ถ้าล่องลอยอยู่ในจักรวาลเรียกว่าจันทราธาตุซึ่งหมายถึงแสงแห่งความร่มเย็นที่จะนำเข้าสู่อริยธรรม ส่วนใหญ่จะถูกเทพเทวาอัญเชิญไปรวมไว้ณ.จุดเดียวกัน เพื่อรักษาคุ้มครองป้องกันพระบรมสารีริกธาตุพระอรหันตธาตุเพื่อเป็นฐานรองรับพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีณ.ห้องพระนิพพานแห่งแดนสุขาวดี จึงกลายเป็นธาตุที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลแห่งเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในธาตุชนิดนี้ เราเรียกธาตุชนิดนี้ว่าเป็น วัชรธาตุ
    - เมื่อโลกมนุษย์เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลส วชรธาตุก็เกิดความเร่าร้อนตามไปด้วยจึงเกิดการละลายตัวหยดลงณ.โลกมนุษย์ เราจึงเรียกว่าวัชรหยดน้ำฟ้าหรือเหล็กไหลพระนิพพานเพื่อลงมาช่วยเหลือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลายจนสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไปและตั้งมั่นแห่งการสะสมบุญบารมีกันต่อไปจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์ดีนักแล


    น้อยครั้งนักก็อาจกล่าวได้ที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ธาตุกายสิทธิ์ในส่วนของเนื้อวัชรธาตุหรือเหล็กไหลนิพพานล้วนๆมาอัญเชิญลงบล๊อกขึ้นรูปเป็นเจ้าขรัวแสงองค์ปฐมบูรพาจารย์ของสมเด็จโต ท่านกล่าวว่าทำไว้เป็นอาจาริยบูชาศิษย์ไม่ทิ้งครู ครูก็ไม่ลืมศิษย์เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้นำเหล็กนิพพานนี้มาประกอบพิธีกรรมทางไสยเวทย์เพิ่มโดยการนำเเช่น้ำมนต์ธรณีสารเเละเชิญครูบาอาจารย์เทพยดาตลอดจนกายทิพย์ทั้งหลายลงมาสอบถามเพื่อจะขอบารมีเทพเจ้าทั้งหลายบรรจุไว้ในเหล็กนิพพานนี้ ท่านว่าของเดิมเขาเกิดมาก็ดีแล้วเเต่เราจะเอามาทำของสำคัญทั้งทีต้องทำให้เป็นอิทธิคุณแฝดซ้อนเข้าไปหลายๆชั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก ด้วยการอ่านโองการต่างๆมากมายประจุเข้าไปให้ตัวกายสิทธิ์นี้มีพลังงานที่มีดุลยภาพสมบูรณ์เต็มทุกอณูท่านว่าทำทั้งที่จะไม่ให้สูญเปล่าไปเสียแม้ซักอณูเนื้อเดียว เมื่ออัญเชิญลงบล๊อกนั้ เหล็กนิพพานตัวนี้ท่านว่าเป็นของมีชีวิตมีพลังงานเพราะมันจะดิ้นได้ดิ้นอยู่ในบล้อกนั้นจนเเข็งตัวเป็นเช่นนี้ทุกองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้าขรัวเเสงนี้เป็นที่นับถือเเละศรัทธาของมหาชนกันมาก เเม้เเต่สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 หรือสมเด็จกรมพระยาดำรง ท่านก็ยังนึกแปลกใจในบุญบารมีของเจ้าขรัวแสงนี้เพราะท่านสามารถสร้างพระเจดีย์สูงตระหง่านไว้ให้เราดูเป็นอนุสรณ์นึกถึงท่านได้ ที่สำคัญพระเจดีย์นี้สวยงามมากเเละท่านลงมือสร้างเพียงคนเดียว ไม่ให้ใครยุ่งหรือเข้ามาช่วยเลยจะมีเพียงก็เเต่ชาวบ้านเท่านั้นที่สละทรัพย์สินตามศรัทธาให้ท่านเปลี่ยนเป็นอิฐเป็นปูนมาสร้างพระเจดีย์เพื่อเป็นพุทธบูชา พ่ออาจารย์กล่าวว่าท่านทำโดยอิทธิวิธีทั้งสิ้นพระเจดีย์นี้ถ้าเหาะเหินเดินฟ้าไม่ได้ก็ยากที่จะทำได้เพียงลำพังด้วยตัวคนเดียว

    เจ้าขรัวแสงหรือที่เรารู้จักกันในนามของท่านพระครูมหิทธิเมธาจารย์นี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวรับรองว่าท่านเป็นพระทองคำทั้งองค์เป็นพระสำเร็จที่มีบารมีมาก โดยท่านพูดถึงขรัวแสงได้น่าฟังว่า "ขรัวโตนั้นท่านค้นพบชินบัญชรนำมาแปล เจ้าขรัวเเสงผู้อาจารย์ก็ค้นพบยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนำมาแปลให้เราสวดบูชากัน ศิษย์เเละครูคู่นี้ยากที่จะหาใครมาเปรียบเทียบให้เสมอเหมือนได้ บารมีท่านหนักท่วมฟ้าท่วมเเผ่นดินทั้งทางโลกเเละทางธรรม" เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้หล่อเสร็จท่านก็เสกเก็บมาตลอดโดยท่านทำเป็นเหรียญหล่อไม่ให้ใหญ่จนเกินไปเด็กหรือผู้หญิงห้อยคอบูชาไม่น่าเกลียด เมื่อท่านหล่อเสร็จเเล้วท่านได้นำมาบรรจุสรรพวิชาทุกด้านของท่านก่อนที่จะเชิญบารมีของเจ้าขรัวเเสงเเละครูสมเด็จโตลงมาเสกลงมาเเฝงบารมีของท่านลงในเหรียญหล่อทุกเหรียญ ซึ่งพ่ออาจารย์ได้เล่าถึงบรมครูท่านไว้สมเด็จอาจารย์นั้นถึงกับกล่าวด้วยอารมณ์ปิติว่า"เราขอบน้ำใจคุณมาก เราจะทำให้ดีที่สุด" เเละตัวเจ้าขรัวแสงเองนั้นก็กล่าวขึ้นหลังเสกเสร็จว่า"เหรียญนี้เป็นสมบัติในสวรรค์ชั้นฟ้าที่ปรากฏรูปลงมาเราเเฝงญาณของเราลงไปทุกเหรียญใส่วิชาที่เรามีลงไปให้ครบแล้ว ให้เขาใช้เเทนตัวเราได้เลยฝากคุณบอกคนที่ได้ว่า เขาโชคดี" พ่ออาจารย์ท่านปิติยินดีมากในคำรับรองของ 2 ยอดมหาบูรพาจารย์แห่งยุครัตนโกสินทร์อันหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ ท่านได้นำเหรียญนี้มาสัมผัสดูท่านว่าเพียงแค่จับขึ้นมาพลังงานก็เเผ่ซ่านไปหมดเค้าเต้นได้ดิ้นได้เหมือนกับสิ่งมีชีวิตเลย หลังจากนั้นท่านก็นำมาเสกอีกเก็บจนครบทุกฤกษ์เเม้เเต้วันสำคัญท่านก็เอาไปเสกจนสุดท้ายในวันวิสาขาบูชาจันทร์เต็มดวงเต็มฟ้าเป็นฤกษ์ที่หาไม่ได้อีกเเล้วในรอบหลายสิบปีคือวิสาขบูชาจันทร์ซ้อนจันทร์ท่านก็เสกเก็บอีก 3 เวลา คือใกล้รุุ่งเที่ยงตรงตะวันตรงหัวเเละรอบกลางคืน ซึ่งเหรียญนี้ท่านว่าเจ้าของเขาเห็นเขาจะไขว่คว้าเองอย่าถามเราเชียวว่าดีอย่างไรธาตุกายสิทธิ์แบบนี้ดีทุกอย่างบารมีเจ้าขรัวเเสงนั้นท่านพร้อมที่จะเปิดออกช่วยเหลือคนที่มีศรัทธาอยู่เเล้ว
    คาถาบูชา
    มหิทธิเมธาจาริโยนามัง อะหังวันทามิตัง สะทา (หากจะบูชาจะบนบานศาลกล่าวขออะไรท่านให้สวดพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก เจ้าขรัวเเสงท่านจะชอบฟังมากหากมีเวลาว่างให้สวดทุกเช้าเเละก่อนนอนจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ให้สวดถวายท่าน แม้จะบนก็ให้บนด้วยการสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก 3จบ 7จบ 108จบ)
    * เมื่อได้รับองค์พระไปให้นำองค์พระอาราธนาไว้ในมือสวดพระคาถาอิติปิโสบทพระพุทธคุณเท่าอายุ โดยสวดเกินอายุตน 1 จบสมมติอายุ 30 ปีก็สวด 31 จบเช่นนี้ อธิษฐานบอกกล่าวเจ้าขรัวเเสงว่าตัวเรานั้นชื่ออะไรนามสกุลอะไรเกิดวันเดือนปีอะไร ขออาราธนาหลวงปู่เจ้าขรัวเเสงมาเป็นหลักชัยเป็นร่มโพธิ์ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาเเก่ชีวิตของเราเป็นที่พึ่งของเรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าศิษย์ของเจ้าขรัวเเสงนั้นได้ดีทุกคนเช่นสมเด็จโตเป็นอย่างไร เเม้จะเป็นคนธรรมดาก็ได้ดิบได้ดีเป็นมหาเศรษฐีท่านว่าเหรียญนี้ประเมินด้วยรูปภายนอกไม่ได้เลยเพราะพลังงานภายในนั้นมหาศาล เรารับประกันเลยว่าเธอจะดีขึ้นขอให้เอาไปห้อยศรัทธาปฏิบัติให้ถูกตามที่บอกไป ชีวิตเธอนั้นจะเจริญโดยส่วนเดียวเเม้จะเอาเหล็กนิพพานวัชรธาตุธรรมดามาสอบเทียบก็ยังมีอานุภาพได้ไม่ถึงครึ่งของเหรียญเจ้าขรัวเเสงนี้ แสงแห่งบุญ..แสงแห่งมหากุศล..แสงสว่างที่ใช้ทำคลายความมืด..แสงที่เป็นประกายความหวังแก่สรรพชีวิต เธอเอาไปแล้ว เธอต้องได้ดี

    *** เจ้าขรัวเเสงรุ่นนี้
    ท่านว่าไม่ต้องบอกอะไรเค้ามากเพราะท่านลงไว้เยอะหลายด้านหลายอย่าง วันไหนเขาดีขึ้นชีวิตเขาเปลี่ยนไปวันนั้นให้เขางงตัวเองให้เขาหาคำตอบเองเเบบนี้ดีกว่า ด้านหลังนั้นท่านฝังตะกรุดเงาะถอดรูปทุกองค์ายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษษเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าซ้อนเงามหิทธิเมธาจารย์เนื้อเหล็กนิพพาน (เจ้าขรัวเเสงชุดเงาะถอดรูป) บูชา 900 บาท


    131615629-384657439292066-2345535998880153490-n.jpg 131889826-433368034487246-5756080803350558231-n.jpg
    1295014515.jpg
    131891886-740291156590491-8753313004921001536-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เจ้าขรัวแสงรุ่นนี้ถือเป็นการสร้างรูปเจ้าขรัวครั้งสุดท้ายในชีวิตพ่ออาจารย์ท่าน ท่านว่าทำเอาไว้ให้คนที่เขามีสายเลือด สายใย สายศรัทธาในบรมครูได้ทันใช้เพราะจะหาพระที่มีบารมีสูงแบบเจ้าขรัวแสงได้หาไม่มีอีกแล้ว

    *** ถ้าคนที่ทันยุคแรกๆจะรู้ว่าเจ้าขรัวแสงตอนนั้นเหรียญละสามพันแค่พริบตาเดียวหมดทันที ตะกรุดวิชาเงาะถอดรูปก็ดอกละพันชุดนี้ใครทันได้จึงเหมือนกับได้ชุดละสี่พัน ทั้งตะกรุดและเหรียญเจ้าขรัวแสงล้วนแต่เป็นยอดวิชาที่คนถามกันมากใช้ได้ผลกันมากที่สุดนี่แหละที่อยากบอกว่าพ่ออาจารย์ท่านกำชับว่าทำไว้ให้พวกตัวใหญ่ตัวเล็กได้แขวน(จะผู้ใหญ่ผู้หญิงหรือเด็กและคนในครอบครัว) ท่านว่าหาพระยุคเจ้าขรัวแสงหรือสมเด็จแท้ๆยากก็เอาไปใช้แทน ท่านมาทำให้อยู่นานมากๆเสกกันหลายปีทั้งสององค์นั่นแหละ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ความปรารถนาของบุคคลในโลกที่สมหมายด้วยยาก ๔ อย่าง
    ๑.ขอสมบัติจงเกิดมีแก่เราโดยทางที่ชอบ.
    ๒. ขอยศจงเกิดมีแก่เราและญาติพวกพ้อง.
    ๓. ขอเราจงรักษาอายุให้ยืนนาน
    ๔. เมื่อสิ้นชีพแล้ว ขอเราจงไปบังเกิดในสวรรค์.

    ความปรารถนาของบุคคลในโลกที่สมหมายด้วยยากมีกี่ประการ ? อะไรบ้าง ?
    คำตอบคือมี ๔ ประการ คือ
    ๑. ขอสมบัติจงเกิดมีแก่เราโดยทางชอบ
    ๒. ขอยศจงเกิดแก่เราและญาติพวกพ้อง
    ๓. ขอเราจงรักษาอายุให้ยืนนาน
    ๔. เมื่อสิ้นชีพแล้ว ขอเราจงไปบังเกิดในสวรรค์

    ความปรารถนาของบุคคลในโลก ที่ได้สมหมายด้วยยากหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าความปรารถนาเหล่านี้มิใช่ว่าจะสำเร็จได้ง่ายๆเป็นของที่ไม่สำเร็จได้ด้วยการปรารถนา จำต้องบำเพ็ญปฏิปทาที่จะให้บรรลุผล เหมือนเราต้องการทรัพย์ก็ต้องหมั่นขยันจึงจะได้ทรัพย์ ถ้าเป็นแต่นึกในใจทรัพย์นั้นก็เกิดไม่ได้ เป็นต้น

    ชื่อว่าสมหมายด้วยยาก เพราะอะไร ?
    เพราะเป็นของที่ไม่สำเร็จได้ด้วยการปรารถน จำต้องบำเพ็ญปฏิปทาที่จะให้บรรลุผล เหมือนเราต้องการทรัพย์ก็ต้องหมั่นขยัน จึงจะได้ทรัพย์ ถ้าเป็นแต่นึกในใจ ทรัพย์นั้นก็เกิดไม่ได้ เป็นต้น

    - ขอสมบัติจงเกิดมีแก่เราโดยทางชอบสมหวังได้ยากเพราะเหตุไร ?
    เพราะคนเราที่จะได้สมบัติมาโดยบริสุทธิ์จริงๆยากมากเนื่องจากชีวิตเราเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายประการ สิ่งที่เกิดขึ้นแก่เราจะเกิดขึ้นในทางที่ชอบธรรมทำจึงเป็นสิ่งทีทำได้ยาก
    สมบัติ แปลว่าอะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
    สมบัติ แปลว่าความถึงพร้อมมี ๒ ประเภท คือ
    - โภคสมบัติ ความถึงพร้อมด้วยของกินของใช้ที่จำเป็นได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรคต่าง ๆ
    - ทรัพย์สมบัติ ความถึงพร้อมด้วยทรัพย์ คือวัตถุสิ่งของที่อำนวยความสุขความสะดวกสบายพิเศษซึ่งเป็นสิ่งที่เคลื่อนที่ได้(สังหาริมทรัพย์)เช่น เงิน ทอง รถ เรือ เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เคลื่อนที่ไม่ได้(อสังหาริมทรัพย์) เช่น ที่นา ที่ทำไร่ เป็นต้น


    ขอยศจงเกิดแก่เราและญาติพวกพ้องคืออะไร ?
    คืออิสริยยศ,บริวารยศ,เกียรติยศ,ความเป็นใหญ่,การมีบริวารห้อมล้อมและการมีชื่อเสียงเป็นที่ยกย่องนับถือของคนอื่น ในทางที่ชอบธรรมจริงๆเป็นเรื่องที่สมหวังยากประการหนึ่ง
    ยศ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
    ยศ มี ๓ ประเภทคือ
    - อิสริยยศ ยศคือความเป็นใหญ่
    - บริวารย ยศคือบริวาร
    - เกียรติยศ ยศคือชื่อเสียงยกย่องสรรเสริญ


    ขอเราจงรักษาอายุให้ยืนนาน เป็นเหตุสมหวังได้ยากเพราะเหตุไร ?
    เพราะคนส่วนมากอยากที่จะมีชีวิตยืนยาว บางทีอาจจะเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควรเกิดจากการป่วยไข้หรือจากอุบัติเหตุมาตัดรอน ทำให้เสียชีวิตไปการที่จะขอให้มีอายุยืนยาวอย่างที่หวังจึงเป็นสิ่งสมหวังได้ยาก
    อายุ หมายถึงอะไร อายุยืนยาวหมายถึงอะไร?
    อายุหมายถึงเวลาชั่วชีวิตหนึ่ง
    - อายุยืนยาว หมายถึงกาลเวลาชั่วชีวิตหนึ่งยืดยาว


    เมื่อสิ้นชีพแล้วขอเราจงไปบังเกิดในสวรรค์ สมหวังได้ยากเพราะเหตุไร ?
    เพราะการไปบังเกิดในสวรรค์เป็นเรื่องที่ยากมากมีน้อยคนนัก พระพุทธเจ้าอุปมาเหมือนโคตัวหนึ่ง จะไปอบายเท่ากับจำนวนขนของโคจะไปสวรรค์เท่ากับจำนวนเขาของโค

    557000001349001.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา ซุ้มกอก่อเหตุ,สนอง,ต้องประสงค์(ยอดเหล็กทิพย์แก้วมณีเลี้ยงน้ำมัน)

    หลายคนถามหาพระชุดเล็กที่ห้อยคอสะดวก...แต่ต้องแรง ด้วยเครื่องมงคลทั้งหลายส่วนมากจะมีขนาดใหญ่ห้อยยาก ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ซุ่มทำเครื่องมงคลสกุลหนึ่งไว้ด้วยท่านว่าทำยากกว่าพระสมเด็จ จะเห็นได้ว่าพ่ออาจารย์ท่านแทบจะไม่ได้ออกพระสกุลซุ้มกอเลย ด้วยการสร้างนั้นอาศัยเหตุว่าต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายประการทั้งมวลสารแร่ธาตุที่ต้องนำมามนต์ปลุกเสก ท่านว่าที่ท่านเลือกทำพระซุ้มกอนี้เพราะเป็นพระที่ฤาษีสร้างสำเร็จด้วยเทพพรหมร่วมใจกันจึงมีฤทธิ์ถึงขนาดว่ามีกูไว้ไม่อับจนแม้กาลภายหลังผู้ใดจะพึงสร้างก็ไม่ปรากฏอิทธิคุณเสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านมนต์ปลุกเสกผงพร้อมเชิญเทพพรหมให้หาสรรพยากายสิทธ์ต่างๆมาร่วมสร้างพระพิมพ์ไปพร้อมกัน..จึงเป็นพระที่ได้มวลสารว่านยาด้วยปาฏิหาริย์หลายประการดุจเทวดาต้องการให้เป็นไปจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างยอดพระพิมพ์ขึ้นมา(แต่มวลสารทั้งหลายที่ได้มาดุจเทวดามอบให้ท่านจะไม่กล่าวถึง) ท่านว่าซุ้มกอที่เราทำนี้ก็เพื่อให้ใช้กันแทนของเก่าคนที่ใช้จะรู้ว่าคำว่ามีกูไว้ไม่อับจนเป็นอย่างไร ซ้ำพระสำคัญนี้ยังคอยก่อเหตุสนองความต้องการต้องประสงค์ในสิ่งที่พึงประสงค์และปัดพ้นในสิ่งที่เราไม่พึงประสงค์มีพลังเร่งเร้าการเริ่มต้นและผลสำเร็จขับเคลื่อนศักยภาพพลังงานชีวิตอย่างแท้จริง

    ที่สุดแห่งผงวิเศษ
    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงวิเศษที่ท่านทำรวบรวมไว้ด้วยความยากลำบาก มาผสมกับผงจักรพรรดิชองหลวงปู่ดู่,ผงทำพระของท่าน,ตลอดจนผงวิเศษห้าประการที่ท่านลบถมเองและผงจินดามณี,ผงแก้วบรมจักพรรดิ ท่านว่า
    เพียงเท่านี้ก็เหลือกินแล้วลำพังผงบางชนิดที่คนไม่มีปัญญาทำได้นี่ก็เหลือกินนักท่านนำมาหมักมานวดกับน้ำมุรธาวารีซึ่งเป็นน้ำที่เกิดขึ้นเองจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติเช่นน้ำในพระพุทธบาท,น้ำในเศียรพระปฏิมา,น้ำในบาตรพระปฏิมา,น้ำทิพย์ในบ่อในถ้ำสำคัญต่างๆ ที่สำคัญที่สุดนั้นท่านนำมาผสมผงไม้ตะเคียนโบราณพันปีด้วยท่านว่าใส่ไปให้เป็นเชื้อเพราะตะเคียนต้นนี้มีจิตของนางตะเคียนเขาไวต่อการบนบานศาลกล่าวหรือคำบูชาอธิษฐานของมนุษย์ท่านว่าเวลาขอจะได้สำเร็จสมหวังรวดเร็วดั่งใจ ...ด้วยท่านปรารถนาจะทำให้เป็นเครื่องมงคลชั้นครูชนิดเล็กพริกขี้หนูท่านจึงได้นำมาผสมกับผงวิเศษสูตรที่ท่านบอกว่าแรงและทำยากมากไม่เคยนำมาใช้กับสิ่งใดๆนอกจากเขียนเป็นตะกรุดนานๆครั้งดังนี้

    - ผงเจริญลาภ ผงวิเศษที่ให้ผลเจริญไวดังลมพัด..ใครหน้าไหนก็ตามเราไม่ทัน ท่านว่ายุคสมัยนี้อยู่ยากนักแข่งบุญแข่งพายยังหาแข่งกันได้เเต่คนไม่มีบุญอับวาสนาจะเอาอะไรไปแข่งไปสู้กับเขา ท่านว่าลงผงนี้ไว้กันเอาไว้ก่อนเผื่อคนเขาไม่มีในส่วนนี้ผลบุญยังไม่สุกงอมวาสนายังไม่พร้อมจะได้ไม่ขัดความเจริญเขา ด้วยคุณแห่งวิชานี้จะได้ช่วยต่อยอดออกไปให้เขาเจริญไว,เติบโตได้ไว,เจริญด้วยลาภยศ,สุข,สรรเสริญ,ทรัพย์สินศฤงคาร,ธนสารสมบัติเช่นนี้ ด้วยผงเจริญลาภนี้เป็นวิชาเฉพาะทางโภคสมบัติซึ่งให้ผลตรงตัวพ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้นั้น เป็นวิชาทางมหากำเนิดแต่เป็นการเกิดขึ้นของโชคลาภทรัพย์สมบัติ..จากศูนย์..จากไม่มี ก็จะเกิดขึ้นจนผู้ครอบครองมั่นคงไม่รู้จักตกต่ำสิ่งที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆแม้เอาไว้กับตัวก็ดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาตัวไม่รู้จักเสื่อมถอย แม้ติดไว้กับเรือนสถานที่ทำงานก็จะรุ่งโรจน์มีแต่เร่งให้ดวงเปิดรับทรัพย์เป็นอเนกอนันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากทีแรกท่านเพียงจะลงผงเจริญลาภนี้เท่านั้นแต่ครูบาอาจารย์ข้างบนท่านว่ามันดีแต่ก็ยังไม่สุด ท่านได้มีนิมิตรเห็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงพ่อปานมาหาท่านบอกว่าให้ลงวิชาพระเจ้านวโกฏิล้อมไปด้วยจะได้ดึงเอาบารมีของมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้ง 9 ท่านมาไว้กับตัวคนใช้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นเมตตาครูบาอาจารย์ตรงจุดนี้ท่านเลยลงผงเจริญลาภไว้เป็นฐานก่อนที่จะลงยันต์เบิกทางรับขุมทรัพย์ทั้ง 8 ทิศอันได้แก่มหาทิศทั้ง 4 และอีก 4 ทิศย่อย ท่านว่าแม้ตัวผู้ใช้อยู่จุุดในในโลกในทิศทั้ง 8 นี้เขาก็เป็นดุจแกนกลางที่โชคลาภความเจริญมั่งคั่งจะวิ่งเข้ามาหาดูดทุกอย่างมาไว้กับตัวเขา..ไม่หนีไปที่อื่น..ไม่วิ่งไปทางอื่น..ไม่ตกไปสู่คนอื่น ผงชุดนี้นั้ แม้ใครที่ติดผลกรรมทำอะไรไม่เจริญก็ใช้ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องกลัวเงียบ ละควรจะอาราธนาอย่างยิ่ง ท่านว่าเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำให้เราเพิ่มวิชาเข้าไปอีกสองส่วนให้เหมาะสมกับชะตาของสรรพชีวิตอันได้รับทุกข์ขุกเข็ญจากกระแสของโลกในปัจจุบันนี้สองส่วนนั้นก็คือ " วิชาระงับสงสาร,วิชาหนีสงสาร " สองวิชานี้ก็ตรงตามชื่อคือจะเข้าไปหยุดไม่ใช่ทำให้เวรกรรมเก่าหายไปเลยหากแต่เพียงระงับไว้หยุดไว้ปรามไว้ซึ่งอำนาจอกุศลกรรมที่เจ้าตัวเคยก่อไม่ให้ส่งผลนี่คือให้โอกาศเร่งสร้างกรรมอันเป็นกุศลขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ระงับไว้เท่านั้นยังหนีอกุศลกรรมนั้นไม่ให้ตามติดตัวเพื่อจะแสดงผลได้ทันด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสองอย่างนี้สำหรับคนที่ทุกข์ขุกเข็ญเสวยผลแห่งทุกขเวทนาอยู่หาความสุขในลาภและทรัพย์สมบัติไม่เจอ สองวิชานี้นั้น..เพียงพอและเกินพอที่จะนำชีวิตของเขาออกจากห่วงแห่งทุกข์ได้ หากแต่ว่าออกแล้วต้องประกอบกุศลกรรมมาชดเชยกันมิเช่นนั้นชาติหนี้าไม่ได้เกิดมาพบเจอวิชานี้ก็จะต้องรับกรรมเก่าต่อไป ท่านว่าวิชานี้เปิดหมด เปิดทิศทั้ง 8 ระงับและหนีทุกข์เข็ญที่สำคัญท่านยังล้อมยันต์ด้วยวิชาพระเจ้านวโกฏิเพื่อดึงบารมีมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านแห่งพุทธกาลมาสู่จุดศูนย์กลางให้เกื้อหนุนผู้บูชาโดยตรง มหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้นได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลอันจะไม่ตกต่ำลงอีกด้วยบุญของทั้ง 9 ท่านค้ำจุนเราอยู่จึงเหมือนดั่งคำปกาศิตที่ชีวิตเราจะตกต่ำนั้นหามิได้จะได้ลืมตาอ้าปากสมหวังในการประกอบกิจเป็นเกียรติยศอยู่ในวงการอาชีพของตนเอง เมื่อท่านลงผงแล้วท่านได้นำมาปลุกเสกยันต์ให้มีชีวิต และอธิษฐานจิตลบท่านทำซ้ำไปซ้ำมาลงแล้วลบสะสมไปจนมีผงครึ่งกระปุกจึงเสกเก็บไว้จนเต็มดีแล้วไม่รู้จะใส่อะไรเพิ่ม ก่อนที่จะอัญเชิญเสด็จพระใหญ่,ครูพระปัจเจกดพธิเจ้า,สมเด็จบรมครูและหลวงพ่อปานตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ท่านมารับรู้และช่วยกำกับเพิ่มเติม ผงนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านเอาเข้าพิธีอธิษฐานตลอดพรรษาที่ผ่านมาและได้รับคำแนะนำจากเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐมโพธิญาณ)ว่าในพรรษานี้ท่านจะเข้านิโรธสมาบัติถ้าจะให้เป็นเอกลาภเป็นผงเจริญลาภดั่งที่ท่านหมายใจไว้ก็ให้ยกผงนี้ไปให้ท่านที่นิพพานทุกวันท่านจะทำให้เป็นผงทิพย์ มีฤทธิ์ของการอธิษฐานจิตนิโรธกรรมเป็นเอกด้านโภคทรัพย์สมบัติความเจริญรุ่งเรืองแม้ผู้ใช้ปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้ลุแก่ใจปรารถนาด้วยบารมีของนิโรธสมาบัตินี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็เพียรยกถวายในทุกๆวันไม่ให้ขาดบารมีของนิโรธสมาบัตินั้นกล่าวกันว่าแม้ใครได้พบได้ถวายทานได้ตักบาตรกับพระผู้ทรงคุณอันออกจากนิโรธแล้วกุศลย่อมเสริมส่ง แม้ยาจกก็ได้เป็นพระราชาในวันเวลานั้นทีเดียว เมื่อจบพิธีนิโรธท่านตรวจดูพลังแล้วท่านว่าต่างจากตอนที่ท่านเสกไว้แต่แรกมากนัก เพราะสำเร็จด้วยวิชาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม ผงนี้มีพลังที่เย็นยะเยือกมากนัก ท่านจึงลองเอามาอธิษฐานจิตหนุนธาตุไฟขึ้นมาแม้ธาตุไฟยังไม่สามารถส่งผ่านพลังงานได้ ท่านว่าผงนี้ดุจกลับว่าใครที่มีความร้อนรนอาจจะเป็นด้วยจริตเป็นคนใจร้อนมุทะลุดุดันหากเขาได้พกไว้จะสลายเปลี่ยนเป็นความเย็นมาเกาะกุมแทน ทำให้เขานิ่งขึ้นสงบขึ้นมีสมาธิมากขึ้น ผงชุดนี้ท่านว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของก็ไม่มีบุญที่จะได้พบ..แม้ชื่อก็จะไม่ได้ยิน..ถึงได้ยินก็จะหาความสนใจมิได้ด้วยวาสนานั้นปัดไปไม่ให้เข้ากัน จะมีผู้ที่รู้ค่าคู่ควรเท่านั้นถึงจะเชิญไปประดิษฐานเพื่อการณ์อันจะสำเร็จประโยชน์สมดั่งคำว่าเจริญลาภเค้าผู้นั้นจะเจริญและเจริญยิ่งๆขึ้นไป

    - ผงคุณพระแก้กรรม(ตำรับท้าวสหัมบดีพรหมสงเคราะห์) นับเเต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันเมื่อกำเนิดสรรพชีวิตขึ้นมากาลเวลาผ่านไปชีวิตเหล่านั้นได้วนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสาร เขาไหลไปตามกรรมตามวาระตามกาลเวลาของเขาเเต่ละรูปนามจะหาที่เสมอเหมือนกันนี่บ่มิได้ "พ่ออาจารย์ ท่านเคยมีนิมิตรถึงท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่ในโลกทิพย์ซึ่งก็คือท้าวสหัมบดีบรมพรหมครูใหญ่สายพรหมของท่านได้กล่าวเอื้อนเอ่ยด้วยความเป็นห่วงด้วยกลัวภัยอันเกิดจากเคราะห์กรรมนานัปการจะเกิดแก่สรรพชีวิต เพราะยุคนี้โลกเสื่อมทรามลงนักหนาจึงได้มอบวิชาบอกวิธีทำของวิเศษอย่างหนึ่งไว้กับพ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อเห็นถึงเวลาตามสมควรเเล้วก็ให้ทำซะเเต่เราเเละเธอคงช่วยมนุษย์เหล่านั้นได้เพียงหยิบมือเฉพาะคนที่มีวาสนาเกื้อกูลกับเราเเละเธอจะช่วยทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้" พ่ออาจารย์ท่านจึงลบผงวิเศษขึ้นมาประกอบพิธีกรรมครบตามที่องค์ครูท้าวสหัมบดีบรมพรหมกำหนด ท่านทำเสร็จตามพิธีท่านก็เก็บไว้มองฟ้ารอเวลาให้ถึงพร้อมบรรจบกันทำเก็บไว้เช่นนั้นรอว่าเมื่อไหร่จะได้เอาออกมาช่วยผู้ที่มีวาสนาตามปกาศิตท้าวบรมพรหมท่าน ความทุกข์หลากหลายชนิดหลายรูปแบบที่มีคนบอกเล่าขอความเมตตาขอความช่วยเหลือมาทางพ่ออาจารย์นั้นเริ่มมีมากขึ้นเยอะขึ้นไม่ว่าจะมีทุกข์จากดาวนพเคราะห์,จากชะตาชีวิต,จากกฏแห่งเวรกรรมตามวัฏฏสงสาร,จากเจ้ากรรมนายเวรในอดีตที่ชาตินี้เราไม่รู้อะไรด้วยตามเล่นงานหลอกหลอน,จากศัตรูหมู่มารเทวดาอันธพาลทั้งหลาย,จากความทุกข์ทวีมากขึ้นสู่ทุกข์เข็ญตกยากลำบากอึดอัดคับข้องใจ,จากความปรารถนา,จากหน้าที่การงานต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านก็เป็นกังวลตามไปด้วย นกระทั่งที่ผ่านมาท่านได้ทำพิธีเสกเครื่องมงคลท่านได้เห็นจิ้งจกเผือก 9 หางมาปรากฏตตรงหน้าของท่านพ่ออาจารย์ท่านจึงกำหนดจิตดูเพราะท่านเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยเวลาปฏิบัติธรรมสั่งสมกำลังบารมี ซึ่งพญาจิ้งจกนี้คือร่างจำแลงของเทพเจ้าหรือมหาพรหมชั้นสูงลงมาเพื่อจะเเจ้งเหตุบอกกล่าวหรือร่วมอนุโมทนาในการปฏิบัติธรรมทั้งหลายซึ่งหลังจากท่านกำหนดจิตดูแล้วก็แจ้งแก่ใจว่าคือใครเเละท่านดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าครูบรมพรหมของท่านอนุญาติให้เอาผงวิเศษชุดนี้ออกไปโปรดสัตว์ช่วยเหลือหมู่ชนได้เเล้ว ด้วยความทุกข์ร้อนหนักหนาสาหัสของมนุษย์ในปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นอาณัติสัญญาณส่งขึ้นไปถึงพรหมโลก ผงวิเศษนี้คือผงคุณพระเเก้กรรมนั่นเองพ่ออาจารย์บอกว่าสมัยนี้คนเราเวลาเดือดร้อนนี่น่ากลัวมากเพราะเขาจะทุรนทุรายหาทางออกหาทางเอาตัวรอดทำให้โดนหลอกโดนต้ม จากพวกบรรดาหมอดูคนทรงเจ้าเข้าผีหรือเดรัจฉานวิชาฝ่ายต่ำต่างๆ จากที่ยิ่งเดือดร้อนอยู่เเล้ว กลายเป็นยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีกท่านว่าท่านจึงสนองโองการพรหมเทพคือท้าวสหัมบดีได้ทำผงมหาวิเศษชุดนี้ขึ้นเพื่อผู้ที่ได้ไปจะได้มั่นใจเเละมีหลักประกันในชีวิตตนเองไม่ต้องไปโดนใครเขาหลอก ซึ่งผงคุณพระแก้กรรมนั้นเป็นผงที่ทำยากมากเพราะกว่าจะทำเเล้วเสร็จในชุดหนึ่งๆนั้น ต้องกินระยะเวลายาวนานถึง 9 ปี เมื่อพ่ออาจารย์ได้ลบผงเต็มสูตรตามสูตรวิชาของบรมครูผู้เป็นใหญ่ท่านได้นำมาอธิษฐานจิตด้วยตัวท่านเองกำหนดอารมณ์ใส่วิชาเเละพระคาถาตามที่ได้รับถ่ายทอดมา หลังจากนั้นจึงนำไปประกอบพิธีเชิญญาณของเสด็จพระพรหมใหญ่หรือองค์ท้าวสหัมบดีพรหมลงมาจุณเจิมผงประจุวิชาด้วยพรหมศาสตร์ของพระองค์ท่าน หากแต่ว่าการทำผงคุณพระเเก้กรรมนั้นไม่ได้ง่ายเเละเสร็จเพียงเท่านี้หากแต่ที่กินระยะเวลาถึง 9 ปีกว่าก็ด้วยว่าเพราะในแต่ละปีนั้นพ่ออาจารย์ท่านต้องนำผงนี้ไปบรรจุไว้ตรงหน้าพระประธานในอุโบสถวัดต่างๆ ในเวลาที่มีการชุมนุมสงฆ์ลงพระอุโบสถสวดปาฏิโมกข์กันเพียรทำไปทีละปีปีละวัดทำเช่นนี้จนครบ 9 ปี 9 วัดหลังจากนั้นจึงนำมาสอบทานพลังว่าตรงตามสายวิชาเเละสำเร็จเเล้วหรือไม่ ท่านว่าเมื่อผ่านพิธีปาฏิโมกข์มาถึง 9 ครั้ง 9 พระอุโบสถนั้นผงนี้มีกำลังเเรงกล้ามากมิถดถอยต่างจากเดิมเเต่อย่างไร เเต่ที่มั่นใจได้อย่างหนึ่งก็คือผงนี้ใครก็คัดถอนมิได้ใส่ไปที่ใดของก็ไม่เสื่อมเมื่อสำเร็จครบตามพิธีเเล้วผู้ที่ได้ไปนั้นถือว่าชีวิตเขาเหมือนมีเเก้วมณีมีของวิเศษอยู่ในครอบครอง ชีวิตจะเปลี่ยนกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปนี้ชีวิตเลิกไปดูดวงนอนโลงไปทำบังสุกุลตายหรือเป็นได้เลยเพราะชีวิตเปลี่ยนดวงเปลี่ยนเเล้ว บารมีคุณพระพุทธเจ้าคุณท้าวสหัมบดีมหาพรหมท่านลงมาสงเคราะห์เหยียบเกล้าเหยียบกระหม่อมเราเเล้วสัพพเคราะห์ใดๆแม้มีกำลังมากก็ไม่อาจกล้ำกรายเราได้ ทุกข์เข็ญเคืองขัดหมู่มารสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่อาจทำอันตรายแก่เราได้ปิดประตูทุกข์ได้เลย เชื่อว่าพวกเธอจะดีวันดีคืนทำอะไรก็ไหลรื่นประสบความสำเร็จตามคำอำนวยพรของบรมพรหมพระองค์ท่าน

    - ผงหมดทุกข์ ด้วยพ่ออาจารย์ท่านก็มีความเป็นห่วงเรื่องทุกข์ยากในสรรพชีวิตท่านจึงอธิษฐานจิตช่วยอยู่ทุกวัน เทพยดาทั้งหลายทั้งวิญญาณบรรพบุรุษตลอดจนพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตทุกๆพระองค์ต่างก็ไม่ได้นิ่งนอนใจด้วยไม่อยากเห็นคนเชื้อชาติไทยลำบากตกทุกข์ได้ยาก ความอัตคัดขัดสนนี้ได้เเผ่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้างพ่ออาจารย์ท่านก็ปรารถนาจะเสี่ยงนิมิตรว่าจะทำสิ่งใดด้วยอาถรรพ์และวิชชาดี พื่อจะช่วยเหลือผู้ที่ยังไม่หมดเคราะห์กรรมให้พ้นจากห้วงแห่งทุกข์ จนกระทั่งพ่ออาจารย์ได้มีนิมิตรถึงเสด็จพระใหญ่(หรือที่เราเรียกว่าพระสมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธภูมิ)ท่านได้เมตตาทำให้พ่ออาจารย์ท่านเห็นวิชชาหนึ่งท่านจึงได้นำมาถอดเป็นอักขระยันต์พระยันต์หนึ่ง ซึ่งเสด็จพระใหญ่ได้มีพุทธโองการดำรัสไว้ว่า "วิชานี้ตกต้องถึงผู้ใดกาลแห่งทุกข์ทั้งหลายจะคลี่คลายโดยฉับพลัน" ซึ่งหลังจากพ่ออาจารย์ท่านได้ถอดอักขระยันต์แล้วก็ทำการชักยันต์ในอากาศให้เสด็จพระใหญ่ท่านพิจารณาจนมีวาทะรองรับ ซึ่งจุดนี้พ่ออาจารย์เล่าว่าวิชานี้จะเเตกต่างจากวิชาอื่นๆที่ทำมาเพราะเราไม่มีส่วนในการเสกเสียเลย เมื่อลงทำผงเสร็จเเล้วพระองค์ท่านให้นำผงนี้ไปวางไว้ที่โต๊ะบูชาครูกล่าวขอบารมีเสด็จพระใหญ่ท่านให้มาลงมาทำโดยเฉพาะ..ด้วยเป็นวิชชาของท่านที่ท่านประสงค์จะช่วยคนที่รู้ค่าเเละคู่ควรใครก็มาลงแทนท่านมิได้ เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลบผงไว้ได้จำนวนหนึ่งเเล้วท่านก็เข้าญาณติดตามพิจารณาที่ผงนั้นจนเห็นว่ามีรัศมีใสกระจ่างหลากหลายสีแบบฉัพพรรณรังสีปรากฏขึ้นท่านก็กล่าวลานำออกมา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านไม่ได้พึงใจเพียงเรื่องแค่นี้ด้วยท่านเห็นว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำไว้ดีมากแล้ มากเกินกว่ามนุษย์และครูบาอาจารย์ใดๆจะทำได้ ผงหมดทุกข์หรือผงพระเจ้าห้ามกลียุคนี้ถือเป็นของสำคัญทีเดียวเพราะสร้างด้วยวิชชาของเสด็จพระใหญ่ซึ่งท่านมีเมตตารับไว้ในอนุเคราะห์ทำให้จนเสร็จสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพุทธคุณเป็นเอกสามารถระงับซึ่งทุกข์ภัยโทษเคราะห์ต่างๆได้วิชานี้คนพกได้ดี..ดีอย่างไร..ดีตรงที่ไม่รู้จักความทุกข์เลย เอาผงนี้ติดเนื้อติดตัวไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าไอ้ตัวทุกข์ทั้งหลายนั้นมันหาเราไม่เจอเข้าไม่ถึงตัวเราเลย "ของแบบนี้คนที่ยังเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์อยู่ในห้วงวัฏฏสงสารทำไม่ได้..ต้องคนที่พ้นโลกพ้นสงสารไปแล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ นี่ได้เมตตาเสด็จพระใหญ่ท่านช่วยทำเพราะท่านเปลื้องทุกข์เป็นผู้นิราศทุกข์มิรู้จักความทุกข์ไปนานมากโขเสียเเล้ว" ด้วยความทุกข์นี้คือสิ่งต่างๆทั้งหลายที่มาสัมผัสกายสัมผัสใจเราทำให้เกิดสภาวะบีบคั้นต่างๆ,ทำให้เกิดสภาพต่างๆที่เราทนไม่ได้,เป็นสถานะที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด,กังวล,ไม่สบายใจ,ไม่สบายกายทำให้เราเดือดร้อน เมื่อบุคคลใดอยู่ในห้วงทุกข์แล้วบุคคลนั้นย่อมมืดมนหาความสุขมิได้ ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาทำในส่วนนี้เเล้วก็เป็นอันว่าผงหมดทุกข์หรือพระเจ้าห้ามกลียุคนี้ก็เป็นผงวิเศษที่จะเอาไว้ใช้ดับทุกข์อันเกิดเเต่ห้วงกรรมห้วงวัฏฏสงสารที่บิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป


    - ผงดับเคราะห์พระยาพิเภกค้ำดวง เรียกว่าพระพิเภกค้ำดวงก็ได้,ท้าวเวสสุญาณเขียนดวงก็ได้ เพราะท่านบอกว่าผงนี้ผู้ที่ได้ใช้จะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของเขาใหม่ทั้งหมด เหมือนดั่งต้นไม้ แม้จะเเห้งเหี่ยวไปเเล้วก็จะกลับมามีชีวิตผลิดอกออกใบเหมือนเดิม อาศัยเหตุที่พระยาพิเภกนั้นรับโองการพระอิศวรผู้เป็นเจ้าเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยพระรามจนได้ดี..เห็นมั๊ยว่าก่อนเจอพระยาพิเภกนั้นพระรามเเทบจะไม่มีอะไรเลยพอได้ความรู้และสิ่งของวิเศษคือแว่นเเก้วสุรกานต์ขององค์พระอิศวรที่ซ่อนอยู่ในตัวของพิเภกทัพชัยของพระรามก็กลายเป็นกองทัพที่ไร้พ่ายทันทีประสบพบเจอเเต่ความสำเร็จ,ความเจริญรุ่งเรือง แม้มีปัญหาอุปสรรคใดๆมากมายต่อให้ยากนักหนาจนเลือดตาแทบกระเด็นพอได้คำเเนะนำได้การช่วยเหลือของพระยาพิเภกก็จะผ่านไปได้ด้วยดีทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านเห็นสมควรยิ่งที่จะทำผงเพื่อนำบารมีของพระยาพิเภกหรือท่านท้าวเวสสุญาณนี้มาให้หนุนให้เสริมดวงชะตาราศีแก่ชีวิตของลูกๆที่ศรัทธาที่เจอปัญหา,เจอมรสุม,เจอวิกฤติต่างๆให้หนุนจนได้ดีมีเกียรติเจริญรุ่งเรืองไม่รู้จักตกต่ำ ท่านว่าพระยาพิเภกหนุนพระรามอย่างไรบารมีท้าวเวสสุญาณนี้ก็ให้หนุนให้ช่วยคนที่ใช้ผงแบบนั้นเเบบเดียวกับที่ทำให้พระรามประสบชัยชนะ,ประสบความเจริญรุ่งเรือง ท่านว่าเรื่องหนุนดวงนี้ผงชุดนี้นี้ถือเป็นเรื่องเล็กเลย เพราะว่าไม่เพียงเเต่หนุนเท่านั้นยังค้ำไว้ไม่ให้ตกก่อนที่จะหนุนให้สูงยิ่งขึ้นด้วยแม้ใครมีเคราะห์มีทุกข์..กาลเเห่งทุกข์โทษและพระเคราะห์ทั้งหลายจะหายไปและจะเจอเเต่เรื่องดีๆที่ไม่คาดคิดไม่นึกฝันอยู่เรื่อยๆต่อให้เเห้งเหี้ยวอับเฉาลงไปแล้วก็ฟื้นขึ้นมามีชีวิตชีวาได้ ผงนี้ท่านว่าอย่าคิดว่าทำง่ายเพราะต้องวางอักขระเลขยันต์ที่จะหนุนดวงเสริมส่งชะตาของผู้บูชาจริงๆ โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ใช้บารมีของพระนารายณ์และพระยาพิเภกหนุนส่งกันลงอักขระเลขยันต์ลบถมเพื่อให้ผงนี้เกิดการเกื้อกูลเกื้อหนุนซึ่งกันเเละกันชั้นหนึ่งก่อนตามสายวิชาก่อนที่จะลงเสกต่อไป เพื่อให้บารมีของพ่อท้าวเวสสุญาณสามารถนำไปเกื้อหนุนผู้ครอบครองได้จริง ท่านว่าเหมือนเป็นสัญญาใจที่พระยาพิเภกนั้นจงรักภักดีเกื้อหนุนพระนารายณ์ฉันใดท่านก็จะทำแบบเดียวกันนั้นกับเรา อย่าลืมว่าเมื่อนำผงวิเศษชนิดนี้ติดตัวของเราเเล้วทุกข์โทษเคราะห์ทั้งหลายก็จะค่อยๆบรรเทาลงไปเองท้าวเวสสุญาณท่านมีแว่นเเก้วสุรกานต์ด้วยอานุภาพของเเว่นแก้วนั้นท่านย่อมรู้ย่อมเห็นทุกเรื่อง ทั้งยังเสกอาถรรพ์ด้วยบทสายฟ้าฟาดพระธรณีซึ่งวิชานี้ท่านไม่เคยลงในเครื่องมงคลใดๆแต่ท่านเห็นใจว่าสมัยนี้ใครเค้าก็อยากเจริญอยากได้ดีกันทั้งนั้น ที่จะให้คอยช้ารอท่ารอเวลาอะไรก็เห็นว่าไม่เข้าทีท่านจึงลงวิชานี้เสริมลงไปด้วยจะได้สำเร็จเเบบรวดเร็ว ท่านว่าอิทธิคุณของวิชาสายฟ้าฟาดพระธรณีนี้จะหนุนส่งเสริมกันให้สำเร็จรวดเร็วทะลุทะลวงทุกอย่างท่านจึงลงวิชานี้เอาไว้ ท่านว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้นสายฟ้าเอาไว้ได้จนสายฟ้านั้นตกต้องพระธรณีฉันใดคนใช้ผงนี้ก็เหมือนกันจะไม่มีสิ่งใดมาขวางผู้ใช้ได้เลยจนกว่าจะพบความสำเร็จตามที่ตนปรารถนาฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำหนักหนาว่าสายฟ้านี้เธออย่าลืมนะว่ามันรวดเร็วและว่องไวผ่าลงตรงไหนก็รุนแรงตรงนั้น มันก็หนุนก็ส่งให้ความสำเร็จที่เธอคิดเธอปรารถนากันเป็นไปได้โดยทันทีรวดเร็วและว่องไวเช่นเดียวกัน คุณแห่งผงชุดนี้ท่านว่าถือเป็นของมงคลอย่างยิ่งเพราะตกอยู่กับใครที่ไหนก็ใช้ได้ทั่วทุกตัวคนเป็นของค้ำคูน,ดับเคราะห์,ฟื้นดวง,พลิกชะตาแถมด้วยบารมีท้าวเวสสุญาณเทพบุตรก็จะชักนำพาตัวเราให้ไปถึงจุดหมายได้ฉับพลันทันที แม้จะอธิษฐานบอกกล่าวสิ่งใดให้ท่านช่วยเหลือนอกจากทุกเรื่องจะเป็นไปได้โดยง่ายยังสำเร็จว่องไวและรุนแรงปานประหนึ่งสายฟ้าฟาดพระธรณี ผงนี้ภูติผีเเละสิ่งอัปมงคลทั้งหลายจะกลัวเกรงไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยมีญาณพญายักษ์ท้าวเวสสุญาณคุมอยู่ถ้าได้ใช้บูชาติดตัวยังช่วยให้อารมณ์โปร่งใสสมองจะปลอดโปร่งจะคิดพิเคราะห์พิจารณาสิ่งใดในทางที่ถูกที่ควรก็เป็นไปได้โดยง่ายเเละรวดเร็วด้วยบารมีของท้าวเวสสุญาณซึ่งครอบครองแว่นแก้วสุรกานต์นั้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของลางสังหรณ์ความรู้สึกทั้งหลายอีกด้วยท่านว่าเมื่อใช้ผงนี้ความรู้สึกหรือลางสังหรณ์ของเธอนั้นจะเเม่นขึ้น เวลาคิดหรือตัดสินใจอะไรหากมีสิ่งใดไหลเข้ามาให้เชื่อความรู้สึกแรกเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าผงชุดนี้มันแปลกนะไม่ใช่ค้ำดวงเเค่นั้นอาจเพราะได้บารมีท้าวเวสสุญาณมาด้วยเต็มๆเวลาใช้จึงช่วยเรื่องความจำด้วยจะมีความจำเเม่นขึ้นเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่การศึกษามีนิสัยบุคลิกของนักปราชญ์ คนที่ว่าเกเรใช้ผงนี้ย่อมเปลี่ยนดวงเปลี่ยนอุปนิสัยเขานอกจากค้ำดวงเเล้วยังเอาดีเรื่องพลิกแพลงชีวิตไอ้คนที่ชอบเที่ยวเตร่สำมะเลเทเมาก็จะค่อยๆเปลี่ยนกลับคืนมาเป็นคนชอบทำบุญมีนิสัยเหมือนนักปราชญ์ชอบเเสวงหาความรู้ไม่หลงไปกับพาลทุจริตถูกสิ่งอกุศลต่างๆยั่วยวน

    - ผงมหาสะเดาะ วิชานี้เเต่เดิมเป็นวิชาที่ผู้หวังรวยทางลัดชอบการพนันเสี่ยงโชคนิยมกัน ซึ่งคนที่ได้ดิบได้ดีทางนี้ล้วนมีอยู่มากมายเขาเหล่านั้นนอกจากดวงเเละโชคเเล้วยังมีของดีมีวิชาดีติดตัวมาเเต่โบราณด้วย พ่ออาจารย์บอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัวเเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะพ่ออาจารย์กล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะพระองค์ท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคลถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลยในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนาพระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัวจะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออกให้ไขว่คว้าโชคลาภได้จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหนเพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงินให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมดทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดคลายลงเงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ เมื่อท่านลงผงมหาสะเดาะเเล้วพ่ออาจารย์จึงล้อมมหาสะเดาะด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปานวัดบางโคนม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ดีมากอยู่เเต่เดิมเเล้วในส่วนของพระคาถาไม่ต้องกล่าวอะไรมากเเต่พอนำมาลงทำผงกลับต้องทำให้มากขึ้นไปอีกคืออัญเชิญบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอันอภิเษกพระสัมโพธิญาณทั้งหลาย ซึ่งพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีจำนวนมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่เอ่ยอ้างมหาบารมีในระดับโพธิญาณซึ่งสูงกว่าระดับวิปัสนาญาณของพระอรหันต์ทั่วไปมาช่วยเป็นตัวเบิกทางลดกระเเสเวรกรรมให้ผู้บูชาประสบโชคดี เมื่อเหล่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายช่วยกันสงเคราะห์ผสานกับพระเวทย์ในสายบรมพรหมสหัมบดีจึงรับเเละหนุนกันเป็นทอดๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใดท่านลงจารล้อมวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์กล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเองเเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา ะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิด ให้ตั้งสัจจะกับผงชุดนี้ไว้ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุด เเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป

    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย

    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี

    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระซุ้มกอให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระซุ้มกอที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง

    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระซุ้มกอนี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย

    ผงทั้งหมดนี้เป็นผงสำเร็จไม่มีสิ่งอื่นใดเจือปน พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้นใครมีก็มีชีวิตในวิถีที่เหนือกว่าผู้อื่นดุจเหยียบย่ำฟ้าดินไม่ตกยากอับจนเป็นของที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ท่านว่าเราไม่ได้กล่าววาจาท้าทายฟ้าดินแต่ของบางอย่างที่มีค่าถึงขนาดที่สมบัติเทวดา,แก้วมณีโชติหรือสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิยังต่ำชั้นจนไม่กล้าเปรียบของเช่นนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพื่อสร้างพระให้ตรงสายวิชาเฉพาะผงของฤาษีทั้งสามชนิดนี้ไม่รวมเศรษฐีจับช้างและผงสำคัญต่างๆให้เสนอมาช้อนละแสนหรือมากเท่าให้ท่านก็ไม่ให้ใครหรือแม้แต่จะนำออกมา เมื่อท่านสร้างพระซุ้มกอนั้นท่านได้ใช้เคล็ดสำเร็จทันใจนำผงวิเศษล้วนๆมาเข้ากับตัวประสานผสมนวดให้เข้ากันก่อนนำมากดพิมพ์

    ยอดเหล็กไหลทิพย์แก้วมณีโชติ
    ในอดีตนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้นำแร่เหล็กไหลกลางทุ่งหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วสร้างเครื่องมงคลในบางรุ่น แร่นี้เป็นในส่วนของเหล็กไหลที่หลวงปู่บุญท่านเคยชี้จุดให้ศิษย์ฆราวาสไปขุดกลางทุ่งนครชัยศรี ครูฆราวาสของท่านนั้นเล่าว่า
    ตอนขุดนี้มืดฟ้ามัวดินทีเดียวเป็นแร่ที่มีจิตวิญญาณรักษาอัญเชิญขึ้นมาได้ไม่มากหลวงปู่บุญท่านได้นำมาอธิษฐานจิตในส่วนของพุทธคุณ มีบดผสมพระบางส่วนและที่เหลือท่านก็มอบให้ศิษย์ไว้สืบต่อมาจนตกทอดถึงพ่ออาจารย์ ท่านว่าแร่นี้มีพุทธคุณแรงมากทีเทพยดาเข้ารักษาทุกชิ้นเมื่อนำมาฝังทำพระแล้วเทพยดานั้นก็จะเข้าอารักขาพระพิมพ์ไปด้วย เมื่อจะขอจะอธิษฐานอะไรกับองค์พระให้ทำจิตให้นิ่งสงบเพ่งจิตไปที่เม็ดแร่หรือจะใช้ฝึกสมาธิก็ได้จิตจะปลอดโปร่งแม้อธิษฐานสิ่งใดก็สำเร็จโดยเทวานุภาพ ### แต่เหนือสิ่งอื่นใดเหล็กไหลชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้คัดเลือกองค์ครูเก็บไว้ นั่นคือองค์ที่มีสัณฐานกลมดุจแก้วมณีโชติท่านได้เพียรเชิญครูลงเสกองค์เหล็กชุดนี้ให้มีคุณดุจดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นความสำคัญของวัตถุธาตุชนิดนี้ซึ่งเป็นของสำคัญอันจะกำเนิดมาแต่พระเจ้าจักรพรรดิเป็นดวงแก้วมณีที่มีอานุภาพมากสามารถอธิษฐานปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้เรียกว่าแก้วหนึ่งดวงนั้นล้วนเป็นของประเสิรฐยิ่งเพราะสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งไม่มีอับจน เช่นนั้น "ยอดเหล็กไหลทิพย์แก้วมณีโชติ" จึงเป็นองค์เหล็กไหลชั้นครูชุดพิเศษของพ่ออาจารย์ที่ท่านคัดพิเศษเฉพาะองค์ที่ได้ลักษณะมาทำวิชาจากเดิมที่แรงครูสูงและมีฤทธิ์รุนแรงอยู่แล้วให้แรงยิ่งขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์เหล็กนั้นจะมีทิพย์กายทั้งหลายเค้าลงมารักษาดุจมาชื่นชมบารมีดวงแก้วมากล้นพ้นประมาณเสมอกันกับดวงแก้วจักรพรรดิ์อันประดิษฐานที่พระจุฬามณีในดาวดึงส์นั่นทีเดียว พูดได้ว่าองค์เหล็กดวงแก้วอยู่ที่ไหนเทพพรหมทั้งหลายก็ลงมาประชุมที่นั่นคอยอารักขาองค์เหล็กสำคัญนี้เทพพรหมเค้าลงบ้านไหนบ้านนั้นก็เจริญรุ่งเรือง ให้บูชาแทนแก้วสารพัดนึกหรือแก้วบรมจักรพรรดิ์ด้วยความคิดความปรารถนาคนมันมีร้อยแปดพันประการแต่ละวันนั้นหาจะซ้ำกันได้ซักวันหนึ่งไม่มี ดังนั้นท่านจึงอธิษฐานจิตให้ "ยอดเหล็กไหลทิพย์แก้วมณีโชติ" แก่ผู้ที่มีบารมีต้องกันท่านว่าหากไร้วาสนาไม่มีบารมีเกิดมาเช่นใดก็ไม่มีวันได้พบเจอหรือพบคุณสมบัติในดวงธาตุองค์เหล็กนี้ได้เลย ท่านว่าของใครของมันแม้เกิดชาติภพใหม่ก็ย่อมมีเหตุให้ตามเราไปเป็นพันธะสัญญาเกื้อกูลกันทุกชาติท่านว่านี่จึงไม่ใช่ของเล่น

    ด้วยองค์เหล็กชุดนี้ท่านทำมาให้ใช้แทนแก้ววิเศษชั้นสูงจึงควรบูชาในที่สูงแต่พ่ออาจารย์ท่านอนุโลมด้วยจะทำให้ใช้ติดกายถ้าต้องใส่พานยกย่องบูชาจะอาราธนาทีย่อมลำบากเช่นนั้นองค์เหล็กชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาหล่อเลี้ยงในน้ำมันมหาพฤกษาวิญญาณ อันเป็นน้ำมันที่พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจัดสร้างด้วยเหตุผลใหญ่ๆสี่ประการ ท่านว่าน้ำมันนี้ไม่ใช่แต่เพียงน้ำมันเสน่ห์เท่านั้นก่อนที่จะเป็นเสน่ห์นั้นยังใช้ด้านอื่นได้อีกด้วยซึ่งท่านว่าน้ำมันของท่านนั้นใช้ได้ในด้านต่างๆดังนี้
    - เป็นน้ำมันเร่งรวย เร่งโชคลาภวาสนา ท่านว่าตรงนี้ถ้าเอาขวดน้ำมันมาเจิมหน้าผากเจิมฝ่ามือตัวเองจะเปิดดวงรับทรัพย์แบบไม่คาดคิดมาก่อน..ที่ไม่เคยมีก็จะมีไม่เคยได้ก็จะได้
    - เป็นน้ำมันแก้เสนียด ท่านว่าปกติให้ดีดใส่น้ำซักหยด(แต่หนนี้เพียงอาราธนาองค์พระแช่น้ำ)นำน้ำนั้นมาอาบชำระร่างกาย เสนียดประการใดที่เกิดจากอาถรรพ์ในทุกอวัยวะของร่างกายจะถูกขับล้างไป
    - เป็นน้ำมันพลิกดวง ท่านว่าทำไว้ให้แก้ดวง เวลาดวงใครชงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกใช้ขวดน้ำมันนี้เจิมหน้าตาได้จะไม่ทุกข์หมองหรือเจอพระเคราะห์เล่นงานแต่อย่างใด ท่านลงสูตรมหานารายณ์พลิกแผ่นดินบทใหญ่เต็มสูตรซึ่งท่านไม่เคยลงที่ใดกำกับไว้พร้อมทั้งผสมน้ำมันกะลาอาถรรพ์ด้วยทั้งกะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา
    - เป็นน้ำมันเสน่ห์ ท่านว่าสารพัดจะใช้พกไว้เป็นเมตตามหานิยมใหญ่ เจิมปากวนรอบริมฝีปากนี่ท่านว่าพูดอะไรเขาก็เชื่อเราหมดดีกว่าลงมหานิยมหรือสาลิกาลิ้นทองเสียร้อยที่ ถ้ท่านว่าน้ำมันของท่านนี้ไม่ใช่น้ำมันพรายไม่มีอันตรายอันใดแอบแฝงทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ด้วยแรงครูทั้งสิ้น

    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าการนำเหล็กทิพย์มาเลี้ยงน้ำมันนี้เป็นกฤติยาคมแฝดว่าเหล็กอิ่มเราก็อิ่ม..ต่อไปจะได้เสวยสุขอิ่มทิพย์ไม่มีอด ทั้งยังไม่ต้องเสียเวลามาคอยบูชาอะไรที่จุกจิกหลายๆอย่าง เอาว่าน้ำมันนี้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณองค์เหล็กแล้วสบายใจได้ทุกอย่าง ที่อด ที่ไม่มี ที่ลำบากจะไม่พบเห็นอีกเลย

    ไม่เพียงเท่านั้นในขวดน้ำมันที่หล่อเลี้ยงองค์เหล็กพ่ออาจารย์ท่านยังได้ทำวิชาลงตะกรุดผูกไว้ด้วยเป็นตะกรุดดอกครูชุดสำคัญของท่านที่ต้องลงบีบอักขระผูกไว้
    - ตะกรุดกลับชีวิต ท่านว่าท่านนำนะสำคัญต่างๆ 9 นะ ท่านเรียกว่ามหากลับของพระเถระสำคัญต่างๆทั้ง 9 องค์มาลงไว้ในตะกรุดดอกเดียวได้แก่ สังฆราชสุก,ขรัวโต,หลวงพ่อเงิน,หลวงพ่อกลั่น,หลวงพ่อเดิม,หลวงปู่ศุข,หลวงพ่อแก้ว,หลวงพ่อปาน,หลวงพ่อทบ ท่านว่านะมหากลับทั้ง 9 วิชานี้ลำพังแต่ละวิชาก็ได้ชื่อว่าเอกอุแล้ว เป็นตะกรุดที่ทำยากมากเพราะกว่าจะว่าคาถาลงจารให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้และเรียกสูตรตรึงวิชาเอาไว้ กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุดกลับชีวิตนั้นท่านว่าดอกนึงไม่ง่ายเลยเห็นดอกเล็กๆแต่ทำยากน่าดู ตะกรุดนี้ท่านว่าตรงตามชื่อเมื่อใช้เพียงแค่นึกถึงบูรพาจารย์ทั้งหลายท่านว่าง่ายๆแค่นั้นรับรองว่าชีวิตเปลี่ยน ตะกรุดนี้ท่านว่าพกไว้ได้เดือนนึงก็ดีเดือนนึง..พกไว้ได้ปีนึงก็ดีปีนึง..พกไว้ได้ตลอดชีวิตก็ดีขึ้นตลอดไปมีแต่ดีกับดีห้ามหายอย่างเดียวเท่านั้น

    คาถาบูชา
    นะมามีมามะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา มะณีวา ธะนังวา พีชังวา อัตถังวา ปัตถังวา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมา นะมามิหัง


    *** รายการนี้เป็นเครื่องมงคลชุดพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านว่าผงแต่ละอย่างนั้นทำยากทั้งองค์เหล็กก็มีกายสิทธิ์ที่ใช้สื่อจิตของเราได้ทันทีที่นึกถึงกัน เพราะมีคุณอนันต์เช่นนั้นผู้ที่จะรับก็ต้องมีชะตาสอดรับกับมหาธาตุอันมีแรงครูสูงเชนนกัน..นั่นคือมีวาสนาที่องค์เหล็กจะได้ตอบสนองในสิ่งที่ต้องประสงค์และไม่พึงประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านว่า " พระซุ้มกอชุดพิเศษนี้อยู่เหนือการควบคุมแห่งกรรมลิขิตนะข้างบนเขาบอกมาแบบนี้ฉันพูดได้เท่านี้ " ผู้ที่จะเป็นเจ้าของได้จำเป็นต้องเป็นผู้ถูกเลือกโดยครูเบื้องบนเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสทบทุนการึกษษเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ซุ้มกอก่อเหตุ,สนอง,ต้องประสงค์(ยอดเหล็กทิพย์แก้วมณีเลี้ยงน้ำมัน) บูชา 2,500 บาท



    132405730-393876685159064-6340963403770353590-n.jpg 132250214-209828444062369-3923913486205933854-n.jpg
    132374275-2671250719794684-462004672744176085-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีทักมาเล่าว่าพระซุ้มกอชุดนี้น่าจะดีเพราะฝันเห็นล่วงหน้ามาเป็นอาทิตย์แล้วเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์ อันนี้ก็เป็นไปตามจิตสัมผัสของแต่ละคนนะครับเพราะชุดนี้ผมยังไม่ได้ส่งเลยแต่สังเกตุได้ว่าเครื่องมงคลชุดไหนแรงมากๆมักจะมีคนฝันเห็นกันล่วงหน้าอยู่บ่อยๆ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    สาเหตุหลัก 4 ประการที่ทำให้ป่วยไข้ ชราภาพก่อนวัยอันควร

    1. การที่ร่างกายสูญเสียน้ำ (DEHYDRATION)
      ร่างกายเราปกติต้องการน้ำบริสุทธิ์ประมาณ 2-2.5 ลิตร/วัน เมื่อไรที่รู้สึกกระหายน้ำ นั่นคือสัญญาณเตือนถึงอาการเริ่มขาดน้ำในร่างกาย หากร่างกายขาดน้ำอวัยวะต่าง ๆ และเนื้อเยื่อจะได้รับผลกระทบ รวมถึงโรคร้ายก็จะมาเยือน เช่น โรคภูมิแพ้ในรูปต่าง ๆ โรคหืด โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ท้องผูก ไมเกรน ปวดหัว โรคปวดกระดูก อาการเริ่มแรกของหัวใจ และอื่น ๆ (* น้ำบริสุทธิ์ไม่ได้หมายความถึงน้ำที่อยู่ในรูปของ ชา กาแฟ น้ำโซดา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล)
    2. อนุมูลอิสระ (FREE RADICALS)
      อนุมูลอิสระ หมายถึงออกซิเจนอะตอมที่ไม่มีความเสถียร (UNSTABLE) เพราะอิเล็กตรอนขาดหายไป ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะทำให้ตัวมันเปรียบเสมือน โจรที่เที่ยวไปทำการแย่งอิเล็กตรอนจากอะตอมของออกซิเจนตัวอื่นที่มีสภาพปกติ และการแย่งชิงอิเล็กตรอนนี้จะเกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ไป

      สาเหตุการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายมาจากหลายสาเหตุ เช่น จากอาหารที่เรารับประทาน มลภาวะ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล เหล่านี้เป็นต้น แม้แต่การออกกำลังกาย ที่หักโหมก็เป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระได้เช่นกัน ซึ่งโรคที่ตามมา ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคชราภาพก่อนวัยอันควร โรคมะเร็งเป็นต้น อนุมูลอิสระเปรียบเสมือนกับสนิมที่จะกัดกร่อนร่างกายเรา ให้ทรุดโทรมลงทุกวัน ดังนั้นควรมีมาตรการกำจัดภัยอันตรายเหล่านี้เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
    3. สภาพความเป็นกรดของร่างกาย (ACIDOSIS)
      ACIDOSIS เกิดขึ้นได้จากความเครียด , การดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การออกกำลังกายที่มากหรือน้อยเกินไป และการบริโภคอาหารที่มีภาวะเป็นกรด เช่น เนื้อ ไก่ น้ำตาล อาหารประเภทนม เนย กาแฟ น้ำตาลซึ่งรวมไปถึงน้ำตาลเทียม สุรา และอื่น ๆ อาหารทุกชนิดที่เรารับประทานทำให้เกิดของเสียภายในร่างกาย เพราะอาหาร ที่เรารับประทานจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเพื่อเกิดการสันดาป และทำให้เกิดพลังงาน ส่วนของเสียจากผลการสันดาปก็จะถูกขับออกจากร่างกายโดยทางปัสสาวะ และ ทางเหงื่อซึ่งมีค่าเป็นกรด แต่ร่างกายเราไม่สามารถขับของเสียออกได้หมด 100% เพราะยังมีองค์ประกอบอย่างอื่นช่วยในการผลิตของเสียเพิ่มเติม เช่น วิถีการดำเนินชีวิตในการบริโภคอาหาร มลภาวะ รวมไปถึงความเครียด ของเสียเหล่านี้จะสะสมอยู่ในร่างกายในรูปของโคเลสเตอรอล นิ่วในไต ไขมันสะสม และอื่น ๆ ซึ่งของเสียเหล่านี้ถ้าสะสมในร่างกายเราเรียกว่า “ACIDOSIS” ซึ่งผลของมัน ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกายเสื่อมลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดการเจ็บป่วย และ เป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคผิวหนัง โรคเก๊าท์ โรคปวดข้อ โรคกระเพาะ โรคปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็งเป็นต้น ส่วนอาหารประเภทผัก และผลไม้อยู่ในประเภทที่มีภาวะเป็นด่าง ดังนั้นการบริโภคอาหารที่ถูกวิธีควรให้มีความสมดุลระหว่างอาหาร ทั้ง 2 ประเภทเพื่อให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่างอ่อนๆ ซึ่งสามารถวัดค่า ความเป็นกรด/ด่างของเลือดที่ควรจะมีค่า 7.35-7.45
    4. โรคที่เกี่ยวกับลำไส้ (Intestinal disorders)
      เนื่องจากอาหารที่เราบริโภคในปัจจุบันนี้มีสารปนเปื้อนที่อันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง สารกันเสีย กันบูดชนิดต่าง ๆ สารเคมีในรูป รส สี กลิ่น เหล่านี้เป็นต้น จึงทำให้ร่างกายเราในปัจจุบันนี้มีความเสี่ยงต่อโรคร้าย กว่าเมื่อก่อนมาก ซึ่งสารดังกล่าวในอาหารยังไม่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ปกติเมื่อเราบริโภคอาหาร อาหารจะอยู่ในกระเพาะอาหารประมาณ 1-3 ช.ม.เพื่อผ่านกระบวนการย่อย และถ้าอาหารที่มีสารปนเปื้อนเหล่านี้ อยู่ในอาหารก็จะทำให้สารแปลกปลอมเหล่านี้ซึมเข้าไปในกระแสเลือดซึ่งเป็น การเกิดโรคหลายชนิดรวมถึงโรคร้ายต่างๆเช่นโรคมะเร็ง

      ดร.เบอร์นาด เจ็นสัน (Dr.Bernard Jensen, Ph.D.) กล่าวไว้ว่า “เนื้อเยื่อของร่างกาย ถูกเลี้ยงด้วยกระแสเลือดซึ่งได้รับมาจากลำไส้ ถ้าลำไส้มีสิ่งสกปรกแฝงอยู่กระแสเลือด ก็จะสกปรกไปด้วย และนั้นก็รวมไปถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายด้วย ดังนั้นต้องดูแล รักษาลำไส้ให้สะอาดก่อนที่มีการรักษาโรคที่จะตามมา” โรคเกือบทุกชนิดมีสาเหตุมาจาก อาหารที่ผ่านลำไส้เพราะการหมักหมมของสารอาหารที่ถูกย่อยในกระเพาะและผ่านไปตาม ลำไส้เพื่ออาหารที่ถูกย่อยในรูปของโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และเกลือแร่จะถูกส่ง เข้าไปในกระแสเลือด ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป รับการตรวจลำไส้ (Colonoscopy) ทุกปี อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นพ้องกันว่า ปัญหาทั้งหมดทั้งปวงมาจากสาเหตุของการที่ร่างการสูญเสียน้ำ (Dehydration)

     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์รอดอภินิหาริย์ (พระปัจเจกทรงน้ำเต้า)

    " เหรียญโปรดสัตว์น่ะ ..ก็เอาไว้ใช้ยามที่ชีวิตหาทางรอดไม่เจอ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนนั่นแหละ ใครที่รู้ตัวว่า..ทำอะไรแล้วไปไม่รอด เอาเหรียญรอดอภินิหาริย์ติดตัวไว้จะรอดจริงๆสมชื่อ อย่าห่างจากคอนะ "
    ด้วยหวังอานิสงค์เฉพาะทางเพื่อสงเคราะห์สัตว์ที่เดือดร้อน ประสบทุกข์เข็ญ อดอยาก มีความเป็นอยู่ที่ยากแค้นผิดจากครรลองที่ควรจะเป็นแม้กุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ก็หามีอำนาจที่จะหยุดรั้งบาปกรรมที่ตามติดได้ ด้วยว่าพระพุทธานุภาพแห่งเหรียญโปรดสัตว์นี้จะยังให้สัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์ร้อนอันเกิดขึ้นแล้วในประการต่างๆได้รอดพ้นจากโทษทรมาน พ่ออาจารย์ท่านจึงทำเหรียญโปรดสัตว์ที่มีอานุภาพเฉพาะทางเพื่อใช้ปลดปล่อยเคราะห์กรรม..บรรเทาทุกข์โทษภัย.. แลชำระกฏแห่งกรรมขึ้นมา ...จากการณ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้พิจารณาเพื่อขอนิมิตจากครูบาอาจารย์ด้วยว่าจะกระทำรูปเหรียญโปรดสัตว์นั้นเป็นพิมพ์พระพุทธปฏิมาเช่นใดจึงมีกฤติยาคมแฝดใช้ปลดพันธนาการแรงกรรมหนักๆแบบรุนแรงมากๆได้โดยเฉพาะและจะมีอำนาจสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ให้เหมาะสมแก่กาลและยุคสมัย ซึ่งก็ได้รับนิมิตให้ทำเหรียญ "พระปัจเจกทรงน้ำเต้า"

    เพื่อจะให้เหรียญโปรดสัตว์ใช้โปรดชีวิตได้จริงทั้งยังมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณเกินกว่าเหรียญใดๆพ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณาและท่านก็รู้ว่าว่างานนี้ยากและตึงมือเสียมากเพราะเป็นพระใช้กับกรรมเฉพาะทางของแต่ละบุคคลซึ่งแต่ละคนก็มีเหตุแห่งเคราะห์ภัยต่างกันไป ท่านจึงตั้งใจจะขอบารมีครูอาจารย์เข้าช่วยเพื่อสร้างรูปพระปัจเจกนี้ให้เป็นสิ่งสักการะเฉพาะทางทั้งใช้โปรดสัตว์ได้จริงพร้อมกันไปกับพุทธคุณที่จะรับ,ผลัก,ต้าน,ดันทุกข์โศกเคราะห์ภัยได้ทุกรูปแบบ ..เพื่อให้รอดสิ่งอันไม่พึงประสงค์ดุจปาฏิหาริย์ สำหรับเหรียญโปรดสัตว์นั้นท่านว่าจะใช้วิชาธรรมดาย่อมไม่สามารถทำได้เพราะจุดประสงค์การนำไปใช้นั้นมันเหนือมันพ้นความสามารถของมนุษย์แม้จะเป็นบูรพาจารย์ในอดีตก็ตาม เช่นนั้นจึงจำจะต้องใช้วิชาที่สำเร็จด้วยพระปัจเจกโพธิเจ้า พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งยวดเพื่อลงถมชนวนโลหะและลบถมผงอาถรรพ์สำคัญขึ้นมาตามวิชาต้องห้ามที่สำเร็จด้วยพุทธคุณอันทำได้ยากทั้งหมดนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์นั้นท่านพิถีพิถันตั้งแต่ทำมวลสารเฉพาะเจาะจงใช้พุทธคุณผสานอาถรรพ์วิชามหาลาภมาผลักดัน,เกื้อหนุน,เปลี่ยนชีวิตคนใช้ดุจตาเห็น อันเป็นวิชาเฉพาะทางเท่านั้นเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ให้สัตว์เคลื่อนเลื่อนหนีออกจากทุกข์ ถึงซึ่งสุขสมควรแต่อัตภาพที่ควรจะเป็นพร้อมทั้งเจริญรุ่งเรืองไม่หยุดยิ่งๆขึ้นไป ท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อนว่าจะทำพระให้เขารอดพ้นจากทุกข์ภัยเท่านั้นมันคงไม่พอ นอกจากจะรอดแล้วยังต้องรวยไปพร้อมกันทั้งต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วย ไม่เช่นนั้นพระก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรม..เช่นนั้นเหรียญจึงมีคุณให้ผู้บูชารอดทุกข์อย่างอภินิหาริย์สมดั่งชื่อมีบารมีมากใช้เปิดโลก,เปิดไตรภูมิ,เปิดทาง,เบิกฟ้าเบิกดิน,เปิดขุมทรัพย์เบิกทรัพย์สินให้ถาวรโดยแท้จริง

    รอดอภินิหาริย์ ...ด้วยพ่ออาจารย์นั้นปรารถนาที่จะสร้างเครื่องมงคลอันมีกฤติยาคมช่วยคลี่คลายปัญหาชีวิตให้รอดจากภัยพิบัติ ..ให้รอดจากชีวิตอันไม่พึงประสงค์ ..ให้รอดจากความไปไม่รอดไปไม่ถึงทั้งหลายนั้น แต่ของบางอย่างถึงได้อภิญญาสมาบัติก็จริงแม้จะทำไว้ให้เป็นสาธารณะก็ใช่ว่าจะทำได้แต่ถ้าจะทำให้ใช้ได้จริงตามความปรารถนาของเรานั้นมันย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง *** ด้วยเหรียญรอดอภินิหาริย์นั้นจะไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและกฎของกรรม เครื่องมงคลแบบนี้ใช่ว่านึกจะทำก็ทำได้เพราะไม่มีตำราที่ไหนไม่มีใครสอนไม่มีใครกำหนดวิชาที่จะทำพระให้คนใช้รอดทุกข์จริงๆได้นอกจากให้พระท่านมาสั่งเอง..ทำเองซึ่งท่านเมตตาตรงนี้และทำให้เอง ดังนั้นปฐมเหตุของพระพิมพ์สำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพระเจ้าโปรดสัตว์รอดอภินิหาริย์เพื่อให้คนมีชีวิตที่รอดได้อย่างปาฏิหาริย์จึงเกิดขึ้น เพื่อให้รอดพบทางออกของชีวิตได้ตลอดเวลา ให้ทันยุคทันสมัยปรับเข้ากับสถานการณ์เลวร้ายของแต่ละคนได้อย่างพอดิบพอดี พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้องค์พระในนิพพานท่านคุมพิธีกันเองจะใช้ยันต์อะไรหล่อจากอะไรจะต้องลงอะไรเราไม่ต้องคิดท่านกำหนดของท่านเองลงมาทีละอย่างๆ เพื่อจะทำเหรียญที่ใช้โปรดสัตว์คลายทุกข์บรรเทาความเดือดร้อนได้จริงให้คนที่เขาแขวนคอไว้ต้องรอดพ้นทุกวิกฤติจริงๆย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แม้คนที่ชะตาขาดชีวิตเจอวิกฤติต้องการพลิกกลับชะตาตนให้กลับร้ายกลายดีทั้งคนที่รู้ตัวว่าทำอะไรแล้วไปไม่รอดท่านว่านั่นแหละมาเอาไปใช้เสียจะได้รอดพ้นภัยพิบัติในชีวิต ต่อไปเหรียญโปรดสัตว์นี้จะช่วยเธอเอาไว้อีกมาก..หลายเรื่อง คนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ให้พึ่งพระโปรดสัตว์นี่แหละ ในยามที่ชีวิตคับขันหาทางออกไม่เจอจะต้องรอดเพราะครูท่านช่วยกันทำไว้ให้หมดแล้วไม่มีวันเสื่อม

    วิชาน้ำเต้า(พระปัจเจกทรงน้ำเต้า)
    เหรียญโปรดสัตว์นั้นเบื้องบนทำให้อย่างเต็มที่จะเผลอไปปรามาสไม่ได้เลยทั้งองค์พระท่านยังกำหนดพิมพ์ให้ทำรูปพระปัจเจกทรงน้ำเต้าไว้เป็นพิเศษอีกด้วย

    ...แต่เดิมนั้นวิชาทำน้ำเต้าได้รับความนิยมตกทอดกันมายาวนาน หากจะหาต้นสายหรือใครที่ทำได้ดังและมีชื่อเสียงที่สุดนั่นย่อมต้องเป็นพระสังวราชุ่มวัดพลับที่ทำน้ำเต้ากันไฟขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย โดยท่านได้วิชานี้มาขณะออกเดินธุดงค์และได้พบศาลาพักร้อนกลางป่าหลังหนึ่งถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมดแต่ตัวศาลากับไม่ได้รับความเสียหายเป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อท่านสำรวจจึงพบว่าบริเวณอกไก่มีน้ำเต้าแขวนไว้ลูกหนึ่งพอเทออกดูก็พบคาถากันไฟบทหนึ่งบรรจุอยู่ภายใน.....เมื่อประจักษ์ในอภินิหารดังกล่าวท่านจึงได้สร้างน้ำเต้าขนาดเล็กบรรจุคาถาแจกจ่ายแก่ศิษย์ยานุศิษย์จนมีชื่อเสียงถึงทุกวันนี้ ดังนั้นวิชาทำน้ำเต้าจึงนิยมกันสืบมา แต่ทว่าก็มีหลายอาจารย์ได้สร้างขึ้นให้น้ำเต้านั้นมีอานุภาพแตกต่างกันออกไปไม่ใช่ดีทางด้านกันไฟแบบเดียวมีทั้งใช้กันไฟกันปืนแคล้วคลาดหรือทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองตามความถนัดของผู้สร้างนั้นๆ

    น้ำเต้าหรือ “หูหลู” ในภาษาจีน มีความเชื่อถือต่อเนื่องกันมาโดยนับถือเป็นหนึ่งในของวิเศษของเซียน ซึ่งภายหลังคณาจารย์จีนนิยมเอามาทำเป็นเครื่องรางมงคลและแขวนไว้ตามบ้านเรือนเพื่อขับไล่สิ่งชัวร้ายไล่สิ่งอัปมงคล คนจีนที่นับถือลัทธิเต๋าเชื่อว่าน้ำเต้าเป็นของวิเศษของเซียนที่มีศักดิ์ใหญ่หลายองค์ไม่ว่าจะเป็นทิก้วยลี้หนึ่งในแปดเซียนหรือไท่ซ่างเหล่ากุงผู้ปรุงยาในสรวงสวรรค์ดังนี้ ความวิเศษของน้ำเต้าเซียนนั้นนอกจากจะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์มงคลแล้ ภายในน้ำเต้าเซียนยังเชื่อว่าบรรจุน้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะไว้ ดังนั้นการแขวนน้ำเต้าจึงทำไปเพื่อเป็นการเก็บกักเคราะห์ภัยร้ายไว้ภายในไม่ให้มาเยือนสถานที่หรือผู้พกพา ทั้งยังใช้น้ำเต้าวิเศษนั้นดูดหรือกักขังมารปีศาจไว้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการแขวนน้ำเต้าไว้จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงไร้โรคภัยอีกด้วย ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคลความมั่งคั่งร่ำรวยเพราะมีรูปลักษณะคล้ายเลขแปดอันหมายถึงความร่ำรวยที่ไม่สิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังงานที่ไม่สิ้นสุดหรือการมาถึงของวาสนาแบบอินฟินิตี้จึงถือว่าเป็นสิริมงคลเพราะจะได้ใช้แก้เคล็ดคนที่วาสนายังมาไม่ถึงเหล่านั้น ทั้งยังจะได้ทำเครื่องรางเกี่ยวทรัพย์บันดาลโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายในรูปน้ำเต้านี้ ด้วยน้ำเต้าของท่านนั้นจะคอยดูดซับพลังงานที่ดี..ดูดทรัพย์สินเงินทองนำพาให้เกิดโชคลาภแก่ผู้บูชาทำให้มีผลด้านโชคลาภอย่างมาก ทั้งยังจะคอยเก็บกักความชั่วร้ายเอาไว้ไม่ให้เข้ามาเยือนในชีวิตได้ เช่นนั้นท่านจึงได้สร้างพระปัจเจกทรงน้ำเต้าขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ...นอกจากรอดทุกข์ได้อย่างอภินิหาริย์ยังต้องใช้ตั้งเนื้อตั้งตัวได้

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวย้ำว่าวิชาน้ำเต้านั้นถ้าทำให้ละเอียดและมีอิทธิคุณสูงสุดแล้วจะมีอานุภาพสูงมากกว่าพวกเบี้ยแก้นับหมื่นนับแสนเท่า เพราะน้ำเต้าทิพย์นั้นจะเป็นของวิเศษที่มีหน้าที่ในตัวเองนั่นคือการใช้เขาเพื่อดลบันดาลความสุขให้แก่มนุษย์ โดยมหาศาสตร์ของวิชาทำน้ำเต้านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าภายในจะต้องมีความสุขห้าประการของมนุษย์อุปมาดุจค้างคาวห้าตัวเช่นนั้น ทั้งยังมีอานุภาพเฉพาะทางเป็นพลังซึ่งใช้สลายและป้องกันสิ่งไม่ดีตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรมให้กับผู้พกพาด้วย แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นก็คือใช้กักเก็บเงินทองดั่งน้ำเต้าทิพย์นี้ต้องมีกำลังของธาตุทอง ดังนั้นเมื่อสร้างพ่ออาจารย์ท่านจึงต้องรีดทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นฉนวนลงจารยันต์โภคทรัพย์ในเบื้องต้นหล่อหลอมลงไปด้วยเพื่อเอากำลังของธาตุทองที่จะไปช่วยสลายถ่ายเทพลังร้าย ช่วยขับไล่สลายโรคภัยไข้เจ็บและความมืดมนชั่วร้ายให้พ้นไปจากชีวิตผู้พกพา ทั้งอานุภาพธาตุทองที่เสริมกับยันต์โภคทรัพย์จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ถือเปี่ยมด้วยโชคลาภวาสนา และบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง ยิ่งมีพลังความชั่วร้ายหรือโรคภัยมากเท่าไหร่ ยิ่งดวงซวยหรือตกต่ำมากเท่าไหร่ น้ำเต้านั้นก็จะดูดและแปรเปลี่ยนพลังงานนั้นกลับมาฟื้นฟูตัวเราได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัวมากเท่านั้น จะเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีเป็นทรัพย์สินสิริมงคลเช่นนั้น เพื่อเปลี่ยนถ่ายพลังงานให้มีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาหาตลอดเวลา ทั้งเสริมดวงแก้อาถรรพ์เพิ่มความเป็นสิริมงคลปราบสิ่งชั่วร้ายด้วยคติที่ว่าน้ำเต้าเป็นผลไม้ที่อยู่ในดินเมื่อเอาเมล็ดฝังดินแล้วโผล่จากดินขึ้นมาอยู่ด้านบนเพราะน้ำเต้าเป็นธาตุทองพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่าดินที่ต่ำที่สุดกลับให้กำเนิดทองที่อยู่สูงที่สุดได้(ดินให้กำเนิดทอง)ดังนั้นเครื่องรางน้ำเต้านี้ท่านจึงตั้งใจทำเพื่อแก้วาสนาคนที่อยู่ต่ำที่สุดดุจดั่งเม็ดน้ำเต้าที่โดนฝังดินไว้นั่นเอง

    ด้วยศาสตร์การสร้างน้ำเต้าที่ให้คุณด้านต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำน้ำเต้าที่เป็นเอกลักษณ์สองมหาศาสตร์ควบคู่กัน หนึ่งก็คือใช้พระยันต์กันไฟ,กันฟ้า,กันเคราะห์,กันกระทำย่ำยีมาหลอมหล่อกับชนวนทองคำหนักหนึ่งบาทที่ลงยันต์โภคทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นเทออกมาเป็นองค์น้ำเต้าแล้วจึงเสกตามวิชาลงน้ำเต้าของท่าน เมื่อสำเร็จดีแล้วท่านจึงเชิญโพธิสัตว์และเซียนฝ่ายมหายานตลอดจนลัทธิเต๋ามาช่วยสำเร็จน้ำเต้านี้ซึ่งท่านตั้งใจทำให้เป็นของวิเศษที่ให้คุณมหาศาลกับผู้พกพาเพราะน้ำเต้านั้นเป็นของสูงเมื่อเสกสำเร็จพ่ออาจารย์ท่านว่าคติคนจีนนั้นเขาเชื่อว่าในน้ำเต้าจะมีสุราเซียนหมื่นปีซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะถ้าบ้านเราก็ต้องเรียกว่าน้ำอมฤตนั่นเองดังนั้นน้ำเต้าทิพย์นี้ผู้บูชานอกจากจะอายุยืนสุขภาพแข็งแรงแล้ว ในทางกลับกันยังใช้ปราบปีศาจดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสลายด้วยอานุภาพน้ำทิพย์ในน้ำเต้าเช่นนั้นเรียกได้ว่าน้ำเต้าจะดูดสิ่งชั่วร้ายแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสิริมงคลให้กับเรานั่นเองเพราะคติที่ในน้ำเต้ามีน้ำอมฤตสามารถนำมาใช้ชุบชีวิตคนตายให้กลับฟื้นคืนชีพได้ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตของใครที่โดนปัญหารุมเร้าหนักๆ หรือคนที่มีชีวิตดุจคนตายแม้จะแก้ไขได้ยากแล้ว หากได้น้ำเต้าทิพย์ไปเขาก็จะต้องฟื้นได้ฉับพลันทันทีดุจมีชีวิตด้วยน้ำอมฤตเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเสกกำกับเชิญครูมาลงไว้เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้มีอานุภาพดุจน้ำเต้าทิพย์ดังนี้ถ้วนทุกประการ

    เมื่อได้องค์น้ำเต้าทิพย์แล้วเพื่อให้คนใช้เอาไปตั้งตัวได้ไวๆท่านจะต้องนำมาสำเร็จด้วยธาตุน้ำเพื่อให้เขาอยู่เย็นเป็นสุขทำมาค้าขายดีทำอะไรก็ดีมีความชุ่มเย็นเหมือนธาตุน้ำ กันไฟได้ทั้งยังดับความร้อนรุ่มในใจทำให้ผู้บูชามีสติมากขึ้นใจเย็นขึ้นเรียกว่าประคองตนให้เป็นคนดีได้ แล้วน้ำเต้านี้เมื่อหนุนด้วยกำลังธาตุน้ำแล้วเวลานำไปใช้จะได้เกิดประสบการณ์ในด้านโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองค้าขายดีมีกำไรด้วยน้ำเต้านั้นจะดึงดูดทรัพย์ถ้าเขาจะพกไปค้าขายหรือไปหาลาภสักการะก็จะได้สมความปรารถนาพ่ออาจารย์ท่านเสกให้มีไว้ดูดเงินดูดทอง นอกจากนี้ยังมีอิทธิคุณในด้านหนุนดวงให้ดีขึ้นหนุนให้มีโชคลาภหนุนให้มีความเจริญรุ่งเรืองหนุนให้การค้าดีทุกด้าน ทั้งเป็นเมตตามหานิยมกันภัยให้โชคลาภเสริมดวงปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆโดยน้ำเต้าทิพย์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากพกเอาคุณวิเศษแล้วยังสามารถใช้ปกป้องภัยอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกันคุณไสยกันสิ่งอัปมงคลลมเพลมพัดมนต์ดำคาถาได้เป็นอย่างดี เพราะเขาจะขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้ไกลห่างจากเราไปทั้งใช้เสริมดวงเสริมบารมีกันดวงตกดวงแตกก็ได้เพราะพ่ออาจารย์ท่านลงไว้ครบทั้งกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำย่ำยี
    ...นี่แหละต้องทำน้ำเต้าแบบนี้เป็นชนวนก่อนนำไปเทผสมมวลสารเหรียญพระปัจเจกทรงน้ำเต้า ด้วยน้ำเต้านั้นนับเป็นไม้มงคลที่มักจะออกลูกตลอดจนกว่าจะแก่ตายซึ่งมีความหมายอุปมาถึงชีวิตคนพกพาว่าจะมีดอกหรือออกผลได้กำไรได้โชคลาภ ดั่งวาสนาทรัพย์สินเงินทองต้องเพิ่มพูลงอกเงยขึ้นเท่านั้น เงินทองจะไหลมาเทมาไปตลอดชีวิตจนสิ้นใจจากภูมิมนุษย์นี้ไปและเพื่อสิริมงคลเช่นนั้นท่านจึงให้พกน้ำเต้าทิพย์นี้ไว้กับตัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไปทั้งยังคุ้มภัย และที่สำคัญคือพลังในการดูดทรัพย์สินเงินทองและความโชคดีมาให้กับผู้ครอบครองนั่นเอง ด้วยน้ำเต้าจะค้ำคูณแม้แสวงโชคก็จะได้สมใจ ทั้งคนที่เก็บเงินไม่อยู่ก็จะแก้อาถรรพ์ให้เก็บเงินเก็บทองได้ดี อีกประการหนึ่งน้ำเต้าทิพย์นี้จะกระตุ้นให้วาสนาผู้พกเปิดรับโชคลาภทั้งยังดูดทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา เสริมส่งให้การงานการค้าเจริญรุ่งเรืองปราศจากอุปสรรคเคราะห์ภัย ทั้งอำนวยให้มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวครบถ้วนจะมีดอกออกผลทรัพย์สมบัติงอกเงยเช่นนั้น ท่านว่าเอาว่าบูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ดีมากเช่นนี้พระข้างบนท่านจึงกำหนดพิมพ์ให้สร้างพระปัจเจกทรงน้ำเต้าเพราะน้ำเต้าทิพย์ใช้ได้ทั้งปราบปรามและทำลายล้างทั้งยังสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ไปพร้อมๆกัน เพราะเขามีอานุภาพการดึงดูด..การย่อยสลาย..การสร้างเสริมถ่ายเทพลังงานเข้าสู่วาสนาคนพกพาเป็นของตัวเขาเอง

    รอดแล้ว..ต้องรวย
    พ่ออาจารย์ท่านเทองค์พระด้วยชนวนน้ำเต้าผสมกับยันต์ดวงประสูติ,ดวงตรัสรู้,ยันต์ไจยะเบงชรพิศดาร,ยันต์ไจยะเบงชรตัวย่อ,ยันต์ฟ้าฟีก...ยันต์ดวงตำรับเสด็จพระใหญ่ทั้งร้อยแปดดวงและวิชาสำคัญต่างๆ
    - กำเนิดทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ปกติจะใช้เรียกความมั่งคั่งเปลี่ยนคนธรรมดาแม้จะเป็นขอทานยากไร้หากรู้จักทำกินยังกลายเป็นเศรษฐีมหาศาลได้ จะทำให้เกิดลาภสักการะมากมายไม่มีวันรู้สูญรู้สิ้น แม้คนที่เคยดวงตกหรือทำมาหากินไม่ขึ้นลงทุนแล้วขาดทุนหมดเดือนชนเดือนไม่เห็นกำไรเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนพลิกกลับให้วาสนาเงินทองหลั่งไหลทำอะไรก็เห็นกำไรสำเร็จโดยง่าย วิชานี้คือกำเนิดทรัพย์พ่ออาจารย์ท่านว่าพอทรัพย์กำเนิดทุกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตามคนที่มีหนี้จะหมดหนี้,คนโสดจะได้คู่,คนที่อยู่ใต้บัญชาผู้อื่นเจ้านายก็จะรักเมตตา,คนที่แสวงหาลาภจะได้ลาภ,คนที่ไร้ยศจะได้ยศ,คนที่ไร้ตำแหน่งจะได้เลื่อนตำแหน่ง ท่านว่ามันกำเนิดเกิดขึ้นทีละอย่างเป็นวงจรวนไปเช่นนี้
    - หนุนทรัพย์ ท่านว่าหนุนทรัพย์ก็เหมือนหนุนดวงแต่เป็นดวงทางด้านทรัพย์สินเฉพาะเจาะจง เป็นวิชาที่ใช้หนุนทางด้านการเงินโดยเฉพาะ หนุนให้รับโชคก่อนใครให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเงินไม่คล่องตัวหรือการงานไม่ราบรื่นติดขัดเหล่านี้หนุนให้ฝ่าวิกฤติปัญหาต่างๆได้ ท่านว่าหนุนทรัพย์นี้จะชูดวงเราขึ้นเพื่อเรียกลาภโดยเฉพาะแม้คนที่เงินขาดมือก็หนุนให้เต็มมือหยิบจับอะไรก็กลายเป็นเรื่องเงินๆทองๆไปหมดหนุนโอกาสให้เราได้รับไวขึ้น...
    - เปิดทางรวย วิชานี้ท่านว่าอาศัยอำนาจเทวดาเข้าหนุนให้เทวดารักผีสงสารเจ้าที่เจ้าทางเมตตา อยู่ที่ไหนเขาก็เอ็นดูเปิดทางให้เราให้ลาภให้โชคให้มีกินมีใช้ไม่ขาด แม้คนก็เมตตาอุปถัมภ์ค้ำชูเราให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เปิดทางรวยให้เราเห็นช่องทางชี้ทางนำทางเราไปสู่หนทางแห่งความเจริญรุ่งเรือง
    - ข่มศัตรู วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใส่ไว้เพราะคนใช้เจ้าสัวนั้นถ้าไปเจอคนดีคนที่เขาเก่งกว่าเราแล้วโดนเขาข่มมันก็จะแย่ ด้วยการทำมาหากินต้องเอาชนะคู่แข่งได้ปราบศัตรูและสะกดข่มเขาได้เพียงแค่เห็นก็เกรงใจหลีกทางให้เราเห็นเราแล้วก็ไม่อยากสู้ไม่อยากแข่งด้วย ท่านว่าเป็นวิชาสะกดคนให้อยู่ในอำนาจเราจะพูดอะไรเขาก็เชื่อทำตามเราทุกอย่าง ยิ่งใครที่โดนบ่นโดนด่าว่าอยู่บ่อยๆหรือใครที่พูดอะไรแล้วไม่มีคนเชื่อเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แก้ทางกัน พอข่มเขาแล้วทำอะไรไปเขาก็เชื่อเราฟังเรายอมรับเราทั้งสิ้น เปลี่ยนคนที่เคยดุเคยเกลียดเป็นดาวข่มให้อยู่ใต้อำนาจเราเป็นมิตรกับเรา
    - พระเจ้าเบิกทรัพย์ มีคุณทางด้านโชคลาภอย่างถึงที่สุดถึงขนาดที่ว่าคนไม่รู้จักคำว่ามีก็กลับมีกินเหลือเก็บเหลือใช้ได้..ตั้งตัวได้..เจริญรุ่งเรืองได้ แต่ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญที่ว่าต้องเป็นคนดี และหมั่นกระทำกุศลอวยทานเป็นนิจ ท่านว่าเมื่อได้ลาภมาแล้วให้ทำบุญทำทานต่อไปลาภก็จะไหลเพิ่มพูนมาไม่รู้จักหมดเพราะอาศัยการสร้างบารมีของเราเป็นเหตุ เมื่อเรารู้จักให้เราก็จะได้รับสิ่งตอบแทนที่เสมอค่ากันพ่ออาจารย์ท่านว่าในยุคสมัยนี้เราไม่ได้ไปสู้รบปรบมือกับใครด้วยความรุนแรงหรือสงครามแต่เราต้องสู้เค้าด้วยความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจโดยวิชานี้จะเบิกทางให้แก่เราเพื่อให้สำเร็จทั้งภายนอกและภายใน พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเครื่องทั้งหลายนั้นส่วนใหญ่มักจะเสกวิชาโดยทั่วๆไปเพื่อเน้นพุทธคุณให้โดดเด่นต่างกันในแต่ละด้าน ซึ่งวิชาเหล่านั้นถึงอย่างไรก็เป็นฝ่ายโลกียะยังไม่ใช่วิชาชั้นสูงแต่อย่างใดด้วยยังเกลือกกลั้วไปกับกิเลสความต้องการเป็นรากฐานนั่นเอง เสด็จพระใหญ่ท่านจึงแนะให้ทำวิชาโลกุตรธรรมควบคู่กันไปด้วยจะได้มีอำนาจริดรอนกรรมเป็นขั้นๆไปเรื่อยๆจนเผ่าพันธุ์มันฝ่อลงและยังนำมาซึ่งทรัพย์ขั้นสูงสุด ล้ำค่าทวิทวียิ่งๆขึ้นไปตามแนวทางพระเจ้าเบิกทรัพย์
    - เจ้าสัวเจริญลาภ วิชานี้เป็นวิชาเฉพาะทางโภคสมบัติซึ่งให้ผลตรงตัวพ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้นั้นเป็นวิชาทางมหากำเนิดแต่เป็นการเกิดขึ้นของโชคลาภทรัพย์สมบัติจากศูนย์จากไม่มีก็จะเกิดขึ้นจนผู้ครอบครองมั่นคงไม่รู้จักตกต่ำ สิ่งที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆทั้งจะดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาตัวไม่รู้จักเสื่อมถอ และยังทำให้บ้านเรือนสถานที่ทำงานรุ่งโรจน์เมื่อได้อาราธนามีแต่จะเร่งให้ดวงเปิดรับทรัพย์เป็นอเนกอนันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากเพราะต้องลงเบิกทางรับขุมทรัพย์ทั้ง 8 ทิศอันได้แก่มหาทิศทั้ง 4 และอีก 4 ทิศย่อย ท่านว่าแม้ตัวผู้ใช้อยู่จุดใดในโลกในทิศทั้ง 8 นี้เขาก็เป็นดุจแกนกลางที่โชคลาภความเจริญมั่งคั่งจะวิ่งเข้ามาหา ดูดทุกอย่างมาไว้กับตัวเขา,ไม่หนีไปที่อื่น,ไม่วิ่งไปทางอื่น,ไม่ตกไปสู่คนอื่นแม้ใครที่ติดผลกรรมทำอะไรไม่เจริญก็ระงับได้ไม่ต้องกลัวเงียบ
    - ระงับสงสารหนีสงสาร วิชานี้จะเข้าไปหยุดกรรมร้ายไม่ใช่ทำให้เวรกรรมเก่าหายไปเลย หากแต่เพียงระงับไว้หยุดไว้ปรามไว้ซึ่งอำนาจอกุศลกรรมที่เจ้าตัวเคยก่อไม่ให้ส่งผลนี่คือให้โอกาสเร่งสร้างกรรมอันเป็นกุศลขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ระงับไว้เท่านั้นยังหนีอกุศลกรรมนั้นไม่ให้ตามติดตัวเพื่อจะแสดงผลได้ทันด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าวิชาอย่างนี้ใช้สำหรับคนที่วนเวียนในทุกข์เข็ญเสวยผลแห่งทุกขเวทนาอยู่หาความสุขในลาภและทรัพย์สมบัติไม่เจอ ท่านว่าตัวนี้เพียงพอและเกินพอที่จะนำชีวิตของเขาออกจากห้วงแห่งทุกข์ได้ หากแต่ว่าออกแล้วต้องประกอบกุศลกรรมมาชดเชยกันมิเช่นนั้นชาติหน้าไม่ได้เกิดมาพบเจอวิชานี้ก็จะต้องรับกรรมเก่าต่อไป
    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทยอยลงเก็บไว้ตามที่ท่านสั่งเพราะยันต์แต่ละแบบก็มีวิธีเสกต่างกันไป หล่อหลอมเข้ากับตะกั่วอวนเจ้าสมุทรที่ลงอักขระรับทรัพย์เปิดทางหาทรัพย์ทุกลูก,ตะกั่วลงถมหมื่นยันต์พันคาถาทั้งปรอทและเหล็กไหลช่อทิพย์,เหล็กไหลวัชรธาตุ(เหล็กนิพพาน),หยาดน้ำฟ้าทวาราวดี(มีลักษณะคล้ายปรอทกลิ้งได้แต่เหนือกว่าปรอทมากนักเป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง)และกายสิทธิ์ธาตุที่เหมาะจะลองรับกระแสญาณของท่านตลอดจนคุณพระได้มากที่สุด ทั้งตอนหลอมแร่ธาตุต่างๆนั้นท่านยังได้ผสมแร่เจ้าน้ำเงินลงไปด้วยเพื่อให้มีอำนาจเหนือเงินตราเป็นราชาแห่งโชคลาภเปิดทางเบิกขุมทรัพย์เงินตราโภคทรัพย์ได้สูงสุด

    ด้านหลังบรรจุผงอิทธิคุณพิเศษประกอบด้วย
    - ผงพระสังข์เรียกเนื้อ ผงนี้ต้องรวมมวลสารต่างๆมาลบผงได้แก่ผงไม้โพธิ์นิพพานแก้อาถรรพ์,ผงไม้ยอ,ผงหัวว่านนางกอดทรัพย์,ผงไม้พญาพรานหลง,ผงว่านเศรษฐีและผงกะลาตาเดียวลงราหูหนุนชะตาที่ให้คุณทางเรียกโชคลาภเสริมโชคหนุนดวงเมตตามหานิยมเสี่ยงโชคนำมาปั้นรวมกันเป็นแท่งผงลงมนต์ลบผงพระสังข์เรียกเนื้อและเสกผงลบนั้นให้มีคุณทางด้านเรียกโชคเรียกลาภให้เข้ามาหาได้เองในชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ท่านว่าผงนี้แม้ไม่คาดคิดว่าจะได้อยู่ดีๆก็ได้ เรียกว่าอยู่เฉยๆโชคลาภก็มาให้เอาถึงที่อยู่เฉยๆโชคลาภก็เข้ามาหาเองเช่นนั้น
    - ผงวิชาพระเจ้าเก้าเศรษฐี เพื่อดึงบารมีมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านแห่งพุทธกาลมาสู่จุดศูนย์กลางให้เกื้อหนุนผู้บูชาโดยตรงด้วยมหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้นได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลอันจะไม่ตกต่ำลงอีก ซึ่งทั้งเก้าท่านได้เคยกระทำมหาบริจาคกระทำทานอย่างมหาศาลมโหฬารใหญ่โตและยังเป็นพระอริยบุคคล ด้วยกุศลเจตนาการบริจาคอันยิ่งใหญ่ของมหาเศรษฐีทั้งเก้านี้เป็นการเสียสละอันกระทำได้ยากนักหนาจะทำเหตุอัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยบุญของทั้ง 9 ท่านค้ำจุนเราอยู่จึงเหมือนดั่งคำพรปกาศิตที่ชีวิตเราจะตกต่ำลงนั้นเป็นไม่มีหามิได้เลย ท่านว่าจะได้ลืมตาอ้าปากสมหวังในการประกอบกิจเป็นเกียรติยศอยู่ในวงการอาชีพของตนเอง ผงนี้เมื่อท่านลงอักขระเสร็จแล้วท่านจึงค่อยๆลบสะสมไว้และได้นำมาปลุกเสกยันต์ต่างๆให้มีชีวิตและอธิษฐานจิตลงไปจนบอกว่าเต็มดีแล้วไม่รู้จะใส่อะไรเพิ่ม ก่อนที่จะอัญเชิญเสด็จพระใหญ่,ครูพระปัจเจกโพธิเจ้าและมหาเศรษฐีทั้งเก้าช่วยกำกับเพิ่มเติมด้วยจะให้ใครทำผงทางโชคลาภก็ไม่เสมอทั้งเก้าท่านนี้ลงมาทำด้วยตัวเองท่านจึงขอบารมีครูมหาเศรษฐีผู้อริยบุคคลทั้งเก้านี้ให้ประสิทธิผงเป็นกรณีพิเศษให้ผู้ครอบครองผงนี้ได้ร่ำรวยเสมือนมหาเศรษฐีพุทธกาลเช่นนั้น
    - ผงพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไห ดังที่ทราบกันว่าพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีบารมีมากแม้พระพุทธองค์ก็ตรัสรับรองไว้ว่า..ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย.. วิชานี้จึงเป็นวิชาเฉพาะที่แทบจะไม่มีใครทำหรือสาบสูญไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าคนส่วนใหญ่ที่สร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าขึ้นมามักจะสร้างและเพียงเชิญบารมีหาได้ทำด้วยวิชาของท่านเองซึ่งสืบมาแต่โบราณบูรพาจารย์ ซึ่งวิชานี้หากทำได้แล้วจะให้ผลมากในทางเกื้อหนุนค้ำจุนให้ร่ำรวย มีฐานะ สังคม ชีวิต ดีขึ้นมากกว่าเดิม เป็นวิชาเรียกทรัพย์ บังเกิดทรัพย์อย่างแท้จริงๆ ท่านว่ายิ่งถ้าตกอยู่ในมือของคนที่ใจบุญสุญทานชอบอวยบุญอวยทาน หมั่นสร้างบารมีโดยเฉพาะทานบารมี หรือจะเป็นตักบาตรพระก็ได้ท่านว่านี่พระปัจเจกท่านชอบท่านโปรดนัก ถ้ามีผงวิชาธรรมพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหนี่อยู่กับตัวจะยิ่งเสริมส่งให้ดี ให้ไว ให้สำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก ท่านว่าถ้าให้ทานเป็น มีจิตใจที่เสียสละแก่ส่วนรวมแล้วถือครองพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหนี้ท่านว่ายิ่งกว่าคำว่าชีวิตสะดวกสบาย วิชานี้ท่านว่ายากที่จะสร้าง ผู้ที่จะทำได้ขลังนั้นจะต้องเข้าถึงแก่นแท้ของธรรมและมีวาระกรรมจำเพาะพิเศษตามที่บูรพาจารย์กำหนดไว้ซ้ำต้องมีญาณเชื่อมถึงคณะพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างออกมาเสียหนหนึ่ง
    - คำข้าวพระอรหันต์ สิ่งนี้เป็นของส่วนตัวของท่าน โดยท่านได้รับเมตตามาจากหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพลผู้เป็นพระอรหันต์แห่งยุคองค์หนึ่งได้คายคำข้าวใส่มือท่าน ดุจจะรู้ว่ากาลในอนาคตนั้นท่านจะได้นำมาใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้คน ซ้ำยังได้มอบคำข้าวขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ท่านรักษาไว้มาให้พ่ออาจารย์อีกด้วย แค่คำข้าวที่พะอรหัต์คายออกมาเหล่านี้ ก็ล้วนเชื่อได้เลยว่าองค์พระรุ่นนี้จะต้องมีลาภผลมากแน่นอน พ่ออาจารย์ท่านว่าใครมีไว้ดุจมีสมบัติทิพย์นับล้านโกฏิอยู่กับตัว
    - ผงเจดีย์ร้อยยอด พ่ออาจารย์ท่านทำพิธีพลีกรรมขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวบรวมผงสถูปเจดีย์โบราณต่างๆที่แตกหักมีอายุนับร้อยนับพันปีให้ครบ 100 องค์ ซึ่งท่านใช้เวลาหลายปีเพื่อรวบรวมโดยเดินทางไปทั้งทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอีสาน ประกอบพิธีพลีขอกลับมาประกอบเป็นมวลสาร ด้วยท่านว่าแต่โบราณกาลนั้น พระเจดีย์คือสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา มีพระเจดีย์ที่ไหนแปลว่าพระศาสนาเข้าถึงที่นั้น ซ้ำองค์เจดีย์นั้นจะได้รับการบำรุงรักษาเคารพกราบไหว้อย่างดี เปรียบดั่งพระวรกายแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยว่าในพระเจดีย์เหล่านั้นล้วนประดิษฐานซึ่งพระบรมสารีนิกธาตุของพระองค์ เมื่อรวบรวมมวลสารได้ครบเเละมาประกอบขึ้นเป็นผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญ อยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้น ซ้ำยังเป็นยอดคน ทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด
    - ผงพิชัยสมบัติ ท่านว่านี่ของสำคัญทรัพย์แผ่นดินมีมากเพียงใด ทรัพย์พระคลังมีมากอย่างไร ทรัพย์ของพระเจ้าจักรพรรดิ์เป็นอย่างไร วิชาพิชัยสมบัติก็มีมากเสมอกันเรียกว่าเป็นวิชาที่ช่วยให้คนมีทรัพย์มากได้รับความสุขสบายดุจพระเจ้าจักรพรรดิ์ก็ไม่ผิด ท่านว่าวิชาเช่นนี้จึงนำมาทำเล่นๆไม่ได้ใช้ได้เพียงในวาระในโอกาศสร้างพระสำคัญเท่านั้น พิชัยสมบัติคือมีชัยชนะในสมบัติ ท่านว่าคนที่ชีวิตไม่เคยชนะ,ดวงไปล่มไปตกผิดที่ผิดทาง,ทรัพย์ไม่มีติดมือเรียกว่าหาทรัพย์ไม่ได้เก็บทรัพย์ไม่อยู่แพ้หมดรูป ท่านว่าเอาให้ย่ำแย่ถึงปานนั้นก็ยังได้ดีเปลี่ยนชีวิตพลิกคืนมาได้ เพราะพิชัยสมบัติคือมีชัยชนะเหนือทรัพย์สมบัติทั้งปวง,เหนือทรัพย์พระคลัง,เหนือทรัพย์แผ่นดิน,เหนือทรัพย์พระเจ้าจักรพรรดิ์วิชานี้ทรงคุณถึงเพียงนั้น
    - ผงพระเจ้าค้าคำ วิชานี้พ่ออาจารย์กล่าวว่าเป็นยอดของวิชาชั้นสูงทางมหาบังเกิด,ทางทรัพย์สิน,ทางความร่ำรวยอย่างแท้จริง ด้วยอาศัยเหตุปัจจัยที่เกิดจากอำนาจบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่าแม้พระองค์ทรงพระประสงค์จะพึงมีปรารถนาถึงภูเขาทั้งลูกก็เปลี่ยนเป็นทองคำได้ วิชานี้จะเปลี่ยนจากสิ่งที่ไร้ค่าให้มีค่ามันมีแต่ดีมีแต่ได้กับได้ เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระประสงค์สิ่งใดสิ่งนั้นก็ย่อมเป็นไปด้วยพุทธานุภาพ วิชานี้จึงเกิดขึ้นมาด้วยโบราณจารย์ท่านถ่ายทอดให้สืบต่อกันเอาไว้ใช้ช่วยคนที่เค้ามีวาสนาถึงพร้อมต้องการจะเป็นมหาเศรษฐีต้องการจะหลุดจากทุกข์แห่งการหาเช้ากินค่ำโดยแท้ ซึ่งน้อยนักที่ครูบาอาจารย์จะทำวิชานี้ให้แก่ผู้ใดและคำในทีนี้คือทองคำจะได้รวยเหนือรวยเป็นมหาเศรษฐีมากกว่าเงินก็ต้องมีทองเป็นโกฏิเท่าภูเขานี่แหละ
    - ผงวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ เป็นผงเก่าของหลวงพ่อปานซึ่งสืบทอดมา พ่ออาจารย์ท่านได้มาในปริมาณที่ไม่มากนัก ท่านว่าผงนี้สำคัญนักครูเก่าท่านย้ำนักหนาว่าให้เก็บไว้ให้ดี ใครมีเอาไปใช้เเละหมั่นทำบุญ มีเเต่รวยเจริญขึ้นทันตาเห็น ซึ่งปกติสมัยหลวงพ่อปานมีชีวิตอยู่ ผงนี้จะใช้อุดรูพระผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆเเต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น หาพระของท่านแท้ๆไม่ได้มาเอาผงนี้ไปใช้เเทนกันได้เลย
    - ผงรังต่อ ท่านว่าขาดไม่ได้ถ้าทำพระเจ้าสัวเพราะมันเป็นเคล็ด จะได้ต่อออกไปไม่รู้หมดไม่อยู่ที่เดิม มีพระรุ่นนี้จะได้ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่
    - ผงสะหรี๊พันต้น เป็นผงที่พ่ออาจารย์ได้ทำรวบรวมไว้และนำมาเสกทางค้ำคูณชุ่มเย็นลงไปอีก ท่านว่าผงนี้หนุนดวงหนุนนำชะตาชีวิตดีนัก ชีวิตมันไม่ตกลงเลยนะมีแต่จะยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆใครที่กลัวตัวเองตกต่ำลงกว่าเดิมหรือกลัวที่จะเลวลงสามวันดีสี่วันไข้ ได้ดีไม่สม่ำเสมอนี่เลิกคิดไปเลย มีผงนี้ใส่ไปให้ต่อไปนี้จะได้ทรงตัวและพุ่งขึ้นไปให้สูงไม่ต้องทรุดลงมาอีก
    - ผงลบมนต์เศรษฐีสี่ตระกูล ท่านใช้มนต์น้ำซึมบ่อทราย,มนต์มหาเศรษฐีหลวง,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภา,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐี ท่านว่าใช้ผงเพียงสี่ตระกูลนี้เท่านั้นมาผสมลบถมผงวิเศษ เฉพาะมนต์น้ำซึมบ่อทรายนี้ก็รวยแบบมั่นคงดุจน้ำตกสู่ทรายที่ค่อยๆซึมเข้าไป ชีวิตผู้ใช้ที่ว่าไม่มีโชคก็จะได้มีโชคหล่นมาหาซึมซับเข้าไปในตัวเราอยู่ร่ำไปไม่มีวันหมด,ส่วนผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภานั้นจะทำกิจการงานใดๆก็จะสำเร็จลุล่วงประสบโชคลาภครั้งใหญ่ได้โดยง่ายเมื่อรวมกับผงพระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐีและผงมนต์มหาเศรษฐีหลวงแล้ว ก็จะช่วยต่อยอดให้ได้เป็นมหาเศรษฐีเร็วขึ้น
    - ผงดูดพลัง ท่านว่าก้อนผงนี้สมัยก่อนท่านธุดงค์เข้าไปในมเหนทรบรรพตก็ไปเจอก้อนผงนี้วางอยู่หน้าแท่นศิวลึงค์ ไม่รู้ว่าเป็นก้อนอะไรรู้แต่ว่ามีอาถรรพ์มากเพราะรอบๆบริเวณสถานที่นั้นมันแสดงออกมาอย่างชัดเจน(ไม่สามารถเล่าได้) ท่านจึงได้พลีกรรมบอกกล่าวและขอมาเพื่อจะทำประโยชน์ให้เกิดแก่ชนหมู่มากในภายหลังจนครูพระสยมท่านมอบให้และบอกว่าเป็นก้อนผงดูดพลังที่พวกฤาษีสมัยก่อนทำมาวางข่มอาถรรพ์ไว้... เมื่อพ่ออาจารย์ท่านนำออกมาแล้วท่านว่าเราก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดีเพราะผงนี้มีอาถรรพ์มากและก็มีพลังงานสูงเกินไป ท่านเห็นว่าในพระรุ่นนี้มีวิชาน้ำเต้ามันจำเป็นต้องใช้พลังดูดเพื่อย่อยสลายสิ่งตกค้างทั้งวิบากกรรมและอกุศลกรรมอย่างมหาศาลซึ่งคุณวิชาทั่วไปไม่สามารถทำได้ครอบคลุม ท่านจึงนำก้อนผงที่แข็งเป็นหินนี้มาทุบผสมทำผงเป็นพลังงานตั้งต้นเพื่อให้มีอำนาจรุนแรงที่สุดนั่นเองทั้งท่านเสกกำกับให้ดึงดูดความรุ่งโรจน์,ให้ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง,ให้ก่อเกิดความมั่งคั่งมีชัยชนะทุกๆด้าน
    - ผงสหัสนัยน์อโลมะประสิทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเกิดด้วยบุญฤทธิ์ของพระอินทร์โดยตรง มีคุณใช้ได้ทั้งพันคือพันช่องพันทางพันเรื่องทำอะไรก็สำเร็จทั้งหมดดุจได้พรท้าวโกสีย์ ถ้าพวกนักสิทธิ์วิทยา,คนธรรพ์,สุบรรณ,นาคีเหล่านี้ได้ไปครอบครอง จะยิ่งเพิ่มฤทธานุภาพของตนให้สูงล้ำสัญชาติญาณเดิมอีกมาก จึงเป็นของมีค่าแม้อยู่กับมนุษย์ก็เชื่อได้ว่าย่อมได้ในทุกสิ่งเกินวิสัยชาติภพของมนุษย์ภูมินั้น
    - น้ำมันอินทราทิพย์ น้ำมันนี้เป็นน้ำมันเฉพาะตัวของท่านที่ท่านทำเอาไว้ใช้เองของท่านผู้เดียว โดยนำธาตุทนสิทธิ์และกายสิทธิ์มากมายลงมาแช่แล้วจึงขอบารมีพระอินทร์ทำน้ำมัน จากน้ำมันแก้วธรรมดาเมื่อปลุกเสกไปหุงด้วยไฟสุริยัน ก็กลายเป็นน้ำมันสีเขียวใสยิ่งกว่าตาตั๊กแตนแต่กลับมีกลิ่นฉุนนัก ท่านว่ากำหนดจิตดูตอนขอให้พระอินทร์ท่านทำปรากฏว่าทั้งพระอินทร์และเทพเทวดานางฟ้ามากมายช่วยกันเอาสรรพยาว่านทิพย์โอสถมากมายมาเทมาปรุงน้ำมันนี้ จากน้ำมันธรรมดาจึงมีทั้งสีและกลิ่นฉุนรุนแรง พ่ออาจารย์ว่าเราก็ไม่ได้ใส่อะไรเพียงแค่นำธาตุศักสิทธิ์แช่ไว้เท่านั้นท่านเห็นเป็นอัศจรรย์ใจจึงเก็บน้ำมันนี้ไว้แช่พระและเครื่องคาดของท่านมาตลอด ท่านว่าน้ำมันอินทราทิพย์นี้แรงกว่าพวกน้ำมันผีน้ำมันพรายมากเพราะสำเร็จด้วยเทวานุภาพเป็นของกายสิทธิ์ ท่านว่าแรงกว่าสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบเสียอีกมีอาถรรพ์มากต้องเอามานวดกับผงอุดพระไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะมีผงผงสหัสนัยน์อโลมะประสิทธิ์ท่านจึงใช้น้ำมันอินทราทิพย์หัวเชื้อผสมเพียวๆกันไปเลยผงที่ใส่รุ่นนี้เพียงผงสหัสนัยน์กับน้ำมันอินทราทิพย์นี้ก็กินขาดยิ่งกว่าสมบัติเทวโลกแล้ว
    - นวดพระสีวลี ซึ่งเป็นนวดของครูบาอาจารย์ฆราวาสในดงที่ถ่ายทอดวิชาให้พ่ออาจารย์ท่านมีอิทธิคุณแรงกล้าในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์ มหาเมตตาใหญ่ และมหาเสน่ห์ใหญ่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้มาขวดหนึ่ง นวดนี้มีอายุตก40-50ปี ท่านว่านวดนี้มีพิธีการหุงที่พิเศษเเตกต่างจากสีผึ้งสายเทพ เเละสายพรายทั่วไป มีวิธีการสร้างที่แปลกประหลาดจนเราไม่คิดว่าจะหาใครมาทำได้เป็นคนที่สอง เพราะขนาดตัวเราเองก็ยังทำไม่ได้ ถึงจะเรียนไว้ เเต่อะไรหลายๆอย่างมันหาในยุคนี้ไม่ได้เสียเเล้ว ครั้งนี้เอามาใช้นวดผงเป็นตัวประสานเพราะเป็นนวดในตำนานที่หมดเเล้วก็ไม่มีการสร้างขึ้นมาอีก
    นอกจากนี้ยังมีผงที่เตรียมไว้ทั้งพญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล็กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช(พ่ออาจารย์ท่านได้เพิ่มผงพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จครูใหญ่เข้าไปด้วย)ทั้งพ่ออาจารย์ท่านได้ผสมผงลบตระกูลเศรษฐีทั้งดวงเศรษฐี,เศรษฐีสำเภาทอง,พระสีวลีเรียกทรัพย์,จินดามณี,ค้าแม่นขายหมาน,เจริญสมบัติ,หากินคล่อง,มีลาภต่อเนื่อง,ฝนแสนห่า,อริยสัจโสฬสมงคล,ตรีนิสิงเห,จตุโรบังเกิดทรัพย์,นกคุ้มสี่ตระกูล,ยันต์ถุงเงินถุงทอง


    อาญาสิทธิ์รอดอภินิหาริย์
    เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์นั้นพ่ออาจารย์ท่านเน้นสนองยุคเข็ญและทุกข์เข็ญที่จะเกิดขึ้นสืบไปเบื้องหน้าอย่างแท้จริง ท่านจึงได้ทำเครื่องรางโบราณฝังไว้ด้านหลังอันเป็นพลังที่จะช่วยให้รอดและพ้นวิกฤติได้อย่างอภินิหาริย์หนุนกับกำลังองค์พระอย่างแยกกันไม่ออกขาดกันไม่ได้
    - แองค์ไม้ยอดฟ้า สัญลักษณ์โบราณของอียิปต์ที่เป็นตัวแทนของชีวิตและการอยู่รอด ในสมัยโบราณมีเพียงฟาโรห์และเทพเจ้าเท่านั้นที่ครอบครองแองค์ได้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะทั้งยังเป็นเป็นเครื่องรางที่เก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุด แองค์นี้นอกจากเป็นพลังแห่งการอยู่รอดแล้วยังหมายถึงชีวิตคนอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านเห็นควรว่าจะทำไว้และอธิษฐานขอให้เจ้าของวิชาและเทพทางฝั่งนั้นมาทำให้ซักหนด้วยครานี้คนตกทุกข์ได้ยากมีมาก คนเอาตัวไม่รอดก็เยอะแม้เศรษฐีก็ยังตกม้าตาย ท่านจึงทำสัญลักษณ์แห่งการดำรงค์ชีวิตและความอมตะนี้ขึ้นเพื่อเปิดทางรับเอาพลังชีวิตพลังที่จะกู้วิกฤติช่วยให้เรารอดได้ในทุกเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางตัวนี้เมื่อเทพทางฝั่งโน้นเขาทำให้มันไม่ใช่ของเล่นๆนะเพราะแต่โบราณเป็นเครื่องสูงเฉพาะกษัตริย์มีอำนาจทั้งสองโลก(คือโลกนี้และโลกหน้า) เป็นเครื่องรางแห่งความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เกิดชีวิต..ใช้ต่อลมหายใจ..ให้รอด..ให้เป็นอมตะ พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเครื่องรางแบบนี้ใช้ต่อลมหายใจใช่ต่อชีวิตใช้ต่อโอกาสช่วยให้รอดให้ฟื้นตัวได้เป็นเครื่องรางที่ใช้มอบชีวิตใหม่ที่ดีกว่า จะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์..จะนำมาซึ่งชีวิตที่ดีเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างจะนำมาซึ่งรูปธรรมและนามธรรมทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตนี่คือคุณของแองค์ เป็นเครื่องรางที่จะช่วยให้เราสมบูรณ์แบบในสิ่งปรารถนา เรียกว่าเป็นยอดปรารถนาแห่งมนุษย์พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละต่อไปแม้คนร่ำรวยมั่งมีที่ไหนยังเอาตัวไม่รอด ..แต่เรามีแองค์นี้เราต้องรอดในทุกปัญหา ท่านประดับดวงตาไว้ที่แองค์ให้สามารถมองทะลุทุกอย่างทั้งยังเป็นดวงตาแห่งชัยชนะในการต่อสู้กับความชั่วร้ายสืบไป
    - ตะกรุดดับล้าง อุบาทว์อันใดที่หมักหมมตกตะกอนข้ามชาติข้ามภพสะสมอยู่ในจิตวิญญาณส่งผลกับชีวิตเราโดยตรงท่านว่านั่นแหละเขาจะดับล้างออกไปจากตัวเรา ทั้งยังค้ำชูดวงชะตาเราเสริมราศีให้ดีขึ้นไม่ตกต่ำในเวลาที่ดวงดีอยู่แล้วจะดันให้ดีขึ้นไปอีก ในเวลาที่ตกก็จะดึงขึ้นไม่ให้ตกที่นั่งลำบากพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะพูดกันเข้าใจง่ายๆเลยก็คือไม่มีวันดวงตกต่อให้ทายชะตาออกมาว่าดวงจะตกหรือดวงจะแตกอย่างไรแต่ชีวิตเราก็ดีขึ้นทางเดียวไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องดวงเหล่านั้นเลยเพราะตัวเรารุ่งเรืองเฟื่องฟูในทางเดียว ทั้งตะกรุดสำคัญนี้หากได้อาราธนาติดตัวเป็นประจำนอกจากจะดับล้างอุบาทว์ทั้งหลายในจิตวิญญาณตนแล้วยังจะช่วยชำระปราณในตัวให้บริสุทธิ์มากขึ้นไปเรื่อยๆด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะรู้และสังเกตุได้ด้วยตัวเองว่าความคิดเราจะกระฉับกระเฉงมากขึ้นเป็นคนปัญญาไวมีปัญญามากมีประสาทสัมผัสต่างๆไวขึ้นสามารถเห็นนิมิตดีร้ายในกาลภายหน้าได้อย่างแม่นยำไม่บิดเบือน ทั้งคุณครูยังจะป้องสิ่งไม่ดีทั้งหลายแลอุบาทว์จัญไรทั้งปวงช่วยเราเรียกหาทรัพย์สินเงินทองให้เราเจริญด้วยทรัพย์สมบัตินับคณา ดึงดูดเรื่องที่เราอยากให้เกิดสิ่งที่เราปรารถนาคล้ายกับหีบสมบัติที่จะเปิดไว้ให้ชีวิตมีแต่รับอย่างเดียว

    คาถาบูชาองค์พระ
    นะมามีมามหาลาภา นะสะมานิลาโภเมตตามามา นะหะปาลิหิโภคังเมตตาลาโภนิโสธะยะ
    ต่อด้วย พระโสนามะยักโข เมตทันตปริวาสะโก อะสุณิหะเตโหตะโต ชยะมังคละ เออุ อุเอ อาคัจฉะ มานิ มานิ


    **** เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์ชุดรอดอภินิหารย์นี้ท่าน เชิญประชุมพระเวทย์และพระธรรม,เชิญองค์ต้นธาตุต้นธรรมและเหล่าพุทธภูมิลงมาเป็นประธานทำพิธีอุดผงควบคุมประจุธาตุและธรรมเอง พระรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าลืมเวลาเสกไปแล้วเพราะเสกเก็บมานานตั้งแต่เป็นมวลสารแต่ละพิธีกรรมก็มีการแยกเสกแบบเสกแล้วเสกอีกทุกขั้นตอนเพื่อให้ครบตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งเอาไว้...เมื่อได้อาราธนาติดตัวไว้จะรอดพ้นเภทภัยทุกข์เข็ญได้อย่างอภินิหาริย์ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์รอดอภินิหาริย์ (พระปัจเจกทรงน้ำเต้า) บูชา 2,500 บาท

    133424143-432790578103389-4913200113816856589-n.jpg 134036577-2476314476006913-7994605121033603765-n.jpg
    133863009-395753181701255-8280599993085232651-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มาต่อกันเรื่องพระปัจเจกทรงน้ำเต้า รายการนี้ท่านว่าทำไว้ให้ใช้แทนพระของหลวงพ่อปานในกรณีที่หาพระของท่านแบบแท้ๆไม่ได้ จะเห็นว่ารุ่นนี้มวลสารเยอะและท่านทำมาดีมากๆและดีจริงๆเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่แขวนเดี่ยวได้เลยมีครบทุกทาง เฉพาะวิชาน้ำเต้าสายพ่ออาจารย์แต่ละคนก็รู้กันอยู่ว่าแรงมากๆและนานๆท่านจะทำซักที รุ่นนี้ใครทันองค์เดียวเหมือนได้หลายๆสิ่งพร้อมกัน
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา ตราสังหารปรปักษ์สลักเทพ(ประหารอีกาทองคำสุริยัน)

    ที่สุดแห่งเครื่องรางสำหรับผู้มีศัตรูและสิ่งรบกวนรอบกาย ...
    - แกะสลักจากไม้ที่ทรงอาถรรพ์รุนแรงแบบพิเศษ
    - ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่โหด รุนแรง และให้ผลไวสูงสุดของพ่ออาจารย์
    - เป็นเครื่องรางที่มีฤทธิ์เก่งกล้าเหนือเทพ สยบเทพ สยบเก้าสุริยัน

    (รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นเพียงหกองค์แต่ท่านอาราธนาไว้องค์หนึ่ง ทำให้มีมาเปิดจองเพียงห้าองค์เท่านั้น ... อย่าช้านะครับ)

    ด้วยเหตุว่าภยันตรายและแรงอาฆาตของคนรอบด้านมักจะฉุดให้ชีวิตที่ดำเนินไปอย่างสันติสุขตกต่ำลงได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำเครื่องราง"ตราสังหารปรปักษ์สลักเทพ" ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์สูงสุดขึ้นมาโดยองค์เต๋าบ้อท่านแนะนำให้ทำเป็นรูปโฮ่วอี้ดับเก้าตะวันเพื่อจะดับทุกข์ภัยร้ายแรงทุกชนิดให้แก่มนุษย์

    พลังของมนุษย์ที่สังหารเทพเจ้า
    ในสมัยดึกดำบรรพ์บนดินแดนแห่งลุ่มน้ำฮวงโหปกครองโดยพระเจ้าเหยา พระองค์ทรงเป็นธรรมราชาที่มีพระสติปัญญาและพระเมตตาเลิศล้ำประชาชนทั่วแผ่นดินล้วนมีแต่ความสงบสุข ฝนฟ้าก็ตกต้องตามฤดูกาลพืชพันธุ์ธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์แต่บนท้องฟ้ากลับปรากฏมีพระอาทิตย์ 10 ดวงอยู่พร้อมกัน..ส่วนโฮ้วอี้ได้ชื่อว่าเป็นนักยิงธนูที่ใช้ธนูดับดวงอาทิตย์ โดยธนูเพียงดอกเดียวสามารถยิงให้ดวงอาทิตย์ตกลงมาได้และเค้าก็ยิงถึง 9 ดวง

    เมื่อย้อนกลับไปที่ยุคราชวงศ์เซี่ยตรงกับสมัยพระเจ้าเหยาโลกมนุษย์
    มีดวงอาทิตย์พร้อมกันถึง 10 ดวงซึ่งเป็นพี่น้องกันและเป็นลูกเง็กเซียน(ชาวจีนสมัยก่อนยกย่องให้เง็กเซียนคือเทพพระอาทิตย์) หน้าที่ของพระอาทิตย์ทั้งสิบดวงคือรับพระบัญชาผลัดกันลงมาให้แสงสว่างแก่โลกมนุษย์ตามบัญชาของเง็กเซียนพ่อตัวเอง ซึ่งดวงอาทิตย์ทั้งสิบนี้ล้อมรอบผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้แสงสว่างและความร้อนบนโลก ยุคนั้นจึงเต็มไปด้วยมนุษย์ที่เก่งกล้ามีฤทธิ์มีอภินิหาริย์และอาศัยกันอยู่อย่างสงบสุข..เมื่อคนมีความสุขก็พาลทำให้เทพเจ้าและเหล่าเซียนเกิดความริษยาด้วยคนทั้งหลายไม่ให้ความเคารพนับถือพวกตนอีกต่อไปเพราะไม่มีเรื่องทุกข์จึงไม่ต้องร้องเรียนเซียนเทพใดๆ เทพเจ้าบางองค์จึงได้วางแผนทำให้โลกร้อนระอุเป็นเพลิงเผาโดยวางแผนให้พระอาทิตย์ทั้งสิบดวงเกิดความคึกคะนองลงมาเล่นบนโลกมนุษย์กัน ทั้งหมดสาดแสงพร้อมกันเรียกว่าพร้อมใจกันส่องแสงสว่างแก่โลกมนุษย์ทำให้มนุษย์ได้รับความเดือดร้อนอย่างยิ่ง แสงอาทิตย์ที่แรงกล้าได้ทำให้โลกร้อนระอุเผาแผ่นดินจนเหี่ยวแห้งพืชพันธ์ธัญญาหารล้วนเหี่ยวเฉาไปหมด มนุษย์รู้สึกร้อนจนหายใจไม่ออกล้มลงสลบไสลเนื่องจากอากาศร้อนเกินไป สัตว์ร้ายต่างๆก็พากันออกจากป่าและแหล่งน้ำที่แห้งแล้งมาทำร้ายมนุษย์แม่น้ำลำธารหลายสายถูกแดดแผดเผาจนแห้ง ทุ่งหญ้าและป่าไม้ลุกเป็นไฟธัญญาหารต่างๆมอดไหม้ ทำให้ผู้คนและเหล่าสัตว์อดอยากล้มตายเป็นจำนวนมากทำให้โลกเกิดทะเลทรายขึ้นมากมาย แต่พระอาทิตย์ทั้งสิบก็หาได้สำนึกไม่ยังคงกระทำการคึกคะนองอันธพาลเพิ่มความร้อนแผดเผาโลกให้หนักมือยิ่งขึ้นไปอีกจนมีผู้คนล้มตายเพิ่มเป็นเท่าทวี..จุดประสงค์ก็เพื่อจะให้มนุษย์ร้องขอและกลับมาเกรงกลัวเหล่าเซียนเทพอีกคราหนึ่ง

    พระเจ้าเหยาจึงทำพิธีบูชาฟ้าไหว้อ้อนวอนสวรรค์ให้ช่วยหยุดภัยพิบัติครั้งนี้จนเง็กเซียนฮ่องเต้เห็นถึงความเดือดร้อนของผู้คนจึงทนอยู่ไม่ได้ เง็กเซียนก็ได้เฟ้นหาแม่ทัพสวรรค์ที่เก่งกล้ามากที่สุดพอที่จะสยบอาทิตย์เทพหรืออีกาทองทั้งสิบได้จึงมีบัญชาให้แม่ทัพสวรรค์โฮวอี้ลงไปเตือนพระอาทิตย์ทั้งสิบให้ยุติหยุดพฤติกรรมโหดร้าย ..โฮ่วอี้จึงลงมาสู่โลกมนุษย์และได้เกลี้ยกล่อมพระอาทิตย์สิบดวงให้พวกเขาหมุนเวียนโคจรวันละดวง ถ้าทำเช่นนี้ได้นอกจากจะส่งความอบอุ่นและแสงสว่างแก่มนุษย์ขณะเดียวกันจะไม่ทำให้โลกร้อนเกินไป ซึ่งพระอาทิตย์ทั้งสิบก็ไม่ได้กลัวเลยพวกเขาหาได้ใส่ใจไม่กลับท้าทายแม่ทัพสวรรค์

    เง็กเซียนจึงมีบัญชาให้โฮ่วอี้แม่ทัพสวรรค์ผู้มีความสามารถในเชิงธนูสูงยิ่งกว่าเทพและมนุษย์ทั้งปวงถือพระราชบัญชาไปสั่งให้พระอาทิตย์ทั้งสิบหยุดการเผาโลก หากไม่ฟังกันแล้วก็ให้โฮ่วอี้ยิงธนูข่มขู่เหล่าพระอาทิตย์ให้เกรงกลัวเป็นการใช้กำลังขู่ให้อาทิตย์ทั้งสิบหนีกลับไป เมื่อโฮ่วอี้ไปถึงก็ได้แสดงสาส์นของเง็กเซียนให้พระอาทิตย์ทั้งสิบเห็นแต่พวกเขากลับไม่ยอมเชื่อฟังทั้งยังกล่าววาจาท้าทายโฮ่วอี้ด้วยดวงตะวันแต่ละดวงนั้นย่อมมีฤทธานุภาพสูงสุดทั้งในสวรรค์และโลก เป็นทั้งลูกรักที่เง็กเซียนฟูมฟักและทนุถนอมมากที่สุดไม่เคยมีผู้ใดขัดใจ

    ทำให้โฮ่วอี้โมโหเกิดโทสะปีนขึ้นไปบนภูเขาคุณลุ้นและได้ยิงพระอาทิตย์ตกลงมาทีละดวงๆ เขาใช้ธนูสีแดงและลูกธนูสีขาวยิงใส่พระอาทิตย์ที่หยิ่งผยองโฮ้วอี้สังหารพระอาทิตย์ไปถึง 9 ดวงจากสิบตะวันเหลือเพียงดวงสุดท้ายที่กลัวตายและร้องขอชีวิตโฮ่วอี้จึงละเว้นไว้ พระอาทิตย์เลยเหลือดวงเดียวเหมือนปัจจุบันนับแต่นั้นมา มนุษย์จึงอยู่เย็นเป็นสุขได้และขอบคุณโฮ่วอี้ที่ช่วยเหลืออย่างมาก...เพราะนับแต่อดีตยังไม่มีผู้ใดสังหารเทพหรือดวงตะวันได้ถึงเก้าดวงติดต่อกันมาก่อน

    จากความชอบอนันต์กลับกลายเป็นโทษมหันต์เป็นการกระทำเกินเหตุ ผลสำเร็จของโฮ่วอี้ถูกเทพยดาอื่นๆอิจฉาไม่อยากให้ท่านจอมทัพถูกมนุษย์บูชายิ่งขึ้นไปอีกพวกเขาจึงทูลใส่ร้ายแม่ทัพสวรรค์กับเง็กเซียนทำให้เง็กเซียนโมโหมากที่โฮ่วอี้ทำเกินรับสั่ง บังอาจสังหารพระอาทิตย์ที่เป็นเหมือนพระบุตรสวรรค์ไปถึงเก้าดวง เง็กเซียนฮ่องเต้จึงห่างเหินจากโฮ่วอี้และในที่สุดก็เนรเทศขับไล่โฮ้วอี้ลงจากสวรรค์ไปอยู่ยังโลกมนุษย์เป็นการลดขั้นตำแหน่งของโฮ่วอี้จากแม่ทัพสวรรค์ผู้เกรียงไกรและหมดสิ้นความเป็นเทพ...นี่จึงเป็นสาเหตุทำให้โฮ่วอี้กลายเป็นมนุษย์ผู้เก่งกล้าแม้เทพเจ้าทั้งหลายยังขยาดหวาดกลัว เมื่อโฮ้วอี้ลงมายังโลกมนุษย์แล้วก็ได้รับการต้อนรับจากคนบนโลกในฐานะยอดวีรบุรุษของมนุษย์ชาติเป็นอย่างดีเพราะประชาชนทราบว่าโฮ่วอี้คือผู้สังหารพระอาทิตย์ก็พากันไปต้อนรับและยกย่องด้วยสำนึกในบุญคุณที่โฮว่อี้ได้ปราบพระอาทิตย์ช่วยชีวิตมวลมนุษย์เอาไว้

    ในยุคของโฮ่วอี้เมื่อลงมาอยู่กับมนุษย์ด้วยอำนาจฤทธิ์และทักษะธนูในระดับที่ทำลายพระอาทิตย์ได้ทำให้โฮ่วอี้ใช้ฝีมือยิงธนูปราบปรามสัตว์ร้าย,สัตว์ปีศาจดึกดำบรรพ์ต่างๆที่มีอยู่ในโลกมนุษย์จนเหี้ยนเรียกว่าขจัดต้นตอหายนะและเภทภัยทั้งหลายที่จะเกิดแก่มนุษย์แบบล้างทวีป จนกระทั่งพระเจ้าเหยาได้ตั้งให้โฮว่อี้เป็นเจ้าครองแคว้นยกให้เป็นผู้นำเผ่าหย่งฉิวจากเดิมเคยเป็นแม่ทัพสวรรค์ก็กลับกลายเป็นเจ้าครองแคว้น..เป็นกษัตริย์ที่ได้รับการบูชาเสมอเทพเซียนจากมนุษย์ทุกยุคสมัยเช่นนี้

    อีกาทองคำสุริยัน
    เมื่อจะทำ
    เครื่องรางที่มีอำนาจดั่งโฮ่วอี้สังหารอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้าหรือเทพพระอาทิตย์ผู้เป็นบุตรเจ้าสวรรค์ทั้งเก้าดวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางนั้นย่อมมีฤทธิ์พิฆาตเด็ดขาดที่สุดดั่งว่ามีกำลังของโฮ่วอี้และกาทองคำสุริยันทั้งเก้าหนุนกำลังส่งเสริมทำลายศัตรูรอบกายทุกทิศทางไปพร้อมกัน ท่านได้ใช้องค์เหล็กอาตมันแทนดวงธาตุเก้าทิศเพื่อเป็นตัวแทนของกาสุริยันทั้งเก้า ขอเมตตาเต๋าบ้อและเหล่าปรมาจารย์เทพวิญญาณสูงสุดมาทำยอดเครื่องรางชิ้นนี้ให้ตามคำแนะนำของเต๋าบ้อ ด้วยอีกาทองคำสุริยันนั้นนอกจากจะเป็นอาทิตย์เทพยุคบรรพกาลแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ชี้ทางออกจากชีวิตที่ติดขัดมืดมนไร้ความสำเร็จแก่มนุษย์ด้วย

    อำนาจของอีกาทองคำสุริยันย่อมเปิดสติปัญญาและหนทางอำนาจให้กับมนุษย์ การสังหารอาทิตย์ทั้งเก้าดวงของโฮ่วอี้แท้จริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่โฮ่วอี้สังหารเทพพระอาทิตย์ แต่เป็นโฮ่วอี้สังหารอีกาทองคำสุริยันซึ่งเป็นตัวพระอาทิตย์เอง อีกาทองนั้นมากด้วยรัศมีเพียงแค่กระพือปีกก็พัดเอาเปลวไฟที่ส่องสว่างดุจอาทิตย์พันดวงออกมาได้ แม้ปรากฏขึ้นที่ใดเพียงอยู่ไกลลิบมิได้สัมผัสตัวอีกาทองแต่ก็ยังให้อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นเผาไหม้เขาไปถึงกระดูก แสงรัศมีของอีกาทองคำสุริยันนั้นมีอำนาจทำลายล้างได้ทุกสิ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นรังสีสังหารปกคลุมได้ทั้งฟ้าดินไม่มีใครสามารถหาที่ซ่อนตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกาทองได้ ผู้ใดถูกอีกาทองคำสังหารแม้วิญญาณก็ถูกเผาไหม้ไปด้วยดุจว่าลบตัวตนคนผู้นั้นออกไปจากวัฏสงสารถูกกำจัดให้ปราศจากตัวตนตลอดกาล ด้วยกำลังของอีกาทองนั้นมากฤทธิ์ทั้งยังเป็นจอมราชันแห่งพระเพลิงทั้งหลายทั้งปวง..ในบรรดาเปลวไฟทั้งหมดของทุกโลกทุกวัฏสงสารไม่มีเพลิงใดเหนือไปกว่าเพลิงของอีกาทองคำสุริยัน..เช่นนั้นเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องรางพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมต้องใช้อำนาจของยอดบุรุษโฮ่วอี้และอำนาจของอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้ามาหนุนบารมีและกำลังฤทธิ์ของผู้บูชาเพื่อดับล้างทำลายศัตรูและอุปสรรคในหนทางชีวิตให้เหี้ยนลงทั้งหมด

    ด้วยสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่ามันแย่มากถึงมากที่สุด คนที่ดิ้นรนต่อสู้ก็จะสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคนที่อยู่จึงจำเป็นต้องเอาตัวให้รอดฝ่าฟันปัญหาเศรษฐกิจการเงินเรื่องปากท้องและเคราะห์กรรมต่างๆที่ไม่ได้ลดลงไปเลย ด้วยท่านเห็นว่าในกาลบัดนี้นั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาตราสังหารปรปักษ์ออกมาให้ผู้ที่ยังมีกำลังยังมีความสามารถได้ใช้ติดตัว..หากช้ากว่านี้คนที่สู้ได้จะกลับกลายเป็นไร้ทางสู้ ด้วยตราสังหารปรปักษ์นั้นเป็นเครื่องมงคลที่ใช้กำจัดศัตรูและสิ่งรอบกาย..สิ่งรอบข้าง..สิ่งรอบตัว..และทรัพย์ในตัวเองอันบกพร่อง สิ่งที่จะนำมาซึ่งปัญหานำมาซึ่งความไม่งอกงาม..ไม่งอกเงย..ไม่อุดมสมบูรณ์รอบทิศทางทุกชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละปราบปรามความไม่อุดมสมบูรณ์และปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาหาเรา ถ้ามีศัตรูหรือคนที่คิดร้ายพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เรานึกถึงหน้าเขาหากเขาทำผิดคิดชั่วกับเราจริงดวงตราก็จะทำกรปราบปรามคนผู้นั้นทันทีท่านว่ามีอาถรรพ์มากนะเพราะตรานี้เห็นผลทันทีโดยไม่ต้องรอ แม้พกติดตัวไว้ก็เป็นมหาอำนาจปราบได้ทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเกิดมาเพื่อทำให้ชีวิตเราเดือดร้อนและไม่สมบูรณ์แบบ เพียงอาราธนาเครื่องมงคลนี้ติดกายพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องลำบากไปเพ่งจิตนึกถึงใครเลย เพียงแค่ติดตัวไว้ความไม่สมหวังไม่สมมาตรปรารถนาความไม่อุดมสมบูรณ์ทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน...***แม้ทุกข์ยากดั่งชีวิตตกอยู่ในกลียุค ใครที่ชีวิตร้อนรนจะร้อนอย่างไรก็ไม่ร้อนเท่ารัศมีอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้า ท่านว่านั่นแหละฉันบอกได้แค่ว่าไฟชีวิตที่เผาผลาญเราจนเดือดร้อนนั้นดับลงได้สนิทเพราะตราสังหารปรปักษ์นี้ ไม่มีไฟใดไม่มีพระเพลิงที่ไหนจะแรงไปกว่าไฟของกาสุริยันแม้ไฟนั้นยังดับมาแล้วเช่นนั้นไฟที่แผดเผาชีวิตให้มอดไหม้เดือดเนื้อร้อนใจเหล่านั้นโฮ่วอี้ย่อมดับได้ทั้งสิ้น

    นอกจากนี้ยังใช้กันคุณไสยปราบสิ่งชั่วร้ายหรือจะเล่นทางอธิษฐานสารพัดนึกก็ได้ทั้งสิ้นเพราะท่านทำมาให้ใช้เป็นเครื่องรางดั่งพยนต์แต่มีอำนาจเหมือนโฮ่วอี้ผู้สังหารเทพเจ้า เช่นนั้นตราสังหารปรปักษ์นอกจากใช้ปราบแล้วยังใช้เรียกทรัพย์สินเงินทองได้ด้วย ...พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานไปสิ
    - ให้ท่านปราบผีความจนแบบนี้ถ้าใครไม่มีเงิน
    - ให้ท่านปราบปีศาจขี้โรคถ้าใครเจ็บป่วยด้วยโรคที่ไร้ทางรักษา
    - ให้ท่านปราบปีศาจเคราะห์ร้ายถ้าดวงใครสามวันดีสี่วันซวย

    แบบนี้พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่า
    ใช้ทางปราบได้ทุกทาง ..ปราบอย่างไรให้รวย ..ปราบอย่างไรให้หมดโรคภัย ...ปราบอย่างไรให้หมดโรคเวรโรคกรรมล้วนขึ้นอยู่กับคำสั่งเราทั้งสิ้นไม่ใช่จะใช้เขาทางกันศัตรูกันคนว่าร้ายเท่านั้นหากแต่ยังให้ใช้พลิกผันชีวิตให้ประสบความสุขสูงสุดได้เรื่อยๆอีกด้วย เช่นนั้นตราสังหารปรปักษ์จึงไม่ใช่เครื่องมงคลที่ใช้ปราบไพรีธรรมดาๆหากแต่ใช้ปราบศัตรูชีวิตเราได้ทุกชนิดทั้งยังมีอานุภาพแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่า"ไม่ต้องกลัวเสื่อม เพราะไม่มีวันเสื่อม" ด้วยท่านลงทำผงกันเสื่อมผสมไว้ให้ในผงที่อุดแล้ว

    ด้วยยุคเข็ญต่อไปภายหน้านั้นต่างคนก็ต่างเอาตัวรอด ต่างคนก็ต่างเล่นของเช่นนั้นท่านจึงนำตราสังหารปรปักษ์ออกมาด้วยจะมีประโยชน์แก่คนทำมาหากินจะได้ไม่ตกเป็นรองผู้ใดเอาไปใช้ปราบศัตรูคู่แข่งและกำราบปราบปรามพลังงานเลวร้าย ###ทั้งพลังธรรมชาติและกำลังที่มีคนกระทำใส่เรา พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละพลังงานในโลกนี้มีทั้งดีและไม่ดีมีทั้งที่ต้องโฉลกและไม่ถูกโฉลกกับเรา วันๆเราไปอาศัยที่ไหนผ่านไปจุดไหนยืนอยู่ตรงไหนร่างกายเรารับอะไรมาบ้างล้วนไม่มีใครรู้หรือระวังตัวได้ตลอดรอดฝั่งเช่นนั้น ถ้าเป็นพลังงานที่เสริมส่งสอดคล้องเกื้อหนุนเราก็ดีไป แต่ถ้าเป็นพลังที่ทำลายหรือก่อกวนวิถีชีวิตเราไม่สอดคล้องกับตัวเรานั่นก็ต้องปราบออกไป
    *** หลายๆคนมักจะถามพ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งชีวิตทำบุญมาเยอะแต่ทำไมเทวดาประจำตัวถึงไม่ช่วยเหลือยามวิกฤติ ท่านว่านี่ก็อีกกรณีนึงเหมือนกันร่างกายเราไปรับอะไรมาสารพัดแม้ตัวเราไม่รู้ก็ใช่ว่าเทวดาจะไม่รู้ แล้วเทวดาประจำตัวที่อ่อนกำลังลงเรื่อยๆเช่นนั้นจะไปช่วยเหลือใครเขาได้ลำพังตัวเองก็ยังแย่ เหมือนที่พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าทุกสิ่งนั้นมีเหตุผลของมันขึ้นอยู่กับใครจะเข้าใจได้รึเปล่า หากเทวดาประจำตัวอ่อนกำลังแล้วท่านว่านี่แหละทางแก้ตราสังหารปรปักษ์นี้จะปราบปรามกำลังที่สั่นคลอนชีวิตเราทั้งเสริมกำลังให้เทวดาประจำตัวเรามีฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ...พ่ออาจารย์ท่านว่าพกไว้เถิดฉันบอกได้แค่ว่าดีแต่จริงๆก็มีอะไรที่พูดไม่ได้อีกมากเพราะข้างบนท่านสั่งห้ามเด้ดขาดให้มันเป้นไปตามกำลังวาสนาของคนผู้นั้นไม่ต้องชี้นำ

    ตราสังหารปรปักษ์เขาจะปล่อยพลังงานโดยตัวเขาเองไม่เพียงสะท้อนกลับแต่ยังทำลายและดูดเคราะห์ร้าย..พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งตรานี้ใช้งานมากเท่าไหร่ใครที่มีเคราะห์มากชีวิตวุ่นวายดวงตราก็ทำงานหนักยิ่งเขาทำงานหนักก็ยิ่งมีกำลังมากเรียกว่าขอให้ใช้ไปเถอะยิ่งใช้จะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ ..ใครที่มีตรานี้ไว้ไม่ต้องกลัวเขาไม่เก่งเลย จะปฏิเสธว่าตัวเองศัตรูน้อยอย่างไรก็ตามเอาว่าเชื่อเถอะโลกที่กำลังจะหมุนไปนี้ด้วยการแก่งแย่งชิงดีกันทุกทางยากนักที่จะหาผู้ใดอยู่ได้โดยปราศจากศัตรูในเบื้องหน้า พ่ออาจารย์ท่านได้นำแก่นไม้มะขามโปร่งฟ้าที่มีลักษณะกลวงเรียกว่าโปร่งฟ้าปัดตลอดที่ถูกฟ้าผ่ายืนตายมาทำเป็นฐานรองของตราสังหารปรปักษ์ ด้วยว่านอกจากมีฤทธิ์แล้วยังมีกฤติยาคมแฝดทำให้คนเกรงขามในบารมีของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้แบบนี้มีอาถรรพ์แรงมากเรียกว่าเป็นที่สุดทั้งโปร่งฟ้าปัดตลอดยังเป็นเคล็ดให้ชีวิตคนที่ติดขัดไม่สมความปรารถนาอยู่กลับกลายปลอดโปร่งไร้อุปสรรคขวากหนามดุจการตัดไม้ข่มนามที่ทำให้เราไร้พ่ายครองชัยชนะอยู่เรื่อยไป จะทำการใดมีแต่ปลอดโปร่งโล่งสบายไม่ติดขัดทั้งมะขามโปร่งฟ้าปัดตลอดที่ต้องสายฟ้าผ่ายืนต้นตายยังหาได้ยากยิ่งนัก

    โฮ่วอี้ดับ 9 ตะวัน
    พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดแกะด้วยต้นกำจัดที่ขึ้นในดงไมยราบถือเคล็ดว่ากำจัดได้ทุกสิ่งจนเหี้ยนราบ..ไม่มีสิ่งใดที่กำจัดไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำต้องขอบารมีวิสุทธิเทพฝ่ายเต๋าท่านทำท่านเสกให้เป็นอย่างๆไปก่อนกว่าจะได้มารวมกันไม่ใช่ง่าย ท่านว่าทำตราสังหารปรปักษ์นี้มันท้าทายตัวเราเองมากๆด้วยมีไว้ปราบสิ่งที่เกินกำลังคนที่เขาเอาไปใช้ ขาไม่ไหวมันเกินกำลังชีวิตเขาแน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นย่อมต้องเป็นเรื่องใหญ่..ถ้าเป็นคนที่สร้างปัญหาก็ต้องเป็นคนใหญ่คนโตจึงจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ได้ พูดง่ายๆคือปราบคนที่กระทำต่อเราโดยไม่สุจริตถึงจะเป็นคนใหญ่คนโตเป็นหัวหน้าเป็นเจ้านายที่มีบารมีมากกว่าเราก็ไม่ละเว้นขอเพียงเขาให้โทษเราเท่านั้นไม่มีเลือกว่าเขาจะมีอำนาจปานใดเลย ...หรือจะมีคนหาเรื่องมาให้เราเป็นปกติของวิถีมนุษย์ที่อยู่ดีๆอยู่เฉยๆเราก็ไปเจอปัญหาพบอันตรายทั้งหลายจากคนที่ตั้งใจนำความเดือดร้อนมาให้เรา คนที่ตั้งใจมาเกาะมาพึ่งเราเรียกว่ามีทุกข์จรเข้ามามีความเดือดร้อนจรเข้ามาเรื่อยๆดั่งเห็บหมัดที่คอยรังควานไม่จบสิ้น เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกว่า"โฮ่วอี้ดับ 9 ตะวัน" นั้นท้าทายอยู่มากๆจำเป็นต้องสร้างจากไม้กำจัดในดงไมยราบเพื่อจะลงวิชาเป่าคาถาพระเวทย์ทางมหาปราบทุกสายให้ปราบเรื่องใหญ่น้อยทุกปัญหาได้เหี้ยนราบเป็นหน้ากลองทั้งสิ้น

    หากมีวาสนาได้อาราธนาตราสังหารปรปักษ์แล้วแม้กลียุคจะผ่านเข้ามาก็ยังลืมตาอ้าปากได้จะมีกินมีใช้ทั้งมั่นคงในอำนาจวาสนา คนที่ดวงร้ายก็กลายเป็นดีได้เพราะท่านลงผงกลับดวงผสมไว้ด้วย *** เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อปราบทั้งหมดแล้วยังต้องให้กำเนิดสิ่งที่เป็นมงคลเพื่อไม่ให้ชีวิตย่ำอยู่กับที่หรือต้องใช้ความพยายามของตัวเองมากเกินไป..จนเหนื่อย..จนท้อเหมือนที่ผ่านๆมา พ่ออาจารย์ท่านจึงลงผงยันต์มหากำเนิดเป็นมวลสารหลักใช้ฝังตราสังหารปรปักษ์นี้ด้วยท่านถือว่าพอปราบปรามสังหารสิ่งไม่ดีออกจากชีวิตจนสูญสิ้นแล้วสิ่งดีๆจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเริ่มต้นใหม่ ด้วยตราสังหารนั้นทำงานดุจค่ายกลทั้งผงมหากำเนิดยังเร่งเร้าสิ่งประเสริฐสวัสดิมงคลให้จำเพาะเจาะจงสิ่งที่เราต้องประสงค์หรือชีวิตเราดำเนินการอยู่ให้สำเร็จโดยง่ายท่านว่าเพราะผงมหากำเนิดนี้จะแก้ปมชีวิตแต่ละคนได้ ปมต่างๆที่ผูกมามั่วซั่วยุ่งยากจนหาต้นเหตุไม่ได้คลำไปจนตาบอดก็หาไม่เจอปัญหาต่างๆที่รุมเร้ารอบทิศทางย่อมถูกแก้ไขให้กำเนิดแต่เรื่องประเสริฐและสิ่งประเสริฐในชีวิตเราตลอดไป

    ตราสังหารปรปักษ์หรือโฮ่วอี้ดับตะวันนั้นเป็นตราดับเรื่องร้อนและทุกข์ยากในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากเพราะตรานี้แรงอยู่เหนือปัญหาทุกอย่างทุกเรื่อง ปัญหาทั้งหลายในชะตาชีวิตมนุษย์จะพึงมีปัญหาเหล่านั้นจะไม่มีผลเลย เพราะตราสังหารนี้เหนือดวงแม้สุริยันเก้าดวงยังดับได้ คนที่เคราะห์หามยามร้ายดวงตกดวงดาวให้โทษไม่ต้องกลัวพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีผล แม้คนที่โนกระทำโดนรังแกจากคนที่มีอนาจบารมีหรือผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีตบะฌาณพ่ออาจารย์ท่านว่าเหล่านี้หายห่วงต่อให้ศึกผีหรืออสูรนรก,เทวดาบนสวรรค์องค์ไหนๆจะศึกอะไรก็ชนะหมด ตราสังหารปรปักษ์นี้ไร้พ่ายแค่ติดตัวไว้ทั้งภูติผีปีศาจก็ดี,ตัวโทษ,ตัวเคราะห์ร้าย,ตัวภัยพิบัติ,ตัวโรคระบาดก็ดี...สรรพเข็ญสรรพเคราะห์เหล่านี้ย่อมหนีห่างจากตราสังหารปรปักษ์ไกลถึงร้อยลี้ไม่เข้าใกล้หรือให้ผลต่อตัวเราเลย จะทำกิจใดแข่งขันกับใครก็ชนะเพราะฐานเราแน่นดวงเราดีของเราจริงตัวช่วยเราเก่งไม่เป็นสองรองใครเช่นนี้เอง ### ในภาคหน้าแม้ชนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยาก ผลหมากรากไม้จะไม่งอกงาม หันมองหน้ามนุษย์คนใดล้วนหน้าเศร้า ...ท่านว่านั่นแหละถือตรานี้เธอรอด

    ด้วยตราสำคัญนี้มีกำลังดวงอาทิตย์หรือกาทองคำสุริยันถึงเก้าดวงที่พ่ออาจารย์ท่านผูกไว้ให้หนุนบารมีแก่ผู้บูชาดั่งคติโบราณว่าทุกสรรพชีวิตย่อมกำเนิดมาแต่ครรภ์บิดามารดา แม้หญิงชายก็ย่อมเกิดขึ้นแต่ตะวันจันทราเช่นนั้นจึงเปรียบมารดาและบิดาเป็นตะวันจันทราของบุตร ด้วยถือว่าสุริยาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่ให้คุณสูงสุดตามธรรมชาติทั้งกำเนิดขึ้นก่อนสรรพชีวิตทั้งปวง เหนือสิ่งอื่นใดเลยพระอาทิตย์ย่อมส่งพลังงานเข้าหาสรรพชีวิต พ่ออาจารย์ท่านจึงทำตามดำริครูบาอาจารย์เบื้องบนนำเหล็กองค์ธาตุอาตมันมาแทนพระอาทิตย์หรือกาทองคำสุริยันทั้งเก้า..ด้วยถือคติว่ารัศมีมหาพรหมนั้นแรงกล้าดุจอาทิตย์พันดวงเช่นรัศมีอีกาทอง ท่านได้ผูกอาถรรพ์ลงตะกรุดกำกับตะวันแต่ละดวงเพื่อดึงกำลังอาทิตย์ทั้งเก้าส่งเสริมเราไม่ให้กำลังงานในตัวเราอ่อนด้อยและไม่เสถียรจนเกิดเรื่องร้ายต่างๆมารบกวนชีวิตได้

    คนที่กำลังหรือพลังในตัวเองไม่เสถียรนั้นมักจะเกิดเรื่องร้ายแก่ดวงชะตาโดยตรงจะมีเรื่องยุ่งยากต่างๆเข้ามาให้ปวดหัวกันอยู่เรื่อยๆทั้งเป็นคดีความบ้าง ผู้ใหญ่รังแกเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้ง เทวดาให้โทษภูติผีปีศาจเล่นงานก่อกวนนี่คือคนเหล่านี้ที่พลังงานของสุริยะเทพไม่สงเคราะห์ทำให้กำลังในตัวเองไม่เสถียรพูดง่ายๆเหมือนคนป่วยแต่เป็นอาการป่วยบารมี คนแบบนี้จะทำอะไรก็ซวยไปหมดจับโน่นทำนี่ก็เคราะห์ภัยดวงหด เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าตราสังหารปรปักษ์จำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมรอบด้านจริงๆท่านจึงได้ผูกตะกรุดชุดพิเศษขึ้นมากำกับดึงกำลังพระอาทิต์ทั้งเก้าสงเคราะห์ธาตุขันธ์ ท่านว่าลำพังอาทิตย์บนหัวเราถ้าชีวิตย่ำแย่แก้ไม่ตกก็ช่างมันเพราะตรานี้มีอาทิตย์อีกเก้าดวงหนุนเราอยู่...คิดดูสิว่าเราจะมากบารมีขนาดไหน

    ทั้งตราสังหารนี้ยังผูกไว้ให้เป็นตัวตายตัวแทนนั่นคือเป็นตายรับเคราะห์แทนตน ยามใดที่เรามีเคราะห์เลี่ยงไม่ได้แน่นอนแล้วเขาจะรับไปก่อนเรา นอกจากจะทำให้ชีวิตเราไปได้สูงขึ้นยังดุจว่าเรามีพี่เลี้ยงคอยปกป้องดูแล คนที่ถึงฆาตถึงเคราะห์หรือเจ็บไข้ได้ป่วยจะเจอเรื่องแปลกกับสิ่งที่มองไม่เห็นในตราสังหารนี้ เช่นนั้นคนที่มีศัตรูมาก,ดวงไม่ดี,ทำมาหากินไม่ขึ้น,ค้าขายขาดทุนย่อยยับ,คนรักนอกใจ,เจ้านายไม่อุปถัมภ์,บริวารไม่เชื่อฟัง,แข่งขันพ่ายแพ้...พ่ออาจารย์ท่านว่าถือตรานี้ไปใช้เถิดแล้วจะรู้ว่าของจริงเป็นเช่นใด

    คาถาบูชา

    รายการนี้เป็นเครื่องรางที่ท่านว่าไม่ต้องใช้คาถาใดๆกำกับทั้งสิ้น เพราะวิสุทธิเทพฝ่ายเต๋าท่านทำมาให้เป็นของสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว ท่านว่าดีแล้วไม่มีวันเสื่อมขอให้นำไปใช้เถิดจะพกติดกายหรือไว้ในบ้านเรือนจะเลือกบูชาเป็นเครื่องรางอย่างใดก็แล้วแต่ไม่มีเสื่อมถอยใดๆเลย พกติดตัวไว้จะไม่มีศัตรูหมู่มารใดๆมากล้ำกรายรุกล้ำเราได้

    จงจำเอาไว้

    ต่อไปเบื้องหน้าโลกจะแปรเปลี่ยนไปทั้งภัยพิบัติทางบกทางน้ำทางอากาศและภัยธรรมชาติทั้งหลาย โรคร้ายอันตรายทั้งปวงที่ไม่เคยเจอเกิดมาหนนี้ก็จะได้เจอกันครบทุกเรื่อง แต่คนที่ถือตราสังหารปรปักษ์นั้นจะรอดจากภัยทั้งหมดไอ้ที่ว่าดวงไม่ดีหุ้นตกดวงแตกทำงานขาดทุนเหล่านั้น..เรื่องร้ายจะกลับเป็นดี ต่อไปเศรษฐกิจจะแย่บ้านเมืองจะวุ่นวายแต่เธอรอด ด้วยตรานี้จะทำอะไรก็ชนะคนทั้งปวง

    ### บอกได้ว่าเป็นเครื่องรางที่ทำยากมากทั้งมวลสารและตะกรุดที่ลงแต่ละดอกล้วนขับให้มีอำนาจดุจอาราธนาอาทิตย์เก้าดวงเป็นบริวารโฮ่วอี้ดับล้างขวากหนามได้ทุกสิ่ง เครื่องรางชิ้นนี้ไม่ใช่พระรามอย่างที่หลายท่านสอบถามกันหากแต่มีฤทธิ์เสมือนโฮ่วอี้รวมกำลังกับอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้า เปรียบกับพยนต์ที่ฟังคำสั่งของเราทุกสิ่งไม่ใช่เทพที่รอการบูชา สำหรับรายการนี้ผู้เช่าให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดให้ชัดเจนพ่ออาจารย์ท่านจะหาสิ่งที่แรงที่สุด..เหมาะสมที่สุด..เสริมบารมีเจ้าของได้มากที่สุดมาผนึกไว้ด้านหลังตราสลักเทพให้เป็นของพิเศษเป็นคนๆไป(เหมือนได้ของขวัญเป็นของใช้ประจำตัวแต่ละคนแตกต่างกันออกไป) เป็นเครื่องรางที่ใช้ได้ตามคำสั่งเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงระดับประหารเทพแต่รุ่นนี้ฉันไม่ได้ทำมาเพื่อให้คนบูชาแบบเทพหากแต่ทำเป็นเครื่องรางของมนุษย์โดยยอดบุรุษต้นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เทพทั้งหลายยังขยาดกลัว

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดให้ชัดเจนนะครับ (รอเปิดประวัติพรุ่งนี้..บอกเลยว่ารายการนี้อาถรรพ์แรงมากๆเพราะมวลสารโหดจริงๆเอาไว้ใช้กับคนที่ชีวิตมากเสี้ยนหนามมีศัตรูและสิ่งรบกวนรอบกายคอยรังควานกวนเราอยู่เสมอ..ทั้งมนุษย์และอมนุษย์)

    ร่วมทำบุญบูชา ตราสังหารปรปักษ์สลักเทพ(ประหารอีกาทองคำสุริยัน) บูชา 4,000 บาท

    134739626-232844208222476-652126087635133906-n.jpg
    134960456-442385970129126-7612708419841791405-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2021
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    รายการนี้ถือเป็นเครื่องมงคลรุ่นแรกเลยที่ออกมาแล้วพ่ออาจารย์ท่านต้องคำนวณวันเดือนปีเกิดทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะฝัง..สิ่งที่เป็นของขวัญไว้ด้านหลังให้เหมาะสมกับสิ่งที่ชีวิตแต่ละคนขาดมากที่สุด

    .....ดั่งที่ท่านย้ำว่าให้
    เอาไว้ใช้กับคนที่ชีวิตมากเสี้ยนหนามมีศัตรูและสิ่งรบกวนรอบกายคอยรังควานกวนเราอยู่เสมอ..ทั้งมนุษย์และอมนุษย์
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    คืนนี้ห้ามพลาดกันนะครับกับเครื่องรางชั้นสูงสายพญามาราธิราชที่แรงแบบลูกโดด แอบกะซิบว่าท่านแกะพญามารได้หล่อและหน้าหวานกรุ้มกริ่มสมเป็นพญามารราธิราชมากๆ ห้ามพลาดกันนะครับนานๆทีจะมีซักครั้งกับชุดเครื่องมงคลในบารมีของพญามารหรือท้าวมาลัยผู้เป็นหน่อพุทธเจ้าอนาคตวงศ์
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า(ข้าเอาให้เจ้า)

    ศาสตราประสาทประสิทธิ์ฝัน สำหรับผู้ที่ฝันสูง มีปรารถนาเกินตัว ดั่งว่า.....แม้พญามารยังฝันสูงจนถึงนิพพาน เป็นเคล็ดว่าแม้พญามารท่านฝันสูงขนาดนั้นยังสำเร็จ..ยังจะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าในเบื้องหน้า ความปรารถนาอื่นใดของเราพระองค์ผู้บรมโพธิสัตว์ย่อมหยิบยื่นให้จนกว่าจะถึงพระนิพพาน ไม้อาญาสิทธิ์บารมีสูงสุดในองค์พญามาราธิราชที่พ่ออาจารย์ท่านทำได้เพียงครั้งเดียว ด้วยว่า.. ไม้ครูย่อมต้องอาศัยแรงครูในการชักชวนผู้เป็นเจ้าของเพื่อสืบทอดอาญาสิทธิ์แห่งครูนาม "พญามาราธิราช" หรือท้าวมาลัยผู้เป็นหน่อพุทธเจ้าอนาคตวงศ์ อักขระอาถรรพ์ในสายวิชาพญามาราธิราชและผงวิเศษต่างๆในตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแรงมาก

    พญามารหกพระพักตร์
    ที่ท่านให้ทำนี้เป็นพญามาราธิราชที่มีอาถรรพ์แรงสุดสูงสุดที่ท้าวมาลัยท่านสั่งให้พ่ออาจารย์ทำเพื่อโปรดศิษย์ในสายบารมีองค์ท่านเพราะรูปกายท่านแท้จริงแล้วมีหกหน้าเช่นนี้ ท่านว่าต้องทำหกหน้าเท่านั้นบารมีถึงจะลงมาได้เต็ม ทั้งท่านให้ทำเพียงแต่เศียรเท่านั้นด้วยว่าอาถรรพ์จะแรงกว่าทำเต็มองค์

    " บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)

    "พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)

    หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำสิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก ...เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญแต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัวจินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้วยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิมนับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า "ใน
    บรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ" .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมารหรือประมุขเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป,เสียง,กลิ่น,รส,โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณการดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่าขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้นเค้าก็มีหน้าที่ของเค้าหากให้กล่าวกันจริงๆแล้วหน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกันและไม่รู้ไม่เข้าใจ..ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิดเพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตามจะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้าก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์,มีอานุภาพใหญ่,มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

    มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้าจึงเป็นไม้ครูในอาญาสิทธิ์แทนครูพญามาราธิราชอย่างแท้จริง หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำไม้อาญาสิทธิ์นั้นท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ นอกจากพระเวทย์สวรรค์ชุดนิพพานมารฟ้าอันจะช่วยผู้ที่ฝันสูงมีความปรารถนาเกินตัวแล้วท่านยังกำหนดให้แกะพญามารหกพระพักต์ให้มีใบหน้าละมุนงดงามอ่อนช้อยที่สุดโดยต้องแกะรูปท่านจากไม้หิ่งหายผีเท่านั้น ท่านว่าไม่เคยมีใครทำรูปท่านได้ถูก..ได้ตรงเลย หนนี้จึงให้พ่ออาจารย์ทำไว้ให้เหมือนรูปกายแท้จริงยามท่านแผลงฤทธิ์มากที่สุด ### นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกเศียรครูพญามารว่าปางแผลงฤทธิ์หมายถึงพร้อมที่สุดแล้วที่จะออกฤทธิ์ออกเดชด้วยเป็นปางสูงสุด

    ด้วยจะทำให้มีฤทธิ์อำนาจและแรงครูสูงสุดม้อาญาสิทธิ์นั้นองค์พญามาราธิราชท่านจึงให้นำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันอุดไว้ภายในเป็นแก่นวิชาเพื่อสร้างไม้อาญาสิทธิ์ที่มีพลังงานเหนือโลกอยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ การทำไม้อาญาสิทธิ์ของพญามารนั้นพ่ออาจารย์ว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเป็นเครื่องสูงที่มีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลายก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลกด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคนเกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้างถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลยไปบวชเสียไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้วเช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรมดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาวิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า,สิ่งสวยงามสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้านั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมารมันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด..หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ..หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

    ไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลชุดนิพพานมารฟ้านี้มีอำนาจ "บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต" อย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์,เยาะเย้ยเวรกรรม,ผันผวนชะตา,ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้นหากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใดด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ..มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์..มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่ในภพ,ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆอยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย..หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด,พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็นเกินประโยชน์ใช้สอย..เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตตมารนั่นเอง

    ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด..สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง,ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้นท่านได้กำหนดรูปแบบของไม้อาญาสิทธิ์แทนวาสนาบารมีของท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพระเศียรและแม้แต่ผงที่จะใช้อุดต้องจำเพาะลงไปว่านอกจากผงคตที่อุดภายในนั้นก็ใช้อุดปิดได้เพียงผงพุทธนิมิตกับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึงนำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถก่อนจะอุดปิดก้นด้ามไม้อาญาสิทธิ์ ท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลงซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิตเนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราช พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้วการใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้นสิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา

    ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า
    ด้วยพญามาราธิราชท่านเล็งเห็นว่าปัญหาความเสื่อมโทรมและทุกข์ยากของผู้คนนั้นกำลังจะแผ่ขยายมายังศิษย์ทั้งหลาย ท่านเมตตาด้วยว่ายังมีบางคนที่ลุกขึ้นสู้ถึงแม้จะมีฐานะยากจนหรือประสบชะตากรรมอันยากลำบากแต่ก็มีความขยันอดทนและตั้งใจเดินตามความใฝ่ฝันที่ดีของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพญามารท่านยังเมตตาอยู่ตรงนี้เพราะคนที่มีฝันเหล่านั้นเมื่อฝันแล้วเดินตามจึงจะเกิดพลังงานสร้างสรรค์เหนือพรหมหรือกรรมลิขิตเรียกว่าชีวิตยังมีไฟเพียงมุ่งเดินไปตามฝันก็จะพบแสงสว่าง เช่นนั้นท่านจึงให้วิชามาชุดนึงซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า" ท่านว่าให้เอาไว้ใช้ช่วยคนที่เขาไม่ย่อท้อเพื่อดึงเขาเข้าสู่ความสำเร็จไม่ว่าฝันนั้นจะสูง...จะยาก..จะอยู่ไกลเพียงใด ในขณะเดียวกันวิชาชุดนี้จะมีอานุภาพควบคุมพลังงานด้านบวกทุกๆสิ่งมาเกื้อกูลเราโดยตรงท่านว่าไม่ว่าเราจะเป็นใครจะมีความฝันอย่างไรต่อไปนี้ย่อมทำฝันของเราให้เป็นจริงได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติคนนั้นย่อมมีความปรารถนาไม่สิ้นสุดมีความคิดที่จะทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา บางคนก็ละเมอเพ้อพกในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้จึงเรียกว่ามีทั้งคนประเภทที่สามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้ผ่านการกระทำของตนเอง(เป็นประเภทคิดแล้วลงมือทำ)
    กับอีกประเภทนึงคือฝันเกินจริงเป็นเพียงจินตนาการที่ตนติดอยู่ในความปรารถนานั้นด้วยพ่ออาจารย์ท่านเข้าใจว่าการทำความฝัน,ความคิด,ความปรารถนา(ที่เราตั้งไว้ให้เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต)นั้นให้เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนที่เราจะผ่านไปยังจุดที่สูงที่สุดได้เราต้องผ่านอะไรมา
    *** ถึงแม้จะประสบความสำเร็จแต่เส้นทางนั้นกลับไม่ง่ายเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่มีแต่แรงใจอย่างนี้ย่อมเหนื่อยมากและใช้เวลานานมากเกินไปเช่นกัน เช่นนั้นนิพพานมารฟ้าจึงเป็นวิชาที่จะชักนำเราไปสู่ความฝันขั้นสูงสุดแบบที่ไม่ต้องรอเวลาไม่ต้องใช้กำลังเกินตัวด้วยอานุภาพแห่งท้าวมาลัยหรือพญามาราธิราชผู้เป็นใหญ่ประณีตสูงสุดในกามคุณ ท่านว่าเพราะความสำเร็จนั้นมันมีอยู่หลายแบบแต่เนื่องจากเรานั้นเป็นมนุษย์จึงรู้ไว้เลยว่าทุกอย่างมันเป็นความว่างเปล่าอะไรที่อยากอะไรที่ต้องการมันมักจะไม่ได้มา ส่วนอะไรที่เราไม่คิดไม่ปรารถนานั่นย่อมได้มาง่ายๆเช่นนั้นพอคนเราตั้งปณิธานตั้งความหวังไว้แล้วเดินไปตามฝันเส้นทางนั้นจึงมักเปนอะไรที่ยากเป็นพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเพราะเราเป็นมนุษย์ส่วนความสำเร็จนั้นเขาเป็นนามธรรมเป็นกฏของวัฏจักร ดังนั้นความฝันที่จะสำเร็จได้จึงเป็นนามธรรมที่สูงส่งยิ่งเกินกว่าความคิดเหลวไหลที่ไขว่คว้าได้ ทีนี้เมื่อมนุษย์เอาตัวเองเข้าไปหาไปไขว่คว้านามธรรมเช่นนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากและเกินกำลังแต่ด้วยอำนาจพญามารผู้ควบคุมกฏสัจธรรมกามคุณทั้งมวลท่านจะเอื้อให้ปัจจัยทั้งปวงเกิดขึ้นได้เพื่อดึงเอามโนและความคิดของเรามาทำให้มันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง ท่านจึงเปรียบห้วงฝันบรรพกาลนี้ว่าสำคัญนักด้วยเขาเป็นปัจจัยที่จะสร้างตัวตนของเรา..สร้างความคิดเราให้ปรากฏในโลกความจริง

    สำหรับ
    คนที่ไม่สามารถทำให้จินตนาการหรือความฝันง่ายๆเป็นความจริงได้ แม้กระทั่งเรื่องฝันอันสูงสุดที่ตั้งไว้เป็นเป้าสุดท้ายในชีวิตว่าชาตินี้ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องอันยากที่มนุษย์จะทำก็ยังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเรื่องใดนั่นก็ล้วนเป็นความปรารถนาที่จะจุดไฟในชีวิตของตัวเราอยู่ลึกๆทั้งสิ้นแต่ทุกคนคงรู้ดีกันอยู่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน *** บางคนนั้นเหนื่อยเพราะเดินตามฝันมามากและเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตามฝันให้สำเร็จหรือเป็นจริงได้ บางคนนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ด้วยอาชีพกับสิ่งที่คิดนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลยจึงไม่มีโอกาสเดินตามความตั้งใจของตนเองด้วยพันธะต่างๆมากมายที่เกี่ยวรัดพัวพันเนื้อตัวและชีวิตเราอยู่ บางครั้งจึงทำได้เพียงเสียดายและเสียใจทำได้เพียงแค่ยืนมองฝันนั้นอยู่ในความคิดในขณะที่บางคนยืนมองความฝันนั้นหลุดลอยไป บางทีเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่เราคิดไว้จนสำเร็จก็ยังทอดถอนใจว่าทำไมคนๆนั้นถึงไม่ใช่ตัวเรา อาการค้างคาใจและปล่อยไปเหล่านี้มันทำให้เราเดินวนอยู่ในเกมส์ชีวิตที่เราเล่นไม่ชนะ ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งก่อสร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จดุจนั่งอยู่ในบ้านที่ไม่มีหลังคาพอฝนมันตกฟ้ามันผ่าก็กังวลหาทางรอดไปวันๆ ด้วยความฝันนั้นถึงบางทีพอทำจริงๆแล้วอาจจะดูยากเกินไปบางคนพยามจนเหนื่อยแทบตายก็ไปไม่ถึงเสียทรัพย์สินลงทุนลงแรงไปเปล่าๆ ความคิดว่าเราเสียดายเวลาเสียดายนั่นนี่ไปเรื่อยมันจึงเป็นความคิดที่เราบั่นทอนกำลังใจตัวเอง ### เช่นนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยหากจะเดินไปให้สุด..ไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดคว้าเอานามธรรมที่ยิ่งใหญ่ดึงมันลงมาก็คือแรงสนับสนุน ด้วยห้วงฝันบรรพกาลนั้นจะเป็นกำลังที่เราขาดสนับสนุนเราให้ความฝันเปลี่ยนถ่ายปัจจัยเกื้อกูลกันเป็นชีวิตจริง

    ชีวิตใครที่หมดหวังหมดสิ้นกำลัง...แลหยุดเดินแล้วท่านว่าต่อไปไม้ครูนิพพานมารฟ้าจะเป็นดั่งกุญแจเพียงดอกเดียวที่ใช้ไขเปิดชะตาเขา ผลักให้เราเข้าใกล้ความฝันช่วยให้มีแรงบวกสนับสนุนเอาชนะความคิดและจิตใจตัวเองเป็นปฐมก่อนจะเอาชนะทุกสิ่งในโลกแห่งความจริง ท่านว่าขอแค่เพียงเราลงมือและอาราธนาไม้ครูไว้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในชีวิตจะจางลางเลือนไป ขอแค่เรากล้าในสิ่งที่ถูกคุณของห้วงฝันบรรพกาลนั้นจะผลิดอกออกผลให้เราเห็นให้เราค้นหาอีกตัวตนนึงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของเราเจอ ทั้งปลดปล่อยตัวเราออกจากโลกแห่งความฝันที่ปิดตาย..โลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริงขอเพียงตัวตนของเรามีความต้องการและมีความพร้อมที่จะรับทุกอย่างเพื่อเป้าหมายนั่นย่อมเป็นธุระของท้าวมาลัยที่จะ"นำมาให้" ด้วยความปรารถนาให้ชีวิตตนสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้..ไม่ใช่เรื่องที่มีวันหมดอายุ..ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับอายุขัยว่าจะหนุ่มจะแก่ทุกคนมีความฝันได้หมด ทั้งฝันเรื่องการทำงานการประสบความสำเร็จต่างๆในขณะที่ความสำเร็จบางคนไม่อยู่ที่การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคนั่นก็มีนั่นแหละกำลังของท้าวมาลัยท่านจะนำเราเข้าหาสุขอันเกิดขึ้นจากฝันที่สมปรารถนา ทั้งยังจะป้องกันตัวเรายามเจออุปสรรคทั้งหลายในปัจจัยเสี่ยงรอบตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนั้นย่อมมีจิตวิญญาณมารฟ้าคือพญามาราธิราชไม่ใช่มงคลวัตุถุปกติธรรมดา ท่านจะคอยเติมเต็มให้เราสมหวังในความฝันทุกด้านขอเพียงใจเรามีปรารถนาเพียงเท่านั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องขอก็ได้ดั่งใจ

    ผู้ถืออาญาสิทธิ์แห่งมารฟ้าผู้เป็นจอมเทพจะเกิดความเจริญรุ่งเรืองในกามคุณบริบูรณ์ทุกสิ่งไม่ขาดสายดั่งพลิกกลับโชคชะตาให้สูงขึ้มีอำนาจวาสนาบารมีมีคนนับหน้าถือตาทั้งยังใช้สะกดให้คนเชื่อฟังอยู่ในอำนาจของเรา ใครที่ดวงตกทำมาหากินไม่ขึ้นไม่เคยมีโชคเลยนั่นแหละพญามารท่านเปิดดวงให้เราทำตามความฝันได้ง่ายๆทำอะไรก็สำเร็จง่ายดายได้สิ่งที่ต้องการจากคนอื่นง่ายๆเหมือนเขาโดนโจรปล้น ท่านว่าไม้อาญาสิทธิ์ชุดนี้ใครมีไว้จะรุ่งเรืองเอาชนะคนใจแข็ง,เอาชนะคนรัก,เหนือคู่แข่ง,เหนือศัตรู แม้ลงมือทำอะไรย่อมกินใจผู้อื่นขอเพียงมีความฝันไม่ว่าจะเรื่องใดอาญาสิทธิ์มารฟ้าย่อมบันดาลให้เร็วไวได้เสมอแม้ไม่ต้องขอไม่ต้องอธิษฐาเพียงเราใช้ชีวิตของเราไป เท่านี้ก็จะพบเจอความสำเร็จตามฝันอยู่ที่ไหนชีวิตไม่มีตกอับ


    คาถาบูชา

    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ


    *** มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า(ข้าเอาให้เจ้า)ในบารมีของพญามาร พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าองสิ่งนี้ต้องใช้ชะตาทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนครอบครองจึงไม่ให้พูดอะไรก่อนประกอบกับของมีน้อยมาก ท่านว่าถ้าใครฉุกคิดได้ก็ตรงตามชื่อเลยใช้อย่างนั้นแหละ"ข้าเอาให้เจ้า" ...เอาอะไร ก็นี่แหละ...อมเทพผู้ควบคุมความปรารถนากิเลสฝ่ายมารความต้องการจะให้จะมีของสรรพสัตว์,เทวดา,มาร,พรหมทั้งหมด ....จอมเทพผู้มีอำนาจบงการได้แม้แต่ท้าวมหาพรหม ...จอมเทพผู้ประสิทธิประสาทห้วงฝันแต่ครั้งบรรพกาลให้เกิดขึ้นได้เสมอๆ..เธอเข้าใจมั๊ย "ข้าเอาให้เจ้า" คนที่เอาให้นี่ระดับจอมภพก็คือพญามารโพธิสัตว์ผู้จะตรัสรู้เป็นพระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นนะครับ รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า(ข้าเอาให้เจ้า) บูชา 4,000 บาท

    135793094-2833469100243082-9031411316241839922-n.jpg 136648652-242665940608554-3408133350584266255-n.jpg
    136154342-869469977204862-4336747305760105556-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2021
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พญามาราธิราช

    พ่ออาจารย์ท่านมีความคิดที่จะเผยเเพร่เรื่องเหล่านี้มานานเเล้ว ท่านกลัวคนจะเข้าใจผิดเเละจะมีคนเดี๋ยวนี้ที่ปรามาสเเละล่วงเกินพระโพธิสัตย์ใหญ่ท่านนี้ไป ...พญามารนี้เป็นจอมเทพชั้นสูงสุดในสวรรค์ระดับฉกามาพจรภูมิไม่ใช่ยักษ์และอสูรและไม่ได้มีความน่าเกลียดน่ากลัวดังที่โบราณสร้างเเละจินตนาการด้วย หากแต่เป็นเทพเจ้าแห่งอารมณ์ปรารถนาอันละเอียดอ่อนในทางกามคุณ อันได้แก่รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ และธัมมารมณ์ อันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงไม่ให้มนุษย์ล่วงพ้นเข้าสู่สวรรค์แดนพรหมโดยง่าย

    พญามารนี้มีอานุภาพเป็นเลิศสามารถสิงและแทรกแซงทวยเทพได้ทุกชั้นฟ้าในฝ่ายเทพมักไม่กล่าวถึงเเต่ในฝ่ายมารไม่ด้อยน้อยหน้ากว่ายักษ์และอสูรทีเดียว จอมฟ้าพญามารหรือเทวปุตมารเป็นเจ้าแห่งสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สำหรับตำนานสวรรค์ท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมารเคยเสด็จเข้าสู่สุธรรมาเทวสภาของพระอินทร์ผลก็คือเทวสภาแตกต้องเลิกการประชุม อานุภาพของจอมฟ้าพญามารนี้ถึงกับพระพุทธเจ้ามีพระพุทธวจนะตรัสรับรองในบัญญัติสูตรข้อ15 หมวดจตุตถนิบาต อังคุตรนิกายแห่งพระไตรปิฏกว่า "เป็นเลิศ ในความยิ่งใหญ่" เพราะสามารถเข้าสิงกับเทพเจ้าระดับมหาพรหมได้เรียกว่าสะกดท้าวมหาพรหมให้ตกเป็นเครื่องมือเพื่อต่อต้านคำสอนแห่งพระบรมศาสดามาแล้ว

    โดยข้อเท็จจริง..ท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมารพร้อมด้วยเทพบริวารไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวหรือแสดงความกระด้างอหังการเเต่อย่างใด มารเหล่านี้เป็นทวยเทพที่มีความบริสุทธิ์ลึกซึ้งและประณีตสูงสุดในสวรรค์ฉกามาพจรภูมิและสูงสุดในสุคติโลกสวรรค์ เทพระดับต่างๆไม่ว่าจะเป็นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงษ์ ยามา ดุสิต นิมมานรดีเหล่านี้ต่างหากที่อัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อมาเทียบทิพยภาวะกับเหล่าทวยเทพชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ไม่ว่าจะโดยฝ่ายเทพหรือฝ่ายมาร

    จะเห็นได้ว่าสมัยพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่แม้ท้าวปรนิมมิตวสวัตตีจะเเสดงความไม่พอใจเพียงใดแม้เเต่เร่งการปรินิพพาน พระองค์ก็ไม่ได้ขับไล่หรือแสดงท่าทีรังเกียจหรือว่าขานเเต่อย่างใด พญามารพระองค์นี้เพิ่งมายอมสยบสมัยพระอุปคุตเถระเจ้านั่นเอง เนื่องจากมีชาติเวรผูกพันธ์กันจึงเป็นหน้าที่ของพระอุปคุตที่จะทรมานท่าน

    ในฏีกามาลัยเทวสูตรได้กล่าวถึงพระมาลัยผู้เป็นอรหันต์ได้พบปะสนทนากับท้าวนาถเทวราช(พระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต) คำสนทนาปรากฏอยู่ในกัณฑ์พุทธภูมิว่า ผู้เป็นพระอรหันต์ได้ถามผู้เป็นพระโพธิสัตว์ว่า

    ท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมารองค์ปัจจุบันก็ได้ชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตย์ใหญ่องค์หนึ่ง
    เพราะได้รับคำพยากรณ์แน่นอนเมื่อพุทธันดรกัปก่อนโน้นเมื่อครั้งศาสนายุคพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าเเล้วว่าจะต้องตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ทว่า.ขึ้นชื่อว่าพระบรมโพธิสัตย์ย่อมไม่มาบังเกิดเป็นเทพเจ้าแห่งมารในปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์อันกำหนดกันว่าเป็นอภัพพบุคคล คือบุคคลผู้ไม่อาจบรรลุบารมียิ่งใหญ่ได้ ความสับสนในเรื่องนี้ท้าวนาถเทวราชผู้เป็นพระโพธิสัตย์ใหญ่องค์หนี่งสามารถกระทำให้กระจ่างเเจ้งได้หรือไม่

    ท้าวนาถเทวราชตรัสตอบพระมาลัยผู้เป็นพระอรหันต์ว่า ความนัยของเรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของพระอรหันต์เช่นท่านไปประชุมระบบความรู้กันเองในโลกมนุษย์

    คำตอบของท้าวนาถเทวราชพระโพธิสัตย์ใหญ่ยิ่งองค์หนึ่งก็ยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีมนุษย์ผู้รู้คนใดแก้ตก


    หากจะพิมพ์เรื่องของพญามารเเละอานุภาพของท่านคงจะไม่จบง่ายๆ กล่าวสรุปสั้นๆให้เข้าใจ คือพ่ออาจารย์ยืนยันว่าท่านไม่ได้อัปลักษณ์น่าเกลียดใจคนเราต่างหากที่อัปลักษณ์ ซ้ำท่านยังสูงส่งเป็น1ใน10 พระโพธิสัตย์ใหญ่ที่จะมาตรัสรู้มีพระชาติเเละพระนามที่เเน่นอนเเล้ว หน้าที่ของท่านก็คือการขัดขวางปฏิบัติการทางโยคะทางจิตเพื่อเหนี่ยวรั้งการหลุดพ้นเเต่ก็เป็นเพียงหน้าที่ซึ่งทุกคนต้องพบเจอเพื่อไปถึงพระนิพพาน

    แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสยกย่องว่าพญามารมีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ เรื่องเหตุการณ์ร้ายเเรงทั้งหลายที่เกิดกับท่านก็เป็นเรื่องก่อนที่พระอุปคุตจะปราบพยศของท่านจนออกปากปรารถนาพระโพธิญาณ(เป็นไปได้สูงว่าได้รับพุทธทำนายมาก่อนเเล้ว ในชาติพญามารนี้จึงออกปากปรารถนาพระโพธิญาณอีกครั้งเมื่อครั้งที่โดนพระอุปคุตทรมาน)ซึ่งหลังจากออกปากเเล้วพระอุปคุตก็รีบเข้ามาแก้พันธนาการเเละขอโทษท่านโดยกล่าวว่าทำไปเพื่อประโยชน์แห่งท่านคือความปรารถนาพุทธภูมิซึ่งองค์พระอุปคุตก็สร้างเหตุการณ์ให้บังเกิดเเล้ว

    พญามารเป็นนายแห่งมารทั้งปวงสถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นปรนิมตวสวตีอันเป็นแดนสวรรค์ชั้นสูงสุด มิค่อยมีผู้บูชาแต่หากในความเป็นจริงแล้วพระองค์มีพระนามว่าท้าวมาลัยทรงเป็นพระโพธิสัตว์ที่เที่ยงแท้แล้วว่าจะบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ มีปรีชาญาณมากฉลาดในการแก้หรือขัดขวาง อีกทั้งมีพระเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งปวง หากมีผู้ใดปรารถนาบูชาให้บูชาที่ความเป็นพระโพธิสัตว์หวังเพียงให้พระองค์และคณะของพระองค์ทรงเมตตาเท่านั้น

    Mara-demon-nat-and-Buddha.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เนื่องจากยอดมารฟ้าเต็มแล้วก็ยังมีคนอยากได้อีกมากเพราะทราบๆกันดีๆว่าในการสร้างท้าวมาลัยนั้นพ่ออาจารย์ท่านเป็นต้นตำรับจริงๆ หนนี้ท่านก็เลยจะให้เอาพระผงจอมมารน้อย..องค์เล็กๆออกให้จองสำหรับคนที่ไม่ทันกันด้วยเป้นพระดีหลักร้อย ***แอบบอกไว้ว่าอย่าดูถูกพระหลักร้อยของท่านว่าไม่ดีเพราะถ้าทำย่อมแรงมากและดีที่สุดเช่นกัน รุ่นนี้สำหรับคนที่ไม่ทันและคนที่อยากได้พญามาราธิราชองค์เล็กๆไปให้คนในครอบครัวใช้นะครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาภรณ์มารฟ้าชุดพญามารน้อย(ผังตะกรุดพาลีดึงบารมี)

    เป็นที่ทราบกันดีว่าพ่ออาจารย์ท่านเป็นต้นตำรับการสร้างเครื่องมงคลสายพญามาราธิราชจึงทำให้ทุกครั้งที่ท่านออกเครื่องมงคลในบารมีของพญามารหรือท้าวมาลัยนั้นมีผู้ติดตามและซุ่มจองบูชากันมาก แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่พลาดไปทั้งยังบ่นอยากได้พญามารหรือองค์ท้าวมาลัยที่ลงวิชาเต็มขั้นองค์เล็กๆบ้าง เพื่อให้คนรัก,ลูก,หลานหรือคนในครอบครัวคนที่เราเป็นห่วงให้เค้าได้มีโอกาสอาราธนาบารมีขององค์พญามารฟ้า พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ซุ่มทำพระผงอาภรณ์มารฟ้าชุดพญามารน้อยเอาไว้

    สำหรับผู้ที่ฝันสูง มีปรารถนาเกินตัวควรอาราธนาท้าวมาลัย(พญามาร) ดั่งว่า.....แม้พญามารยังฝันสูงจนถึงนิพพาน เป็นเคล็ดว่าแม้พญามารท่านฝันสูงขนาดนั้นยังสำเร็จ..ยังจะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าในเบื้องหน้า ความปรารถนาอื่นใดของเราพระองค์ผู้บรมโพธิสัตว์ย่อมหยิบยื่นให้จนกว่าจะถึงพระนิพพาน พระผงงบารมีในองค์พญามาราธิราชชุดนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านทำเพื่อสืบทอดวิชาแห่งครูนาม "พญามาราธิราช" หรือท้าวมาลัยผู้เป็นหน่อพุทธเจ้าอนาคตวงศ์ ผงอาถรรพ์ในสายวิชาพญามาราธิราชและวิชาพิเศษต่างๆจึงถูกรวบรวมไว้ในพระผงรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแรงมาก

    พระผงพญามาร
    ที่ท่านให้ทำนี้เป็นพญามาราธิราชเต็มองค์ชูดอกบัวบานบัวหุบ เป็นปางอาถรรพ์ที่ท้าวมาลัยท่านสั่งให้พ่ออาจารย์ทำเพื่อโปรดศิษย์ในสายบารมีองค์ท่านไม่ว่าชีวิตจะเหี่ยวเฉาดั่งบัวหุบบัวบัวแล้งน้ำฉันใดเมื่อได้อาราธนาแล้วย่อมพ้นน้ำเป็นดอกบัวบานเสมอเช่นนี้ ท่านว่าต้องทำ"พญามารทัศนาปทุมมาศ"แบบนี้ถึงจะแก้อาถรรพ์ชีวิตคนที่ตกอับเหี่ยวเฉาให้ฟื้นคืนได้ ทั้งวิชาทำพระพิมพ์สำคัญของท่านนี้ท่านยังจำกัดให้ทำเพียงหนเดียวเท่านั้นด้วยว่าเป็นของมีอาถรรพ์ครูแรงผู้ที่จะได้ไว้ต้องมีบารมีคู่ควร

    " บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)

    "พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)

    หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำสิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก ...เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญแต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัวจินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้วยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิมนับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า "ในบรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ" .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมารหรือประมุขเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป,เสียง,กลิ่น,รส,โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณการดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่าขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้นเค้าก็มีหน้าที่ของเค้าหากให้กล่าวกันจริงๆแล้วหน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกันและไม่รู้ไม่เข้าใจ..ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิดเพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตามจะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้าก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์,มีอานุภาพใหญ่,มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

    พระผงอาภรณ์มารฟ้าหรือพญามารทัศนาปทุมมาศในบารมีพญามาราธิราชจึงเป็นเครื่องมงคลชุดพิเศษที่ใครได้..ใครทันอาราธนาเสมอดุจได้รับการห่มคลุมปกปักรักษาอยู่ในอ้อมกอดท้าวมาลัยผู้เปรียบประหนึ่งเทพบิดาเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกพระผงสำคัญรุ่นนี้ว่าอาภรณ์มารฟ้า ท่านว่านั่นแหละความห่วงหาความรักอันบิดา(พ่อมารฟ้า)มีต่อบุตร(ลูกๆ)นั้นจะเป็นดั่งอาภรณ์มงคลที่ห่มคลุมชีวิตเรา หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำพระผงนี้ท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ นอกจากผงวิเศษพระเวทย์สวรรค์พญามารทัศนาปทุมมาศที่ใช้แก้อาถรรพ์ชีวิตคนที่ตกอับเหี่ยวเฉาให้เบ่งบานแล้วท่านยังกำหนดให้สร้างพิมพ์ทัศนาปทุมมาศอันเป็นนิมิตแห่งความรุ่งเรืองแบบโกงชีวิต(ในรูปแบบท้าวมาลัย)อย่างที่สุดด้วย ท่านว่าไม่เคยมีใครทำรูปท่านได้ถูก..ได้ตรงเลย หนนี้จึงให้พ่ออาจารย์ทำไว้ให้เหมือนรูปกายแท้จริงมากที่สุด

    ด้วยจะทำให้มีฤทธิ์อำนาจและแรงครูสูงสุดพระผงสำคัญนั้นองค์พญามาราธิราชท่านจึงให้นำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ทำผงวิเศษ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันผสมสร้างพระผงพญามารน้อยเพื่อสร้างพญามารที่มีพลังงานเหนือโลกอยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ การทำพระผงในบารมีพญามารนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเป็นเครื่องสูงที่มีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลายก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลกด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคนเกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้างถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลยไปบวชเสียไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้วเช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรมดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาวิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า,สิ่งสวยงามสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้านั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมารมันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด..หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ..หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

    พระผงในบารมีมารฟ้านั้นย่อมมีอำนาจ "บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต" อย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์,เยาะเย้ยเวรกรรม,ผันผวนชะตา,ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้นหากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใดด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ..มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์..มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่ในภพ,ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆอยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย..หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด,พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็นเกินประโยชน์ใช้สอย..เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตมารนั่นเอง

    ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด..สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง,ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้นท่านได้กำหนดรูปแบบของพระผงในบารมีของท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพิมพ์และแม้แต่ผงที่จะใช้ผสมสร้างต้องจำเพาะลงไป นอกจากผงคตและกายสิทธิ์นั้นก็ใช้อุดปิดได้เพียงผงพุทธนิมิตกับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึงนำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถก่อนจะกดพิมพ์ ท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลงซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิตเนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราช พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้วการใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้นสิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา

    ด้วยอำนาจพญามารผู้ควบคุมกฏสัจธรรมกามคุณทั้งมวลท่านจะเอื้อให้ปัจจัยทั้งปวงเกิดขึ้นได้เพื่อดึงเอามโนและความคิดของเรามาทำให้มันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง สำหรับคนที่ไม่สามารถทำให้จินตนาการหรือความฝันง่ายๆเป็นความจริงได้ แม้กระทั่งเรื่องฝันอันสูงสุดที่ตั้งไว้เป็นเป้าสุดท้ายในชีวิตว่าชาตินี้ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องอันยากที่มนุษย์จะทำก็ยังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเรื่องใดนั่นก็ล้วนเป็นความปรารถนาที่จะจุดไฟในชีวิตของตัวเราอยู่ลึกๆทั้งสิ้น ชีวิตใครที่หมดหวังหมดสิ้นกำลัง...แลหยุดเดินแล้วท่านว่าต่อไปบารมีท้าวมาลัยาจะเป็นดั่งกุญแจเพียงดอกเดียวที่ใช้ไขเปิดชะตาเขา ผลักให้เราเข้าใกล้ความฝันช่วยให้มีแรงบวกสนับสนุนเอาชนะความคิดและจิตใจตัวเองเป็นปฐมก่อนจะเอาชนะทุกสิ่งในโลกแห่งความจริง ท่านว่าขอแค่เพียงเราลงมือและอาราธนาองค์ท่านไว้ไว้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในชีวิตจะจางลางเลือนไป ขอแค่เรากล้าในสิ่งที่ถูกคุณของท่านนั้นจะผลิดอกออกผลให้เราเห็นให้เราค้นหาอีกตัวตนนึงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของเราเจอ ทั้งปลดปล่อยตัวเราออกจากโลกแห่งความฝันที่ปิดตาย..โลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริงขอเพียงตัวตนของเรามีความต้องการและมีความพร้อมที่จะรับทุกอย่างเพื่อเป้าหมายนั่นย่อมเป็นธุระของท้าวมาลัยที่จะ"นำมาให้" ด้วยความปรารถนาให้ชีวิตตนสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้..ไม่ใช่เรื่องที่มีวันหมดอายุ..ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับอายุขัยว่าจะหนุ่มจะแก่ทุกคนมีความฝันได้หมด ทั้งฝันเรื่องการทำงานการประสบความสำเร็จต่างๆในขณะที่ความสำเร็จบางคนไม่อยู่ที่การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคนั่นก็มีนั่นแหละกำลังของท้าวมาลัยท่านจะนำเราเข้าหาสุขอันเกิดขึ้นจากฝันที่สมปรารถนา ทั้งยังจะป้องกันตัวเรายามเจออุปสรรคทั้งหลายในปัจจัยเสี่ยงรอบตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระย่อมมีจิตวิญญาณมารฟ้าคือพญามาราธิราชไม่ใช่มงคลวัตุถุปกติธรรมดา ท่านจะคอยเติมเต็มให้เราสมหวังในความฝันทุกด้านขอเพียงใจเรามีปรารถนาเพียงเท่านั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องขอก็ได้ดั่งใจ ด้วยผู้ถืออาญาสิทธิ์แห่งมารฟ้าผู้เป็นจอมเทพจะเกิดความเจริญรุ่งเรืองในกามคุณบริบูรณ์ทุกสิ่งไม่ขาดสายดั่งพลิกกลับโชคชะตาให้สูงขึ้ มีอำนาจวาสนาบารมีมีคนนับหน้าถือตาทั้งยังใช้สะกดให้คนเชื่อฟังอยู่ในอำนาจของเรา ใครที่ดวงตกทำมาหากินไม่ขึ้นไม่เคยมีโชคเลยนั่นแหละพญามารท่านเปิดดวงให้เราทำตามความฝันได้ง่ายๆทำอะไรก็สำเร็จง่ายดายได้สิ่งที่ต้องการจากคนอื่นง่ายๆเหมือนเขาโดนโจรปล้น ท่านว่าพระชุดนี้ใครมีไว้จะรุ่งเรืองเอาชนะคนใจแข็ง,เอาชนะคนรัก,เหนือคู่แข่ง,เหนือศัตรู แม้ลงมือทำอะไรย่อมกินใจผู้อื่นขอเพียงมีความฝันไม่ว่าจะเรื่องใดอาญาสิทธิ์มารฟ้าย่อมบันดาลให้เร็วไวได้เสมอแม้ไม่ต้องขอไม่ต้องอธิษฐาเพียงเราใช้ชีวิตของเราไป เท่านี้ก็จะพบเจอความสำเร็จตามฝันอยู่ที่ไหนชีวิตไม่มีตกอับ

    ##### กำลังมารฟ้า..พาลีดึงบารมี
    พ่ออาจารย์ท่านว่าชุดนี้ท่านทำพระผงด้วยคุณวิชาให้มีกฤติยาคมแฝด ปกติลำพังบารมีในองค์พญามาราธิราชใครได้ไปคุ้มเกรงก็นับว่าโกรงชีวิตมากพอแล้ว แต่ในพระผงองค์เล็กๆนี้ท่านตั้งใจทำให้ดีกว่านั้นด้วยว่าจะโกงก็ต้องโกงให้ถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงตะกรุดพาลีดึงบารมีเอาไว้ฝังเฉพาะเจาะจงทุกองค์ ท่านว่าจะทำให้พญามารแรงแบบลูกโดดดลบันดาลให้ผู้ครอบครองชนะไร้พ่าย ทำอะไรก็สำเร็จ แต่ทว่าวิชานี้เดิมทีครูบาอาจารย์นั้นย่อมเกรงกลัวว่าคุณสมบัติแท้จริงของวิชานี้น่ากลัวเกินไป..จึงปิด..จึงบัง..อำพรางไว้..ไม่สร้างไปเลยก็มี ถ้าสร้างก็มักจะไม่ทำเต็มวิชาด้วยเกรงว่าจะก่อภัยอันตรายให้กับศิษย์ทั้งหลายที่นำไปใช้ด้วยเล่ห์กลให้เกิดภัยต่อมนุษย์ด้วยกัน

    ด้วยพาลีนั้นมีฤทธิ์เลิศเป็นเอกเหนือวิชาพญาวานรทั้งหลาย ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์กล่าวไว้ว่า พาลีถ้าไม่ตายเสียก่อนในรามเกียรติ์นั้นพระรามไม่ได้เกิดแน่นอน เพราะใครก็ฆ่าพาลีไม่ได้ ใครสู้ก็แพ้พาลี ขนาดเจ้าทศกัณฐ์ที่พระรามตามล่าทำสงครามจนเรื่องกินระยะเวลายาวนานนั้นเจอพาลีเข้าก็หมดแรง..รบกี่ทีก็แพ้ แถมยังโดนพาลีจับไปกระทำการทรมานทรกรรมให้กินข้าวเหลือของนางกำนัลแล้วให้องคตลูกชายเอาทศกัณฐ์ไปลากเล่น(เหมือนจูงหมาเดินเล่น)ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงหยามเกียรติอสูรวงศ์พรหมถึงปานนั้น ถ้าว่ากันด้วยฤทธิ์พระรามก็ยังฆ่าพาลีไม่ตาย..แต่พาลีตายด้วยมือของตนเอง แม้แต่พระรามแผลงศรแล้วศรพระรามที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธฝ่ายเทพแผลงที่ไรได้เรื่องทุกที พาลีก็ยังคว้าจับมาเล่นได้ไม่ได้สะทกสะท้านในฤทธิ์อำนาจใดๆเลยแต่เพราะระลึกถึงคำสาบานแต่หนหลังได้ว่าตนเองนั้นแย่งเมียน้องคือสุครีพและเคยถวายสัตย์ต่อพระนารายณ์ไว้ว่าถ้าแย่งจะให้ศรพระนารายณ์ล้างชีวิตจึงได้ยกศรปักอกตน พระรามนั้นอาลัยในตัวพาลีมากนักเพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยปรากฏมีผู้ใดที่จะมีฤทธิ์แกล้วกล้าเฉกเช่นพญาวานรผู้นี้พระรามจึงอยากได้พาลีมาทำราชการกับพระองค์ ได้เอ่ยขอเพียงเลือดของพาลีเสียครึ่งหยดมาล้างคำสัตย์ที่สาปสรรค์ไว้ถึงชีวิตให้แก่ศรพระเป็นเจ้าแต่พาลีก็หายอมไม่เพราะต้องการรักษาคำสัตย์นั้น จึงใช้ศรของพระรามทำการปลิดชีพตัวเองเมื่อตายไปก็ได้เกิดเป็นเทพเจ้ากลับมาทำลายพิธีบูชาหอกของทศกัณฐ์ที่ทำให้อินทร์พรหมยมยักษ์ทั้งสวรรค์เดือดร้อนอีกครั้งนั่นเอง

    พาลีนั้นพ่ออาจารย์บอกว่ามีความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ในชั้นฤทธิ์นั้นถ้าเปรียบกับชั้นหลานอย่างหนุมานแล้วระดับเจ้าผู้ครองนครขีดขินก็มีความสามารถแต่เดิมมากอยู่แล้วไม่เป็นรองกันแต่อย่างใด เพราะสืบสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เป็นบุตรพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั่นเองแต่สิ่งหนึ่งซึ่งรู้กันไปทั่วว่าเป็นความสามารถที่ขี้โกงที่สุดในสามโลกทำให้กากาศนั้นเก่งเกินกว่าเก่ง เก่งจนแม้แต่พระเป็นเจ้าก็ยังไม่สามารถต่อกรให้มีชัยชนะได้นั่นคือพรของพระศิวะเจ้าที่ให้กับพาลี กล่าวคือเวลาสู้กับใครให้กำลังอีกฝ่ายนั้นลดลงเสียครึ่งหนึ่งแล้วกลับมาเพิ่มเป็นกำลังให้พาลี เพราะเช่นนี้พาลีเมื่อสู้กับใครจึงมีฤทธิ์เพิ่มอีกมหาศาล..ยิ่งศัตรูเก่งแค่ไหน..พาลีก็ยิ่งเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด....ตะกรุดพาลีจึงมีพลังดังนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเล่านิทานให้ฟังได้เธอคงเข้าใจเองเพราะวิชาลงตะกรุดพาลีดึงบารมีนี้ข้างบนท่านไม่ให้พูดไป แม้องค์พญามารท่านยังห้ามไว้นักหนาว่าถ้าใครไม่มีจิตศรัทธาม็ก้ไม่ต้องเอาไปใช้ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำได้เพียงเล่านิทานว่าตะกรุด...พาลีนี้เก่งเพียงใด ยิ่งบารมีจอมฟ้าพญามารเมื่อหลอมรวมกับที่สุดแห่งการโกงชีวิตล้มล้างทุกกฏเกณฑ์อย่างพญาพาลีแล้วนั่นย่อมหมายถึง....การโกงสูงสุดอย่างแท้จริง

    คาถาบูชา
    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ


    ***พระผงในบารมีของพญามาร พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าองสิ่งนี้ต้องใช้ชะตาทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนครอบครองประกอบกับของมีน้อยมาก ท่านว่าถ้าใครฉุกคิดได้ก็ตรงตามชื่อเลย...จอมเทพผู้ควบคุมความปรารถนากิเลสฝ่ายมารความต้องการจะให้จะมีของสรรพสัตว์,เทวดา,มาร,พรหมทั้งหมด ....จอมเทพผู้มีอำนาจบงการได้แม้แต่ท้าวมหาพรหม รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นนะครับ รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาภรณ์มารฟ้าชุดพญามารน้อย(ผังตะกรุดพาลีดึงบารมี) บูชา 900 บาท

    137530188-1133090683812169-6513352369990533626-n.jpg 138065067-859563941460906-6746683544533835457-n.jpg
    137581009-146915640400733-8399741713637410029-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...