รำลึก 97 ปี-ชาตกาลหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค.2563 น้อมรำลึก

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 4 ตุลาคม 2020.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    0b89be0b8b5-e0b88ae0b8b2e0b895e0b881e0b8b2e0b8a5e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89ee0b988e0b8ade0b884.jpg

    รำลึก 97 ปี-ชาตกาลหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ – วันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 97 ปี ชาตกาล “พระเทพวิทยาคม” หรือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อดีตพระเกจิชื่อดังที่ชาวไทยให้ความเลื่อมใสศรัทธา

    เอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์แก่คณะศิษยานุศิษย์ผู้พบเห็น คือ การนั่งยอง พูดกูมึง ดำรงตนแบบสันโดษ จนกลายเป็นภาพที่เห็นกันชินตา

    ด้านวัตถุมงคลมีมากมายหลายประเภท ซึ่งล้วนได้รับความนิยมและแสวงหาทั้งสิ้น

    เกิดในสกุล ฉัตรพลกรัง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค.2466 ที่บ้านไร่ ม.6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา บิดา-มารดา ชื่อ นายบุญ และนางทองขาว ฉัตรพลกรัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน ครอบครัวประกอบอาชีพชาวไร่ชาวนาที่อยู่ห่างไกลความเจริญ

    ในวัยเยาว์ ท่านต้องสูญเสียโยมบิดามารดาในขณะที่ลูกทั้ง 3 คน ยังเป็นเด็ก ท่านกับน้องๆ จึงอยู่ในความอุปการะของน้าสาว

    เมื่ออายุ 6-7 ขวบ เข้าเรียนหนังสือกับ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หล ทั้งภาษาไทย และภาษาขอม นอกจากนี้ ยังมีเมตตาอบรมสั่งสอนวิทยาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ด้วย

    กระทั่งอายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พ.ค.2487 ได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ

    ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

    หลวงพ่อแดง เป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระอย่างเคร่งครัด อีกทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก

    อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อแดงมานานพอสมควร หลวงพ่อแดงจึงพาไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อคง พุทธสโร ซึ่งหลวงพ่อทั้งสองรูปนี้ เป็นสหธรรมิกกัน ต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อมีโอกาสได้พบปะ มักแลกเปลี่ยนธรรมะ ตลอดจนวิทยาคมเสมอ

    เวลาล่วงเลยผ่านไป กระทั่งหลวงพ่อคง เห็นว่าลูกศิษย์มีความรอบรู้ชำนาญการปฏิบัติธรรมดีแล้ว จึงแนะนำให้ออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกปฏิบัติธรรมเบื้องสูงต่อไป

    ครั้งแรก ท่องธุดงค์จาริกอยู่ในเขตจังหวัดนครราชสีมา จากนั้นจาริกออกไปไกลถึงประเทศลาว และประเทศเขมร

    หลังจากที่พิจารณาเห็นสมควรแก่กาลแล้ว จึงออกเดินทางจากประเทศเขมรเดินทางกลับสู่ประเทศไทย เดินข้ามเขตด้านจังหวัดสุรินทร์ สู่จังหวัดนครราชสีมา กลับบ้านเกิด

    จากนั้นเริ่มดำเนินการก่อสร้างวัดบ้านไร่ เริ่มสร้างอุโบสถ กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ขุดสระน้ำไว้เพื่ออุปโภคและบริโภค และที่สำคัญยังสร้างโรงเรียนไว้เพื่อเด็กบ้านไร่อีกด้วย

    เป็นพระนักพัฒนา ที่มีสาธุชนให้ความศรัทธายิ่ง บริจาคทานจำนวนมหาศาล เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและล่วงเลยไกลไปถึงในต่างแดนเลยทีเดียว

    ลำดับสมณศักดิ์ วันที่ 12 ส.ค.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระญาณวิทยาคมเถร

    10 มิ.ย.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระราชวิทยาคม

    12 ส.ค.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระเทพวิทยาคม

    ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ บ่อยครั้งทำให้ท่านอ่อนแรง สุขภาพไม่แข็งแรงดังเดิม กระทั่งล้มป่วยเป็นประจำ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง คณะแพทย์ขอให้ท่านพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลมหาราชและได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด

    กระทั่งเวลา 11.45 น. วันเสาร์ที่ 16 พ.ค.2558 ที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา จึงมรณภาพอย่างสงบ

    สิริอายุ 92 ปี พรรษา 71 อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.khaosod.co.th/newspaper/newspaper-inside-pages/news_5037622
     

แชร์หน้านี้

Loading...