รับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอย่างไร้กังวล

'' เพราะค่ารักษาพยาบาลนั้นแพงขึ้นทุกปี '' จากประโยคนี้เป็นเรื่องที่มีมูลความจริงที่ส่งผลกระทบต่อทุกคน เนื่องด้วยค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีการแพทย์และต้นทุนของยาเวชภัณฑ์ทั่วทุกมุมโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงขึ้นไปตามๆกัน

เรื่องราวจริงจากค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นทุกปี

โดยส่วนมากเรื่องค่ารักษาพยาบาลในกลุ่มโรคยอดฮิตมักมีการปรับขึ้นอย่างน้อย 2-3% ต่อปี เช่น ค่ารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีการฉีควัคซีนป้องกันโรค ราคาก็ต้องเเพงขึ้นในปีต่อๆไป ยิ่งถ้าเป็นโรคที่ต้องมีการผ่าตัดรักษาด้วย ค่าใช้จ่ายก็พุ่งสูงขึ้นตามนั่นเอง ตรงนี้เราจะเห็นถึงสัญญาณของผู้ป่วยที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในการรักษาโรคไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

แล้วแบบนี้จะรับมือกับปัญหานี้อย่างไรดี ?

1.การบันทึกข้อมูลค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น
เพื่อที่ตัวเราจะได้มีข้อมูลเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบในอนาคต โดยทุกๆ 2 ปี ให้เราบึนทึกข้อมูลรายการที่มีการเสียให้กับโรงพยาบาล จะค่ารักษาเล็กหรือใหญ่ก็บันทึกเก็บไว้เลย ข้อมูลนี้จะกลายเป็นปัจจัยช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นว่า จะรับมือกับค่ารักษาพยาบาลต่อหรือจะหันมาทำประกันสุขภาพให้ตัวเอง

2.ดูได้จากการเข้ารับการรักษาครั้งใหญ่
ยิ่งตัวเองเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ฉุกเฉิน ค่ารักษาที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นบทสรุปที่ทำให้ตัวเราเข้าใจได้เลยว่า การเสียเงินสดรักษาตัวมันดูเปลืองค่าใช้จ่ายมากในระยะยาว ครั้งจะไปพึ่งพาแต่โรงพยาบาลที่มีระบบสิทธิสุขภาพก็ดูล่าช้าเรื่องจำนวนผู้เข้ารับบริการที่เยอะมาก

3.ประกันสุขภาพ เหมาจ่ายคือคำตอบที่ใช่
เพื่อการมีความคุ้มครองสุขภาพที่หายห่วงครบวงจร ประกันสุขภาพ เหมาจ่าย จึงดูเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการอุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่เพียงพอจริง เราไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีเงินมาเป็นค่ารักษาตัวอีกต่อไป เพราะประกันสุขภาพมีวงเงินค่ารักษาที่สูงซึ่งพร้อมรับมือได้ทุกสถานการณ์อาการป่วยของเรา

4.ให้ความมั่นใจเรื่องประกันสุขภาพอย่างลงตัว
การทำประกันสุขภาพไว้ล่วงหน้าก่อนที่โรคจะถามหา ถือเป็นการวางแผนชีวิตที่ชาญฉลาดสุด เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าโรคร้ายจะมาให้เราป่วยตอนไหน ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไข

ดังนั้น การรับมือเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น ทางออกที่ดีจากการทำประกันสุขภาพ เหมาจ่าย จึงเป็นวิธีที่ทุกคนควรใส่ใจเสมอครับ

 

น่าสนใจคับ