รบกวนเรียนถามครับ กิเลส, ความดี และคำสาบาน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย saksan43, 8 กรกฎาคม 2009.

  1. saksan43

    saksan43 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +299
    ท่านทั้งหลายครับ ครั้งนี้ ผมเดือดร้อนใจ จริงๆ ต้องการคำชี้แนะครับ


    คือ....ผมชอบผู้ชายด้วยกันนะครับ เรียกง่ายๆว่าเป็นเกย์นี่เอง แต่การผิดเพศก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการนับถือพระรัตนตรัยของผมครับ ชีวิตที่ผ่านมาก็ไหว้พระ ทำบุญมาตลอด ขณะเดียวกันก็หาความสุขทางโลกเช่นเดียวกันครับ ประเภท วัดก็เข้า เหล้าก็กิน แต่ขณะนี้ผมกำลังสับสนกับตัวเอง และต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอย่างหนักมาก รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ




    ขณะนี้ผมอายุประมาณ 30 ต้นๆ ครับครอบครัวของผมมีกิจการส่วนตัว และขณะนี้บิดามารดาก็ยกกิจการให้ดูแล ส่วนพวกท่านก็เกษียณตัวเอง ไปท่องเทียวตามที่ต่างๆ ผมยังไม่มีแฟนครับ เลยกลายเป็นคนหนึ่งที่ ซื้อบริการจากชายขายบริการ แต่ เป็นแค่กายสัมผัสกายเท่านั้น ไม่มีมากกว่าเกินเลย เพราะไม่ต้องการจะสี่ยงต้องการเป็นโรคใดๆ




    เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผมได้เริ่มเกิดความเบื่อหน่าย และมองตัวเองว่า หากเราแก่ตัวลง เราจะซื้อบริการอย่างนี้อยู่อีกไหม มันรู้สึกสมเพศตัวเองครับ และก็เห็นถึงความทุกข์ต่างๆ ผมเลยนำบายศรี 2พาน ไปบูชา หลวงพ่อโต ที่วัดระฆัง พานใบแรก ถวายหลวงพ่อโต พานอีกใบนึง ถวายพระประทานในโบสถ์ พร้อมทั้งสาบานตนต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และองค์หลวงพ่อโต และสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ที่สถิตย์ ณ วัดระฆัง ว่า ผมจะไม่ซื้อบริการทางเพศกับผู้ขายบริการไม่ว่าเพศใดๆ และขอให้อานิสงค์นั้น ส่งให้ผมมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งในทางโลก และทางธรรม



    หลังจากการสาบานครั้งนั้น เมื่อ ปลายเดือนมกราคม ปีนี้ ผมก็ได้ไปที่ถวายบายศรี แด่พระพุทธ และหลวงพ่อที่วัดระฆังอีกครับ (โดยส่วนตัวชอบวัดระฆังและนับถือหลวงพ่อโตอยู่แล้ว) โดยสาบานจะไม่ดูหนังลามกอนาจาร ที่สาบานเพราะเมื่อดูบ่อยๆและไม่ได้ไปซื้อบริการแล้ว มันก็ทำให้ผมเริ่ม ที่จะมีอาการ.......”อยากมี” (ใครซักคนมาอยู่ข้างๆเหมือนในหนัง)... “อยากเป็น”(แบบสิ่งที่หนังนั้นกำลังดำเนินอยู่)......และ”อยากได้”(ในสิ่งตนก็รู้ว่ามันคือกิเลสต้องห้าม ที่ได้สาบานว่าจะเลิกทำไปแล้ว)



    ช่วง 4 - 5เดือน ที่ผ่านมา ผมก็หันไปทำวัตรสวดมนต์ โดยสวดสลับกัน ระหว่าง วัตรเช้า และวัตรเย็น นั่งสมาธิบ้าง เพื่อให้ตนเองได้หนีให้พ้นจากกิเลส ตัณหาและความต้องการของตน



    แต่ณ บัดนี้ครับ ผมอาจจะไม่สามารถล่วงพ้นกิเลสเหล่านั้นได้แล้วครับ ยิ่งนับวัน ผมมีความรู้สึกรุนแรงและยิ่งกระวนกระวาย ใจหนึ่งอยากจะขอไปถอนคำสาบานที่เคยถวายคำสัตย์ไว้กับสิ่งศักด์สิทธ์ทั้งหลาย อีกใจหนึ่งค้านว่าหากกลับไปในวังวนกิเลสคราวนี้ เมื่อไหร่จะได้กลับมาเริ่มต้นใหม่ และกลัวว่าหากถอนคำสาบานอาจจะทำให้ชีวิตตกต่ำ หรืออาจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้



    จึงขอรบกวนทุกท่านให้คำแนะนำ ในคำถามที่จะถาม ดังนี้ครับ


    1.ผมสมควรจะไปขอถอนคำสาบานหรือไม่ครับ หากไม่สมควร...ผมจะต่อสู้กับความรู้สึกและความต้องการของร่างกายอย่างไรดีครับ



    2.การขอถอนคำสาบานจะทำให้ชีวิตตกต่ำลงหรือไม่ครับ เพราะผมกลัวว่าจะส่งผลถึงกิจการที่ผมดูแลอยู่ ชีวิตในบั้นปลาย และจะเป็นการปรามาส ผิดสัจจะต่อพระรัตนตรัยหรือไม่ และ ทำให้ถึงแก่ชีวิตมั้ยครับ (ผมคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย) วันนึงหากผมขาดสติเอาดื้อๆทำผิดคำสาบานขึ้นมา นั่นจะหมายถึงการผิดคำสาบาน ผมจึงคิดว่า การขอถอนคำสาบานก่อนหน้าจะดีกว่าครับ



    3.หากขอถอนคำสาบาน แล้วจะลงอเวจี เพราะปรามาส พระรัตนตรัยหรือไม่ครับ



    4.ผมควรจะทำอย่างไรต่อไปดีครับ ขณะนี้กิเลสมันมากว่าบุญมากครับ ไม่ทราบว่าจะรั้งอย่างไรถึงจะเอาอยู่




    ผมทราบครับว่าการซื้อบริการเป็นบาป แต่ผมก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี ทุกวันนี้นอกจาก สวดมนต์แล้ว ผมก็หมั่นถวายสังฆทาน โดยตระเวนไปถวายตามวัดต่างๆ ตามแต่จะสะดวก เดือนละ 2 ครั้ง ที่ถวายไปเรื่อยๆ เพราะไม่ต้องการการยึดติดในตัวบุคคลและสถานที่ครับ พระวัดไหนก็ถือว่าเป็นเนื้อนาบุญของพระศาสนาครับ



    ขอทุกท่านช่วยให้ความสว่างให้กับผมด้วยครับ ะขอขอบคุณที่สละเวลามาอ่านปัญหาของผมและคำตอบทุกคำตอบครับ <!--MsgFile=0-->
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ผมไม่กล้าตอบนะ กลัวตอบผิดๆเดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ไว้รอผู้รู้่ท่านอื่นมาชี้เเนะนะครับ เเละนี่คือเหตุผลที่ผมจะไม่สาบานหรือสัญญาอะไรกับใครหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ เเม้ในใจลึกๆอยากจะทําก็ตาม เเต่ที่รู้ๆกันอยู่ เวลาเปลี่ยนคนได้ ไม่มีอะไรเเน่นอนในชีวิต ยังไงถ้าเป็นได้ ก็ไม่อยากให้ จขกท กระทําการสาบานหรือสัญญาอะไรอีกต่อไปครับ ขอให้คิดว่า เราจะทําเเล้วจะขอทําให้ดีที่สุดที่เราทําได้พอครับ คิดเเบบนี้จะดีกว่าครับ อนุโมทนาครับ จขกท
     
  3. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ

    ผมขออนุญาตตอบเท่าที่ปัญญาแค่หางอึ่งของผมพอจะมี และขอให้ท่านได้โปรดใช้วิจารณญาณขั้นสูงในการอ่านและพิจารณา ก่อนปฏิบัติตามนะครับ เพื่อที่ถ้าผมแนะนำผิดไป โทษจะได้ไม่เกิดกับผมมากนัก เพราะการตอบคำถามให้คน ถ้าไม่แม่นในธรรม ก็มีแต่เสมอตัว กับขาดทุนเท่านั้นครับ พูดง่ายๆว่า ตอบถูก ไม่เสียแต้ม ตอบผิดติดลบนั่นเอง

    ตอบข้อ 1 แนะนำว่า ควรจะไปถอนคำสาบานครับ นำพานบายศรีไปถอนคำสาบานซะ และเปลี่ยนเป็นถวายสัจจะในการรักษา "ศีล 5" แทนครับ รูปแบบจะคล้ายๆกัน แต่การสาบานมีโอกาสเป็น "มิจฉาทิฏฐิ" สูงครับ ส่วนการถวาย "สัจจะ" และ "อธิษฐาน" มีโอกาสเป็น "สัมมาทิฏฐิ" มากกว่าครับ

    ตอบข้อ 2 การถอนคำสาบาน ไม่ได้ทำให้ชีวิตตกต่ำหรอกครับ ยกเว้นคุณทำกรรมไม่ดีเพิ่มขึ้น และกรรมเก่าตามมาทันครับ โดยผมแนะนำให้เปลี่ยนจาก "คำสาบาน" เป็นการให้ "สัจจะ" โดยรักษาศีล 5 ครับ (มีศีล 5 จะปิดอบายภูมินะครับ)

    ตอบข้อ 3 การถอนคำสาบานไม่ได้ทำให้ตกนรก เพราะปรามาสพระรัตนตรัยนะครับ แต่นรกเป็นที่ตั้งของผู้ทำกรรมชั่วครับ ถ้าเราทำดีจะไปกลัวนรกทำไมครับ รักษาศีล 5 ไว้ก็ปิดอบายภูมิได้แล้วส่วนหนึ่งครับ

    ตอบข้อ 4 คุณบอกว่ากิเลสมากกว่าบุญ ผมตอบว่า ไม่จริงครับ เพราะอย่างน้อยคุณก็มี "หิริ โอตตัปปะ" คือ ความเกรงกลัว และละอายต่อบาปครับ การที่ใจเราต่อสู้กับกิเลสในตัวเองได้นั้น ถือเป็นการสร้างบุญครับ นั่นคือ ใจเราคิด แต่ใจเราไม่ทำ

    ทางออกของคุณ คือ คุณต้องเลิกเที่ยวครับ ถ้ากลับไปวังวนเดิม ชีวิตคุณจะตกต่ำครับ เพราะซื้อบริการก็ต้องเข้าไปในพื้นที่อโคจรครับ ถ้าต้องการมีเซ็กส์ หรือ มีความต้องการทางเพศ นั้น "การช่วยตัวเอง แบบผู้ช่วยก็ช่วยดับได้ และไม่สร้างกรรมต่อผู้อื่นด้วยครับ"

    ผมแนะนำนะครับว่า ถ้าคุณต้องการเที่ยวเมื่อใด ให้ตัดใจเอาเงินที่จะเที่ยวไปทำบุญซะ เช่น สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ หรือทำบุญสงเคราะห์สตรีและเด็กด้อยโอกาสครับ เพราะกรรมที่ทำให้เป็น "เกย์" คือ คุณผิดศีลข้อ 3 มาครับ ถ้าคุณยังเที่ยวอยู่ เกิดชาติหน้าก็ต้องเป็นเกย์อีก

    ดังนั้น ยุติกรรมของคุณด้วยตนเองในชาตินี้ซะ ผมเข้าใจว่า คุณมีฐานะพอสมควร ก็เอาเงินไปทำบุญดีกว่าครับ "สุขถาวร" ย่อมประเสริฐกว่า "สุขข้ามคืน" จริงไหมครับ

    ขอให้คุณพบเส้นทางที่ถูกต้องนะครับ

    โมทนาครับ
     
  4. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    ขอช้วยตอบข้อเดียว

    เรื่องการถวายสัจจะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    หากถือสัจะหรือกระทำไม่ได้ก็นำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาขอคืนคำอธิฐาน...
    ขอคืนคำสัจที่บอกไว้อะไรที่บนไว้ ขอพระท่านอดโทษจะได้สบายใจ
    เพราะคำขอที่บนยังไม่กลายเป็นคำสัจเพราะกำลังใจเรายังอ่อนทำไม่สำเร็จ

     
  5. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    อาหารบางอย่างมีผลกับเรื่องความรู้สึกทางเพศ

    อันนี้เคยเราเจอกับตัวเอง
    กรณีมีโยมถวายยาคู้จำนวนมโหฬาร เลยเกิดกรณีเรื่องพระเก็บยาคู้ไว้ฉัน
    เลยทำให้ทราบว่า
    พระบางวัดที่เคร่งมาก อาหารจำพวกนม(โค) จะถือว่าเทียบเท่ากับ
    อาหารมื้อหลัก ไม่สามารถเก็บไว้ดื่มในเวลาอื่นได้

    อีกอย่าง
    หากทานจำพวกนม(โค) ก่อนนอน เค้าว่ากันว่ามันให้พลังงานสูง
    และมักจะฝันเปียก...หน่ะ เค้าเลยแนะนำว่าทางที่ดีไม่ควรถวายนมให้แก่พระ

    (อันนี้ก็ไม่รุ้จริงป่าวแบบว่าเคยได้ยินคนที่เคยบวชนานๆเล่าให้ฟัง[​IMG])


    ลองเปลี่ยนแปลงเรื่องอาหาร มาเป็นทานเจ หลีกเลี่ยงพืชผักบางชนิด
    หากทานเจไม่ได้ ลองพยายามทานอาหารให้น้อยลง
    งดทานมื้อเย็นไปเลย หากหิวจริงๆก็ควรทานเป็นพวกนมถั่วเหลือง
    หรือน้ำผลไม้แทน เราว่าก็อาจจะช่วยได้


    ถ้าไม่อยากถอนคำสาบานก็ลองดูนะก๊ะ


    เราว่าถ้าถอนคำสาบาน จะทำให้ต่อไปภายภาคหน้า
    หากคิดจะทำอะไร ก็จะทำให้ไม่มีสัจจะในตนเอง
    ถือว่าพูดได้ก็คืนคำได้ ลองสู้สู้สู้ๆ ก่อนดีกว่า



     
  6. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    จำพวกกระเทียม และเครื่องเทศรสฉุนเลี่ยงได้ก็จะดึ

    เพราะถ้าอยากไปถอนสาบานจริงๆ หมกหมุ่นมาก็ไม่ดีอ่ะ ;aa2
     
  7. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านเจอว่า พระสงฆ์ในสมัยก่อน
    จะหาต้มยาสมุนไพรบางอย่างกิน เพื่อระงับอาการอย่างที่ว่า

    อันนี้ไม่แน่ใจน๊ะ แต่คิดว่ามีแน่ๆ ลองทู้ถามผู้รู้ดูก็ได้
    เผื่อจะได้เป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่นด้วย [​IMG]
     
  8. bigg

    bigg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอโมทนากับการเห็นโทษของกาม..

    ถ้าคุณต้องการถอนคำสาบานก็ไม่ขอตอบ...เพราะไม่รู้
    แต่ถ้ากำลังใจคุณเข้มแข็งที่จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ก็ขอโมทนาด้วย

    .....ขออนุญาตเพิ่มเติมเล็กน้อย เท่าที่เคยปฏิบัติมา...
    ถ้าต้องการงดเรื่องเพศจริง ๆ คุณต้องพิจารณาอสุภกรรมฐานกับ กายคตานุสติกรรมฐาน จะเป็นตัวตัดราคะโดยตรง การที่คุณงดกิจกรรมทางเพศเลย โดยที่ไม่มีการวิปัสสนาให้เห็นถึงความเป็นจริง จะเป็นการงดได้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น เหมือนกับใช้กำลังบังคับไว้ พอกำลังใจอ่อนลง กิเลสมันดิ้นหลุด มันก็จะเกิดความต้องการทางเพศที่รุนแรงเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม

    วัยหนุ่มสาวแม้มีความต้องการทางเพศสูงแต่ก็สามารถระงับได้ โดยกำลังสมาธิ กำลังใจ และกำลังปัญญา
    .....กำลังสมาธิ ถ้าในช่วงสั้นๆ หรือเฉพาะหน้า ให้กดอารมณ์อยากด้วยสมถะ
    .....กำลังใจ ต้องเข้มแข้งคิดว่าเราต้องไม่ตกในวังวนนี้อีก
    .....กำลังปัญญา ตัดกิเลสถอนถึงโคตรเหง้า เห็นถึงความเป็นจริง

    ขอแนะนำให้ทำสมาธิ พร้อมทั้งเปิดดูใน ห้องภาพอสุภะ ดูน้ำเลือดน้ำเหลือง น้ำหนอง แล้วพิจารณาให้เห็นถึงความสกปรก

    ที่ข้าพเจ้าทำอยู่ เวลาเห็นคนแต่งตัวโป๊ เผื่อจะเป็นแนวทางดังนี้
    1. มองในรูจมูก นึกถึงเวลาเค้าสั่งน้ำมูก แคะขี้มูก น่ารักไหม
    2. มองตามข้อพับ รักแร้ เวลาเค้าเหงื่อออก มีกลิ่นตัว ยังน่าดูไหม
    3. มองก้น เวลาผู้หญิงผู้ชายใส่กางเกงเอวต่ำ มองให้ลึกเข้าไปว่าข้างในมีอุจจาระ หรือขี้ มีฉี่ มีน้ำเมือกน้ำเหลือง น่าสกปรก ยังน่าร่วมเพศด้วยหรือไม่

    การถือศีลข้อ6 งดอาหารหลังเที่ยงก็ช่วยได้พอควร เพราะอาหารเย็นเป็นการบำรุงกำหนัดโดยเฉพาะ

    สุดท้าย..ก็ขึ้นอยู่กับบารมี คือกำลังใจของคุณเองว่าตั้งมั่นแค่ไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...