ยักษิณี “กาลี” ผู้บรรลุโสดาปัตติผลได้ด้วยการเลิกจองเวร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย MonYP, 23 ตุลาคม 2018.

  1. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,307
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +636
    วันนี้มีบทความดี ๆ มานำเสนอครับ

    ยักษิณี “กาลี” ผู้บรรลุโสดาปัตติผลได้ด้วยการเลิกจองเวร

    ยักษิณี “กาลี” ผู้บรรลุโสดาปัตติผลได้ด้วยการเลิกจองเวร – ที่เมืองสาวัตถี มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว เขาก็ได้เลี้ยงดูแม่มาโดยลําพัง

    เขาต้องทํางานทั้งในบ้านและนอกบ้าน แม่ของเขาเห็นดังนั้นก็รู้สึกสงสาร อยากให้เขามีภรรยา จะได้แบ่งเบาภาระในบ้านไปเสียบ้าง แต่เขาไม่ต้องการ ทั้งยังห้ามแม่หลายครั้งหลายหน แต่แม่ก็ยังคงพยายามหาหญิงสาวมาให้อยู่เรื่อย เขาจึงบอกว่า ถ้าแม่จะไปสู่ขอจริงๆ ก็ขอให้ไปขอจากบ้านสกุลที่เขาชอบ

    ในที่สุดแม่ก็สู่ขอผู้หญิงที่ลูกชอบมาให้เรียบร้อย แต่ปรากฏว่าหญิงนั้นเป็นหมัน แม่เกรงว่าตระกูลจะขาดผู้สืบทอด จึงรบเร้าให้เขามีภรรยาน้อยอีกคนหนึ่ง

    หญิงสะใภ้ได้ยินแม่สามีรบเร้าสามีบ่อยๆ ก็คิดว่าเขาคงทนรบเร้าอยู่ได้ไม่นาน หากได้สะใภ้ใหม่มาแล้วมีลูก ตนเองก็จะลดฐานะลงไปเป็นคนรับใช้ อย่ากระนั้นเลย เราหาให้เองดีกว่า หญิงคนนั้นจะได้อยู่ในอํานาจของเรา คิดแล้ว นางจึงไปนําหญิงที่คุ้นเคยกันผู้หนึ่งมา

    ตอนแรกๆ ก็ดี แต่พอนานเข้า นางก็มีใจริษยากลัวว่าตนจะตกต่ําอีก จึงบอกภรรยาน้อยว่า ถ้าตั้งครรภ์ขอให้บอกแต่เนิ่นๆ

    ภรรยาน้อยพาซื่อ พอตั้งครรภ์ก็บอกนาง นางจึงแอบใส่ยาในอาหาร เป็นผลให้ภรรยาน้อยแท้งลูกไปถึงสองครั้ง

    ครั้งที่ 3 ภรรยาน้อยไปปรึกษากับเพื่อนๆ เพื่อนได้เตือนให้ระวังตัวจากภรรยาหลวง คราวนี้ภรรยาน้อยจึงเงียบอยู่ ไม่ได้บอกให้นางรู้จนกระทั่งครรภ์แก่ แต่ปรากฏว่าเด็กขวางตอนคลอด ทําให้ภรรยาน้อยถึงแก่ความตาย ก่อนจะสิ้นใจภรรยาน้อยอธิษฐานขอจองเวรกับภรรยาหลวง เมื่อตายแล้ว นางจึงเกิดเป็นแมวตัวเมียในบ้านนั่นเอง

    ฝ่ายสามีมารู้ภายหลังว่าภรรยาหลวงทํายาใส่อาหารทําลายครรภ์ของภรรยาน้อยถึงสองครั้งก็โกรธจัด ประหารภรรยาหลวงเสีย นางจึงไปเกิดเป็นแม่ไก่

    พอแม่ไก่ตกไข่ แมวก็ไปกินเสียทั้งสามครั้ง แม่ไก่ผูกพยาบาท ขอให้เกิดเป็นอะไรสักอย่างที่จะทําร้ายแมวได้ แม่ไก่จึงไปเกิดเป็นแม่เสือเหลือง ส่วนนางแมวไปเกิดเป็นแม่เนื้อ พอแม่เนื้อตกลูกทีไร เสือเหลืองก็มากินเสียทุกครั้ง แม่เนื้อผูกพยาบาท พอตายลงจึงไปเกิดเป็นนางยักษิณี ส่วนแม่เสือไปเกิดเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา เมื่อหญิงนั้นคลอดลูก นางยักษิณีก็ปลอมแปลงตัวเป็นเพื่อนของเธอมากินลูกเสียทุกครั้ง

    พอครั้งที่ 3 หญิงนั้นหนีไปคลอดลูกที่อื่น ส่วนนางยักษิณีก็เกิดติดภารกิจเข้าเวรส่งน้ําให้ท้าวเวสสุวรรณหลายเดือน พอออกเวรก็รีบกลับมาบ้านหญิงนั้นและได้รู้ว่าหญิงนั้นหนีไปคลอดลูกที่บ้านพ่อแม่ของตน ยักษิณีจึงรีบวิ่งตามไปทันที

    ส่วนหญิงคู่เวรหลังคลอดลูกแล้วเธอจึงเดินทางกลับมากับสามี พอมาถึงสระน้ําหน้าวัดเชตวัน สามีลงอาบน้ําในสระ ส่วนเธอยืนให้นมลูกคอยอยู่ เหลียวมาเห็นนางยักษ์กําลังวิ่งมาอย่างเร็ว จึงตะโกนร้องเรียกสามีให้ช่วย เมื่อเห็นท่าว่าสามีจะขึ้นมาไม่ทัน เธอจึงอุ้มลูกวิ่งหนีเข้าไปในวัดเชตวัน

    เวลานั้นพระศาสดากําลังประทับแสดงธรรมอยู่ในธรรมสภา เธอนําลูกไปวางไว้ใกล้พระบาทแห่งพระผู้มีพระภาค ละล่ําละลักทูลว่า “ขอได้โปรดเป็นที่พึ่งของเด็กคนนี้ด้วยเถิดเพคะ”

    นางยักษ์วิ่งตามมาจนถึงประตูวัด แต่สุมนเทพผู้สิงอยู่ที่ซุ้มประตูไม่ยอมให้นางเข้า

    พระศาสดาทรงทราบเหตุการณ์โดยตลอด จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ไปนํานางยักษ์เข้ามา หญิงนั้นเห็นนางยักษ์ก็ตกใจกลัว ร้องขอให้พระศาสดาช่วย

    พระศาสดาตรัสปลอบว่า

    “อย่ากลัวเลย ณ ที่นี้นางยักษ์จะทําอันตรายไม่ได้”

    ว่าแล้วพระองค์ก็ตรัสกับนางยักษ์ว่า

    “ดูก่อน ยักษิณีและกุลธิดา เหตุใดเจ้าทั้งสองจึงจองเวรกันเช่นนี้ ถ้าไม่ได้พบพระพุทธเจ้าเช่นเรา เวรของเจ้าทั้งสองจะอยู่ไปชั่วกัป เหมือนเวรของงูกับพังพอน กากับนกเค้า เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร แต่ย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร”

    พระศาสดาทรงเทศนาให้ทั้งสองฟังโดยละเอียดลึกซึ้ง เมื่อจบเทศนา นางยักษ์ได้บรรลุโสดาปัตติผลเป็นโสดาบันผู้มีศีล 5 สมบูรณ์ พระศาสดารับสั่งให้หญิงนั้นส่งลูกให้ยักษิณี กุลธิดากราบทูลว่าเธอกลัว แต่พระศาสดาตรัสว่าอย่ากลัวเลย นางยักษ์เป็นผู้ไม่มีอันตรายแล้ว เธอจึงยอมส่งลูกให้

    ฝ่ายนางยักษ์เมื่อรับเด็กไปกอดจูบแล้วก็ส่งคืนให้พลางร้องไห้ พระศาสดาจึงตรัสถามว่า “เจ้าร้องไห้ทําไม”

    นางยักษ์ทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ เมื่อก่อนนี้ข้าพระพุทธเจ้าหากินโดยไม่เลือก ก็ยังหาอาหารได้ไม่อิ่มเลย ต่อจากนี้ไปข้าพเจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน”

    พระศาสดาจึงรับสั่งให้กุลธิดานํานางยักษ์ไปเลี้ยงไว้ที่บ้านและขอให้อุปการะนางอย่างดี

    ฝ่ายนางยักษ์เมื่ออยู่กับกุลธิดาก็ช่วยบอกว่า ปีนี้ฝนจะตกมากให้ทํานาบนที่ดอน หรือปีนี้ฝนจะตกน้อยให้ทํานาในที่ลุ่ม กุลธิดาทําตามคําแนะนําของนางยักษ์ทําให้ได้ข้าวดีทุกปี

    ชาวบ้านทั้งหลายเมื่อรู้ข่าวก็ชวนกันมาถามบ้าง นางยักษิณีก็บอกให้ คนทั้งหลายจึงนําข้าว น้ํา และผลไม้มามอบให้เป็นการตอบแทน

    ทั้งสองฝ่ายจึงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพราะต่างก็มีอุปการะซึ่งกันและกัน

    ที่มา : นิตยสาร Secret

    เรียบเรียง : ขวัญ เพียงหทัย

    Photo by Saksham Gangwar on Unsplash
    Secret Magazine (Thailand)
    ขอบคุณที่มา https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/117564.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...