พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ห้อยสมเด็จบางขุนพรหม

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 18 กันยายน 2015.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    “บิ๊ก อ๊อด” หรือ “พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา” รองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 ม.ค.
    บิ๊กอ๊อดแม้จะเป็นนายทหารระดับสูง แต่มีบทบาทในแวดวงการกีฬาไม่น้อย ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 และยังเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยอีกด้วย

    พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ห้อยสมเด็จบางขุนพรหม
    พล.อ.ยุทธ ศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2480 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ พล.ท. อรรถ และนางจำรูญ ศศิประภา ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับคุณหญิงอรพรรณ ศศิประภา ธิดาของจอมพลประภาส จารุเสถียร มีบุตรธิดา 4 คน
    ชีวิตการศึกษา บิ๊กอ๊อดเข้ารับการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 8 (จปร.8) ในปี พ.ศ.2504 เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 48 หลัก สูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 33
    ส่วนชีวิตรับราชการทหาร พล.อ.ยุทธศักดิ์รับราชการในสังกัดกองทัพบก จนกระทั่งได้รับยศชั้นพลตรี ในปี พ.ศ.2528 ในตำแหน่งเสนาธิการกรมการรักษาดินแดน ต่อมาในปี พ.ศ.2533 ได้เลื่อนชั้นยศเป็นพลโท ในตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายการข่าว และได้รับยศพลเอก ในปี พ.ศ.2539 เป็นผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
    พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้รับตำแหน่งปลัดกระ ทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2539 จนเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2541
    บิ๊กอ๊อดยังให้ความสนใจสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลมายาวนานกว่า 50 ปี มีพระเครื่องติดตัวประจำกายอยู่ 3 องค์
    พล.อ.ยุทธ ศักดิ์เล่าว่า “องค์แรก เป็นพระรอดลำพูน เป็นแชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ คือ การนำแชมป์พระรอดลำพูนที่เป็นที่ 1 ของทุกสนามพระมาประกวด และองค์ที่ผมห้อยติดตัวเป็นพระรอดได้ที่ 1 คือ สุดยอดของแชมป์ ซึ่งผมได้พระองค์นี้มากว่า 50 ปี เลื่อมใสในพุทธคุณที่ดีของพระเกจิอาจารย์ที่สร้าง ด้วยท่านมีวิทยาคมที่เข้มขลัง ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ”
    บิ๊กอ๊อดย้อน อดีตไปว่า “เมื่อก่อนห้อยสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ใส่มา 3 ปี เมื่อครั้งเป็น ผอ.สนพ. เป็นมา 3 ปี ไม่ได้เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมสักที คุณแม่ภรรยาจึงมอบพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่า วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม ซึ่งคุณพ่อภรรยาเป็นคนที่เปิดกรุด้วยตัวเอง จึงได้เปลี่ยนมาห้อยพระสมเด็จกรุเก่าแทน และอธิษฐานตั้งจิตตภาวนาว่าหากได้ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมตนจะไม่ เปลี่ยนพระติดตัวเลย หลังจากนั้น 6 เดือน ผมได้เป็นรองปลัด ก็ไม่กล้าเปลี่ยนแล้ว สิ่งนี้เป็นปาฏิหาริย์ที่ได้ประสบมากับตัวเอง”
    ส่วน องค์ที่ 3 เป็นพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี องค์นี้ได้มาตอนติดยศ พ.ท. ตอนเป็นผบ.ร.1 พัน.1 ด้วยความชื่นชอบวัตถุมงคลหลวงพ่อแก้ว ที่มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม จึงห้อยคอมาตลอด ด้วยความชอบพระเครื่องและศรัทธาในหลวงพ่อแก้ว จึงนำติดตัวมาถึงทุกวันนี้
    พระเครื่องทั้ง 3 องค์นี้ ผมติดตัวมาตลอดห้อยตั้งแต่สมัยเป็นผู้บังคับกองพัน จนกระทั่งเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็น รมว. กลาโหม จนกระทั่งมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี
    “จริงๆ แล้วการสะสมพระเครื่องของผม เป็นเพราะความชื่นชอบและศรัทธาในพระ พุทธศาสนา ซึ่งวัตถุมงคลหรือพระเครื่อง เปรียบเสมือนตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ให้ชาวพุทธเราได้ยึด เหนี่ยวจิตใจในการทำความดี คิดดี ประพฤติดี ปฏิบัติดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” พล.อ.ยุทธศักดิ์ทิ้งท้าย
    พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ห้อยสมเด็จบางขุนพรหม | พระเครื่องสยาม
     

แชร์หน้านี้

Loading...