พระใหม่น่าสะสมและน่าบูชา หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ยศเมืองนนท, 12 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    ประวัติหลวงปู่พระมหาเจิม ปญฺญาพโล

    [​IMG]

    สำหรับชาติภูมิหลวงปู่มหาเจิม ชื่อเดิม เจิม วรรณโมฬี เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๕๙ ตรงกับแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑
    ณ บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา
    บิดาชื่อ นายหรุ่น วรรณโมฬี มารดาชื่อ นางม้วน วรรณโมฬี มีพี่น้อง ๖ คน ทุกคนเสียชีวิตหมดแล้ว

    บรรพชาที่วัดแสนภุมมาวาส กับหลวงพ่อทอง
    ต่อมาได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับเจ้าคุณอุบาลี คุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส กทม.
    อุปสมบท ณ วัดบรมนิวาส โดยมี พระพรหมมุนี (ติสฺโส อ้วน) เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระครูพินิจ วิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรดำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลวงปู่มหาเจิม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่เจิม
    ท่านเคร่งครัด ในธรรมวินัย เป็นที่สุด พูดน้อย พูดแต่ความจริง ไม่พูดเล่น เป็นผู้รักสันโดษ ไม่ยินดีในลาภยศ สรรเสริญ
    ท่านสละ ไม่ยอมรับแม้ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด
    ลูกศิษย์ถามว่า ทำไมหลวงปู่ไม่ไปอยู่ภาคอีสาน จะได้โด่งดังเหมือนกับพระคณาจารย์อื่นๆ
    ท่านตอบว่า เราไม่อยากดัง มาอยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว จะได้ใช้กรรมให้หมดไป ​

    อ้างอิงข้อมูลจาก พระครูภาวนาปัญญาดิลก(หลวงปู่พระมหาเจิม)วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    อ้างอิงรูปจาก http://www.watpa.com/images_forum/3903.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2013
  2. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    ประวัติที่ 2 ของหลวงปู่
    ชีวประวัติหลวงปู่มหาเจิม ปญฺญาพโล

    [​IMG]

    หลวงปู่มหาเจิม นามเดิม เจิม วรรณโมฬี
    เกิดที่บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.พนมสารคาม(ปัจจุบันเป็น อ.ราชสาสน์) จ.ฉะเชิงเทรา
    เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    บิดามีนามว่า นายหรุ่น วรรณโมฬี มารดามีนามว่า นางม้วน วรรณโมฬี
    มีพี่น้องทั้งหมด ๖ คน เป็นผู้ชาย ๔ คน ผู้หญิง ๒ คน ได้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด ๕ คน
    ที่มีชีวิตอยู่ปัจจุบันเหลือหลวงปู่เพียงองค์เดียว

    การศึกษาของหลวงปู่ในวัยเด็กต้องศึกษากับวัดที่อยู่ใกล้บ้าน
    โดยเรียนหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)
    พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น เพราะยังไม่มีโรงเรียนประชาบาลตั้งอยู่ในวัดสมัยนั้น
    และยังต้องย้ายออกจากบ้าน ห่างจากบิดามารดาและญาติพี่น้องมาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุประมาณ ๘ ขวบ

    หลวงปู่ได้บรรพชาเป็นสามเฌร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ อายุได้ ๑๒ ขวบ
    กับหลวงพ่อทองซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแสนภุมมาวาส และได้อยู่กับท่าน ๑ พรรษา
    ในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงปู่ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และมาอยู่ที่วัดบรมนิวาส ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
    โดยคุณย่าอิ่ม รัดสกุล เป็นผู้นำมาฝากฝังกับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
    และได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อีกด้วย

    การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๑
    หลวงปู่สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒
    และ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได้นักธรรมเอก
    และหลวงปู่ยังสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ในปีเดียวกัน

    เมื่อหลวงปู่อายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ณ พระอุโบสถวัดบรมนิวาส โดยมีพระพรหมมุนี (ติสฺโส อ้วน)
    เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพินิจ วิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระครูวินัยธรดำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ หลวงปู่ได้ออกปฏิบัติ โดยเดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ ได้จำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ๑ พรรษา

    ปี พ.ศ. ๒๔๘๒-พ.ศ. ๒๔๘๗ จำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

    ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ จำพรรษาที่วัดทิพย์วนาราม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้กลับมาจำพรรษาที่ วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อีกครั้ง

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ลงมาอยู่ภาคกลาง ได้ลงไปจำพรรษาที่อ่าวยาง จ.จันทบุรี เพียงรูปเดียว

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้ไปจำพรรษาที่อ่าวหมู กับ พระอาจารย์น้อย เกตุโร อยู่ ๑ พรรษา
    และได้เดินทางลงไปจำพรรษาที่ปักษ์ใต้ โดยได้ไปอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (พระราชนิโรธรังสีคัมคีร์ปัญญาวิศิษฏ์) ที่จังหวัดภูเก็ต

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ จำพรรษาที่อ่าวลึก จ.กระบี่ กับอาจารย์พรหมมา

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๖-พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้อยูจำพรรษาที่คลองช่องลม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ กลับมาจำพรรษาที่วัดแสนภุมมาวาส อันเป็นบ้านเกิด เพื่อเยี่ยมโปรดโยมบิดา โยมมารดา

    ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ กลับลงไปภาวนาที่ภาคใต้อีกครั้ง โดยจำพรราที่อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้ ๑ พรรษา

    ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จำพรรษาที่วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย กับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ (พระสุธรรมคณาจารย์)

    ปี พ.ศ. ๒๕๐๔-พ.ศ. ๒๕๐๗ จำพรรษาที่วัดเขาแก้ว จ.จันทบุรี

    ปี พ.ศ. ๒๕๐๘-พ.ศ. ๒๕๑๗ จำพรรษาที่วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี

    ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ กลับไปวัดเขาช่องลม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่อีกครั้ง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส
    จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๙-พ.ศ. ๒๕๓๑ และในระหว่างนั้นหลวงปู่ได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกระบี่ และ พังงา

    ต่อมาท่านได้มาอยู่ที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซอยจรัลสนิทวงค์ ๓๗ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
    เพื่อรักษาอาการอาพาธ และมาพักอยู่กับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท (พระครูสุทธิธรรมรังษี) ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    ปี พ.ศ. ๒๕๓๓-ปัจจุบัน หลวงปู่ได้รับอารธนานิมนต์มาเป็นประธานสงฆ์ วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเดิมมีพื้นที่เป็นป่าช้าเก่า

    สหธรรมิกของท่านที่เคยอยู่ร่วมกันมามีมากมายหลายท่าน
    เช่น หลวงปู่เทศน์ เทสก์รังษี ,หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ,หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ,หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ,หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ ,หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ เป็นต้น

    หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษไม่หวังลาภยศใดๆ มีลูกศิษย์มาถามท่านว่าทำไมท่านไม่เทศน์บ้าง ท่านตอบว่า

    ธรรมมีมากมาย พระเทศน์เก่งๆก็มีเยอะ แต่คนเอาธรรมไปใช้มีน้อย
    มีลูกศิษย์ท่านนึงขอธรรมะจากท่าน ท่านได้ให้ธรรมะสั้นๆ แต่ออกจากใจท่านแท้ๆ
    ท่านเขียนไว้ว่า "ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก" ท่านบอกว่าใครทำได้ถึงตรงนี้พ้นทุกข์ได้แน่นอน

    [​IMG]

    อ้างอิงรูปจากhttp://www.siambhikkhus.org/image/mahajembig.jpg
    http://muangput.com/main/wp-content/uploads/2012/06/Y8156638-0-215x300.jpg
    อ้างอิงข้อมูลจาก พระครูภาวนาปัญญาดิลก(หลวงปู่พระมหาเจิม)วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
     
  3. jpw

    jpw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +149
    รูปแรกไม่ใช่รูปของหลวงปู่มหาเจิม นะครับ เป็น รูปของหลวงปู่มหาเนียม วัดเจริญสมณกิจ ภูเก็ต สหธรรมมิกของหลวงปู่มหาเจิม
     
  4. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอบคุณครับ
     
  5. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    ในจำนวนผู้ที่มากราบไหว้ขอพรหลวงปู่มหาเจิมนั้นมีทุกระดับ
    ตั้งแต่ชาวบ้านทั่วๆ ไป จนไปถึงเศรษฐีระดับประเทศ
    และหนึ่งในจำนวนนี้มีคนหนึ่งที่มากราบขอพรเป็นประจำคือ "นายเฉลียว อยู่วิทยา" เจ้าพ่อกระทิงแดง อดีตมหาเศรษฐีอันดับ ๓ ของไทย
    ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น นายเฉลียวได้แวะเวียนไปกราบไหว้ สนทนาธรรม
    รวมทั้งฝึกปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่พระมหาเจิมเป็นประจำ
    ซึ่งครั้งหนึ่งหลวงปู่มหาเจิมท่านเคยเทศน์สอนว่า "การขายเหล้าเป็นกรรมสะสม"
    ส่งผลให้นายเฉลียวตัดสินใจขายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำเมาทั้งหมด เหลือเพียงเครื่องดื่มชูกำลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    พร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการสร้างพระมหาเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของวัดสระมงคล​
     
  6. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    [​IMG]
    ๑๓ม.ค๕๖พระราชทานเพลิงสรีระหลวงปู่มหาเจิม

    ๑๓ม.ค๕๖พระราชทานเพลิงสรีระหลวงปู่มหาเจิม
    พระครูภาวนาปัญญาดิลก หรือ หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาภโร วัย ๙๕ ปีเศษ
    อดีตเจ้าอาวาสวัดสระมงคล ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    ละสังขารลงอย่างสงบ เวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น. เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่โรงพยาบาลนครปฐม
    หลังจากเข้ารักษาตัวมาเป็นเวลานานกว่า ๓ เดือน ด้วยโรคชรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

    สำหรับชาติภูมิของหลวงปู่มหาเจิมนั้น เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ต.ค. ๒๔๕๙
    ปัจจุบัน สิริรวมอายุได้ ๙๕ ปี ๙ เดือน พรรษา ๗๔
    เป็นชาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระปฏิบัติกรรมฐาน
    เป็นศิษย์พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๑
    หลวงปู่สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๒ และพ.ศ.๒๔๗๗
    สอบได้นักธรรมเอก และหลวงปู่ยังสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ในปีเดียวกัน

    สหธรรมิกของท่านที่เคยอยู่ร่วมกันมามีมากมายหลายท่าน
    เช่น หลวงปู่เทสก์ เทสรังษี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
    หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ วัดเจริญสมณกิจ หรือวัดหลังศาล อ.เมือง จ.ภูเก็ต
    รวมทั้งหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาร หรือวัดเกาะแก้ว ธุดงคสถาน บ้านระหาร อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น

    ส่วนการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น ท่านได้อนุญาตให้เป็นกรณีพิเศษ
    เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ เนื่องในงานวันเกิดครบ ๙๐ ปี
    โดยมีข้อแม้ว่า "อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกโดยเด็ดขาด"
    และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง
    ประกอบด้วย พระยอดธง รูปเหมือนลอยองค์ เหรียญรูปไข่ เหรียญเสมา ล็อกเกต รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า และพระปิดตาเนื้อผง

    วัตถุมงคลรุ่นนี้มีการตั้งชื่อรุ่นว่า "ปัญญาบารมี"
    ทั้งนี้เพื่อหาปัจจัยสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน
    โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล
    โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับ
    พระเกจิคณาจารย์สายกรรมฐานของวัดป่า
    อาทิ หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม,
    หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย,
    หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม, เป็นต้น

    อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๖ (ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๒)
    จะมีพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่มหาเจิม
    เวลา ๑๖.๐๐ น ส่วน
    วันจันทร์ที่ ๑๔ ม.ค.๒๕๕๖
    เวลา ๐๖.๐๐ น. จะมีพิธีสามหาบ เก็บอัฐิ
    เวลา ๐๖.๓๐ น. - พระสงฆ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ฉลองอัฐิ
    เวลา ๐๗.๐๐ น. - พระภิกษุ-สามเณรออกรับบิณฑบาต/ถวายภัตตาหารเช้า เป็นเสร็จพิธี จึงขอเชิญชวนลูกศิษย์​

    อ้างอิงรูปจาก http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2012/03/02/j5dkjkkcaabfj76kghc7b.jpg
    อ้างอิงข้อมูลจาก ๑๓ม.ค๕๖พระราชทานเพลิงสรีระหลวงปู่มหาเจิม คมชัดลึก : ศาสนาพระเครื่อง : ข่าวทั่วไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2013
  7. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    พระหลวงปู่มหาเจิมพระใหม่ที่แรงมีอนาคต
    [​IMG]
    พระหลวงปู่มหาเจิมพระใหม่ที่แรงด้วยพุทธคุณและมีอนาคต
    : พระองค์ครู เรื่อง/ภาพโดยไตรเทพ ไกรงู
    "๙๙ พระเหรียญมหาเศรษฐีเงินล้าน" เป็นหนังสือที่รวบรวมและเขียน
    โดยนายณัฐพงษ์ ชวาลรัตนสกุล หรือที่ใครรู้จักกันดีในนาม
    “ต้น ท่าพระจันทร์” แชมป์แฟนพันธุ์แท้ พระเหรียญ
    เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑ (ปี ๒๐๐๘)
    โดยได้นำเสนอเหรียญทั้งใหม่เก่า เช่น เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๙๗
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อม
    เหรียญนาคปรก รุ่น ๘ รอบ หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ จ.ระยอง
    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
    รวมทั้งเหรียญหล่อเจ้าสั่วรุ่นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น

    ในจำนวนนี้มีเหรียญสร้างใหม่ที่มีการซื้อขายติดยอดนิยมในปัจจุบัน
    เช่น เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ พ.ศ.๒๕๑๗
    เหรียญใบขี้เหล็กรุ่นแรก หลวงปู่แผ้ว ปวโร พ.ศ. ๒๕๔๗
    และเหรียญพระครูภาวนาปัญญาดิลก หรือหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาภโร อดีตเจ้าอาวาสวัดสระมงคล ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

    หลวงปู่มหาเจิม ได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ
    เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ เนื่องในงานวันเกิดครบ ๙๐ ปี
    โดยมีข้อแม้ว่า "อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกโดยเด็ดขาด"
    ประกอบด้วย พระยอดธง รูปเหมือนลอยองค์
    เหรียญรูปไข่ เหรียญเสมา ล็อกเกต รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า
    และพระปิดตาเนื้อผงมีการตั้งชื่อรุ่นว่า "ปัญญาบารมี" ทั้งนี้ เพื่อหาปัจจัยสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน

    ทั้งนี้ ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล
    โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า
    อาทิ หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม,
    หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย, หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม
    หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์,
    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น,
    หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี,
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย,
    หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก,ห ลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด
    และ หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญเป็นต้น

    ด้วยเหตุที่เป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวในปีที่ออกนั้นกรรมการวัดได้ตั้งราคาวัตถุมงคลทุกรายการไว้เพียง ๙๙ บาทเท่านั้น
    เพื่อให้ลูกศิษย์ได้เช่าหากันอย่างทั่วถึง แต่ปัจจุบันด้วยคำร่าลือเรื่องพุทธคุณและประสบการณ์ด้านมหาอุด
    และแคล้วคลาด ทำให้มีการเช่าหากันสูงถึง ๑,๕๐๐ บาท
    ในกรณีที่สีของเหรียญขึ้นเป็นสีปีกแมลงทัพ
    ซึ่งหายากมากจะมีราคาสูงถึง ๕,๐๐๐ บาทเลยทีเดียว

    ในการเล่นพระเครื่องนั้น “ต้น ท่าพระจันทร์”
    แนะนำว่า "ควรจะเริ่มศึกษาจากพระที่มีราคาไม่แพง โดยเช่าหาจากคนที่สะสม
    พระดี พระแท้ และมีความจริงใจกับลูกค้า
    จะเห็นได้จากคนเล่นพระดีนั้นย่อมเป็นที่ยกย่องและเป็นที่กล่าวถึงของคนในวงการพระเครื่องด้วยกัน"​

    อ้างอิงรูปภาพจาก http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2013/02/22/fkbka9bagb69cej5c7cic.jpg
    อ้างอิงข้อมูลจาก พระหลวงปู่มหาเจิมพระใหม่ที่แรงมีอนาคต คมชัดลึก : ศาสนาพระเครื่อง : ข่าวทั่วไป
     
  8. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    คมชัดลึกวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP3165.JPG
      IMGP3165.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      306
    • IMGP3167.JPG
      IMGP3167.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      156
  9. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    เหรียญหลวงปู่มหาเจิมรุ่นแรก สร้างครั้งเดียว มี 2 แบบ แบบหันข้างและใบเสมา
    ปิดรายการครับ

    บูชาเหรียญละ 1,300 บาท พร้อมกล่องครับ รวมค่าจัดส่งแล้ว
    เหรียญมีจำนวนจำกัดครับ

    ชื่อบัญชี ดวงมณี ศักดิ์สีเท่า ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีติวานนท์
    เลขที่บัญชี 053-000-4829
    โทร. 087-3253333 ยศเมืองนนท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  10. oui-pla

    oui-pla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2011
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอจอง 1 เหรียญครับ แล้วพระปิดตามีหรือป่าวครับขอทราบราคาด้วยครับ
     
  11. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    ครับ จอง 1 เหรียญ ปิดตาหลวงปู่ 1200 บาทครับ
     
  12. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    พระปิดตาหลวงปู่มหาเจิม
    ปิดรายการครับ
    ราคา 1,200 บาท ฟรีค่าจัดส่ง ของมีจำนวนจำกัด

    ชื่อบัญชี ดวงมณี ศักดิ์สีเท่า ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีติวานนท์
    เลขที่บัญชี 053-000-4829

    โทร. 087-3253333 ยศเมืองนนท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  13. kikhoh

    kikhoh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +317
    ขอจองเหรียญหลวงปู่มหาเจิมรุ่นแรก แบบใบเสมา 1เหรียญครับ
    โอนสิ้นเดือนนี้ครับ
     
  14. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    เหรียญหลวงปู่มหาเจิม แบบใบเสมา รุ่นแรก

    ราคา 1,000 บาท ฟรีค่าจัดส่ง ของมีจำนวนจำกัด
    ปิดรายการครับ
    ชื่อบัญชี ดวงมณี ศักดิ์สีเท่า ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีติวานนท์
    เลขที่บัญชี 053-000-4829

    โทร. 087-3253333 ยศเมืองนนท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  15. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    จองเหรียญหลวงปู่มหาเจิมรุ่นแรกแบบใบเสมา 1 เหรียญ ได้ครับ
     
  16. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    พระยอดธงหลวงปู่มหาเจิม
    ปิดรายการครับ
    ราคา 2,500 บาท ฟรีค่าจัดส่ง ของมีจำนวนจำกัด

    ชื่อบัญชี ดวงมณี ศักดิ์สีเท่า ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีติวานนท์
    เลขที่บัญชี 053-000-4829

    โทร. 087-3253333 ยศเมืองนนท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  17. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    รูปเหมือนรุ่นแรกหลวงปู่มหาเจิม
    ปิดรายการครับ
    ราคา 1,300 บาท ฟรีค่าจัดส่ง ของมีจำนวนจำกัด

    ชื่อบัญชี ดวงมณี ศักดิ์สีเท่า ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีติวานนท์
    เลขที่บัญชี 053-000-4829

    โทร. 087-3253333 ยศเมืองนนท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  18. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    เหรียญหลวงปู่มหาเจิมรุ่นแรก สร้างครั้งเดียว แบบหันข้าง
    ปิดรายการครับ
    บูชาเหรียญละ 1,300 บาท พร้อมกล่องครับ รวมค่าจัดส่งแล้ว
    เหรียญมีจำนวนจำกัดครับ


    ชื่อบัญชี ดวงมณี ศักดิ์สีเท่า ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีติวานนท์
    เลขที่บัญชี 053-000-4829

    โทร. 087-3253333 ยศเมืองนนท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  19. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    ไม่กล้าลองเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม

    พระที่นักลองของไม่กล้าลองเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม
    : เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร



    "พุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พ.ศ.๒๔๖๐
    เหรียญพระพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา พ.ศ.๒๔๖๐
    เหรียญพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. พ.ศ.๒๔๔๐
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม จ.เพชรบุรี พ.ศ.๒๔๖๕
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ศ.๒๔๖๙
    เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี ๒๕๐๐
    และเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม"

    ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของเหรียญพระพุทธ และเหรียญพระคณาจารย์
    ที่ขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด คงกระพัน และเมตตามหานิยม
    ของคนในวงการพระเครื่องที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุที่ว่า
    "ผู้นำไปใช้แล้วมีประสบการณ์ จากนั้นก็เล่าสืบต่อกันมาจนในที่สุดกลายเป็นความเชื่อของคนวงการพระเครื่องไปโดยปริยาย"

    อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่เหรียญพระพุทธ และเหรียญพระคณาจารย์
    ที่ขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด และคงกระพัน ของเก่านั้นมีราคาแพงมาก
    หลายเหรียญขึ้นไปหลักล้าน ที่ถูกหน่อยก็อยู่ในหลักแสน
    จึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่มีเงินน้อยจะเช่าหาเหรียญดังกล่าว แต่ใช่ว่าจะหมดความพยายาม
    และวิธีการหนึ่งที่ว่าเป็นทางลัดสำหรับการหาพระเครื่องและวัตถุมงคลที่พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด คงกระพัน
    คือ “การลองของด้วยการใช้ปืนยิงไปที่พระเครื่องและวัตถุมงคล”
    ส่วนเหตุผลยอดฮิตของการลองของคือ
    “ความยากรู้และอยากทดสอบพุทธคุณเพื่อความมั่นใจหากนำไปใช้”

    สำหรับการลองของด้วยการใช้ปืนยิงไปที่องค์พระ หรือวัตถุมงคล
    ส่วนใหญ่จะทดลองยิงกันเฉพาะบุคคล และเป็นข่าวรู้กันในหมู่ของนักลองของเท่านั้น
    แต่ที่ หมู่ ๒ ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม มีการรวมกลุ่มของนักลองของอย่างเป็นเรื่องราวนับสิบคน
    จัดสนามลองของโดยใช้บ่อปลาหลังบ้าน ซึ่งเป็นที่โล่งแจ้งปลอดผู้คน
    โดยมีการลองกันทุกสัปดาห์ ชนิดที่เรียกว่า
    “ใครมีของดีใครมีของแน่ พระเครื่องและเหรียญเกจิใดขึ้นชื่อว่าเหนียว ต้องเจอยิงทุกเหรียญ”

    นายสม พิงสีกัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๒ ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม
    หรือ ที่ลูกบ้านเรียกว่า ผู้ใหญ่นงค์
    บอกว่า เพราะความอยากรู้และคนอยากเห็น การลองของจึงเกิดขึ้น
    การลองทดสอบพุทธคุณองค์พระมีมานาน ทั้งนี้ก่อนการทดสอบพุทธคุณด้วยการยิงทุกครั้ง
    สิ่งหนึ่งที่นักลองของปฏิบัติยึดเป็นธรรมเนียมประเพณี คือ มีธูป เทียน และดอกไม้ เพื่อจุดอธิษฐานอาราธนาชมพุทธคุณและบารมี
    ขณะเดียวกันผู้ที่ลองยิงนั้นจะหันไปในทิศที่วัดนั้นๆ ตั้งอยู่ พร้อมกับตั้ง นะ โม ๓ จบ
    พร้อมกับอธิษฐานจิตว่า
    “การลองยิงในครั้งนี้ไม่ใช่การลบหลู่ใดๆ ทั้งสิ้น หากเป็นการขอชมอำนาจบารมี และพลังแห่งพุทธคุณเท่านั้น”

    “เคล็ดอย่างหนึ่งของมือปืนที่มีความเชื่อสืบต่อกันมามีอยู่ ๒ ข้อ
    คือ ๑.ปืนถ้าจะยิงให้ออกหรือยิงให้เข้า คือปืนที่มีชื่อนำหน้าว่า ลูก เช่น ปืนลูกซอง ปืนลูกกรด
    ๒.ต้องถอดรองเท้า โดยระหว่างยิงต้องยืนอยู่พื้นดิน โดยให้อธิษฐานจิตว่า ขอให้ยิงออก ฝังพื้นพระแม่ธรณี หรือจมดิน
    หากพระเกจิที่ปลุกเสกวัตถุมงคลไม่เก่งและไม่เหนียวจริง ปืนจะยิงทะลุเหรียญ
    ที่ผ่านมาได้ลองยิงพระมาหลายร้อยเหรียญ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยิงไม่เข้า ซึ่งเป็นเรื่องแปลกว่า
    เหรียญที่ทำจากโลหะชนิดเดียวกัน แต่สร้างโดยเกจิต่างองค์กัน
    บางเหรียญยิงทะลุ บางเหรียญกลับยิงไม่ทะลุ
    และที่ยิ่งกว่านั้นคือ ภาพถ่ายของพระที่เป็นกระดาษ หรือ ผ้ายันต์ กลับใช้ปืนยิงไม่ทะลุ” ผู้ใหญ่นงค์กล่าว

    พร้อมกันนี้ ผู้ใหญ่นงค์ยังบอกด้วยว่า
    พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ยิงออกนับวัดและจำนวนไม่ถ้วน ที่ยิงไม่ออกก็มีอยู่ไม่น้อย
    ครั้งหนึ่งเคยมีคนนำ เหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม ปัญญาพโล ประธานสงฆ์จังหวัดนครปฐม มาให้ลองยิง
    คิดว่าต้องยิงเข้า แต่ที่ไหนได้เหรียญที่ตั้งไว้กับโฟมไม่ล้ม และลูีกปืนกลับไม่ระคายผิวองค์พระแม้แต่น้อย
    หลังจากออกมาจากจุดลองของ อยู่ๆ เป็นอัมพาตไปครึ่งตัว ใช้เวลาหลายวันจึงหายเป็นปกติ
    จากนั้นเป็นต้นมาก็มีเรื่องเล่าของผู้ที่เอาเหรียญพระมหาเจิมไปลอง
    เหรียญยิงไม่เข้า หรือปืนยิงไม่ออก แต่ผู้ยิงต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นานา
    จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครกล้าลองเหรียญลบหลู่ปู่มหาเจิมอีกเลย


    ข้อคิดจากดาบสุธี

    ในบรรดานักลองของนักทดสอบพุทธคุณของพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ที่เลื่องชื่อของ จ.นครปฐม
    ต้องยกให้ ด.ต.สุธี เสรีเผ่าวงษ์ ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ อำนวยการตำรวจภูธรภาค ๗ (ผบ.หมู่ อ.ก.บก.๗) หรือเจ้าของฉายา “ดาบธี ภาค ๗”
    ที่ผ่านมาเขาได้นำพระเครื่อง เครื่องรางของขลังของพระเกจิอาจารย์วัดและสำนักต่างๆ มาทดสอบนับจำนวนไม่ถ้วน
    โดยลองมาทุกวัด ทุกสำนัก เรียกว่าเกือบทุกอย่างก็ว่าได้ เหตุผลหนึ่งของการลองของ
    เพราะอยากรู้ว่าพระที่ได้มาซึ่งเป็นสมบัติตกทอดมาจากพ่อเป็นพระเก๊หรือพระแท้กันแน่ เพราะเซียนหลายคนดูบอกว่าเป็นพระเก๊ แต่ตัวเองไม่เชื่อ ดังนั้นต้องยิงเพื่อพิสูจน์พุทธคุณ ครั้งนั้นหลังจากอาราธนาของพุทธคุณแล้วใช้ปืนขนาด ๒๑ มม. ยิงระยะเผาขน ซึ่งอย่างไรก็ต้องโดนองค์พระ ปรากฏว่าองค์พระไม่เป็นอะไรเลย ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าเป็นพระแท้

    “พุทธคุณของพระเก่า พระกรุ เรื่องเหนียว คงกระพัน และแคล้วคลาด เป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาจนกลายเป็นความเชื่อ ในขณะที่พุทธคุณพระใหม่ไม่จำเป็นต้องอาศัยเรื่องเล่า เหนียวไม่เหนียว เป็นมหาอุดหรือไม่เป็นมหาอุด เราสามารถทดสอบได้ตัวเอง แค่วางเหรียญลงแล้วใช้ปืนจ่อยิงไปที่เหรียญรู้กันทันที ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าคนเล่นพระ คนแขวนพระอยากได้พระที่มีพุทธคุณทางมหาอุดกันทั้งนั้น” นี่คือการทดสอบพุทธคุณในองค์พระของ ดาบธี ภาค ๗

    คำร่ำลือเรื่องพุทธคุณของ เหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม นั้น ดาบธี ภาค ๗ บอกว่า มีผู้ต้องหาหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกัน เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายรายเสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นไร ซึ่งมีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลาย สน. ด้วยกิตติศัพท์คำล่ำรือดังกล่าว นักลองของจึงนำไปลองยิง ที่ยิงไม่ออกนั้นไม่เท่าไร แต่ผู้ที่ลองยิงส่วนใหญ่มีอันเป็นไป ต้องรีบจุดดอกไม้ธูปเทียนขอขมาหลวงปู่พระมหาเจิม ทุกวันนี้นักลองของจะไม่กล้าลองยิงเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม ปญฺญาพโล​

    อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/detail/20120228/124115/ไม่กล้าลองเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2013
  20. ยศเมืองนนท

    ยศเมืองนนท Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +49
    "พระครูภาวนาปัญญาดิลก" หรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่า "หลวงปู่เจิม ปัญญาพโล" เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของนครปฐม ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระที่เคร่ง ครัดพระธรรมวินัย ใส่ใจปฏิบัติกัมมัฏฐาน

    เป็นยอดพระเกจิแห่งยุคอีกรูปหนึ่ง มีสมาธิจิตใจอันแน่วแน่เด็ดเดี่ยว สมาธิมั่นคง

    ปัจจุบันอายุ 96 พรรษา 76 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระมงคล อ.กำแพง แสน จ.นครปฐม

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า เจิม วรรณโมฬี เกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2459 ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ณ บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา

    การศึกษาของท่านในวัยเด็ก ต้องศึกษากับวัดที่อยู่ใกล้บ้าน โดยเรียนหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น

    จากนั้นได้บรรพชาเมื่อปีพ.ศ.2470 อายุได้ 12 ปี กับหลวงพ่อทอง เจ้าอาวาสวัดแสนภุมมาวาส ได้อยู่กับท่าน 1 ปี

    ในปีพ.ศ.2471 จึงเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และอยู่จำพรรษาที่วัดบรมนิวาส ปทุมวัน โดยคุณย่าอิ่ม รัดสกุล เป็นผู้นำมาฝากฝังกับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) และได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์นั่นเอง

    เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งบาลีและนักธรรม

    ในปีพ.ศ.2477 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสามารถสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ในปีเดียวกัน

    ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปีพ.ศ.2480 ณ พระอุโบสถ วัดบรมนิวาส มีพระพรหมมุนี (อ้วน ติสโส) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพินิจวิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวินัยธร (ดำ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    พ.ศ.2484 พระมหาเจิมได้ออกปฏิบัติธรรม เดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ จำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนย้ายไปจำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียง ใหม่

    พ.ศ.2488 ย้ายจำพรรษาที่วัดทิพย์วนาราม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พ.ศ.2490 เดินทางกลับมาอยู่ภาคกลาง พ.ศ.2491 ได้ไปจำพรรษาที่อ่าวหมูกับพระอาจารย์น้อย เกสโร 1 พรรษา จากนั้นเดินทางลงไปจำพรรษาที่ปักษ์ใต้ โดยได้ไปอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่จ.ภูเก็ต

    พ.ศ.2499 กลับมาจำพรรษาที่วัดแสนภุมมาวาส อันเป็นบ้านเกิด พ.ศ.2503 จำพรรษาที่วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย กับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

    ต่อมา ท่านได้มาอยู่ที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอก น้อย กรุงเทพฯ เพื่อรักษาอาการอาพาธ และมาพักฟื้นอยู่กับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    พ.ศ.2533 ท่านได้รับนิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

    ทั้งนี้ วัดสระมงคล มิได้เป็นวัดที่มีเสนาสนะพร้อมสมบูรณ์ แม้จะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่สภาพพื้นที่วัด ใครที่เดินทางไปอาจหาไม่เจอได้ เพราะห่างจากถนนใหญ่พอสมควร ป้ายใหญ่บอกทางก็ไม่มี ถนนคดเคี้ยวเหมือนจะนำไปสู่หมู่บ้านต่างจังหวัดที่กันดาร จนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีอารามอยู่ในพื้นที่นี้

    ทั้งนี้ หลวงปู่เจิมได้สร้างคุณูปการแก่วัดเป็นอันมาก ก่อสร้างถาวรวัตถุของวัด อาทิ สร้างหอสวดมนต์, ศาลาการเปรียญ สำหรับหมู่กุฏิของวัด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม อยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมยิ่ง

    ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่หลวงปู่เจิมท่านสร้าง ล้วนแล้วแต่ทรงคุณอันวิเศษ และเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมาก

    การจัดสร้างวัตถุมงคล บ่อยครั้งที่มีลูกศิษย์และสาธุชนที่เลื่อมใสหลวงปู่เจิมจะเข้ามากราบขออนุญาตบอกว่า อยากได้วัตถุมงคลของท่านไปบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล

    แต่หลวงปู่เจิมเพียงยิ้มรับและไม่เคยอนุญาตให้จัดสร้าง ซึ่งที่ผ่านมามีนักสร้างพระไปขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลนับสิบราย แต่ท่านไม่เคยอนุญาตให้ใครเลยสักรายเดียว

    แต่ในที่สุด ท่านอนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกสร้างโดยเด็ดขาด นี่เป็นข้อแม้ของหลวงปู่เจิมในการอนุญาตให้ศิษยานุศิษย์ สร้างวัตถุมงคล เมื่อปีพ.ศ.2549 ประกอบด้วย พระยอดธง เหรียญเสมา เหรียญรูปไข่หันข้าง รูปหล่อลอยองค์ รูปหล่อยืน และพระปิดตาจัมโบ้ผสมผงเกศาหลวงปู่เจิม

    หลวงปู่เจิมให้เหตุผลไว้ว่า สาเหตุที่อนุญาต ให้จัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูง

    แต่ถึงแม้วัตถุมงคลของหลวงปู่เจิม จะมีพุทธคุณเข้มจนได้รับความนิยม แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่ มีแต่พร่ำสอนอย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่น เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว

    ในจำนวนผู้ที่เข้ามากราบหลวงปู่เจิมนั้นมีทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชาวบ้านทั่วไปจนถึงเศรษฐีระดับประเทศ ที่มากราบขอพรเป็นประจำคือนายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง อดีตมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของไทย ที่เพิ่งถึงแก่กรรม

    ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น นายเฉลียวแวะเวียนไปสนทนาธรรม รวมทั้งฝึกปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เจิมเป็นประจำ พร้อมทั้งร่วมเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการสร้างพระมหาเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของวัดสระมงคลอีกด้วย

    ด้วยล่วงเข้าสู่วัยชราอายุกว่า 96 ปีแล้ว ทำให้สุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยไปตามวัย บ่อยครั้งที่หลวงปู่เจิมมีอาการอ่อนเพลีย ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลเป็นประจำ

    แต่ครั้นเมื่อมีสาธุชนเดินทางมาที่วัดสระมงคล ท่านคงยังเมตตาให้ได้เข้าพบเพื่อกราบนมัสการสนทนาธรรมจากท่านอยู่เสมอ



    --------------------------------------------------------------------------------















    Re: ประวัติหลวงปู่พระมหาเจิม ปญฺญาพโล



    ลูกศิษย์เศร้า"พระเกจิดัง"มรณภาพอย่างสงบ

    ที่ รพ.นครปฐม ได้แจ้งว่า หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาภโร วัย 95 ปีเศษ เจ้าอาวาสวัดสระมงคล ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้ถึงแก่มรณะภาพแล้ว หลังจากเข้ารักษาตัวที่ รพ.ฯมาเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ด้วยโรคชราเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งทางลูกศิษย์และพระสงฆ์ภายในวัดเตรียมรับศพมาจัดงานบำเพ็ญกุศลในวันวันที่ 24 มิ.ย.55

    พระครูบวรธรรมสถิต รักษาการเจ้าอาวาสฯ บอกว่า หลวงปู่เจิม ได้มีอาการป่วยมาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยหลวงปู่เจิมเป็นโรคเกี่ยวกับอัมพฤก อัมพาต ขยับตัวไม่ได้ ต้องนอนซมรักษาตัวระหว่างวัดกับ รพ.ฯมาเป็นเวลานาน จนล่าสุดเมื่อระมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา อาการของหลวงปู่ไม่ดีขึ้นมีอาการทรุดตัวลง ทางวัดซึ่งมีเพียงพระลูกวัดไม่กี่รูปต้องผลัดกันดูแลหลวงปู่ และในที่สุดต้องนำหลวงปู่ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.นครปฐม ซึ่งแพทย์ได้รับตัวไว้รักษาเป็นเวลากว่า 3 เดือน และเห็นว่าอาการหลวงปู่เริ่มจะดีขึ้นแต่ก็ไม่คิดว่าจะมามรณภาพ

    พระครูบวรธรรมสถิต บอกอีกว่า เย็นวันที่ 23 มิถุนายน ทางวัดโดยพระสงฆ์และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ จะได้เดินทางมาที่วัดเพื่อประชุมหารือถึงการจัดงานพิธีศพของลวงปู้ว่าจะดำเนินการกันอย่างไร แต่ในเบื้องต้นในวันที่ 24 มิถุนายน นี้ โดยช่วงเช้าได้กำหนดการที่จะเดินทางไปรับศพหลวงปู่กลับมาทำพิธีที่วัดต่อ สำหรับหลวงปู่เจิมแล้วท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่เคร่งในพระพุทธ พระธรรม เป็นพระสายปฎิบัติกัมฐาน เป็นศิษย์รุ่นพี่ของหลวงตามหาบัว และเป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต








    --------------------------------------------------------------------------------
















    Re: ประวัติหลวงปู่พระมหาเจิม ปญฺญาพโล พระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์ ตามหลวงตามหาบัวกล่าว




    วัตถุมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงปู่จัดสร้าง ประสบการณ์เยอะมากๆเลยครับ
    เหรียญหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล รุ่นปัญญาบารมี เป็นเหรียญที่ออกในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ เนื่องในงานวันเกิดครบ ๙๐ ปี ประกอบด้วย
    1.รูปเหมือนลอยองค์
    2.เหรียญรูปไข่
    3.เหรียญเสมา
    4.ล็อกเกต
    5.รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า
    6.พระปิดตาเนื้อผง
    ทั้งนี้ท่านได้เมตตาต่อลูกศิษย์เป็นกรณีพิเศษ โดยมีข้อแม้ว่า "อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกโดยเด็ดขาด" ทั้งนี้เพื่อหาปัจจัยสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน

    สำหรับยันต์ที่ปรากฏบนหลังเหรียญรุ่นนี้ ประกอบด้วย ๑.คาถาหัวใจอริยสัจ ๔ ที่ว่า (แถวบน) อ่านว่า "ทุ สะ นิ มะ" ส่วนแถวที่ ๒ (แถวกลาง) "นะโมวิมมุตตานัง" และ แถวที่ ๓ (แถวล่าง) "นะโมวิมุตติยา" ซึ่งต้องอ่านต่อเนื่องกัน "นะโมวิมมุตตานัง นะโมวิมุตติยา" เป็น "พระคาถาโมรปริตร" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พระคาถาพญายูงทอง" มีความหมายว่า "ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่ผู้วิมุตแล้วทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่วิมุตตฺธรรม"

    พระคาถาโมรปริตรนี้เป็นคาถาที่บรรดาพระป่าสาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ส่วนมากให้ความสำคัญในการบริกรรมพระคาถาบทหนึ่ง และเป็นคาถาที่ปรากฏในตำนานโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) ซึ่งเป็นนิทานชาดก โดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น "พญานกยูงทอง"

    อ้างอิงข้อมูลจากประวัติหลวงปู่พระมหาเจิม ปญฺญาพโล พระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์ ตามหลวงตามหาบัวกล่าว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...