พระพุทธรูปกอดสีกานั่งคร่อมบนตัก โผล่เวียดนาม

3 อย่างเมื่อส้องเสพมาก ยิ่งไม่รู้จักพอ ​

"ภิกษุทั้งหลาย มีอยู่ ๓ สิ่ง ที่เข้าไปส้องเสพแล้ว ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ

3 สิ่งนั้นเป็นไฉน

ความอิ่ม ความพอ ในการนอนหลับ ย่อมไม่มี

ความอิ่ม ความพอในการเสพ(อบายมุข) สุราเมรัย ย่อมไม่มี

ความอิ่ม ความพอ ในการเสพเมถุนธรรม (การเสพกาม) ย่อมไม่มี

สามสิ่งนี้แล ไม่มีความอิ่ม ความพอ ในการเข้าไปส้องเสพ" ......

อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต​

 

หลบทำไม นี่ก็หมอกฤตอีกร่างหนึ่งหลายยูสจริงนะคุณ ก่อนอื่นผมไม่ได้นับถือลัทธิตันตระ เลิกยัดเยียดได้แล้วนะครับ ผมประกาศตั้งแต่กระทู้แรก และผมไม่ได้ยึดตามท่านพุทธทาส ผมเห็นคุณไปยกข้อความชาวบ้านที่พูดเหมือนคุณมา ผมก็ไปยกข้อความท่านพุทธทาสที่พูดเหมือนผมมา

เข้าใจให้ถูกอย่าบิดเบือนประเด็น ผมไม่อ้างท่านพุทธทาสหรอก ผมคิดเองได้ ผมหาข้อความทำนองนี้ของนักคิดคนนู้นคนนี้ได้อีกเป็นร้อย มาสนับสนุนความคิดตัวเอง

ดังนั้นคุรอย่ากล่าวหาส่งเดชนะครับ ผมไม่ได้นับถือตันตระ แต่คุณเข้าใจเขาผิดแล้วคุรไปด่าเขาส่งเดช ผมมาบอกว่ามันไม่ใช่ที่คุณด่าเลยนะ เขาพูดไปอีกคนละทางเลย คุรจะด่าเขาจะวิพากษณ์จะอะไรก็เถอะ คุณวิพากษ์แนวคิดที่มันถูกต้องสิ มันถึงจะมีประโยชน์ไปวิพากษณ์ทำไมแนวคิดความเข้าใจตที่มันผิด

แยกหน่อยคุณ คุณบอกคุณทำตามท่านทำตามพระพุทะเจ้าผมว่าไม่มั้ง ทำตามตัวกูของกูมากกว่า ถามว่า ผมรู้ได้ไง ผมรู้สิ เพราะคุณอ่านที่ผมพูดคุรยังอ่านจับประเด็นไม่ถูกเลย จับเอาเองตามใจคุณ แล้วคุณศึกษาอย่างที่คุณอ้าง คูรจะไม่จับเอาตามใจกูหรอ

เชิญคุณพูดเอาเองตามสบายและกัน ผมจะไม่มาเถียงกับคุณแล้ว เบื่อไว้คุณอ่านหนังสือให้ออกก่อน จับความหมายให้ถูกว่าเขาพูดอะไรกัน ผมค่อยมาเล่นกับคุณใหม่

ตามสบาย นะ ส่วนบาลีนะขอโทษครับ ผมเป็นเปรียญนะครับ ผมจะรู้บาลีดีกว่าท่านนั้นๆๆหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆๆรู้มากกว่าคุณก็แล้วกัน

ความอิ่มความพอในเมถุนธรรมย่อมไม่มี ไม่ต้องเน้นหรอกผมก็ไม่เคยบอกว่ามันมีนี่ ไปอ่านดูนะผมพูดว่าไง ผมบอกเซ็กส์ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย ผมบอกปัญหาคือคุณไม่อิ่มไม่พอมันต่างหาก เป็นตัญหา อุปทาน และทุกข์ไป เบื่อจะพูดซ้ำและ คุณไม่ฟังผมเลยนี่หว่า และก็ตันตระไม่ใช่เสพกามบรรลุธรรม นี่มันเป็นความเข้าใจผิด เรื่องกามแบบตันตระ คุรเข้าใจเอาเองว่าตันตระคือเสพกามบรรลุธรรม ผมมาพูดว่ามันไม่ใช่ มันเป็นแบบนี้เรื่องกามเขานะ มาพูดตั้งแต่วันแรกแล้ว นี่คุณไม่ได้ห่าอะไรเลยหรือครับ ยังเสพกามบรรลุธรรมคือตันตระอีกหรอครับ ผมล่ะกลุ้มใจจริงๆๆ ไหนเอาคลิปทะไลลามะสอนแบบนี้มาสิ เอาคลิปลามะรูปใดก็ได้ ผมว่าคุณหาไม่เจอเอาไหม แล้วจะมาพูดว่าเขาสอนแบบนี้ได้ไง เขาไม่ได้สอนแบบนี้ เรื่องกามเขาพูดอีกแบบ และคุณจะเห็นด้วยหรือเปล่าคิดเอาอีกที ผมพูดแบบนี้ โอ๊ยถ้าแค่เสพกามบรรลุธรรม คือตันตระ พระทิเบตแม้งไม่มีเมียหมดหรือครับ ไปหามาสิพระที่มีเมียนะ ที่มีเมียนะสมี ไม่ก็สึกแล้ว หรือเป็นฆาราวาสอยู่แล้ว


ไอ้ความอิ่มความพอในกามนะ ปุถุชนนะไม่มีหรอก แต่พระอริยนะมีนี่หลักการ พระพุทธเจ้าสอนให้พระเลี่ยง เพราะมันยากที่จะอิ่มที่จะพอ แต่พระอริยะต้องเอาชนะความอิ่มความพอในกามให้ได้ ไม่งั้นก็ไม่ใช่พระอริยสิครับ อย่างเก่งก็อริยขั้นโสดาบัน เพราะยังละกามราคะไม่ได้ จริงๆๆผมจำไม่ได้นะอริยขั้นไหนล่ะกามราคะได้แล้ว แต่พระอรหันต์นี่ชัวร์ อ้อจำได้และ สูงกว่าโสดาบันขึ้นไปนี่ ที่คนเคยเสพจะละได้ไม่ได้ทั้งๆๆที่เคยเสพไปแล้วก็ให้ดูที่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วท่านยังนอนกับพระนางพิมพา ไหมล่ะ อย่าบอกท่านไม่เคยเสพกามนะครับ ท่านเคยสิ ท่านถึงมีพระราหุล แล้วท่านพอไหม? ถ้าไม่พอจะมีพระพุทธเจ้าหรือครับ

คุณบอกใครเสพกามนะไม่มีวันพอหรอก นี่ไงตัวอย่างว่าการพอการเบื่อมันเป็นไปได้จริง ถ้าคุณฉลาดพอ คุณเห็นโทษของมันแล้ว คุณเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ ตันตระนะเขาพยายามให้คุณเห็นตรงนี้จากกามให้ได้จริงๆๆไม่ใช่แค่หลักทฤษฏี ไม่ใช่เสพกามบรรลุธรรม เรามาทำพิธีเสพกามบรรลุธรรม ปัญญาอ่อน ทั้งคนคิดคนทำแล้วครับแบบนี้

ตันตระเขาสอนว่าในขณะที่คุณฉิ่งฉับกับเมียกับสามีคุณ ในกรณีที่คุณมีคู่รักจุ๊กกรู้ นะ คุณเห็นโทษของกามไหม คุณเรียนรู้อะไรจากมันบ้าง หรือเสพเอามันส์หลับหูหลับตาไปงั้น เขาสอนให้คุณเรียนรู้ให้ได้ จากตรงนี้ จุดใหญ่ใจความคือ มนสิการ คือ เขาบอกในขณะที่คุณเกิดไปเสพขึ้นมาเป็นการบ้านผลิตลูกตามปกตินี่ ตอนนั้นคุณเห็นอะไรจากมันบ้าง เห็นให้ได้นะ คือถ้าเห็นจนหย่าขาดไปเลย นี่ถือว่า บรรลุจุดมุ่งหมายของกามมุทราในตันตระ ถ้ายังนี่ยังไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย ก็ไม่ใช่ให้ฉิ่งฉับไปเรื่อยๆๆจนกว่าจะเห็นคืนละหลายๆๆครั้งไม่ใช่ แต่ถ้าวันที่เมียที่สามีคุณเกิดสะกิดขึ้นมาคุณเกิดเข้าจังหวะนั้นขึ้นมาในชีวิตคู่ นี่จะแต่งหรือยังไม่แต่งก็เถอะ ให้ลองมีมนสิการให้เห็นทาสแท้ของกามราคะว่าเป็นบ่วงยังไงให้ได้ซิ

มันไม่ใช่เสพกามบรรลุธรรม แต่เป็นเรียนรู้จากกามจนเหนว่ากามมีโทษความสุขจากกามนี่มันนำความทุกข์ไร้แก่นสารแค่ไหนต่างหาก ยกให้ออกระหว่างคนโง่กับคนที่มีปัญญานะครับ อ่านอะไรจับประเด็นหน่อยไม่ใช่ยกมาแบบคนไม่มีความคิด ยกมายังยกมาแบบลอยๆๆไม่ทำความเข้าใจเลย นี่แหละหนอคนเรามันถึงได้มีพวกปัญญาแบบหยาบแบบละเอียดแบบปูนกลางอะไรๆๆ คิดบ้างนะคุณ หัวมีไว้ให้ใช้

 

มรรควิธี "ตัญหาละตัญหา" ใครสอนหรือ?


ไร้มรรควิธี นั่นแหละ "ผลจึงเกิด"
ยึดติด "มรรควิธี" ผลย่อมไม่มี


เมล็ดถั่ว ดับไป ให้ผลเป็น "ถั่วงอก"
ฉันใด "มรรคดับไป" ผลจึงเกิด ฉันนั้น


เมื่อไร้มรรควิธีแล้ว จิตตรงธรรมแท้ อะไรก็เป็นมรรค
นี่ไม่ได้หมายถึง เอาตัญหาไปละตัญหานะครับ เพราะ
นั่นก็ยัง "ยึดติดมรรควิธี" (วิธีัเอาตัญหาละตัญหา) เช่นกัน

 

คุณเห็นอะไร?


การเสพกาม?
หรือ การนั่งสมาธิ?


หรือ ทั้งสองอย่างไม่ต่างกัน

 

ตามสบายเลยครับท่านผู้รู้ ถ้าคุณอยากบอกว่าตัวเองว่ารู้มากกว่าผมแล้วคุณสบายใจ ก็ได้ครับ....เพื่อความสบายใจของคุณ ผมยกให้คุณเป็นผู้รู้แล้วกันครับ ท่านผู้รู้มาก.....

แต่ที่ว่าคุณจบเปรียญธรรมมานี่ผมน่าสงสัย เปรียญสำนักใหนเขาสอนคุณมาอย่างนี้ เอาเป็นว่าคุณอยากให้เขาเชื่อคุณว่าคุณจบเปรียญมา ผมก็ไม่ว่า คุณจบเปรียญมาเหรอครับ เปรียญสำนักลัทธิตันตระของคุณเหรอครับ ถึงสนับสนุนกันได้นะ ไม่ใช่เปรียญสำนักพระพุทธเจ้าแน่ๆ เพราะเปรียญสำนักพระพุทธเจ้าย่อมไม่กล่าวตู่พระตถาคต......
......................................................................................................

ผู้กล่าวตู่พระตถาคต ​

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! บุคคล ๒ ประเทภเหล่านี้ ย่อมกล่าวตู่ (หาความ) ตถาคตคือบุคคลผู้คิดประทุษร้าย มีโทสะในภายใน ๑

ผู้มีศรัทธา กล่าวตู่ด้วยถือเอาความหมายผิด (แสดงให้เห็นว่าผู้ให้ร้ายพระพุทธเจ้า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่โกรธ หรือเกลียดซังเท่านั้น ผู้เคารพนับถือมีศรัทธานั่นแหละ ถ้าเรียนผิด ทรงจำผิด หรือเข้าใจผิด ก็อาจพูดด้วยความเข้าใจผิดนั้นเป็นไปในทางให้ร้ายได้เหมือนกัน ) ๑.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๒ ประเภทเหล่านี้แล ย่อมกล่าวตู่ตถาคต "

ทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๓๖ ​

 

นิทานยามดึก "ศิษย์โง่ไปเรียนเซน"


ศิษย์โง่คนหนึ่ง ปรารถนานิพพาน ไปขออาจารย์เซนให้สอน
อาจารย์บอกให้ "เอาน้ำรดหิน" หินงอกเมื่อไร จะได้บรรลุธรรม
(เหมือนดังเช่นพระกวนอิมที่รอกิ่งหลิวงอกจากแจกัน นั่นแหละ)


ผ่านไปนานแสนนาน ในที่สุด ศิษย์โง่ก็รู้สึกว่าถูกหลอก หินมันจะ
งอกได้อย่างไร? จึงเลิกปฏิบัติแล้วไปหาอาจารย์ หลังจากสนทนา
แล้ว ศิษย์โง่ ก็บรรลุธรรม?


เพราะเอาน้ำรดหินดอกหรือ? หรือเพราะกิ่งหลิวงอกละเนี่ย?

 

ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะครับ ว่าผมเป็นคนไทยจะเป็นคนของตันตระได้ไง อย่าเบี่ยงประเด็นเลยคุณ พูดไปพูดมา ตัวเองไปเข้าใจเขาผิด ไปทึกทักเอาเอง พอคนอื่นมาบอกแทนที่ จะปรับความคิดใหม่พัฒนาปัญญาให้มันงอกเงยอย่างน้อยก็เฉลี่ยวใจมองดูสักนิดก็ได้ ไม่ต้องเชื่อคนบอก ไม่มี กลับไปคิดว่าเขาจ้องจะฉีกหน้าตัวเอง ทำตัวเองหน้าแหก
เลยต้องแสดงอาการออกมา นู้นนี่ ไปหมด มนุษย์เรานี่หนอ ทำไมมันเป็นแบบนี้ว่ะ

ตำรา อ.สุชีพนี่ อ่านให้มันมีสาระ คิดหน่อยคุณไม่ใช่ไปก็อปปี้ที่เขาแปลมาลงส่งเดชให้ดูโก้ๆๆไปนั้น ผมเห็นที่คุณไปเอามาลงแค่สำนวนแปล นี่ผมก็รู้แล้วไปลากมาจากไหน ตันตระไหมล่ะ

และเลิกซะทีนะ ไอ้คนเดียวหลายยูสมาคอยกดอวยให้กันนี่ ผมเบื่อวิธีตลบแตลงแบบนี้ที่สุด ผมไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับคุณไหม แต่ที่แน่ๆๆไอ้ที่กดไม่เห็นด้วยทั้งหมดนี่มันคนเดียวกัน ผมรู้จักคนนี้มานาน มันมียูสเป็นร้อยคอยเถียงแทนตัวเองกดอวยตัวเอง คิดว่าคนอื่นรู้ไม่ทันล่ะสิ

 

คนชาติใหนก็เป็นตันตระได้หมดหละครับ เพราะมันเป็นตัณหาไม่ใช่เหรอ ลัทธิตัณหาดับตัญหานั่น มันเป็นลัทธิ มันเป็นความเชื่อ มันเป็นแนวคิด ....

ถ้าคุณรับเขามาเห็นดีเห็นงาม ทั้งๆที่พระพุทธเจ้ากล่าวชัดว่าไม่ใช่ทาง คุณไปเห็นดีเห็นงามกันเขา ไม่พอคุณมาประกาศความดีของเขาอีก บอกว่าเป็นทาง เป็นมรรควิถีพ้นทุกข์ ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงกล่าวอย่างนั้น....

ผมจะไปปรักปรำคุณทำไม ผมเพียงแค่นำเสนอในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงชัดเจน เพื่อไม่ให้มีผู้หลงผิดคิดว่าดีไปตามคุณ จดจำไปว่ามันเป็นทาง เป็นมรรควิถี ....

 

ผมบอกหรอกว่าเห็นดีเห็นงาม คุณจะแถก็ให้เนียนๆๆหน่อย ผมบอกเขาว่างี้เราไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยผมย้ำทุกครับที่พูดว่า เขาว่างี้ ผมเก็บมาเล่าเราชาวเถรวาทไม่จำเป็นต้องไปเห็นด้วย และมันไม่ใช่ตัญหาดับตัญหา คิดเอาเองอีกแล้วคุณ แต่เป็นใช้ตัญหาสร้างปัญญา คือคุณเรียนรู้อะไรจากตัญหาของคุณได้บ้าง ประเด็นเขาอยู่ตรงนี้เอง

ผมไม่เคยบอกนะครับว่าพระพุทธเจ้าสอนตันตระ ผมบอกพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนแล้วผมถูกคนที่นับถือเขาด่าเอา อีกอย่างผมไม่เคยบอกว่าปฏิบัติตันตระแล้วจะหลุดพ้นได้นะครับ ผมบอกแค่ว่าคนที่นับถือเขาว่าอย่างงี้ เราไม่จำเป็นต้องไปตามเขา เราแค่รู้ไว้ใช่ว่า เห็นด้วยไม่เหนด้วยอีกที

เลิกบิดเบือนคำพูดผมเอาเอง ตามทิฏฐิคุณเถอะ คุณอ่านหนังสือออกไหมครับ หรือ ทิฏฐิในใจคุณมันบังตาจนอ่านไม่ออกแล้วนี่

 

คุณจะไปว่าเขาทำไม คุณไม่พอใจเขาเหรอ ในเมื่อเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ หลายคนต่อหลายคน ทำไมคุณไม่มองย้อนกลับมามองตนเองหละ ว่าผิดว่าพลาดอะไรไป ชาวบ้านเขาจึงไม่เห็นด้วย ไม่ใช่กอดทิฏฐิด่าว่าคนอื่นเขาว่าไม่เห็นด้วยกับตนเองจึงไร้สาระ.... เขาย่อมมองเห็นสาระของเขาที่ไม่เห็นด้วยกับคุณนั่นหละ.....เขาจึงกด.....ผมก็กด ผมไม่เห็นด้วย ที่คุณกล่าวตู่พระตถาคต.....

 

ออเหรอครับ.......ชาวบ้านเขาอ่านเขาก็รู้หมดหละครับ....งั้นเขาก็เห็นด้วยกับคุณหมดสิ.....

 

พอดีผมรู้ทันว่า เป็นคนๆๆเดียวกันใช้หลายยูสไง คนนี้ นะมีชื่ออะไรบ้างผมรู้หมด เมื่อก่อน เขาจะมีคู่ปรับคือ ms 13 ที่คอยพูดว่ามียูสอะไรบ้าง และตอนนี้ผมเริ่มแน่ใจและว่าคือคุณนั้นแหละ เลิกเถอะวิธีนี้
จากไอพี จากเวลาเขาออก จากการออกตัวแทน นี่ชัดเจนแล้ว
เอาเถอะตามสบาย พูดกับคนแบบนี้ มีแต่เสียกับเสีย ไม่ได้อะไร ใครจะจมปลักต่อไป ก็ตามใจเถอะ เลือกเอาเองนี่

 

นับเอาที่เห็นด้วยกับผมผมว่าเยอะกว่าที่ไม่เห็นด้วยนะ เพราะที่ไม่เห็นด้วยมันมีคนเดียวหลายยูสมาแต่ต้น แต่ที่เห็นด้วยนี่ใครก็ไม่รู้ล่ะ แต่เขาไม่ใช้วิธีชั่วๆๆ แบบนี้ก็แล้วกัน เขากดเพราะเขาอยากกดจริงๆๆ

อีกอย่างคนที่อ่าน ผมว่าเขารู้นะว่าผมพูดว่าไง แล้วคุรบิดเบือนคำพูดผมแบบเฟ้อเจ้อว่าอะไรบ้าง ใครแถอย่างไร เขารู้หมดแหละ

ผมไปล่ะ เชิญคุณ เพ้อเจ้อไปคนเดียวไปจริงๆๆและ ตามสบายนะ

 

ตามสบายคุณเถอะครับที่จะคิดอย่างนั้น.....แต่ผมบอกก่อนนะว่าผมโมทนากับทุกคนที่กดไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ....เพราะผมเชื่อว่าเขามีปัญญาคิดเองได้....และเขารู้ว่าสิ่งใดที่พระตถาคตทรงสอน....และสิ่งใดที่เป็นสัทธัมปฏิรูปทำลายพระสัทธรรมขององค์สมเด็จพระตถาคต......

ตามสบายคุณจะคิดเถอะครับ.....

 

ตันตระ คือ มากด้วยมรรควิธี


นี่เป็นเอกลักษณ์ของตันตระครับ เขาจะมีลูกเล่นเยอะ
ทำให้การฝึกจิต ปฏิบัติธรรม ดูน่าสนใจ มีวิธีการใหม่ๆ
มากมายในการปฏิบัติจิต สมาธิแบบแปลกๆ และอะไร
ต่อมิอะไรให้เราอยากศึกษา, สนใจ, ใคร่รู้ รวมทั้งเรื่อง
ลี้ลับ, พลังพิเศษ, ของขลัง, เวทย์มนต์ ฯลฯ เต็มหมด
แต่นั่นก็เป็นเพียงกุศโลบายเบื้องต้นให้คนพัฒนาตัวเอง
เท่านั้น ทางพุทธแท้ๆ ก็นับว่าเป็นขั้นตอนของการพัฒนา
พละห้าให้พร้อมที่จะรับธรรม นับเป็นการปูพื้นฐานได้ครับ

 

ผมว่าไม่มีนะ ที่แสดงตัวมาให้คุณอนุโมทนานะ มีแต่อีแอบหลายยูสนะผมเช็คแล้วนะ ไม่เห็นแสดงความคิดเห็นเลยนี่ แค่เปลี่ยนชื่อไปมากดและก็ไปถ้าเช็คจากคนที่ ถกกับคุณ ส่วนใหญ่จะมีชื่อทำนองนี้คอยกดอวยให้ทุกครั้ง คอยกดไม่เห็นด้วยทุกครั้ง นี่ไปเช็คดูก็รู้และ ผมชิวๆๆครับ ใครมันเป็นไง แค่นี้ก็รู้กันและ (ล้อเล่นนะผมก็แซวไปงั้นแหละ แต่ที่แน่ๆๆผมเบื่อมุขคนเดียวหลายยูสของคุณหมอกฤซมากเขาไม่ใช่คุณหรอกผมรู้ ถ้าเป็นคุณจะดูดีเกินไปสำหรับคนนี้นะ แต่ที่กดนี่คนนี้เลยทุกชื่อนะ ผมคิดว่าเขาเลิกเล่นพลังจิตไปนานแล้ว นะ ยังอยู่นี่ ตายยากจริง เอาเป็นว่า ผมดีใจที่เห็นเขาในระดับหนึ่ง และ ยังรู้สึกอยากถีบเขาเหมือนที่เคยบอกเขาไปนานแล้วเหมือนเดิมเลย ผมเล่าให้ฟังเล่นๆๆและกัน)

 

ถามว่า "สติปัฏฐานสี่" จริงๆ แล้วเขาฝึกอย่างไร?


คือ การเดินจงกลม นั่งสมาธิ พิจารณารูปนาม อะไรไหม?
ก็ลองอ่านในไตรปิฎกส่วนหนึ่ง ท่านอุปมาไว้อย่างนี้ว่ามีพระ
ที่ปฏิบัติสติปัฏฐาน หรือโยมปฏิบัตินี่นะ คนหนึ่ง นั่งทอผ้า
เห็นด้ายหดสั้นเข้า เป็นอนิจจัง ก็บรรลุธรรมได้ พระถูกเสือ
คาบไปกิน กัดที่ขาไปทีละน้อยเห็นอนิจจัง ก็บรรลุได้?


ตกลง การปฏิบัติสติปัฏฐานที่ถูกต้องนี่ มันต้องทอผ้า หรือ
ว่าเดินจงกลม หรือว่านอนให้เสือคาบไปกินกันละเนี่ย?


ติ๊กต่อกๆๆๆ สีหยุดเวลา แป่วววว

 

ลองดูในมมมองของพระบ้างนะครับ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=t6f76rS9KcY

ลงคลิปไม่เป็นครับ ลงเป็นแต่ลิงค์

 

อย่าไปฟังธรรม สนทนาธรรม กับไม่มีธรรมใจใจ...เลิกคุย หยุดกันดีกว่านะครับ

datedoctor (วันนี้), HLD (เมื่อวานนี้), , naris520 (วันนี้), Shree Rajneesh buddha (วันนี้), Swami Vivekananda (วันนี้), บีเคเอสIyengar (วันนี้), , มันตระเทวะ (วันนี้), โอโช (เมื่อวานนี้)
[ อานิสงค์การอนุโมทนา ]


ทุกรายชื่อ เล่นเอาผมงงเลย

อวยตัวเอง สมัครใหม่สดๆร้อนๆเลยนะครับ

หลายยูส ไม่เคยพิมพ์แม่แต่สักหนึ่งพยางค์

อันนี้ ชัดเจน

สมัครใหม่เข้ามาอวยไห้ตัวเอง

บอกได้เลย มันไม่เฟี้ยววว!!

 

ใช่ไหมคุณร้อยยูส Phanudet โดนบ้างถึงกับทนไม่ได้เลยหรือครับ ผมไม่ใช่คุณ snow หรอก แต่เป็นคนที่คุยถูกคอกัน ที่คุณ snow รู้ว่าเป็นคนๆๆเดียวกดอวย กดไม่เห็นด้วยใส่เขานะ ผมนี่แหละบอกเอง
เพราะคุณเคยทำแบบนี้ใส่ผมมาก่อน ผมก็ทำได้เหมือนกันกดอวยนี่สนุกดีไหมล่ะ
ผมนี่แหละคนที่กดอวยหลายๆๆชื่อเอง ปกติผมไม่เคยกดนะ แต่ เพราะผมหมั่นไส้คุณ ผมเลยทำไง เถียงสู้เขาไม่ได้และใช้วิธีชั่วๆๆ ก็สมควรจะโดนบ้าง
แต่ที่กดนี่ไม่ใช่ผมทุกชื่อนะ เป็นบางชื่อ ผมนี่แหละกดเอง ผมมีชื่อหลักชื่อหนึ่ง อีกร้อยยูสของผมไว้จัดการกับคนอย่างคุณโดยเฉพาะไง
เขาเรียกว่า กรรม สนอง