ผู้ไม่มีร่างกาย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 2 พฤษภาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    คอลัมน์ ขนหัวลุก

    ใบหนาด

    "คนบางแค" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อวิญญาณกลับบ้าน

    เมื่อเอ่ยถึงเรื่องผีๆ สางๆ ขึ้นมาในหมู่เพื่อนฝูง รับรองว่าจะต้องมีทั้งคนกลัวผีกับไม่กลัวผี แต่ส่วนมากมักจะกลัวนะครับ หลายๆ คนยอมรับว่าไม่เคยเห็นผีเลยสักครั้งเดียว แต่ก็กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ

    ส่วนคนไม่กลัวผีก็บอกว่า เรื่องผีเป็นเรื่องเหลวไหล เอาไว้หลอกเด็กกับคนขวัญอ่อน พิสูจน์ไม่ได้ ไม่มีตัวตน ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว...ผงธุลีจะยังมีฤทธิ์เดชอะไรอีกล่ะ? หรือไม่ก็ถูกฝังอยู่ใต้ดิน เหลือแต่โครงกระดูกแหงแก๋ทั้งนั้น

    คนตายแล้ว อวัยวะทุกส่วนแน่นิ่งไม่ติงไหว นับวันก็มีแต่จะเน่าเปื่อยไปทุกที...แล้วมาหลอกหลอนคนเป็นๆ ได้ยังไง? แต่คนที่เชื่อว่าภูตผี, วิญญาณและสิ่งลี้ลับต่างๆ มีจริงก็จะยืนยันว่าถ้าโลกนี้ไม่มีผีมีสางแล้วคนโบราณจะเชื่อผี นับถือผีกันหรือ?

    ตั้งแต่ผีแถน ผีฟ้า ผีปู่ตา ผีเจ้าที่เจ้าทาง ฯลฯ

    หรือจะพูดให้แคบเข้า เห็นภาพชัดเจนขึ้นก็คือ ศาลพระภูมิ!

    อย่าว่าแต่ตามบ้านช่องน้อยใหญ่ต่างๆ เลย แม้แต่ตามตึกแถวเก่าๆ หรือพอจะมีที่มีทางเหลือก็ตั้งศาลพระภูมิทั้งนั้น หลายๆ แห่งหาที่ว่างด้านหน้าไม่ได้ก็จะทำพิธีตั้งศาลพระภูมิตามข้างเฉลียงชั้น 2 ชั้น 3 บางแห่งถึงกับตั้งศาลพระภูมิบนดาดฟ้าก็มี

    คนที่ไม่เชื่อเรื่องผีก็บอกว่าเป็นความเชื่อเก่าๆ เป็นสิ่งธรรมดาๆ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่คนสมัยก่อน จากรุ่นถึงรุ่น จากปู่ยาตาทวดลงมาเรื่อยๆ คนรุ่นหลังไม่อยากขัดอกขัดใจบรรพบุรุษก็ปล่อยเลยตามเลย

    ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า หลายๆ บ้านมีแต่ศาลพระภูมิรกร้างเท่านั้นเอง!

    นั่นคือ ไม่ได้มีการเซ่นอาหารคาวหวาน หรือแม้แต่ผลไม้เล็กๆ น้อยๆ ดังเช่นสมัยก่อน จะเรียกว่าทอดทิ้งไม่ดูดำดูดีก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งผิดปกติอันใดเกิดขึ้นแม้แต่น้อย โชคหรือเคราะห์ก็ยังมีตามเดิม ไม่ได้มากมายขึ้นหรือลดน้อยลงแต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าศาลพระภูมิมิได้มีฤทธิ์เดชอะไรเหมือนที่ชอบอวดอ้างกันนัก

    ผมเป็นคนที่ชอบอยู่กลางๆ มากกว่า เหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงอะไรดอกครับ ใครจะมีความเห็นยังไงก็ได้แต่รับฟังเขานิ่งๆ ฟังเขาโต้เถียงกันเฉยๆ ไม่เข้าข้างไหน...คงเหมือนกับคนไทยส่วนใหญ่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมานั่นแหละครับ

    ถ้ามีใครถามว่าเชื่อเรื่องผีหรือไม่? กลัวผีหรือเปล่า? คำตอบของผมก็คือห้าสิบ-ห้าสิบ หรือเชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่ง!

    แต่ผมมีเรื่องแปลกประหลาดที่ประสบกับตัวเองมาเล่าสู่กันฟัง

    สมัยเด็กๆ ผมอยู่แถววัดสิงห์ ย่านบางพลัด ลงสะพานกรุงธนฯ ผ่านภัตตาคารเรือนแพแล้วเลี้ยวซ้าย...มีชายชราคนหนึ่งชื่อตาเครือ ชอบนั่งซดเหล้าโรงอยู่ที่ม้ายาวหน้าบ้าน มองดูคนเดินผ่านไปมา เด็กๆ วิ่งเล่นเกรียวกราวตอนเย็นๆ

    ชาวบ้านลือกันว่าแกเคยบวชอยู่ที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน มี "ตาทิพย์" จากวิปัสสนากรรมฐาน จนสามารถมองเห็นวิญญาณต่างๆ ได้อย่างชัดเจนเหมือนกับเรามองเห็นคนเป็นๆ นี่เอง!

    เมื่อสึกหาลาเพศมาได้ครอบครัวก็ประกอบอาชีพค้าขาย จนอายุย่างเข้า 70 ก็วางมือให้ลูกหลานทำการงานต่อไป

    ตาเครือรูปร่างผอมสูง ผมขาวโพลนเหมือนปุยฝ้าย ชอบนุ่งกางเกงแพรสีดำ สวมเสื้อป่านคอกลมสีอ่อนๆ แกเป็นคนแก่ใจดี รักเด็กๆ ในละแวกนั้นเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน มีขนมแจกบ้าง มีของเล่นแจกบ้าน บางวันก็ควักสตางค์ให้เด็กๆ ไปซื้อขนมกิน ตาเครือมักจะยิ้มมากกว่าพูด แต่บทจะพูดขึ้นมาก็มักจะพูดยืดยาว

    ผมเคยถามแกว่า...เขาว่าตามองเห็นผีจริงๆ หรือ?

    "โอย....เยอะ!" แกตอบยิ้มๆ มองนั่นมองนี่ตามเคย "รอบๆ ตัวเรามีเยอะแยะด้วย โบราณถึงสอนว่าจะทำอะไรไม่ดีไม่งามก็ให้รู้จักอับอายผีสางเทวดา เพราะถึงคนจะไม่เห็น แต่ผีสางเทวดาก็เห็น"

    ผมหันซ้ายหันขวาตามสายตาของแกแต่ก็ไม่เห็นอะไร นอกจากคนที่เดินผ่านไปมาเท่านั้นเอง...เลยถามว่าตาเห็นอะไรมั่งล่ะครับ?

    "ก็วิญญาณน่ะซี มากมายพอๆ กับคนเรานี่เอง บางทีมากันแน่นเชียวแทบจะชนกันด้วยซ้ำ...นั่น! ยายกิ่งกับยายกลอย โน่น! ตาแฉ่งกับลุงชื้น...พ่ออั๋นกับแม่อ่อน อ้าว? เป็นไงมั่งเจ้าเปี๊ยก โดนรถชนตายแล้วยังวิ่งซนตามเคยนะเอ็ง"

    ตาเครือพูดกับใครที่อยู่ข้างๆ ผม แถมเอื้อมมือไปลูบไล้อากาศว่างเปล่าแต่ท่าทางคล้ายกำลังลูบหัวเด็กอยู่ไม่มีผิด...เล่นเอาผมขนลุกซู่ซ่าไปเลย

    วันเกิดเหตุ ตาเครือแจกเงินเด็กๆ ไปซื้อขนมแล้ว แต่ผมเห็นแกนั่งเงียบๆ ซึมๆ เป็นเชิงว่าไม่อยากพูด...หรือไม่ก็อาจจะเริ่มเมาแล้วก็ได้ จำได้ว่าใกล้จะค่ำ อากาศหน้าหนาวเยือกเย็น ตาเครือหันไปทางปากซอย ขนาดคิ้วจนผมมองตามไปก็เห็นคนเดินผ่านไปมาตามปกติ

    "มากันเยอะแยะเชียววันนี้..." แกออกชื่อตามเคย บางคนผมก็ไม่รู้จัก แต่บางคนก็พอจะรู้ว่าตายไปแล้ว จนกระทั่งได้ยินคำว่า "อ้อ! เจ้าหลาดก็มาด้วย..."

    "หลาดไหนล่ะตา? ลุงหลาดช่างไม้หรือเปล่า?"

    "เออ! ก็เจ้าหลาดนั่นแหละ ไอ้หนูเอ๊ย" แกถอนใจยาว...คราวนี้ผมแน่ใจว่าตาเครือเมาแล้ว เพราะลุงหลาดยังไม่ตาย แถมผมยังมองไม่เห็นลุงหลาดเลย...จนกระทั่งรุ่งขึ้นถึงได้ข่าวว่าลุงฉลาด หรือ "หลาด-ช่างไม้" โดนรถชนตายที่บางแคเมื่อเย็นวานนี้เอง

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตาเครือมีตาทิพย์จริงๆ แม้ว่าผมจะไม่ได้เห็นวิญญาณด้วยตัวเอง แต่เรื่องนี้ทำให้ผมขนหัวลุกอยู่นาน นึกแล้วยังน่ากลัวไม่หาย...คุณผู้อ่านช่วยพิจารณาด้วยครับ...ผีมีจริงหรือไม่จริง!
     

แชร์หน้านี้

Loading...