*ผีตาแดง*

เรื่องน่ากลัวนี้เกิดขึ้นกับเขา ทุกๆวันที่ 29 ม.ค. ของทุกปี
ตาของมันมีสีแดง ฟันมันเป็นสีเลือด





วันนั้นตรงกับวันที่ 29ม.คซึ่งเป็นวันเกิดโรงเรียน งานเลี้ยงคืนนั้นเลิกดึกมากประมาณ 5ทุ่มกว่าๆ
เพื่อนผมเดินกลับบ้านคนเดียว ซอยบ้านเขาตอนกลางคืนจะเปลี่ยวมาก
เขาเล่าว่าตอนเดินกลับ เขารู้สึกว่ามีคนเดินตามเขามาข้างหลัง
เพื่อนผมหันไปดูแต่ไม่พบใคร ตอนแรกเขาคิดว่าคงคิดไปเอง
เขาก็เดินไปจนถึงทางที่จะเข้าบ้าน เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นเขาตกใจมาก
สิ่งที่เขาเห็นมันเป็นเงาคล้ายๆกับมีคนอยู่บนต้นไม้
เขาเงยหน้ามองแล้วก็ต้องตกใจอย่างสุดๆ
ร่างนั้นมองไม่เห็นหน้า เห็นก็เพียงเงาดำๆนั่งยองๆอยู่บนกิ่งไม้มองมาทางเขา
เขาเล่าว่ามองไม่เห็นหน้าแต่เห็นว่าตาเป็นสีแดง เขาวิ่งกลับบ้านแล้วตะโกนเรียกพ่อทันที
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเขาทุกวันที่29ม.ค.ของทุกปี
เขาบอกว่าปีต่อมาเขากลับจากโรงเรียนเช่นเคย เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว
เขาเข้ามาอาบน้ำที่บ้านซึ่งช่วง ม.ค.ตรงกับหน้าหนาวพอดี
เขาออกไปปิดประตูบ้านและเขาก็พบกับมันอีก แต่ตอนนี้น่ากลัวกว่าทุกทีที่ผ่านมา
เขาเล่าว่าเขาเห็นหน้าชัดมาก มีตาสีแดง สิ่งนั้นยิ้มให้เขาอย่าง!เศร้าๆ
ฟันก็มีสีแดงราวกับเลือด เขาบอกผมว่าคราวนี้เขาเห็นมันมีแต่หัวลอยมา
ซึ่งน่ากลัวมาก เขาตะโกนออกมาอย่างดัง พ่อเขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่สิ่งลึกลับที่ว่าได้หายไปแล้ว

ปีต่อมาเป็นปีสุดท้ายที่เขาเจอกับมัน
คราวนี้น่ากลัวที่สุด เขาเล่าว่าตอนนั้นเขาเข้านอนแล้ว กำลังจะหลับ
เขารู้สึกว่ามีคนมายืนหน้าห้อง
เขามองออกไปพบว่าเจ้าสิ่งลึกลับที่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี
มันยืนอยู่หน้าห้องน้ำซึ่งอยู่หน้าห้อง
เขาเห็นมันชัดมากเขาบอกว่ามันตาแดงฟันแดงราวกับเลือด และหัวก็มีรอยผ่าเป็นแฉก
แล้วสิ่งนั้นก็เข้าห้องเขาอย่างเร็วมาก ตรงมาบีบคอเพื่อนผม
เขาร้องให้คนช่วยโดยที่ตอนนั้นเพื่อนผมไม่สามารถขยับตัวได้
พ่อเขาได้ยินจึงนำพระมาแขวนที่คอเพื่อนผม
ทันใดนั้นเพื่อนผมก็ขยับตัวได้ทันที

ในตอนเช้าพ่อเพื่อนผมก็พาเขาไปวัดให้พระรดน้ำมนต์ให้
พระรูปนั้นบอกกับเขาว่าเป็นวิญญาณของคนที่อาศัยอยู่บ้านข้างหลังบ้าน
เจ้าของร่างนั้นได้ฆ่าตัวตาย วิญญาณจึงไม่สงบ
แล้วเพื่อนผมก็ได้ทำบุญแผ่เมตตาให้กับวิญญาณดวงนั้น แล้วเขาก็ไม่ได้เจอกับสิ่งสิ่งนั้นอีกเลย
ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เขาเล่ามาเป็นจริงหรือไม่แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะลบหลู่สิ่งที่เรามองไม่เห็น
ผมว่า อย่างนี้มันต้อง พิสูจน์ ครับ คุณอยากพิสูจน์บ้างไหมล่ะ