ประสบการณ์จากตัวผมเองนะที่เคยฝึกมา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย D.(Username), 19 ตุลาคม 2020.

  1. D.(Username)

    D.(Username) ธรรมมะ จะกาโล มะโหติธรรม ผู้เจริญทำยํย้อมมีทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +27
    ผมฝึกกสิณต่างๆโดยใช้กระดาษเขียนเป็นวงกลมแล้วก็ก็เพ่ง
    หวังจะให้ดวงตาที่สามตรงกับตรงกลางหน้าผากและก็ฝึก
    ฝึกอญิญญาต่อด้วยการนั้งสมาธิแล้วก็ฝึกการเพ่งดวงตาที่สาม
    แล้วอยู่ๆผมก็มองเห็นนอกโลกมีจักกวาลน้อยใหญ่ฝึกแข็งๆเข้าไว้
    สามารถ ถึงกับ เคี้ยดวงตาที่สามพรุ้งเป็นจรวจเลยทีเดียวจริงๆนั้ง
    สมาธิเฉยๆก็ได้แร้วนะ
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ดาวดวงไหนมีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่บ้างครับ
     
  3. D.(Username)

    D.(Username) ธรรมมะ จะกาโล มะโหติธรรม ผู้เจริญทำยํย้อมมีทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +27
    คือที่เห็นมันเป็นดวงดาวสีดำๆอ่ะคับเป็นแบบไม่ใช่
    ดวงดาวเล็กๆน้อยมันๆเป็นเหมื่อนโลกแต่ว่าไม่ชัดเท่าไร
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  5. D.(Username)

    D.(Username) ธรรมมะ จะกาโล มะโหติธรรม ผู้เจริญทำยํย้อมมีทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +27
    ก็ว่างๆฟังธรรมนั่งสมาธิแต่ที่ผมฝึกแล้วมองเห็นอ่ะ
    มันเกิดจากความว่างเปล่ารึเปรี่ยวก็ไม่รู้
     
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    คล้าย ๆ เหมือนแบบในหนังนี้ครับ แต่ไม่ได้ออกไปไกลผ่านจักรวาล
    ถ้าทำได้บ่อยๆ ลองเอาไปดูอย่างอื่นแทนได้นอกจากออกไปนอกโลก ถ้าทำได้อีก
    เช่น นรก สวรรค์ อื่นๆ ที่เราอยากจะเห็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2020
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    จักระกลางหน้าผาก หากได้รับการกระตุ้นอาจก่อให้เกิดทิพยจักขุญาณได้

    ถาม :
    ช่วยอธิบายเรื่องของจักระกลางหน้าผากหน่อยครับ
    ตอบ : จริงๆ ก็ เป็นเรื่องของ ทิพยจักขุญาณ นั่นแหละ เพียงแต่ว่าทางด้านทิเบตเขามีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์สูงมาก เขารู้ว่า พวกต่อมไพเนียล ถ้าได้รับการกระตุ้นในระดับหนึ่ง จะช่วยสร้างทิพยจักขุญาณได้ เขา ก็เลยใช้วิธีกระตุ้นด้วยการเจาะหน้าผากแล้วฝังสมุนไพรลงไป อาจจะเป็นไปได้ว่า พอได้รับการเจาะแล้วฝังสมุนไพร ทำให้ความรู้สึกไปจับอยู่ตรงนั้นได้ชัดเจนขึ้น แน่วแน่ขึ้น ก็เลยทำให้เกิดตาที่สามขึ้นมาได้
    แต่ว่าตาที่สามจริงๆ ไม่ได้เห็นตรงนั้น ยังเห็นด้วยใจเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเขาอาศัยการแพทย์มาเสริมเข้าไป ซึ่งก็คือจักระตรงกลางหน้าผากนั่นแหละ
    ถาม : กลางหน้าผากจะโล่งไปตลอดใช่ไหมครับ ?
    ตอบ : จริงๆ คนที่สามารถเห็นพวกนี้ได้ไม่ต้องเสียเวลาไปทำหรอก เขาเป็นอยู่แล้ว อินเดียเขาเรียกว่า กุณฑาลินี เขาบอกว่าเป็นแหล่งพลังงานมหาศาล
    ถาม : แล้วการที่เราใช้กำลังตัวเอง กับการใช้คาถาของครูบาอาจารย์ ผลก็จะเป็นอีกแบบหนึ่งใช่ไหมครับ ?
    ตอบ : จริงๆ แล้ว สมควรที่จะใช้คาถาแล้วอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ช่วย เพราะไม่อย่างนั้นเท่ากับว่าเราไปฝืนกรรม ผลนั้นจะตกแก่เรา ถ้าหากว่าเราขอบารมีครูบาอาจารย์ ท่านจะได้คอยกันให้หรือไม่ก็รับไปแทน
    ถาม : อย่างเวลารับขันครู ?
    ตอบ : ใช่..ไม่อย่างนั้นก็รับเละอยู่คนเดียว กระแสกรรมเหมือนกับลูกปืนที่ยิงมา แล้วเราไปยืนขวางจะโดนใคร ? ก็โดนเรานั่นแหละ
    ถาม : ช่วยแนะนำวิธีการรู้ด้วยตนเอง ให้เข้าใจชัดเจนหน่อยครับ ?
    ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก แค่ เรากำหนดความรู้สึกว่าอยากรู้เรื่องอะไร แล้วก็ทิ้งความรู้สึกนั้นเสีย จากนั้นก็ภาวนาทรงอารมณ์ให้เต็มที่ คลายออกมาแล้วอธิษฐานขอใหม่อีกทีก็จะเป็นแล้ว แค่นั้นเอง อย่างคุณไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกฝนอะไรมากมายแล้ว
    ถาม : การรู้นี่ให้รู้ด้วยตัวเองเลยนะครับ ไม่จำเป็นต้องมีนิมิต ?
    ตอบ : ให้ระมัดระวังไว้ด้วยว่า ไม่ใช่เฉพาะงานเพิ่มขึ้นเท่านั้น เรื่องก็จะเพิ่มขึ้นด้วย พอเรารับรู้ได้ก็เหมือนกับโทรศัพท์ติดต่อกันได้ ต่อไปเราก็รับเละอยู่คนเดียว
    ถาม : คำว่างานเพิ่มขึ้นกับเรื่องเพิ่มขึ้นเป็นอย่างไรครับ ?
    ตอบ : อย่างเช่น เขาขอให้ทำนั่นทำนี่ หรือไม่ก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา เรารับรู้มากเกิน บางทีก็ไปแบกเอาไว้แทนจนเครียด
    บุคคล บางประเภท ถ้าหากมารขวางตรงๆ ไม่ให้เขาเข้ามรรคผล คนประเภทนี้จะสู้ตะบันราด เพราะเขารู้ว่าผ่านได้แน่ เขาก็จะไม่ขวางด้วยวิธีนั้น แต่จะดึงให้ไปทำงานชิ้นนั้น ทำงานชิ้นนี้ ซึ่งเป็นงานเพื่อส่วนรวม เป็นอานิสงส์ใหญ่ที่เราเห็นอยู่ จะดึงเราไปทำตลอด จนเราไม่มีเวลาปฏิบัติเพื่อมรรคผลของเราเอง ซึ่งเป็นวิธีขวางของเขาอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าไปรู้เข้า เรื่องพวกนี้จะเข้ามาเยอะ
    ถาม : ก็จริงครับ
    ตอบ : เขาไม่ได้ขวางเรา เขารู้ว่าถ้าขวางเราสู้ แล้วนิสัยอย่างเรานี่ผ่านได้แน่ เขาก็ใช้วิธี “คนนั้นน่าสงสาร ไปช่วยเขาหน่อย” “สถานที่นี้น่าบูรณะ เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ไปทำเสียหน่อย” ทำเราให้มีงานอยู่ตลอด จนไม่มีเวลาปฏิบัติของเราเอง
    ถาม : กรณีอย่างว่า เราต้องละวางดีใช่ไหม ?
    ตอบ : ใช่..ถึงเวลาแม้แต่ดีก็ต้องละ
    ถาม : การทำอะไร ถ้าเราเองทำทางเดียวเหมือนกับว่าจะมีตัวล่ออยู่ แต่ถ้าขยายไปหลายๆ ทางแล้วเราเลือกเอง จะดีกว่าไหมครับ ?
    ตอบ : ดีกว่า..แต่ว่าเราต้องไม่ลืมเป้าหมายของเรา ถ้าเราลืมเป้าหมายเดี๋ยวก็โดนจูงไปไกลอีก
    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕
    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ - หน้า 6 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    การส่งออกไม่ใช่เรื่องที่ดีนะครับ
    ดูเหมือนไม่ยึด แต่มันเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง
    เรียกว่า กิเลสธรรม คือ มันจะทำให้เราไม่สนใจ
    เรื่องเจริญสติและปัญญา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ
    ทางพุทธศาสนา

    ตัวจิตนะครับ ถ้ามันจะออก เราต้องบังคับฯ
    ไม่ให้มันออก ถ้ามันจะไปไหน ตัวสติจะต้องตามมันทันไปทุกที่ แบบนี้มันถึงจะไม่หลงครับ


    จะบังคับมันไม่ให้ออกได้ มาจากกำลังสมาธิ
    จะตามมันได้ทันมาจากกำลังสติทางธรรม
    ที่ได้จากการเจริญในชีวิตประจำวันครับ

    ต้องมีสองส่วนนี้ก่อน
    กสิณมันถึงพัฒนา

    สภาวะคุณนะ มันระดับอุปจารสมาธิ
    ด้วยกำลังควบคุมตัวจิตน้อยมันเลยไปอย่างนั้น
    ส่วนความเร็ว มันเกิดจากความคุ้นเคย
    มันไม่มีอะไรหรอกครับ ถึงไปคุณก็รู้อะไร
    ในสิ่งที่เห็นเหมือนเดิม เพราะขาดสติทางธรรม
    ที่จะไปเข้าใจนามธรรมต่างๆที่เห็นตรงนี้ครับ

    ช่วงระหว่างฝึกกสิณนะครับ จำไว้
    ถ้าอยากใช้งานได้
    ข้อห้ามคือ ห้ามสนใจสิ่งที่เห็น ระหว่างทาง
    ไม่ว่าจะพิศดารอลังการงานสร้างขนาด
    ระดับโลก ระดับจักรวาลขนาดไหนก็ตาม
    และแม้ว่าจะเกิดสัมผัส การรับรู้ เหนือโลกอะไรก็ตาม
    เพราะมันคือ ตัวขวาง ที่เอาไว้หลอกเราให้ไปหลงยึดกับสิ่งที่เห็น ให้เราอยากรู้สนใจแต่นามธรรม


    จิตจะเริ่ม มีความสามารถใช้งานได้ ถ้าขึ้นด้วยกสิณ อย่างน้อย จะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ได้ก่อน

    ๑ ปั่นปฎิภาคนิมิต กสิณ กองนั้น ในทิศทางตรงข้ามกับการหมุนปกติ ให้ได้ ในกำลังสมาธิระดับสูง (ลืมตาปั่น ในสภาวะ ลืมตาเห็น ช่วงก่อนนอน ช่วงเข้าห้องน้ำ ช่วงตื่นนอน ปั่นทั้งชาติก๋ไม่มีประโยชน์)
    ๒ ทิ้งภาพ ขึ้นภาพ ให้ได้อย่างน้อย ๒ รอบ และอฐิษฐานจิตจนเกิดผลจริง แบบตาเห็นได้


    ในเวลาปกติ จิตจะมีความสามารถทำอะไรได้เอง
    แบบชิวไป ไม่ต้องหลับตาตั้งท่ามากมาย

    การเห็นนามธรรม มันจะค่อยๆเห็นเองได้
    มันมีพัฒนาการตามระดับกิเลส


    พลังงานจักรวาล ไม่ใช่พุทธศาสนา
    แต่สามารถ นำมารวมกับพลังงาน
    ที่ได้จากกสิณ เพื่อใช้งานได้
    จะได้ผลดีกว่าใข้พลังงานจักรวาลอย่างเดียว

    การอยากไปตามสถานที่ต่างๆ
    ด้วยการถอดจิตไป มันเป็นวิธีสำหรับเด็กหัดใหม่
    เค้าไม่มีใครทำหรอก เพราะมันใช้ตาพิเศษ
    ดูเอาได้ ยกเว้นว่าเรา มีหน้าที่พิเศษ
    ทางภาพภูมิ หรือแค่อยากพิสูจน์ว่ามีจริงไหม
    และพอรู้แล้วก็วางเป็นไม่เป็นไร

    แม้จะทำข้อ ๑ และ ๒ ได้
    มันแค่พื้นฐานเท่านั้น
    มันยังมีขั้นตอนการพัฒนาต่อยอดอีกเยอะครับ
    ยังเรียกว่าอ


    ถ้าทำ ๑ และ ๒ ได้ และใช้งานทางจิตได้
    จะรู้เองว่า มันแค่เบสิคคำว่า อภิญญา เลิกคิด
    และวางไว้ก่อน เอาข้อ ๑ และ ๒
    ให้มันได้ก่อน ค่อยว่ากันอีกทีครับ

    ปล จิตที่ไม่ชื่นชมในกามคุณ ยินดีใน กามอารมณ์
    ไม่ว่ารูปธรรมก็ดี นามธรรมก็ดี
    ย่อมมีคุณวิเศษในตนเสมอ
    เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ยุคพุทธกาล

    โชคดีนะครับ
     
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014

    นิมิต ที่เห็นนั้นเป็น นิมิตจริง
    แต่มันจะหลอกเราว่า เราเป็น คนเก่ง
    แล้วก็จะ หลอกพาเรา ไปที่อื่นๆ
    จนติดใจแต่ใน นิมิต ไม่สนใจที่จะ ดูจิต ตัวเอง
    ระวังจิตใจ ของตัวเองไม่เป็น เพราะ หลงทาง อยู่
    ให้ระวังให้ดี
     
  10. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ยึดนิมิต เพื่อฝึกสมาธิก็ดีครับ
    ดีกว่ายึดข้อธรรมผิดๆ นะผมว่า
    มันจะเสียเวลามากกว่ายึดนิมิต
     

แชร์หน้านี้

Loading...