ธรรมพระบูรพาจารย์(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 14 ตุลาคม 2011.

  1. OPhtUYh

    OPhtUYh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +388
    ขอบพระคุณค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ... สาธุ
     
  2. boy19

    boy19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +86
    ขออนุโมทนาบุญกับ คุณคุรุวาโร ด้วยครับ สาธุ
    รบกวนช่วยแนะทางปฏิบัติที่เหมาะกับจริตหรือถ้ามีของเก่าให้ด้วยครับ
     
  3. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    ช่วงนี้ ถุกสมาชิกบางท่านมาก่อกวนทำให้ ใจ ไม่นิ่งพอ ขออนุญาติไปสงบจิตใจสักระยะนะครับ (ที่ท่องแดนมัศจรรย์ แล้วยังPM มาด่าอีก ) เอาไว้ทำสมาธิมั่นคงแล้วจะมาตอบคำถามอีกนะครับ ช่วงนี้ท่านAVTTAR จะมาช่วยตอบคำถามท่านสมาชิกแทนนะครับ
    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  4. MindRenewal

    MindRenewal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +47
    เสียดายค่ะ อยากรู้อีกนิดเดียวเอง แต่อย่างไรก็ขออนุโมทนาค่ะ..................
     
  5. boy19

    boy19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +86
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าทำดีแล้ว ไม่ต้องไปสนใจพวกก่อกวนหรอกครับ ปล่อยๆไปครับ
     
  6. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    คติข้อคิดเตือนใจ กำลังใจ...!

     
  7. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    อริยบุคคล7ประเภท(ตามการบรรลุ)


    พระไตรปิฎก : พระอภิธรรมปิฎก เล่ม 3 ธาตุกถา - ปุคคลปัญญัติปกรณ์
    เอกกนิทเทส


    (การแบ่งอริยบุคคลออกเป็น 7 ประเภทในที่นี้ เป็นการแบ่งตามประเภทของการบรรลุธรรม ซึ่งต่างจากเรื่องอริยบุคคล 8 ประเภท ในหมวดวิปัสสนา (ปัญญา) ที่เป็นการแบ่งตามลำดับขั้นของกิเลสที่ละได้ - ธัมมโชติ)

    [๔๐] บุคคลชื่อว่าอุภโตภาควิมุต เป็นไฉน
    บุคคลบางคนในโลกนี้ ถูกต้องซึ่งวิโมกข์ ๘ ด้วยกาย (วิโมกข์ ๘ คือสมาบัติ ๘ ได้แก่สมาธิขั้นฌาน ๘ ขั้น คือ รูปฌาน ๔ + อรูปฌาน ๔ ดูเรื่องลำดับขั้นของจิต ในหมวดบทวิเคราะห์ ประกอบ - ธัมมโชติ) แล้วสำเร็จอิริยาบถอยู่ ทั้งอาสวะ(กิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน - ธัมมโชติ) ของผู้นั้นก็สิ้นไปแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา บุคคลนี้เรียกว่า อุภโตภาควิมุต

    (อุภโตภาควิมุต = การหลุดพ้นโดยส่วนสอง คือ หลุดพ้นจากความยินดีในรูปด้วยอรูปสมาบัติก่อน (ดูเรื่องสัญโยชน์ 10 ในหมวดวิปัสสนา (ปัญญา) โดยเฉพาะในหัวข้ออรูปราคะ ประกอบ) แล้วเจริญวิปัสสนาจนหลุดพ้นจากความยินดีในนามด้วยวิปัสสนาปัญญา ซึ่งทำให้เป็นพระอรหันต์ด้วยวิปัสสนาปัญญานี้ - ธัมมโชติ)

    [๔๑] บุคคลชื่อว่าปัญญาวิมุต เป็นไฉน
    บุคคลบางคนในโลกนี้ มิได้ถูกต้องซึ่งวิโมกข์ ๘ ด้วยกาย สำเร็จอิริยาบถอยู่ แต่อาสวะของผู้นั้นสิ้นไปแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา บุคคลนี้ เรียกว่า ปัญญาวิมุต

    (คือผู้ที่ไม่ได้ทำสมาธิจนถึงขั้นอรูปฌาน เจริญวิปัสสนาจนกระทั่งบรรลุเป็นพระอรหันต์ จึงหลุดพ้นจากความยินดีทั้งในรูปและนามด้วยวิปัสสนาปัญญา - ธัมมโชติ)

    [๔๒] บุคคลชื่อว่ากายสักขี เป็นไฉน
    บุคคลบางคนในโลกนี้ ถูกต้องซึ่งวิโมกข์ ๘ ด้วยกาย แล้วสำเร็จอิริยาบถอยู่ ทั้งอาสวะบางอย่างของผู้นั้นก็สิ้นไปแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา บุคคลนี้เรียกว่า กายสักขี

    (คล้ายกับอุภโตภาควิมุต ต่างกันที่อุภโตภาควิมุตนั้นเจริญวิปัสสนาจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ แต่กายสักขีเจริญวิปัสสนาจนบรรลุเป็นอริยบุคคลขั้นต่ำกว่าพระอรหันต์ - ธัมมโชติ)

    [๔๓] บุคคลชื่อว่าทิฏฐิปัตตะ เป็นไฉน
    บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เหตุให้เกิดทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ความดับทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ อนึ่ง ธรรมทั้งหลายที่พระตถาคตประกาศแล้ว ผู้นั้นเห็นชัดแล้ว ดำเนินไปดีแล้วด้วยปัญญา อนึ่ง อาสวะบางอย่างของผู้นั้นก็สิ้นไปแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา บุคคลนี้เรียกว่า ทิฏฐิปัตตะ

    (คล้ายกับปัญญาวิมุต ต่างกันที่ปัญญาวิมุตนั้นเจริญวิปัสสนาจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ แต่ทิฏฐิปัตตะเจริญวิปัสสนาจนบรรลุเป็นอริยบุคคลขั้นต่ำกว่าพระอรหันต์ โดยนับตั้งแต่โสดาปัตติผลบุคคลขึ้นไป ดูเรื่องอริยบุคคล 8 ประเภท ในหมวดวิปัสสนา (ปัญญา) ประกอบ - ธัมมโชติ)

    [๔๔] บุคคลชื่อว่าสัทธาวิมุต เป็นไฉน
    บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เหตุให้เกิดทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ความดับทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ อนึ่ง ธรรมทั้งหลายที่พระตถาคตประกาศแล้ว ผู้นั้นเห็นชัดแล้ว ดำเนินไปดีแล้ว ด้วยปัญญา อนึ่ง อาสวะบางอย่างของผู้นั้นก็สิ้นไปแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา แต่มิใช่เหมือนบุคคลผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ บุคคลนี้เรียกว่าสัทธาวิมุต

    (ต่างจากทิฏฐิปัตตะตรงที่ทิฏฐิปัตตะอาศัยปัญญาเป็นหลัก แต่สัทธาวิมุตอาศัยศรัทธาเป็นใหญ่นำปัญญาให้เกิดขึ้น - ธัมมโชติ)

    [๔๕] บุคคลชื่อว่าธัมมานุสารี เป็นไฉน
    ปัญญินทรีย์ของบุคคลใด ผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผลมีประมาณยิ่ง (ผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล = โสดาปัตติมรรคบุคคล - ธัมมโชติ) บุคคลนั้นย่อมอบรมซึ่งอริยมรรคอันมีปัญญาเป็นเครื่องนำมา มีปัญญาเป็นประธานให้เกิดขึ้น บุคคลนี้เรียกว่า ธัมมานุสารี บุคคลผู้ปฏิบัติแล้ว เพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ชื่อว่าธัมมานุสารี บุคคลผู้ตั้งอยู่แล้วในผล ชื่อว่า ทิฏฐิปัตตะ

    (คือขณะแห่งโสดาปัตติมรรค เป็นธัมมานุสารี ขณะแห่งโสดาปัตติผลเป็นต้นไปจนถึงก่อนจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ เป็นทิฏฐิปัตตะ - ธัมมโชติ)

    [๔๖] บุคคลชื่อว่าสัทธานุสารี เป็นไฉน
    สัทธินทรีย์ของบุคคลใดผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล มีประมาณยิ่ง อบรมอริยมรรคมีสัทธาเป็นเครื่องนำมา มีสัทธาเป็นประธานให้เกิดขึ้น บุคคลนี้เรียกว่า สัทธานุสารีบุคคล ผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ชื่อว่าสัทธานุสารี ผู้ตั้งอยู่แล้วในผล ชื่อว่าสัทธาวิมุต

    (คือขณะแห่งโสดาปัตติมรรค เป็นสัทธานุสารี ขณะแห่งโสดาปัตติผลเป็นต้นไปจนถึงก่อนจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ เป็นสัทธาวิมุต - ธัมมโชติ)
     
  8. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    วิมุตติ คือความหลุดพ้นจากกิเลสหรือหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร หรือรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน
    นักปฏิบัติธรรมที่ประสบความสำเร็จจะต้องบรรลุวิมุติและวิมุตติญาณทัสสนะขั้นสูงสุด จึงจะจบการศึกษาเป็นอเสขะบุคคล วิมุตติมี 3 อย่างคือ

    1. เจโตวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งสมาธิเป็นหลัก
    นักปฏิบัติผู้มีนิสัยวาสนาทางเจโตวิมุตติ จะบรรลุธรรมได้ด้วยตนเองอย่างวิเศษอัศจรรย์ แม้ผู้นั้นจะไม่ได้ศึกษาทางปริยัติมาเลย เมื่อฝึกอบรมจิตให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิได้แล้ว
    จะสามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมในขณะจิตเป็นสมาธิอยู่นั้นอย่างแจ่มแจ้งโดยไม่ต้องถามใคร สติปัญญาศรัทธาความเพียรจะแก่กล้าขึ้นเป็นลำดับ
    บางครั้งก็เกิดความรู้พิเศษอัศจรรย์ซึ่งเป็นฌานโลกีย์เกิดขึ้น เช่นหูทิพย์ ตาทิพย์ มีฤทธิ์ทางใจอื่นๆ เกิดขึ้นเป็นที่ฮือฮามาก
    ผู้มีนิสัยทางเจโตวิมุตติ จิตจะรวมเป็นสมาธิเร็วและมีนิมิตมาก กิเลสต่างๆ และธรรมเครื่องแก้กิเลสจะรู้ได้เห็นได้จากการพิจารณานิมิต อยากเห็นอะไรอยากรู้อะไรก็กำหนดดูในสมาธิ
    จนรู้ชัดเห็นชัดเข้าใจชัดโดยไม่ต้องถามใคร เมื่อความรู้รอบคอบครบวงจรอริยสัจสี่ ก็สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้
    ข้อควรระวังของผู้มีนิสัยวาสนาทางเจโตวิมุตติ คือการหลงความรู้(ฌาน) โดยเฉพาะความรู้ที่เกิดจากฌานโลกีย์ข้อต้นๆ มันอัศจรรย์น่าติดใจหลงใหลมาก
    ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ที่รู้จริงเห็นจริงคอยควบคุมดูแล อาจเกิดวิปลาสได้ หรืออาจหลงใช้ฌานโลกีย์ไปในทางผิดศีลผิดธรรม
    ทำให้ฌานเสื่อมก่อนฌานที่โลกุตรธรรม คืออาสะวักขยะญาณจะเกิดขึ้นมีขึ้น นักบวชนักปฏิบัติที่เสียคนไปเพราะหลงญาณโลกีย์มีจำนวนมาก ต้องระวังให้ดี

    2. ปัญญาวิมุตติ คือหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งปัญญา ผู้มีนิสัยวาสนาทางปัญญาวิมุตติตอนเริ่มฝึกสมาธิจิตมักฟุ้งซ่าน ไม่รวมลงง่ายๆ เมื่อรวมเป็นสมาธิแล้วก็ไม่ค่อยมีนิมิตเกิดขึ้น
    บางคนไม่เห็นนิมิตอะไรเลย ได้ยินสายเจโตพูดกันว่าเกิดนิมิตบอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็อยากจะเห็นกับเขาบ้าง ซึ่งยิ่งอยากก็ยิ่งไม่เห็นไม่เป็น
    ทำให้ลังเลสงสัยว่าตนเองไม่มีวาสนาพอที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรม เลิกการปฏิบัติธรรมไปเสียก็มี
    นักปฏิบัติสายปัญญาวิมุตติอาศัยสมาธิเพียงเล็กน้อยก็พิจารณาทางปัญญาได้ ไม่จำเป็นต้องให้จิตรวมลึกเป็นอุปจารสมาธิ ก็สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรมได้
    กรรมฐานที่เหมาะกับคนนิสัยนี้คือ กรรมฐานตามรู้และวิปัสสนากรรมฐานเมื่อทำจิตให้สงบจดจ่ออยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียวได้แล้ว ให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ให้เห็นนามรูป
    เห็นไตรลักษณ์ เห็นโทษภัย เห็นความเสื่อมสลายของสังขารทั้งหลาย จนเกิดนิพพิทาญาณ แล้วพิจารณาสังขารทั้งหลายที่มีอยู่ให้เห็นส่วนละเอียด
    โยงเข้าสู่อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค วิมุตติ วิมุตติญาณทัสนะ
    โดยอาศัยความจำที่มีอยู่เห็นอยู่ตามปกติในชีวิตประจำวันเป็นฐานในการพิจารณา พิจารณากลับไปกลับมาหลายๆ ครั้ง
    ความรู้จะละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จนรู้แจ้งแทงตลอดในเรื่องนั้นโดยเหตุโดยผลตามความเป็นจริง รู้จักเหตุปัจจัยของสิ่งต่างๆ แจ้งชัดและสุดท้ายจะรู้จักวิธีทำกิเลสให้สิ้นได้เช่นเดียวกัน
    แต่ไม่ค่อยเป็นที่อือฮาเหมือนสายเจโตวิมุตติ

    3. อุภภะโตภาควิมุตติ คือผู้หลุดพ้นได้ทั้งสองแบบ เจโตวิมุตติก็ได้ ปัญญาวิมุตติก็ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นนิสัยวาสนาของผู้เคยบำเพ็ญพุทธภูมิมาก่อน ชำนาญในการฝึกจิตมาแล้วทั้งสองแบบ
    เมื่ออธิษฐานกกลับ คือเปลี่ยนใจสละพุทธภูมิ มาปรารถนาความหลุดพ้นแบบสาวกภูมิ ก็สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมได้ง่ายไม่ว่าจะดำเนินตามแนวไหน เจโตวิมุตติหรือปัญญาวิมุตติ
    มักจะเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และปฏิสัมภิทา มักจะเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางไม่ตำหนิผู้ใด เป็นครูเป็นอาจารย์แนะนำแนวทางปฏิบัติธรรมให้แก่ลูกศิษย์ได้หลายจริตนิสัย
    ใครได้พบได้เห็นครูอาจารย์ผู้มีอุปนิสัยวาสนาสายอุภภะโตภาควิมุตติ มักจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมคือ สามารถรู้ธรรมเห็นธรรมเข้าใจธรรมบรรลุมรรคผลนิพพานตามที่ปรารถนา
    ใครได้พบครูอาจารย์สายนี้จึงเป็นโชคดีของคนนั้น

    พระอริยบุคคลผู้รู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลในระดับที่เท่ากันไม่ว่าดำเนินการปฏิบัติมาสายไหน ความบริสุทธิ์แห่งจิตมีเท่ากัน คือละกิเลส พ้นทุกข์ได้เท่ากัน
    แต่ความคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ความละเอียดรอบคอบอาจจะแตกต่างกัน ความเห็นบางอย่างอาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียวบางทีสายเจโตกับสายปัญญาอาจมีความเห็นไม่ลงรอยกัน สงสัยการปฏิบัติของกันและกัน
    ท่านให้ผู้ปฏิบัติธรรมระมัดระวัง อย่าให้อติมานะ การดูหมิ่นและประมาทผู้อื่นเกิดขึ้น จะเป็นสักคาวร มรรคาวร คือเป็นบาปกรรมห้ามสวรรค์ ห้ามมรรคผลของตนเอง
    ท่านว่า “ผู้มีศีลจะรู้ได้ เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้มีปัญญาจะรู้ได้เมื่อได้สนทนากัน” ต้องระลึกไว้เสมอว่า “การรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลเป็นปัจจัตตัง” คือรู้ได้เฉพาะตนของใครของมัน
    อิทธิฤทธิ์ โวหาร ปฏิภาณ ปฏิสัมภิทา ลาภสักการะ เป็นบารมีแต่ละคนที่สะสมมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แข่งขันกันไม่ได้
     
  9. Dear-Dear

    Dear-Dear Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +45
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คุรุวาโร
    อดีตมาจาก...หมดบุญจากเทวดาชั้นสามครับ ชาตินี้ทำสมาธิได้ถึงอรูปฌานหนึ่งคือถอดจิตออกจากกายได้ และบางครั้งก็สามารถมองเห็นสัมเวสีได้ด้วย เรียกว่ามีของเก่าอยู่เยอะมากครับ เวลาทำสมาธิเข้าได้ แต่ออกไม่เป็นนะครับ คือก่อนออกจากสมาธิพยายามจดจำตอนที่เข้ามาด้วยครับ ส่วนโรคประจำตัวนั้นเป็นวิบากกรรมในชาตินี้ครับ ลองไปถือศีลแปดสักสามวันแล้วจะดีขึ้นครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ


    ขอบคุณค่ะ คุณพี่หม้อหุงข้าว
    แล้วก็ ขอเป็นกำลังใจให้คุณคุรุวาโรนะคะ

    เทวดา = ผู้ชาย ? ชาตินี้มีนิสัย / ความคิดออกไปทางผู้ชายมากกว่า และอยากเกิดเป็นผู้ชายด้วย

    คำถาม.. (ถามมากไปหน่อยขอได้โปรดอภัยนะคะ)
    1. ตอนนี้ บริกรรม พุท - โธ จะเปลี่ยนดีหรือไม่ คุณคุรุวาโรบอกว่า พุทโธหายน่ะดี แต่พอหายแล้วไปต่อไม่ได้ ไปไม่เป็นเลยค่ะ .... ใช้แบบ ดูจิต ของ หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ได้ไหมคะ?
    2. ตอนนี้คล้องเหรียญหลวงปู่ทวด คล้องมานานมากแล้ว และเพิ่งได้พระสีวลี+ตะกรุดโสฬสมาเพิ่ม ก็หนีบไว้ที่คอเสื้อค่ะ ไม่ทราบว่าดีหรือไม่คะ และที่บ้านมีเหรียญหลวงปู่มั่นด้วย หากจะขอบารมีท่านมาคุ้มครองตอนนั่งสมาธิต้องทำอย่างไรคะ
    3.คุณคุรุวาโรแนะนำให้ ถือศีล 8 สัก 3 วัน ... แต่โรคประจำตัวต้องกินยามื้อเย็น และจำกัดอาหาร กินน้ำมากไม่ได้ ไปค้างที่อื่นก็ไม่สะดวกค่ะ(ไม่ใช่ไม่อยากไป)มีทางอื่นไหมคะ
    4. อยากทราบว่า วิบากกรรมในชาตินี้ ที่ทำผิดพลาดไปคืออะไรคะ และจะมีโอกาสหายป่วยหรือไม่คะ
    5. ทุกวันนี้มีปัญหากับแม่ตลอด คือ อยู่เฉยๆ แม่ก็หาเรื่องด่า กระแนะกระแหน สาเหตุเป็นเพราะเรื่องเก่าๆค่ะ .... อยากทราบว่ามันจะมีโอกาสดีกว่านี้ไหมคะ ก่อนที่บ้านจะแตก

    ขอบคุณค่ะ ข้อ 4 และ ข้อ 5 รบกวนตอบทาง PM นะคะ ..... จะรอค่ะ สาธุ
     
  10. model_14

    model_14 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    กราบเรียนปรึกษา...
    ช่วยแนะนำวิธีที่ถูกทางที่สุดให้หน่อยค่ะอาจารย์คุรุวาโร เกี่ยวกับการฝึกพลังสมาธิ เพราะไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ บางครั้งก็ขี้เกียจเหลือเกิน บางครั้งคลุกอยู่แต่ห้องพระสวดมนต์ ภาวนานั่งกรรมฐานได้นานมาก..ต้องการอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร..เพิ่มการปฏิบัติให้ก้าวหน้ามากกว่านี้ค่ะ..
    **อยากทราบว่าอดีตเคยเป็นใคร ใจตอนนี้อยากบวชเพื่อปฏิบัติธรรม แต่ยังมีภาระเรื่องลูกยังเล็กมากค่ะ
    พอจะมีบุญญาได้เข้าถึงโสดาบันมั้ยคะ ขอคำชี้แนะแนวทางการปฏิบัติทางไหนดีคะ..
    **ตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำบุญ ให้ทาน ช่วยเหลือคนเห็นใครลำบากมาขอความช่วยเหลือไม่ได้ ใจอ่อนช่วยหมด บางครั้งตัวเองแทบเอาตัวไม่รอดค่ะ ไม่ทราบเพราะสาเหตุใด..ตอนนี้ทุกข์เรื่องยอดขายฝืดเคืองเหลือประดา เรื่องสามี
    แต่ทำบุญสร้างพระ สร้างวิหาร ที่เพื่อนบอกบุญตลอดค่ะ....กราบขอบพระคุณในเมตตาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2011
  11. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    มาให้กำลังใจท่ารคุรุวาโร ผู้มีพระคุณท่านหนึ่งในทางธรรม และอนุโมทนาบุญกับท่านหม้อหุงข้าวด้วยค่ะที่นำธรรมะดีๆ มาให้อ่าน ตอนนี้ก็จะตั้งใจทำความเพียรต่อไป ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม สาธุธรรมค่ะ
     
  12. phutsa

    phutsa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    261
    ค่าพลัง:
    +852
    แต่ก่อนไม่ค่อยสนใจปฏิบัติธรรมเท่าไร มาเจอคุณคุรุวาโรแนะนำ ทำให้ผมเดี๋ยวนี้พยายามนั่งสมาธิทุกวัน ขอให้คุณคุรุวาโรเอาชนะมารได้โดยเร็วพลันนะครับ
     
  13. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    มาให้กำลังคุณคุรุวาโรค่ะ รู้สึกดีใจและเกิดความศรัทธาต่อท่านAVTTAR ท่านหม้อหุงข้าวที่คอยช่วยคุณ เมื่อก่อนความมุ่งมันทางใจที่จะปฎิบัติไม่เต็มร้อยเลยค่ะ คิดแต่ว่าจะพยายาม จะพยายาม แต่พอบุญพาวาสนานำให้มาพบคุณคุรุวาโรในเว็บนี้ ทำให้รู้สึกมีแรงบันดาลใจเกิดขึ้น มีความตั้งใจเกินร้อยและมีความมุ่งมั่นว่าจะต้องปฎิบัติให้ได้

    ยังไงก็ขอให้คุณผ่านพ้นมารไปด้วยดีนะคะ เมืองมนุษย์เราก็อย่างนี้ ผู้ใดที่เจริญในทางธรรมแล้วก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาจะต้องได้พบกับคนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะใจพวกเขาเหล่านี้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิจฉาริษยาว่าใครจะเก่งเกินข้าไม่มี คนประเภทนี้พอเห็นคนทำดีก็จะพาล บางครั้งก็เหมือนแตน เราไม่ได้ทำอะไรให้แต่แค่เดินผ่านเฉยๆมันก็บินเข้ามาต่อยเราแล้ว ถือเสียว่ามารเข้ามาทดลองคุณก็แล้วกันนะคะ ขอพระบารมีหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่มั่น และพระบารมีพระอรหันต์ทั้งหมดจงช่วยคุ้มครองคุณ สาธุ
     
  14. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณคุรุวาโรอีก 1 เสียงค่ะ..
    เรื่องปัจจัตตังที่คนสัมผัสไม่ได้เขาก็ว่าไม่มี
    บัวยังมี 4 เหล่าเลยค่ะ คำแนะนำของคุณมีประโยชน์สำหรับหลายๆท่าน
    ขอให้คุณยังประโยชน์ไว้ชี้ทางให้กับผุ้ที่เขาต้องการเถอะค่ะ..
    เมื่อคุณพร้อม...ก็มีอีกหลายท่านในที่นี้พร้อม เดินหน้าต่อไปเหมือนคุณค่ะ
    เพื่อทำที่สุด ไปให้ถึงซึ่งตั้งใจไว้ ..เป็นกำลังใจให้ค่ะ..
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ขอส่งกำลังใจให้คุณคุรุวาโร.... ขอให้ท่านพักผ่อนอย่างมีความสุขนะคะ
     
  16. เด็กหัวโต

    เด็กหัวโต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +18
    เป็นกำลังใจให้คุณ คุรุวาโร นะค่ะ สู้ๆๆๆ กลับมาไวๆนะค่ะ ^^
    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
     
  17. wild win

    wild win เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +436
    อนุโมธนากับคุณคุรุวาโรนะคะที่ให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้เกิดปัญญา ตอนนี้ขอให้กำลังใจนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2011
  18. อวตาร888

    อวตาร888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,070
    ขอเป็นกำลังใจให้อีก1เสียงครับ (มารไม่มีบารมีไม่เกิด) ไม่ทราบว่าคนที่มาก่อกวนทำได้อย่างคุณคุรุวาโรหรือปล่าว.
     
  19. จิตประภัสร

    จิตประภัสร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้คุณ คุรุวาโรนะครับ ( พักสักครู่ สู้สู้ครับ )
    ขอให้เป็นกัลญานมิตรให้คำปรึกษากับผู้มีจิตมุ่งมั่นปฏิบัตเพื่อความหลุดพ้น
    จากกองทุกข์ และยังมีผู้คนอีกมากที่ยังต้องการกำลังใจและคำแนะนำ
    เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  20. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขอเป็นกำลังใจด้วยค่ะ........
    คุณคุรุวาโรเป็นคนที่ทำให้เกิดกำลังใจในการปฏิบัติเป็นอย่างมาก
    คือ สังเกตว่าท่านให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ไม่ว่า คำสรรเสริญ
    หรือ ผลประโยชน์แอบแฝงอื่นใด

    หายากค่ะ

    แต่เรื่องการทำใจเมื่อถูกทดสอบนั้น เข้าใจว่ายากค่ะ ไม่อาจเอื้อมไปแนะนำท่านได้
    แต่อยากให้ลองศึกษาประวัติของพระอรหันต์ที่ยิ่งใหญ่ที่ทันในยุคสมัยเรา
    คือ หลวงตามหาบัว.... ท่านถูกปรามาสมาเยอะค่ะ แต่ท่านมิได้หวั่นไหวเลย
    สุดท้ายหลายคนมาสำนึกผิดตอนหลัง (ไม่รู้ว่าไปขอขมาท่านทันรึปล่าว)

    อยากให้ดูเป็นแบบอย่างนะคะ... เจริญในธรรมค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...