ทุกข์ใจมากๆ ขอคำปรึกษาคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Peaceful777, 18 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Peaceful777

    Peaceful777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +112
    ดิฉันได้ตั้งท้องกับแฟนซึ่งอายุอ่อนกว่าดิฉันห้าปี เขายังเรียนไม่จบแต่ดิฉันทำงานแล้ว เขาตัดสินใจให้ดิฉันทำแท้ง เพราะเขาอยู่ในวัยเรียนปีสุดท้าย แต่ดิฉันไม่ยอมอยากเก็บเด็กไว้ ไม่ว่ายังไงดิฉันก็จะเลี้ยงเขาให้ได้ เด็กคนเดียวดิฉันเลี้ยงได้ ดิฉันไม่ชอบฆ่าสัตว์แล้วลูกตัวเองจะทำได้อย่างไร เขาเคยทำแท้งกับแฟนคนเก่ามาก่อนแล้วเลิกกันเพราะมาเจอดิฉัน โดยที่ดิฉันไม่รู้เรื่อง เขาบอกว่าไม่มีแฟนเลิกกันไปแล้ว และพยายามมาจีบดิฉัน แต่ดิฉันไม่ค่อยชอบด้วยความที่เด็กกว่า เคยบอกเลิกไปแล้วคะ แต่ก็ใจอ่อน จากนั้นก็มาคบกับดิฉัน เมื่อดิฉันรู้เรื่องว่าท้องจึงหาทางออกโดยการโทรไปคุยกับแม่ของเขา ซึ่งแม่ของเขาก็รีบมาคุยกับพ่อแม่ดิฉันทันที เพื่อแต่งงาน พ่อแม่ดิฉันค่อนข้างมีหน้ามีตาและฐานะทางสังคมแต่ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย ขอให้จัดงานที่เหมาะสมให้เท่านั้น ทางฝ่ายชายเป็นคนเสนอให้ โดยใช้เงินไม่เกินหนึ่งแสนบาทเท่านั้น ซึ่งแฟนดิฉันก่อนหน้านี้ทำตัวราวกับเป็นลูกเศรษฐีมาตลอด เช่าคอนโดอยู่ ซื้อของใช้เช่นกล้องถ่ายรูปราคาเหยียบแสน เปลี่ยนโทรศัพท์ไอโฟน เป็นว่าเล่นทันทีที่มีรุ่นใหม่ออกมา มีเงินแต่งรถ ก่อนถึงวันแต่งงานดิฉันได้เงินโบนัสมา เขาอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนจึงมาขอเงินดิฉัน และอยากได้รองเท้าราคาเป็นหมื่น จึงมาขอเงิน ดิฉันไม่ให้เพราะต้องการเก็บเงินไว้เป็นค่าฝากครรภ์ ค่างานแต่ง และค่าคลอด ค่าอัลตราซาวน์ ค่าวัคซีน รายจ่ายหลังคลอดอีก ซึ่งเขาไม่เคยช่วยเหลือ เรื่องค่าตรวจเลือด ฝากครรภ์ อะไรเลย เขาด่าทอดิฉันมากมายว่าทำไมไม่ให้เงินกันไม่ได้เพื่อแลกกับคำพูดดีดีที่จะมีให้กัน แบบนี้จะแต่งงานกันได้อย่างไร เขาจะไม่ยอมแต่งงานถ้าดิฉันไม่ให้เงินเขา เขาเป็นคนพูดจาหยาบคายถึงขั้นพูด กูมึง ทำให้ดิฉันทุกข์ใจมากๆมาตลอด ที่ผ่านมาฉันอยากได้หรือต้องการสิ่งใด เขาก็จัดการหาให้ โดยที่ดิฉันไม่รู้ ว่าเขาต้องโกหกแม่เพื่อเอาเงินมาซื้อของให้ดิฉัน ถ้ารู้เช่นนั้นจะไม่รับเลยดีกว่า เมื่อดิฉันไม่ให้เงินเขา เขาด่าทอดิฉันอย่างรุนแรงทั้งๆดิฉันตั้งท้องได้ เพียง 8 สัปดาห์ ดิฉันนอนร้องไห้ทุกคืนและเขาไม่เคยติดต่อมาอีกเลย จึงได้เล่าเรื่องราวให้แม่ดิฉันฟัง ครอบครัวเราจึงตัดสินใจหาทางออกย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด และบอกทางฝ่ายชายว่าเด็กหลุดไปเอง และยกให้เป็นลูกของพี่ชาย เพื่อเป็นการรักษาหน้าพ่อแม่ที่ดิฉันรัก ก่อนที่ดิฉันจะลาออกอีกสองวันสุดท้ายของการทำงาน เขาได้มาดักรอทั้งวันและมาขอโทษในสิ่งที่เค้าทำ เพื่อกลับมาคืนดีกันแต่เขาคิดว่าเด็กได้หลุดไปแล้ว เขาเข้ามากอดจึงได้รู้ว่าดิฉันท้องอยู่ ดิฉันท้องป่องมากตอนนั้นห้าเดือนกว่าแล้วคะ แต่พยายามใส่เสื้อตัวใหญ่ๆไว้ เมื่อเขารู้เขาได้เอาพวงมาลัยมาขอขมาพ่อแม่ดิฉันเพื่อขอแต่งงาน แต่ตอนนั้นมันสายไปแล้ว พ่อแม่ดิฉันโกรธมากและบอกว่าไม่มีเด็กที่ไหนทั้งนั้น ดิฉันร้องไห้และไม่อยากแต่งงานกับเขากับคนที่คิดจะฆ่าลูกตัวเอง และตอนนั้นเขาไม่เคยติดต่อมา ดิฉันได้ลาออกจากงานไปแล้ว เพื่อไม่ให้ใครได้พบเจอ ขังตัวเองอยู่ในห้องแคบๆ ระหว่างที่ท้องดิฉันนอนร้องไห้ทุกคืน เขาติดต่อมาแต่ก็กลายเป็นทะเลาะกันอยู่ตลอดดิฉันถูกด่าว่าอยู่เสมอ จนกลัวว่าลูกจะเป็นเด็กยิ้มยาก เมื่อดิฉันได้คลอดลูกออกมาอย่างโดดเดียวโดยมีแต่แม่เท่านั้นที่อยู่เคียงข้างค่าใช้จ่ายทั้งหมดดิฉันได้รับผิดชอบเอง และ ได้นำลูกกลับมาเลี้ยงที่บ้านเก่า เค้าได้ติดต่อมาและช่วยเหลือค่าซื้อของให้ลูก อยากพบลูกแต่แม่ดิฉันทั้งโกรธและเกลียดเขามากเพราะเขาไม่ยอมแต่งงานให้ตอนที่ดิฉันท้องอ่อนๆ ดิฉันใจอ่อนยอมให้เขาแอบมาดูลูกเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ เพียงครั้งเดียว หลังจากลูกอายุ เดือนครึ่ง ดิฉันได้งานทำเพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัดเพื่อเลี้ยงดู ทีแรกตั้งใจจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กแล้วดิฉันจะเลี้ยงเองแต่พ่อแม่ไม่ไว้ใจอยากจะเลี้ยง เพราะพ่อแม่อยู่บ้านเฉยๆ เค้ารู้ว่าดิฉันไม่ได้ใช้รถจึงต้องการรถของดิฉันไปใช้งาน แต่ดิฉันไม่มีเหตุผลในการบอกพ่อแม่ว่ารถหายไปไหนจึงไม่ได้ให้ เขาจึงบอกว่าในเมื่ออะไรเขาขออะไรก็ไม่ได้ เขาจะกลับมาอยู่กับดิฉันกับลูกทำไม หลังจากนั้นเราก็เลิกติดต่อกัน และเขาได้เงียบหายไป ดิฉันเลี้ยงลูกเพียงลำพังตั้งแต่แกเกิดมาตอนนี้ลูกหกเดือนแล้วคะ ดิฉันไม่ได้เปิดใจคบกับใครทั้งๆที่ก็มีคนเข้ามาตลอด ปัจจุบันดิฉันได้พบผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเค้าดูแลดิฉันดีมาก ดิฉันรู้สึกผิดมากๆที่ไม่ได้บอกความจริงกับเขา ดิฉันควรบอกความจริงกับเขาเมื่อไหร่ดีคะ เรายังคบกันไม่ถึงเดือน ไม่รู้ว่าใช่ไม่ใช่ แล้วเค้าจะรับได้ไหมว่าดิฉันเคยมีลูกมาแล้ว ปัจจุบันเสียใจและรู้สึกผิดมาตลอดกลัวเขาและครอบครัวเขารับไม่ได้คะ แต่หากรับไม่ได้ก็ไม่เป็นไรคะ ดิฉันรักลูกยิ่งกว่าสิ่งใด ลูกดิฉันเรียกดิฉันว่าอา เพราะพ่อแม่บอกให้เรียกแบบนี้ แล้วเรื่องสูติบัตร ดิฉันควรทำอย่างไรเพราะไม่มีชื่อพ่อเด็กคะ ลูกดิฉันเป็นลูกชายกลัวว่าจะมีปัญหาภายในภายหลัง ถ้าเอาเขามาตรวจดีเอ็นเอเพื่อเพิ่มชื่อพ่อ ก็กลัวว่าเวลาไปต่างประเทศพ่อที่แท้จริงต้องมาเซ็นเพื่อขอวีซ่า หากเขาไม่ยอมมาจะทำอย่างไร ตอนนี้ทุกข์ใจและวุ่นวายใจ สับสนไร้ที่พึ่งนอนร้องไห้คนเดียวเกือบทุกคืน คิดมากๆ ขอคำปรึกษาด้วยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2013
  2. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    704
    ค่าพลัง:
    +2,381
    สังคมสมัยนี้ถดถอยจริงๆนะคะ โดยเฉพาะบาปบุญคุณโทษ และผิดชอบชั่วดีมันหายไปจากใจบางคนจริงๆ สู้ๆนะคะ เพื่อนดิฉันหลายคนก็เป็นแบบนี้ แต่ทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ค่ะ ก่อนอื่น เรื่องแรกเลยที่อยากให้คุณคิดดีๆ คือเรื่องบอกความจริงกับแฟนใหม่เรื่องลูก หากคุณมั่นใจว่า เค้ารักคุณจริงๆ ไม่ใช่เพราะยังอยู่ในหัวในช่วงโปรล่ะก็ู รีบตัดสินใจบอกเค้าเถอะค่ะ ถ้าคิดว่าเค้าคือคนที่คุณจะอยู่ด้วยในอนาคต เพราะถ้าบอกช้า สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาในครอบครัวใหม่ของคุณ แต่ลูกคุณจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาไปด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กุมภาพันธ์ 2013
  3. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    วิบากกรรมแท้ ติดหนี้กรรมกันมาก่อน บอกความจริงทุกอย่างกับชายคนที่รักคุณจริง ถ้าเขารักจริงเขาต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้ เปิดเผยตอนนี้ดีกว่าเขามารู้ตอนหลัง เรื่องมันจะยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ พยายามทำใจให้สงบคิดว่าเราเคยทำไม่ดีเกี่ยวกับศีลข้อกาเมมาก่อนจึงต้องรับผลดั่งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าอ่อนแอยอมแพ้กรรม สู้กรรมเก่านี้ด้วยการทำความดี ปลูกสร้างบุญกุศลคือ ทาน ศีล ภาวนาให้สม่ำเสมออย่าได้ขาด อุทิศลุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรเขาไป
    ส่วนชายคนนั้นก็อโหสิกรรมกันไปนับแต่บัดนี้ ขาดกันนับแต่บัดนี้ เขาไม่เหมาะสมในหลายๆประการที่จเข้ามาใช้ชีวิตกับคณ อนุมาณจากที่คุณเล่ามานะ ทิ้งอดีตอยู่กับปัจจุบันพยายามสร้างเหตุปัจจุบันให้ดี ขอให้ศรัทธาเชื่อมั่นในความดี ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว แล้วคุณพระไตรสรณะคมณ์จะปกป้องน้อมนำให้คุณผ่านวิบากกรรมอันหนักหนานี้ไปได้ ขอให้คุณโชคดี คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครอง ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้เข้มแข็งในการเอาชนะกรรมด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปแก้กรรมกับใครหรือที่ไหนๆ
     
  4. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    704
    ค่าพลัง:
    +2,381
    แล้วอยากจะบอกว่าพยายามเลี้ยงเค้าให้ดีๆนะคะ อย่าให้เค้ารู้สึกว่าเป็นเด็กมีปัญหา เราสามารถเลี้ยงเค้าให้มีคุณภาพได้แน่ค่ะ แต่ในขณะเดียวกันจะต้องแน่ใจว่าแฟนใหม่ของเราจะสามารถเปิดใจรับและรักลูกเราให้เหมือนลูกเค้าจริงๆถึงแม้ในอนาคตเค้าและคุณอาจมีลูกใหม่ด้วยกันก็ตาม ยังไงลองปรึกษาผู้ใหญ่ดีที่สุดค่ะ สำหรับลูกชายของคุณ ดิฉันอยากแนะนำให้คุณหมั่นดูแลเอาใจใส่แกเองนะคะ จะในฐานะอาหรืออะไรก็แล้วแต่ในตอนนี้ แต่ขอให้แสดงออกให้แกเห็นมากๆว่าคุณรักแกมากแค่ไหน แล้วหมั่นพาแกไปวัด พยายามให้แกซึมซับสิ่งดีๆด้านธรรมมะ เพื่อที่ลูกคุณเมื่อโตขึ้นแล้วรู้ความจริงแกจะได้รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องของกรรม แล้วเด็กจะค่อยๆเข้าใจทุกเรื่องเองค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กุมภาพันธ์ 2013
  5. Peaceful777

    Peaceful777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +112
    ดิฉันเพิ่งคบกับเค้าได้ไม่นาน จึงยังไม่ไว้ใจเขาเท่าไหรคิดว่าจะรอให้ครบ 6 เดือนค่อยบอกความจริงแต่ทุกๆครั้งที่เค้าทำดีกับเรารู้สึกน้ำตาจะไหลทุกๆครั้งเลยค่ะ อึดอัดใจที่ไม่ได้บอกความจริงมากๆคะ เรื่องนี้เป็นความลับของครอบครัวเลยทำให้คิดมากๆคะ
     
  6. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    ปัญหาหนักใจของคุณตอนนี้ คือ กลัวว่าถ้าบอกความจริงกับคนที่มารักคุณ เกรงเขาจะรับไม่ได้

    ขอถามก่อนค่ะ ว่าคุณคิดว่าเขารักคุณมากไหมคะ ถ้าคิดว่าใช่ก็ค่อยๆบอกเขา
    ถ้าเขารักคุณจริงเขาย่อมเห็นใจและเข้าใจคุณแน่นอนค่ะ

    หรือคุณคิดว่าจะปกปิดไว้ แล้วจะปิดไว้นานแค่ไหนคะ

    ไหวไหมคะที่จะเก็บความอัดอั้นตันใจในครั้งนี้เอาไว้คนเดียว

    เรื่องเกรงว่าต้องใส่ชื่อพ่อเด็กในสูติบัตรใส่ได้ค่ะ
    ข้อนี้พอดีว่าเพื่อนของมากิ ก็เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกันค่ะ

    เขาใส่ชื่อพ่อเด็ก แต่ในเมื่อไม่มีการจดทะเบียนรับรองบุตร ก็ย่อมไม่มีผลใดๆตามมาค่ะ

    เพื่อนมากิเขาไปทำเรื่องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูแต่เพียงผู้เดียวค่ะ
    ดังนั้นพ่อของลูกคุณก็ไม่จำเป็นต้องมาเซ็นต์ในทุกๆเรื่องค่ะ

    และอีกอย่างคุณก็ไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเขา ก็ย่อมไม่มีผลทางใดกับคุณค่ะ

    แม้ไม่มีพ่อมาเซ็นต์ยินยอม ลูกของคุณก็ไปต่างประเทศได้ค่ะ


    อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปถามรายละเอียดกับเพื่อนมาให้นะคะ

    ตอนนี้ อย่าเพิ่งกังวลให้มากเลยค่ะ ค่อยหาวิธีแก้ไขไปก่อน

    ถ้าจะให้ดี ไปปรึกษาหน่วยงานทางราชการ เช่น ที่ว่าการอำเภอ ก็ดีนะคะ

    ว่าเคสนี้ เราต้องทำอย่างไร ถึงจะออกมาดีที่สุด

    ปัญหาบางอย่างแก้ได้ค่ะ ขอให้คุณค่อยๆคิดพิจารณาไป ก็จะเห็นทางออกค่ะ

    เป็นกำลังใจให้นะคะ หวังเป็นอย่างย่ิ่งว่าคุณต้องทำสำเร็จแน่นอนค่ะ
     
  7. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ลองถามใจตนเองดูว่า หากเป็นเรา จะอยากทราบความจริงอย่างเร็วหรือช้า.....หรือว่าไม่อยากรู้เห็นความจริงเลย...

    ถ้าเขาทราบทีหลัง เมื่อทุกอย่างสายเกินไป ใครจะรับรองว่าเขาจะไม่หลบหลีกปลีกตัวไปเพราะเห็นว่าเราไม่เปิดเผยความจริง..คนเราโดยปกติ ไม่ชอบให้ใครมาโกหกหลอกลวงตบตาอะไรๆ ..ดูตัวอย่างง่ายๆใกล้ตัว...ชายที่เป็นพ่อของลูกนั่น พรางตัวว่ามีฐานะดีื แต่ที่แท้กลับไม่ใช่จึงสร้างแต่ความเสียหายเบียดเบียนคนรอบข้่างอยู่ ไม่เว้นพ่อแม่ตนเอง..นั่นคือผลของการรับความจริงไม่เป็น..เเล้วเราชอบใจในพฤติกรรมลวงโลกของเขาใหมครับ?


    ตรงนี้จะรู้ได้เมื่อเขาทราบความจริง..อย่ากลัวจะเสียใครๆเลย ถ้าเขารับไม่ได้เวลานี้ก็ยังดีกว่ารับไม่ได้ในภายหน้า..เพราะท่านจขกท จะเสียหายมากกว่าในเวลานี้มากมายนัก



    เข้าใจว่าแฟนใหม่คงเป็นชาวต่างชาติ หากเป็นเช่นนั้นพึงเปิดเผยเรื่องของตนให้เขาทราบแต่เนิ่นๆ เขามักไม่รังเกียจอดีตอะไร แม้มีลูกเขาก็ยังคิดจะช่วยเลี้ยงให้ มีให้เห็นมากมายในละเเวกบ้านผมครับ..

    ส่วนลูก.. ขอแนะนำให้คุณบอกเขาให้เรียกคุณว่า"แม่"..อย่าได้พยายาม"รักษาหน้าตนในความพลาดพลั้งที่ผ่านมา"..เพื่อที่ ภาระความสงสัยอึดอัดคับข้องใจจะไปปรากฏเป็นปมด้อยในเด็กตลอดชีวิต...เมื่อกล้าทำผิดได้ ก็ควรกล้าแบกหน้ารับผิดชอบความผิดของตนอย่างที่ผู้มีวัยวุฒิควรจะทำได้..อย่าให้เด็กเป็นแพะที่ต้องมารับบาปที่ตนทำไว้ในอนาคตเลย ไม่เป็นเรื่องที่ดีแก่ใคร..โดยเฉพาะเด็ก ที่ต้องโตขึ้นมาโดยในสิ่งแวดล้อมที่ต้องสร้างเรื่องโกหกหลอกเขาทุกวัน..เคยเห็นข่าวเด็กที่มีปัญหาเช่นนี้มีอาการจิตไม่ปรกติมากมายตามข่าวในนสพ....

    ส่วนเรื่องสูติบัตร เห็นทีว่าจะต้องพบปัญหากับพ่อเด็กที่แท้เสียแล้วว่าต้องไปเซ็นต์อนุญาต...เคยพบว่าพ่อที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ถึงกับเรียกเงินค่าเซ็นทีเดียว ทั้งๆที่ตนไม่มีปัญญาเลี้ยงดูลูกตน แต่ก็ชั่วได้ถึงกับเกาะลูกเมียกินแม้ด้วยอาการนี้...น่ารังเกียจแท้ๆ..

    ก็ได้แต่เอาใจช่วยว่าบุญของคุณและลูกจะช่วยให้พ้นชายคนชั่วที่ไม่รับผิดชอบได้....
     
  8. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    ขอเป็นกำลังใจให้อีก 1 แรงค่ะ
    สู้ๆ นะคะ บอกความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
    ถ้าเขารักคุณจริง เขาต้องรับในสิ่งที่คุณเป็นได้
    บางที เขาอาจจะเข้ามาช่วยคิด ช่วยตัดสินใจในอนาคตก็ได้
    อย่ากลัวจนเกินไป หรือมั่นใจจนเกินเหตุ
    ทำเหตุดี สิ่งดีๆ ก็จะตามมาเองค่ะ
    ถ้าคนนี้ไม่ใช่ ย่อมต้องเจอคนใหม่ที่ใช่กว่า
    การบอกเล่าเรื่องราว ก็เหมือนบททดสอบ
    ว่าเขารับได้ไหม จริงใจกับเราหรือเปล่า
    รักเราแค่ไหน (kiss)
    สู้ๆนะคะ
     
  9. บันลือธรรม

    บันลือธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +2,369
    เป็นกำลังใจให้ครับ ดีแล้วครับที่ไม่ทำแท้งจะเป็นบาปมาก
     
  10. Peaceful777

    Peaceful777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +112
    คนรักใหม่ของดืฉันเป็นคนไทยคะ แต่ดิฉันตั้งใจจะพาพ่อแม่และตัวน้อยไปต่างประเทศเพื่อท่องเที่ยวในอนาคต พี่ชายและพี่สะใภ้จะทำเรื่องขอรับเป็นบุตรบุญธรรม โดยที่ค่าเลี้ยงดูและค่าใช้จ่ายทุกๆอย่างดิฉันเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ทุกวันนี้ทุกๆคนเข้าใจว่าเป็นลูกพี่ชาย ซึ่งลูกต้องเรียกดิฉันว่าอา หากบอกความจริงทุกๆคนคงจะไม่พอใจที่พ่อแม่ดิฉันโกหก ดิฉันอยากให้เค้ามีทั้งพ่อและแม่ และมีอาคนนี้ที่รักเค้ามากๆคิดว่าหากเค้าโตขึ้นมารับรู้เรื่องราวได้แล้วจะบอกความจริงกับเค้าทุกๆอย่างพร้อมกับเหตุผล แบบนี้ดีไหมคะ
     
  11. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    ดีใจค่ะที่อ่านมาจนจบแล้วคุณรักษาลูกของคุณเอาไว้ไม่ยอมทำแท้ง ขอให้กุศลผลบุญของคุณทำให้คุณได้พบกับคนที่ดีที่เขาจะดูแลให้คุณมีความสุข ถ้าเขารักคุณจริงเขาจะไม่ยึดถือกับอดีตที่ผ่านมาของคุณและพร้อมที่จะแก้ไขหนทางที่คุณต้องต่อสู้อยู่ในปัจจุบันนี้ไปด้วยกัน
     
  12. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    บอกให้รู้เสียแต่ตอนนี้ดีกว่า เราจะได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร จงรักอย่างมีสติ เรื่องความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จงมีขอบเขตในความรัก ยุคก่อนผู้หญิงชอบผู้ชายมาม่าอย่างไง ยุคนี้ผู้ชายก็ชอบผู้หญิงมาม่าเหมือนกัน อย่ากลัวว่าผู้ชายจะไม่รัก แต่จงกลัวที่ผู้หญิงจะหลงผู้ชายมากกว่าค่ะ..รักด้วยสติ.....
     
  13. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    เป็นกำลังใจให้นะครับ
    บอกความจริงไปแล้วครับ รู้ตอนนี้ดีที่สุดครับ
     
  14. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    เป็นกำลังใจให้ทำความดีและมีชีวิตอยู่ในโลกต่อไปแบมีสติจ้ะ พร้อมทั้งรักตัวเองให้มากๆ
     
  15. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ถ้าคุณบิดเบือนความจริงก็เหมือนกับคุณได้ดัดต้นไม้ไปแล้วเมื่อมันแก่ขึ้นโตขึ้นคุณจะดัดกลับได้หรือป่าว....ในเมื่อคุณสร้างเหตุแห่งความทุกข์ไว้คุณก็ย่อมจะได้รับผลทั้งทางกายและใจ....เด็กจะมีปัญหาไม่ได้เกิดจากว่าขาดใครไป....แต่อยู่ที่การปลูกฝังอุปนิสัยต่างหาก...ความรักความเข้าใจระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก...เท่าที่ผมเจอมาเพราะผู้ใหญ่เที่ยวคิดไปเองว่าเด็กมีปัญหา...แต่ไม่เคยมองจริง ๆ ว่าอะไรคือปัญหาของเด็ก...เข้าไปคิดกังวลแทนเด็กคิดล่วงหน้าแทนที่จะปล่อยไปตามสบายเรามีหน้าที่แค่เลี้ยงดู ปลูกฝังจิตสำนึก ให้การศึกษา...พื้นฐานดีแล้วจะไปกลัวอะไร...ผมอยากให้คุณบอกความจริงกับเด็กตั้งแต่ตอนนี้เลยและบอกความจริงกับทุกๆคนด้วย...โดยเฉพาะแฟนใหม่ของคุณ...เมื่อคุณบิดเบี้ยวทุกๆอย่างในชีวิตคุณก็จะบิดเบี้ยวตามไป...มันจะไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเข้ามาสู่ตัวคุณเลย....ถ้าคุณยอมรับที่จะอยู่ในโลกที่จะมีแต่ความบิดเบี้ยวถาโถมเข้าหาตัวคุณได้แล้วล่ะก็ผมก็ไม่ว่าอะไรคุณนะ....สุดท้ายนี้พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า...."การที่เราจะรู้ได้ว่าใครดีนั้น..จะต้องคบเค้านานๆถึงจะรู้ได้ว่าเป็นอย่างไร " สวัสดี...
     
  16. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    เห็นด้วยกับคุณAYACOOSHA ค่ะ
    เข้าใจว่าทุกข์จริงๆ แต่เอาเป็นว่าเราขอชี้แนะว่า
    ทกข์ข้อ1 คือเรื่องลูก คุณควรยอมรับความเป็นจริงนะว่าคุณเคยท้องและมีลูกตาบ้องแบ๊วอยู่ ถ้าหากคุณจะทำเพื่อลูกและตัวคุณเอง คุณก็ควรจะรับว่าคุณคือแม่เขา ถึงชาวบ้านจะว่านินทายังไงคุณก็ควรยอมรับ เพราะคุณเป็นผู้ก่อเหตุนี้ขึ้นมา มีปัญหาตอนต้นดีกว่ามันจะบานปลายมากขึ้นค่ะ ถ้าเรายอมรับความจริงตรงนี้ได้คุณก็จะสบายใจไปตลอดชีวิต ดีกว่าจะทุกข์ใจร้องไห้ทั้งชีวิตคุณจะรับได้เหรอ อยากบอกว่าเด็กแถวบ้านที่ท้องก่อนแต่งหรือท้องไม่มีพ่อ ชาวบ้านก็พูดกันแค่ตอนแรกๆเท่านั้นแหละ นานไปก็ไม่มีใครพูดถึงแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นแม่ที่ดี เลี้ยงลูกได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งผู้ชาย คนเขายิ่งจะยกย่องคุณมากกว่าคนที่ครอบครัวพร้อมหน้าแต่มีลูกพาลเกเรเสียอีก
    2. เรื่องคนที่จะมาเป็นแฟนกัน ก็คือคนที่จะมาร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ฉะนั้นสมควรอย่างยิ่งที่มีอะไรก็ควรบอกกัน อย่าโกหก บอกกับเขาด้วยเหตุด้วยผล และอย่าให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก เชื่อว่าถ้าคนมันจะรักกันจริงๆเรื่องแค่นี้เขาไม่ถือหรอก แต่ถ้าเขารับไม่ได้คุณก็ควรจะยุติความสัมพันธ์เอาไว้แค่เพื่อนหรือคนรู้จักก็พอค่ะ
    3. เรื่องหากกลัวจะพาลูกไปนอกไม่ได้ ถ้าลูกไม่บรรลุนิติภาวะอันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าหากไปเที่ยวชั่วคราวจะต้องให้ผู้ปกครองฝ่ายชายเซ็นต์มอบอำนาจไหม เพราะเห็นมีเพื่อนได้สามีฝรั่งเขาจะพาลูกติดกับสามีคนแรกมาอยู่เมืองนอกแบบถาวรด้วย เขาต้องให้พ่อเขาเซ็นต์มอบอำนาจให้แม่แต่เพียงผู้เดียวดูแล แล้วจึงทำเรื่องให้ลูกมาอยู่ได้และทางสามีฝรั่งเขาไม่มีปัญหาก็คือรับเป็นลูกบุญธรรม
    แต่ถ้ากลัวแบบนั้นก็รอให้ลูกมีอายุครบบรรลุนิติภาวะแล้วค่อยพาไปเที่ยวเมืองนอกก็ได้ แบบนี้ไม่ต้องมีผู้ปกครองเซ็นต์ให้ยุ่งยาก หรือไม่ก็โทรสอบถามที่สถานทูตก็ได้ว่าจำเป็นต้องใช้มั๊ย
     
  17. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    วัยรุ่นก็งี้แหละครับ ถ้าเซ็ทผม ถือ iPhone นี้ก็คล้าย ๆ กัน เท่าที่ผมเห็นนะ
     
  18. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    -ลูกก็ไม่ได้เรียกเราว่า แม่ เหมือนกัน แต่เรียก Grolia (มีแต่คนมองหน้าค่ะ ว่าทำไมลูกไม่เรียกแม่) แต่กลับเรียกแฟนน้องชายสามีว่า ..แม่.. แทนเรา (เพราะเขาก็เอาใจ/รักลูกเราเหมือนกัน)
    หลายคนเข้าใจผิดมาก ว่า แฟนน้องชายสามีเป็นแม่ของลูกค่ะ
    คำว่า แม่ ในความหมายของลูกเรา เป็นเพียง คำสรรพนามเท่านั้น การกระทำต่างหากที่สื่อถึงความรู้สึกเด็กค่ะ
    เพราะฉะนั้นอย่ากังวลค่ะ
    เราขอถามกลับนะ อย่าโกรธกัน
    ....คุณได้ทำหน้าที่แม่กับลูกบ้างหรือเปล่าคะ...เด็กผูกพันกันที่การกระทำ ไม่ใช่เงินที่หามาซื้อของให้เขา ได้ทำเต็มที่หรือเปล่าคะ
    Grolia ของลูกเราหมายถึง แม่นกเพนกวินที่รักลูกมากๆ แบบเสียสละปลาให้ลูกกิน ฯลฯ
    -กรณีกลัวเด็กยิ้มยาก เราว่า อยู่ที่ตัวแม่ ว่ายิ้มให้เขาหรือเปล่า บ่อยมั้ย เวลาร้องไห้ก็ยิ้มทั้งน้ำตากอดเขาไปด้วย ด้วย ตอนเราท้องปัญหาเราเยอะมาก คิดทำแท้งก็คิดมาแล้ว แต่ปรากฎว่า ลูกเป็นเด็กที่ยิ้มร่าเริง"สุดขีด" เสน่ห์เขากลับอยู่ที่รอยยิ้ม
    -ความเห็นเราเท่าที่อ่าน เรารู้สึกว่า คุณแคร์คนใหม่มากกว่าลูกค่ะ ขอโทษที่เขียนจากความรู้สึก คุณแคร์ว่า เขารับไม่ได้ /จะได้ไปต่างประเทศมั้ยถ้าแฟนเก่าไม่มาเซนต์(เที่ยวต่างประเทศมันเรื่องไกลตัวมากค่ะ ) ฯลฯ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เราว่า สำคัญน้อยกว่า จิตใจของเด็กที่บอบบางมากค่ะ ตกลงคุณร้องไห้ทุกคืนตอนนี้เพราะเรื่องลูกหรือแฟนใหม่คะ คิดดีๆก่อนตอบนะค่ะ (ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะถ้าไม่สะดวก)
    -ควรบอกความจริงค่ะ ความลับไม่มีในโลกค่ะ การรอของคุณเป็นเพียงจังหวะที่พอดีหรือ หลอกตัวเองคะ

    ขอโทษที่เราเขียนจากความรู้สึกนะ เพราะเราเองเคยมีประสบการณ์ค่ะ หมอจิตเวชทักเราว่า คุณพูดถึงแม่(หมายถึงแม่แท้ๆตัวเอง) สั่ง/แม่ห้าม/แม่บอก/กลัวแม่โกรธ ฯลฯ
    มากกว่า พูดถึงลูกตัวเองเสียอีก คุณเป็นแม่ประสาอะไรกัน

    ทุกวันนี้เราพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราเลือกลูกค่ะ ไม่ขอให้ใครมากำหนดชีวิตอีกแล้ว

    ขอโทษถ้าความเห็นเราไม่ถูกใจใครค่ะ
     
  19. คมวรรณ

    คมวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,050
    ยังดีนะครับ..ที่ไม่ได้ไปทําแท้ง(ดับชีวิตเด็ก)..ไม่งั้นกรรมยาวเลยคับ..(แก้ไม่ได้ด้วยนะคับ)ส่วนแฟนเก่าคิดว่าไม่ใช่คู่แท้เป็นคู่เวรมาตัดรอนล้างแค้นเราคับ..เพียรบอกความจริงกับลูกและแฟนใหม่นะคับ..ชายไทยสมัยนี้เริ่มเปิดใจมากขึ้น..(ถ้าเขารู้ทีหลังเขาจะไม่ไว้ใจเรา..และคุณจะมีบาปมากนะ)ดูอย่างชายฝรั่งได้ภรรยาใหม่มีลูกติด2-3คนเขาก็ไม่แคร์คับ..เสียอะไรก็เสียได้..แต่อย่าให้ใจมันเสียนะคับผม..
     
  20. Peaceful777

    Peaceful777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +112
    ขอบคุณมากนะคะ สำหรับความคิดเห็นของหลายๆท่าน ถ้าแฟนใหม่รับไม่ได้ ดิฉันต้องเลือกลูกชายดิฉันแน่นอนคะ ดิฉันมาทำงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนพยายามให้นานทีสุด แอบไปปั้มนมเก็บให้ลูกทุกๆ3 ชม ทุกอาทิตย์เพกใส่กล่องโฟมส่งรถทัวร์กลับไปให้แม่ที่ต่างจังหวัด หรือไม่ก็นั่งรถกลับบ้าน ระยะทางเกือบพันกีโล ดิฉันนั่งรถทัวกลับบ้านเกือบทุกอาทิตย์เพื่อไปช่วยแม่เลี้ยง เสียค่ารถเดือนละหลายพัน ถ้านั่งเครื่องก่เดือนละเป็นหมื่น ดิฉันรักลูกชายคนนี้มากกว่าแฟนใหม่ ยังไงก่ไม่มีทางเห็นผู้ชายดีกว่าลูกในใส้แน่นอนคะ ส่วนพ่อกับแม่ดิฉันพยายามให้เงินท่านทั้งสองคนไว้ใช้จ่ายให้สุขสบายไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน พ่อแม่เลี้ยงให้ก็ลำบากมากแล้ว ดิฉันพยายามตอบแทนทุกเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท เงินเหลือก็ให้ มีมากให้มากมีน้อยให้น้อย แต่ไม่อยากให้ท่านทุกข์ใจอีกแล้วคะ ส่วนเรื่องแฟนใหม่ดิฉันเป็นคนไม่ชอบมีความลับอะไร คาดว่าไม่นานจะต้องบอกเค้าแน่นนอนคะ หากเข้ารับไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรคะ ดิฉันเลือกให้ลูกเกิดมาและเสียสละทุกๆอย่างรวมไปถึงเรื่องงานที่ต้องลาออก ขอแค่เพียงมีทางออกให้ไม่ต้องทำลายชีวิตน้อยๆ ชีวิตนี้คะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...