ถ้าไม่เร่งการปฏิบัติของตนเอง รู้ตัวอีกทีก็จะสายไปเสียแล้ว

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    B0F97042-C5E3-4210-9D4C-FA6F6F4BBE9E.jpeg

    วันนี้อยากฝากการบ้านให้โยมทุกท่านว่า การปฏิบัติอย่าทำเป็นเล่น ทำเป็นเล่นเมื่อไรเรายังจัดอยู่ในสังโยชน์ข้อสีลัพพตปรามาสอยู่ ศีลเรารู้จัก พรตก็คือหลักการปฏิบัติ ก็คือ ศีลพรตที่เรารักษาและปฏิบัติในลักษณะลูบ ๆ คลำ ๆ ไม่เอาจริงเอาจัง นอกจากจะช่วยเราไม่ได้แล้ว ยังจะซ้ำเติมให้เราสาหัสขึ้นอีก

    อย่างเช่นการภาวนา เมื่ออารมณ์ใจทรงตัวแล้ว ก็มีกำลังที่จะมาพิจารณาตัดกิเลสได้ แต่ถ้าเราไม่นำกำลังนั้นมาพิจารณาตัดกิเลส เมื่อคลายออกมา มันจะวิ่งเข้าไปหาความฟุ้งซ่านในรัก โลภ โกรธ หลงของมันเอง คราวนี้ก็จะฟุ้งซ่านเป็นหลักเป็นฐานเป็นงานเป็นการ เพราะมันได้กำลังจากสมาธิมา กลายเป็นมิจฉาสมาธิ ซ้ำเติมเราให้ลำบากยิ่งขึ้น ทำให้กิเลสมีกำลังกล้าแข็งยิ่งขึ้น ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติมา ให้ดูตัวเราเองด้วยว่า ทุกวันนี้เราปฏิบัติเพื่อสร้างบุญสร้างบารมีให้เกิด เสริมสร้างปัญญาให้เกิด หรือว่าเราปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างกำลังให้กับกิเลสทุกวัน ?

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า ธัมมวิจยะ การรู้จักแยกแยะในธรรม จัดเป็น ๑ ในโพชฌงค์ ๗ ประการ ที่เป็นเครื่องช่วยให้เราตรัสรู้หรือบรรลุมรรคผลได้ ธรรมะของพระพุทธเจ้า ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ไม่มีอะไรขัดกันเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกข้อสามารถส่งเสริมกันได้หมด แต่ว่าเราทำจริงหรือไม่ ? ทำเล่น ๆ นอกจากไม่เกิดผลดีแล้ว ยังซ้ำเติมตัวเองให้หนักขึ้นไปอีก

    หลวงปู่ปานไปแล้ว หลวงพ่อไปแล้ว หลวงพ่อสิงห์ก็ดี หลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ก็ดี อายุมากขึ้นทุกวัน ๆ หลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์อายุก็ ๖๐ กว่า จะ ๗๐ แล้ว หลวงพ่อสิงห์ของเราก็ ๗๐ กว่าแล้ว ยังอยู่ได้อีกสักกี่วัน ถ้าเรายังไม่เร่งทำตนเองให้มีหลักยึดไว้ ถึงเวลาหลักตรงหน้าหายไป แล้วเราก็จะรู้ว่าคนอื่นไม่ใช่ที่พึ่งของเรา ซึ่งกว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว

    * ที่มา : เก็บตกงานกฐินวัดเขาวง-วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ (๓๑ ต.ค.-๑ พ.ย. ๕๒)
    .....................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...