ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตัวอย่างของแพทย์ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อและป่วย บางคนป่วยหนักได้ครับ

    เขาไม่ได้ติดเพราะประมาทหรือการ์ดตกนะ
    https://www.reuters.com/world/asia-...vid-19-despite-vaccination-dozens-2021-06-17/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข่าวใหญ่ในวงการ COVID-19 vaccine เมื่อเช้านี้คือแถลงการณ์ของ CureVac ซึ่งรายงานผลการศึกษา phase 2b/3 HERALD study ของ CVnCoV mRNA vaccine พบว่ามีประสิทธิภาพเพียง 47% ถือเป็น high profile vaccine ตัวแรกที่ล้มเหลวในการศึกษา phase 3

    HERALD study เป็น RCT ที่ทำใน 10 ประเทศทั้งยุโรปและอเมริกาใต้ รวมอาสาสมัครเกือบ 4 หมื่นคน ผล interim analysis แรกประกาศออกมาได้ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคในทุกระดับของความรุนแรงเพียง 47% ตกเกณฑ์ที่ WHO ตั้งไว้

    เหตุสำคัญที่ทำให้ CVnCoV ล้มเหลวน่าจะมาจาก 2 เรื่อง คือตัว mRNA sequence ที่ใช้เป็น unmodified หมายความว่าไม่มี 2P modification แน่ ตรงนี้อาจเป็นคำอธิบายหนึ่งที่ทำไม antibody level จาก phase 1 trial ของวัคซีนตัวนี้ทำได้แค่พอ ๆ กับ convalescent plasma ซึ่งต่ำกว่า Pfizer x BioNTech และ Moderna มาก ๆ (ทั้ง 2 เจ้าทำได้สูงกว่าราว 10 เท่า) อ่าน 2P เพิ่มเติมที่นี่ >>

    อีกสาเหตุนึงคือ ช่วงที่ทำ clinical trial มีการระบาดของสายพันธุ์ต่าง ๆ แล้ว ข้อมูลของอาสาสมัครที่ติดเชื้อพบว่า 21% เกิดจาก C.37 (Lambda variant) ซึ่งเป็น VOC ใหม่ของ WHO อาจเป็นไปได้ว่า Lambda variant นี้ดื้อต่อวัคซีนไม่น้อย

    ข่าวนี้ก็ถือเป็นบทเรียนที่ดี เพราะ COVID-19 vaccine ไม่ได้มี potency เท่ากัน แม้จะเป็น mRNA vaccine ก็ไม่ได้แปลว่ามี potency สูงพอกัน ต้องติดตามข่าววัคซีนที่ทำการศึกษาในบ้านเราเช่นกันว่าผลจะเป็นอย่างไร

    บริษัทแถลงข่าวว่าจะพัฒนา version 2 (CV2CoV) และ multivalent vaccine ต่อ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีทุนสนับสนุนจริงไหม
    https://www.reuters.com/business/he...e-misses-efficacy-goal-mass-trial-2021-06-16/
    https://www.curevac.com/en/2021/06/...generation-covid-19-vaccine-candidate-cvncov/

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    --------
    ชายอายุ 65 ปี มีโรคเบาหวานอยู่เดิม ป่วยเป็นปอดอักเสบโควิดเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2564 ได้รับการรักษาด้วยยา favipiravir นาน 10 วัน และ high-dose dexamethasone จนหยุดใน 18 วัน เนื่องจากอาการรุนแรงรายนี้แพทย์ให้การรักษาเสริมด้วย infliximab ซึ่งเป็น monoclonal anti tumor necrosis factor (TNF) alpha antibody วันที่ 23 ของการนอนโรงพยาบาล มีไข้ขึ้นใหม่ และมีฝ้าขาวในเอกซเรย์ปอดเพิ่มขึ้น จนวันที่ 32 ส่งทำซีทีสแกนจึงเห็นโพรงฝีในปอดชัดเจน ผลตรวจเลือดพบค่า galactomannan 3.33 (ปกติน้อยกว่า 0.5) เมื่อทำการส่องกล้องหลอดลมและตัดชิ้นเนื้อมาตรวจ แม้จะไม่พบเชื้อรา Aspergillus เพราะได้ยา amphotericin B มาแล้ว 5 วัน แต่พบ calcium oxalate crystals ซึ่งมีรายงานว่าค่อนข้างจำเพาะสำหรับการติดเชื้อรา Aspergillus ในปอด แต่ที่แปลกใจคือพบ สหายไวรัสโคโรนา-2019 ด้วย คือ cytomegalovirus (CMV) โดยมีหลักฐานว่ามันทำให้เกิดปอดอักเสบด้วยเนื่องจากพบ cytopathic changes
    Coronavirus-Associated Pulmonary Aspergillosis (CAPA) เป็นการติดเชื้อราแทรกซ้อนในผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดทั่วโลก เชื่อว่าการเชื้อโควิดเองทำให้ระบบภูมิต้านทานร่างกายลดลงจนติดเชื้อนี้ง่าย อีกทั้งโรคเบาหวาน การได้รับยากดภูมิทั้งสเตียรอยด์ และยาอื่น เช่น anti-TNF ในรายนี้ มีส่วนส่งเสริมให้ติดเชื้อรานี้ได้มากขึ้น รวมถึงเชื้อราดำ (mucor) ที่มีรายงานจากอินเดียแต่ยังไม่พบในประเทศไทย
    สำหรับการพบปอดติดเชื้อ CMV ร่วมด้วยนั้น เชื่อว่าเชื้อนี้แฝงตัวในร่างกายผู้ป่วยโดยไม่แสดงอาการอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อภูมิคุ้มกันลดลงตามเหตุผลข้างต้น เชื้อจึงแสดงฤทธิ์เดชออกมา แต่เท่าที่ค้นในรายงานวิชาการของต่างประเทศ ยังไม่พบการติดเชื้อแทรกซ้อนสองชนิดนี้พร้อมกัน
    ขอขอบพระคุณ นพ.ชัชวาลย์ จตุปาริสุทธิ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มงกุฎวัฒนะ แพทย์เจ้าของไข้ผู้ป่วยรายนี้ที่ให้ข้อมูลทางคลินิก และ ผศ.พญ.รุจิรา เรืองจิระอุไร ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ช่วยเตรียมรูปถ่ายจากชิ้นเนื้อปอด
    ฝากเตือนแพทย์ทั้งหลายที่ดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบโควิด ขอให้ใช้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อร่วมรักษาอย่างรอบคอบและเท่าที่จำเป็น และรู้เท่าทันผลข้างเคียงจากการติดเชื้อแทรกซ้อนมากมายที่จะตามหลังมา ผู้ป่วยอาจรอดจากโควิด-19 แต่จะเสียชีวิตภายหลังจากการติดเชื้ออื่นทั้งในปอดและในอวัยวะอื่น อย่างไรก็ตาม การสรุปสาเหตุการเสียชีวิต ต้องเป็นจากปอดอักเสบโควิด-19 แน่นอน ห้ามบิดเบือนเหมือนที่เป็นเรื่องเป็นราวกันมาแล้ว
    #ปอดอักเสบโควิดไม่ง่ายอย่างที่คิด

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    น่าจะเป็นการเยี่ยมศิษย์ทีมโควิดครั้งท้ายๆ ของวิกฤตระลอกนี้ เริ่มจากทีมโควิดรพ.ปิ่นเกล้า ที่นี่รับศึกหนักมากว่า 2 เดือนแล้ว น่าจะมีสถิติจำนวนผู้ป่วยโควิดวิกฤตรายวันมากที่สุดในรพ.หลักโซนกรุงธนบุรีเหนือ แซงหน้ารพ.ศิริราชไปแบบสบายๆ แม้กำลังคนทั้งแพทย์และพยาบาลน้อยกว่ากันหลายเท่า พวกเขาอยู่กันด้วยใจจริงๆ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนปัญหาการดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดพร้อมให้คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ
    ต่อด้วยการเยือนทีมโควิดรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ นับเป็นทีมระดับคุณภาพอีกแห่งหนึ่ง รวมไปถึงปริมาณผู้ป่วยโควิดวิกฤตก็อยู่ในระดับท็อปของรพ.หลักโซนกรุงธนบุรีใต้ แต่กำลังบุคลากรเขาส่วนหนึ่งโดยเฉพาะพยาบาลต้องถูกแบ่งไปดูแลรพ.สนามเอราวัณ 3 ที่มีผู้ป่วยหนักไม่น้อยหน้าศิริราช จึงได้แต่ภาวนาให้สถานการณ์สงบโดยเร็วเพื่อไม่ให้พวกเขาอ่อนล้าเกินไป
    มีสื่อซักถามเกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายหนึ่งในต่างจังหวัด เนื่องจากป่วยเป็นโควิดครั้งแรกอาการไม่รุนแรงและได้รับการดูแลรักษาในรพ.สนาม ไม่มีข้อมูลว่าเกิดปอดอักเสบหรือไม่และเอกซเรย์ปอดก่อนกลับบ้านเป็นอย่างไร หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปทำงานได้พักหนึ่ง ต่อมาเกิดปอดอักเสบรุนแรงจนเสียชีวิต โดยในครั้งหลังตรวจหาเชื้อโควิดซ้ำๆ หลายครั้งก็ไม่พบ ได้แจ้งไปว่าไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้เพราะไม่มีรายละเอียดให้พิจารณาเพียงพอ อาจเป็นปอดอักเสบจากเชื้ออื่นแทรกซ้อนไปบนเนื้อปอดที่ผิดปกติหลงเหลือจากปอดอักเสบโควิด หรืออาจเป็นปอดอักเสบจากเชื้ออื่นที่เกิดขึ้นเองไม่เกี่ยวกับการป่วยด้วยโควิด-19 ชนิดไม่รุนแรงในครั้งก่อน
    ข้อมูลการศึกษาจากประเทศจีน ในผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงแต่ไม่ถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวน 83 คน ทุกคนไม่สูบบุหรี่ เป็นเพศชาย 57% อายุเฉลี่ย 60 ปี อยู่โรงพยาบาลเฉลี่ย 29 วัน โดยทั้งหมดได้รับการติดตามไปนาน 12 เดือน พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีสมรรถภาพการทำงานของปอดและสมรรถภาพการออกกำลังกายโดยรวมกลับมาใกล้เคียงปกติ แต่ยังพบความผิดปกติของการซึมผ่านก๊าซที่ปอดได้ถึง 33% โดยพบบ่อยกว่าในเพศหญิง ในด้านของเอกซเรย์ปอด พบว่าผู้ป่วย 24% ยังมีความผิดปกติหลงเหลือไปจนถึง 12 เดือน โดยถ้าเป็นรายที่มีความผิดปกติมากจากการตรวจซีทีสแกนขณะอยู่โรงพยาบาล จะยิ่งมีโอกาสพบความผิดปกตินี้ได้สูงขึ้น
    ลองดูตัวอย่างซีทีสแกนของผู้ป่วยในบ้านเรารายหนึ่ง ที่ปอดอักเสบรุนแรงจนถึงขั้นใช้ไฮโฟลว์นานเกือบหนึ่งสัปดาห์ ผ่านไปราวหนึ่งเดือนเกิดปอดอักเสบจนเป็นโพรงแผลขนาดใหญ่ แล้วจะมาเฉลยให้ทราบกันพรุ่งนี้
    #ปอดอักเสบโควิดไม่ง่ายอย่างที่คิด

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อีกเรื่องที่ต้องขอบคุณเจ้าโควิด คือทำให้ได้กลับมาบริจาคเลือดสม่ำเสมออีกครั้ง จากเดิมที่ทำปีละครั้งในวันเกิด แต่เว้นมาหลายปีเพราะอ้างว่างานยุ่ง มาช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา ก็เขานั่นแหละที่ทำให้ต้องเสียเลือดถี่กว่าเดิมคือทุก 3 เดือน ครั้งก่อนที่บริจาคได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าถ้าอายุครบ 60 ปีเต็มแล้วจะบริจาคเช่นเดิมนี้ได้หรือไม่ คำตอบที่ได้รับคือ ขยายถึง 65 ปีได้ถ้าสุขภาพสมบูรณ์ดี วันนี้จึงเป็นครั้งแรกของการทดสอบนั้น มาช่วยกันบริจาคเลือดให้มากกันเข้าไว้ เพราะช่วงนี้ความต้องการใช้เลือดไม่ลดลงกว่าก่อนวิกฤตโควิดแต่การให้เลือดลดลง
    เพราะปอดอักเสบโควิดระลอกนี้มีให้เลือกดูมากมาย รูปแบบแปลกตาจึงมาเยือนให้งงงันได้ ไม่ว่าจะเป็นการพบภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อราและไวรัสอื่นพร้อมกัน (invasive pulmonary aspergillosis and CMV pneumonia) หรือ ปอดอักเสบโควิดในคนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองร่วมกับปอดเป็นพังผืด (COVID pneumonia in patient with combined pulmonary fibrosis and emphysema) ขอเวลาเตรียมประวัติผู้ป่วย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ภาพถ่ายรังสี และผลการตรวจทางพยาธิวิทยา พร้อมเมื่อไรจะรีบนำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทาน
    เป็นประเด็นร้อนทันตาสำหรับวาทะผู้กุมบังเหียนประเทศที่กะจะเปิดบ้านในอีก 120 วันข้างหน้า หลายท่านอาจจะด่วนไปหน่อยที่แสดงความเห็นคัดค้าน ทั้งที่ยังไม่มีรายละเอียดและโรดแมปจากฝ่ายที่เร่งขายฝันออกมาให้เห็น แต่จากบทเรียนในอดีตที่เคยประสบกันมา ไม่แปลกที่ภาคการแพทย์ซึ่งทำงานหนักกันมาต่อเนื่องยาวนานจะอดหวั่นใจไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ระบาดขณะนี้ก็ยังไม่นิ่ง โควิดกลายพันธุ์ที่เริ่มมาเยือนก็ยังไม่รู้ว่าวัคซีนที่ฉีดไปแล้วจะเอาอยู่แค่ไหน ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนสองเข็มก็ยังไม่รู้จะปกป้องยาวนานถึงเมื่อไร หน้าบ้านที่เปิดรับแขกจะรับของแปลกเข้ามาเพิ่มด้วยหรือเปล่า แถมหลังบ้านก็ยังปิดรูรั่วไม่มิดพร้อมจะถูกตีตลบด้วยปัญหาแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย มันดูไม่ง่ายเหมือนทีมในดวงใจ “อิตาลี” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ อัซซูร์รี ที่หมายถึง สีฟ้าอ่อนที่เป็นสีประจำทีม หลังจากโพสต์เชียร์ไปเมื่อวาน ลูกทีมมักกะโรนีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สร้าง double clean sheet ด้วยสกอร์ 3:0 ทั้งสองนัด ทีมชุดนี้ดุดันในเกมรุกและเหนียวแน่นในเกมรับ ที่สำคัญเล่นกันเป็นทีมไม่ฝากความหวังไว้กับอัศวินม้าขาวคนเดียวหรือไม่กี่คน อยากเห็นทีมโควิดไทยแลนด์เป็นแบบนี้จัง โอกาสเปิดประเทศใน 120 วันจะได้มีความหวังสดใสขึ้นมาบ้าง โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง และที่สำคัญ ไม่เป็นการชักศึกเข้าบ้าน
    #เปิดประเทศไม่ว่าถ้าหลังบ้านไม่รั่ว
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลงดีใจได้สามวันติดกัน ที่ตัวเลขผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเป็น 10+ แต่วันนี้หน้าหงายเมื่อดีดกลับไปที่ 40+ หวังลึกๆ ให้เป็นการกระเด้งดีดกลับทางเทคนิคเหมือนดัชนีตลาดหุ้น กลัวแต่ว่ามันจะลุกลามต่อไปเป็นการระบาดรอบใหม่ เนื่องจากยอดผู้ป่วยในเขตกทม.และปริมณฑลไม่ยอมลดต่อ แถมยอดผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจที่เติมเข้ามาในรพ.หลักกลับมาเพิ่มใหม่หลังดีใจได้ไม่กี่วัน ส่วนตัวแล้วคิดว่าอาจเป็นจาก
    1. มีการระบาดของเชื้อสายพันธุ์อินเดีย เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ที่เข้ามาใหม่จะแสดงความรุนแรงทั้งในการแพร่กระจายง่ายและรุนแรงในแง่ของการเจ็บป่วย
    2. การควบคุมการแพร่กระจายในกลุ่มแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายยังทำไม่ได้ดีพอ ส่งผลให้มีการลุกลามออกมาสู่ชุมชนคนไทยรอบข้าง กลุ่มก้อนนี้คงไม่สามารถจัดการได้ด้วยระบบปฏิบัติการปกติ เนื่องจากอยู่นอกเหนืออำนาจของหน่วยงานเฉพาะต่างๆ ที่มีอยู่ แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายนี้น่าจะแทรกซึมเป็นวงกว้าง ตั้งแต่งานบริการในครัวเรือน กิจการขนาดเล็ก ไปจนถึงสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดยิ่งใหญ่ หลายคนมองไปถึงการบริหารจัดการแบบสมุทรสาครโมเดล แต่ในครั้งนั้นมีการบูรณาการดำเนินงานทั้งจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกจังหวัด รวมถึงงบประมาณในการดำเนินการที่เพียงพอเพราะไม่มีการระบาดในจังหวัดอื่นมากนัก มาถึงตรงนี้แล้ว อาจต้องพึ่งอำนาจพิเศษหรือมือที่มองไม่เห็น เพราะหากไม่รีบดำเนินการตัดตอนเรื่องนี้ให้ดี เกรงว่าวิกฤตโควิดระลอกสี่จะหนีไม่พ้น
    ที่น่ากลัวคูณสองหรือมากกว่านั้น คือปัญหาข้อ1. และข้อ 2. มีการเชื่อมโยงกัน !!! ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงการผ่อนผันมาตรการควบคุมโรคในกทม.ที่เพิ่งประกาศไปโดยไม่บอกถึงรายละเอียดมาตรการกำกับดูแลให้เป็นจริง หรือมาตรการเปิดประเทศใน 120 วันที่เพิ่งประกาศวันนี้โดยหวังจะใช้แต่วัคซีนเป็นคำตอบสุดท้าย ทำให้เสียวสันหลังวาบอยู่พิกล
    วานซืนได้ไปเยี่ยมทีมโควิดรพ.กลาง ถิ่นเก่าที่เคยไปทำงานเมื่อ 37 ปีก่อน ได้ร่วมเดินดูการจัดเตรียมสถานที่พร้อมกับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดกันอย่างเมามัน พร้อมได้จัดหาอุปกรณ์การแพทย์บำรุงขวัญและกำลังใจเท่าที่ทำได้ วันนี้ได้มาเยือนทีมโควิดรพ.ตากสินถิ่นที่เคยเนาในอดีตพร้อมรพ.กลาง ที่นี่หนักไปทางปรึกษาหารือเรื่องผู้ป่วยกันเสียมากกว่า เพราะทีมงานที่นี่ดูจะช่ำชองกรำศึกมาอย่างโชกโชนแล้ว หวังว่าทั้งสองที่จะอดทนฝ่าฟันงานหนักกันต่อไปไม่ด่วนล้มลงเสียก่อน เพราะยังให้คำตอบพวกเขาไม่ได้หนักแน่นพอว่าเหตุการณ์เยี่ยงนี้จะยุติหรือบรรเทาเมื่อไร
    หลังจากถ่างตาหลับๆ ตื่นๆ รอชมผลงานแปดทีมยุโรปในดวงใจจนครบถ้วนนัดแรกไปเมื่อเช้ามืดวันนี้ ขอจัดลำดับทีมที่อยากให้เป็นแชมป์เรียงลำดับไป คือ อิตาลี ฝรั่งเศส โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน แต่หากจะให้สิ่งมีชีวิตอื่นช่วยสุ่มหาแชมป์ ปีนี้คงไม่ใช่ปลาหมึกหรือสัตว์ประหลาดใดๆ คงหนีไม่พ้นเจ้าเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 เพราะมันกุมชะตาชีวิตมนุษยชาติมากว่าปีครึ่งแล้วยังไม่ยอมคลาย
    #ชักกังวลว่าอาจจะมีวิกฤตโควิดระลอกสี่.
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    RCPT Letter จากกรรมการบริหารถึงสมาชิก
    ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 วันที่ 16 มิถุนายน 2564

    ราชวิทยาลัยฯ ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์

    จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ระลอกที่ 3 ที่ผู้ป่วยมีจำนวนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน 2564 เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่พวกเราอายุรแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ ต้องทำงานหนักและต่อเนื่องในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 รวมทั้งผู้ป่วยอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีจำนวนลดลง
    ในโรงพยาบาลส่วนใหญ่อายุรแพทย์มักจะได้รับมอบหมายให้เป็นหลักในการบริหารจัดการและการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด 19หลายท่านต้องทำงานท่ามกลางปัญหาและอุปสรรคมากมาย ด้วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ แม้ในช่วงที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มโรคเรื้อรังและสูงอายุ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยทางอายุรกรรม หลาย ๆ ท่านคงเหน็ดเหนื่อยกับการให้คำปรึกษาจากผู้ป่วย เรื่องการรับวัคซีนและยังต้องเหนื่อยใจกับการบริหารจัดการวัคซีนอีกด้วย
    ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยขอแสดงความขอบคุณและความห่วงใยมายังอายุรแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ที่ได้เสียสละต่อสู้กับภาระงานอันหนักหน่วง ด้วยความอดทน และขอส่งกำลังใจให้กับทุกท่าน รวมทั้งจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พวกเราฝ่าวิกฤติการระบาดของโควิด 19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน

    COVID-19 and Vaccine Approach: The Intersocietal Forum

    ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ขอเชิญสมาชิกและบุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมงานประชุมวิชาการออนไลน์ ในวันพุธที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 12.00 - 13.30 น. เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับการรักษาและป้องกันโควิด 19 ตลอดจนข้อมูลสำคัญในการแนะนำผู้ป่วยจากมุมมองของแพทย์สาขาต่าง ๆ และการให้วัคซีนในช่วงการระบาด เพื่อช่วยในการดูแลรักษาและป้องกันผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดภาระงานในการดูแลผู้ป่วยหนัก ลงทะเบียนฟรี https://covid19va.app-mice.com/register?v=1
    (กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้า รับจำนวนจำกัด)

    Patient safety and SIMPLE

    ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ ขอเชิญสมาชิกและบุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ CPD Webinar ผ่านระบบ Zoom Meeting ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2564 เวลา 12:00 - 13:30 น. ลงทะเบียนฟรี https://forms.gle/2ux4fmmhuFZ9i7ZQ8
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มีคนถามมาว่าฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว มีอาการแพ้หลังได้รับการฉีด ซึ่งในทางการแพทย์เราเรียกว่าอาการไม่พึงประสงค์ จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามนัดได้หรือไม่ แล้วควรเปลี่ยนชนิดของวัคซีนเข็มที่ 2 ไหม? ขอเอาคำแนะนำของกรมควบคุมโรคมาให้ทราบกันครับ

    ========================

    ข้อพิจารณาการให้วัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 2

    ========================

    อาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด 19 ที่ไม่รุนแรง ที่พิจารณาให้วัคซีนเข็มที่ 2 ชนิดเดิมได้

    อาการไม่รุนแรงดังต่อไปนี้
    1. ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด
    2. ไข้
    3. อ่อนเพลีย ง่วงนอน
    4. เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
    5. ปวดเมื่อยลำตัว
    6. ผื่น เช่น maculopapular rash
    สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ อาจให้กินยา
    กลุ่ม antihistamine ที่ไม่มีผลข้างเคียง คือ อาการง่วงนอน (Non-sedative
    Antihistamine) เช่น Cetirizine หรือ
    Loratadine ก่อนฉีดวัคซีน 30 นาที

    ========================

    อาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด 19 ที่รุนแรง ห้ามให้วัคซีนเข็มที่ 2 ชนิดเดิม

    ผู้ที่มีประวัติในข้อ A หรือข้อ B ดังต่อไปนี้

    A. อาการแพ้รุนแรงชนิดแอนาฟิแล็กซิส (Anaphylaxis) คือ มีอาการมากกว่า หรือเท่ากับ 2 ข้อ ดังต่อไปนี้ หลังได้วัคซีนโควิด 19 เข็มแรกภายใน 30 นาที*
    1. มีอาการทางระบบผิวหนังหรือเยื่อบุ เช่น ผื่นลมพิษทั่วตัว คัน ผื่นแดง หรือมีอาการบวมของปากลิ้น และเพดานอ่อน เป็นต้น
    2. มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ ามูกไหล เสียงแหบ หอบ
    เหนื่อย หายใจมีเสียงหวีดจากหลอดลมที่ตีบตัน เสียงฮื้ดตอนหายใจเข้า (Stridor) มีการลดลงของ Peak expiratory flow (PEF) ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง
    3. ความดันเลือดลดลงหรือมีการท างานของระบบต่าง ๆ ล้มเหลว เช่น
    Hypotonia (Collapse) เป็นลม อุจจาระ ปัสสาวะราด เป็นต้น
    4. มีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

    B. อาการข้างเคียงใด ๆ ที่รุนแรงที่ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

    ผู้ที่มีประวัติในข้อ A หรือข้อ B ดังกล่าว อาจพิจารณาให้วัคซีนครั้งต่อไป
    ด้วยวัคซีนโควิด 19 คนละยี่ห้อ หรือคนละแบบ (ที่ไม่มีส่วนผสมที่เหมือนกัน) โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้ตามวันที่กำหนดนัดของวัคซีนเข็มที่ 2 เดิม และ สามารถนับต่อเป็นเข็มที่ 2 ได้เลย

    ========================

    จากหนังสือแนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ในสถานการณ์การระบาดปี 2564 ในประเทศไทย ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 มิถุนายน 2564 หน้า 39 อ่านฉบับเต็มที่
    https://ddc.moph.go.th/dcd/journal_detail.php?publish=11495
    อยากให้หน้างานที่ให้บริการฉีดวัคซีนอ่านเล่มนี้กันนะครับ

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Covid 19 ความรวดเร็วของการระบาด
    โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
    Published 16/06/21

    หลังจากการระบาดของไวรัส Covid 19 มา 17 เดือน และหลังจากการฉีดวัคซีน Covid 19 มาได้ 5 เดือน มีคนป่วยเพราะ Covid 19 กว่า 177 ล้านคน มีคำถามว่า ระยะต่อไปจะเกิดขึ้นกับการระบาดของ Covid 19 การระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อไร

    คำตอบดูเหมือนจะอยู่ที่สองปัจจัยสำคัญ

    ปัจจัยแรกคือความสามารถและความเร็วในการจัดฉีดวัคซีนให้ประชาชน

    ปัจจัยที่สองคือการกลายพันธ์ของไวรัส Covid 19 ซึ่งไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์มาแล้วหลายๆครั้ง และแต่ละครั้งก็จะปรับตัวให้แพร่กระจายได้เร็วขึ้น ดีขึ้น ไวรัสจาก Wuhan มีค่า R เป็น2.5และเพิ่มเป็น 4.5ใน Alpha สายพันธุ์อังกฤษ และเพิ่มเป็น 8 ในสายพันธุ์อินเดีย Delta และถ้ากลายพันธุ์ต่อจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่ เพราะไวรัส หัด หรือ measle มีค่า R ถึง 18

    การกลายพันธ์ให้ค่า R เพิ่มขึ้นเรื่อยดูเหมือนเป็นธรรมชาติของไวรัสที่จะทำตัวให้ perfect ขึ้นเหมือนกับไวรัส Ebola

    การฉีดวัคซีนที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรคระบาดคือ Coid 19 จะมีส่วนสำคัญที่ทำให้ไวรัสต้องรีบกลายพันธุ์เพื่อต่อสู้กับวัคซีนหรือไม่

    ตามหลัก evolution ของ Charle Darwin เพื่อการอยู่รอด ไวรัสที่รุนแรงทำให้คนตาย ไวรัสที่รุนแรงจะตายไปพร้อมกับคนไข้ เหลือแต่สายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงแต่ระบาดง่ายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ สายพันธุ์ Delta และ Alpha

    สิ่งที่ไวรัสได้แสดงให้เห็นแล้วก็คือปรับตัวให้แพร่ในคนอายุน้อยได้ง่ายขึ้น เพราะคนหนุ่มสาวเป็นตัวแพร่กระจายได้ดีที่สุด เพราะมักไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย สิ่งที่ไวรัสจะกระทำต่อไปอาจปรับตัวให้มีอาการรุนแรงน้อยลงไปอีกเพื่อให้แพร่กระจายไปได้มากขึ้นอีก

    การกลายพันธ์ที่ทำให้วัคซีนใช้ไม่ได้ผลเกิดขึ้นในสายพันธุ์ Africa มีการเปลี่ยนแปลงที่ gene E484K แต่ไม่เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายพันธุ์ Delta

    วิธีการที่ไวรัสสามารถทำให้มีความสามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้น มีอยู่หลายๆวิธีการ

    ปรับแต่งหนาม spike ให้สามารถเข้าเซลล์มนุษย์ได้ดีขึ้น

    ปรับตัวให้สามารถเเบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นในทางเดินหายใจหรือลำคอคนที่ได้รับเชื้อเพื่อทึ่จะมีโอกาสแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

    ปรับตัวให้มีชีวิตอยู่ในอากาศได้นานขึ้น

    ปัญหาของการกลายพันธ์จะมีอยู่สองอย่างคือเมื่อกลายพันธ์แล้วจะกระจายเร็วขึ้นอย่างที่เป็นปัญหาในสายพันธุ์ Delta และ Alpha

    อีกปัญหาคือภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการติดเขื้อตามธรรมชาติในสายพันธุ์เดิมไม่ได้ผล เกิดขึ้นในสายพันธุ์บราซิล V1 หรือการปรับตัวแล้วทำให้ใช้วัคซีนไม่ได้ผล เกิดขึ้นในสายพันธุ์ Africa

    ไวรัส Covid 19 จากสายพันธุ์ดั่งเดิมที่มาจาก Wuhan สามารถปรับตัวกลายพันธุ์จนหลบภูมิคุ้มกันที่มีตามธรรมชาติจนเป็นสายพันธุ์ที่ต้อง concern อย่างสายพันธุ์ Africa, India และสายพันธุ์บราซิล

    สายพันธุ์ที่ต้อง concern 3 สายพันธุ์เป็นสิ่งที่สร้างความวิตกว่าไวรัสจะปรับตัวต่อสู้กับภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ขนาดไหน ระบาดได้เร็วขึ้นแค่ไหนซึ่งเป็นสิ่งกำหนดทิศทางการระบาดในระยะต่อไป

    คำถามต่อไปก็คือวัคซีนที่ใช้อยู่จะได้ผลแค่ไหนต่อไวรัสกลายพันธุ์ และถ้าไม่ได้ผลจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการพัฒนาและการแย่งชิงวัคซีน

    การศึกษาจากการใช้จริงของวัคซีน AZ ในคน 14.019 คนที่ประเทศอังกฤษ พบว่ามีประสิทธิภาพ 92%ที่จะไม่ต้องป่วยหนักจากไวรัสสายพันธุ์ Delta จนต้องอยู่โรงพยาบาล และไม่มีคนตาย เมื่อฉีดครบสองเข็ม

    แต่ที่เวียดนามพบว่าที่โรงพยาบาลที่ Ho Chi Minh แห่งหนึ่งยังมีผู้ติดเชื้อ 55 คนหลังจากฉีดวัคซีน AZ ครบสองเข็ม แสดงว่าวัคซีน AZ ทำให้ไม่ป่วยหนัก ไม่ตาย แต่ยังติดเชื้อได้

    อังกฤษซึ่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปเป็นจำนวนมากจนคนติดเชื้อใหม่ลดลงเรื่อยๆ จนมีแผนจะออกจากการ lockdown ในวันที่ 21 มิถุนายน แต่กลับมีคนติดเชื้อระลอกใหม่เพิ่มขึ้นเป็นระลอกที่สามเพราะเจอการระบาดของสายพันธุ์อินเดีย Delta ซึ่งพบใน 90%ของคนติดเชื้อใหม่จนอาจต้องเลื่อนการเปิด lockdown

    ในปลายเดือนเมษายนสายพันธุ์ Delta ในอังกฤษมีเพียง 20% นักระบาดวิทยายังไม่แน่ใจว่าการระลอกสามในอังกฤษจะเป็นระลอกเล็กๆหรือระลอกใหญ่

    ไวรัสสายพันธุ์อินเดีย Delta นอกจากนี้ระบาดได้รวดเร็วแล้ว ยังอาจทำให้เข้าใจว่าเป็นแค่หวัดธรรมดาเพราะมีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอมีนำ้มูกเหมือนไข้หวัด

    อังกฤษซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนให้พลเมืองดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกยังต้องสะดุดในการเปิด lockdown เพราะการมาระบาดของสายพันธุ์อินเดีย ปัจจัยสำคัญคือการระบาดอย่างรวดเร็ว

    อเมริกาเองก็ยังวางใจไม่ได้เมื่อเจอกับสายพันธุ์อินเดียถึงแม้จะฉีดวัคซีนไปแล้ว 46% เพราะ 10% ของคนติดเชื้อใหม่เป็นสายพันธุ์ Delta จากอินเดีย และถ้ายังมีการระบาดต่อ สายพันธุ์อินเดียอาจเป็นสายพันธุ์หลักเหมือนอังกฤษ

    ไทยซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนตำ่มาก ก็ยิ่งวางใจอะไรไม่ได้เลย เพราะสายพันธุ์อินเดีย Delta จ่ออยู่หน้าประตูบ้านตามชายแดน

    ขณะนี้สายพันธุ์ Delta ของอินเดียได้แพร่ไปแล้ว 74 ประเทศ แม้แต่ในจีน ออสเตรเลีย สายพันธุ์ Delta จะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ emerging ที่อัตราการฉีดวัคซีนยังต่ำอยู่

    หันมามองประเทศชิลี ประเทศมองโกเลีย ซึ่งฉีดวัคซีนจีน Sinovac ให้ประชาชนเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก แต่กลับยังมีการระบาดอย่างรุนแรงก็ยิ่งต้องระแวดระวังอย่างหนัก ดังนั้นถ้าอัตราส่วนในการฉีดวัคซีน Sinovac และ วัคซีน AstraZeneca ในไทยช่วงต่อไปจึงมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางการระบาด ถ้าสัดส่วนของการฉีด Sinovac สูง ความระแวดระวังยิ่งต้องมีมากขึ้น

    ไวรัสกลายพันธุ์ Delta อินเดียดูจะเป็นสายพันธุ์ที่สร้างความกังวลใจในเรื่องการระบาดอย่างรวดเร็ว ถ้าควบคุมไม่ได้ เหมือนที่เกิดขึ้นที่อินเดีย

    ส่วนสายพันธุ์ Africa ก็สร้างความลำบากในแง่ที่ใช้วัคซีนที่มีอยู่ไม่ได้ผล โดยเฉพาะวัคซีน AstraZeneca แต่แพร่กระจายได้ช้ากว่าสายพันธุ์อินเดีย

    จากแนวโน้มสายพันธุ์ที่จะมีปัญหาต่อโลกในระยะต่อไปคือสายพันธุ์ Delta ของอินเดีย จนประธาน WHO ต้องออกแถลงการณ์เตือน และเร่งให้ประเทศร่ำรวยช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาวัคซีนโดยเร็ว

    โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
    เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Gene และ Covid 19
    โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
    Published 9/10/20
    Update 18/06/21

    มีปัจจัยหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้องทำให้คนติดเชื้อ Covid 19 แล้วมีอาการหรือไม่มีอาการ หรือมีอาการมากหรือมีอาการน้อย ปัจจัยที่สำคัญก็มีอายุ ภูมิอากาศ ภูมิคุ้มกันข้ามสายพันธ์ และสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญคือ gene หรือพันธุ์กรรมของคนป่วยเป็นสิ่งที่มีติดตัวมาตามเผ่าพันธุ์ที่กำเนิด

    มีการศึกษาหลายการศึกษาที่บ่งบอกถึง ความสัมพันธ์ของความผิดปกติของ Gene ในการที่ทำให้ผู้รับเชื้อ Covid 19 จะมีอาการรุนแรงหรือไม่รุนแรง

    gene ที่สำคัญที่มีส่วนเกี่ยวกับ Covid 19 เป็น gene ที่ถ่ายทอดมาจากมนุษย์โบราณ Neanderthal มนุษย์ Neanderthal สูญพันธุ์ไปจากโลกเเล้ว 40,000 ปี แต่ gene ส่วนหนึ่งยังถูกถ่ายทอดมาถึงมนุษย์ในปัจจุบัน เนื่องจากบรรพบุรุษของเรา Homosapient ได้มีการผสมกับมนุษย์ โบราณNeanderthal

    Gene ของ Neanderthal ที่สืบทอดมามีหลายๆชนิด แต่ชนิดที่เกี่ยวกับ Covid 19 มีสองชนิด

    นักวิจัยจาก Kolinska institute ที่ Sweden Hugo Zeberg พบว่ากลุ่ม gene หรือ haplotype ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ สมัย Neanderthal
    ชนิดหนึ่งเป็น gene ที่ถ้ามีจะทำให้ได้รับเชื้อ Covid 19 จะทำให้มีโอกาสป่วยหนักมากกว่า เพราะเป็น gene haplotype ที่มีส่วนในการสร้างสาร Cytokines ที่ทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยารุนแรงคือ cytokines storm เมื่อร่างกายได้รับเชื้อ Covid 19 และยังสร้าง protein ที่ทำให้ Covid 19 เข้าสู่ร่างกายง่ายขึ้น

    Gene haplotype ชนิดนี้จะพบมากในคนเอเชียใต้ 63% และในคนยุโรป 16% ไม่พบใน Africa พบได้น้อยมากในคนเอเชียตะวันออก

    ถ้าโชคร้ายมี gene haplotype 2 ชุดคือรับจากทั้งพ่อและแม่ก็มีโอกาสมีอาการหนักเพิ่มขึ้นเมื่อติดเชื้อ Covid 19

    จากนิตยสาร nature พบ gene อีกชุดที่สืบทอดมาจาก Neanderthal เป็น gene ดีช่วยป้องกัน Covid 19 พบใน chromosome คู่ที่ 12 ถ้ามี gene ชุดนี้จะป้องกันไม่ให้ป่วยหนักจากการติดเชื้อ Covid 19 ได้ 22% gene haplotype ชนิดดีนี้จะพบกระจัดกระจายทั่วโลกมากกว่าชนิดแรก ยกเว้นไม่พบใน Africa แถบ sub sahara พบในยุโรปและเอเชีย 25%ถึง 35% พบครึ่งหนึ่งในประชาชนเวียดนามและจีนฝั่งตะวันออก

    Gene Neanderthal ที่ได้รับการถ่ายมาจะมีการวิวัฒนาการที่จะให้คงอยู่ในบางเผ่าพันธุ์ และสูญหายไปในบางเผ่าพันธ์เพื่อต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บในแต่ละพื้นที่ และ Gene ที่เกี่ยวกับ Covid-19 ในแต่ละเผ่าพันธุ์เป็นโชคร้ายหรือโชคดีก็แล้วแต่เผ่าพันธุ์นั้นจะได้รับ gene ดีหรือ gene ไม่ดีมา

    ซึ้งปัจจัยนี้พอจะเป็นคำอธิบายส่วนหนึ่งได้ว่าทำไม ชาติในกลุ่ม เอเซียใต้ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน จะมีการระบาดรุนแรงกว่าประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออก อย่างจีน เกาหลี ญี่ปุ่น

    ซึ้งก็สอดคล้องกับการศึกษาที่ประเทศอังกฤษพบว่าคนอังกฤษที่มีเชื้อสายบังคลาเทศจะมีโอกาสตายมากเป็นสองเท่าของเมื่อเทียบกับประชาชนอังกฤษ

    จากการศึกษาของ Jean Laurent Casanova ที่ Rockefller university ใน New York ได้ร่วมศึกษากับ Necker hospital ที่ Paris ได้วิเคราะห์ genome คนไข้ที่ป่วยหนักจาก Covid 19 จำนวน 659ราย เปรียบเทียบกับคนที่รับเชื้อ Covid 19 แล้วไม่มีอาการ 534 ราย พบว่า3.5% ของคนป่วยหนักจะมีการปรับเปลี่ยนของ gene ซึ้งเป็น gene ที่ใช้ในการสร้าง interferon1 ทำให้ไม่สามารถสร้าง interferon1 ได้

    Interferon1 เป็นสารสำคัญที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับ Covid 19 เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย สาร interferon1 จะทำให้ไวรัส Covid 19 ไม่สามารถแบ่งตัวเพิ่มขึ้น ถ้าร่างกายมีปัญหาสร้าง interferon1 ไม่ได้ ไวรัสก็จะแบ่งตัวมากขึ้นและทำลายอวัยวะในร่างกาย ระบบ second line ของร่างกายที่จะต่อสู้กับไวรัส Covid 19 ต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเริ่มทำงาน

    Dr. Hoischen จาก Radbound University ใน Rotterdam ศึกษา gene ในพี่น้องสองคู่ คู่แรกอายุ 33ปี กับ 29 ปี อีกคู่อายุ 21 และ 23 ปี เป็นชายทั้งหมด เป็นคนไข้ Covid 19 อายุน้อยแต่มีอาการรุนแรง ทำการศึกษา sequence gene พบว่ามี gene ผิดปกติทำให้ไม่สร้าง interferon1 ซึ่งซ่อนอยู่ใน X chromosome

    ในการศึกษาอันที่สองของ Dr. Hoichen ศึกษาคนไข้ Covid 19 ที่มีอาการหนัก 1,000 คน พบว่าคนไข้ส่วนหนึ่งมี autoantibodies ต่อ interferon1 ซึ้งในคนไข้หนักเหล่านี้ autoantibodies จะทำให้ interferon1 ไม่ทำงานขจัด Covid 19 ถ้าใช้ plamapheresis นำเอา autoantibodies ออกจากกระแสเลือดก็จะทำให้ interferon1 กลับมาทำงานขจัดไวรัสได้

    Gene ที่มีส่วนในการสร้าง interferon1 มีความสำคัญเมื่อรับเชื้อ Covid เข้ามาในร่างกายแล้วจะมีอาการมากหรืออาการน้อย

    การศึกษา gene จาก Edinburgh University ในคนไข้ 2,700 คน จาก 280 ICU unit ทั่วเกาะอังกฤษ พบว่ามี gene 5 ชนิดที่สัมพันธ์กับอาการที่ร้ายแรงของคนไข้ Covid 19 ได้แก่ IFNAR2, TYK 2, OAS1, DPP9 และ CCR2 การศึกษานี้พบว่าความผิดปกติของ gene IFNAR 2 ทำให้ร่างกายสร้าง interferon น้อยกว่าคนปกติโดยทั่วไป เมื่อร่างกายได้รับเชื้อ Covid 19 ทำให้คนไข้กลุ่มนี้มีอาการรุนแรง

    จากการศึกษาเดียวกันนี้พบว่าในคนป่วยหนักใน ICU จะมี gene DPP9 ซึ่งทำให้ร่างกายมีการตอบสนองต่อไวรัส Covid 19 อย่างรุนแรงมากกว่าคนที่ไม่มี gene DPP9 ทำให้เกิดขบวนการทำลายเนื้อเยื่อในร่างกายคนไข้ เช่นเนื้อเยื่อปอด

    จากการศึกษาของ genome center ที่ New York ได้ร่วมมือกับ 50 ประเทศศึกษา DNA ของ gene ของคนทั่วโลกที่ป่วยด้วย COVID-19
    ที่ center นี้ศึกษาเปรียบเทียบ gene ของคนที่มีอาการน้อยและคนที่มีอาการหนัก พบว่าคนแต่ละคนมี gene ที่จะทำให้ตอบสนองต่อการติดเชื้อของ Covid-19 ต่างกัน บางคนถึงมีอาการมาก บางคนมีอาการน้อย

    โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
    เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    *** #เตือนอะไรล่วงหน้าหลายเดือนว่าแล้วก็เหมือนจริงอีกแล้ว ... วัคซีนรุ่นแรกส่วนใหญ่ไม่น่าช่วยป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ดีพอ ?!? .. ไม่รู้ว่ามีคนภูเก็ต คนไทย บุคลากรทางการแพทย์ไทยฉีด SN ไปกี่คนแล้ว ? ...

    แอฟริกาใต้กับอินเดียน่าจะหนีภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า #ทำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนรุ่นแรกสามารถติดเชื้อแพร่เชื้อได้ โดยประมาท หรือโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่คิดว่าจะติดเชื้อได้

    ทำให้วัคซีนเป็น False Sense of Security ก็ได้อีก

    #นั่งร่วมกันกินข้าวกันในห้องปิดติดแอร์ก็แพร่เชื้อได้

    ที่น่าห่วง ไล่ตามเสี่ยงมากไปกลาง คือ

    1. บุคลากรทางการแพทย์ในภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะภูเก็ตที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีด SN หรือ AZ ไปเข็มเดียว

    กลุ่มนี้เสี่ยงหนักสุด เจอผู้ติดเชื้อตรงๆ และจังหวัดกลุ่มนี้เจอสายพันธุ์ 3 อ. จะถ้วนหน้าดันแล้ว รอแค่ตรวจเจอและยืนยันแค่นั้น

    2. คนในภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะภูเก็ตที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีด SN หรือ AZ ไปเข็มเดียว

    3. บุคลากรทางการแพทย์ในภาคใต้ที่เหลือทั้งหมดไล่จนถึงเพชรบุรี

    4. คนในภาคใต้ที่เหลือทั้งหมดไล่จนถึงเพชรบุรี

    5. บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนใน กทม และปริมณฑล

    .............

    เสี่ยงมากสุดไล่ลงไป คือ

    1. ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

    2. ฉีด SN AZ เข็มเดียว

    3. ฉีด SN 2 เข็ม

    4. แม้แต่ฉีด AZ 2 เข็มก็ไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์อินเดีย แอฟริกาใต้ได้ทุกคนอีก

    ...........

    ถ้าอยากเปิดประเทศได้แบบพอไหวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็ต้องรีบ Lockdown ตอนนี้

    ถ้าทีมบริหาร และนายกมัวแต่โดนข้อมูลจัดตั้งที่เบาเกินไปหลอกให้อยู่ในโลกสวยกันต่อไป

    โอกาสที่จะได้เปิดประเทศแบบไม่ระบาดหนักขึ้นคือต่ำมาก

    #ระวังจะกลายเป็นนายกโดนวางยาให้ออกมาพูดแล้วทำไม่ได้จริงตามที่พูด

    ธุรกิจรายย่อยรายกลางโดนหลอกให้ลงทุนฟรีๆ

    #ระบาดหนักระบบสาธารณสุขก็เสี่ยงล่มก็ต้องกันหัวมาLockdownกันอีก

    ...........

    วงจรนี้โดนกันทุกประเทศทั้งโลกที่ไม่รีบคุมการระบาดตั้งแต่เคสแรกๆ !!

    ............. .............. .............. .............

    *** 4 โพสต์ล่าสุดที่คนไทยทุกคนควรได้อ่าน ***

    เขียนล่วงหน้ามา ว่าภาคใต้จะเจอรุมจากทั้ง 3 อ.

    *** 1. อังกฤษระบาดเงียบในทุกพื้นที่ ***

    *** 2. อินเดียมาจาก กทม และมาเลเซีย ***

    *** 3. แอฟริกาใต้มาจากมาเลเซีย ***

    แถม ต้องระวังให้จงหนัก !!

    *** เดือนหน้า .. ภูเก็ตรอรับตัวอื่น ***

    ทั้งสายพันธุ์บราซิล สหรัฐหลายตัว ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์

    ............. .............. .............. .............

    เขียนเตือนมาหลายวันว่าภาคใต้ตอนล่างและภูเก็ตจะโดนสายพันธุ์แอฟริกาใต้และอินเดียโจมตี อยู่ที่ว่าจะสุ่มตรวจได้มากและครอบคลุมแค่ไหน จะบอกความจริงเมื่อไหร่แค่นั้นเอง

    (1.) ... จังหวัดภาคใต้กำลังจะเจอสายพันธุ์ 3 อ. มารุม แบบเป็นทางการ #ถ้ารัฐบาลยังใจเย็นเกินไป = เหมือนทอดทิ้งคนใต้ให้รับความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัวกันหรือไม่ ???



    ...........

    (2.) ... #10ประเด็นทำไมสายพันธุ์อินเดียจะแพร่ไปเกือบทั่วประเทศไปแล้ว และอาจมี #ติดเชื้อไปหลายพันหลายหมื่นคนไปแล้วก็ไม่แปลก ?!? ... ไวช้า ทุกจังหวัดจะได้เจอ 3 สายพันธุ์แน่ ! ... อยู่ที่จะสุ่มตรวจได้มากพอที่จะเจอหรือไม่ ? ... เจอแล้วจะกล้าบอกความจริงหรือปิดข่าว ?



    ...........

    (3.) ... #แผนดูดีแต่โอกาสได้ทำมีน้อย #ถึงเสี่ยงฝืนทำก็เสี่ยงพลาดสูง ... เปิดประเทศแบบไม่มีกักตัว จะเปิดเรียน เปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบในภาวะระบาดหนักและเรื้อรังยาวๆ แบบนี้ #ไม่รู้ใครวางแผนให้นายกมาพูด ... อยากรู้จริงๆ !!

    ปล. ถ้าจะเสี่ยงเปิดเรียน เปิดประเทศ รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนทราบความเสี่ยงจริงด้วย #ไม่ใช่เปิดทุกอย่างจนระบาดหนักแต่ปิดตัวเลขปิดข้อมูล



    .........

    (4.) ... #ตามที่เคยเตือนเมื่อนานมาแล้ว ... (1) เปิดเทอมก็จะระบาดในโรงเรียนไม่ยาก ... (2) วัคซีนรุ่นแรกหลายตัวอาจไม่ปกป้องสายพันธ์กลายพันธุ์ได้ดีมาก จึงได้แต่เตือนรัฐให้รับความจริง และบอกความจริงกับคนไทยให้มากกว่านี้



    .
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    *** ข่าวยังไม่ออก !! .. #แต่ขอรีบเตือนก่อนจะสายเกินไปเตือนครั้งสุดท้ายก่อนภูเก็ตและภาคใต้จะโดนถล่มจาก3อ. แบบมาเลเซีย อินเดีย มัลดีฟส์โดน ... Lockdown ไม่ทัน ก็จะระบาดหนัก ... ตัวอินเดีย และแอฟริกาใต้มาแน่ไม่วันนี้ก็อีกไม่กี่วันข้างหน้า ...

    --> ไม่ว่ารัฐจะกล้าเปิดเผยความจริงวันนี้หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้า ภาคใต้เกืิบทั้งหมดก็จะได้เจอสายพันธุ์ 3 อ. ไม่ไวก็ช้า ถ้าดระทรวง และรัฐบาลยังประมาทมากเกินไป !!?!?

    --> #แถมเคสที่เจอกันนั้นคือเฉพาะเคสที่มาตรวจ เคสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ แลัอินเดียที่ยังไม่มาตรวจเชื้อ ปละยังแพร่เชื้อกันในภูเก็ต และภาคใต้ตอนล่างมีอีกกี่ร้อยกี่พันคน !!?!

    #และจะโดนทุกจังหวัดในไทยถ้ายังไม่จริงจัง

    ถ้าข่าวจริงตามรูป ภูเก็ตเจอ 3 มฤตยู 3 อ. เป็นทางการจังหวัดแรก ... ถ้าภูเก็ต และหลายจังหวัด Lock ไม่ทัน เจอตัวดื้อวีคซีนระบาดหนัก อาจเลื่อนเปิดอีกถึงสิ้นปี

    #เสียหายหลายแสนล้านเพราะแค่คนไม่กี่คนประมาทแค่นั้นเอง

    ..........................................................

    #เราเตือนมาตลอดทางจริงมาตลอดทาง

    ............. .............. .............. ............. ............

    .*** 4 โพสต์ล่าสุดที่คนไทยทุกคนควรได้อ่าน ***

    เขียนล่วงหน้ามา ว่าภาคใต้จะเจอรุมจากทั้ง 3 อ.

    *** 1. อังกฤษระบาดเงียบในทุกพื้นที่ ***

    *** 2. อินเดียมาจาก กทม และมาเลเซีย ***

    *** 3. แอฟริกาใต้มาจากมาเลเซีย ***

    แถม ต้องระวังให้จงหนัก !!

    *** เดือนหน้า .. ภูเก็ตรอรับตัวอื่น ***

    ทั้งสายพันธุ์บราซิล สหรัฐหลายตัว ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์

    ............. .............. .............. ............. ............

    เขียนเตือนมาหลายวันว่าภาคใต้ตอนล่างและภูเก็ตจะโดนสายพันธุ์แอฟริกาใต้และอินเดียโจมตี อยู่ที่ว่าจะสุ่มตรวจได้มากและครอบคลุมแค่ไหน จะบอกความจริงเมื่อไหร่แค่นั้นเอง

    (1.) ... จังหวัดภาคใต้กำลังจะเจอสายพันธุ์ 3 อ. มารุม แบบเป็นทางการ #ถ้ารัฐบาลยังใจเย็นเกินไป = เหมือนทอดทิ้งคนใต้ให้รับความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัวกันหรือไม่ ???



    ...........

    (2.) ... #10ประเด็นทำไมสายพันธุ์อินเดียจะแพร่ไปเกือบทั่วประเทศไปแล้ว และอาจมี #ติดเชื้อไปหลายพันหลายหมื่นคนไปแล้วก็ไม่แปลก ?!? ... ไวช้า ทุกจังหวัดจะได้เจอ 3 สายพันธุ์แน่ ! ... อยู่ที่จะสุ่มตรวจได้มากพอที่จะเจอหรือไม่ ? ... เจอแล้วจะกล้าบอกความจริงหรือปิดข่าว ?



    ...........

    (3.) ... #แผนดูดีแต่โอกาสได้ทำมีน้อย #ถึงเสี่ยงฝืนทำก็เสี่ยงพลาดสูง ... เปิดประเทศแบบไม่มีกักตัว จะเปิดเรียน เปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบในภาวะระบาดหนักและเรื้อรังยาวๆ แบบนี้ #ไม่รู้ใครวางแผนให้นายกมาพูด ... อยากรู้จริงๆ !!

    ปล. ถ้าจะเสี่ยงเปิดเรียน เปิดประเทศ รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนทราบความเสี่ยงจริงด้วย #ไม่ใช่เปิดทุกอย่างจนระบาดหนักแต่ปิดตัวเลขปิดข้อมูล



    .........

    (4.) ... #ตามที่เคยเตือนเมื่อนานมาแล้ว ... (1) เปิดเทอมก็จะระบาดในโรงเรียนไม่ยาก ... (2) วัคซีนรุ่นแรกหลายตัวอาจไม่ปกป้องสายพันธ์กลายพันธุ์ได้ดีมาก จึงได้แต่เตือนรัฐให้รับความจริง และบอกความจริงกับคนไทยให้มากกว่านี้



    .
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    *** #ตามที่เคยเตือนเมื่อนานมาแล้ว ... (1) เปิดเทอมก็จะระบาดในโรงเรียนไม่ยาก ... (2) วัคซีนรุ่นแรกหลายตัวอาจไม่ปกป้องสายพันธ์กลายพันธุ์ได้ดีมาก จึงได้แต่เตือนรัฐให้รับความจริง และบอกความจริงกับคนไทยให้มากกว่านี้

    #เวฟนี้ระบาดในโรงเรียนก็ไม่รู้เจอสายพันธุ์ไหนอีกแต่ที่แน่ๆจะระบาดไวกว่าเดิมเยอะ

    #ครูฉีดวัคซีนอาจช่วยได้ไม่มากเพราะปกติเด็กแพร่เชื้อกันเองเป็นส่วนใหญ่

    ผู้อ่านหลายท่านส่งข้อมูลเข้า Inbox.อ่านแทบไม่ทัน ต้องขออภัย ทุกเรื่องน่าสนใจ แต่เวลามีจำกัด เรื่องระบาดในภาคใต้ และในโรงเรียนน่าห่วง

    ไทยไปผิดทาง แต่ก็ยังถลำลึกไปเรื่อยๆ #โดยคนไทยไม่รู้ความเสี่ยงจริงแบบนี้ไม่ยุติธรรมเท่าที่ควร

    #แต่ละโรงเรียนที่ระบาดที่น่าสนใจคือโดนสายพันธุ์ไหนเข้าไปบ้าง ?? ... หน่วยงานรัฐควรต้องส่งตรวจสายพันธุ์ด้วย

    #ไม่ควรเอาวัคซีนมาเป็นตัวอ้างอิงเป็นหลักในการคุมระบาดโดยไม่ได้Lockdownเด็ดขาด

    #เหมือนส่งทหารไปรบมีแต่โล่ห์กับหมวกเหล็กแต่ไม่มีดาบหรือมีแต่เสื้อเกราะแต่ไม่มีปืนเลย

    #อย่าทำร้ายคนไทยด้วยตรรกะตื้นๆและข้อมูลที่เลือกมาเฉพาะด้านดีของวัคซีน

    .......

    อ้างอิงจาก

    .............

    1. โควิด-19 : สายพันธุ์เดลตารุกอินโดนีเซีย บุคลากรการแพทย์นับร้อยติดเชื้อหลังฉีดซิโนแวค ห่วงไทยเดินตาม

    18 มิถุนายน 2021

    https://www.bbc.com/thai/internatio...suDczFCYvUxfg0xNCOKta2s5248HH8kBHrh4WHdqT0qwY

    ........

    2. มหาสารคามป่วน คลัสเตอร์งานบวช ลามไป 2 รร. หนูน้อยติดเชื้อเพิ่มอีก 9 ปิด 2 โรงเรียน ตรวจหาเชื้อวุ่น

    https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/149677

    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม พบว่า มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 9 ราย มีอายุระหว่าง 6 - 10 ปี เป็นเด็กนักเรียน

    .........

    3 เร่งคุมระบาด คลัสเตอร์โรงเรียนที่ยะลา นักเรียนติดโควิดลามติดเชื้อ 23 คน ใน 4 จังหวัด

    วันที่ 17 มิ.ย. 2564

    https://news.ch7.com/detail/493600

    ที่น่าห่วง คือ กรณีคลัสเตอร์โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีนักเรียนที่ติดเชื้อโควิด-19 ของโรงเรียนดังกล่าว เดินทางข้ามพื้นที่ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี แล้วก่อให้การแพร่กระจายของเชื้อลามสู่หลายจังหวัด โดยพบผู้ติดเชื้อยืนยันใน จ.สุราษร์ธานี 8 คน กระบี่ 12 คน พังงา 2 คน และภูเก็ต 1 คน ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มก้อนนี้แล้ว 23 คน และยังมีที่รอผลตรวจอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

    ............

    4. ‘เชียงราย’ ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 23 คน จากคลัสเตอร์ชลบุรี สั่งปิดโรงเรียน อบจ.เชียงราย

    ศุกร์ 18 มิถุนายน 2564

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/944070

    “เชียงราย” ยอดผู้ติดเชื้อใน อำเภอเทิงพุ่ง 23 คน จากผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดชลบุรี ทำให้แพร่กระจายไปสู่ญาติ และคนใกล้ชิด สั่งล็อคดาวน์ชุมชน ปิดโรงเรียน อบจ.เชียงราย 18 มิ.ย - 4 ก.ค. 64 หลังพบนักเรียนชั้น ม.5 ติดเชื้อ และมีเพื่อนร่วมห้องเสี่ยง

    .
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    *** จังหวัดภาคใต้กำลังจะเจอสายพันธุ์ 3 อ. มารุม แบบเป็นทางการ #ถ้ารัฐบาลยังใจเย็นเกินไป = เหมือนทอดทิ้งคนใต้ให้รับความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัวกันหรือไม่ ??? ....

    --> ในรูปที่ 2

    มาเลเซียพอรู้ว่าสายพันธุ์แอฟริกาใต้+อินเดียมาสมทบกับสายพันธุ์อังกฤษ ก็สั่ง Lockdown ทันที

    ตรงข้ามกับไทยที่ Lockdown ไม่จริงจังจนคุมระบาดไม่ได้แต่จะปลดล็อกเพิ่มกันอีก

    ---> ในรูปที่ 1 และ 4

    #สถานการณ์การระบาดในสงขลาและภาคใต้ ... ในสงขลา เตียงใน รพ. ตอนนี้มีติดเชื้อเป็นพันคน #ไม่รู้ใน1000คนนี้จะมีสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้กี่คน

    สงขลาเตียง รพ. หลักเต็มไปแล้ว และน่าจะเต็มกันยาวๆ

    ปัตตานี ยะลาก็เริ่มมาเยอะขึ้น ... นราธิวาสถ้าตรวจเยอะ ก็ได้เจอเคสเยอะขึ้น

    --> รูปที่ 3 - อ. ธีระวัฒน์ช่วยขี้ประเด็นว่า วัคซีน SN ถึงแม้ภูมิคุ้นกัึนขึ้น แต่ยับยังเชื้อได้ประมาณ 70 % ของผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ อีก 30 % อาจมีภูมิขึ้น แต่าจจะน้อยไป หรือขึ้นสูงแต่ทำหน้าที่ไม่ดีพอ

    #ฉีดวัคซีนถึงยังมีรายงานติดเชื้อกันทั่วโลกด้วย

    ............................................................

    *** รัฐบาลต้องเอาจริงสักทางนึง ***

    *** ไม่งั้นจะระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ ***

    #ถ้ารัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ตามจริง
    #แถมไปเปิดเรียนจนอาจเสี่ยงระบาดหนัก

    ก็ต้องให้ประชาชนได้รับ

    #การตรวจหาเชื้อให้เพิ่มมากขึ้น
    และ
    #ข้อมูลความจริงเรื่ิองการระบาดจริงทั้งหมด

    ............................................................

    #ภาคใต้ควรเจอผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ได้หลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีคนเข้าออกเยอะ

    #เปิดเทอมยิ่งส่งเสริมการระบาดให้เด็กแพร่เชื้อกันเองให้ไปแพร่ตัวที่บ้าน !!

    มาเลเซียขนาดหลังสั่ง Lockdown ชุดใหญ่ ผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตยังเด้งเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวตามกราฟจากเวบ Worldometer.com ...

    #กราฟผู้ติดเชื้อของมาเลเซียนี้คนใต้รวมถึงคนไทยทุกคนควรได้เห็น เพราะจะเป็นอนาคตของไทยในไม่กี่สัปดาห์ --> ก็คงไม่แปลก ถ้าเพิ่มการตรวจตามการระบาดจริง ไทยจะเจอวันละเป็นหมื่นคนก็ยังได้

    ถ้ามามัวแต่นั่งทำตัวเลขให้ต่ำจริงหวังเปิดประเทศ นี่ = #ปิดบังความจริงของการระบาดหรือไม่อย่างไร ?!?

    การระบาดในอินเดีย มาเลเซียหรือแม้แต่มัลดีฟส์นั้น คือ #ผลของไวรัสทั้ง3สายพันธุ์ ( 3 อ.) ซึ่งระบาดในภาคใต้แล้ว แค่รอสุ่มตรวจให้เจอในแต่ละจังหวัด ... ไวช้าภาคใต้ตอนล่างทั้งหมด และ กทม. ปริมณฑลได้เจอการระบาดของ 3 อ. แบบอินเดีย และมาเลเซียโดนแน่

    มาเลเซียเห็นอินเดียกับอังกฤษทำ มีทางเลือก 2 ทาง ... รอเละเทะแบบอินเดีย หรือชิงล็อกดาวน์ไปก่อนระบาดหนักแบบอังกฤษทำ ซึ่งทำตอนอังกฤษเริ่ม Lockdown ติดเชื้อวันละเกือบ 70000 คน ระบบสาธารณสุขจะล่มพอดี

    ส่วนอินเดียนั้นมีระบาดเงียบในทุกพื้นที่มานาน เพราะตรวจหาเชื้อค่อนข้างน้อย พอเจอสายพันธุ์ B.1.617.2 เริ่มระบาดเท่านั้น เคสกระโดดอย่างแรง จน Lockdown ไม่ทัน ระบบสาธารณสุขล่มอย่างหนักที่สุด จนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตหายไปมหาศาล #นับจำนวนคนเสียชีวิตยังขาดไปเกินที่รายงานเสียอีก

    ต้องระวังทั้ง 2 ประเทศ Lockdown แล้วทั้งอังกฤษ มาเลเซีย เคสก็จะเด้งขึ้นไปอีก 1-2 สัปดาห์เลย

    https://www.worldometers.info/coronavirus/country/malaysia/

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    *** #10ประเด็นทำไมสายพันธุ์อินเดียจะแพร่ไปเกือบทั่วประเทศไปแล้ว และอาจมี #ติดเชื้อไปหลายพันหลายหมื่นคนไปแล้วก็ไม่แปลก ?!? ... ไวช้า ทุกจังหวัดจะได้เจอ 3 สายพันธุ์แน่ ! ...

    5 วันผ่านไป สุ่มตรวจสายพันธุ์อินเดียพบเพิ่มเกือบ 140 คน จากของเดิม 360 คน รวมเป็นเกือบ 500 คน อัตราการเพิ่มค่อนข้างไวมาก

    แถมนี่เป็นแค่การสุ่มตรวจจากแค่ 1000 คนจากผู้ติดเชื้อประมาณ 15000 คนในช่วง 5 วันที่ผ่านมา

    *** ระวังกันให้จงหนัก ****

    #เปิดเทอมก็ไม่ต่างจากการปล่อยระเบิดปล่อยระบาดหนักขึ้นมาอีกทั้ง3สายพันธุ์
    ......

    แถมเพิ่มตามที่เคยบอกล่วงหน้าไว้ มันจะกลายพันธุ์หนียา หนีวัคซีนไปเรื่อยๆ ยังไม่ทันไรมาจนได้ เดลต้าพลัส แลมด้า

    (1.) อินเดียจับตา เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า กลายพันธุ์เป็นเดลต้าพลัส

    16.06.2021

    https://thestandard.co/india-coronavirus-delta-convert-to-delta-plus/

    จนถึงวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีรายงานกรณีการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าพลัสเกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ ได้แก่ อินเดีย 6 ราย แคนาดา เยอรมนีและรัสเซีย ประเทศละ 1 ราย เนปาล 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 4 ราย โปแลนด์ 9 ราย โปรตุเกส 12 ราย ญี่ปุ่น 13 ราย และสหรัฐฯ 14 ราย

    (2.) เพิ่มอีก! โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ‘แลมบ์ดา’ พบระบาดใน 29 ประเทศ (เริ่มที่เปรู)

    17 มิ.ย. 2564

    https://www.thairath.co.th/news/foreign/2118142?utm_source=PANORAMA_HOME

    ........... ............ ........... ........... ...........

    ** เข้ามาเรื่องหลักเรา คือสายพันธุ์อินเดีย **

    ทำไมถึงอาจพบหลายพันหลายหมื่นคนไปแล้ว

    ........... ............ ........... ........... ...........

    เฉพาะที่สุ่มตรวจ (มาประมาณ 1 จาก 15) พบสายพันธุ์อินเดียตามข่าว 3 ข่าวด้านล่างคือ

    ---> 7 มิย พบ 235 คน
    (คิดเป็น 6 % จากทุกสายพันธ์)

    ---> 11 มิย. พบ 359 คน เพิ่ม 124 คน ใน 4 วัน
    (คิดเป็น 8 % จากทุกสายพันธ์)

    ---> 16 มิย. พบ 496 คน เพิ่ม 137 คนใน 5 วัน
    (คิดเป็น 10 % จากทุกสายพันธ์ ถ้านับตั้งแต่เดือน เมย. )

    (คิดเป็น 14 % จากทุกสายพันธ์ ถ้าคิดเฉพาะ 5 วันล่าสุด)

    ........... ............ ........... ........... ...........

    10 ประเด็น #ทำไมสายพันธุ์อินเดียจะแพร่ไปเกือบทั่วประเทศไปแล้ว และ

    #อาจมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียไปหลายพันหลายหมื่นคนไปแล้วก็ไม่แปลก ?!?

    ถ้าเน้นดูเฉพาะ 5 วันหลัง กับทั้งหมดเกือบ 500 คนนั้น
    จะพบว่า

    ........... ............ ........... ........... ...........

    1. #ไทยส่งตรวจสายพันธุ์ประมาณ1ใน15เคสของจำนวนผู้ที่มาตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อ

    ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา เราสุ่มตัวอย่างเพื่อส่งตรวจสายพันธุ์ประมาณ 1 ใน 15 ของผู้ติดเชื้อที่ตรวจเจอ

    2. #เฉพาะเคสผู้ติดเชื้อในช่วง5วันที่ผ่านมาอาจมีสายพันธุอินเดียได้ถึง2100คน

    ถ้านั่งใช้สติคำนวนดีๆ ต้องเอา 140 คนของสายพันธ์อินเดียที่พบในช่วง 5 วันนี้ เอาไปคูณ 15 จะกลายเป็น 2100 คน

    3. #สัดส่วนสายพันธุ์อินเดียเพิ่มขึ้นเกือบ1เท่าตัวใน5วัน

    นั่นหมายถึงทั้ง 15000 คน ถ้าส่งตรวจ Genome ครบทุกคน จะพบสายพันธุ์อินเดียประมาณ 2100 คน (ประมาณ 14 %) ... จากวันที่ 11 มิย. ที่แถลงข่าวพบแค่ประมาณ 8 %

    4. #เฉพาะเคสที่มาตรวจและทราบว่าติดเชื้อไปแล้วอาจมีสายพันธุอินเดียได้ถึง7500คน

    ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สุ่มตรวจเจอสายพันธุ์อินเดีย 500 เคส ถ้าเอา 500 เคสที่สุ่มตรวจเจอตั้งแต่เคสที่ 1 นั่นหมายถึง เราเจอผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย คือ 500 คูณ 15 เท่ากับ 7500 คนไปแล้ว

    5. #ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียที่ไม่ได้มาตรวจอีกหลายเท่า

    ที่ต้องคิดต่อคือ ปกติผู้ติดเชื้อจริงในสังคมที่ไม่ได้มาตรวจเชื้อจะมีมากกว่าตัวเลขที่มาตรวจ 6-20 เท่า

    เอาตัวเลขขั้นต่ำคือ 6 เท่ามาคำนวนจะพบว่า ถึงตอนนี้ อาจมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียในไทย 7500 คูณ 6 เท่ากับ 45000 คนไปแล้วก็เป็นได้

    ประเทศที่มีอัตราการตรวจต่อประชากรต่ำแบบไทยนั้น อาจต้องคูณ 10 หรือ 20 ด้วยซ้ำไป

    แต่เอาคูณ 6 ก็พอ ใช้ตัวเลขเกิน 6 เดี๋ยวจะหาว่าเว่อร์

    6. #ไวช้าสายพันธุ์อินเดียก็ระบาดครบทุกจังหวัดรวมถึงทุกจังหวัดที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

    เพราะไทยไม่ได้กักกันพื้นที่ ไม่ได้ตาม Lockdown ทุกจังหวัดที่พบสายพันธุ์อินเดียเลย

    #สุ่มตรวจไม่ทั่วถึงหรือไม่ ?

    #สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ควรต้องพบในหลายจังหวัดมากกว่านี้

    นี่ขนาดสุ่มตรวจแบบเลือกแค่บางจังหวัด บางคลัสเตอร์ไปตรวจสายพันธุ์ตามข่าว #ถ้าสุ่มตรวจครบทุกอำเภอที่มีผู้ติดเชื้ออาจเจอสายพันธ์อินเดียเกินครึ่งประเทศ รวมถึงที่ภาคใต้หลายจังหวัดไปแล้ว ...

    7. แปลกเกินไปหรือไม่ ?? .... #สังเกตุไหมภาคใต้ไม่มีสายพันธุ์อินเดียสัก1คนแปลกเกินไปหรือไม่ ?

    แปลกที่มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียอาจจะเป็นหลายพันถึงหลักหมื่นคน แต่ไม่พบในภาคใต้สัก 1 คน เป็นไปได้อย่างไร

    ทั้งๆ ที่โดนตีกระหนาบจากทั้งด้านภาคกลาง และจากมาเลเซีย อีกสักพักจะมีจากนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศได้อีก

    สุ่มตรวจตัวอย่างสายพันธุ์จากภาคใต้กี่คน ... ?

    8. #ในภูเก็ตสงขลาพบสายพันธุ์ไหนบ้าง ? .... ไม่ใช่มัวแต่ปิดข้อมูลปิดตัวเลขจะเปิดรับนักท่องเที่ยวท่าเดียว จนปล่อยระบาดหนักในจังหวัดแบบนี้ ระบาดหนักก็ต้องระเบิดสักวัน มีนักท่องเที่ยวติดเชื้อเพราะดื้อวัคซีนถ้าเล่นเกมปิดข่าวมากๆ แล้วนักท่องเที่ยวติดเชื้อกันหลายคน เสียชื่อหมด #ระยะยาวจะหมดเครดิตความน่าเชื่อถือ

    อย่าลืมว่าเด็กทุกคนในภูเก็ต และทุกจังหวัดยังไม่มีใครฉีดวัคซีนจึงเสี่ยงติดเชื้อได้ตามปกติ

    #ผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนครบ2เข็มก็ติดเชื้อแพร่เชื้อให้เด็กได้

    9. #สายพันธุ์แอฟริกาใต้หลุดมานอกอำเภอตากใบแล้ว2เคส .... ก็หมายความว่าเป็นไปได้ที่จะหลุดออกไปกระจายที่จังหวัดอื่นก็ได้แล้ว แค่ยังสุุ่มตรวจไม่เจอ

    ใน Nextstrain.org พบมีรายงานจากปัตตานี และสงขลาไปบ้างแล้วตามโพสต์ที่เพิ่งลงไป

    10. ระวัง !!! ... ภาคใต้อีกสักพักถ้าไม่ปิดข่าวปิดตัวเลข จะพบว่าเป็น #ภาคแรกๆที่มีระบาดครบทั้ง3สายพันธุ์ในพื้นที่จริงๆ

    ..................

    อ้างอิงจาก

    .................

    1. จับตา! "โควิดสายพันธุ์อินเดีย" กระจาย 11 จังหวัด ติดเชื้อแล้ว 359 ราย

    https://www.tnnthailand.com/news/covid19/82312/

    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยพบผู้ติดเชื้อ "โควิดสายพันธุ์อินเดีย" แล้ว 359 ราย ใน 11จังหวัด

    วันนี้( 11 มิ.ย.64) นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยข้อมูลจากการเฝ้าระวังและการถอดรหัสเชื้อไวรัสที่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทย 4,000 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่หรือกว่าร้อยละ 90 เป็น สายพันธุ์อัลฟา หรือ อังกฤษ ขณะที่สายพันธุ์เดลต้า หรือ อินเดีย ที่ตรวจพบครั้งแรกภายในที่พักคนงานย่านหลักสี่เป็นสายพันธุ์ที่จับตาขณะนี้ตรวจพบไปแล้ว 359 ราย แบ่งเป็นพื้นที่กทม. 318 รายและต่างจังหวัด 11 จังหวัดรวม 41 รายและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนสายพันธุ์เบต้าพบ 26 รายอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า สายพันธุ์เดลต้า สามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่าแต่หากเทียบความรุนแรงแล้ว สายพันธุ์เบตา หรือแอฟริกาใต้นั้น มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆจึงต้องควบคุมไม่ให้เล็ดรอดออกไปจากพื้นที่

    ..........

    2. โควิดพันธุ์อินเดียโผล่ไทยอีก 137 ราย แอฟริกาใต้เพิ่ม 2 ราย สธ.ห่วง! จับตารายสัปดาห์

    วันที่ 16 มิถุนายน 2564

    https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2779188

    เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่า จากการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่พบในประเทศไทย จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งเข้าไปยังกรมวิทยาศาสตร์ฯ ระหว่างวันที่ 7 เมษายน – วันที่ 13 มิถุนายน จำนวน 5,055 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) 4,528 ราย คิดเป็น ร้อยละ 89.6 สายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) เพิ่มขึ้นจาก 359 ราย ที่รายงานไปก่อนหน้านี้ เป็น 496 คน หรือเพิ่มขึ้นอีก 137 ราย

    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ขณะที่สายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่เริ่มพบที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เดิมพบ 26 ราย ขณะนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย นอกพื้นที่ อ.ตากใบ แต่ยังอยู่ใน จ.นราธิวาส

    ด้าน นพ.อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า การตรวจสายพันธุ์ต่างๆ เป็นการสุ่มตรวจเพื่อเป็นแนวทางเฝ้าระวัง โดยจะสุ่มตัวอย่างจาก 1.กลุ่มที่มีอาการรุนแรง 2.กลุ่มที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ 3.พื้นที่ที่ไม่เคยระบากแต่มีการพบเชื้อ 4.ตามชายขอบชายแดน และ 5.กลุ่มที่ได้รับวัคซีนแล้วยังติดเชื้อ

    ..........

    3. โควิดสายพันธุ์อินเดียพบแล้ว 235 คน ใน 10 จังหวัด

    วันที่ 7 มิ.ย. 2564

    https://news.ch7.com/detail/491290

    .

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พระสงฆ์เมียนมาสละผ้าเหลือง จับอาวุธสู้กองทัพ
    .
    เมียนมา 19 มิ.ย. - พระสงฆ์เมียนมารูปหนึ่งสละผ้าเหลือง จับอาวุธเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มต่อต้านเผด็จการทหารอย่างเต็มตัว โดยให้เหตุผลว่า ไม่ใช่เพื่อฆ่า แต่เรียนรู้ที่จะฆ่า
    .
    "เกตารา" อดีตพระสงฆ์ที่สลัดจีวรหันมาสวมเครื่องแบบลายพรางเพื่อฝึกอาวุธต่อสู้กับเผด็จการทหาร ภายใต้ชื่อใหม่ว่า "จอร์จ ไมเคิล" โดยยอมละทิ้งคำสัตย์ปฏิญาณที่จะต่อต้าน "การฆ่า" เพื่อตอบโต้การจับกุมและสังหารพระสงฆ์ที่เข้าร่วมการประท้วงอย่างสันติต่อต้านกองทัพที่ทำรัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
    .
    เกตารา วัย 33 ปี เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตั้งแต่อายุ 20 ปี นอกจากปฏิบัติศาสนากิจ ที่วัดธรรมดาร์นา เขตไลง์ตายา ที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของย่างกุ้งแล้ว ก็ยังทำงานด้านมนุษยธรรมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการดูแลเด็กกำพร้า ในช่วงแรกๆ ของการรัฐประหาร เกตาราได้เข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงโดยสันติที่เริ่มเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และต่อเนื่องทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กองกำลังรักษาความมั่นคงเริ่มการกวาดล้างผู้ประท้วงอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 คน มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทำให้ประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งแรงงานตามโรงงานต่างๆ พากันหนีออกจากพื้นที่ เกตาราบอกว่า ในวันนั้น ไม่ได้เข้าร่วมประท้วงเพราะถูกออกหมายจับ และในช่วงที่ซ่อนตัวอยู่ ก็ได้ข่าวมารดาเสียชีวิต แต่ไปร่วมพิธีศพไม่ได้
    .
    เขาบอกว่า หลังจากนั้นก็ได้ยินข่าวผู้ประท้วงถูกฆ่าเรื่อยมา ทำให้ตัดสินใจเข้าไปฝึกอาวุธกับกองกำลังติดอาวุธ "ในพื้นที่ปลดแอก" (Liberated area) ที่เป็นคำเรียกทั่วไปที่ใช้กันในเมียนมา เมื่อเวลาเอ่ยถึงอาณาเขตที่ไม่ถูกปกครองโดยเผด็จการทหาร รวมถึงพื้นที่ชาติพันธุ์ที่ควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธตามแนวชายแดนของไทย อินเดีย และจีน ซึ่ง เกตารา บอกว่า เราต้องละเว้นจากการฆ่าตอนที่เป็นพระ แต่ตอนนี้ เราฝึกอาวุธเพื่อฆ่า
    .
    ตอนแรก กลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ปลดแอกไม่ยอมฝึกอาวุธให้ เพราะเห็นว่า เกตาราเป็นพระที่บวชเรียนมานานถึง 13 ปี แต่ในที่สุดก็ยอมจำนน และเกตาราไม่เปิดเผยสถานที่ฝึกเพราะเกรงจะเป็นอันตรายต่อคนอื่น และตอนนี้การฝึกได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และเขายังมีตำแหน่งในกองกำลังอีกด้วย แต่เขาก็วิงวอนให้พระสงฆ์รูปอื่นๆ อยู่ในผ้าเหลืองต่อไป เพราะยังทางอื่นให้เลือกแม้จะอยู่ในผ้าเหลือง
    .
    มูลนิธิธรรมดาร์นา ระบุว่า มีพระสงฆ์ถูกจับอย่างน้อย 18 รูป ฐานเข้าร่วมประท้วง ส่วนสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า มีคนถูกสังหารมากกว่า 860 คน และยังถูกจองจำในเรือนจำอีกราว 4,480 คน.

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ญี่ปุ่นจะออกพาสปอร์ตวัคซีนให้ประชาชนตั้งแต่เดือนหน้า
    .
    โตเกียว 17 มิ.ย. – ญี่ปุ่นเผยวันนี้ว่า จะออกใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือเป็นที่เรียกกันว่า “พาสปอร์ตวัคซีน” ให้แก่ชาวญี่ปุ่นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกต่างทดลองหาวิธีกลับมาเปิดการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจอีกครั้ง
    .
    นายคัตซึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น และโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าใช้วัคซีนพาสปอร์ตราวปลายเดือนกรกฎาคมนี้ โดยหวังว่าจะช่วยให้ธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยวเริ่มต้นอีกครั้ง และในขั้นต้นรัฐบาลจะออกวัคซีนพาสปอร์ตในรูปแบบกระดาษ ตั้งแต่กลางถึงปลายเดือนกรกฎาคม และต่อไปจะมีการจัดทำในรูปแบบดิจิทัล โดยในพาสปอร์ตดังกล่าวจะมีข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อและวันที่ที่เจ้าของพาสปอร์ตได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ญี่ปุ่นประสบปัญหากับการเริ่มต้นฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งล่าช้ากว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ
    .
    นายคัตสึโนบุ คาโตะ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนออกใบรับรองการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวญี่ปุ่นที่จำเป็นต้องใช้เอกสารดังกล่าวเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งยังระบุว่า ใบรับรองจะอยู่ในรูปแบบกระดาษมากกว่าที่จะเป็นแบบดิจิทัล และรัฐบาลท้องถิ่นจะเป็นผู้ออกใบรับรองตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
    .
    ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป หรืออียู ก็กำลังเดินหน้าผลักดันการใช้พาสปอร์ตวัคซีนแบบดิจิทัลในช่วงฤดูร้อนนี้ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวกลับคืนสู่อียู และบางประเทศสมาชิกของอียูก็ได้วางแผนใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนในระดับประเทศเช่นกัน ทั้งนี้ พาสปอร์ตวัคซีนของอียูจะระบุข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการฉีดวัคซีน การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผลตรวจหาเชื้อโควิด รวมถึงประวัติการรักษา
    .
    สหรัฐระบุเมื่อเดือนก่อนว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาออกเอกสารพิเศษให้แก่ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ แต่แนวทางดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงในรัฐที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม เช่น รัฐฟลอริดาและรัฐเทกซัสที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนในการเดินทาง เพราะเข้าข่ายละเมิดสิทธิพื้นฐานของประชาชน.

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหรัฐฯ ประกาศยุติโครงการช่วยเหลือกัมพูชาเหตุยังพบตัดไม้ทำลายป่า-โจมตีนักเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
    .
    รอยเตอร์ 17 มิ.ย. - สหรัฐฯ กำลังยุติโครงการช่วยเหลือกัมพูชาที่มีเป้าหมายปกป้องเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยอ้างถึงการตัดไม้ทำลายป่าที่เลวร้ายลงและการปิดปากผู้ที่กล่าวถึงการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
    .
    สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ ระบุในคำแถลงวันนี้ (17) ว่าสหรัฐฯ ได้ลงทุนไปมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า แต่ยังคงพบการตัดไม้ทำลายป่าในอัตราสูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเปรยลาง (Prey Lang)
    .
    “นับตั้งแต่ปี 2559 เปรยลางสูญเสียพื้นที่ผืนป่ากว่า 200,000 ไร่ เกือบ 9% ของผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเปรยลาง” คำแถลงระบุ และกล่าวหาเจ้าหน้าที่กัมพูชาว่าไม่ดำเนินคดีกับการลักลอบค้าสัตว์ป่าให้มากพอหรือยับยั้งกิจกรรมผิดกฎหมาย
    .
    “นอกจากนี้ รัฐบาลยังปิดปากและมุ่งเป้าชุมชนท้องถิ่นและพันธมิตรภาคประชาสังคมของพวกเขาที่ห่วงใยต่อการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติของพวกเขา” คำแถลงระบุ
    .
    ในเดือนก.พ. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่ชุมนุมประท้วงภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเปรยลาง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา
    .
    “จากปัญหาที่ยังไม่ได้รับแก้ไขเหล่านี้ เป็นผลให้สหรัฐฯ ยุติความช่วยเหลือต่อหน่วยงานของรัฐบาลภายใต้โครงการ Greening Prey Lang ของ USAID” สถานทูตระบุ และเสริมว่าความช่วยเหลือจะถูกนำไปใช้สนับสนุนภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และความพยายามของท้องถิ่นแทน
    .
    อย่างไรก็ตาม สถานทูตระบุว่า สหรัฐฯ จะยังคงมีส่วนร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นข้อวิตกกังวลร่วมกันและทั่วโลก รวมทั้งความร่วมมือหุ้นส่วนลุ่มน้ำโขง-สหรัฐฯ
    .
    ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้ปฏิเสธว่ามีกิจกรรมตัดไม้ผิดกฎหมายขนาดใหญ่เกิดขึ้นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และกล่าวว่าการยุติโครงการความช่วยเหลือของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าประเทศในตอนนี้สามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ด้วยตัวเอง
    .
    “กระทรวงสิ่งแวดล้อมต้องการเน้นย้ำว่าอาชญากรรมด้านทรัพยากรธรรมชาติขนาดใหญ่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเปรยลางและพื้นที่คุ้มครองอื่นๆ ไม่มีเกิดขึ้นอีกต่อไป แต่อาชญากรรมขนาดเล็กยังมีอยู่” โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวกับรอยเตอร์.

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ญี่ปุ่นเตรียมผ่อนคลายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
    .
    โตเกียว 17 มิ.ย.-ญี่ปุ่นเตรียมวางแนวทางวิธีการที่จะยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยที่ยังคงใช้ข้อจำกัดบางประการเอาไว้อยู่ เช่น จำกัดจำนวนผู้ชมในกิจกรรมขนาดใหญ่ ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า การเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวในเดือนหน้าจะทำให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่
    .
    สื่อญี่ปุ่นหลายสำนักรายงานว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาอนุญาตให้มีผู้ชมได้ 10,000 คน ในสนามในระหว่างการแช่งขันโอลิมปิก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพให้ความเห็นชอบแล้ว นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่น มีกำหนดจะประกาศการตัดสินใจของรัฐบาลในวันนี้ ในเรื่องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 10 จังหวัดที่จะหมดอายุลงในวันที่ 20 มิถุนายน
    .
    นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นกล่าวว่า แทนที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั้งหมด รัฐบาลกำลังหาทางใช้มาตรการ “กึ่งสถานการณ์ฉุกเฉิน” ใน 7 จังหวัด รวมถึงในกรุงโตเกียว ที่จะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คณะผู้เชี่ยวชาญที่รัฐบาลแต่งตั้ง ได้อนุมัติแผนดังกล่าวและจังหวัดต่าง ๆ 7 แห่ง จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เข้มงวดน้อยลงจนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม เพื่อป้องกันมิให้เกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้นมาอีก
    .
    อย่างไรก็ตาม นายนิชิมูระ กล่าวว่า การที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียวลดลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่า อาจจะเกิดการระบาดขึ้นอีกและเน้นถึงความจำเป็นในการดำเนินการในทันที ด้วยการใช้มาตรการคุมเข้มและอาจจะต้องถึงกับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียวอีกครั้ง.

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กองกำลังติดอาวุธประชาชนพม่ากระตุ้นให้ “ชาวบ้าน” ออกรบ แต่ทิ้งศพไว้ให้ “พระสงฆ์” ตามเก็บ
    .
    กะยา 17 มิ.ย. - พระสงฆ์นำชาวบ้านดีมอโซ รัฐกะยา ออกตามเก็บศพ“นิรนาม”ที่ถูกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ เพื่อนำมาทำพิธีทางศาสนา ก่อนช่วยกันฝังไว้ในสุสาน หลังกองกำลังติดอาวุธประชาชนประกาศหยุดยิงชั่วคราวกับทหารพม่า
    .
    เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ในเมืองดีมอโซ จังหวัดลอยก่อ รัฐกะยา นำโดยสยาดอที บุ่นกาน สยาดอดอบูกู และสยาดอดอโปสี่ ร่วมกับพระสงฆ์จากวัดต่างๆ รวม 18 รูป ได้นำชาวบ้าน ตระเวนเก็บศพผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งถูกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ ทั่วเมืองดีมอโซ
    .
    ศพเหล่านี้ถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน บางศพนอนตายอยู่ริมถนน บางศพนอนตายอยู่ในพงหญ้าข้างทาง และหลายศพนอนตายอยู่ในบริเวณบ้าน ทุกศพมีสภาพขึ้นอืด เน่าเละจนไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร แต่เชื่อว่ามีทั้งศพของชาวบ้าน ศพของกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่า และศพของเยาวชนที่จับอาวุธมาต่อสู้กับทหารพม่า ที่เสียชีวิตตจากเหตุสู้รบซึ่งเกิดขึ้นในเมืองดีมอโซต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ปะปนอยู่คละเคล้ากันไป
    .
    พระสงฆ์และชาวบ้านต่างช่วยกันเก็บและลำเลียงศพเหล่านั้นไปยังสุสานหง่วยต่อง เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนช่วยกันนำศพฝังลงไปในหลุมที่ขุดเตรียมไว้
    .
    ก่อนหน้านั้น 1 วัน ในวันที่ 15 มิถุนายน กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธภาคประชาชน ได้ออกประกาศหยุดสู้รบกับทหารพม่าในพื้นที่เป็นการชั่วคราว ตามการร้องขอของผู้นำทางศาสนาและชาวบ้านในพื้นที่ เพราะการสู้รบที่ดำเนินมานานเกือบ 1 เดือน ได้ส่งผลกระทบ สร้างความเสียหายแก่ชาวบ้าน ตลอดจนบ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชน
    .
    เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่เหล่าสมาชิกพรรค NLD รวมจัดตั้งขึ้นเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมา ได้ออกประกาศกระตุ้นกลุ่มเยาวชนในรัฐและภาคต่างๆ ให้หยิบฉวยอาวุธเท่าที่จะหาได้ ตั้งขึ้นเป็นกองกำลังติดอาวุธภาคประชาชน (PDF) เพื่อต่อสู้กับทหารพม่า มีการเชิญชวนบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม ให้มาแต่งเครื่องแบบลายพราง โพสต์ท่าฝึกอาวุธถ่ายภาพเผยแพร่ผ่านสื่อ เชิญชวนกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ให้เข้าร่วมกระบวนการต่อสู้ครั้งนี้
    .
    ในรัฐกะยามีการตั้ง KNDF ขึ้น โดยเริ่มเปิดฉากโจมตีป้อมตำรวจในเมืองโมบยี และสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงของพม่าเสียชีวิตไปในวันเดียว 13 ราย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม จากนั้นการสู้รบอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่เมืองดีมอโซ
    .
    ชาวกะยานับแสนคนที่หวั่นเกรงภัยจากการสู้รบ ต่างพากันทิ้งบ้านเรือน ไร่นา หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในป่า ดำรงชีวิตด้วยความยากลำบาก ขาดแคลนทั้งเสื้อผ้า เสบียงอาหาร และยารักษาโรค
    .
    ชาวบ้านหลายคนที่หลบหนีไม่ทัน ก็ถูกลูกหลงเสียชีวิต ศพถูกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ รวมถึงในบ้านของพวกเขาเอง โดยไม่มีผู้ใดมาจัดการให้ จนในวันที่ 15 มิถุนายน เมื่อ KNDF ประกาศหยุดสู้รบชั่วคราว พระสงฆ์และชาวบ้านจึงกล้ารวมตัวกัน มาช่วยจัดการกับศพที่ถูกทิ้งไว้เหล่านั้นในวันรุ่งขึ้น
    .
    การสู้รบที่เกิดขึ้นในรัฐกะยา ไม่เพียงส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเท่านั้น การลงทุนของเอกชนในรัฐที่เล็กที่สุดของเมียนมาแห่งนี้ ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นกัน
    โดยตอนเย็นของวันที่ 10 มิถุนายน มีผู้พบว่าที่ฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมบนถนนหง่วยต่อง ห่างจากหมู่บ้านดอกะโลคู เมืองดีมอโซ ไปประมาณ 1 ไมล์ ประตูฟาร์มถูกเปิดทิ้งไว้ โดยไม่มีผู้ใดอยู่ภายในฟาร์มแม้แต่คนเดียว
    .
    เมื่อชาวบ้านเข้าไปดูภายในฟาร์ม ต้องพบกับภาพเอน็จอนาถ เพราะหมูในฟาร์มจำนวนมากถูกทิ้งให้หิวโซ เนื่องจากไม่มีผู้นำอาหารมาป้อนให้หมูเหล่านั้นกินมาเป็นเวลาหลายวัน หมูหลายตัวนอนตายอยู่คาเล้า
    .
    ฟาร์มเลี้ยงหมู่แห่งนี้ เป็นของบริษัท De Heus Myanmar จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ได้เข้ามาทำธุรกิจหมูครบวงจรในเมืองดีมอโซ ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2562 โดยลงทุนเบื้องต้นเป็นเงิน 3.2 ล้านดอลลาร์ สร้างฟาร์ม โรงงานอาหารสัตว์ และโรงงานแปรรูปเนื้อหมู บนพื้นที่ 11 เอเคอร์ (28 ไร่) ในหมู่บ้านดอกะโลคู ถือเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูที่ใหญ่ที่สุดของรัฐกะยา
    .
    ตามปกติ มีหมูถูกเลี้ยงอยู่ในฟาร์มแห่งนี้ประมาณ 1 พันตัว และมีคนงานอยู่ประมาณ 100 คน ชาวบ้านเชื่อว่าหลังเกิดการสู้รบขึ้นในเมืองดีมอโซ ทั้งผู้บริหารและคนงานต่างเกรงกลัวอันตราย จึงพากันทิ้งฟาร์มและโรงงาน หนีออกนอกพื้นที่กันหมด ปล่อยหมูที่เลี้ยงเอาไว้ให้อยู่ตารยถากรรม
    .
    De Heus เป็นบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรเก่าแก่จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 2454 ปัจจุบัน โรงงานอาหารสัตว์ของ De Heus มีการกระจายอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก โดยในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ De Heus เริ่มเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานในเวียดนามตั้งแต่ปี 2554 โดยปัจจุบันมีโรงงานของ De Heus ในเวียดนามแล้ว 6 แห่ง
    .
    De Heus ได้เข้ามาลงทุนในเมียนมาเมื่อปี 2559 โดยสร้างโรงงานอาหารสัตว์แห่งแรกในภาคย่างกุ้ง และขยายไปสร้างโรงงานที่ 2 ในมัณฑะเลย์ในปี 2561 ก่อนจะมาลงทุนทำธุรกิจหมูครบวงจรในรัฐกะยาในปี 2562.

     

แชร์หน้านี้

Loading...