ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฝนที่ตกหนักมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในญี่ปุ่นได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 69 คน มีผู้ไร้สัญญาณชีพหนึ่งคน และมีผู้ที่หายตัวไป 13 คน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้นส่วนใหญ่พบในจังหวัดคูมาโมโตะในคิวชูซึ่งเป็นเกาะหลักทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

    ปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัยกำลังดำเนินอยู่ต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม ในคิวชู

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้สุนัขดมกลิ่นและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ค้นหาผู้ที่หายตัวไปในเมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดคูมาโมโตะ การค้นหานั้นส่วนใหญ่เน้นหนักไปที่สถานที่แห่งหนึ่งที่ดินถล่มที่ซึ่งค้นพบร่างหนึ่งเมื่อวันก่อนหน้า

    ที่จังหวัดโออิตะ ดูเหมือนว่าครอบครัวหนึ่งซึ่งมีสมาชิกสี่คนถูกพัดลงไปในแม่น้ำเมื่อวันพุธที่ 8 กรกฎาคมขณะกำลังขับรถอยู่

    พบร่างหนึ่งทางปลายน้ำห่างจากจุดที่พวกเขาหายตัวไปราว 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาบุคคลอื่น ๆ บริเวณปลายน้ำลงไปอีก

    ที่จังหวัดคูมาโมโตะ มีผู้เสียชีวิต 62 คนในความเกี่ยวข้องกับฝนตกหนักครั้งนี้ และมีผู้ที่หายตัวไปหกคน

    ส่วนที่จังหวัดโออิตะ มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และมีผู้ที่หายตัวไปห้าคน

    คาดว่า ฝนที่ตกเป็นพัก ๆ ทางตะวันตกของญี่ปุ่นจะตกหนักขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม

    นอกจากนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำก็กำลังก่อเมฆฝน คลุมพื้นที่ในวงแคบ ๆ เป็นที่ ๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ คาดว่า จากนี้ไปฝนจะตกหนักเป็นเวลาหลายชั่วโมง

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นกำลังเตือนให้ผู้คนตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่ประสบความเสียหายจากดินถล่มและน้ำท่วมสืบเนื่องจากฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์ระแวดระวังภัย ทั้งนี้เนื่องจากดินนั้นชุ่มน้ำมากอยู่แล้ว อีกทั้งเขื่อนกั้นน้ำริมตลิ่งบางแห่งก็อยู่ในสภาพที่เสียหาย

    แม่น้ำหลายสายในจังหวัดอาโอโมริและอิวาเตะทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้น อยู่ในภาวะที่อาจเอ่อล้นตลิ่งได้ทุกเมื่อ

    ทางการได้ออกคำเตือนให้ระวังดินถล่มตามส่วนต่าง ๆ ของจังหวัดอิวาเตะ นางาโนะ และมิยาซากิ ภูมิภาคเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดดินถล่ม

    ผู้คนที่กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดสถานที่ควรระแวดระวังความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของสภาพอากาศ มีการออกคำแนะนำให้ผู้คนเหล่านี้กลับเข้าสถานที่พักพิงก่อนค่ำ

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายติดต่อกันได้ทางอากาศ และทางองค์การยังได้เรียกร้องให้ดำเนินมาตรการป้องกันต่อไป เช่น ใช้หน้ากากอนามัยเมื่อไม่สามารถเว้นระยะห่างทางกายภาพระหว่างกันได้

    มาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคด้านการรับมือไวรัสโคโรนาขององค์การอนามัยโลก กล่าวแนะเมื่อวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคมว่า ไวรัสดังกล่าวอาจแพร่กระจายผ่านอนุภาคที่เล็กกว่าละอองฝอยมากเมื่อไอหรือจามออกมา

    แวน เคิร์กโฮฟกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าละอองฝอยอาจแพร่กระจายออกไปและลอยค้างในอากาศในสิ่งแวดล้อมบางประเภท เช่น ในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่นและอากาศถ่ายเทไม่ดี ซึ่งผู้คนใช้เวลาอยู่ในนั้นนาน

    นอกจากนี้ เธอยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรการป้องกันต่อไปตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ รวมทั้งการล้างหรือฆ่าเชื้อที่มือ การเว้นระยะห่างทางกายภาพ และการใช้หน้ากากอนามัยเมื่อไม่สามารถเว้นระยะห่างเช่นนั้นได้

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อินโดนีเซีย - ดินข้างแม่น้ำถล่มในหมู่บ้าน Betuah, Seberang Tembilahan, Indragiri Hilir Regency ใน Riau, 10 กรกฎาคม

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อินโดนีเซีย - ดินถล่มข้างๆ แม่น้ำ Betuah, Seberang, Riau, 10 กรกฎาคม

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิตาลี - พายุหิมะรุนแรงใน la cumbre de los Dolomitas ใน Punta Penia, ใน la Marmolada (3342 m-Alps- อิตาลี) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม

    ITALIA - Severa tormenta de nieve, en la cumbre de los Dolomitas en Punta Penia, en la Marmolada (3342 m-Alpes-Italia) el 11 de Julio.

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มาเลเซีย - น้ำท่วมครั้งใหญ่ใน Gua Musang รัฐกลันตัน วันนี้ 11 กรกฎาคม

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มาเลเซีย - น้ำท่วมฉับพลันส่งผลกระทบต่อ Gua Musang, รัฐกลันตัน, 11 กรกฎาคม

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เม็กซิโก - พระอาทิตย์ตกที่น่าทึ่งใน Mazatlán, Sinaloa เมื่อวานนี้ 10 กรกฎาคม

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, รัสเซีย, 9 กรกฎาคม โดย Jurnal de Vreme

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ภูเขาไฟ Pacaya ในกัวเตมาลาวันที่ 11 กรกฎาคมผ่านทางMeteorología GT

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ภัยพิบัติที่สมบรูณ์ใน #ฉงชิ่ง, ประเทศจีน 3 กรกฎาคม



     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    17 คนบาดเจ็บจากการระเบิดของโรงงานในประเทศจีน โดย ซินหัว เวลา 08:05 UTC + 8, 2020-07-12

    17 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ในโรงบำบัดน้ำเสียในเมืองฟู่ซิน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แหล่งข่าวท้องถิ่นกล่าวเมื่อวันอาทิตย์

    การระเบิดเกิดขึ้นราว ๆ 20:40 น. ในวันเสาร์..

    ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกส่งไปยังโรงพยาบาล สาเหตุของการระเบิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ช่วงนี้ที่พม่ากำลังมีประเด็นน่าสนใจอยู่ประเด็นหนึ่ง เป็นประเด็นเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ และสัตว์ป่าที่หายากทั้งหลาย ข่าวนี้ในไทยไม่ค่อยดังเท่าไร แต่ผมเห็นว่าเราควรให้ความสนใจและติดตามไว้ครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า

    1. ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลพม่า นำโดยผู้บริหารจากกระทรวงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการป่าไม้ และกรมป่าไม้ของพม่า เพิ่งออกมาเสนอการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าสงวนใหม่

    2. โดยทางกระทรวงฯประกาศเอาไว้ว่า ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นายทุนในกลุ่มกิจการสวนสัตว์ ถ้าหากต้องการที่จะนำสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าหายาก หรือสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ไปเพาะพันธุ์ในเชิงพาณิชย์ หรือการค้า

    3. ให้สามารถเข้ามาติดต่อที่กรมป่าไม้ได้โดยตรง เพื่อทำการขอใบอนุญาตในการเพาะเลี้ยงสัตว์สงวน โดยทางรัฐบาลพม่าจะเปิดรายชื่อสัตว์สงวน สัตว์ป่าหายากที่ประชาชนทั่วไปสามารถนำมาเพาะเลี้ยงได้จำนวนกว่า 90 สปีชีส์

    4. สัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าหายากที่ประชาชนหรือสวนสัตว์ที่มีใบอนุญาตจะสามารถนำออกมาเพาะเลี้ยงในสถานที่ของตนเองได้นั้นมีตั้งแต่ตัวนิ่ม เสือโคร่ง อีแร้งป่า โลมาอิระวดี จระเข้ ไปจนถึงช้างป่า

    5. รัฐบาลพม่าอ้างว่านโยบายดังกล่าวนี้จะเป็นตัวช่วย และปัจจัยส่งเสริมที่คอยป้องกันไม่ให้สถานการณ์ของสัตว์ป่าหายากภายในพม่าแย่ลงไปมากกว่านี้ เนื่องจากสัตว์ป่าหลายๆสายพันธุ์ภายในพม่านั้นกำลังเข้าสู่ภาวะเสี่ยง ใกล้จะสูญพันธุ์

    6. อย่างเสือโคร่งภายในพม่าขณะนี้ มีประชากรเหลือทั้งหมดไม่ถึง 30 ตัว การที่รัฐบาลพม่าเปิดให้ประชาชนเลี้ยงดู เพาะพันธุ์สัตว์สงวน สัตว์หายากเหล่านี้ก็เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชน และภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขยายพันธุ์สัตว์กลุ่มดังกล่าวไม่ให้ตกอยู่ในอันตรายของการสูญพันธุ์

    7. และทั้งนี้ทางรัฐบาลพม่าจะเปิดช่องทางให้ประชาชนและเอกชนกลุ่มที่เพาะเลี้ยงสัตว์สงวนเหล่านั้น สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเพื่อการพาณิชย์ได้ด้วย นั่นแปลว่าหากจะมีคนถลกหนังไปขายทำเครื่องประดับ หรือจะเอาเนื้อไปขายในตลาดอาหารสดก็ย่อมได้

    8. เนื่องด้วยความที่พม่านั้นเป็นประเทศที่มีสถานะเป็นตลาดมืด และตลาดใต้ดินของการลักลอบล่าสัตว์ ค้าขายสัตว์ป่าหายากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาที่ตำรวจลงหรือบุกจับของกลางได้ทีนึงนับแล้วก็ตีมูลค่าได้กันครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ

    9. ในขณะที่มูลค่าการลักลอบค้าสัตว์ป่า สัตว์สงวน สัตว์หายากในปัจจุบันนี้อยู่ที่ประมาณ 23,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ การที่พม่าเป็นฮับของการค้าขายสัตว์ป่าแห่งหนึ่งใน ASEAN นี้ จึงอาจอนุมานได้ในเบื้องต้นว่ามูลค่าการลักลอบค้าสัตว์แปลก สัตว์ป่าสงวนในพม่านี้คงมีอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรืออาจจะมากกว่า 10,000,000 ดอลลาร์ก็ได้ ถ้าประมาณกันแบบหยาบๆ)

    10. ฉะนั้น การที่พม่าพยายามทำให้กิจกรรมเหล่านี้มันถูกกฎหมาย และทำได้โดยมีใบอนุญาตแบบเป็นเรื่องเป็นราวกันตั้งแต่แรก ก็จะเท่ากับเป็นการดึงตลาดมืดเหล่านั้นให้ขึ้นมาอยู่บนดิน ถือเป็นการลดปัญหาการล่าสัตว์ และการลักลอบจับสัตว์อย่างผิดกฎหมายไปในตัว

    11. ทางกรมป่าไม้ของพม่าอ้างว่าได้มีการติดต่อไปขอคำปรึกษาของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อยไว้ก่อนหน้านั้นไปแล้ว

    12. หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าเป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาลพม่า คือ ความพยายามที่จะเปิดตลาดค้าสัตว์ป่า สัตว์สงวนอย่างถูกกฎหมายแล้วส่งสินค้าเหล่านั้นไปขายให้กับตลาดสดภายในประเทศจีน (โมเดลเดียวกับตลาดในอู่ฮั่น) ที่จะมีการดึงสัตว์จากป่าแล้วมาแล่ชิ้นเนื้อส่งไปขายเป็นยา เป็นอาหารให้แก่คนจีน

    13. นอกจากนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพยังกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และโครงสร้างการจัดการความสะอาดของหน่วยงานภายในพม่า ถ้าหากว่าจะมีการทำธุรกิจการค้าสัตว์ป่าหายากอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกันจริงๆ

    14. พม่าจะมีขีดความสามารถทางด้านดังกล่าวเพียงพอที่จะจัดการ ดูแลการค้าให้เป็นไปอย่างราบรื่นได้หรือไม่ เพราะการค้าขายสัตว์ป่าแปลกๆแบบนี้ มันมีความเสี่ยงที่ตามมาคือ ถ้าบริหารไม่ดี ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ประเภทการติดเชื้อไวรัสจากสัตว์เข้ามาสู่คนได้

    15. ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคต อาจเกิดเหตุการณ์ที่มีลักษณะคล้ายๆอู่ฮั่นขึ้นภายในพม่าได้ หลังจากที่พม่าพยายามเปิดตัวเองให้เป็นตลาดของการค้าขายสัตว์พันธุ์แปลกๆหรือสัตว์สงวนชนิดต่างๆ

    16. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าติดตามครับ เพราะมันค่อนข้างตั้งอยู่ในอาณาบริเวณที่ใกล้กับประเทศไทยเอามากๆ ถ้ามันมีการระบาดอะไรอย่างที่เขากลัวกัน มันจะเสี่ยงต่อไทยมากกว่าเหตุที่อู่ฮั่นมาก เพราะแรงงานจำนวนมากจากพม่าก็อยู่ในไทย การเคลื่อนย้ายระหว่างพม่าและไทยก็เกิดขึ้นได้ง่าย

    ----------------------

    17. จากข้อนี้เป็นต้นไปจะเป็นการแทรกความรู้รอบตัวเสริมให้ คือผมไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับการค้าขายในตลาดมืดของพม่ามาเมื่อวันก่อน เรื่องนี้เท่าที่ดูมาค่อนข้างเป็นประเด็นที่ใหญ่โตมากๆ

    18. มีการศึกษา จัดทำรายงาน และติดตามประเมินผลสถานการณ์กันตลอด ผ่านองค์กรลูกของสหประชาชาติที่ชื่อว่า United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC)

    19. จากสถิติที่ตำรวจลงไว้ในรายงานระยะ 5 ปีในช่วง 2013 ถึง 2017 พบว่ามีประวัติการบุกทลายรังสินค้าทั้งหมด 34 ครั้ง สินค้าที่ถูกยึดได้จะมีทั้งเกล็ดตัวนิ่ม หนังช้าง และชิ้นส่วนอื่นๆของตัวสัตว์หายาก เช่น งาช้าง รวมๆแล้วของกลางที่ยึดได้ทั้งหมดในช่วง 5 ปีนี้มีน้ำหนักมากกว่า 1,200 กิโลกรัม

    20. ตลาดมืดที่โด่งดังมากๆสำหรับการค้าขายสินค้าสัตว์หายากพวกนี้จะอยู่ที่รัฐฉาน กระจายตัวอยู่รอบๆเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งต่างๆ เช่น ท่าขี้เหล็ก และ เมืองลา (Mong La) เมืองลานี่ถือว่าเป็นแหล่งค้าสัตว์หายากที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยจากข้อมูลของมหาวิทยาลัย Oxford Brookes ปี 2014

    21. จากข้อมูลของตำรวจพม่าเผยว่า ตำแหน่งที่ตั้งของตลาดมืด หรือสถานที่ที่มักมีการส่งมอบสินค้า แลกเปลี่ยนสินค้านั้นอาจเปลี่ยนไปตามบริบทสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับการนัดหมาย

    22. บางครั้งนัดกันในสุสานขยะ บ่อขยะ กองขยะ บางครั้งอาจจะนัดกันในร้านประเภทที่ขายเครื่องประดับที่สตัฟฟ์มาจากอวัยวะของสัตว์ป่า บ้างนัดกันในงานเทศกาลสัตว์เลี้ยง บ้างก็นัดกันตามโรงพยาบาลสัตว์ หรือบางครั้งก็อาจจะนัดกันในโกดังเก็บของแบบในหนัง

    23. ข้อมูลจากสหประชาชาติชี้ว่าในกลุ่มประเทศแถบ ASEAN ทั้งกลุ่มนี้มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นคือ บรูไน และมาเลเซีย ที่ไม่มีประวัติการค้าขายงาช้างอย่างผิดกฎหมาย (นอกนั้นเจอหมด)

    24. ในบรรดาซัพพลายเชน หรือห่วงโซ่อุปทานของการค้าสัตว์หายากเหล่านี้ ปลายทางส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ประเทศจีน และฮ่องกง สินค้าส่วนใหญ่จะถูกส่งไปขายที่จีน ไม่ว่าจะหนังเสือ ดีหมีดำ กระดูกเสือ กระดูกกวาง เกล็ดตัวนิ่มอะไรพวกนี้มีหมด

    25. ถ้าของไม่ได้เข้าที่จีนโดยตรง ก็จะไปเข้าที่ท่าสินค้าของฮ่องกงแทน แล้วก็จะมีนายหน้า หรือคนจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาคอยรอรับซื้ออีกต่อหนึ่งเพื่อนำเข้าจีน

    26. ปี 2019 ที่ผ่านมานี้ทางรัฐบาลฮ่องกงแถลงข่าวว่าได้ส่งตำรวจไปลงด่านจนตรวจพบของกลางเป็นงาช้างนำเข้ามาจากแถบ ASEAN ตั้งมากกว่า 2,000 กิโลกรัมน่ะ ส่วนเกล็ดตัวนิ่มนั้นยึดมาได้มากกว่า 8,000 กิโลกรัม

    27. ส่วนจุดที่เป็นจุดพักสินค้า และเป็นคลังเก็บสินค้าที่ได้จากสัตว์หายากพวกนี้จะกระจายตัวไปอยู่รอบๆภูมิภาคของประเทศในกลุ่ม ASEAN เกือบทุกประเทศ (อันนี้คงไม่ต้องระบุว่ามีประเทศไหนบ้าง น่าจะพอเดาๆกันได้)

    28. ถ้าถามว่ารัฐบาลพม่ามีส่วนเกี่ยวข้องมาแต่แรกไหม ตอนแรกนั้นตอบได้ยากว่ามีหรือไม่มี เพราะการค้าขาย หรือการเปิดตลาดมืดอะไรพวกนี้มันกระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคที่มีชายแดนติดอยู่กับประเทศจีน ตามแถบยูนนาน

    29. ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันดีว่าพม่ามีชนเผ่า มีชาติพันธุ์ที่ตั้งกองกำลังติดอาวุธเป็นของตัวเองกันอยู่มากมายหลายกองกำลัง ในสกู๊ปหนึ่งของ Al Jazeera เขาตั้งข้อสังเกตไว้ว่าคนที่คอยเป็นตัวการจัดหาสัตว์พวกนี้ก็คือพวกกองกำลังติดอาวุธตามแนวชายแดนนั่นแหละ

    30. ที่มักจะหาลู่ทางทำเงิน หาทางสูบเงินจากพวกเศรษฐีชาวจีน หรือไม่ก็พ่อค้าคนจีนที่มักจะข้ามเขตแดนตรงยูนนานเข้ามายังพม่าเพื่อหาซื้อของไปขายที่จีน พอดีพม่ามีป่าก็เลยมีการติดต่อถามหาสัตว์ป่าหายากว่ามีขายไหม (เพราะที่จีนมันเอาไปทำยา ทำไวน์กันได้ กระดูกเสือยังเอาไปทำไวน์กินกันได้เลย เรียกว่า Hu gu jiu)

    31. ปี 2019 ที่ผ่านมามีรายงานเพิ่มมาด้วยว่าสมัยนี้เขาพัฒนาแล้ว มีการเปลี่ยนมาขายงาช้างกันบนแพลตฟอร์มออนไลน์กันด้วย ดีลกันตามเพจใน Facebook กันโดยไม่ต้องเสี่ยงออกไปนัดหากันที่ตลาดมืดได้เลย

    References
    1. บทความจาก Bangkok Post ชื่อ "Farming of rare animals in Myanmar decried"
    2. บทความจาก South China Morning Post ชื่อ "Tiger, pangolin farming in Myanmar risks ‘boosting China demand’, conservationists warn"
    3. บทความจาก The Straits Times ชื่อ "Law allowing tiger, pangolin farming risks 'fuelling demand'"
    4. บทความจาก Channel News Asia ชื่อ "Tiger, pangolin farming in Myanmar risks 'boosting demand'"
    5. บทความจาก Reuters ชื่อ "Myanmar torches illegal wildlife stockpile worth $1.3 million to deter smugglers"
    6. บทความจาก Myanmar Times ชื่อ "Using Myanmar as major transit point, illegal wildlife trade spreads in region"
    7. บทความจาก Myanmar Times ชื่อ "Illegal wildlife trade goes high-tech"
    8. บทความจาก Al Jazeera ชื่อ "Myanmar's wildlife trafficking hotspot"

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มีประเด็นตลกๆมาเล่าให้อ่านกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับฮ่องกง (อีกแล้ว) พอดีช่วงนี้ผมตามเรื่องในฮ่องกงอยู่ content อาจจะวนๆเวียนๆอยู่กับประเด็นในฮ่องกงสักหน่อย

    1. คืออย่างนี้ เมื่อวานที่ฮ่องกงเขามีพิธีเปิดสำนักงานด้านความมั่นคงแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Office of Safeguarding National Security ซึ่งเป็นสำนักงานที่จีนจะเอาไว้ใช้สอดส่อง ตรวจสอบพฤติกรรมของคนฮ่องกง ว่าอยู่กับร่องกับรอยตามที่จีนกำหนดเอาไว้หรือไม่

    2. ที่ตั้งของสำนักงานดังกล่าวนี้เดิมเคยเป็นโรงแรมมาก่อน ตั้งอยู่ในใจกลางแถบอ่าวคอสเวย์ใกล้วิคตอเรียพาร์ค จุดยุทธศาสตร์สำคัญของการรวมตัวในหมู่ม็๋อบและกลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงพอดีเลย

    3. ในวันพิธีเปิดเมื่อวานมี Carrie Lam เดินทางมาเป็นแขกพิเศษของสำนักงานด้วย ภายในงานมีการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ทางทหาร ด้านความมั่นคง ด้านข่าวกรอง และหน่วยกู้ระเบิดจากจีนไปรักษาความปลอดภัยรอบๆตึกอย่างเข้มงวด

    4. โดยสำนักงาน Office of Safeguarding National Security แห่งนี้จะมีอำนาจเต็มทุกอย่างในการบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง

    5. แปลว่า ทหาร สายลับ นักสืบ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวกรอง และความมั่นคงจากจีน ถ้ามีชื่อสังกัดอยู่ในสำนักงานแห่งนี้ ก็สามารถมีสิทธิสภาพเหนืออาณาเขต จะทำอะไรก็ได้ตามที่เห็นสมควรได้เลย ย

    6. ไม่ว่าจะจับกุม บุกทลายซ่องโจร สืบสวน สอบสวน จับใครมาขึ้นศาลก็ได้ ถ้าตีความแล้วเห็นว่าคนฮ่องกงคนไหนมีพฤติกรรมขัดต่อบทบัญญัติทางกฎหมายที่จีนเขียนเอาไว้

    7. กฎหมายยังเปิดช่องให้พาคนฮ่องกงที่ต้องสงสัยหิ้วกลับไปดำเนินคดี หรือขึ้นศาลที่จีนได้โดยไม่ต้องรอกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอีกด้วย เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่จากจีน จะทำอะไรในฮ่องกงก็ได้

    8. เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้กว้างๆว่า ถ้าคนฮ่องกงคนไหนมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายแบ่งแยกดินแดน ปลุกปั่น เป็นกบฎ ให้การสนับสนุนรัฐบาลต่างชาติ หรือพยายามดึงรัฐบาลต่างชาติเข้ามามีส่วนในกิจการฮ่องกงก็สามารถบุกไปรวบตัวได้เลย

    9. และกรณีที่มีการขึ้นศาลในฮ่องกง รัฐบาลจีนก็มีอำนาจในการสั่งเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาให้เป็นคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลจีนได้ทุกๆโอกาส

    10. นอกจากนี้กฎหมายใหม่ที่รัฐบาลจีนนำมาประกาศใช้นั้นยังขยายอำนาจให้แก่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงภายในฮ่องกงออกมาอีกด้วย

    11. โดยตำรวจฮ่องกงจะมีอำนาจเต็มในการดักฟัง สอดแนมประชาชน หรือจะค้นตัวค้นบ้านของประชาชนเมื่อไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น (และยังสามารถสั่งห้ามประชาชนออกนอกประเทศเป็นรายคนๆได้ด้วยเช่นกัน)

    12. นอกจากนี้ทาง Kevin Yeung รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯของเกาะฮ่องกงยังออกมาประกาศมาตรการควบคุมเพิ่มเติมอีกด้วยว่าภายใต้กฎหมายใหม่ที่รัฐบาลจีนนำมาบังคับใช้นี้

    13. คนที่เป็นเยาวชน วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาภายในเกาะฮ่องกงทุกคนจะถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในฮ่องกง

    14. ใครที่ยังเป็นเด็กอายุน้อยๆ เด็กมัธยม เด็กอะไรพวกนี้จะถูกแบนออกจากการเมือง ทั้งภายในโรงเรียน และภายนอกโรงเรียน (แปลง่ายๆว่าห้ามออกมาก่อม็อบ)

    15. ถ้าจะให้ลงรายละเอียดก็คือ ทุกๆกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ว่าจะร้องเพลงที่มีเนื้อหา ข้อความ ความหมายทางการเมือง อย่างเพลง Glory to Hong Kong หรือเพลงอะไรก็ตามที่สามารถตีความได้ว่าเป็นการต่อต้านจีน

    16. ห้ามนักเรียน นักศึกษานัดกันประท้วงหยุดเรียน หรือโดดเรียนด้วยเหตุผลทางการเมืองไม่ว่าจะในระดับโรงเรียน หรือในระดับชาติ ระดับรัฐบาลก็ตาม

    17. ห้ามพก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสิ่งของ หรือวัตถุอะไรก็ตามที่มีความหมายไปในทิศทางที่ต่อต้านรัฐบาลจีน และการแบ่งแยกดินแดน การเรียกร้องสิทธิประชาธิปไตยภายในฮ่องกง

    18. ห้ามโพสต์ข้อความหรือสโลแกนทางการเมือง โดยเฉพาะในโรงเรียน เพลงอะไรก็ตามที่มีเนื้อหาการเมืองไปในทิศทางที่ตีความได้ว่าต่อต้านจีน หรือเกี่ยวข้องกับการประท้วงจีนจะถูกสั่งห้ามไม่ให้เปิด ไม่ให้ร้องโดยเด็ดขาด

    19. นอกจากนี้เด็กๆนักเรียน นักศึกษาทั้งหมดจะถูกสั่งห้ามออกมารวมตัวกันประท้วง ตะโกนโหวกเหวกเรียกร้องทางการเมืองอะไรต่างๆอีก ห้ามแม้แต่การออกมายืนจับมือกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆด้วย

    20. พูดง่ายๆก็คือ อะไรก็ตามที่เป็นการสื่อสารทางการเมืองนั้นล้วนไม่สมควร และจะถูกสั่งห้าม สั่งแบนทั้งหมด นักเรียนฮ่องกงต่อจากนี้ไปจะไม่มีสิทธิยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกแล้ว ให้มีหน้าที่เรียนกันอย่างเดียว

    21. หนังสือ หรือสื่อการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนแนวคิดประชาธิปไตยก็จะถูกโละออกจากห้องสมุดสาธารณะทั้งหมด และจะถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาด้วยว่าหนังสือเหล่านั้นขัดต่อกฎหมายฉบับใหม่หรือเปล่า

    22. กระทรวงศึกษาของฮ่องกงนั้นแถลงไว้ว่าไม่อยากให้นักศึกษา นักเรียน หรือเยาวชนยุ่งกับการเมืองมากจนเกินไป ขอให้ดูการก่อม็อบและการประท้วงในปี 2019 เป็นตัวอย่างที่มีนักเรียน นักศึกษาออกมาร่วมจำนวน ทำให้โดนตำรวจรวบไปไม่ต่ำกว่า 1,600 คน

    23. ต่อจากนี้ไปคนฮ่องกงคงเคลื่อนไหว หรือทำการประท้วงรัฐบาลจีนได้ลำบากขึ้นเยอะ กฎหมายใหม่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มขึ้นเยอะมาก แทบจะไม่มีช่องว่างให้คนออกมาเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพกันแบบเมื่อก่อนเลย

    24. ยิ่งมีสำนักงานเจ้าหน้าที่จีนตั้งอยู่ใกล้ๆจุดชุมนุมและจุดก่อม็อบแถวๆวิคตอเรียปาร์คด้วยแล้วยิ่งทำให้ความเสี่ยงของคนที่ออกมาชุมนุม เคลื่อนไหวประท้วงรัฐบาลจีนมีสูงมากขึ้น ทีนี้ใครออกมาประท้วงเมื่อไร เจ้าหน้าที่จีนก็แค่วิ่งออกมาจากตึกแล้วบุกไปรวบตัวได้เลย

    References
    1. บทความจาก Reuters ชื่อ "China converts Hong Kong hotel into new national security office'"
    2. บทความจาก Al Jazeera ชื่อ "'Historic moment': China opens security office in Hong Kong"
    3. บทความจาก BBC ชื่อ "Hong Kong pupils banned from political activity"
    4. บทความจาก Hong Kong Free Press ชื่อ "Hong Kong hotel transformed into national security office"
    5. บทความจาก The Guardian ชื่อ "Protest anthem banned in Hong Kong schools as new security office opens"

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เรื่องฮ่องกงนี้คุย 3-4 โพสต์ก็ยังไม่น่าจะจบ ช่วงนี้กระแสมาค่อนข้างแรง ที่ต่างประเทศมีแต่คนพูดถึงเรื่องฮ่องกงทุกวัน ไม่ว่าจะในระดับหนังสือพิมพ์ ใน Twitter ในนิตยสารออนไลน์ แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดภายในฮ่องกงขณะนี้นั้นค่อนข้างน่าสนใจ

    1. ขออนุญาตต่อจากโพสต์เมื่อ 2-3 วันก่อนเลยละกัน คือ รัฐบาลจีนเขาประกาศจะนำร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยที่ทางรัฐบาลจีนเป็นฝ่ายร่างขึ้นมาประกาศใช้ภายในฮ่องกง

    2. ซึ่งร่างดังกล่าวก็ถูกรัฐบาลจีนนำมาประกาศใช้จริงๆโดยเริ่มให้มีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม หลังจากวันที่ 1 นี้ถ้าใครทำอะไรที่เข้าข่ายขัดต่อตัวบทกฎหมายดังกล่าว รัฐบาลจีนก็จะถือสิทธิในการดำเนินคดีได้เลย ตั้งผู้พิพากษาคนไหนก็ได้ที่รัฐบาลจีนชอบ

    3. คนฮ่องกงก็เลยออกมาก่อม็อบ ประท้วงกันยกใหญ่ ตอนแรกออกมากันแค่หลักไม่กี่ร้อยคน แต่พอมาวันพุธที่ผ่านมาคนออกมาเพิ่มเป็นจำนวนหลักพันๆคน เพื่อที่จะแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลจีน ให้ถอยออกจากพฤติกรรมลุแก่อำนาจเหล่านั้น

    4. จึงเกิดมีการปะทะกันขึ้นระหว่างม็อบฮ่องกง และกลุ่มตำรวจปราบจลาจล (ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บเพราะถูกม็อบกระทืบด้วย) การปะทะกันเมื่อวันพุธก็เหมือนทุกครั้ง คือเจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจเอาปืนฉีดน้ำ กับสเปรย์พริกไทย และแก๊สน้ำตามาไล่ยิงใส่ผู้ชุมนุม

    5. สถานการณ์ในฝั่งม็อบเริ่มตึงเครียดมากขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนส่งสัญญาณขู่มาว่าใครหรือม็อบคนไหนที่ฝ่าฝืนกฎหมายด้านความมั่นคงที่จีนนำมาประกาศใช้ จะต้องถูกลงโทษ (ฝั่งตำรวจเผยว่าอาจจะมีการเชือดไก่ให้ลิงดูสัก 1-2 คนก่อน คือให้ยัดข้อหาฝ่าฝืนตัวบทกฎหมายฉบับใหม่นั้นเลย)

    6. แกนนำม็อบฮ่องกงคนหนึ่งชื่อ Nathan Law อดีตนักการเมืองที่อายุน้อยที่สุด จากสภา LegCo (อดีตผู้ก่อตั้งพรรค Demosisto) เผยว่าเขาได้เข้าไปวิดีโอคอลไปหาสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาเพื่อแสดงออกถึงความกังวลว่าฮ่องกงไม่ปลอดภัยสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว

    7. Nathan Law กังวลว่าเขาจะถูกตำรวจบุกมารวบตัวในสถานที่พักอาศัย แล้วส่งตัวไปคุมขัง หรือพิจารณาคดีที่ศาลในจีนแผ่นดินใหญ่ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งภายในพรรค Demosisto ที่เขาตั้งขึ้นมา (พร้อมประกาศร่วมกับแกนนำพรรคคนอื่นๆว่าจะยุบพรรค Demosisto ทิ้ง)

    8. Nathan Law อ้างเหตุผลว่า "การปฏิวัติวัฒนธรรม" ครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่คนฮ่องกงควรกลัว เขาจึงตัดสินใจที่จะหลบหนี และลี้ภัยออกนอกฮ่องกงไปยังประเทศอื่นๆ (คาดว่าน่าจะหนีไปตั้งแต่ประมาณวันพุธ)

    9. เช้าวันพฤหัส Nathan Law ประกาศว่าเขาได้ลี้ภัยมายังประเทศอื่นที่ปลอดภัยแล้ว แต่ขอปิดข่าวว่าหนีมาอยู่ประเทศไหน เพราะไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่หรือสายลับจากรัฐบาลจีนตามมารังควาน

    10. Nathan Law สัญญาว่าจะยังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยภายในฮ่องกงอยู่เช่นเดิมอย่างเคร่งครัด และจะไม่มีการยอมแพ้ต่อความเลวร้ายของรัฐบาลจีน Nathan Law ยังเชื่ออีกด้วยว่าจิตวิญญาณแห่งม็อบฮ่องกงยังคงแข็งแรงดีอยู่

    11. แกนนำและสมาชิกของคนในกลุ่มม็อบฮ่องกงเริ่มทยอยหลบหนี และลี้ภัยออกมานอกเกาะฮ่องกงทีละคนเรื่อยๆ ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันระบุว่าตั้งแต่เกิดเหตุม็อบและจลาจลภายในฮ่องกงเมื่อปี 2019 นั้น มีคนฮ่องกงติดต่อขอลี้ภัยไปยังไต้หวันแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คนแล้ว

    12. และไต้หวันยังคงยินดีต้อนรับชาวฮ่องกงผู้รักประชาธิปไตยให้เดินทางหนีอิทธิพลของรัฐบาลจีนแล้วข้ามมาอยู่อาศัย หางานทำ หาที่เรียน สร้างครอบครัวที่ไต้หวันได้ รัฐบาลไต้หวันยินดีช่วยเหลือเต็มความสามารถ

    13. ทางด้าน Joshua Wong นั้น ล่าสุดเขาได้ออกมาประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศทั่วโลกนั้นควรเข้าข้างฮ่องกง เห็นใจฮ่องกง และยืนหยัดอยู่เคียงข้างชาวฮ่องกง ที่โดนรัฐบาลจีนรุกล้ำย่ำยีประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางการเมืองของพลเมืองชาวฮ่องกงทุกๆคน

    14. ทาง Joshua Wong ได้สาบานอย่างกล้าหาญว่าเขายืนยันที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยภายในฮ่องกง และจะไม่หนีไปไหน

    15. Joshua Wong ยังกล่าวอีกว่า "จีนไม่มีสิทธิและไม่มีวันที่จะปิดปากชาวฮ่องกง และเสียงเรียกร้องแห่งประชาธิปไตยของฮ่องกงได้โดยเด็ดขาด และชาวฮ่องกงจะไม่มีวันยอมแพ้ [หรือปล่อยให้จีนกระทำการลุแก่อำนาจต่อไป]"

    16. จากท่าทีของ Joshua Wong ขณะนี้เท่าที่ตามๆข่าวมา สาเหตุข้อสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้เขายังไม่ยอมหนี หรือลี้ภัยออกจากเกาะฮ่องกง ตามคำชักชวนของเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์นั้น

    17. อาจเป็นเพราะว่าเขามีแผนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในสภา LegCo สนามเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ของฮ่องกงอยู่ ตามที่เคยได้ประกาศเอาไว้เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน ว่าเขาตั้งใจที่จะลงสมัครเป็น ส.ส. ในเขตเกาลูนตะวันออก

    18. ปี 2019 ที่ผ่านมา Joshua Wong ก็ตั้งใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในสภาท้องถิ่น แต่ถูกวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการลงสมัครไปเสียก่อน ทำให้ไม่สามารถลงสมัครได้ ปี 2020 นี้ก็เลยมีแผนที่จะลงสมัครอีกรอบในสนาม LegCo)

    19. ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่เขายังไม่ยอมหนี คิดว่าน่าจะเป็นเพราะ Joshua Wong เขายังคงมีคดีติดตัวอยู่ในชั้นศาลอีกหลายคดี จนทำให้การขยับขยายเคลื่อนย้ายไปต่างถิ่นค่อนข้างลำบากสักหน่อย (มีประมาณ 3 คดี เพราะโดนฟ้องร้องในกรณีที่เขาออกไปชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จนเป็นบ่อเกิดของความวุ่นวายและการจลาจลในช่วงปีก่อนๆ)

    20. แต่ถ้าพูดในเรื่องของความเป็นไปได้ โอกาสที่ Joshua Wong จะได้ลงเลือกตั้งเป็นผู้แทน หรือ ส.ส. ภายในฮ่องกงนั้นมีริบหรี่ ยิ่งโดยเฉพาะขณะนี่ทางรัฐบาลจีนเขาส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้ามาทำการในฮ่องกงอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไร ทางจีนก็คงจะพยายามที่จะขัดขา

    21. หรือไม่ก็สกัดดาวรุ่งไม่ให้ Wong นั้นสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทน หรือ ส.ส. ใน LegCo ได้ในอนาคตอยู่ดี อีกทั้งตอนนี้ทางจีนแผ่นดินใหญ่ค่อนข้างได้เปรียบสุดๆในทางกฎหมาย ผู้พิพากษา และฝ่ายความมั่นคงส่วนใหญ่ก็เป็นคนของรัฐบาลจีนทั้งหมด

    22. การจะยัดข้อหา หรือตีความให้ Joshua Wong มีความผิดหรือขาดคุณสมบัติก็คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก หากประธานาธิบดี Xi Jinping มีใบสั่งออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ยังไง Joshua Wong ถ้าไม่ติดคุก ก็อาจจะต้องถูกลากเข้าไปดำเนินคดีที่จีนแผ่นดินใหญ่ ถ้าคราวนี้มีการวินิจฉัยว่าเขาทำผิดกฎหมายขึ้นมาอีก (เพราะกฎหมายฉบับใหม่นั้นเปิดช่องให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปยังจีนได้)

    23. Joshua Wong ยังเขียนไว้บน Facebook เมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยว่า "เขาจะไม่หนีไปไหน และจะปกป้องฮ่องกงซึ่งเป็นบ้านของเขา และจะสู้กับรัฐบาลจีนไปจนกว่ารัฐบาลจีนจะมาปิดปากเขาหรือโยนเขาออกไปจากเกาะฮ่องกง"

    References
    1. บทความจาก BBC ชื่อ "Nathan Law: Leading young democracy activist flees Hong Kong"
    2. บทความจาก Foreign Policy ชื่อ "Why Taiwan's Assistance to Hong Kong Matters"
    3. บทความจาก CNBC ชื่อ "Taiwan slams Hong Kong national security law, opens office to help city’s residents"
    4. บทความจาก South China Morning Post ชื่อ "Former Occupy student leaders Joshua Wong, Nathan Law in bid for Hong Kong opposition camp’s endorsement to run in Legislative Council elections"
    5. บทความจาก The Straits Times ชื่อ "World must 'stand with Hong Kong': Democracy activist Joshua Wong"

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มีแผนตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในประชาชนให้ได้ 2 ล้านราย หรือประมาณ 20% ของประชากรทั้งประเทศภายในสองเดือนข้างหน้า หลังพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นระลอกใหม่จากการผ่อนปรนข้อจำกัดต่าง ๆ | ที่มาภาพ: Middle East Online https://bit.ly/2BNRtwZ

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 5-11 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/12/watch/10656

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงปานามาซิตีเผยว่าผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากวันละ 200 คนเป็น 1,100 คนภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ไม่มีโรงพยาบาลใดสามารถรับมือกับผู้ป่วยจำนวนขนาดนี้ได้ ทั้งนี้ปานามา เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19 หนักที่สุดในอเมริกากลาง | ที่มาภาพ: AP (อ้างใน News18.com)

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 5-11 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/12/watch/10656

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาคเอกชนมีข้อเสนอให้จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจจาก COVID-19 รวมถึงแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการลดภาระ เช่น การขยายเวลาพักชำระหนี้ การเสริมสภาพคล่อง เป็นต้น พร้อมกับกระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดา และส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง | ที่มาภาพประกอบ: สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ https://bit.ly/328blpi

    อ่านเพิ่มเติม 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 5-11 ก.ค. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/12/watch/10656

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สภาเกษตรฯ เปิดประเด็นจุดพลุ “อังกฤษ” แบนกะทิไทย ชี้ผิดฝาผิดตัว ไม่ใช่ของไทย เป็นพ่อค้านำเข้ามะพร้าวอินโดฯ สวมแบรนด์ไทย เพราะผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าส่งออก

    โดยปกติความต้องการใช้มะพร้าว อยู่ที่ 1.1 ล้านตัน/ปี ไทยผลิตได้ 8 แสนตัน/ปี ล่าสุดกรมการค้าต่างประเทศ ได้ให้ข้อมูลว่าประเทศไทยยังไม่มีการอนุมัติให้นำเข้ามะพร้าวผลภายใต้กรอบความตกลง AFTA มีเพียงการนำเข้าภายใต้กรอบความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) อัตราภาษี 54% โดยในปี 2562 มีการนำเข้ารวม 112,130 ตัน ลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีการนำเข้าถึง 197,054 ตัน

    นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ คนที่ 2 ในฐานะประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “มะพร้าว” ในปัจจุบันไทยมีไม่เพียงพอกับการบริโภค มะพร้าวที่ “อังกฤษ”แบน เป็นมะพร้าวมาจากอินโดนีเซีย แต่มาสวมแบรนด์เมดอินไทยแลนด์ ไม่ใช่มะพร้าวไทย

    ส่วนที่ 2 “ลิงเก็บมะพร้าว” ไม่ใช่ลิงป่า ขืนปล่อยไปก็ตายเพราะหากินเองไม่เป็น และทำให้เชิงท่องเที่ยวไปหมดแล้ว ซึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมี 2 แห่ง คือ ที่เกาะสมุยและในบาง เท่านั้น แค่ 10% คาดว่าคลิปที่เอาไปแชร์นสันนิษฐานมาจากที่นี่ และที่ 3 ไม่คุ้ม เพราะลิงเก็บได้ทีละลูก ถ้าคนสอย ร่วงทีละทะลาย ต้องชี้แจงให้โลกเข้าใจว่าที่แบน “ไม่ใช่มะพร้าวไทย” มะพร้าวนำเข้ามาจากอินโดฯเพื่อการส่งออก เพราะมะพร้าวไทย แค่บริโภคในประเทศก็ไม่เพียงพอแล้ว

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เป็นที่จับจ้องทันที เมื่อ ปธน.บราซิลติดเชื้อโควิด-19 หลังจากไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ แถมยังดำเนินนโยบายที่หละหลวมด้านการป้องกัน จนนำพาให้บราซิลติดเชื้อเป็นอันดับ 2 ของโลก ติดตามจากรายงาน

     

แชร์หน้านี้

Loading...