ติดตามสถานะการณ์

May 26 , 2020 การบินไทยรับคนไทยจากอิตาลี
.
นาวาอากาศตรี อนิรุต แสงฤทธิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน ในฐานะหัวหน้าศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ (THAI Operations Control Center : TOCC) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดเที่ยวบินพิเศษรับคนไทยจากอิตาลี กลับประเทศไทย โดยได้จัดเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โรม เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เพื่อส่งชาวอิตาลีที่ตกค้างในประเทศไทยกลับประเทศ รวมทั้งรับผู้โดยสารชาวไทยที่ตกค้างในอิตาลีกลับประเทศไทย
.
โดยการบินไทยได้รับผู้โดยสารชาวไทยที่ตกค้างในอิตาลี เเละแจ้งความประสงค์กลับไทย และลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม จำนวน 37 คน โดยเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำ เที่ยวบินที่ ทีจี 8083 เส้นทาง โรม-กรุงเทพฯ ออกจากโรม เวลา 15.45 น. (เวลาท้องถิ่น) เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ถึงกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (วันที่ 26 พฤษภาคม 2563) เวลา 07.35 น.
.
และขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ทำการขนส่งผู้โดยสารชาวอิตาลีจำนวน 158 คน กลับประเทศ โดยเที่ยวบินที่ ทีจี 8082 เส้นทาง กรุงเทพฯ-โรม ออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 น. ถึงโรมในวันเดียวกัน เวลา 14.30 น. (เวลาท้องถิ่น) โดยมีพนักงานการบินไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ท่าอากาศยานฟูมิชิโน กรุงโรม อิตาลี และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
.
#การบินไทย #รับคนไทย #อิตาลี #Misterban

 

May 26 , 2020 สมอ. ตรวจร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ กทม. พบน้ำดื่มยี่ห้อดัง “ซีพีเฟรชมาร์ท” แสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต วางขายในร้าน ซีพี เฟรชมาร์ท 4 สาขา กว่า 2,900 ขวด จึงอายัดไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สมอ. ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ขยายผลเข้าตรวจสอบร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ กทม. อย่างต่อเนื่อง หลังพบเบาะแสว่ามีการจำหน่ายสินค้าที่แสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบพบว่า มีน้ำดื่มยี่ห้อ “ซีพีเฟรชมาร์ท” จำนวน 2,978 ขวด แสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต วางขายอยู่ในร้านซีพี เฟรชมาร์ท (CP Freshmart) 4 สาขา ได้แก่ 1. สาขาประชาราษฎร์บำเพ็ญ // 2. สาขาเพชรบุรี 38/1 // 3. สาขาออร์ชาร์ด ไมโครมอลล์ และ 4. สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
.
ทั้งนี้ สินค้าดังกล่าวจัดจำหน่ายโดยบริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งผลิตโดยบริษัท ฮอลแลนด์ สตาร์บรรจุภัณฑ์ จำกัด สมอ. จึงได้ยึดอายัดสินค้าทั้งหมดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และแจ้งให้บริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด นำสินค้าดังกล่าวออกจากชั้นวางขายในร้าน ซีพี เฟรชมาร์ท พร้อมทั้งให้เรียกคืนสินค้าจากร้านจำหน่ายทั่วประเทศทันที
.
นอกจากนี้ สมอ. ยังได้ขยายผลเข้าตรวจสอบโรงงานของ บริษัท ฮอลแลนด์ สตาร์บรรจุภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำดื่มยี่ห้อดังกล่าว พบอีกเกือบ 400,000 ขวด มีทั้งยี่ห้อ “ซีพี และ ซีพีเฟรชมาร์ท” แสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ยึดอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
การนำเครื่องหมาย มอก. ไปแสดงบนสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมาย สร้างความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้า ว่ามีมาตรฐาน และได้รับการรับรองจาก สมอ.
.
ทั้งนี้ หากผู้ผลิตต้องการแสดงเครื่องหมาย มอก. บนสินค้า จะต้องขออนุญาตจาก สมอ. เพื่อทำการตรวจสอบก่อน จึงจะสามารถนำเครื่องหมายไปแสดงบนสินค้าได้ ซึ่งสามารถยื่นขอใบอนุญาตผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกมาตรฐาน
.
สำหรับกรณีนี้ผู้ผลิตมีความผิดฐานใช้เครื่องหมายมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนร้านค้าที่นำสินค้าดังกล่าวมาขาย มีความผิดฐานจำหน่ายสินค้าที่ใช้เครื่องหมายมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
#มอก #บุกจับ #ซีพีเฟรชมาร์ท #Misterban

 

May 26 , 2020 สภาพัฒน์เปิดรับโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจบโควิดถึง 5 มิ.ย.นี้ ภายใต้กรอบเงินกู้ 400,000 ล้านบาทเพื่อนำเสนอครม. 7 ก.ค.63 โดย 1 ในโครงการที่กำลังพิจารณาคือ ไทยเที่ยวไทย แจกคูปองลดค่าที่พักให้ 40-50% กระตุ้นท่องเที่ยว
.
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 มิ.ย.2563 จะเปิดให้หน่วยงานราชการนำเสนอแผนโครงการฟื้นฟูวงเงินรวม 400,000 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้พิจารณาภายในวันที่ 2 กรกฎาคม และนำเสนอ ครม.วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 หลังจากนั้นจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันที ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2563
.
โดยกรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ จะนำเม็ดเงินบางส่วนไปกระตุ้นการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ และรัฐบาลอาจจะมีโครงการไทยเที่ยวไทย เพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการแจกคูปองลดราคาค่าที่พักให้ 40-50% เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่มีรายได้ออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณา
.
นอกจากนี้จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งจะพยายามเน้นสร้างอุตสาหกรรมให้มีความยั่งยืน ในภาคของการส่งออก เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะไปสอดรับกับแรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งจะเข้าไปช่วย สร้างงาน สร้างรายได้ระดับชุมชน ซึ่งจะเน้นการเกษตรยกระดับการผลิต และการท่องเที่ยวชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชน และส่งเสริมการตลาด คาดว่าแนวทางนี้จะใช้งบประมาณประมาณ 50% หรือประมาณ 200,000 ล้านบาทจากงบประมาณทั้งหมด
.
โดยแต่ละโครงการจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2564 พร้อมยืนยันไม่มีการจัดสรรโควตาสัดส่วนงบประมาณให้แต่ละกระทรวง โดยจะเน้นจัดสรรงบให้โครงการที่เสนอมาตามแนวทางดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องใช้งบทั้งหมด 400,000 ล้านบาท
.
#ไทยเที่ยวไทย #แจกคูปอง #ลดราคา #Misterban

 

เช็คกันชัดๆ ว่าเจ้าเชื้อร้ายโควิด-19 สามารถเกาะบนพื้นผิวได้นานขนาดไหน!! ดังนั้นเพื่อความสบายใจและปลอดภัย ก่อนและหลังหยิบจับสิ่งของ ต้องทำความสะอาดด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์กันด้วยนะคะ แอดมินเป็นห่วงน้าาา
.
#ตู้เย็น #น้ำ #อากาศ #ผ้า #ทิชชู่ #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan

 

May 26, 2020 พนักงานสายรถยนต์เตรียมตัวตกงาน ปิดโรงงานผลิตรถยนต์อีกรายในฝรั่งเศส French carmaker Renault could close plants and cut jobs: union

เรโนลต์ บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดังระดับโลกในประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารได้จัดประชุมกับกลุ่มสหภาพพนักงาน เพื่อให้รับทราบแผนการปรับลดค่าใช้จ่ายของเรโนลต์ครั้งสำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์ธุรกิจรถยนต์ที่ตกต่ำอย่างรุนแรงครั้งประวัติศาสตร์ของโลก ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19

สำหรับแผนการลดค่าใช้จ่ายดังกล่าว ตั้งเป้าหมายการประหยัดเม็ดเงินที่ 2,000 ล้านเหรียญยูโร หรือกว่า 70,000 ล้านบาท ซึ่งจะประกอบด้วย การปลดพนักงานที่ยังไม่ได้เปิดเผยจำนวนพนักงานที่ชัดเจน และการปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในหลายพื้นที่ การประชุมกับกลุ่มสหภาพแรงงานเรโนลต์ครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ฝรั่งเศส ซึ่งกำลังพิจารณาเงินกู้ช่วยเหลือเรโนลต์เป็นมูลค่า 5,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 179,850 ล้านบาท เตือนว่ายี่ห้อรถยนต์เรโนลต์อาจปิดฉาก หรือหายออกจากตลาดรถยนต์ หากบริษัทเรโนลต์ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผลกระทบที่รุนแรงของวิกฤตโรคระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ ค่ายรถยนต์เรโนลต์มีผลประกอบการที่ย่ำแย่เกิดขึ้นในปี 2562 จากหลายสาเหตุส่งผลให้เกิดการขาดทุนสุทธิที่เกิดในปีที่แล้ว นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 10 ปี ทั้งจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกและในยุโรปชะลอตัวอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนตลอดทั้งปีที่แล้ว ปัจจัยความอื้อฉาวเกี่ยวกับนายคาร์ลอส กอห์น อดีตผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจรถยนต์ร่วมกันระหว่าง นิสสัน-มิตซูบิชิ-เรโนลต์

#เรโนลต์ #ปิดโรงงาน #ปลดพนักงาน #ตกงาน #โควิด19 #ฝรั่งเศส #covid19 #renault #jobcut #misterban #btimes

 

May 26, 2020 ราคาน้ำมันดิบเงียบเหงา ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดต่ำกว่า 34 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกปิดลงกว่า 10 ดอลลาร์ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันหยุดสำคัญ

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 33.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 34.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.19 ดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุจากความกังวลในสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า และด้านการเมืองระหว่างประเทศ

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,726.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -9.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจากประเทศขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในขณะที่ความกังวลในสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนด้านเศรษฐกิจการค้า และด้านการเมืองระหว่างประเทศมีความเข้มข้นมากขึ้น

#ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

 

May 26 , 2020 ท็อปส์ มาร์เก็ตชี้แจงปมหน้ากากเฟซชิลด์บริษัท ไอคิดส์ 888 ไม่ได้มาตรฐาน ยันไม่ได้เจตนาในการจำหน่ายสินค้าดังกล่าว พร้อมเรียกคืนสินค้าทั้งหมดออกจากชั้นวางจำหน่ายทุกสาขาทันที
.
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ชี้แจงกรณีจำหน่ายหน้ากากเฟซชิลด์แสดงเครื่องหมาย มอก.ไม่ได้รับอนุญาตว่า
.
ตามที่มีกระแสข่าว สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้าตรวจสอบและอายัดหน้ากากเฟซชิลด์แสดงเครื่องหมาย มอก.685-2540 โดยไม่ได้รับอนุญาต นำเข้าจากต่างประเทศโดย บริษัท ไอคิดส์ 888 จำกัด จำนวน 16 ชิ้นที่ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาบางแคนั้น

ท็อปส์ มาร์เก็ต ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ มิได้มีเจตนาในการจำหน่ายสินค้าดังกล่าว และได้ทำการเรียกเก็บคืนสินค้าทั้งหมดออกจากชั้นวางจำหน่ายทุกสาขาในทันที พร้อมแจ้งกลับบริษัท ไอคิดส์ 888 จำกัด ถึงความผิดข้างต้นเรียบร้อยแล้ว
.
ทั้งนี้บริษัทขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีนโยบายในการจำหน่ายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ หรือผิดกฎหมายแต่อย่างใด
.
#ท็อปส์มาร์เก็ต #เฟซชิลด์ #หน้ากาก #ไม่ได้มาตรฐาน #Misterban

 

ดิจิตอลหยวน จะแน่สักแค่ไหน! ‘ถือดี’ เช่นไร ริจะสยบดอลลาร์!

ปัจจุบัน โลกใช้ดอลลาร์จ่ายเงิน 44% แล้วหยวนล่ะ … 1.66% อืมม์ ขาดลอย (ข้อมูลจาก SWIFT)

โลกเก็บดอลลาร์เป็นทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ 61% แล้วหยวนล่ะ … 1.96% อืมม์ ไม่เห็นฝุ่น (ข้อมูลจาก IMF)

แต่ เอ๊ะ 5 ปีที่แล้ว ดอลลาร์ในทุนสำรองฯ ยังตั้ง 66% อยู่เลย รึนี่คือสัญญาณเตือน! มันกำลังลดลงเรื่อยๆแล้ว ใช่หรือไม่?

จะบ้าเหรอ ถ้าลดแค่นี้ อีกครึ่งศตวรรษ หยวนก็ยังมิใช่จะแซงได้

ถ้าเป็นหยวนในร่างเดิมอาจไม่มีวันชนะ แต่ถ้า ‘แปลงกาย’ ล่ะ … และแล้ว ดิจิตอลหยวน ก็ถือกำเนิดขึ้น!!!

.

ว่าแต่ แปลงแล้วมันจะเลิศล้ำเช่น “ซูเปอร์ไซย่า” … หรือแปลงแล้วไม่ต่างจากนาฬิกาแบบเข็มหมุน พอดิจิตอลก็กลายเป็นแบบขึ้นเลข ไม่ได้วิเศษวิโสกว่าเดิมสักเท่าไร ไม่ได้มีเวลางอกเพิ่มมาสัก 2-3 นาที … แล้วหยวนจะเป็นเยี่ยงไหน?

1. ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ มีหยวนเดียวหยวนเดิม แต่มี “แพลตฟอร์ม” ดิจิตอล

.

2. แปลว่าอะไร? ไม่ต้องมี ‘วัตถุ’ เป็นสื่อกลาง เหรียญกับแบงค์กระดาษไม่จำเป็นอีกต่อไป จ่ายกันผ่าน ‘อากาศธาตุ’ ก็ได้ --- เงินจะมีสภาพเหมือนความรัก “มองไม่เห็น แต่มีอยู่”

.

3. แล้วมันจะต่างกับที่ทุกวันนี้คนจีนใช้มือถือจ่ายด้วยแอป “อาลีเพย์” รึ “วีแชทเพย์” ยังไง?

พวกนั้นเราต้องมี “บัญชี” หรือ “บัตรเครดิต” ไปผูกไว้ ให้ตัดเงินจากตรงนั้น แต่ถ้าดิจิตัลหยวนน่ะไม่ใช่ มันตัดจากมือถือเราตรงๆได้เลย --- เสมือนมือถือเราเป็น “กระเป๋าตังค์” ยังงั้น!

.

4. มันก็แค่ลูกเล่น ‘มายากล’ ทางเทคโนโลยีเท่านั้นเองนิ? … อย่าเพิ่งดูแคลนขนาดนั้น ลองจินตนาการไปไกลกว่าซื้อปวยเล้งจากเจ๊กิมลั้งในตลาดสดสิ

ถ้าเราจ่ายเงินร้อยล้านหยวนจากเมืองไทยไปให้เถ้าแก่เซินเจิ้น ที่ผ่านมาเราต้องหอบเงินบาทไปแลกเงินหยวนผ่านแบงค์พาณิชย์สักเจ้า เพื่อโอนข้ามแผ่นดิน แล้วต้องกรอกโน่นนี่ แสดงหลักฐานให้วุ่น

(แถมมีไม่กี่แบงค์ที่ทำหยวนให้ เพราะงั้น ถึงจ่ายไปจีนก็ทำเป็นดอลลาร์ซะส่วนใหญ่ เว้นแต่เราจะเปิดบัญชีหยวนที่จีน ซึ่งยิ่งยุ่งเข้าไปอีก และไม่ใช่อยากทำก็ทำได้ง่ายๆด้วย)

แต่ถ้าเป็นดิจิตัลหยวนเมื่อใด ช่างหัวแบงค์มัน! เราชักออกจาก “กระเป๋าตังค์” เรา ยัดเข้า “กระเป๋าตังค์” อาเฮีย แสนง่ายดาย (แค่ต้องเซ็ตระบบใหม่หน่อย)

.

5. เฮ้ย งี้ก็ “ฟอกเงิน” กันให้ว่อนซิ แถมพวก “ธุรกิจมืด” เงินจะสะพัดคล่องสุดๆเลย ถ้าอ่อนตรวจสอบถึงปานนี้?

เปล่าเลย ตรงกันข้าม!

‘ด่านสกัด’ ทั้งหลายทั้งปวง โละออกหมดได้เลย เพราะดิจิตอลหยวนจะทำให้รัฐบาล ‘เกาะติด’ การไหลเวียนของเงินได้ทุกกระเบียด --- ว่าง่ายๆ นึกภาพเหมือนตอนนี้ เรา “ติดชิป” ฝังไปในเหรียญกับแบงค์กระดาษ ต่อให้เงินซอกซอนไปไหน ก็รู้ทุกย่างก้าว!

.

6. ชาวบ้านชาวช่องใช้จ่ายสะดวกง่ายสบายขึ้น แถมรัฐคุมเข้มการใช้เงินผิดกฎหมายได้อย่างถึงน้ำถึงเนื้อ นี่จะทำให้เงินหยวน ‘ติดปีก’ พร้อมเหินทะยานไป ‘ท้าชน’ ดอลลาร์

เพราะที่จีนหวัง แน่นอนว่าไม่ใช่กระตุ้นแค่ ‘ชาวบ้านชาวเมือง’ หากแต่กระตุ้น ‘ชาวโลก’ กระพือดิจิตอลหยวนให้กระหึ่ม!

.

ตัวอย่างข้อ 4. นั้น ข้างหนึ่งเป็นจีน แล้วถ้าสมมติเป็นอื่นๆหมดเลยล่ะ

อุซเบกิสถานซื้อของจากแองโกลา ปกติทำไง? ต้องเอาเงิน “ซอม” ของอุซเบฯ ไปแลกดอลลาร์ โอนผ่านแบงค์อุซเบฯ ไปยังแบงค์แองโกลา แล้วอีกฟากก็แลกดอลลาร์เป็นเงิน “ควันซ่า” ของแองโกลา

แบบนี้ เท่ากับต่างฝ่ายต่างต้องเสี่ยงกับ “ความผันผวน” ของอัตราแลกเปลี่ยน … เลี่ยงไม่ได้ ต้องทำ “บริหารความเสี่ยง” กับแบงค์อีก (เว้นแต่จะมีบัญชีดอลลาร์เลย)

แต่ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อใช้ดิจิตอลหยวนทั้งสองฝั่ง และที่สำคัญ ไม่ต้องผ่านแบงค์ด้วย!

.

7. ใครกันที่ตาลุกวาวสุดๆ? ก็พวกที่โดนเล่นคดี “คว่ำบาตรดอลลาร์” ไง --- ทั้ง ที่ “โดนไปแล้ว” อย่างอิหร่าน และที่ “เสี่ยงจะโดนได้ทุกเมื่อ” อย่างรัสเซีย --- เพราะถึงจะจ่ายด้วยเงินสกุลอื่น แบงค์ที่ไหนจะกล้าทำธุรกรรมให้ ใครก็ ‘หัวหด’ ตัวสั่นงันงกเพราะกลัวอเมริกาทั้งนั้น

ฉะนั้น ดิจิตอลหยวน … ใครใช้ไม่ใช้ไม่รู้ แต่แถวนี้ มีคนจอง!

.

8. ทางเลือกใหม่ที่ชวนลิ้มลอง

โลกนี้ ยังไม่เคยมีเงินดิจิตอลที่รับรองโดยธนาคารแห่งชาติหรือธนาคารกลางไหนมาก่อน

แต่ กำลังจะมี เร็วๆนี้

การใช้หยวนซื้อขายระหว่างประเทศ ที่ไม่ถึง 2% ของโลก จะขยับเป็นสิบเท่ายี่สิบเท่า อาจไม่ใช่ฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไปก็ได้

---

ดิจิตอลหยวน แน่พอไหม ที่จะเขย่าบัลลังก์ดอลลาร์?

ตอบว่าไง .

จีนส่งกระดาษคำตอบไปแล้ว (เป็นกระดาษที่มองไม่เห็น เพราะเป็นดิจิตอล ส่งผ่าน ‘อากาศธาตุ’)

… รอคำตอบของอเมริกาต่อไป

อีกไม่นานเกินรอ

---

หมายเหตุ

นาทีนี้ ดิจิตอลหยวน เป็น ‘ไอเดีย’ ที่ยังไม่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แต่ก็ ‘ใกล้ความจริง’

กำลังจะ ‘ทดลองใช้’ ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ “สงอัน” และน่าจะได้ ‘ชิมลาง’ ที่เมืองใหญ่อย่าง เฉิงตู และ เซินเจิ้น ต่อไป

---

ขอบคุณข้อมูลจาก จิตหงษ์ / กฤ. นิมมิน / แก้ว เมืองกาญจน์

https://www.swift.com/our-solutions...tracker/document-centre?tl=en#topic-tabs-menu

https://data.imf.org/?sk=E6A5F467-C14B-4AA8-9F6D-5A09EC4E62A4

 

“แค่หวัดเล็กน้อย”
ความผิดพลาดของประธานาธิบดีบราซิล
ที่ลากยาววิกฤตโควิด จนตายอันดับ 2 ของโลก
.
.
จนถึงวันนี้ บราซิล ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ มีผู้ป่วยโควิด – 19 ทะลุ 3.1 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 หมื่นคน ผู้ป่วยรายใหม่ต่อวัน เพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นคน และยอดผู้เสียชีวิตต่อวัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,188 คน เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา
.
ด้วยตัวเลขระดับนี้ ชัดเจนว่าบราซิลกำลังจะข้ามผ่านรัสเซีย ขึ้นเป็นที่ 2 ของโลกในไม่ช้า และด้วยอัตราเร่งขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าศูนย์กลางการระบาดใหม่ กำลังอยู่ที่บราซิล ตีคู่มากับสหรัฐอเมริกา ที่ยัง “ลดความชัน” กราฟไม่สำเร็จเหมือนกัน ยังคงพุ่งสูงต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกัน
.
จะต่างกันก็ตรงที่ สหรัฐฯ นั้นสามารถ “เทสต์” ประชากรได้มากถึง 13.5 ล้านคน ถึงได้เจอผู้ติดเชื้อ 1.6 ล้านคน แต่ในบราซิล เพิ่งเทสต์ได้เพียง 7 แสนคน ซึ่งหมายความว่ามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 42% ของจำนวนเทสต์ทั้งหมด ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ายังมีผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับการเทสต์ ใช้ชีวิตตามปกติอีกจำนวนมาก
.
หากเทียบเคียงโมเดลจากประเทศอื่น นักวิชาการด้านสาธารณสุขของบราซิลบอกว่าตัวเลขจริงของผู้ติดเชื้อในประเทศนี้ น่าจะสูงกว่าตัวเลขที่รายงานกว่า 15 เท่า หรือหมายความว่า ณ ขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อ มากกว่า 4.8 ล้านคน เข้าไปแล้ว
.
ย้อนกลับไปวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา บราซิล เริ่มมีผู้ติดเชื้อคนแรก เดินทางกลับจากแคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี จุดศูนย์กลางการระบาดในยุโรป นับเป็นประเทศแรกในอเมริกาใต้ ที่พบผู้ป่วยโควิด – 19 และหักล้างความเชื่อเดิมว่าภูมิภาคนี้ น่าจะปลอดภัยจากเชื้อโคโรนาไวรัส ที่กำลังระบาดในพื้นที่อื่น
.
ถัดจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ วันที่ 12 มี.ค. ไวรัส ก็คืบคลานเข้าใกล้ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำ “ขวาจัด” ของบราซิล ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น “ทรัมป์แห่งบราซิล” เมื่อฟาบิโอ วานกาเต็น เลขานุการด้านสื่อของเขา มีผลแล็บเป็นบวก และเป็นที่ฮือฮาในช่วงนั้น เพราะฟาบิโอ เพิ่งเดินทางไปพบประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไมอามี ก่อนหน้านั้นเพียง 1 สัปดาห์ เล่นเอาทั้งทรัมป์ ทั้งคณะทำงานในทำเนียบขาวต้องตรวจเชื้อกันวุ่น
.
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น ประธานาธิบดี โบลโซนารู ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้ “ไกลตัว” และไม่ควรหวาดวิตกเกินไป วันที่ 25 มี.ค. ในเวลาที่ยุโรปเจอวิกฤตใหญ่ ติดเชื้อกันหลักพันในหลายประเทศ โบลโซนารู กลับให้สัมภาษณ์สื่อว่าโรคนี้ เป็นเพียง “ไข้หวัดเล็กน้อย” เมื่อกินยา นอนพัก ก็หาย
.
ยาที่ประธานาธิบดีสนับสนุนให้ใช้คือยา คลอโรควิน ยาสำหรับรักษาโรคมาเลเรีย และไฮดรอกซีคลอโรควิน ซึ่งแม้จะมีงานวิจัยบางชิ้นสนับสนุนว่า “ได้ผลดี” กับโรคโควิด – 19 แต่บางรายกลับมีผลข้างเคียง เนื่องจากเมื่อใช้แล้วหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาจมีผลต่อชีวิต
.
นอกจากนี้ โบลโซนารู ยังตำหนิผู้ว่าการรัฐ – เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในหลายเมืองของบราซิลที่ตัดสินใจปิดเมือง ปิดสถานที่สำคัญ ซึ่งทำให้การค้าและการลงทุนหยุดนิ่ง ซ้ำยังตั้งคามด้วยว่า การปิดโรงเรียน ถือเป็นเรื่องที่ “เกินเหตุ” ไปหรือไม่ ทั้งที่เวลานั้น ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อกว่า 2,500 คนแล้ว
.
หลังจากนั้นไม่นาน ชาวบราซิลก็ได้ดู “ดราม่า” รอบใหม่ หลังประธานาธิบดี ออกมาปะทะกับ หลุยส์ เฮนริเก แมนเด็ตตา รมว.สาธารณสุข ที่ต้องการให้ “เว้นระยะห่างทางสังคม” หรือ Social Distancing รวมถึงสนับสนุนให้แต่ละรัฐ ออกมาตรการ “ล็อคดาวน์” เพื่อยุติการระบาด แบบที่ทั่วโลกทำกัน แต่ประธานาธิบดีกลับคัดค้านอย่างรุนแรง และเห็นว่าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ”
.
ในที่สุด กลางเดือน เม.ย. โบลโซนารู ก็ตัดสินใจปลด รมว.สาธารณสุขออก เพราะเห็นว่ามีแนวคิดขัดแย้งกับเขาตลอดเวลา และนโยบายของรัฐบาล ยังคงเป็นเหมือนเดิมคือต้องเปิดทุกธุรกิจให้เร็วที่สุด
.
แล้วเขาก็ทำสิ่งที่เหลือเชื่ออีกครั้ง โบลโซนารู ออกไปเดินจับมือ ถ่ายเซลฟี่ ร่วมชุมนุมกับผู้สนับสนุนต่อต้านการล็อคดาวน์ ขึ้นท้ายรถกระบะ เรียกร้องให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติทั่วประเทศ และเมินคำสั่งของผู้ว่าการรัฐทุกรัฐที่ปิดกั้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ...
.
ผลก็คือ ทั้ง สส.ส่วนใหญ่ในสภา ทั้งฝ่ายค้าน รวมถึงประชาชนทั่วไป แทนที่จะให้ “ดอกไม้” กลับให้ “ก้อนอิฐ” กลับไปยังประธานาธิบดีบราซิลแทน ประชาชนหลายหมื่นคนออกมา “เคาะหม้อ” ประท้วงภาวะผู้นำของประธานาธิบดีซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานไปมากต่อเนื่องกันเกิน 5 วัน ขณะที่หลายรัฐ แก๊งมาเฟีย ออกมาทำหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อคุมฝูงชนให้ “เว้นระยะห่าง” หรืองดออกจากบ้าน เนื่องจากบราซิลเข้าสู่ภาวะ “รัฐล้มเหลว” จากผู้นำที่ “เลอะเทอะ” ไปเรียบร้อย
.
ที่สำคัญ เขายังทำผิดซ้ำซาก เมื่อ เนลสัน เทช มาเป็น รมว.สาธารณสุขคนใหม่ อยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 1 เดือน เนลสัน ก็ประกาศ “ลาออก” จากตำแหน่ง เพราะไม่เห็นด้วยกับที่ประธานาธิบดี สนับสนุนให้ใช้ ยาทั้ง 2 ตัว เป็นวงกว้างเพื่อรักษาโคโรนาไวรัส เนื่องจาก รมว.สาธารณสุข เห็นว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยัน และผลข้างเคียงนั้น “อันตราย” เกินไป
.
แน่นอน รักษาการ รมว.สาธารณสุข ที่เขาตั้งขึ้นใหม่คือ เอดูราโด พาซูเอลโล นั้น เป็นผู้สนับสนุนการใช้ คลอโรควิน และ ไฮดรอกซีคลอโรควิน โดยให้เริ่มทดลองใช้ในผู้ป่วยทันที
.
สำหรับ ไฮดรอกซีคลอโรควิน นั้น ไม่ใช่โบลโซนารูเพียงคนเดียว ที่แนะนำให้ใช้เป็นวงกว้าง ประธานาธิบดีทรัมป์เองก็แถลงทุกวี่วันว่ายานี้ได้ผล
.
แต่โชคดีที่ในอเมริกานั้น ระดับนโยบาย ไม่มีใคร “บ้า” มากพอ ที่จะนำยานี้ไปรักษาจริงในผู้ป่วยทุกคน เพราะเห็นว่าผลกระทบรุนแรงเกินไป
.
“เรากำลังอยู่ท่ามกลางสงคราม สิ่งที่แย่กว่าความพ่ายแพ้ ก็คือการที่เราไม่ยอม ‘สู้’ มากพอ” โบลโซนารู ทวิต หลังถูกวิจารณ์ว่าเขากำลังพาประเทศหลงทาง และทำให้คนตายมากขึ้นจากการใช้ยาที่ผิดๆ ในการรักษา
.
กอนซาโล เวซีนา นีโต อดีตประธานหน่วยงานตรวจสอบด้านสาธารณสุขบราซิล เรียกมาตรการนี้ของ โบลโซนารูว่าเป็นเรื่อง “โหดร้ายและป่าเถื่อน” และอาจทำให้คนตายมากขึ้นไปอีก
.
“มันไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน และไม่น่าเชื่อที่ในศตวรรษที่ 21 เราจะยังคงอยู่ในสังคมที่คนเชื่อในเรื่องประหลาดแบบนี้” นีโต ระบุ
.
ยังไม่มีใครรู้ว่าเรื่องในบราซิลจะจบอย่างไร แต่หากยังเดินหน้าไปในทิศทางนี้ต่อ สิ่งที่เป็น “หายนะ” อยู่แล้ว อาจหนักขึ้นอีกหลายสิบเท่า

#โควิด19 #covid19 #บราซิล

อ้างอิงจาก

https://www.cnbc.com/2020/05/22/cor...e-russia-as-pressure-mounts-on-bolsonaro.html

https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-brazil-idUSKBN22W37E

 

#ประท้วงฮ่องกง สู่ฝัน #อังกฤษ เล็งเสนอให้สิทธิ์อพยพ
นายกฯ บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ประชุมลับเสนอให้สิทธิ์พลเมืองฮ่องกงอพยพมายังอังกฤษหากจีนกดขี่ เหมือนกับที่เคยให้ชาวยูกันดาลี้ภัยผู้นำเผด็จการ
.
ชาวฮ่องกงฝ่า #โควิด ออกมาประท้วงใหญ่อีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อคัดค้านรัฐบาลจีน ที่กำลังเสนอให้สภาประชาชนแห่งชาติพิจารณาร่างกฎหมายความมั่นคง ซึ่งถูกมองกันว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อกำราบพฤติกรรมกบฏ ต่อต้านการปกครองของรัฐบาลปักกิ่ง
.
สื่อมวลชนอังกฤษเปิดเผยว่า นายกฯ บอริส จอห์นสัน ได้หารืออีกครั้งถึงแผนที่เขาเคยเสนอเมื่อต้นปีนี้ ที่จะเปิดทางให้ชาวฮ่องกงอพยพลี้ภัยมาอังกฤษได้
ประเด็นสำคัญ คือ ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลอดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษ จะให้สิทธิ์เฉพาะชาวฮ่องกงที่ถือพาสปอร์ต “ชาวอังกฤษในต่างแดน” British National (Overseas) ที่มีอยู่ราว 315,000 คน และครอบครัวของคนกลุ่มนี้ หรือว่าจะรวมถึงชาวฮ่องกงทั้งหมดที่มีมากถึง 7 ล้าน5 แสนคน
.
พาสปอร์ต“ชาวอังกฤษในต่างแดน” ไม่อนุญาตให้พำนักอาศัย และทำงานในอังกฤษ ไม่ได้สิทธิ์สวัสดิการสังคม นอกจากนี้สิทธิ์ “ฟรีวีซ่า” ยังด้อยกว่าพาสปอร์ตของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงด้วยซ้ำ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษหลายคน จึงเสนอให้รัฐบาลอังกฤษให้สิทธิ์ “พลเมืองอังกฤษ” เต็มขั้นกับชาวฮ่องกงที่อพยพมา เพื่อให้ลงหลักปักฐานในอังกฤษได้
.
ทั้งนี้ ในช่วงทศวรรษ 1970 รัฐบาลอังกฤษเคยให้สิทธิ์พลเมืองเต็มขั้นกับชาวยูกันดา ที่หนีการปราบปรามของนายอีดี อามิน ผู้นำเผด็จการของยูกันดาในสมัยนั้น.

 

ปักกิ่ง-ฮ่องกง ประสานเสียง เตือนการประท้วง มีพฤติการณ์ ‘ก่อการร้าย’ ด้านหน่วยงานรัฐพากันแถลงหนุน กม.ความมั่นคงจีน

ในวันจันทร์ (25 พ.ค.) เซี่ย เฟิง กรรมาธิการด้านการต่างประเทศของจีนในฮ่องกง กล่าวระหว่างการบรรยายสรุปต่อพวกนักการทูต หอการค้าต่างประเทศ และผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ว่า กฎหมายที่กำลังพิจารณากันอยู่ในรัฐสภาจีนนั้น จะพุ่งเป้าหมายเล่นงานเฉพาะพวกคนส่วนน้อยที่เป็น “พวกสร้างความวุ่นวาย” โดยคนเหล่านี้แสดงตัวเป็น “อันตรายอย่างชัดแจ้ง” ต่อความมั่นคงแห่งชาติของจีน

“กฎหมายนี้จะบรรเทาความห่วงกังวลอย่างมากมายที่มีอยู่ในประชาคมธุรกิจของท้องถิ่นและของต่างประเทศ เกี่ยวกับกลุ่มพลังที่ใช้ความรุนแรงและมีลักษณะเป็นผู้ก่อการร้าย” เซี่ย กล่าว

ทางด้าน จอห์น ลี เลขาธิการด้านความมั่นคงฮ่องกง แถลงว่า ลัทธิการก่อการร้ายและความพยายามในการประกาศเอกราชกำลังแพร่ระบาดไปในฮ่องกง เช่นเดียวกับกิจกรรมต่างๆ ที่บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนฮ่องกงได้เปลี่ยนจากเมืองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกกลายเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้เงาของความรุนแรง

เขาระบุว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาตินี้มีความจำเป็นสำหรับการปกป้องความมั่งคั่งและเสถียรภาพของฮ่องกง
.......
ข่าว - https://mgronline.com/around/detail/9630000054472
- https://mgronline.com/around/detail/9630000054472

 

เดอะซัน (26 พ.ค.) - จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในสหราชอาณาจักร คาดว่าเกินกว่า 47,000 คน โดยมีเกือบ 11,650 ราย เสียชีวิตในสถานดูแล-บ้านพักคนชรา ขณะที่สถิติของกระทรวงสาธารณสุข รายงานยอดฯ ทางการเมื่อวานนี้ ที่ 36,914 คน ยังต่ำกว่าจำนวนจริงนับหมื่นคน

ข่าว - https://www.thesun.co.uk/news/11708...edium=browser_notifications&utm_source=pushly

 

หนานฮุ่ยเมืองใหม่ ฉายา "มินิฮ่องกง" จะเปิดท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปีหน้า

การก่อสร้าง Shanghai Planetarium ถูกระงับไว้ระหว่างการระบาดของ covid19 ได้กลับมาดำเนินการต่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งจะสร้างเสร็จพร้อมในปีหน้า!

ท้องฟ้าจำลองจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนานฮุ่ยเมืองใหม่ (南汇新城 / Nanhui New City) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตผู่ตง ขนานนามเป็นเมือง“ มินิฮ่องกง” กระจายผู้อยู่อาศัย 450,000 คนและนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน ในทางยุทธศาสตร์พัฒนาเมือง หนานฮุ่ยเป็นส่วนหนึ่งของเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ จะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมศูนย์วัฒนธรรมและเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง

สำหรับ Shanghai Planetarium นี้ โดมมีพื้นที่ครอบคลุม 38,000 ตารางเมตร เมื่อเปิดบริการจะเป็นท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่เพื่อการศึกษาและความบันเทิงสำหรับผู้สนใจดาราศาสตร์และนักท่องเที่ยว

ข่าว - https://shanghai-rebellion.com/2020...e-largest-planetarium-in-the-world-next-year/

 

Breaking news‼️ อภิมหาเศรษฐีมาเก๊าเจ้าของธุรกิจคาสิโน เสียชีวิตด้วยวัย98ปี วันนี้

อภิมหาเศรษฐีนายStanley Ho หรือ 何鴻燊 เฮ๋อหงเซิน เกิดที่ฮ่องกง ได้เป็นนักธุรกิจลงทุนในมาเก๊าและฮ่องกง โดยหลักๆธุรกิจคือ การเปิดบ่อนคาสิโน นายสแตนลี่ เฮ๋อ ได้เป็นเจ้าของบ่อนคาสิโนมากถึง 19 แห่ง รวมถึงคาสิโน Grand Lisboa ด้วย

นายเฮ๋อ มีภรรยาถึง4 คน และมีบุตรชายและบุตรสาวรวมกันถึง 17 คน นายเฮ๋อป่วยเขาโรงพยาบาลมานาน และได้พักในห้องICU จนวันนี้ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลในฮ่องกง

 

มีหลายคนยังคงถามเปิดไต้หวันเปิดเมื่อไหร่

ข่าวดีอาจเปิดประเทศเร็วๆนี้‼️ มาตรการผ่อนปรนการควบคุมโรคระบาด ไม่ช้าอาจเปิดประเทศหลังตุลาคมนี้

อย่าเพิ่งดีใจนี่เป็นเพียงร่างนโยบายเสนอแต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรมควบคุมโรคพิจารณาอีกที แต่มีท่าทีว่าน่าจะไปทิศทางนี้ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนบ้าง

นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมได้ประกาศแนวทางการดำเนินการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคระบาดในไต้หวัน เพื่อให้ประชาชนไต้หวันและเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง

โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงเวลาดังนี้

ระยะแรก ตั้งแต่ 27 พ.ค.2020- 31ก.ค. 2020

>> จะเริ่มวางแผนมาตรการผ่อนปรนกิจกรรมต่างๆในประเทศ การจำกัดจำนวนคนในกิจกรรม และเริ่มกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ มีการผ่อนปรนกับสถานที่ท่องเที่ยว และบริษัทท่องเที่ยวในการจัดทัวร์เป็นต้น

1 มิ.ย. 2020 >> มีการผ่อนปรนเกี่ยวกับการเว้นระยะห่าง social distance และมีการผ่อนปรนเริ่มการบริการอาหารเครื่องดื่มในรถไฟและรถไฟฟ้าความเร็วสูง (แต่เดิมงดบริการ) แต่ยังคงจำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ และจากเดิมที่งดขายตั๋วที่นั่งอิสระ (Free seating) ต่อไปจะกับมาขายได้อีกครั้ง

=======================

ระยะที่2 >> 1 ส.ค.20-31 ต.ค.20

ผ่อนปรนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเดินทางในประเทศ อาทิ สามารถจัดกรุ๊ปทัวร์ในประเทศได้ หรือสามารถท่องเที่ยวเองได้ โดยที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ สวนสนุก ร้านสถานบันเทิงบางประเภท และการคมนาคมต่างๆ เช่นที่นั่งที่จำกัดให้เว้นระยะ จะกลับมาสู่ปกติอีกครั้ง

อีกทั้งทางเข้า-ออกสนามบินเถาหยวน จะลดการตรวจเข้ม อาทิวัดอุณหภูมิก่อนเข้า เช่นเเต่เดิมเกิน 37.5 จะห้ามเข้า ก็จะสามารถเข้า-ออกได้ปกติ และแต่เดิมจำกัดว่าต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนทุกครั้งเข้าสนามบิน ก็จะไม่มีการบังคับ เป็นต้น

========================

ระยะที่3 >> 1 ตุลาคม20- 31 ธันวาคม 20

มีมาตรการผ่อนปรนการเดินทางต่างประเทศ โดนกรมควบคุมโรคร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศ มีนโยบายผ่อนปรนการเดินทางต่างประเทศขึ้น

** โดยจะเริ่มจากมีการลิสชื่อประเทศที่ไต้หวันเห็นว่าปลอดภัย มีการควบคุมโรคที่มั่นคงแนวโน้มที่ดี และประเทศสมาชิกก่อน และจะมีการเปิดให้ทรานสิสเปลี่ยนเครื่องได้ มีการเปิดเส้นทางการบินระหว่างไต้หวัน-จีน มีการเปิดให้เรือสามารถเข้าเทียบท่าได้อย่างปกติ (เรือขนส่ง จนถึงเรือสำราญ) แต่ขึ้นอยู่กับลิสประเทศต้นทางที่มาด้วย

ข่าวดีนี้ยังคงรอ นโยบายทางการอีกครั้ง แต่เป็นแนวทางนี้ เพื่อทำให้ทั่วโลกเห็นว่าไต้หวันเป็นเอเชียแรกที่สามารถคุมโรคและมีการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเป็นเอเชียแรกที่เปิดประเทศสู่ภาวะปกติ เพื่อเศรษฐกิจในประเทศ และอาจเป็นศูนย์กลางการเดินทางและการค้าในเอเชีย

รอผลทางการอีกทีนะคะ จะรีบมาบอกค่ะ

 

ฟอล์กแลนด์ หมู่เกาะในอเมริกาใต้ แต่ถือสัญชาติอังกฤษ /โดย ลงทุนแมน
482 กิโลเมตร คือระยะห่างของหมู่เกาะฟอล์กแลนด์กับอาร์เจนตินา
ประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่เกาะแห่งนี้มากที่สุด

แต่ผู้คนบนหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ล้วนมีสถานะเป็นพลเมืองของสหราชอาณาจักร
ประเทศที่อยู่ห่างไกลกว่า 12,000 กิโลเมตร

ประชากร 3,000 คน บนเกาะอันเวิ้งว้างที่มีเนื้อที่กว่า 12,173 ตารางกิโลเมตร
ล้วนถือพาสปอร์ตอังกฤษ และมีสิทธิ์เช่นเดียวกับชาวอังกฤษเกือบทุกประการ

ทำไมประชากรบนหมู่เกาะห่างไกลในทวีปอเมริกาใต้ ถึงมีสัญชาติอังกฤษ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ในปัจจุบัน สถานะของหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ถือเป็น
“ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร”

ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความขัดแย้งให้กับประเทศใกล้เคียงอย่างอาร์เจนตินาเสมอมา

หากถามว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร
ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้บอกเล่า..

ในมุมของอาร์เจนตินา

ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงได้อ้างสิทธิ์ว่า หมู่เกาะแห่งนี้เคยเป็นดินแดนของตนมาก่อน เพราะเคยมีชาวอาร์เจนตินาอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ก่อนที่จะถูกทหารตะวันตกมาขับไล่

รัฐบาลอาร์เจนตินายังปฏิเสธการเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่าฟอล์กแลนด์
แต่ใช้ชื่อว่า “หมู่เกาะมัลบีนัส (Malvinas)” แทน

แต่ในมุมของอังกฤษ

ประเทศเจ้าอาณานิคมได้ชี้แจงว่า หมู่เกาะแห่งนี้ไม่เคยมีคนอยู่อาศัยมาก่อน
และอังกฤษได้เริ่มอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1765
โดยอ้างว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน ได้ส่งทหารมาประจำการอยู่ที่เกาะแห่งนี้

ถึงแม้ในปี ค.ศ. 1811 อังกฤษได้ถอนทหารออกจากหมู่เกาะนี้
แต่ก็ยังส่งกองกำลังแวะเวียนมาตรวจสอบหมู่เกาะแห่งนี้อยู่บ่อยๆ

ดูเหมือนว่า การอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์จะไม่สามารถตกลงกันได้ง่ายๆ..

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1832 หลังจากอาร์เจนตินาประกาศเอกราชจากสเปนมาได้ 16 ปี

อาร์เจนตินาได้ส่งกองกำลังเข้าไปบุกหมู่เกาะฟอล์กแลนด์
ทำให้อังกฤษส่งทหารเรือมา และขับไล่ทหารอาร์เจนตินาได้สำเร็จ โดยไม่มีใครเสียชีวิต

ความพยายามของอาร์เจนตินากลับมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1982
ภายใต้การนำของรัฐบาลเผด็จการทหาร ที่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนักเกือบ 200%

เพื่อปลุกกระแสชาตินิยม รัฐบาลอาร์เจนตินาได้ส่งทหารเข้ายึดฟอล์กแลนด์อีกครั้ง
และเหตุการณ์ครั้งนี้ดูจะเลวร้ายกว่าครั้งไหนๆ

อังกฤษได้ส่งกองกำลังเข้าฟอล์กแลนด์
การปะทะกันครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน
และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอาร์เจนตินา..

แม้ว่าอังกฤษจะเป็นฝ่ายชนะ แต่การถกเถียงเรื่องสิทธิ์เหนือหมู่เกาะยังคงไม่สิ้นสุด

ในปี ค.ศ. 2013 ได้มีการจัดทำประชามติ
เพื่อให้คนในฟอล์กแลนด์เลือกว่าต้องการจะอยู่กับประเทศไหนมากกว่า

ซึ่งผลก็ออกมาว่า 99.8% อยากอยู่กับอังกฤษมากกว่า
และมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่เลือกจะอยู่กับอาร์เจนตินา

เหตุผลก็เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ในฟอล์กแลนด์สืบเชื้อสายมาจากชาวอังกฤษ
พูดภาษาอังกฤษ จึงไม่ได้มีความผูกพันกับชาวอาร์เจนตินาที่พูดภาษาสเปนสักเท่าไร

แล้วหมู่เกาะแห่งนี้มีอะไรดี ทำไมถึงต้องแย่งกันอ้างสิทธิ์?

อุตสาหกรรมหลักของฟอล์กแลนด์ก็คือ
การผลิตขนสัตว์ และการทำประมง

ขนาดเศรษฐกิจของฟอล์กแลนด์อยู่ที่ราว 6,250 ล้านบาท
แต่เนื่องจากมีประชากรน้อย
ทำให้ GDP ต่อหัวของชาวเกาะแห่งนี้สูงถึง 2,000,000 บาทต่อคนต่อปี

อย่างไรก็ตาม นอกจากทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะ
ฟอล์กแลนด์ในช่วงเวลานั้น
ก็ไม่ได้มีทรัพยากรอะไรที่ล้ำค่าถึงขนาดที่ 2 ประเทศจะต้องมาแย่งชิงกัน

แต่สาเหตุที่ทำให้ต้องมาแย่งชิงกัน ก็เป็นเพราะเรื่องของศักดิ์ศรี

ในขณะนั้น ผู้นำของอาร์เจนตินาต้องการปลุกกระแสชาตินิยม
เพื่อต่อต้านชาวตะวันตก และจักรวรรดินิยม

ดังนั้นการยึดฟอล์กแลนด์กลับคืน จึงเปรียบเสมือนการเอาชนะจักรวรรดินิยม
และยังช่วยให้คะแนนนิยมของตนสูงขึ้นภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจ

ส่วนทางด้านผู้นำของอังกฤษในขณะนั้น ก็คือมาร์กาเรต แทตเชอร์
ซึ่งกำลังถูกประชนชนเกลียดชังจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
และนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐ ให้กลายเป็นของเอกชน

แต่หลังจากชัยชนะในปี ค.ศ. 1982 แทตเชอร์กลับได้รับคะแนนนิยมสูงขึ้น
และฟอล์กแลนด์กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของอังกฤษ

จริงๆ แล้ว อังกฤษเองก็แทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรนักจากหมู่เกาะแห่งนี้

เพราะการดูแลฟอล์กแลนด์ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากอังกฤษมากๆ
ทำให้อังกฤษต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลอาณานิคมที่สูงมากตามไปด้วย..

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีการค้นพบน้ำมันในบริเวณทะเลรอบๆ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์
และมีการสร้างแท่นสำรวจและขุดเจาะน้ำมันจากบริษัทอังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน
แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจนำไปสู่ปัญหากระทบกระทั่งกับอาร์เจนตินาอีกครั้ง

แต่อาร์เจนตินาในเวลานี้ กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อ
สกุลเงินเปโซที่อ่อนค่า และยังถูกซ้ำร้ายจากการระบาดของ COVID-19

ในส่วนของอังกฤษ
วิกฤติ COVID-19 ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
และทำร้ายเศรษฐกิจของอังกฤษอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 300 ปี

หากดูเผินๆ จากสภาพเศรษฐกิจของทั้ง 2 คู่กรณี
หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ จึงน่าจะยังอยู่ในฐานะ
“ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร” อย่างสงบสุข ไปอีกสักพักใหญ่ๆ

แต่สงครามแย่งเกาะฟอล์กแลนด์ ในปี 1982
สาเหตุหนึ่งก็เกิดจากรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ
ต้องการเบี่ยงเบนคะแนนนิยมของประชาชนจากสภาพเศรษฐกิจที่ล้มเหลว

ก็ไม่แน่ว่า
เมล็ดพันธุ์แห่งสงครามกำลังถูกหว่านขึ้นอีกครั้ง
บนเกาะอันห่างไกลในทวีปอเมริกาใต้..
╔═══════════╗
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
- https://www.falklands.gov.fk/our-people/our-community/
- https://www.falklands.gov.fk/our-home/
- https://www.falklands.gov.fk/self-sufficiency/the-economy/
-https://tradingeconomics.com/argentina/inflation-cpi
- https://www.falklands.gov.fk/our-people/our-history/
- https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/fields/209.html
- http://www.legislation.gov.uk/ukpga/1983/6/section/5
- https://www.independent.co.uk/news/world/americas/
- https://www.gov.uk/types-of-british-nationality/british-overseas-territories-citizen

 

ซาอุดีอาระเบีย พายุฝนตกหนักทำให้ทะเลทรายกลายเป็นแม่น้ำ

Cr : Arab stroms

 

มาเลเซีย : ฝั่งซาราวักเกาะบอร์เนียว ส่งกลับ 171 คนแรงงานอินโดนีเซีย เข้าเมืองผิดกฏหมาย แรงงานทั้งหมดถูกจับได้รอบเมืองซาราวัค จากเหตุปัญหาโควิดระบาด ทำให้มาเลเซียคุมเข้มแรงงานต่างชาติ

 

May 26 , 2020 นายกฯสั่งการหน่วยงานรัฐใช้งบจัดซื้อจัดจ้าง ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็ก พร้อมจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ส่วนการเปิดภาคการท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอเวลาพิจารณาสถานการณ์โควิดให้รอบคอบก่อน
.
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้เดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจทั้งขนาดกลาง ขนาดเล็ก และคนทำมาหากินทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสมาคมที่ไม่มีโอกาสได้พบปะมาก่อน แต่รู้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น
.
โดยเป้าหมายของตนคือ หาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้า ที่จะสามารถทำได้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้นก่อน และได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากจากสมาคม และยังได้รับกำลังใจกลับมาด้วย ที่สำคัญภาคธุรกิจเหล่านี้ยังมีความรักความห่วงใยประเทศ ไม่เพียงขอความช่วยเหลือให้กับภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ยังได้นำเสนอสิ่งที่ดีสำหรับประเทศชาติด้วย
.
ดังนั้นจึงได้สั่งการในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะเป็นนโยบายกำหนดโควต้าของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งไว้แล้ว ต้องไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการเล็กๆ ในท้องถิ่นต่างๆ
.
โดยให้พิจารณาอยู่ในกรอบของข้อกฏหมาย นั่นหมายความว่า เงินจะถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่ม SME ทั่วประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานรับรองตามกฎหมาย โดยจะต้องจัดทำบัญชีผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อพิจารณาเช่น การขึ้นบัญชีนวตกรรม ที่ดำเนินการมาแล้ว
.
และเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่สั่งการจะเกิดขึ้นจริง ตนจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐทำรายงานให้ตนรับทราบตอนสิ้นปี นอกจากนี้อยากขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ หากท่านต้องซื้อของ หรือใช้บริการอะไร ขอให้ท่านช่วยกันสั่งซื้อของ และใช้บริการจากผู้ประกอบการ SME ในประเทศของเรา เนื่องจากกลุ่ม SME ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องมากกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย
.
ประการที่ 2 ผลจากการหารือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย จึงได้รับทราบว่า สถานที่ค้าขายต่างๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างร้าน ต่างต้องการให้รีบเปิดสถานที่ค้าขายโดยเร็วที่สุด เพื่อกลับมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง โดยตัวแทนของภาคธุรกิจได้เล่าถึงวิธีการ และความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ตนสบายใจในระดับหนึ่ง และทำให้ตนได้สั่งการ เริ่มเปิดห้างร้านต่างๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
.
ประการที่ 3 ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้บอกกับตนชัดเจนว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ประเด็นนี้อยากบอกกับทุกคนว่าตนรับทราบ และเข้าใจความต้องการของท่าน ซึ่งจะดำเนินการตามที่ท่านเสนอ เมื่อผมเห็นว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด ลดลงไปอยู่ในระดับที่เราจะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ เพราะสิ่งที่เราต้องระมัดระวังอย่างมากก็คือ ถ้าเราเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้เร็วเกินไป หากนำเชื้อโควิดเข้ามาด้วย ทุกอย่างที่เราทำมาได้ดีทั้งหมดจะเสียเปล่า แล้วเราจะต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ปิดทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนในประเทศ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
.
ประการที่ 4 ได้สั่งการและสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐพิจารณาการใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วสำหรับการจัดประชุมสัมมนา ขอให้ออกไปใช้สถานที่ หรือโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ หวังว่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยได้กำชับด้วยว่า ขอให้เลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย
.
ประการที่ 5 จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ผมได้รับทราบว่า มีแรงงานในบางภาคธุรกิจ และในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานกลับไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ เมื่อทราบข้อเท็จจริง และพิจารณาเหตุผลต่างๆ แล้ว เห็นด้วยว่าเป็นประเด็นที่ต้องรีบแก้ไข ผมจึงได้สั่งการ และขณะนี้ได้ดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม
.
ประการที่ 6 จากการหารือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้รับทราบถึงสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจมากที่สุด มากกว่าโควิด นั่นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการให้หาวิธีการรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ก่อนโดยทันที ขณะนี้ตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังจัดทำแผนปฏิบัติที่ตรงจุด ซึ่งจะนำเสนอให้ผมพิจารณาเร็วๆ นี้ และจะมารายงานให้ทุกท่านทราบในโอกาสต่อไป
.
ประการที่ 7 จากที่ผมได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สำคัญให้ผมทราบ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฏหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของการประกอบอาชีพ ซึ่งเห็นด้วยในหลายเรื่อง แต่ด้วยมีความซับซ้อนอยู่หลายประเด็น ผมจึงสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา แล้วรายงานให้ตนทราบโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผมจะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และ ประมงพื้นบ้าน เข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย เพื่อให้เราได้ยินเสียงจากคนที่ทำมาหากินอยู่ในอาชีพจริงๆ
.
#นายกรัฐมนตรี #พลเอกประยุทธ์ #SME #Misterban

 

กลยุทธ์ 'การลงทุน' ในครึ่งหลังของปี 2563
26 พฤษภาคม 2563 | โดย ธวัชชัย อัศวพรไชย | คอลัมน์ ASL WEEKLY MARKET OUTLOOK

เปิดบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะเป็นอย่างไร? หลังจากช่วงครึ่งปีแรก ที่ต้องเผชิญกับภาวะครามการค้าที่กลับมาระอุขึ้น รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง
เรียกได้ว่ากว่าจะผ่านครึ่งปีแรกของปีนี้ไปได้ นักลงทุนหลายท่านคงหนาวๆ ร้อนๆ กันมาบ้างทั้งสงครามการค้า และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดีตลาดเริ่มคาดการณ์เกี่ยวกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะใน 2Q63F ที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดต่ำของปี ทั้งนี้อีกแค่เดือนเดียวก็จะเข้าสู่ครึ่งหลังของปี เราจึงมีกลยุทธ์การลงทุนจากฝ่ายวิเคราะห์เอเอสแอล ในช่วงที่เหลือของปีให้กับผู้อ่านและนักลงทุนทุกท่านกันครับ

ภาพรวมตลาดในช่วงเดือนที่ผ่านมาถือว่ามีการปรับตัวขึ้นเบรคแนวต้าน 1,300 แต่สุดท้ายก็ยืนเหนือไม่ไหว เพราะ PE กว่า 18 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพง และการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานที่เกิดขึ้นจริง สังเกตได้จากวอลุ่มขายของต่างชาติในเดือนนี้อยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท MTD แต่ถ้านับตั้งแต่ต้นปีจะถูกขายสุทธิอยู่ที่ 1.93 แสนล้านบาท YTD

สถานการณ์ในตอนนี้อาจเรียกได้ว่า “ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก” นอกเหนือจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะมียารักษาหรือวัคซีนป้องกันได้เมื่อไหร่ ก็ยังมีประเด็นเรื่องสงครามการค้าที่กลับมาระอุอีกครั้ง หลังทรัมป์ใช้วาทะกรรมทางการเมืองโจมตีจีน

นอกจากนี้หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านร่างกฎหมาย “Holding Foreign Companies Accountable Act” ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอาจทำให้บริษัทจีนจำนวนมากไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ หรือระดมเงินทุนจากนักลงทุนชาวอเมริกันได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน จีนเตรียมออกกฎหมายเพื่อควบคุมฮ่องกง ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐ

สำหรับประเด็นในประเทศที่น่าสนใจ จะเป็นเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งสู่ระดับ 0.50% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องด้วยมองว่าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อติดลบมากกว่าที่คาด ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ส่วนภาคการส่งออกเดือน เม.ย.63 กระทรวงพาณิชย์ก็ออกรายงานขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางตลาดคาด จากสินค้าเกษตรและอาหาร-ทองคำพุ่งขึ้น ส่วนเรื่องความคืบหน้าการปลดล็อกดาวน์ ศบค.ยังคงขยายการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63 และต้องติดตามไทม์ไลน์ผ่อนปรนเฟส 3 ที่เกี่ยวกับกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางไปถึงสูงในการติดเชื้อ

ด้านหุ้นเด่นที่เราแนะนำ:BEM RBF HMPRO TOP SCC BDMS แนวโน้มแต่ละอุตสาหกรรมเรามีความเห็นดังต่อไปนี้

1.กลุ่มธนาคาร : เราชอบธนาคารขนาดเล็กกมากกว่า เนื่องจากได้ประโยชน์ของ Cost of fund ที่ลดลง หลังมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเดือน พ.ค. เช่น TMB TISCO ส่วนกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เราแนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อน เนื่องจาก NIM ที่มีแนวโน้มจะลดลง

2.กลุ่มการเงิน : เราชอบกลุ่มนี้เป็นพิเศษหลังได้ปัจจัยบวกจากการที่ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง รวมถึงจากแนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะยาวที่จะขยายตัวต่อเนื่อง หนี้ด้อยคุณภาพที่อยู่ในระดับต่ำ และค่าใช้จ่ายสำรองที่จะไม่เพิ่มขึ้นสูง เราชอบ MTC SAWAD

3.กลุ่มอสังหาฯ : แม้จะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ทำให้ผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมีภาวะหนี้ที่ลดลง ช่วยสนับสนุนยอดขายโครงการให้เพิ่มขึ้น แต่ด้านผลประกอบการเองยังคงอ่อนแอและมีการปรับแผนธุรกิจทั้งเป้ารายได้ เป้ายอดจองที่ลดลง เรามองว่า แม้ในช่วงนี้มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการซื้อบ้าน ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อหดตัวลงไปด้วย เรามองว่าในช่วงนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีนักของกลุ่มอสังหาฯ

4.กลุ่มพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงมาแรง จากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง การทยอยปลดล็อกในหลายๆ พื้นที่ ส่งผลให้อุปสงค์เริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ดีมีปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งรวมถึงประเด็นที่จีนเตรียมออกกฎหมายเพื่อควบคุมฮ่องกง เราชอบ PTTEP PTG

5.กลุ่มโรงไฟฟ้า : ยังคงเป็นธุรกิจที่มีรายได้แน่นอน เนื่องจากมีการไฟฟ้าแห่งประเทศไทยเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่รับซื้อ และยังมีการทำสัญญาระยะยาว ทำให้มั่นใจได้ว่าผลประกอบการจะไม่มีความผันผวน หลายบริษัทยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนกลุ่มอื่นแล้ว เราแนะนำ “Neutral” ส่วน Top pick เราชอบ GULF EGCO RATCH

6.กลุ่มเทคโนโลยี : กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แม้จะมีประเด็นบวกของ Work from Home หรือการเรียนออนไลน์มากขึ้น แต่การแข่งขันภายในกลุ่มเองยังคงมีความรุนแรงอยู่มาก เราแนะนำ “Neutral” ส่วน Top pick เราชอบ ADVANC และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จากรายงาน สศอ.ชี้ให้เห็นว่าการส่งออกในอุตสาหกรรม Hard disk drive (HDD) ที่โต 10.18% หลังทั่วโลกใช้นโยบาย Work from Home เราแนะนำ “เข้าสะสม” ส่วน Top pick เราชอบ KCE DELTA

7.กลุ่ม Consumer : การเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้คาดหวังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอยปรับตัวดีขึ้นมาก่อน เราแนะนำ “เข้าสะสม” ส่วน Top pick เราชอบ CRC HMPRO

8.กลุ่มท่องเที่ยว : เราอาจเริ่มมองเห็นการเริ่มฟื้นตัวระยะสั้นหลังเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ทั้งนี้หากพัฒนาการของโควิดออกไปในทิศทางบวก ก็ความเป็นไปได้ที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราแนะนำ “เข้าสะสม” ส่วน Top pick เราชอบ CENTEL AOT

9.กลุ่มขนส่ง : ทิศทางการฟื้นตัว เรายังคงมีมุมมองบวกต่อกลุ่มขนส่งที่เป็นบริการรถไฟฟ้าและทางด่วน มากกว่ากลุ่มสายการบิน ยอดจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและทางด่วนคาดจะค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวกลับมาได้ก่อน รวมถึงสายการบินภายในประเทศ ในส่วนของสายการบินต่างประเทศยังคงต้องรอให้สถานการณ์ประเทศอื่นมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่านี้ เราแนะนำ “เข้าสะสม” กลุ่มขนส่งเป็นบริการรถไฟฟ้าและทางด่วน และสายการบินในประเทศ ส่วน Top pick เราชอบ BTS BEM AAV และยังคง แนะนำ “หลีกเลี่ยง” กลุ่มสายการบินต่างประเทศ

10.กลุ่มอาหารและเกษตร : เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งมากในช่วงที่เกิดวิกฤติแบบนี้ เนื่องจากความเป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์ที่ขาดไม่ได้ โดยเราชอบ CPF RBF เป็นหุ้นเด่น ส่วนกลุ่มเกษตรเราชอบ STA ที่ผลประกอบการแข็งแกร่ง และราคายัง outperform ตลาดได้ดี เนื่องจากคำสั่งซื้อถุงมือยางที่มีอย่างต่อเนื่อง