ดิฉันเป็นโคโยตี้คะบาปไหมคะ???

คือดิฉันเป็นเด็กกำพร้าผกพันตัวเองเป็นโคโยตี้มาได้4ปีกว่าแล้วคะ แต่ก่อนยังเด็กๆอาจทำตัวไม่ดี แต่ตอนนี้คิดว่าดีกว่าแต่ก่อนมากคะ
อาชีพดิฉันต้องดื่มเหล้าทุกวัน ต้องแต่งตัวไม่เรียบร้อย ถือว่าบาปไหมคะ??? แต่ดิฉันดื่มเหล้าก็พยายามควบคุมสติไม่ให้เมา(โดยส่วนมากจะไม่เมาคะ)ไปรบกวนให้คนอื่นเดือดร้อนยังถือว่าบาปไหมคะ
ดิฉันคบแฟนแค่คนเดียวคะ ไม่เคยคิดจะผิดลูกผิดเมียของใครเพราะมีนิสัยคบทีละคน แต่แฟนไม่เคยเชื่อใจเลยเป็นเพราะบาปจากหน่อยที่การงานรึเปล่าคะ

ยอมรับว่าเป็นผู้หญิงมีกรรมคะ ข้องใจจิงๆรบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยคะ

 

งานอื่นที่ทำแล้วสบายใจมีไหนครับ คุณมีสิทธิ์เลือกงานได้หรือเปล่า ณ ตอนนี้ แต่ถ้ามันจำเป็นจริงๆก็ทำไปเถอะแต่ขอให้มีสติ สุราทำให้คนขาดสติมามากแล้ว ให้ระวัง แต่ถ้าเลิกได้เจองานใหม่ที่ดีกว่าก็ไปทำงานใหม่เถอะ มันเปลืองตัว ที่สำคัญอย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร อย่าไปผิดลูกเมียเขา อย่าไปหลอกลวงเขา

 

ดีๆๆๆๆทำไปๆๆๆ เราไม่ได้ไปบังคับให้ใครมาดูเรา คนเสือกมาดูเราเอง จะไปบังคับถ่างตาใครได้ แต่นี่ค้องใจที่หนูว่า..."ไม่เคยคิดจะผิดลูกผิดเมียของใครเพราะมีนิสัยคบทีละคน" แหมข้องใจอยากรู้ที่ว่าทีละคนของหนูนี่ระยะห่างมากไมจ้ะ ถ้าถี่ๆก็แย้เหมือนกันนะ อุ้ยมันดีชีวิตหนู ชอบ ชอบ

 

ตอบคุณพสภัธ

เค้าขอคำแนะนำมา. ถาบอกไปแล้วเอาไปแก้ใขก็จะเป็นบุญทั้งผู้ให้และผู้รับนะคะ. แต่กับคุณพสภัธนี่จะไม่ออกความคิดเห็นก็ไม่มีใครว่านะคะ

 

เลิกงานปุ๊บถือศีลทันทีจ๊ะ แค่นั้นพอไม่ต้องคิดมาก

 

โคโยตี้ถ้าคิดว่าทำไปตามหน้าที่ก็ไม่บาป
คบทีละคนก็ต้องให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายอนุญาตทีละคน
กินเหล้าบาปชัวร์

 

วิถีชีวิตสภาพความเป็นอยู่ของแต่ละบุคคล ส่วนหนึ่งก็อาจขึ้นอยู่กับกระแสกรรมเก่าที่บีบคั้นกำหนดให้ชีวิตของแต่ละคนมีวาสนา แลสภาพชีวิตแตกต่างกันไปซึ่งถือว่าเรากำหนดกันมาเอง ส่วนนั้นเป็นเรื่องของอดีตซึ่งเราคงไปแก้ไขอะไรมิได้ ก็ขอให้เรามาเริ่มต้นกำหนดที่ปัจจุบัน ถามว่าเต้นโคโยตี้บาปไหม ก็ขอตอบว่าบาป เพราะเป็นการกระตุ้นความกำหนัด คือกระตุ้นกองกิเลส ให้แก่ผู้อื่น ส่วนการดื่มสุราก็ย่อมผิดศีลและเบียดเบียนทำร้ายตัวเองและเป็นเหตุให้ตั้งอยู่ในความประมาทที่อาจก่อเป็นผลเสียอื่นๆตามมาได้ ถ้าเราไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้ตอนนี้ ก็ขอให้มีสติ พึงตั้งอารมณ์ว่าเราทำไปเพราะความจำเป็นแห่งการเลี้ยงชีพ เราไม่ยินดีให้ใครมาหลงไหลในตัวเรา อาการอาชีพของเรา ซึ่งก็อาจจะยากบ้างเพราะบางอย่างย่อมขัดกับอารมณ์ปุถุชนของเรา แต่ถ้าเรารู้ว่าบาปก็เป็นเหมือนดั่งถ่านไฟแดงร้อนๆย่อมเขี่ยๆแตะๆไม่กล้าจับไปตรงๆหรอกแต่ก็ตรงร้อนไหม้เป็นแผลพุพองมั่ง แต่ถ้าไม่รู้สิน่ากลัวย่อมจับไปเต็มๆมือก็ไหม้เป็นแผลสาหัสสากันต์ไป แต่ถ้าเปลี่ได้ก็เปลี่ยนเถิดเพราะการทรงอารมณ์ปุถุชนย่อมไม่มั่นคงเท่าพระอริยะเจ้าแน่นอน

 

ดื่มเหล้าก็ผิดศีล ก็บาป

ต้องแต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่บาป บาปอยู่ที่คนมองและมีอารมณ์xxx

แต่แฟนไม่เคยเชื่อใจเลย ต่อไปเวลาคบใครก็ขอให้แต่งงานก่อนแล้้วกันครับ

สรรพชีวิตทั้งหลายก็มีกรรมทั้งนั้นแล่ะจ้า กรรมหมายถึง การกระทำนะจ๊ะ มีทั้งดีและชั่ว

ไม่กินเหล้าหรือกินเหล้าหรือเปลี่ยนงานที่ดีขึ้นก็ตามไม่สามารถ ทำให้มีแฟนดีเชื่อใจเราได้ หากแต่อยู่ที่โชคชะตาขอรับ

 

บาปครับ ควรมองหาอาชีพอื่น ถ้าเป็นไปได้

 

ทางเลือกของมนุษย์ นั้นจำกัด
เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่กินได้ไหม? ไม่ถ่ายได้ไหม? ไม่อาบน้ำได้ไหม? ก็ทำไม่ได้
เช่นเดียวกัน เส้นทางชีวิตของมนุษย์นั้น แม้จะอยากให้ดีแค่ไหน ก็ไม่อาจเป็นได้ตามที่คาดไว้ เพราะทุกอย่าง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สถานการณ์ ณ ปัจจุบันของเรานี้ เป็นเพราะวิบาก จากอดีต ทั้งในอดีตชาติ และในชาติปัจจุบัน
อดีตชาติ เป็นวิบาก ให้เรามาเกิดในฐานะแวะล้อมเช่นนี้ ฐานะแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้เราไม่มีทางเลือก ต้องประกอบอาชีพตามเส้นทาง
แต่ บัดนี้ เมื่อเราเห็นแล้ว ศรัทธาในคำสอนพระพุทธองค์แล้ว เท่ากับเราได้เปิดโอกาสช่องทางให้ตัวเองแล้ว โอกาสช่องทาง ที่จะไม่หลง ไม่ต้องถูกชักนำไปโดยกรรมดีกรรมชั่ว

อาชีพนี้ เป็นกรรมแน่นอน เพราะเป็นการสร้างกิเลสตัณหาในใจผู้อื่น จะเป็นกรรมผูกพันกับเราต่อไป แต่เมื่อเรามีสติรู้แล้ว ให้เราพิจารณาตามความเป็นจริง หากยังมีภาระทางการเงิน และยังไม่มีตำแหน่งงานในอาชีพอื่น เราก็ต้องทำไปก่อน ตามสมควร...

แนวทางปฏิบัติ ขอให้ยึดมั่นในการทำดี ทาน ศีล สวดมนต์ ภาวนา ทำให้มาก ทุกครั้งที่มีโอกาส และอธิษฐาน ขอให้ตัวเองพ้นจากโลกที่ต้องข้องแวะจากอบาย หมั่นเพียรทำ แล้วในเวลาไม่นาน จะมีโอกาสในทางอาชีพอื่นเปิดทางให้คุณ เรื่องบาปหรือเปล่า อย่าไปคิดให้ขุ่นข้องใจ สิ่งที่ทำไปแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องทำ มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่รักษาใจเราเอาไว้ ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี แล้วชีวิตทุกอย่างจะดีขึ้น

 

น่าจะเทียบเคียงได้

409 อนาคตของดารานักแสดง

ปัญหา ดารานักแสดงที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้อื่นด้วยคำจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง นั้น ตายแล้วจะไปเกิดในสุคติหรือทุคติ ?

พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้หัวหน้านักแสดงนามว่าตาลปุฏะถามคำถามนั้น ถึง ๓ ครั้ง แต่นายตาลปุฏะก็ยังคะยั้นคะยอจะเอาคำตอบให้ได้

พระพุทธองค์ จึงตรัสตอบว่า

พุทธดำรัส ตอบ “ดูก่อนหัวหน้านักแสดง แท้จริงเราไม่ได้ อนุญาตให้ท่านถามปัญหานี้ เรากล่าวว่า อย่าเลย หัวหน้านักแสดง เรื่องนี้หยุดไว้เสียเถิด อย่าถามปัญหานี้กะเราเลย แต่เอาเถอะ เราจะตอบปัญหาแก่ท่าน
“ดูก่อนหัวหน้านักแสดง สัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะ ถูกราคะผูกมัดไว้ ยังไม่ปราศจากโทสะ ถูกโทสะผูกมัดไว้ ยังไม่ปราศจากโมหะ ถูกโมหะผูกมัดไว้ อยู่ก่อนแล้ว นักแสดงยิ่งนำเข้ามาซึ่งธรรมอันส่งเสริม ราคะ ส่งเสริมโทสะ ส่งเสริมโมหะแก่ชนเหล่านั้นในท่ามกลางเวที ท่ามกลางโรงมหรสพให้มี ราคะ โทสะ โมหะ มากยิ่งขึ้น บุคคลนั้นตนเองก็ประมาทมัวเมาอยู่แล้ว ยังทำให้คนอื่นประมาทมัวเมาอีก เบื้องหน้าแต่ตายเพราะแตกทำลาย ย่อมเกิดในนรกชื่อปหาส....
“ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักแสดงคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริงตามคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางเวที ผู้นั้นเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ทำลาย ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อปหาส ความเห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด....”

ตาลปฏสูตร สฬา. สํ. (๕๘๙-๕๙๑)
ตบ. ๑๘ : ๓๗๗-๓๗๘ ตท. ๑๘ : ๓๓๖-๓๓๗
ตอ. K.S. ๔ : ๒๑๔-๒๑๖

 

555555ใช่ๆๆๆจริงๆๆด้วยลืมตัว

 

สิ่งที่คุณอาจจะไม่รู้ก็คือคุณได้เลือกงานของคุณเอง รวมถึงลูกค้าของคุณทุก
คุณสร้างคนเหล่านี้ขึ้นมาทั้งนั้นด้วยกฏแห่งกรรม จะเป็นกรรมเก่าหรือกรรม
ใหม่ก็แล้วแต่ ในทางกลับกันลูกค้าของคุณทุกคน เจ้านายของคุณก็สร้างคุณ
ขึ้นมาจากกรรมของเขาเหมือนกัน และถ้าคุณอยากจะรู้ว่าถ้าทำงานของคุณ
จะผิดศีล 5 ไหม วิธีง่ายๆ ก็คือพยายามรักษาศีล 5 ในขณะทำงานดูสิครับ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ตั้งใจว่าจะไม่ละเมิดศีลทั้ง 5 ข้อโดยเด็ดขาด เพราะ
ถ้าคุณทำได้อย่างนี้ แล้วเจ้านายของคุณยังเลือกคุณอยู่ ลูกค้าของคุณยัง
เลือกคุณอยู่ คุณก็ไม่ต้องกลัวผิดศีล 5 แล้วใช่ไหม อย่างถ้าลองดูเรื่องของ
นางสิริมาที่เป็นโสเภณีในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่านางบรรลุ
ขั้นโสดาบัน และพระโสดาบันก็จะไม่ละเมิดศีลแล้ว ไม่ตกอบายภูมิเป็นอัน
ขาด ขนาดเป็นโสเภณียังไม่ละเมิดศีล 5 ได้ทำไมคุณจะทำไม่ได้ล่ะ แต่ถ้า
คุณตั้งใจรักษาศีล 5 แล้วงานของคุณไม่เลือกคุณ ลูกค้าของคุณไม่เลือกคุณ
ก็คงต้องแล้วแต่คุณแล้วว่าหนักแน่นในศีลแค่ไหน แล้วคุณจะเลือกอะไรระ
หว่างการรักษาศีลกับงานที่ทำ

 

Re: ตอนนี้คบกับแฟนได้เกือบ2ปีแล้วคะ หนูก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป และทุกคำพูด พูดด้วยคำสัจจิงคะ

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะนำไปปฏิบัติดูคะ ขอบคุณมากคะ

 

นี่ไงครับ ความดีของคุณ คุณเลือกที่จะพูดความจริง ขาวก็ขาว ดำก็บอกดำ ไม่พูดปด ไม่เสแสร้ง ผมว่าคุณดีกว่าอีกหลายๆคน ต่อไปคุณจะโชคดี ขอให้มีความสุขมากๆครับ น่ารักมากๆดีแล้วๆ

 

ขอตอบตามคำถาม บาปค่ะ เพราะอะไรน้องรู้อยู่แก่ใจตนเอง

 

อยากให้พิจารณาถึงผลพลวงที่ตามมาของอาชีพนี้
ผมเกรงจะกระทบต่อศีลข้อกาเม ในแง่ของความล่อแหลมอันอาจสร้างความแตกแยกให้แก่ครอบครัวของบุคคลที่สาม

 

ถ้าเรื่องกาเมรับรองว่าไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนคะ เพราะถึงหนูทำงานแบบนี้หนูก็ไม่ได้คิดจะทำผิดศีลธรรมกับใคร มันก็มีบ้างที่มีใครมารักมาชอบแต่หนูก็บอกไปว่าหนูมีลูกมีแฟนแล้ว ไม่ได้คิดนอกใจหรือทำให้เกิดเรื่องมิควรแน่นอนคะ
ส่วนการดื่มเหล้าอาชีพนี้มันต้องกินเป็นปกติอยู่แล้ว แต่หนูก็ครองตัวอยู่ในสติ ไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามตามมาแน่นอนคะ

 

<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
อาชีพเต้นโคโยตี้ คือ การเต้นที่อวดเรือนร่าง การเต้นที่ทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์กำหนัดได้

ดังนั้น บาป ครับ ... และมีนรกปหาสะ เป็นที่ไปเมื่อลาจากโลกนี้