ชีวิต...นี้เราเลือกเอง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย แม่พัฟ, 17 พฤศจิกายน 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. แม่พัฟ

    แม่พัฟ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +2
    :'(ใครเคยเจอเรื่องแบบเราบ้างเข้ามาแชร์ความคิดเห็นกันหน่อย
    เรื่องมีอยู่ว่าก่อนแต่งงานเราคบกับแฟนมา6-7ปีก็เห็นข้อเสียในตัวเค้าและข้อดีในตัวเค้าแล้วและคิดว่าเรารับได้ถ้าไม่มีเรื่องผู้หญิงอื่นเข้ามาให้ปวดหัวสรุปก็แต่งพอแต่งปุ๊บเราก็ถามเรื่องเงินที่ควรจะให้ภรรยาเค้าก็ไปถามแม่เค้าแม่เค้าบอกว่าทำไมต้องให้เราก็ทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเองสรุปเราก็ไม่ได้แล้วเราก็แค่จำไว้ในใจแต่เรื่องอื่นแม่สามีเค้าก็เรียกว่าดีหมดเรานอนตืนสายเค้าก็ไม่เคยว่าแถมตื่นมาก็เตรียมอาหารไว้ให้เรียบร้อยงานบ้านเราก็ทำไปตามหน้าที่เราเพราะเรารู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไรบ้างซักผ้า(ด้วยเครื่อง)รีดผ้า ถูบ้าน เช็ครถ เราทำเองหมดแม่สามีและแฟนไม่ต้องบอกพอมีลูกสามีก็จ้างคนใช้มาเราก็ไม่ต้องทำแต่ยังต้องไปทำงานนอกบ้านอยู่ พอสามีย้ายที่ทำงานได้เงินเดือนเยอะขึ้น(หลักแสนต้นๆ)เค้าก็ไปซื้อบ้านไว้เผื่อเก็บเงินไว้เงินจะได้ไม่รั่วไหลไปที่อื่นโดยที่เรามีบ้านอยู่แล้วและไม่สามารถย้ายไปอยู่บ้านใหม่ได้ด้วยเพราะแม่สามียังอยู่แต่ก่อนซื้อเราก็บอกเค้าว่าแล้วค่าใช้จ่ายลูกละเพราะตอนที่ซื้อนั้นเรากำลังจะคลอดลูกคนที่สองเค้าก็บอกว่าให้เราช่วยออกสิเพราะว่าถ้าให้เราเก็บเงินเองคงเก็บไม่ค่อยอยู่เพราะเราใช้เงินเก่งสรุปค่าคลอดลูกคนที่สองเราก็ออกเองเบิกประกันสังคมได้ไม่ครบเพราะลูกต้องอยู่ตู้อบด้วย
    เราเงินเดือนตอนนั้นก็ 2 หมื่นกว่าบาท3หมื่นหนี้บัตรเครดิตไม่เคยเป็นจายเงินครบตลอดไม่เคยจ่ายยอดขั้นต่ำ อาจจะเป็นไปได้ว่าเราจะพยายามตอดเพราะเค้าไม่เคยให้เงินเราใช้เลยเราหาใช้เองตลอดตรุษจีนก็ไม่เคยให้แต่กับหลานตัวเองทำงานแล้วยังให้อยู่ได้(แม่งคิดไม่เป็น)ลูกตัวเองก็ไม่เคยให้เพราะเค้าคิดว่าตัวเองให้เงินหลานๆไปพ่อแม่ของหลานก็ต้องให้กลับมาเค้าก็เลยไม่เคยให้ลูกตัวเองเลยให้ลูกรอซองที่พี่น้องเค้าใส่กลับคืนมาให้อ่ะ เราก็ไม่เคยถามแต่เมื่อปีที่แล้วเรากับลูกไม่อยู่บ้านซองที่พี่น้องเค้าให้กลับมาเลยเสร็จเค้าไปเลย เราเห็นเป็นแบบนี้เราก็เลยเงินเดือนเราออกมาเราก็เอาไปฝากให้ลูกเยอะหน่อยแล้วเหลือใช้นิดหน่อยแล้วก็ไปขอเค้าเค้าก็บ่นว่าเราบริหารเงินไม่เป็นทำไมใช้ไม่ชนเดือนหลังบ่นมากเราเลยไม่ขอแล้ว แล้วก็ปัญหาใหญ่คือเราต้องออกค่าเทอมลูกเองทั้งหมดรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วยจิปาถะ ค่าเทอมลูกสองคนปีหนึ่ง9หมื่นกว่าบาทไม่รวมค่าเรียนดนตรี และค่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าเค้าไม่เคยออกสักบาท แล้วก็ค่ากินในบ้านเค้าเราก็เป็นคนซื้อเข้าบ้านอีก เวลาปิดเทอมพาลูกไปเที่ยวก็ไม่เคยออกค่าที่พักเลยแถมเค้าไปก็เหมือนไม่ได้ไปเค้าก็ยังเอางานไปทำเรายังต้องออกไปเที่ยวกันเอง 3 คนแม่ลูกเนี่ย แถมประกันชีวิตที่เค้าทำให้ลูกคนโตพอไปผ่อนบ้านก็ผลักภาระมาให้เราอีกปีหนึ่ง 3 หมื่นกว่าบาทให้เราเป็นคนต้องจ่าย นี่มันอะไรกันเนี่ยช่วยบอกหน่อยเสาร์-อาทิตย์ตัวเองก็ไม่เคยคิดที่จะพาลูกเมียไปเที่ยวที่ไหนแต่ถ้าเพื่อนตัวเองช่วยไปเล่นกีฬา เค้าไปตลอดบ้างทีไปทั้งเสาร์อาทิตย์จนบางทีเราต้องพูดเค้าถึงหยุดบ้างที่ไปออกรอบก็เบิกบริษัทพอเบิกเยอะก็มีปัญหาเบิกไม่ได้ก็หยุด แล้วก็ลูกไปโรงเรียนก็เป็นหน้าที่เราไปส่งตลอดเทอมหนึ่งเค้าเคยไปส่งแค่ประมาทไม่เกินหนึ่งเดือน เรายืนอยู่บนลำแข้งตัวเองตลอดไปไหนบ้างที่รถไม่ว่างเราก็ขึ้นรถเมล์บ้าง อะไรที่เราไปเองได้ไม่เคยต้องไม่รอเค้าเราทำเองตลอด แต่จะบอกว่าช่วงที่งานเค้ามีปัญหาเค้าก็หันหน้าเข้ามาฟังธรรมนะค่ะเวลาเค้าทำงานที่บ้านเนี่ยเค้าเปิดcd ฟังธรรมะตลอดเสาร์อาติย์ที่ไม่ได้ไปตีกอลฟ์ก็เปี่ยนไปวัดฟังเทศน์ถึงชลบุรีแล้วก็มาบอกให้เราภาวนาด้วยถ้าเราไม่ภาวนาแล้วศลีไม่เท่ากันแล้วมันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ตอนแรกเราก็โกรธแล้วที่เราทำอยู่ทุกวันเนี่ยมันคืออะไรทำงานหาเลี้ยงลูกเอง แถมบ้านที่เค้าซื้อก็เป็นชื่อเค้าไม่ได้ใส่ชื่อเราด้วยแรกๆเราก็พูดกะเค้าตลอดเค้าก็หาเหตุผลสาระพัดจนเราคิดว่าทั้งหมดมันเป็นกรรมของเราเองเราเลือกเองเรายังเคยพูดกับเค้าเลยว่า ขอเจอกันแค่ชาตินี้ชาติเดียว เห็นหน้าเค้านี่งไปเลยที่เราพูดเนี่ยเราพูดแบบนี่งๆด้วยไม่ได้โกรธเค้าเพราะมันเป็นกรรมของเราเอง นี่เราจะต้องทนต่อไปเพื่อลูกใช่ไหม...:'( คนที่เค้าเข้าถึงธรรมะเค้าน่าจะคิดได้นะช่วยบอกหน่อยว่าถ้าเค้าผ่อนบ้านหมดคนแบบนี้เค้าจะเห็นใจเราไหม หรือขึ้นอยู่กับกรรมของเรา
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...