ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลัง เหรียญโชคลาภ น.166

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ชนบท168, 16 มิถุนายน 2021.

  1. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    เหรียญพระเทวธนบดีสถิตที่กษาปณ์รังสิต ปี2543 ให้บูชา1,400บ.

    เหรียญที่ระลึกพิธีอัญเชิญ "พระเทวธนบดีสถิตที่กษาปณ์รังสิต" ชนิดทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ๗ กันยายน ๒๕๔๓

    เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ระลึกในการสร้างศาลพระเทวธนบดีสถิตที่กษาปณ์รังสิต ขนาด ๓๐ มิลลิเมตร โลหะทองแดง รูปไข่ จำนวนการสร้างน้อย เฉพาะแจกผู้ร่วมงานเท่านั้น

    "พระเทวธนบดีสถิตที่กษาปณ์รังสิต"เป็นเทพสูงสุดด้านการเงิน เป็นเทพที่ชาวกษาปณ์นับถือมาก ให้ผลด้านโชคลาภดีมากคุ้มครองป้องกันภัยเป็นที่ประจักร...จากประสบการณ์และจำนวนการจัดสร้างที่ไม่มากจึงเป็นที่ต้องการของชาวกษาปณ์และผู้ที่มาติดต่องานกับกองกษาปณ์เป็นอย่างยิ่ง


    upload_2023-10-11_20-33-16.jpeg
     
  2. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระผงรูปเหมือน พระเทพมงคลรังษี หลวงปู่ดี พุทธโชติ วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) จ.กาญจนบุรี ปี 2506 ปิดรายการครับ

    พระเกจิอีกรูปหนึ่ง ในสมญา “ถ้าเจ้าชู้ต้องวัดเหนือ” คือ พระเทพมงคลรังษี หรือ หลวงปู่ดี พุทธโชติ อดีตเจ้าอาวาสวัดเหนือ หรือ วัดเทวสังฆาราม ผู้มีพุทธาคมโดดเด่นด้านเมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์

    หลวงปู่ดี พุทธโชติ ท่านเกิดที่บ้านทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2416 โยมบิด-มารดา ชื่อ นายเทศ-นางจันทร์ เอกฉันท์ บวชเป็นสามเณรในปี พ.ศ.2434 ณ วัดทุ่งสมอ โดยมี พระอธิการรอด วัดทุ่งสมอ ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาร่ำเรียนได้ 6 เดือน ก็ลาสิกขาออกมาช่วยบิดามารดาทำนา จนอายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดทุ่งสมอ โดยมี พระครูวิสุทธิรังษี (หลวงปู่ช้าง) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการรอด และ พระใบฏีกาเปลี่ยน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา “พุทธโชติ”

    ท่านใฝ่ใจศึกษาเล่าเรียนทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ โดยมีความชอบเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการสวดปาฏิโมกข์ จึงมีความมานะพยายามจนที่สุดก็สามารถท่องปาฏิโมกข์ได้จบบริบูรณ์ในพรรษาที่ 2 ช่วงออกพรรษาท่านมักธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ศึกษาวิปัสสนาและวิทยาคมเพิ่มเติมกับพระเกจิหลายรูป อาทิ พระอาจารย์เกิด วัดกกตาล นครชัยศรี, หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อยิ้ม วัดหนองบัว ฯลฯ ท่านมีโอกาสเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จำพรรษาที่วัดรังษีถึง 2 ครั้ง เพื่อเรียนภาษาบาลีแต่ก็ไม่ได้เรียน กลับไปเรียนปาฏิโมกข์แปลแทน ท่านมีความสามารถในเรื่องสวดมนต์และท่องปาฏิโมกข์จนได้รับคำชมเชยเป็นอันมาก

    ท่านเป็นพระเถราจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาจิต ปรับปรุงและพัฒนาทุกอย่างในวัด อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ใช้ต่อ ส่วนที่บกพร่องก็แก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ที่ยังไม่มีก็เพิ่มเติมขึ้นเป็นลำดับ ทั้ง ขนบธรรมเนียม ระเบียบพิธีการ และถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัด พระทุกรูปมีวัตรปฏิบัติเรียบร้อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นับได้ว่า วัดเหนือได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆ จนเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดจริงๆ เป็นที่ชื่นชมศรัทธาของเหล่าสาธุชน แม้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส ยังทรงยกย่องให้เป็นตัวอย่างของวัดทั้งหลาย ในปี พ.ศ.2506 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพระองค์ เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินต้นที่วัดเหนือ และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญ พระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. จารึกไว้เหนือผ้าทิพย์ของ ‘พระพุทธรูปปางประทานพร’ ที่ทางวัดจะจัดสร้างเพื่อนำปัจจัยมาบำรุงวัด ทั้งทรงพระราชทานแผ่นทอง เงิน และนาก ลงในเบ้าหลอมพระพุทธรูปทุกเบ้า อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง

    ท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ในสมัยที่พระองค์กลับมาอุปสมบทที่วัดเหนือและจำพรรษาอยู่ 1 พรรษา จากนั้นกลับสู่วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงอุปสมบทซ้ำเป็นธรรมยุตอีกครั้ง โดย สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา สมณศักดิ์สุดท้ายเป็นที่ พระเทพมงคลรังษี เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี องค์ต่อมาจากหลวงปู่เปลี่ยน และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2510 สิริอายุ 94 ปี 73 พรรษา

    วัตถุมงคลที่ท่านสร้างล้วนเป็นที่นิยมและแสวงหาอย่างสูง ด้วยพุทธคุณอันโดดเด่นทางเมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์สูงส่ง

    upload_2023-10-12_15-43-20.jpeg

    upload_2023-10-12_15-43-52.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2024
  3. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    สมเด็จรุ่นแรกหลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ จ.กาญจนบุรี ปีพ.ศ.๒๕๑๖ ให้บูชา1,400บ.

    สมเด็จรุ่นแรกหลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ในการสร้างเสนาสนะต่างๆภายในวัด ซึ่งในปีนั้นได้ทำพิธีในวันเสาร์ห้า ลักษณะเป็นพระสมเด็จพิมพ์สี่เหลี่ยมเนื้อผงพุทธคุณ โดยผงพุทธคุณต่างๆ นั้นเป็นผงที่ได้รวบรวมโดยหลวงพ่อ และผงที่หลวงพ่อได้ลบเองผสมอยู่ด้วย จำนวนการสร้างเพียง ๕,๐๐๐ องค์

    upload_2023-4-9_22-42-15-jpeg.jpg

    ปีพ.ศ. ๒๔๖๔ หลวงพ่อเกลี้ยง มีอายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ โยมบิดาและโยมมารดา จึงอุปสมบทให้ด้วยใจศรัทธาในพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดคร้อพนัน ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับฉายาทางธรรมว่า "อินฺทสโร" โดยมี

    หลวงพ่อเปลี่ยน วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) เป็นพระอุปัชฌาย์
    หลวงพ่อหลิน เจ้าอาวาสวัดคล้อพนัน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    หลวงพ่อใช้ วัดคล้อพนัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์


    หลังจากอุปสมบท หลวงพ่อเกลี้ยงได้อยู่จำพรรษาแรกที่วัดคร้อพนัน และได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราญจากหลวงพ่อใช้ ซึ่งท่านมีความชำณาญเรื่องว่านยา สมุนไพร โดยได้รับสืบทอดมาจากหลวงพ่อหลิน เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดคร้อพนัน ซึ่งท่านเป็นปรมาจารย์ด้านยาแพทย์แผนโบราญที่มีการสืบทอดกันมา

    พรรษาที่ ๒ ท่านได้ไปศึกษาที่วัดใต้ สอบได้นักธรรมชั้นตรี นอกจากนี้ยังได้ศึกษาพุทธาคมจากหลวงพ่อเปลี่ยน พระอุปัชฌาย์ของท่าน โดยหลวงพ่อเปลี่ยน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำกลอง เชี่ยวชาญทางด้านไสยศาสตร์ วิปัสสนากรรมฐาน พุทธาคมแก่กล้า วัตถุมงคลเหรียญรุ่นแรก เสื้อยันต์ ตระกรุดลูกอมของท่านขลัง มีชื่อเสียงลื่อลั่นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางจนกระทั่งออกพรรษาจึงได้ลากลับวัดบ้านเกิด

    หลวงพ่อเกลี้ยง ท่านเป็นพระผู้คงแก่เรียน นอกจากวิชาแพทย์แผนโบราญและพุทธาคมต่างๆที่ท่านได้ร่ำเรียนจากพระอาจารย์แล้ว ท่านยังได้ศึกษาวิชาหวายคาดเอวและหวายมงคลสวมแขน ได้ดั้นดันมาเรียนวิชาหวายกับหลวงพ่อที่วัดสามกระบือเผือก จังหวัดนครปฐม จนหลวงพ่อเกลี้ยงเรียนสำเร็จและทำได้ขลังไม่แพ้ของอาจารย์

    พรรษาที่ ๓ ถึง ๕ จำพรรษาวัดคร้อพนันอยู่รับใช้ปรนนิบัติหลวงพ่อใช้ พอพรรษาที่ ๖ หลวงพ่อใช้ได้ล้มป่วยด้วยโรคขรา หลวงพ่อใช้ได้พร่ำสอนหลวงพ่อเกลี้ยง โดยให้คติธรรมโรคอื่น ๆ หาหมอพอรักษา แต่โรคชรา หมดทางแก้ไข พรรษาที่ ๗ หลวงพ่อใช้ได้สอนไว้ เรื่องความตายเป็นธรรมดา สังขารไม่เที่ยงแท้ มีแต่ทรุดโทรม แม้ท่านป่วยยังเอ่ยสอนธรรมธรรมะ หลวงพ่อใช้ท่านมีสติดีไม่หลงลืม ท่านได้กำหนดวันตายไว้ พอถึงตอนปลายปีท่านได้จากไปตามว่าไว้จริง ออกพรรษาจัดงานศพหลวงพ่อใช้ใด้เสร็จครบถ้วน

    ก่อนมรณภาพหลวงพ่อใช้ได้สั่งไว้ว่า เมื่อท่านสิ้นแล้วให้ไปหาพระอาจารย์ชื่น วัดปากบาง ตำบลพงตึก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดคร้อพนันอยู่คนละฝังแม่น้ำ เมื่อหลวงพ่อเกลี้ยงมาถึงวัดปากบางพระอาจารย์ชื่นได้รับหลวงพ่อเกลี้ยงเป็นศิษย์ เพราะก่อนหน้านั้นได้รับปากหลวงพ่อใช้เอาไว้แล้ว

    หลวงพ่อเกลึ้ยงได้ศึกษาพุทธาคมจากพระอาจารย์ชื่น ด้วยความวิรยะ อุตสาหะ พระอาจารยชี่น ชื่นชมว่า หลวงพ่อเกลี้ยงเรียนได้ไว เพราะมีพื้นฐูานดีอยู่เล้ว จึงถายทอดวิชาให้ทุกสิงทุกอย่างไม่ปิดบังหลวงพ่อเกลี้ยงได้อยู่รับใช้และศึกษาวิชากับพระอาจารย์ชื่น ถึง ๕ ปี ตั้งแต่พรรษาที่ ๘ ถึง ๑๒

    เมื่อศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์ชื่นจนจบ ตั้งใจจะลาพระอาจารย์กลับวัดคร้อพนัน ถิ่นบ้านเกิด พอย่างเข้าเดือน ๕ ชาวบ้านเขาใหญ ตำบลโคกตะบอง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากวัดปากบาง ประมาณ ๔ กิโลเมตร ได้มาหาพระอาจารย์ชื่นเพื่อขอพระมาอยู่ดูแลจัดการวัดเขาใหญ่เป็นสมภารเจ้าวัด

    พระอาจารย์ชื่น เห็นพระเกลี้ยงศิษย์รักของท่านมีความเหมาะสม เชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถา พอที่จะเป็นที่พึงแกชาวบ้านได้ หลวงพ่อชื่นจึงบอกให้ชาวบ้านเขาใหญ่กลับไปก่อน เมื่อถึงกำหนดชาวบ้านเขาใหญ่ได้มานิมนต์หลวงพอเกลี้ยง ไปเป็นสมภารวัดเขาใหญ่

    ปีพ.ศ. ๒๔๙๑ เมื่อหลวงพ่อเกลี้ยงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาใหญ่ ซึ่งวัดในขณะนั้นยังไม่มีพระอุโบสถ มีเพียงกฏิเพียง ๒ หลัง หลัง จากนั้นหลวงพ่อเกลี้ยงท่านได้มาพัฒนาโดยดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด ศาลาการเปรียญ หอระฆัง พระอุโบสถ เมรุฌาปนกิจศพ โรงเรียนประบาล ฯลฯ


    หลวงพ่อเกลี้ยง อยู่วัดเขาใหญ่ได้ ๓ พรรษาโยมพ่อได้ถึงแก่มรณภาพท่านจึงได้กลับมาจัดงานศพที่วัดคร้อพนัน พอเสร็จงานได้กลับวัดเขาใหญ่

    ปี พ ศ ๒๔๙๔ สร้างโรงเรียนประชาบาล เพื่อให้ลูกหลาน ของชาวบ้านเขาใหญ่และหมู่บ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน เพื่อความเจริญก้าวหน้า

    ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างศาลาการเปรียญ ศาลาเอนกประสงค์เพื่อประกอบการบุญการกุศลของชาวบ้าน เขาใหญ่

    ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ สร้างกุฏิสงฆ์และปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ต่อมาได้ขุดสระน้ำ เพื่อวางรากฐานการสร้างพระอุโบสถพอถึง

    ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ โยมเม่ของหลวงพ่อเกลี้ยงได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา หลวงพ่อเกลี้ยงท่านต้องกลับมาจัดงานศพของโยมแม่ที่วัดคร้อพนัน อีกครั้งหนึ่ง

    นับว่าหลวงพ่อเกลี้ยงเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คณผู้มีพระคุณ เมื่อโยมบิดามารดาเจ็บไข้ได้ป่วย ท่านจะมาคอยดูแลรักษาโดยตลอด จนกระทั่งโยมบิดามารดาถึงแก่กรรมท่านก็จัดงานศพโดยเรียบร้อย

    ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ หลวงพ่อเกลี้ยงได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ "พระครูอินทรสรวุฒิคุณ"

    ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ทางวัดเขาใหญ่ได้จัดงานฉลองพระอุโบสถผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ชึ่งพระอุโบสถนี้ หลวงพ่อเกลี้ยงได้ออกแบบก่อสร้างได้อย่างสวยงามมาก ประตูและหน้าต่างพระอุโบสถแกะจากไม้สักลวดลายฉลุเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ หน้าบรรณพระอุโบสถด้านบนเป็นพระปางนาคปรก ด้านล่างพระนารายณ์ทรงโค

    หลังจากงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต หลวงพ่อเกลี้ยงมีสุขภาพอ่อนแอ เนื่องจากตรากตรำงานหนักนับแต่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาใหญ่ ซึ่งการสร้างเสนาสนะภายในวัดหลวงพ่อเกลี้ยงท่านตั้งใจสร้างด้วยความพากเพียร ตัดไม้เอง เลื่อยไม้เอง

    เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราเกิดโรคเเทรกซ้อนเป็นเวลา ๑ ปี มีอาการหนัก ลูกศิษย์จึงนำท่านส่งโรงพยาบาล แต่อาการมีแต่ทรงและทรุดหนักลง หลังจากรักษาอยู่ ๑ ปีครึ่ง ลูกศิษย์จึงนำหลวงพ่อเกลี้ยงกลับวัดเขาใหญ่โดยมีลูกศิษย์คอยดูแลปรนนิบัต เเต่ด้วยวัยชรา

    หลวงพ่อเกลี้ยง ได้มรณภาพด้วยโรคชราอย่างสงบ ณ วัดเขาใหญ่ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ นับรวมสิริอายุได้ ๘๒ ปี ๖๓ พรรษา


    พระสวยเดิมผิวหิ้งหายากครับสร้างเพียง5,000องค์เท่านั้น

    upload_2023-10-12_15-51-23.jpeg
     
  4. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระปิดตารุ่นแรก(ปลดหนี้) หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี ปี31 ปิดรายการครับ

    upload_2023-4-9_23-12-29-jpeg.jpg

    ครั้งหนึ่งหลวงปู่บุดดาท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่บุดดาได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศรีษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ทันที " หลวงปู่ทำไมเทแป้งอย่างนั้นล่ะครับ" ท่านตอบทันที "ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศรีษะของเรา ไม่งั้นจะเป็นการไม่เคารพ"

    upload_2023-10-12_15-53-59.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2024
  5. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    หลวงพ่อทวด เนื้อดินหอม "รุ่นมหามงคล"วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้บูชา150บ.

    วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ , หลังจากจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 9.9 เมตร ในโครงการจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดถวายเป็นพระราชกุศล “สร้างพระให้แม่” แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในปี พ.ศ. 2547 ทางวัดห้วยมงคล ก็ได้มีการดำริจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดขนาดเล็กโดยใช้ดินและว่านที่เหลือจากการสร้างพระหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 9.9 เมตร

    มวลสาร
    •ดินที่ใช้ปั้นแบบและหล่อพระหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 9.9 เมตร
    •ผงวิเศษ,ดินและว่านที่เหลือจากการสร้างพระหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 9.9 เมตร
    •โลหะที่เป็นมงคลต่างๆจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
    •ดินมหามงคลจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ


    พระสวยเดิมพร้อมกล่อง แจกเป็นรางวัลชนะเลิศที่ ๒,๓,๔ งานประกวดพระ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร


    upload_2023-4-10_18-14-15-jpeg.jpg

    upload_2023-4-10_18-14-29-jpeg.jpg
     
  6. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระซุ้มกอหลวงพ่อบุญเทียม วัดลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ให้บูชา250บ.

    พระครูบริรักษ์ธรรมมากร หรือ หลวงพ่อบุญเทียม ภูริปญฺโญ เทพเจ้าแห่งความเมตตาของชาวลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ท่านเป็นพระมหาเถระที่ทรงอภิญญาอีกรูปหนึ่งของเมืองปทุมธานี ท่านเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์ กำหนดรู้กาลล่วงหน้าได้ แต่ท่านก็มิเคยอวดตนว่าเก่ง แต่ชาวบ้านสามารถทราบถึงบารมีของท่านได้ และท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังมีชื่อเสียงในยุคนั้น ท่านเคยได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเศกงานสำคัญๆอยู่หลายครั้ง และท่านยังสร้างวัตถุมงคลไว้ใช้แจกแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาไว้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น พระพิมพ์สมเด็จฯ พิมพ์ต่าง ๆ , พระปิดตา พิมพ์ต่างๆ , ตะกรุด , พระเหรียญรูปเหมือนตัวท่าน , พระเหรียญพระพุทธ , ผ้ายันต์ , พิรอด , พระเนื้อผงพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งวัตถุมงคลของท่านที่โด่งดัง และเป็นที่ต้องการของนักสะสมในยุคปัจจุบัน

    upload_2023-4-24_16-22-36-jpeg.jpg

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อบุญเทียม ทุกชนิดล้วนแล้วแต่ดีมีประสบการณ์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ทำให้มีประชาชนจากทั่วสารทิศมากราบไหว้ขอพร ขอของขลัง ให้ท่านอาบน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ ทุกวันมิได้ขาดสาย จนกระทั่งวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ หลวงพ่อบุญเทียม ภูริปญฺโญ จึงได้ละสังขารลงอย่างสงบ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาศิษยานุศิษย์และชาวบ้านวัดลาดหลุมแก้วเป็นอย่างยิ่ง สิริรวมอายุท่านได้ ๖๘ ปี พรรษา ๔๖


    upload_2023-4-24_16-23-30-jpeg.jpg

     
  7. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระผงคลุกรักพิมพ์ปรกโพธิ์ฐานบัว หลวงพ่อบุญใหญ่ วัดป่าแก้ว ปี2470 จ.อุตรดิตถ์ ให้บูชา1,200บ.

    upload_2023-4-26_17-50-18-jpeg.jpg

    หลวงพ่อบุญใหญ่ อินทปัญโญ (พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร) วัดเจดีย์คีรีวิหาร (วัดป่าแก้ว) อ.ลับแล
    จ.อุตรดิตถ์ พระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมสูง พระเครื่องของท่านได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีประสบการณ์ทุกด้าน พระผงคลุกรัก พ.ศ.2470 ตามประวัติบอกว่าท่านได้สูตรการสร้าง พระผงคลุกรักมาจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อครั้งที่ หลวงปู่ศข ได้ขึ้นไปสักการะ หลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน จ.อุตรดิตถ์ และได้ถ่ายรูปร่วมกันที่หน้าประตูพระอุโบสถ เมื่อ พ.ศ.2461 เนื้อพระผงคลุกรักของ หลวงพ่อบุญใหญ่ จึงคล้ายกับของ หลวงปู่ศุข มาก จนบางคนคิดว่าเป็นพระของ หลวงปู่ศุข ก็มี
    และหลวงพ่อบุญใหญ่ท่านมีพระที่เป็นพระสหายธรรมที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น ซึ่งมักไปมาหาสู่กันอยู่บ่อย ๆ จึงเป็นที่เชื่อถือได้ว่าวิทยาคมของท่านนั้นสูงส่งไม่ต่างจากพระสหายของท่าน

    หลวงพ่อบุญใหญ่ ท่านได้รวบรวมว่านและผงอันศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จำนวนมากกว่า 10 ปี เพื่อสร้างเป็นพระพุทธ พิมพ์กว่า 10 พิมพ์ แจกในงานฉลองพระอุโบสถเมื่อปี พ.ศ.2470 พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานบัวองค์นี้ เนื้อผงคลุกรัก มวลสารผงว่านวิเศษ พุทธคุณเป็นเลิศด้านเมตตา โชคลาภเป็นที่สุด และคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัยดีมาก

    หลวงพ่อบุญใหญ่ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายรูป เช่น หลวงพ่อฝ้าย วัดสนามไชย จ.พิษณุโลก (เจ้าตำรับกระสุนคด), หลวงพ่อเรือง วัดพระยาปันแดน, พระมหาธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่, หลวงพ่อนาค วัดป่าข่อย และหลวงพ่อฮวบ วัดสามัคคยาราม ฯลฯ


    upload_2023-4-26_17-45-56-jpeg.jpg
     
  8. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    รูปเหมือนว่านพ่อท่านจันทร์ วัดโคกตา "รุ่นแรก" ปี 2505 อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ให้บูชา750บ.

    หลวงพ่อจันทร์ คงฺคสาโร

    นามเดิม จันทร์ ดำรักษ์ เป็นชาวสุไหงปาดีโดยกำเนิด
    บิดาของท่านไม่ปรากฎชื่อ แต่เรียกกันว่า"พ่อครู"
    มารดา ชื่อ นางหน่อทอง
    ลักษณะพิเศษของหลวงพ่อจันทร์ คือมีปานดำขนาดปลายนิ้วก้อยอยู่บริเวณเพดานปากท่านตั้งแต่แรกเกิด


    upload_2023-4-27_19-7-57-jpeg.jpg

    การบวชของท่านก็ไม่มีหลักฐานที่วัดไหนเมื่อใด แต่เมื่อบวชแล้วได้มาจำพรรษาที่วัดโบราษสถิตย์และวัดประดิษฐ์บุปผา สลับไปมาที่วัดหนึ่งวัดใดขาดพระจำพรรษา ท่านได้ไปอยู่ที่นครศรีธรรมราช ๓ พรรษา แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดโต๊ะโม๊ะ จนกระทั่งนายบุญจันทร์ ได้สร้างวัดประชุมชลธาราขึ้น ท่านจึงได้มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก และจำพรรษาอยู่ที่วัดประชุมชลธาราจนกระทั่งมรณะภาพ

    ประสบการณ์ และ อิทธิฤทธิ์

    หลวงพ่อจันทร์ช่วยชีวิตงูจงอาง
    ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านดักปลาด้วยซ่อน ซึ่งเป็นเครื่องมือดักปลาชนิดหนึ่งปากกว้าง ท้ายเรียวยาว ใช้ดักปลาที่ว่ายตามน้ำ มีปลาช่อนติดอยู่แล้วถอยหลังออกไม่ได้ เพราะตัวซ่อนทำด้วยหนามหวายที่โค้งงอไปทางท้ายซ่อน ทำให้หนามดึงรั้งเกล็ดปลาเอาไว้ ปรากฎมีงูจงอางตัวหนึ่ง มุดหัวเข้าไปเพื่อจะกินปลา แล้วหัวงูกลับติดอยู่ในซ่อน ถอยออกไม่ได้เช่นกัน แต่เนื่องจากงูนั้นมีขนาดใหญ่ ดิ้นรนจนซ่อนหลุดจากที่ยึด แล้วเลื้อยเข้ามาที่วัดทั้งที่มีซ่อนสวมหัวอยู่ หลวงพ่อจันทร์ได้ช่วยเหลือโดยการปลดซ่อนออกให้ พอเป็นอิสระภาพงูก็ได้ยกหัวขึ้นแผ่พังพานลักษณะเหมือนจะฉกกัด หลวงพ่อจันทร์จึงพูดว่า "เอ็งจะกัดเราหรือ" พอพูดดังนั้น งูกลับลดหัวลงกราบแทบเท้าท่าน คล้ายกับหมอบกราบ แล้วเลื้อยจากไป
    ผู้เห็นเหตุการณ์เป็นพยานยืนยันได้ ๓ คน
    ๑. นายหมวก ทองรมย์
    ๒. นายหวัง พันธ์โพธิ์
    ๓. นางชีร่ม ไม่ทราบนามสกุล
    ทั้ง ๓ เป็นชาวสุไหงปาดี และได้ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว


    โจรปล้นวัด
    ครั้งหนึ่งมีโจรหลายคนเข้ามาปล้นวัด ขณะกำลังรื้อสิ่งของมีค่า ก็มีเสียงเหมือนระเบิดดังกึกก้องขึ้นบนท้องฟ้าเหนือวัด ทำให้พวกโจรแตกตื่นหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินใดๆ

    พลังเหนือธรรมชาติของหลวงพ่อจันทร์
    เคยมีผู้หนึ่งสร้างความรำคาญให้หลวงพ่อจันทร์ หลวงพ่อจันทร์เลยแสดงอิทธิฤทธิ์ด้านพละกำลังให้ปรากฎ ด้วยการใช้มือจับศีรษะผู้นั้น แล้วยกขึ้นทั้งตัวโดยมือข้างเดียว แล้วพาไปวางที่อื่นได้ ทั้งๆที่ท่านเป็นคนร่างเล็ก ซึ่งแม้คนปกติที่ร่างใหญ่กว่าท่านก็ทำไม่ได้

    ความศักดิ์สิทธิ์
    สมัยหลวงพ่อจันทร์ จำพรรษาอยู่ที่วัดประชุมชลธารา ถ้าใครใช้อาวุธปืนยิงสิ่งใดก็แล้วแต่
    หากหันกระบอกปืนไปทางวัด ปืนนั้นจะยิงไม่ออก แต่เมื่อหันไปด้านอื่น ปืนจะยิงได้ตามปกติ
    แม้จนถึงปัจจุบันนี้ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อจันทร์ก็ยังเป็นที่ประจักษ์ การที่บนบานศาลกล่าวในสิ่งที่ชอบธรรมจะสัมฤทธิ์ผลตามความปรารถนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีสิ่งของสูญหาย และการเจ็บไข้ได้ป่วย รูปเหมือนของท่านที่บนศาลาการเปรียญหลังเก่า จึงมีผู้ไปกราบไหว้ และบนบานมิได้ขาด

    ในอดีต หลวงพ่อครน วัดบางแซะ ได้มาศึกษาวิชากับหลวงพ่อจันทร์ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลวงพ่อจันทร์ เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมเข้มขลัง เป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป แม้ท่านมรณะภาพไปนานแล้ว แต่ยังเป็นที่พึ่งทางใจของผู้ศรัทธาไม่เสื่อมคลาย


    upload_2023-4-27_11-23-26-jpeg.jpg
     
  9. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    รูปเหมือนเนื้อผง หลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย จ.สุพรรณบุรี

    "พระกูต่อให้ไปทิ่ม...หมา ก็ยังไม่เสื่อม"

    upload_2023-10-20_13-34-26.jpeg

    หลวงตาจวน แห่งวัดไก่เตี้ย อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอริยสงฆ์ผู้เป็นอรหันต์ของชาวอำเภอศรีประจันต์ เป็นพระสงฆ์ที่ชาวอำเภอศรีประจันต์เคารพนับถือท่านมาก เป็นพระคุณเจ้าที่สบายๆเป็นกันเอง นิสัยท่านพูดจริงทำจริง เป็นพระที่พูดตรงๆ ถ้าด่าก็จะด่าแบบตรงๆไม่อ้อมค้อม ถ้าคนๆนั้นทำผิดจริงๆ ท่านมักจะพูดเสมอว่า "พระของกูไม่มีคุณวิเศษอะไรหรอก ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำไม่ดีก็ไม่ดีไปเอง"

    แต่ชาวศรีประจันต์จะรู้ดีว่าพระของหลวงตามีคุณอันวิเศษรอบด้าน เมตตา แคล้วคลาด คงกระพันเป็นยอด รถคว่ำรถชน รถพังเสียหายยับเยิน แต่ตัวคนขับไม่เป็นอะไรเลย ในคอมีพระของหลวงตาเพียงองค์เดียว เด็กๆถูกหมากัดก็ไม่เข้า ในคอมีพระของหลวงตา ท่านมักจะพูดติดตลกว่า "พระกูต่อให้ไปทิ่ม...หมา ก็ยังไม่เสื่อม" นี้สิครับของจริง เมื่อปลุกเสกบรรจุพุทธาคมแล้วไม่มีวันเสื่อม หลวงตาจวนเป็นพระเกจิยุคหลังๆที่ได้รับนิมนต์ปลุกเสกพระเกือบทั่วทั้งสุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระขุนแผนบ้านกร่างปลัดทวี อันเลื่องชื่อ

    วันไหนมีงานบุญที่วัดไก่เตี้ย แล้วหลวงตาจะแจกพระ จะมีคนไปร่วมงานกันมากมายจนล้นวัด พระที่เตรียมไว้แทบไม่พอแจก มีอยู่ครั้งหนึ่ง งานทำบุญอายุ ๘๖ ปีของหลวงตา ผู้คนต้องการธงห้อยหน้ารถของหลวงตากันมาก แต่ที่ทางวัดเตรียมไว้มีน้อย คนที่มาทำบุญทุกคนก็อยากได้ หลวงตาเลยพูดออกลำโพงให้ทุกคนทั้งวัดรับรู้ว่า

    " ธงให้คนละผืนนะ ใครไม่ได้มา ก็ไม่ได้ คนที่ฝากมาทำบุญ ก็ไม่ต้องเอากลับไปให้เขา เอาไปแค่ของตัวเองคนละผืนเท่านั้น "

    ทำให้ผู้คนที่เอาไปหลายผืน รีบนำมาคืนหลวงตาในทันที เพราะรู้ดีว่าหลวงตาท่านเป็นคนจริง พูดจริง แต่มีป้าอยู่คนหนึ่งอยู่แถววังน้ำซับ (ใกล้โรงพยาบาลศรีประจันต์) ไม่สนใจ เอาไปสองผืนเพราะมีญาติฝากมาทำบุญ จะเอาไปให้เขาด้วย ก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกจากวัดไก่เตี้ย ยังไม่เลยโค้งวัดถั่วเลยด้วยซ้ำ (ประมาณ ๓กิโลกว่าๆ) ปรากฏว่ารถกระบะมาจากไหนไม่รู้ ชนป้าคนนี้เข้าอย่างจัง รถมอเตอร์ไซด์ไม่เหลือชิ้นดี ไม่สามรถใช้งานได้อีกเลย เอาไปทำเศษเหล็กได้เท่านั้น แต่ตัวป้าคนนี้ไม่เป็นอะไรเลย รอยถลอกยังไม่มี นึกขึ้นได้ รีบให้กู้ภัยพากลับไปหาหลวงตา เอาธงไปคืนหนึ่งผืน ยังไม่ได้บอกอะไรหลวงตาก็พูดขึ้นมาว่า "ไม่ตายก็ดีแล้วไง ข้าบอกเอ็งแล้วเอ็งก็ไม่เชื่อข้า" ป้าคนนั้นก้มกราบหลวงตา น้ำตาไหลเลยครับที่รอดตายมาได้ เหตุการณ์นี้กู้ภัยหลายท่านรู้ดี เคยคุยกันเขาบอกว่าไม่รู้รอดมาได้ไง สภาพรถเละไม่เหลือชิ้นดีเลยครับ


    องค์ที่๑ ให้บูชา150บ.
    upload_2023-10-20_13-36-41.jpeg

    องค์ที่๒ ให้บูชา150บ.
    upload_2023-10-20_13-36-53.jpeg
     
  10. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระสมเด็จมงคล9 หลวงปู่สุภา วัดเขารังฯ จ.ภูเก็ต ปี2548 ให้บูชา150บ.

    หลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม พระเกจิ 5 แผ่นดินผู้มีอายุยืนยาวถึง 119 ปี (ชาตะ 2438 มรณภาพ 2557) ท่านได้เข้ารับการอุปสมบทโดยมีหลวงปู่สีทัตต์ วัดท่าอุเทน เป็นพระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์องค์สำคัญ โดยต่อมาหลวงปู่สุภาท่านได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมต่างๆจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเวลาถึง 3 ปี พิธีครั้งสำคัญที่ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังคือพิธีเสด็จกลับที่ทำตามตำรับหลวงปู่ศุข โดยนำพระไปอาราธนาลงแม่น้ำและทะเลแล้วบริกรรมเรียกพระให้กลับมา ซึ่งตลอดพิธีมีรูปถ่ายยืนยันและมีผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในพิธีมากมาย


    upload_2023-10-20_13-45-21.jpeg
     
  11. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระสมเด็จหลังพรหมสี่หน้า หลวงพ่อสมบุญ สวนนิพพาน(วัดปอแดง)จ.นครราชสีมา ให้บูชา150บ.

    วัดปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เป็นวัดเก่าแก่ประจำ ต.ภูหลวง ชาวเมืองโคราชล้วนคุ้นเคยกันดี ก่อสร้างราว พ.ศ.2463 โดย หลวงพ่อโต คังคะปัญญา หรือ หลวงปู่โต ได้นำรอยพระพุทธบาทและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากอินเดียมาประดิษฐานเอาไว้ เป็นที่อาศัยของสรรพสัตว์น้อยใหญ่มากมาย ถาวรวัตถุที่มีคือ ท้าวมหาพรหมทั้ง 4 พระแม่ธรณี พระพุทธไม้ตะเคียน พระนอนไม้ตะเคียน ถ้ำพญานาคราช ศาลาพระนอน พิพิธภัณฑ์และพระเจดีย์ศรีสมบุญ ปริปุณณฺสีโล


    upload_2023-5-4_16-24-13-jpeg-jpg.jpg

    หลวงปู่บุญ ปริปุณณฺสีโล แห่งสวนนิพพานวัดปอแดง (วัดปอแดง) ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เป็นหนึ่งในพระเถระที่สืบทอดเจตนารมณ์ของบูรพาจารย์ด้วยดีเสมอมา ปัจจุบันเจ้าอาวาสสวนนิพพานวัดปอแดงคือ พระอธิการสมศักดิ์ โกสะโล และยังเป็นเจ้าคณะตำบลภูหลวง

    หลวงปู่บุญ เกิดเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2478 ปีกุน ที่บ้านปอแดง หมู่ 4 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา บิดาชื่อ นายหลอด มารดาชื่อ นางคำ แรมกิ่ง มีพี่น้องร่วมอุทร 5 คน หลวงปู่เป็นคนที่ 4 จิตใจฝักใฝ่ในธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ เรียนจบชั้นประถม ก็ช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา เกณฑ์ทหารไปรับใช้ชาติ 2 ปี เบื่อหน่ายทางโลกอุปสมบทเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2514 ณ พัทธสีมาวัดห้วยสะแกราช ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยมี พระครูสาครคณารักษ์ (หลวงปู่ก้อน จิตตาสาโก) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิศาลสุขวัฒน์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูสิทธิสีคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “ปริปุณณฺสีโล”

    หลวงปู่บุญ ออกธุดงค์เข้าป่าดงพญาเย็น เผชิญหน้าเสือ หมี ช้างและสัตว์ร้าย เจอแผ่นทองลอยในลำธารน้ำแต่ไม่สนใจ มุ่งมั่นไปเทือกเขาภูพานข้ามไปฝั่งลาว กลับมาไปภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก นั่งสมาธิในป่าช้าจนเชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐาน พลังจิตกล้าแกร่ง ท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์ พระพิมลธรรม (อาจ อาสโก) หลวงพ่อวิชัย นิรามโยภิกขุ หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง หลวงพ่อพระพุทธบาทตากผ้า หลวงพ่ออ่อน ยโสธโร หลวงปู่จันทโรกาส วัดป่าข่อย ศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ต่อมาหลวงปู่บุญ กลับมาพำนักสวนนิพพานวัดปอแดง สั่งสอนธรรมะและสงเคราะห์ญาติโยมและผู้ศรัทธา...

    upload_2023-10-20_13-56-11.jpeg
     
  12. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    หลวงพ่อทวด หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมดิน จ.สุรินทร์ ให้บูชา150บ.

    หลวงปู่ธรรมรังษี " ท่านเจ้าคุณสองแผ่นดิน "

    หลวงปู่ธรรมรังษี หรือ พระมงคลรังษี หรือพระครูธรรมรังษี หรือหลวงปู่วัดเขาดิน ตามแต่ศิษย์จะเรียก พระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม ประวัติท่านเป็นชาวกัมพูชา เป็นพระสงฆ์ ซึ่งมีสมศักดิ์สูงของกัมพูชา ท่านอพยพเข้ามาในประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2517 เนื่องจากวิกฤติทางสงครามภายในประเทศของท่านหาความสงบมิได้ ท่านจึงเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านมีวัตรปฏิบัติงดงามตามสายธารแห่งธรรมงดงามตลอดสาย ประพฤติพรหมจรรย์ตลอดอายุขัยท่าน บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นพระนักวิปัสนาธุระชั้นยอด เป็นนักพัฒนา เป็นบุญของชาวอำเภอท่าตูม และชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้ พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง โดยท่านปลงใจจะพัฒนาวัดพระพุทธบาทเขาพนมดินให้เจริญ จนกว่าจะสิ้นอายุขัยท่าน ท่านได้บำเพ็ญประโยชน์เป็นอย่างมาก ช่วยเหลือ วัด หลายวัด ไม่เลือกว่าเป็นวัดไทยหรือกัมพูชา ท่านไม่เลือกชนชั้นวรรณ จากคำบอกเล่าของชาวอำเภอท่าตูม แม้กระทั่ง สมเด็จพระสังฆราชกัมพูชา และ เชื้อพระวงษ์ชั้นสูงของกัมพูชาเคย เสด็จมาอย่างไม่เป็นทางการ มาหาท่านมากราบท่าน ท่าน ฉันเจ พูดไพเราะทุกคำ เมตตาต่อทุกคนที่ไปพบท่านไม่เลือกชนชั้นวรรณ ณ ท่านให้เท่ากันหมด

    เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปในคนชาวสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง เมื่อสงครามสงบทางการประเทศกัมพูชาได้ นิมนต์ขอให้หลวงปู่ธรรมรังษีกลับไปดำรงค์ตำแหน่งพระสังฆราช แห่งประเทศกัมพูชา แต่ท่านได้ปฏิเสธไป เพราะหลวงปู่ท่านต้องการอยู่ที่ประเทศไทย และหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของชาวอีสานใต้และภาคใกล้เคียง เป็นอย่างมาก หลวงปู่ธรรมรังษีท่านจึงขอรับสมณศักดิ์ทางการประเทศกัมพูชา ในพระยศสมณะศักดิ์ชั้นธรรม เพียงเท่านั้น

    วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๕ หลวงปู่ธรรมรังษี เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชพระสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี ที่ประเทศกัมพูชารับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ “ พระธรรมวิริยาจารย์ กัมพูชา ”

    คณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ โดยพระเดชพระคุณพระเทพปัญญาเมธีเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ได้เกื้อกูลหลวงปู่ธรรมรังษีอันเป็นเนื้อนาบุญของจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียง จึงได้มอบความไว้วางใจให้กับหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นพระฐานานุกรรมเจ้าคณะจังหวัด “ พระครูสังฆรักษ์ สุวัฒน์ จันทสุวัณโณ ”


    upload_2023-10-20_14-1-20.jpeg
     
  13. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระผงของขวัญรุ่นวิเศษ พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ จ.นครศรีธรรมราช ให้บูชา300บ.

    พระครูนิโครธจรรยานุยุต (มุ่ย จนฺทสุวณฺโณ) วัดป่าระกำเหนือ ต.ป่าระกำ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช

    sqirvncgtzkckn4kdum0zvxp8nncwl8_6edsdsu9hbygfbfx3rwjhit5buqcexouaff8rdzw19uswlmjradv-jpg-jpg-jpg.jpg

    ท่านมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก ฉันเอกา (มื้อเดียวใน 1 วัน) จำพรรษาอยู่หลายวัด แต่วัดที่ส่วนใหญ่ผู้คนรู้จักกันคือ วัดป่าระกำเหนือ และวัดบางบูชา เนื่องจากท่านได้สร้างพระเครื่องรางจนเป็นที่โด่งดังและหลายๆ คนต้องการคือ พระปิดตาน้ำนมควายพระปิดตาพ่อท่านมุ่ย จะสร้างทั้งวัดบางบูชาและวัดป่าระกำเหนือ เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ในพิธีพุทธาภิเษก จตุคามรามเทพรุ่นแรก ปี 2530

    พระเครื่องและวัตถุมงคลของพ่อท่านมุ่ยแต่ละชนิดแต่ละรุ่น เช่น พระปิดตา พระพิมพ์ประทานพร ลูกอม หลวงพ่อจะปลุกเสกเดี่ยว

    พิธีกรรม“เคี่ยวน้ำนมควาย”พ่อท่านพิถีพิถันมาก กระทะที่เคี่ยว ก้อนเส้าที่รองกระทะ ต้องลงอักขระทุกอย่าง ไม้ฟืนที่ใช้ต้องเป็นไม้ที่มีชื่อเป็นสิริมงคล และต้องลงอักขระทุกดุ้น ไม้พายที่ใช้กวนน้ำนมก็ต้องลงอักขระเช่นกัน ขณะที่กำลังกวนน้ำนมควายก็ต้องบริกรรมพระคาถาตลอดเวลา เรียกว่ากว่าจะได้พระปิดตาสักองค์หนึ่งต้องใช้เวลานาน ไม่ง่ายเหมือนกับพระปิดตาที่ปั๊มจากโรงงาน คนที่รู้จักใช้ของดีจึงต้องศึกษาวิธีการสร้างพระเครื่องของแต่ละพระเกจิอาจารย์ด้วย ถึงจะเรียกว่าเข้าถึงแก่นอย่างแท้จริง


    ...ผงปถมัง ได้มาจากการเขียนผง นะปถมังพินธุ แล้วลบผงออก ผงที่ได้จากการลบนะปถมังพินธุ คือ ผงปถมัง นะปถมังพินธุ ผงวิเศษนี้ยังมีชื่อเรียกอีกหลายอย่าง อาทิ นะปฐมกัปป์...นะทรงแผ่นดิน, นะปัดตลอด ฯลฯ รายละเอียดมีมากมาย

    “พ่อท่านมุ่ย” ได้ศึกษาวิชาทำผงปถมังจนเชี่ยวชาญ ในการทำผงปถมัง ท่านใช้ความมานะ พยายามเขียนสูตรปถมังแล้วลบออกมาเป็นผงอยู่นานหลายปี ทุ่มเททั้งพลังกายพลังใจอย่างเต็มที่ เมื่อได้ผงปถมังมากพอจะนำมาสร้างพระเครื่องแล้ว พ่อท่านมุ่ย จะเอาผงวิเศษที่ทำขึ้น นำมาคลุกเคล้ากับน้ำนมควาย ซึ่งใช้เป็นตัวประสานผงวิเศษ นวดจนกระทั่งเหนียวได้ที่ จึงนำไปกดในแม่พิมพ์ พ่อท่านบอกว่า ที่ต้องใช้น้ำนมควาย ก็เพราะว่าน้ำนมควายมีความเข้มข้นกว่าน้ำนมวัว น้ำนมของสัตว์ ๒ ชนิดนี้เป็นอาหารของมนุษย์ ที่ได้ชุบเลี้ยงชาวโลกมานานแล้ว เป็นสัตว์ที่มีบุญคุณต่อมนุษย์อย่างแท้จริง สำหรับดินสอที่ีใช้เขียนอักขระเลขยันต์ พ่อท่านจะทำมาจากข้าวเม่าตำ ผสมกับสมุนไพร และมวลสารต่างๆ ตามตำราโบราณ ปั้นเป็นแท่งๆ ใช้แทนดินสอแล้วนำไปเขียนอักขระเลขยันต์ พร้อมบริกรรมพระคาถาไปด้วย การทำผงปถมังครั้งแรกของพ่อท่านมุ่ย ท่านใช้กระดานหนา 6 หุน เสกคาถาลงอักขระทำผงปถมัง ปรากฏว่า ทะลุกระดานหายไปหมด ไม่ได้ผงปถมังเลย พ่อท่านมุ่ย จึงได้เดินทางไป จ.พัทลุง เพื่อปรึกษากับ “พ่อท่านหมุน” วัดเขาแดงตะวันออก ซึ่งเป็นสหธรรมิกของพ่อท่าน พ่อท่านหมุน บอกว่า ให้เอาใบกล้วยทองลงยันต์ผูก ธรณี จึงจะได้ผงปถมัง


    mnccluedz8asmcv92ieztll_gu7mft6t3er3owqxu0s7f8fwmc0yvgtnwl6uvrw1a_hb6zp_eh6xdhxlaagdek_v-jpg-jpg.jpg

    หลังจากนั้นพ่อท่านมุ่ยจึงกลับมาทำผงปถมังอีกครั้ง ได้ผงปถมังมากมาย การทำผงปถมัง พ่อท่านมุ่ยมิได้ทำผงปถมังเพียงแต่ท่านคนเดียว เพราะขณะนั่งเสกอยู่นั้นจะมี “เทวดา” มาร่วมอยู่ด้วย และจะยื่นผงปถมังให้ ผงปถมังของพ่อท่านมุ่ย จึงเป็นผงปถมังของเทวดารวมอยู่ด้วย เมื่อได้ผงปถมังด้วยอำนาจแห่งพลังจิตของพ่อท่านแล้วจึงนำไปสร้างเป็นองค์พระปิดตา แล้วปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งจึงจะเสร็จสมบูรณ์จริงๆ จะเห็นได้ว่า พิธีกรรมสร้างพระของพ่อท่านมุ่ยนั้นไม่ธรรมดาเลย พระของท่านจึงทรงไว้ซึ่งความขลังความศักดิ์สิทธิ์เป็นเลิศสุดพรรณนาจริงๆ

    พระผงของขวัญรุ่นวิเศษ ฉลองอายุ 84 ปีเป็นพระเนื้อผงปถมังผสมน้ำนมควาย ด้านหลังเป็นยันต์ นะปัดตลอด"ของพ่อท่านมุ่ย พุทธคุณ เมตตา เจริญก้าวหน้า ค้าขาย แคล้วคลาด สุดยอด และเป็นของดีที่ราคาเบาๆ สามารถอาราธนาพกพาติดตัวได้อย่างสนิทใจ


    upload_2023-10-20_14-10-34.jpeg
     
  14. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระผงหลวงพ่อโสธร รุ่นสร้างอุโบสถ ปี2544 เนื้อผงผสมมวลสารจากองค์หลวงพ่อ พิมพ์รูปไข่ใหญ่ ปิดรายการครับ

    พระผงหลวงพ่อโสธร รุ่นสร้างอุโบสถ ปี พ.ศ. 2544 เนื้อผงผสมมวลสารจากองค์หลวงพ่อ เป็นอีกรุ่นที่ออกแบบองค์หลวงพ่อได้งดงามเหมือนองค์จริงมากๆ โดยอัญเชิญมวลสารจากองค์หลวงพ่อโสธรเช่น ทอง,ปูน,รัก ที่ลอกออกมาจากองค์หลวงพ่อเมื่อครั้งบรูณะองค์ท่าน ถือเป็นตำนานและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนรุ่นใดๆและยากยิ่งที่จะสร้างได้อีก ที่สำคัญรุ่นนี้วัดโสธรฯเป็นผู้สร้างแท้ๆ ต่อไปจะต้องเป็นที่เสาะแสวงหาของทุกคนแน่นอน

    วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่น ล้วนมีพุทธคุณเด่นในด้าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย เสริมดวง,ค้าขายดีเยี่ยม

    upload_2023-10-20_14-16-19.jpeg

    upload_2023-10-20_14-16-30.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2023
  15. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,948
    ค่าพลัง:
    +5,770
    จององค์ที่ 1 ครับ
     
  16. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,948
    ค่าพลัง:
    +5,770
    โอนแล้วครับ วันนี้ เวลา 18.39น. จำนวน 300 บาท ผ่าน KTB
    ขอฝากพระเอาไว้ก่อนนะครับ
    ขออภัยด้วยนะครับ องค์แรกผมลืมครับ
     
  17. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  18. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,174
    ค่าพลัง:
    +902
    จองพระผงลพ.โสธรปี44
     
  19. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    เหรียญหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อมหาวิบูลย์ วัดโพธิคุณ จ.ตาก ปี๓๕

    ใครที่ไม่รู้จักพระอาจารย์มหาวิบูลย์ให้นึกถึงข่าว คุณสมประสงค์ ชาวนาไร่ ศิลปินผู้อุทิศตน ใช้เวลา 17 ปีสร้างอุโบสถอันวิจิตรหลังหนึ่งกลางป่าเมื่อหลายปีก่อนโน้น เป็นเรื่องราวน่าทึ่ง จนมีรายการโทรทัศน์ไปถ่ายทำและจัดทำเป็นหนังสือออกมาเผยแผ่กันทั่วไป วัดแห่งนั้นคือ วัดโพธิคุณ ซึ่งมีเจ้าอาวาสคือ พระอาจารย์มหาวิบูลย์ รูปนี้นั่นเอง

    พระอาจารย์มหาวิบูลย์เป็นนักพระปฏิบัติ ท่านมีอายุ 76 ปี 56 พรรษา เพิ่งมรณภาพไปเมื่อปี 2555 แต่ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่นั้นท่านก็ได้สร้างประโยชน์ต่อพุทธศาสนาไว้มาก ไม่ว่าด้วยการเพียรปฏิบัติ จนมีลูกศิษย์ลูกหา ปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิจำนวนมาก รวมทั้งการสร้างศาสนวัตถุและศาสนสมบัติสืบทอดไว้ในพุทธศาสนา

    ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง เป็นศิษย์หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ และศิษย์หลวงพ่อวิเชียรมุนี วัดอินทาราม ตลาดพลู วัตถุมงคลของท่านเด่นไปทางเย็นเป็นเมตตาแคล้วคลาดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  20. ชนบท168

    ชนบท168 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    2,311
    ค่าพลัง:
    +157
    พระผงเก้าเหลี่ยมพิมพ์หลวงพ่อสร้อย รุ่นฝังลูกนิมิต ปี2541วัดป่าเลไลยก์ จ.นนทบุรี ปิดรายการครับ

    พระผงเก้าเหลี่ยมพิมพ์หลวงพ่อสร้อยรุ่นฝังลูกนิมิต ปี 2541วัดป่าเลไลยก์รุ่นนี้ หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินเสกขลังแล้วใช้แทนพระหลวงปู่สรวงได้ดีเหมือนกัน

    เหตุที่หลวงปู่สรวงไปปลุกเสกและสร้างพิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่สรวงก็เนื่องจาก "หลวงพ่อสร้อย" ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สรวงเป็นผู้ไปช่วยดำเนินการหาทุนสร้างโบสถ์หลังนี้ให้กับทางวัดป่าเลไลยก์จนเสร็จสิ้นมีการพุทธาพิเษกในพระอุโบสถ ตอนกลางวัน วันที่ 25 มกราคม 2541 เวลา15.00 น.โดยมีพระเกจิอาจารย์มาร่วมพิธีคือ
    1. หลวงพ่อสร้อย เลียบราษฎร์บำรุง
    2. หลวงพ่อศิริ วัดตาล
    3. หลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย
    4. พระครูปราโมทย์ศาสนคุณ วัดบางตะไนย์
    5. ท่านเจ้าคุณวัดเชิงหวาย นนทบุรี


    หลวงพ่อสร้อยกล่าวกับเจ้าอาวาสหลวงพ่อสมพงษ์ วัดป่าเลไลยก์ว่า หลวงปู่สรวงจะมาปลุกเสกให้ แต่ไม่ทราบว่ามาตอนไหน ให้เตรียมต้อนรับไว้ด้วย คืนวันนั้นเอง กว่า 2 ทุ่มไปแล้ว หลวงปู่สรวง ได้เดินทางมาด้วยรถปิกอัพ กับลูกศิษย์ เข้าไปปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์ เป็นเวลาระยะหนึ่ง จากนั้นจึงเดินทางกลับโดยไม่รับของถวายใดๆทั้งสิ้น

    upload_2023-10-22_20-1-21.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...