จนปัญญา ชีวิตนี้ทำดีไม่ขึ้น

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย poonas, 20 มกราคม 2015.

  1. poonas

    poonas สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +22
    สวัสดีค่ะ นี่เป็นโพสที่3ของหนูค่ะ เริ่มจากกระทู้แรกเมื่อสองสามปีที่แล้วhttp://palungjit.org/threads/หนูไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว.367738/
    ตามด้วยอีกกระทู้เมื่อปีเกือบสองปีที่แล้ว
    http://palungjit.org/threads/พี่ว่าหนูเป็นคนอกตัญญูไหมคะ.493387/

    นับจากกระทู้ที่สอง หนูตัดสินใจไปเรียนต่อตปทค่ะ
    โดยเรียนตอนเช้าครึ้งวันแล้วกลับมาทำงานถึงค่ำค่ะ
    ตลอดเวลาที่อยู่นั่น ก็ยังคงติดต่อกับพ่อ และส่งค่าใช้จ่ายจุนเจือนามกำลังค่ะ
    เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่รู้สึกสบายใจค่ะ
    อยู่ที่นั่นแม่คงเลิกการพนันเด็ดขาด ส่วนพ่อเราคุยกันรู้เรื่องค่ะ
    ท่านก็ดีขึ้นนะคะ พูดจารู้เรื่อง เข้าใจเราตลอด
    แต่ตัวเราก็ยังระแวงตลอดว่าแม่เราจะเล่นการพนันอีกไหม
    เพราะสมัยนี้มันมีทั้งไลน์ ทั้งเฟสบุค
    พ่อจะกลับไปใช้สิ่งเสพติดรึเปล่า แต่ก็พยายามคิดบวกค่ะ
    คนเราอยู่ด้วยกันต้องไว้ใจกันและกัน เพราะที่เราไม่เกเร ใจแตกก็คิดเสมอว่า
    พ่อแม่ไว้ใจเรา เราต้องทำตัวให้สใกับความไว้ใจที่ท่านให้
    เพราะงั้น เราต้องไว้ใจท่านค่ะ

    จนวันนึง โทรกลับไทยหาพ่อท่านอาการเดิมค่ะ พูดอ้อแอ้ ฟังไม่รู้เรื่อง
    เราก้โมโหมาก จัดไปชุดใหญ่เลย แล้วเราก็เห็นในมือถือแม่เรา มีพวกหวยค่ะ
    คืนนั้นเราก็ร้องให้หนักเลยค่ะ แม่ก็เข้ามากอด บอกว่าให้เราเชื่อใจค่ะ
    มันไม่มีอะไร แค่ถามไถ่เพื่อน เราก็ร้องไห้กอดกัน
    จนเราอารมณ์เย็นขึ้น เราก้ขอโทษคุณพ่อ คุยกับท่าน
    ท่านก็บอกว่าจะเลิกแล้ว ทุกอย่าง แล้วเราก้โทรเชคทุกวัน
    ผ่านไปประมาณสัปดาห์ ทางบ้านที่ไทยโทรมา แจ้งข่าวว่าคุณพ่อเสียแล้ว
    สาเหตุจากสารระเหย เราทั้งช็อค แต่ก็โกรธ ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นเรื่องแบบนี้
    แต่พอเริ่มหายชอค ตั้งสติ ก็คิดเสียว่า ท่านเสียแล้ว จะมาโกรธทำไม
    สาเหตุนึงก็คงเป็นเพราะเราเอง ที่ตัดสินใจไปทำงานที่ตปท.
    ญาติทุกคนไม่มีใครทราบสาเหตุการตายของพ่อค่ะ รู้เพียงแค่ความดันขึ้นสูง
    และตลอดเวลากว่าสิบปีที้พ่อติดกาว และสารเสพติดต่างๆ
    ไม่มีญาติคนไหนรับรู้ ทุกคนมองว่า เพราะแม่และหนูเลือกที่จะไปตปท
    ทิ้งพ่อไว้เพียงลำพัง พ่อเลยต้องเป็นแบบนี้ แล้วหนูจะมาร้องไห้ทำไม
    หนูก็ทำหูทวนลม ใครจะพูดยังไงช่าง ตัวเรารู้ดีที่สุด

    หลังจากเสร็จงานศพคุณพ่อ หนูก็กลับมาเรียนและทำงานต่อ
    ชีวิตก็ไปเรื่อยๆค่ะ ทำงานแล้วโอนใช้หนี้ที่แม่สร้างไว้สมัยติดการพนัน
    มองสมุดบัญชีทุกวันๆ ประหยัดสุดชีวิต แต่แม่ก็ยังสุรุ่ยสุร่ายค่ะ
    พอเริ่มมีเงินทอง ญาติสนิทมิตรสหายก็เยอะ แม่หนูเป็นคนจมไม่ลงค่ะ
    หน้าใหญ่ ใจอ่อนด้วย ใครขอยืมให้หมด มีลูกพี่ลูกน้องค่ะ
    มาขอยืมเงิน แต่เขาอยู่บ้านนอนตากแอร์สุขสบาย
    แล้วหนูทำงานหนักจนมือด้าน เน่าไปหมด หนูไม่เห็นด้วย
    หนูกับแม่ก็มีปากเสียงกันค่ะ เค้าบอกยืมก่อน จะหักก็หักไป ไม่ต้องพูดมาก
    เงินเค้า ไม่ใช่เงินหนู ซึ่งหนูไม่เคยคิดเรื่องนั้นค่ะ เรามีกันแม่ลูก
    เงินหนูเหมือนเงินแม่ เงินแม่เหมือนเงินหนู หนูอยากเก็บเงินเยอะ
    เผื่อว่าวันนึงเราต้องกลับไทยเราจะได้มีเงินทุน
    แต่เค้าไม่เคยมองเลยค่ะ ใช้เงินแบบไม่เสียดาย อยู่สบายไปวันๆ
    หนูเลยเก็บเงินไว้เอง แล้วเพิ่มเงินหนูลงไปเพื่อส่งกลับมาใช้หนี้ที่ไทยค่ะ
    เค้าบอกว่าเค้าขาดทุนค่ะ พูดเหมือนหนูไปโกงเงินเค้า ทั้งๆที่หนูใช้หนี้ให้เค้า
    เราก็ทะเลาะกันอีก เค้าก็ร้องไห้ หนูก็รู้สึกผิด ว่าเราน่าจะเงียบๆไว้
    เค้าจะพูดอะไรก็ปล่อยไป ไม่น่าเลย หลังจากนั้นมีปัญหาหนูก็จะเงียบค่ะ

    หนูก็แซะๆถามเรื่องกาีพนันตลอดนะคะ เค้าก็ด่าจนเรารู้สึกผิดว่า
    ไม่น่าถามเลย ไว้ใจเค้าหน่อย

    จนมาประมาณสัปดาห์ที่แล้วค่ะ หนูเล่นมือถือของน้องชาย
    เห็นคุยกับแม่เรื่องการโอนเงิน ชักเอะใจ เลยคาดคั้นน้องชายค่ะ
    เพราะแม่สั่งน้องชายห้ามบอกหนู เพราะเราชอบทะเลาะกันเรื่องเงิน
    น้องชายไม่อยากให้ทุกคนต้องทะเลาะกันเลยเก็บเงียบค่ะ
    คาดคั้นอยู่นานทั้งร้องไห้ น้องชายเลยบอก เป็นการโอนเงินซ้อนค่ะ
    คือหนูโอนไปจ่ายค่านี้แล้ว แม่ก็ไปบอกน้องว่าหนูยังไม่ให้เลย
    น้องชายก็ไปโอน สรุปโดนหลอกทั้งคู่ค่ะ ไม่รู้อันไหนจริงอันไหนหลอก
    น้องชายก็ขอให้เก็บเงียบไว้ หนูก็พยายามเงียบค่ะ

    มาวันนี้ น้องชายก็แอบมาบอกอีกว่า แม่เอาเงินเค้าไปจำนวนมาก
    ซึ่งเป็นเงินประกันชีวิตของพ่อที่ได้มา เค้าเอาไปให้ย่าค่ะ ซึ่งหนูและน้องเองได้ให้ย่า
    ไปแล้วเป็นจำนวนมากเลยค่ะ ไม่เข้าใจว่าเข้ากำลังคิดอะไรอยู่
    ยามมีชอบแจกจ่ายค่ะ แต่คงไม่หมดจำนวนเงินนั้น เพราะมันก็ดูเยอะเกินไป

    ช่วงเย็นวันนี้ หนูก็เจออีกแล้วค่ะ ตลอดเวลาที่อยู่ตปท เค้าเล่นการพนันตลอดค่ะ
    แทบทุกวัน วันละหลายรอบ บิลยาวเป็นหางว่าวเลยค่ะ
    คราวนี้มันมองโลกในแง่ดีไม่ขึ้นแล้วค่ะ หลักฐานมันชัดเจนมาก
    จนตอนนี้หนูก็ยังเก็บทุกเรื่องไว้ค่ะ เบื่อจะทะเลาะด้วย
    แล้วที่เราไว้ใจล่ะ พอเราถามก็ด่าจนเรารู้สึกผิดเลย
    แต่สุดท้ายก็ทำจริงๆ อยากจะรู้ว่าไม่ละอายใจบ้างหรอคะ เวลาที่โกหก
    หรือทำจนชาชินไปเสียแล้ว มันอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับบางคน
    แต่ความไว้ใจ เชื่อใจมันมีค่ามากนะคะ

    มันดูไม่เป็นปัญหาสำหรับบางคน แต่ถ้าคิดระยะไกล
    ทำงานเหนื่อยจนตัวจะขาด เพื่อ เอาเงินมาให้คนอื่นยืม เล่นการพนัน
    ซื้อของแบรนเนม แต่ตัวเองยังมีหนี้สิน
    ถ้าเค้าใช้น้องชายได้ ต่อไปนี้ก็คงใช้ตลอด เพราะน้องหัวอ่อน
    แต่หนูชอบต่อต้าน ปัญหาเยอะ เรื่องการพนัน ชีวิตนี้คงทำไรไม่ได้แล้ว
    คงต้องรอวันที่หนูหรือน้องใกล้จะตายแล้วขอให้เลิกมั้งคะ เค้าคงจะทำให้
    เวลาจะให้เงินใคร เค้าจะบอกน่าสงสาร สำหรับเค้าในโลกนี้ทุกคนน่าสงสาร
    น่าเห็นใจหมดแหละค่ะ ยกเว้นแต่หนู คนที่พยายามประหยัดสุดชีวิต เพื่อพวกเราเอง
    ชีวิตหนูมันสุขสบายเกินไปมั้งคะ
    ถ้ามีเวลาอยากจะให้อ่านตั้งแต่กระทู้แรกลงมาเลยค่ะ
    แล้วช่วยบอกหนูที่ว่าต้องทำยังไง
    จนปัญญา

    ขอโทษด้วยที่ยาวมากๆๆๆๆนะคะ
    บางทีชีวิตเราก็ไประบายกับใครไม่ได้หรอกค่ะ
    ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ระบายนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2015
  2. Michigan

    Michigan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2013
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +388
    เข้มแข็งเข้าไว้ครับ ถ้าเราคิดว่าชีวิตมันดูโหดร้าย ลองซอยสั้นๆลงเหลือแค่ชั่วโมงหนึ่ง ห้านาที หรือ หนึ่งนาที แล้วทำให้ดีที่สุดในช่วงเวลาสั้นๆนี้ ลองดูนะครับ ความทุกข์จะลดลงไปได้มากเลย
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    แล้วช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ลองเล่าเรื่องราวสู่เพื่อนๆฟังได้ไหม
    ว่าปัจจุบันกำลังทำอะไร ประสบปัญหาอย่างไรบ้าง
    เผื่อเพื่อนๆจะได้หาทางช่วยค่ะ
     
  4. padome

    padome Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +58
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ชีวิตของคนทุกคน ถูกบุญและกรรม ทั้งปัจจุบันและในอดีตชาติ ปั้นแต่งออกมา และแสดงรูปอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ชีวิตของคุณพ่อ คุณแม่ น้องนั้น ก็เป็นไปตามลิขิตกรรม การที่น้องทุกข์นั้น เพราะ น้องมีความคิดกตัญญ อยากช่วยเหลือพ่อแม่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก
    ผมอยากให้น้อง poonas ตั้งสติพิจารณาครับ ว่าแต่ละคน รวมถึง คุณพ่อ คุณแม่ของน้อง และรวมถึง ตัวน้อง ก้มี กรรมเป็นของๆตนครับ
    ดังนั้น ในเวลานี้น้องอาจช่วยทางบ้านไม่ได้ ก็อยากให้ ทำสิ่งที่ทำได้คือ ตั้งใจเรียน และมองหาลู่ทาง เพื่ออนาคตของตนเอง และจะได้กลบมาช่วยพ่อแม่ได้ครับ
    ส่วนเรื่องเพื่อนในมหาวิทยาลัย ใครจะมองเราอย่างไร ไม่สำคัญ เท่ากับว่า ตัวน้องคิดและมองตัวเองอย่างไร ไม่ต้องไปสนใจความคิดคนอื่นหรอกครับ น้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด และ พยายาม ทำใจให้หนักแน่นมากที่สุด ตั้งใจเรียน มุมานะ เต็มที่ นะครับ
    ถ้าในเวลาที่น้อง ทุกข์แล้ว เพื่อนๆแสงดอาการอย่างนั้น ก็เท่ากับ เขาไม่ไช่ กัลยาณมิตร นะครับ ดังนั้น การที่เราอยู่คนเดียว เพราะไม่มีมิตรที่คิดดีและจริงใจกับเรา นั้น ไม่ไช่สิ่งเป็นทุกข์ครับ ต่อให้ใครมายืนว่าหรือ มองเราอย่างไร ถ้าเราไม่สนใจไม่เก็บมาไว้กับตัว เขาก้จะทำให้เราทุกข์ไม่ได้
    การคิดกตัญญูช่วยพ่อแม่เป้นสิ่งดี แต่ ทุกคน มีกรรมเป้นของตนเอง เราช่วยได้เท่าที่เราสามารถทำได้ และตอนนี้ อยากให้ ตั้งใจเรียน เข็มแข็ง อดทน มุมานะ อาจจะยากลำบาก แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้น น้องจะพบว่าตนเองนั้นภูมิใจในตัวเองแค่ไหนที่ก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆมาได้ครับ
    ในบางเวลาอาจจะท้อได้ แต่อย่ายอมแพ้ ต่อ โชคชะตาหรือ เรื่องร้าย ให้สู้กับมัน
    เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ลองทำบุญใหญ่สิครับ ปฏิบัติกรรมฐาน ว่างอาทิตย์ละ 1 วันก็ไปได้ ไปเช้าเย็นกลับก็ได้ ไปถือศีล 8 ปฏิบัติธรรมวัดที่เดินทางสะดวก เมื่อรับศีล 8 เสร็จ อธิษฐานเลย 1 ข้อ ถ้าทุกข์เพราะพ่อแม่ก็อธิษฐานว่า บุญจากการเจริญกรรมฐานขอให้พ่อ แม่ของข้าพเจ้าพ้นจากอบายภูมิ ถ้าไปทุกอาทิย์ ไม่กี่เดือนก็เริ่มเห็นผลแล้วครับ
     
  6. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    เมื่อไม่นานมานี้ชีวิตคุณก็ได้เจอสิ่งดีๆมาบ้างแล้วนี่

    อย่าให้ปัญหาวันนี้มาทำลายชีวิตตัวเอง แนะนำถวายพระพุทธรูปสักองค์นะ
     
  7. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    รู้สึกชีวิตนี้จะออกแนวดราม่านะครับ ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องละคร เราจะเห็นละครไทย
    บางทีจะมีตัวร้าย มาทำท่าทำทางไม่พอใจกับการเป็นอยู่ของตัวเอง หากในเรื่องมีฐานะรวย
    แล้วแม่ซื้อของให้นางเอกจะเกิดความไม่พอใจ ทำไมได้ไม่เท่ากันหละ แม่รักไม่เท่ากันแน่ๆ
    จริงๆแม่นี่รักเท่ากัน แต่การจะได้อะไรนั้นมันต้องสมเหตุสมผล ในแง่ของกรรม
    เราเป็นทายาท และ เผ่าพันธุ์ ในต้นไม้นี้มีหลายชนิด ไม่จำเป็นที่ต้องมีต้นไม้ชนิดเดียวกัน
    ถึงจะอยู่ในสถานที่เดียวกัน ที่ๆหนึ่งก็มีได้หลายชนิด แต่ในชนิดแต่ละชนิดนั้นๆเขาจะมี
    ทายาท และ เผ่าพันธุ์เป็นของเขาเอง

    ..............................................
    อันนี้เรื่องหวย ก็คงต้องดูกันที่เรื่องจำนวนนับกับความคิดเห็น ตัวเลขเขาใช้
    เพื่อบอกจำนวน กว้างขนาดไหน เล็กขนาดไหน ไกลขนาดไหน ไกล้ขนาดไหน
    แต่กลุ่มชนพวกนี้เวลา จะฝัน หรือเห็นอะไรแปลกๆ นี่จะชอบเอาความคิดไปรวมกับจำนวน
    อย่างนี้คงจะเป็นเลขอะไร คนส่วนใหญ่ เวลามองต้นไม้ใหญ่เขาจะมองเป็นภาพรวมมีเก็บรายระเอียดบ้าง
    แต่คนที่มองเป็นจำนวนนับว่ามีกี่ใบ นี่ไม่พ้นไปจากความฟุ้งซ่านได้เลยผมเคยเข้าป่าจะไปถ้ำ
    แต่กะจะไปอยู่คนเดียว คนที่นำทางให้พอไปถึงที่หมายเขาแนะนำว่าเดินเข้ามาทางไหน
    ให้ออกทางนั้นนะครับไม่งั้นหลง หากเปรียบเทียบกับหวย เข้ามาด้วยความคิดเห็นผิด
    หากจะออกก็ต้องออกด้วยความคิดเห็นตรง พวกนี้เขาคิดที่จะเดินทางด้วยทางลัด
    ทางเดินจากที่หนึ่งจะเดินทางไปอีกฝั่งหนึ่งข้างหน้า หากจะลัดนี้จะลัดยังไง
    หากเลี้ยวขวาไป 2 ที ก็ได้กลับมาที่เดิมหลงวงเวียนอยู่ในวังวนอย่างนั้น การจะแก้
    ก็มีแต่การแนะนำให้รู้จักความสุจริต จะสำเร็จไม่สำเร็จอยู่ที่ผู้พูดกับพื้นฐานของผู้ฟัง

    ..............................................
    อันนี้เมื่อเจอทางตันจะแก้ปัญหาอย่างไรอันนี้คงต้องมี ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ แต่จะทำได้
    คงต้องมีหลักธรรม กาลามสูตร หนะครับ เป็นอย่างไรไปหาในกูเกิลเอาละกันครับ
    แล้วก็ปรัชญาแนว พระกฤษณะ หนะครับ คือทุกคนมีความเชื่อ แต่เราจะไม่ปิดกั้นความเชื่อใคร
    เราอยู่กันด้วยวังวนศาสนา วังวนของความเชื่อ ความเชื่อก็คือความคิดเห็นหรือเหตุผลของแต่ละคน
    หากกำหนัดในเหตุผลของตนเอง ไปเจอคนเล่นหวยเจอคนทำอะไรที่ขัดกับความเชื่อของตัว
    ก็รู้สึกไม่พอใจเพราะความเชื่อไม่ตรงกัน การกำหนัดในความคิดเห็นอันนี้คือกามอย่างหนึ่ง
    จึงมีคำกล่าว คนติดกามคือคนพาล ก็เพราะกำหนัดในความคิดนี่หละ
    และอีกอันก็คือ บารมี 10 ครับ แต่จะขอยกตัวอย่างอันเดียวพอ
    คือ อธิษฐาน หรือ ความตั้งมั่น การไม่ทิ้งธุระหน้าที่ไว้กลางคัน
    ในความกตัญญู ก็มีครอบครัวครูอาจารย์ แต่ในความตั้งมั่น ตัวเราเองก็เป็นความตั้งมั่นอันหนึ่ง
    ครอบครัวก็อันนึง ครูอาจารย์ก็อันหนึ่ง หมู่บ้านก็ตั้งมั่นอันหนึ่ง จัดหวัด-ประเทศ-ทวีป-โลก-จักรวาล
    อันนี้ก็เป็นคุณธรรมอันหนึ่งพอไปประกอบกับบารมีอื่นๆ ก็ค่อยๆกว้างขึ้นเอง อันนี้ก็เป็นอีกกำลังหนึ่ง
    ของการริเริ่มสร้างสรรค์ เพราะริเริ่มก็เหมือนกับผู้นำ อันนี้ก็วิสัยของผู้นำอันหนึ่ง
    เวลาจนปัญญาหรือเจอทางตัน นิสัยอันนี้หละจะนำพาไปรอดเองครับ
    แต่อย่างแรกที่ต้องนำมาเลยคือ สติ

    catt7catt7catt7
    https://www.youtube.com/watch?v=4PYa4ZUzPWE
     
  8. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ดีไม่ถึงเจริญยิ่งเพียรให้มาก
    อย่าประมาทตัดพ้อก่อปัญหา
    อย่าทำดีหวังผลเกินราคา
    จิตจะพาหมองหม่นไร้เรี่ยวแรง

    ดีหนึ่งคือน้ำใจงามใสในจิต
    ไม่ขบคิดอกุศลขุ่นเคืองเขา
    อภัยพลาดประมาทแค้นค่อยบรรเทา
    อย่าหูเบาตามลมปากใครต่อใคร

    สองวาจาดีนั้นต้องประเสริฐ
    ไม่เตลิดด้วยโทสะอารมณ์หมอง
    คิดก่อนพูดดีแล้วตรึกตรอง
    ย้อนมองสำรวมปากที่พลั้งไป

    สามทำดีบำเพ็ญอยู่ในกรอบศีล
    สุขได้จริงทวีเพิ่มเสริมราศรี
    ภาวนาดูกายจิตเป็นอาจิณ
    รู้ความจริงของรูปนามที่ปล่าวดาย

    สามดีนั้นดีแท้เจริญยิ่ง
    เว้นทำไม่จริงจึงดิ้นอยู่แสวงหา
    ดีภายนอกทำไปไร้ราคา
    จบปัญหาจนปัญญา ถ้าทำดีให้จริง!
     
  9. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    เราก็ต้องกลับมาคิดว่าเราทุกข์เพราะอะไร...
    ทุกข์เพราะคนอื่น(พ่อแม่)ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการรึเปล่า..
    ทุกข์เพราะคนอื่นไม่เป็นไปตามที่ใจเราปรารถนา เราต้องการให้พ่อแม่อยู่ในศีลธรรมไม่ติดสารระเหย ไม่เล่นหวย แต่ท่านก็ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ เราลองกลับมาคิดดูว่ามีใครบ้างที่ทำอะไรได้ถูกต้องถูกใจคนอื่นทั้งหมด ตัวเราเองยังไม่ได้ดั่งใจตัวเราเองเลย แล้วจะให้ใครมาได้ดั่งใจเราทุกประการ
    ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง ชีวิตเป็นไปตามบุญบาป เขาคิดว่าสิ่งที่ทำน่ะดีแล้วเขาจึงทำ เป็นไปตามแรงอกุศลกรรม พ่อแม่ท่านก็มีกรรมของท่าน เราเองก็มีกรรมของเราเอง ถ้ายังไม่ถึงวาระที่กรรมดีส่งผล อะไรๆก็ยังไม่ดีขึ้น
    การที่เรามาเจอสิ่งแวดล้อมแบบนี้ก็แสดงว่าเรามีบุพกรรมร่วมกับพ่อแม่ของเรามา เราก็ต้องยอมรับกรรม ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าไม่เคยสร้างกรรมแบบนี้มาก็คงไม่ต้องมาเจอสิ่งแวดล้อมแบบนี้หรอกค่ะ สิ่งที่เราทำได้ ณ จุดๆนี้ คือ ทำตัวเราให้ดี มีศีล5 มีธรรมะครองใจ เป็นลูกที่ดี กตัญญู ดูแลท่านทั้งกายและใจ ท่านบกพร่องเรื่องอะไร เราช่วยได้เราก็ช่วย ถ้าเราช่วยไม่ได้เราก็วางอุเบกขา มีเมตตารอวันที่เราสามารถช่วยท่านได้ เราต้องทำตัวให้ดี ให้ท่านศรัทธาในตัวเรา แล้วท่านจะกลับมาพิจารณาการกระทำของตัวเอง และทำตัวดีขึ้นเองค่ะ ถ้าเรามีธรรมะในหัวใจ ธรรมะจะคุ้มครองใจเราให้เป็นสุขเองค่ะ
    คิดแค่ว่าตอนนี้ท่านเป็นอย่างนี้ ตอนนี้เรายังช่วยท่านไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่คอยคิดจะช่วยอยู่เสมอ ถึงกาลเวลาที่ช่วยได้เราก็ช่วยค่ะ อย่าไปคาดหวังให้คนอื่นเป็นไปตามใจเราต้องการ ถ้าเราลดความคาดหวังที่มีต่อคนอื่นได้ ใจเราก็จะเป็นสุขค่ะ
     
  10. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    - เราไม่พอใจที่คนอื่น ไม่เป็นหรือทำอย่างนั้นอย่างนี้ดั่งที่ใจเราปารถนา แล้วเรานั้นคิดดี พูดดี ทำดี มางดงามแล้วหรือยัง
    - ด้วยเหตุดังนี้ เมื่อเราไม่พอใจคนอื่น เราก็ควรไม่พอใจความคิดเหล่านั้นของเราด้วยเช่นกัน เพราะความคิดนั้นมันไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น


    - เราบังคับให้เราไม่คิดในอกุศล ไม่มีอคติ..เพราะเกลียดชัง-ไม่พอใจ เพราะไม่รู้ตามจริง ได้ไหม แม้แต่ในกายใจตนยังบังคับไม่ได้ แล้วจะไปปารถนาเอาอะไรกับภายนอกกายและใจตนเล่า
    - ละความติดใจข้องแวะในทุกสิ่งทุกอย่างเสียพึงเห็นว่ามันเป็นเพียงสภาวะธรรมหนึ่งเท่านั้น หรือ แค่ธรรมชาติสิ่งหนึ่ีงในชีวิตที่ทำให้เราได้พบเจอ ไม่ควรไปเพ่งเอาคุณและโทษกับสิ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เพราะมันหาประสุขไรๆไม่ได้นอกจากทุกข์


    - ละความติดใจข้องแวะต่อบุพการีทั้งในสิ่งทั้งปวง แล้วไปขอขมาลาโทษท่านเสีย ให้ท่านอโหสิกรรมให้ จะได้ลดจากโทษอนันตริยะกรรม ซึ่งเป็นกรรมที่หนักที่สุด


    - หัดที่จะไม่พอใจ ที่คนเองมีอคติเกลียดชังผู้อื่น แล้วพอใจยินดีที่ตนมีความเอ็นดูปารถนาดีไม่มีเวร ภัย พยาบาทเบียดเบียนทั้งภายในและภายนอก มีจิตน้อมไปในการสละสงเคราะห์แบ่งปันผู้อื่นโดยเฉพาะบุพการีของตน
    - ทำไม่ได้ก็อยู่อย่างนี้ต่อไป จะไปขอขมาเมื่อท่านตายศพที่กำลังจะย่อยเน่าเปื่อนสลายไปนั้นก็คงไม่รับรู้อะไรด้วยแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...