คุณแม่ผมเป็นหมอฟัน ผมต้องผ่าฟันคุด 4 ซี่ แต่ว่าผ่าแต่ละครั้งเจ็บและทรมานมากๆๆๆสุดทนเลยครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย kimmyandcream, 7 มิถุนายน 2019.

  1. kimmyandcream

    kimmyandcream สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    คือ พอดีว่าคุณแม่ผมเป็นทันตแพทย์ มีคลินิกทำฟันเป็นของตัวเองพอดีเลย ก็โชคดีไปไม่ต้องเสียเงินเสียทองค่ารักษาพยาบาลเรื่องนี้ (ฮา...อยากฮานะครับ แต่ตอนนี้ขำไม่ออกจริงๆ ตอนนี้กินอะไรไม่ได้เลย นอกจากอาหารกระป๋องยี่ห้อเอ็นชัวร์ แถมใช้หลอดดูดอีกต่างหาก)

    เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนึงผมรู้สึกปวดฟันแล้วก็มีไข้ ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรหรอก กินยาพารา 2 เม็ดสัก 3 วันก็คงหายเองแหล่ะ 55555 เหมือนโรคอื่นๆ (คิดแบบทุเรศๆตามฉบับคนขี้เกียจและไม่อยากเป็นภาระหมอหรือภาระพ่อแม่ให้เป็นห่วง) แต่ประเด็นก็คือมันไม่หายครับ แถมปวดหนักกว่าเดิมอีก สุดท้ายทนไม่ไหวก็ต้องบอกคุณแม่ว่าปวดฟันนะ มีไข้ด้วย สรุปว่าเป็นฟันคุดครับ กำลังอักเสบหนักด้วย มีหนองนิดหน่อย ก็เลยทำความสะอาดก่อน คราวนี้ที่คลินิกของคุณแม่ มีเครื่องเอ็กซ์เรย์ (แต่ไม่ดีหรือสะดวกเท่าในโรงพยาบาลใหญ่ๆ) พอเอ็กซ์เรย์ออกมา

    ปรากฎว่ามีฟันคุดทั้งหมด 4 ซี่...


    โคตรซวย... ทีนี้ ผมเป็นคนกลัวหมอฟันมากครับ (ทั้งๆที่คุณแม่เป็นทันตแพทย์ แต่จำได้ว่าตอนนั้นเจ็บ ก็เลยกลัว แล้วก็พยายามรักษาความสะอาด แปรงฟันทุกวัน แปรงฟันหลังทานอาหารทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแล้วต้องโดนคุณแม่ตรวจฟัน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ เข็ด)

    แต่ในเมื่อฟันคุดมันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ยังไงก็ต้องผ่า ผมก็ยอมครับ เพราะตอนนั้นปวดฟันมาก แล้วก็รำคาญหนองด้วย มันทำให้เราเป็นไข้ ตัวร้อน ก็เริ่มผ่าวันนั้นเลยครับ ฉีดยาชา บ้วนปาก อะไรตามปกติ คิดว่าไม่น่ามีอะไรหรอก แม่เราเองแท้ๆ คงไม่ทำเราเจ็บแน่นอน...ทั้งที่ใจก็กลัวหมอฟัน 55 คราวนี้ล่ะครับ คุณแม่ก็อธิบายให้ผมฟังก่อนว่าต้องผ่างี้ๆๆ ฟันคุดมันนอนก็ต้องแบ่งครึ่งงี้ๆๆ แล้วก็เย็บแผลงี้ๆๆๆ ห้ามเอียงซ้ายเอียงขวานะ งี้ๆๆๆ... เอาล่ะ พอเริ่มผ่าเท่านั้นละครับ รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดแบบเต็มๆจริงๆจังๆ เจ็บมาก ทั้งที่ฉีดยาชาไปแล้ว ก็เลยต้องหยุดก่อนเลยตั้งแต่เริ่ม ผมก็ถามคุณแม่ว่า นี่ฉีดยาชาแล้วเหรอ ทำไมมันเจ็บขนาดนี้ รู้สึกได้เลยว่าโดนมีดกรีด คุณแม่ก็บอกว่าฉีดแล้ว ส่วนผมไม่ยอม ก็เลยขอฉีดยาชาซ้ำอีก

    คิดว่าคราวนี้น่าจะ "ชา" แล้วจริงๆ คุณแม่ผมก็ทดสอบจิ้มๆถามว่าชาหรือยัง ผมก็โอเคละ ไม่รู้สึกอะไร แต่ประเด็นแปลกๆก็คือ พอผมตอบไปแบบนั้น คุณแม่ก็ถอดถุงมือยาง แล้วก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งผมไว้กับป้าทิพย์ ผู้ช่วยหมอฟัน คนสนิทของคุณแม่ (ทำงานด้วยกันมาเป็นสิบกว่าปีแล้วล่ะ) แล้วคุณแม่ไปนานมากครับ นานมากกกก ส่วนผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร ควักมือถือขึ้นมาเล่น ROV จบไปสองตา คุณแม่ถึงจะค่อยกลับมาที่ห้องผ่าตัด ก็อีหรอบเดิมครับ พอลงมีดปุ๊บ เจ็บปั๊บ แต่เจ็บไม่มาก แค่รู้สึกได้ถึงคมมีดเฉยๆว่ามีการกรีดลงบนเนื้อ คุณแม่ก็บอกให้อ้ากว้างๆ ผมก็อ้ากว้างสุดแล้ว แต่เหมือนท่านจะไม่พอใจ ก็เลยบอกให้ป้าทิพย์เอาที่ครอบปากมาใช้ ผมก็สบายขึ้น ไม่เมื่อย เพราะไม่ต้องคอยอ้าปากเอง...

    ทีนี้ล่ะครับ เหมือนยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะมันเจ็บมากกกกก จนผมร้องโอดโอย แล้วบอกคุณแม่ว่าให้ฉีดยาชาเพิ่มได้ไหม กลายเป็นว่าท่านบอกให้ป้าทิพย์เอาสายยางมารัดข้อมือผมทั้งสองข้างกับเก้าอี้ไม่ให้ดิ้น ส่วนท่านก็ลงมีดต่อ ทำโน่นทำนี่ โดยแต่ละขั้นตอนนี่เจ็บสุดๆ
    เจ็บจนผมร้องไห้เลยครับ น้ำตาไหลพราก ผมก็พยายามบอกว่าเจ็บๆๆๆ แต่ระหว่างผ่าตัด คุณแม่ท่านไม่พูด ไม่ตอบผมเลยครับ ผ่าฟันคุดอย่างเดียว แล้วก็คุยกับป้าทิพย์เท่านั้น เช่น Suction หรือโน่นนั่นนี่ ส่วนผมน่ะเหรอ...เจ็บมากกจี๊ดขึ้นสมอง จนทั้งกำมือ ทั้งดิ้น ทั้งร้องโอดโอย แต่ก็ต้องอดทน ตอนที่เจ็บที่สุดมีสองช่วง คือ ตอนแบ่งฟันครึ่งๆ มันเจ็บจนปวดกะโหลกเลยครับ ปวดหูด้วยเหมือนมีเครื่องเจาะถนนมาขุดอยู่ในรูหูเลยตอนนั้น ตามมาด้วยที่เจ็บสุดๆๆๆ คือ คุณแม่ใช้อุปกรณ์ถอนฟัน ทั้งโยกทั้งบิดทั้งดึงทั้งกระชาก อันนี้คือเจ็บมากจนผมร้องกรี๊ดออกมาดังลั่นโลกเลยครับ... สุดท้ายก็ตอนเย็บแผล ผมเป็นพวกอ้วกง่ายมาก แค่แหย่นิ้วเข้าไปในปากผมก็มีอาการอ็อกจะอาเจียนแล้ว ผมทั้งน้ำตาไหล ทั้งพยายามบอกว่าไม่ไหว แต่คุณแม่ก็เมินเฉย บอกให้ป้าทิพย์จับหน้าผมเอาไว้แน่นๆไม่ให้ดิ้น แล้วท่านก็เย็บแผลต่อ ทั้งๆที่ผมรู้สึกเจ็บมาก ทรมานมาก คือรู้สึกเต็มๆเลยว่าโดน เข็มแหลมๆทิ่มเข้าไปในเนื้อแล้วก็มีใยไหมรูดเข้ารูดออก ผมไม่รู้ว่าเพราะยาชาหมดฤทธิ์หรือว่าร่างกายผมมันอะไรหรือเปล่า ที่รู้คือทรมานสุดๆเลยครับ สรุปว่าวันนั้นผ่าไปได้หนึ่งซี่ คือ ฟันคุดล่างขวาสุด ที่เหลือคุณแม่บอกว่าเก็บเอาไว้ผ่าหลังจากแผลแรกหายสนิทดีแล้ว (?)

    กว่าจะเสร็จก็เล่นปาเข้าไปเป็นชั่วโมง คุณแม่ถึงจะบอกให้ป้าทิพย์แก้มัดผม ให้ผมกัดสำลีไว้ ตอนนั้นผมยังไม่หยุดน้ำตาไหล เพราะเจ็บมากกกกก แถมยังพูดอะไรไม่ได้อีกต่างหากหลังจากผ่าเสร็จ ต้องรอไปหนึ่งวันกว่าๆถึงจะพูดได้ ผมก็บอกคุณแม่ว่าที่ผ่าฟันคุดน่ะเจ็บมาก เจ็บที่สุดในชีวิตเลย
    แล้วแทนที่คุณแม่จะขอโทษหรือปลอบผม คุณแม่กลับทำหน้าเฉยๆ แล้วก็บอกว่า "เป็นเรื่องธรรมดา อย่าคิดมาก" (?) ตอนแรกผมก็เชื่อนะครับ แต่พอค้นดูในเน็ต จากหลายๆ Case ก็บอกว่าไม่เจ็บ ไม่เจ็บ แต่ทำไม Case ผมนี่มันโคตรจะเจ็บ โคตรจะทรมานเหมือนโดนเชือดสดบนเขียงชัดๆ
    แล้วพอแผลแรกหาย ก็วนมาใหม่อีหรอบเดิม ผมก็บอกว่าขอยาชาแรงๆนานๆได้ไหม คุณแม่ก็ตอบว่ายาชาปกติแหล่ะ อดทนหน่อย นิดเดียวเอง (?) ปรากฎว่าผ่าครั้งที่สอง (ฟันคุดซ้ายล่างสุด) เจ็บกว่าเดิมอีกครับ แล้วทุกครั้งที่ผ่า คุณแม่จะไม่พูดกับผมเลยสักคำเดียว เหมือนเมินลูกตัวเองไปเลย
    พอมาครั้งที่สาม ผมก็ย้ำว่าขอแบบไม่เจ็บได้ไหม คราวที่แล้วเจ็บมาก คุณแม่ก็ตอบว่ารอบนี้ (ผ่าฟันคุดซี่ที่ 3) ไม่เจ็บแน่นอน ให้ผม Relax สบายๆ กลายเป็นว่าเจ็บมากกว่าครั้งที่สองอีก (?) ครั้งที่สามนี่คือผมทั้งดิ้น ทั้งกรี๊ดตั้งแต่ลงมีดเลย แล้วก็อย่างที่ผมเล่าไป คือ ไม่มีการพูดคุยหรือโต้ตอบกับผม สุดท้ายผ่าฟันคุดซี่ที่ 4 อันนี้ทรมานมากที่สุด เพราะเหมือนฉีดยาชาไป แต่ก็ชาแค่แปปเดียว ส่วนคุณแม่ก็มีข้ออ้างเสมอ ไปทำโน่นทำนี่ตลอด ฯลฯ พอกลับมาผ่าอีกทีก็เหมือนยาชาจะหมดฤทธิ์ไปนานแล้ว ผ่ารอบที่สี่นี่คือขุมนรกบนดินชัดๆ เหมือนโดนผ่าสด ผมทั้งดิ้น ทั้งร้อง บอกไม่เอาแล้วๆเจ็บ แต่คุณแม่ก็เหมือนไม่สนใจอะครับ คือ ทั้งที่คนเป็นแม่แท้ๆ เห็นลูกตัวเองชักดิ้นชักงอขนาดนี้ ก็น่าจะรู้แล้วว่าลูกกำลังเจ็บปวดแสนสาหัสขนาดไหน...คือ ผมจ้องหน้าแม่ แล้วรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แม่เรา

    กว่าจะรอดมาได้ เลือดตาแทบกระเด็นครับ ต้องอดทนจนปลดล็อคขีดจำกัดมนุษย์เลยก็ว่าได้ เข็ดเลย เข็ดจริงๆกับเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับทันตกรรม อย่างตอนนี้แผลฟันคุดซี่สุดท้ายก็ยังไม่หาย แต่คุณแม่ก็ไม่เคยจะสนใจหรือว่าถามเลยครับว่าผมปวดไหม เจ็บมากไหม ขอโทษสักคำก็ไม่มี...

    ตอนนี้ผมมาลองย้อนนึกดูไปว่าทำไมผมถึงกลัวหมอฟัน ก็เพราะว่าตั้งแต่เด็กๆ คุณแม่เป็นคนถอนฟันน้ำนมให้ผมเอง จำไม่ได้แล้วว่ากี่ขวบหรือตอนไหน จำได้แค่ว่า คุณแม่ทำเจ็บมากๆๆๆ ถอนฟันลูกตัวเองแบบเหมือนไม่ใช้ยาชาเลยมั้ง ผมก็จำไม่ได้แน่ชัด... รู้แค่ว่าเจ็บมากละกัน นอกนั้นจำไม่ได้แล้ว เหมือนจิตใต้สำนึกมันจำฝังใจว่า ถ้าเราต้องขึ้นเตียงผ่าตัด แล้วคุณแม่เป็นคนผ่าให้เราเมื่อไหร่ คือ เตรียมตัวเจ็บแบบสุดหฤโหดได้เลย ประมาณนี้...

    แต่เวลาคุยกัน ทุกอย่างก็ปกติดีนะครับ เป็นห่วงเป็นใยอะไรกันตามประสาแม่ลูกธรรมดา แต่ยกเว้นเวลาผ่าตัดนี่สิ เหมือนไม่ใช่แม่-ลูกกันเลย (ตรงจุดนี้สำคัญมากนะครับ ผมรู้สึกจริงๆ)


    ไม่แน่ใจว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นระหว่างผ่าตัดเป็นผลมาจากการผ่าตัดจริงๆหรือเพราะจิตมันคิดต่อต้านแล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณแม่เจตนาจงใจทำให้ผมเจ็บหรือเปล่า (?) อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ เคยถามไปแล้วด้วย แต่คุณแม่ก็ไม่ตอบอะไรเลยในเรื่องนี้ทั้งๆที่ผมก็ไว้ใจคุณแม่นะครับ คิดว่าแม่เราเองคงไม่มีทางทำให้เราเจ็บหรือทนเห็นเราเจ็บได้หรอก แม่บางคนยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยด้วยซ้ำ ปกติคุณแม่เป็นคนธรรมะธรรโม จิตใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำบุญทำทานตลอดนะครับ เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีคนนึงเลยก็ว่าได้ มีอะไรดีๆก็สอนผมตลอด ชวนผมเข้าวัดอะไรต่างๆมากมาย วิปัสสนา นุ่งขาวห่มขาว ทำมาหมดแล้ว แต่ทำไมพอถึงเวลาตอนผ่าตัดให้ผม คุณแม่ถึงได้ทั้งเย็นชา ทั้งทำเจ็บมาก เหมือนคุณแม่ถูกสิงสู่ด้วยอะไรบางอย่าง หรือผมไม่ก็ชาติก่อนผมคงไปทำกรรมอะไรไว้ ถึงได้ต้องพบพานกับความเจ็บปวดแสนสาหัสเยี่ยงตกขุมนรกทั้งเป็น...

    สำคัญที่สุดเลยก็คือช่วงตอนกำลังผ่าตัด ผมรู้สึกว่า "นี่ไม่ใช่แม่เรา" ถึงได้ทำเราเจ็บขนาดนี้

    ใครที่เคยผ่าฟันคุดมาแล้วพบว่าระหว่างผ่าตัด เจ็บมากกกก ช่วยมาเล่าให้ผมฟังทีครับ กำลังหาคนที่เจอ Case แบบเดียวกันอยู่ ยังเจ็บอยู่เลยครับ -_-​
     
  2. Bodhisattva

    Bodhisattva The Spirit of BUDDHA

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    506
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,662
    เคยรักษารากฟันค่ะ ไม่เจ็บเลย หมอก็ฉีดยาชาตามปกติ
    เคสของคุณแปลกดีค่ะ บางทีหนองมันจะทำให้ยาชาออกฤทธิ์ไม่ทั่วถึงด้วยรึเปล่าคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...