คืนผีสิง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 28 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    "จุ้มจิ้ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเตียงคนไข้

    เมื่อปลายเดือนเมษายนนี้เอง ดิฉันล้มป่วยด้วยโรคภายใน อาการหนักจนถึงกับร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส สามีรีบพาส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ บ้านแถวสุขุมวิทกลางดึก รุ่งขึ้นก็ต้องเข้าห้องผ่าตัดทันที

    แพทย์บอกว่าเนื้องอกในมดลูก นอนรักษาตัวไม่กี่วันก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว

    บอกตรงๆ ว่ากลัวมะเร็งค่ะ พอจะทราบมาบ้างว่าถึงจะตัดเนื้อร้ายทิ้งแล้วแต่ก็อาจหลงเหลือจนลุกลามต่อไปได้...กลัวแต่ไม่กล้าถามหมอ สามีก็ปลอบใจแบบรู้ทันว่า ไม่เป็นอะไรมากหรอก ขอให้สบายใจได้...อยากเชื่อนะคะ แต่อดกังวลใจไม่ได้จริงๆ

    ลูกๆ ก็ยังเล็กอยู่ เคยไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นมะเร็งในมดลูก 2 คน ต้องวนเวียนเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ ทำเคโมจนผมร่วง ต้องโกนผมหมด คนหนึ่งไม่มีลูกอยู่ได้เกือบปี อีกคนหนึ่งมีลูกสิบกว่าขวบ บอกว่ามีกำลังใจเพราะห่วงลูก...เธอเล่าว่าทำเคมีบำบัดทรมานมาก กินอะไรไม่ลงจนน้ำหนักลดไปสิบกว่ากิโลกรัม

    เพื่อนคนนี้ใจแข็งมาก เธอทนสู้กับโรคร้าย ยื้อชีวิตเพื่ออยู่ดูหน้าลูกที่กำลังเติบโตได้เกือบสองปี ในที่สุดร่างกายบอบช้ำเต็มทีจนทนทานอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว

    ดิฉันเสียน้ำตาทั้งสองครั้งที่ไปเผาศพเพื่อน แม้ว่าพระภิกษุที่ดิฉันเคารพนับถือจะเคยสอนว่า น้ำตามีแต่จะเพิ่มความโศกเศร้าให้ญาติมิตรของผู้วายชนม์ แต่น้ำตาก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้ตายกลับฟื้นขึ้นมาได้เลย

    ปุถุชนนะคะ ถึงจะรู้ทั้งรู้แต่ก็ยังตัดอารมณ์สุข-เศร้าไม่สำเร็จหรอกค่ะ

    เมื่อมานอนโรงพยาบาลด้วยใจกังวลแบบนี้ ใจคอยิ่งสับสนฟุ้งซ่านไปร้อยแปด...ตอนกลางคืนป้าอิ่มมานอนเฝ้าไข้หลับอยู่ที่โซฟาริมผนังห้องน้ำ ส่วนดิฉันนอนลืมตาโพลง ปวดแผลตุบๆ อดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีเชื้อร้ายก่อตัวลุกลาม คงจะเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่านี้มากนัก...ก่อนจะพบจุดจบน่าสลดใจเหมือนเพื่อนทั้งสองคนที่ไปสู่ปรโลกก่อนหน้านั้น

    เพื่อนก็มานอนโรงพยาบาลแบบนี้ เจ็บปวดมากกว่านี้ ทุรนทุรายแล้วแน่นิ่งจนกระทั่งสิ้นลม!

    มีคนป่วยไข้อีกมากมายเท่าไหร่หนอที่เคยนอนบนเตียงนี้ เจ็บปวด ทนทุกข์ทรมาน ร้องร่ำคร่ำครวญจนน้ำตาอาบหน้า จนกระทั่งสิ้นแรง สิ้นใจ ทิ้งร่างกายให้แข็งทื่อก่อนจะเน่าเปื่อยอยู่ในโลงคับแคบ รอการเผาหรือฝังอยู่ใต้ดินให้เป็นเหยื่อหนอนและสัตว์เลื้อยคลานที่จะมากัดกินจนเหลือแต่กระดูก

    วิญญาณที่ออกจากร่างจะเศร้าโศก อาลัยอาวรณ์คนที่ตนรักใคร่และห่วงใยขนาดไหนหนอ?

    จะร่อนเร่ระเหระหนไปตามยถากรรม หรือสิงสู่อยู่ในห้องนี้...บนเตียงนี้?

    เสียงคล้ายใครถอนใจเฮือกใหญ่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยดังขึ้นข้างๆ หูราวจะเป็นคำตอบ ทำให้ดิฉันนอนตัวแข็งทื่ออยู่ในความสลัว กลั้นลมหายใจอย่างลืมตัวก่อนจะหันไปทางป้าอิ่มที่นอนตะแคงหลับสนิทจนน่าอิจฉา

    สรรพสิ่งเงียบกริบอยู่ในอากาศเย็นฉ่ำ ดิฉันระบายลมหายใจยาวเมื่อไม่พบว่ามีสิ่งใดผิดปกติ...ลืมอาการปวดแผลไปได้ชั่วขณะ

    มาคิดว่าปกติเราไม่ใช่คนกลัวผี แต่เพราะความไม่สบายใจว่าจะเป็นโรคร้ายแรง กับบรรยากาศของโรงพยาบาล ที่แม้ว่าจะสะอาดสะอ้าน อุปาทานก็ยังทำให้ได้กลิ่นยา กลิ่นเลือด กลิ่นของความเจ็บปวดทรมาน...โดยเฉพาะกลิ่นอายของความตาย!

    ตายแล้วไปไหน...วิญญาณมีจริงหรือ?

    ถ้าวิญญาณมีจริงก็คงจะทับถมซับซ้อนกันอยู่บนเตียงนี้ นั่งๆ นอนๆ อยู่ข้างเรา จ้องมองเราอย่างเงียบเชียบ เยือกเย็น เหมือนจ้องมองคนแปลกหน้า หรือไม่ก็จะตกเป็นเหยื่อในเร็วๆ นี้แน่นอน!

    ปากคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลาย หนาวสะท้านไปถึงหัวใจเมื่อนึกว่า...ถ้าเกิดมีใครมานอนแน่นิ่งอยู่ข้างๆ ยามนี้จะทำให้ช็อกแค่ไหน? ชักผ้าห่มขึ้นมาเกือบจมูกพลางเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความหวาดระแวง

    โล่งอกไปทีที่ไม่เห็นใครเลย...

    แต่ไม่แน่หรอก วิญญาณที่สิงสู่อยู่ในห้องนี้ เตียงนี้ อาจจะปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้...โลกนี้ไม่มีผีน่ะหรือ ไปหลอกเด็กเถอะ! คนทั้งโลกเชื่อเรื่องผีกันทั้งนั้นแหละ

    ถ้าใครเปิดประตูเดินทื่อเข้ามาหา หรือต่อให้ยิ้มหวานหยดก็เถอะนะ

    ประตูเปิดผาง...กรี๊ดดดดด!!

    ลุกพรวดขึ้นนั่ง แก้วหูลั่นเปรี๊ยะ...แผดร้องออกมาบ้างคล้ายคนสติแตกในบัดดล

    ป้าอิ่มลุกพรวด ร่างขาวโพลนปราดเข้ามาหา ดิฉันยกมืออุดหูทั้งสองข้างแผดเสียงกรี๊ดๆ ลั่นห้อง ไฟสว่างพรึบ พยาบาลสาวสองคนยืนอยู่ข้างเตียง ช่วยกันกุมมือดิฉันไว้พลางพูดปลอบโยนต่างๆ แต่ดิฉันหูอื้อ ตาลายพร่าไปหมด

    ต่อมาจึงทราบว่า ญาติคนไข้ห้องตรงข้ามออกมาร้องกรี๊ดๆ ด้วยความตกใจที่คนไข้ลุกพรวดพราดจากเตียงจะเข้าห้องน้ำ เธอแผดเสียงอยู่หน้าประตูจนทำให้ดิฉันแทบเสียสติไปเลย

    นอนอยู่ได้ 2-3 วันก็ขอไปพักรักษาตัวที่บ้านเพราะไม่อยากช็อกตายค่ะ

    ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก
    ใบหนาด
     

แชร์หน้านี้

Loading...