เรื่องเด่น การเทียบบารมี โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Ninana, 22 พฤษภาคม 2012.

  1. Ninana

    Ninana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,761
    895105.jpg

    การเทียบบารมี บารมีเขาจัดเป็น ๓ ชั้น บารมีต้น ท่านเรียก บารมีเฉยๆ บารมีตอนกลางท่านเรียก อุปบารมี บารมีสูงสุดท่านเรียก ปรมัตถบารมี


    ถ้าคนที่มีบารมีต้นในขั้นเต็ม ท่านผู้นี้จะเก่งเฉพาะ ทาน กับ ศีล เขาจะทำสะดวกเฉพาะ การให้ทาน กับ การรักษาศีล แต่การรักษาศีลของบารมีขั้นต้นจะไม่ถึงศีล ๘ อย่างเก่งก็มีกันแค่ศีล ๕ ท่านผู้นี้จะไม่พร้อมในการเจริญพระกรรมฐาน ถ้าชวนในการเจริญสมาธิทำกรรมฐานท่านบอกทำไม่ได้ กำลังใจไม่พอ หรือจะพูดให้ดีอีกนิดท่านบอกว่าไม่ว่างพอ เวลาไม่มี นี่สำหรับคนที่มีบุญบารมีขั้นต้นจะอยู่กันแค่นี้

    ถ้ามีบารมีเป็น อุปบารมี เขาเรียกว่า บารมีขั้นกลาง อุปบารมี นี่พร้อมที่จะทรงฌานโลกีย์ บารมีนี้พร้อมเรื่องฌานโลกีย์นี่ทรงได้แน่ ท่านพวกนี้จะพอใจในการเจริญพระกรรมฐาน แล้วก็พอใจในการทรงฌาน แต่ว่าถ้าจะชวนในขั้นบุกบั่นในวิปัสสนาญาณ ท่านจะบอกว่าไม่ไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาธิวิปัสสนาญาณ อาจจะมีบ้างแต่ก็ไม่เข้มแข็งนัก เพราะว่าสมถะกับวิปัสสนาที่แยกกันไม่ได้ ต้องอยู่คู่กัน แต่กำลังด้านวิปัสสนาญาณจะต่ำ จะเข้มแข็งเฉพาะสมถภาวนา แล้วท่านพวกนี้ถึงแม้ว่าจะพอใจในการเจริญกรรมฐาน ถ้าเราบอกว่าหวังนิพพานกันเถอะ ท่านพวกนี้ก็บอกว่าไม่ไหว กำลังใจไม่พอ จะชวนไปนิพพานขนาดไหนก็ตาม เขาจะไม่พร้อมจะไป และก็ไม่พร้อมจะยินดีเรื่องพระนิพพาน พร้อมอยู่แค่ฌานสมาบัติ อันนี้เป็น อุปบารมี นะ

    ถ้าเป็น ปรมัตถบารมี เราจะเห็นว่าอันดับแรกอาจจะยังไม่มีความเข้าใจเรื่องนิพพาน พอสัมผัสวิปัสสนาญาณขั้นเล็กน้อยพอสมควร อาศัยบารมีเก่าเพิ่มพูนหนุนขึ้นมาก็มีความต้องการเรื่องพระนิพพาน พวกที่มีจิตหวังนิพพานนี่จะไปชาตินี้ได้หรือไม่ได้ไม่สำคัญ เพราะการหวังนิพพานกันจริงๆ ต้องหวังกันหลายชาติจนกว่าบารมีที่เป็นปรมัตถบารมีจะสมบูรณ์แบบ คือต้องหวังหลายๆ ชาติ ถ้าจิตหวังพระนิพพานจริงๆ พวกนี้ก็มีหวัง ที่เรียกว่ามีบารมีเป็น ปรมัตถบารมี

    ฉะนั้นคนที่จะมีบารมีเข้าถึงปรมัตถบารมีก็ดี อุปบารมีก็ดี ท่านพวกนี้จะต้องผ่านความเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม กันมามาก เพราะว่าบารมีขั้นต้นก็สามารถเป็นเทวดาเป็นนางฟ้าได้ แต่เป็นพรหมไม่ได้ เพราะบารมีขั้นต้นนี่จะไม่มีฌานโลกีย์ พรหมนี่จะทำบุญแบบไหนก็ตาม ถ้าไม่มีฌานโลกีย์จะไม่สามารถเป็นพรหมได้ สำหรับอุปบารมีนี่เขาพร้อมในการทรงฌาน แต่ว่าเวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ก็ไปเป็นพรหมไม่ได้้เหมือนกัน ถ้าเวลาจะตายเข้าฌานตายไปก็ไปเป็นพรหมได้ เขาพร้อมแล้ว

    สำหรับท่านที่มีบารมีเป็น ปรมัตถบารมี บางทีจะเห็นว่า เรายังบกพร่องในความดีอยู่มาก ศีลก็บกพร่อง สมาธิก็ไม่ทรงตัว ปัญญาก็ไม่แน่นอนนัก ไอ้อย่างนี้มันก็ไม่แน่นอน เพราะคนที่จะไปนิพพานจริงๆ มันอยู่แค่หัวเลี้ยวหัวต่อ อาศัยความเคยชิน อาศัยการฝึกไปบ้าง มากบ้างน้อยบ้าง ทำผิดบ้าง ทำถูกบ้าง แต่ว่าอารมณ์ชินของอารมณ์ดีอยุ่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ไม่ต้องการเกิด มีความรู้สึกตามความเป็นจริงว่าการเกิดขึ้นมา มันเต็มไปด้วยความทุกข์ ความเกิดอย่างนี้จะไม่มีกับเราอีก เราจะมีความเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย วันหนึ่งถ้าคิดอย่างนี้สัก ๒ นาที คิดทุกวัน อารมณ์นี้มันจะชิน คำว่าชินก็คือฌาน ฌานก็คือชิน

    ในเมื่ออารมณ์คิดจนชินเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่มากนัก เห็นทุกข์วันละ ๒-๓ นาที นอกจากนั้นก็เผลอเห็นสุข หรือเมื่อมีการงานเข้ามาคั่น เขาไม่ได้นึกถึงตัวทุกข์ ก็จะหาว่าเขาเลวไม่ได้ ต่อเมื่อเวลาที่ใกล้จะตายขึ้นมาจริงๆ มันป่วยไข้ไม่สบาย การป่วยไข้ไม่สบายมันบังคับจิตให้เห็นว่าร่างกายมันเป็นทุกข์ว่า คนป่วยไม่มีส่วนไหนของร่างกายเป็นสุข แม้แต่ลมก็มีการขัดข้องอยู่เสมอ ก็เห็นว่าการเกิดมันไม่ดีแบบนี้ ร่างกายก็ป่วย อารมณ์ก็ขัดข้อง อาศัยที่จิตคิดจนชินว่า ร่างกายเกิดเป็นของไม่ดี เป็นทุกข์อย่างนี้เราไม่ต้องการมัน อารมณ์นี้ก็จะเกิด ถ้าอารมณ์นี้เกิดขึ้นมาจริงๆ ก่อนหน้าจะตาย ถ้าเป็นฆราวาส อารมณ์นี้จะหนักแน่นในวันนั้นแล้วก็ตายวันนั้น มันอาจจะเกิดมาตอนก่อนๆ มันอาจจะอ่อนไปหน่อย

    ถ้าจิตคิดจริงๆ ว่าเกิดเป็นของไม่ดี มันเป็นทุกข์อย่างนี้ เราไม่ต้องการมัน อีกจิตหนึ่งวางเฉย เข้าขั้น สังขารุเปกขาญาณ เป็นวิปัสสนาญาณตัวสุดท้าย สังขารุเปกขาญาณนี่ญาติโยมฟังแล้วเข้าใจด้วยนะ สังขารุเปกขาญาณหมายความว่าวางเฉยในร่างกาย ร่างกายคนอื่นๆ ไม่สำคัญ สำคัญร่างกายเรา เรามีความรู้สึกว่าร่างกายของเรานี้มันไม่ดีจริงๆ เวลานี้เราปวดที่โน่นบ้าง เสียดที่นี่บ้าง ขัดที่โน่นบ้าง ยอกที่นี่บ้าง มันมีความหิวโหยบ้าง หมดแรงบ้าง จิตใจเพลียไปบ้าง สรุปแล้วร่างกายทั้งร่างกายไม่มีอะไรดี ถ้าความรู้สึกว่าร่างกายไม่ดีเกิดขึ้นในวันนั้น แล้วความจริงใจก็เกิดขึ้นว่าเราไม่ต้องการร่างกายอย่างนี้อีก จิตก็เข้าถึงการวางเฉย ไม่ต้องการอีก มันจะตายก็เชิญตาย เราจะเชิญมันตายหรือไม่เชิญมันตายมันก็ตาย ใช่ไหม ในเมื่อมันจะตาย แต่เราไม่หนักใจในความตาย เราถือว่าถ้ามันตายเมื่อไรเราไปนิพพานเมื่อนั้น แต่ว่าเวลานั้นจะนึกถึงหรือไม่นึกถึงนิพพานก็ไม่สำคัญ ถ้านึกว่าเราไม่ต้องการร่างกายอย่างนี้อีก อารมณ์พระอรหันต์มีแค่นี้นะ วันนั้นท่านจะเป็น พระอรหันต์ จิตใจจะวางเฉยในร่างกาย เห็นร่างกายของเราเราก็เฉย ไม่ต้องการมันอีก เห็นร่างกายคนอื่นเราก็เฉย อย่างนี้เขาเรียก สังขารุเปกขาญาณ ถ้าตายเมื่อไรก็ไปนิพพานทันที นี่ว่าถึงพวกปรมัตถบารมีนะ

    ถ้าใช้ศัพท์เป็นวิปัสสนาญาณถามว่าตัวไหนเป็นตัวสูงสุด ก็ต้องตอบว่าสังขารุเปกขาญาณสูงสุด ในวิปัสสนาญาณ ๙ เขาไปจบที่ สังขารุเปกขาญาณ แล้วก็สังขารุเปกขาญาณนี่ทำยากหรือง่าย แต่ความจริงถ้าบอกว่ายากก็ยากสำหรับคนมีบารมีไม่ถึง ถ้าบารมีเข้มข้นจริงๆ ก็เป็นของทำไม่ยาก เพราะใช้ปัญญาเข้าใจตามความเป็นจริงเท่านั้น...


    (คัดลอกจาก หนังสือ “บารมี ๑๐ โดย ... พระราชพรหมยาน” หน้า 103 - 107)
     
  2. CHOLPRATAN319

    CHOLPRATAN319 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +2,552
    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านเป็นอย่างสูง
    ที่ได้ทำบุญในทุกกระทู้เข้ามาเข้าประชาสัมพันธ์ ในหมวดประชาสัมพันธ์
    และข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ที่เอาธรรมะที่เป็นสัมมาทิฐิมามาโพสเผยแผ่ในเว็ปพลังจิต<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

     
  3. s3515941

    s3515941 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +1,196
    ขอขอบคุณกับข้อความดีๆที่นำมาให้อ่านนะครับ..
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  5. soft_soft

    soft_soft เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +890
    อ่านเรื่องที่หลวงพ่อสอนทีไร ใจก็เป็นสุข
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  6. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,634

แชร์หน้านี้

Loading...