กรรม "ถูกปฏิเสธ"

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย agga, 24 มีนาคม 2013.

  1. agga

    agga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +148
    ช่วงนี้ ผมรู้สึกว่าชีวิตของต่ำเข้าสู่ความมืดมาก
    เมื่อไม่นานมานี้ ผมถูกปฏิเสธตีพิมพ์ผลงานเรื่องนึง แต่ไม่มีเหตุผลให้ผมชัดเจน เหมือนมีบางอย่าง ผมรู้สึกท้อแท้มาก เพราะผมใช้กำลังกายและเวลาทุ่มเทมาก ผลเครียมจนล้มหัวแตก ต้องไปเย็บแผล 4 เข็ม และเจ็บแผลจนถึงตอนนี้

    ผมเข้าใจว่านี่เป็นกรรมของผมแน่นอนที่ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้
    แต่ก็ทำให้ผมน้อมกลับมาคิดถึงคำสอนหลายๆ อย่างของหลวงพ่อฤาษี
    แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่ากรรมนั้นคืออะไร
     
  2. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    กรรมของการพลัดพรากหรือประจวบกับสิ่งรักหรือไม่ได้รัก...เมื่อรัก โลภ โกรธ หลง มีอุปทานให้มัน มันก็เป็นตัวสมุทัย คือ ต้นเหตุสาเหตุของทุกข์ของคุณ...
    ตัวกรรมนี้ มันต้องอาศัยกาล เวลา สถานที่ บุคคลเป็นองค์ประกอบ ตอนนี้องค์ประกอบให้โทษกับคุณ ก็ต้องยอมรับทุกข์ของมัน แต่บางที องค์ประกอบมาเข้าข้างคุณ ผลงานคุณอาจดังภายหลังขึ้นมาก็ได้...นั่นคุณก็จะรู้สึกว่าสุข...
    ...แต่ที่แท้ การยึดมั่นถือมั่นเช่นนี้ล้วนเป็นทุกข์ เดี๋ยวตายไป จิตจะไปเกาะกับสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่น...ให้ระวังแล้วถอนจิตออกมาวางอุเบกขาเสีย...งานเขียนงานวิจัยทรงคุณค่ามากมายกว่าเรา ยังถูกปฏิเสธ ยังถูกวางบนหิ้งมากมายก่ายกอง.....แล้วงานของเรา มันได้กระพี้งานของปราชญ์ท่านอื่นๆที่ถูกลืมไหมเล่า คิดดู...ฮ่า
     
  3. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ไม่มีใครไม่เคยล้ม แต่ทำไมคนบางคน ล้มแล้วลุกขึ้นยืนใหม่ได้รวดเร็ว
    มีกฎอะไรในโลกที่คนบางคนรู้ แล้วทำให้ทั้งเหตุการณ์ ดีและร้าย
    กลายเป็นของขวัญที่ทำให้ชีวิตเขาเติบโต มีความสุขอย่างแท้จริง

    เรากระทบกระเทือนจากเสียงข้างนอกตราบเท่าที่เราไม่มั่นใจ
    ในความดีงามของตนเอง เมื่อรู้ชัดถึงสิ่งที่เราเป็น เราก็จะเป็นอิสระ
    จากสถานการณ์ภายนอกทั้งปวง

    สิ่งที่เขาทำเป็นตัวบอกคุณค่าเขา แต่เราไปตีความให้ความหมายว่า
    สิ่งที่เขาทำ เป็นตัวบอกคุณค่าของเรา เราเข้าใจผิดเอง

    เวลาที่ชีวิตต้องเตือนเราแรง ๆ จนเหมือนเอาเท้าถีบเราจนกระเด็น
    ก็เพราะถ้าส่งสัญญาณเบากว่านั้น เราจะไม่รู้สึก

    วันนี้เราต้องเปลี่ยนก่อนที่ใจก่อนที่โลกจะให้บทเรียน เพราะถ้าเรา
    รอจนธรรมชาติต้องปรับตัวเอง จุดสมดุลของธรรมชาติอาจไม่มีมนุษย์
    อีกต่อไป

    เราไม่ได้ในสิ่งที่เราขอ เราได้ในสิ่งที่เราเป็น สร้างสิ่งที่เป็นเราภายใน
    ให้คู่ควรกับสิ่งที่เราต้องการ

    เมื่อไรที่คุณวิ่งวุ่นกับชีวิต คุณกำลังวิ่งหนีปัญหาที่ไม่ต้องการสะสาง
    ของตนเอง

    เราไม่ชอบมัน กลัวมันจะเกิด แต่ทุกอย่างที่เราทำ เราคิด เราตอบสนอง
    เรากำลังส่งบัตรเชิญมันเข้ามาในชีวิตเรา

    เราอยากเปลี่ยนคนอื่น อยากเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม แต่เราไม่อยากเปลี่ยนตัวเอง

    มนุษย์ไม่ได้เป็นทาสเพราะถูกคนอื่นกดให้เป็นทาส แต่เราเป็นทาสวัตถุ
    สิ่งของ การยึดติด เป็นทาสคน ซึ่งไม่จีรังยั่งยืน เพราะเราคาดหวังจะให้สิ่ง
    เหล่านี้ทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์


    เป็นปรัชญาชีวิตหนะค่ะ อ่านแล้วอาจจะทำให้เข้าใจกฎเกณฑ์และธรรมชาติของชีวิตได้มากขึ้นนะคะ ^^ ถ้าอ่านแล้วรู้ รู้แล้ววาง อันนี้ทำถูกค่ะ
     
  4. agga

    agga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอบพระคุณมากครับ

    ขอบพระคุณากครับสำหรับคำแนะนำ คำชี้แนะ กำลังใจ ธรรมะ
    ขอบพระคุณครับ
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ่น่ายินดีที่คุณมีความเห็นที่ถูกตรง(สัมมาทิฏฐิ) เชื่อและเข้าใจได้ว่านี่มาด้วยกรรมของตน อันเป็นไปเพื่อความสวัสดีของตนแต่ถ่ายเดียว..สัมมาทิฏฐิเป็นองค์คุณเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนาก็ว่าได้ ซึ่งไม่มีในลัทธิือื่นใดในโลกเมื่อบุคคลมีสัมมาทิฏฐิเชื่อว่่กรรมมีผล ย่อมสำรวมระวังกายวาจาใจมิให้เกลื่อนกล่นอาเกียรไปในบาปอกุศล..


    ผู้ที่สามารถจะแสดงให้ท่านจขกททราบได้ชัดเจนว่า เรื่องนี้มีมูลมาจากกรรมใด ทำไว้ชาติใหน ด้วยอาการใด..อย่างละเอียด มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ด้วยความรู้ที่ทรงตรัสแสดงไว้เป็นเอนก เราย่อมสามารถประมาณได้คร่าวๆว่า "กรรมและผลย่อมสอดคล้องทำนองเดียวกัน" ท่านจขกท จึงพึงทราบโดยนัยนี้ว่า แม้ในกาลก่อน ท่านเองได้เคยทำให้ใครอื่น"ผิดหวัง"มาด้วยทำนองคล้ายๆกับที่เกิดแก่ท่าน...ในโลกนี้ไม่มีอะไรเกิดเพราะบังเอิญ หรือซวยหรือเกิดลอยๆแบบไม่มีเหตุผล

    ส่วนการขาดสติ โทมนัสขัดข้องจนล้มหัวแตก...นี่ก็มาด้วยบาปกรรมอีกชนิดหนึ่ง มีการล่วงศีลข้อ๑ เป็นประมาณนำวิบากมาส่งท่วมทับ..ที่ได้รับการรักษานั้น มาด้วยบุญเก่าที่ทำไว้ก่อน .....จะเห็นว่าในเหตุการณ์หนึ่ง มีกรรมร่วมขบวนการมากมายหลากหลายยิ่ง ที่กล่าวมานี้ขั้นหยาบที่สุดแล้ว เพียงให้พอเข้าใจเรื่องกรรมบ้างเท่านั้น..ในระหว่างที่รับผลกรรม ก็ทำกรรมใหม่ขึ้น เช่นที่เครียดโกรธผิดหวังตลอดจนคิดได้ว่านี่มาจากกรรมของตน เหล่านี้เป็น"กรรมใหม่"แล้ว ที่จะมีผลต่อไปอีก..

    ที่สุดของความวิบัติคือการหมดอำนาจของเรื่องร้าย ย่อมเป็นที่มาของการเริ่มของสิ่งที่ดีใหม่ๆ..

    บุคคลย่อมพ้นทุกข์ได้เพราะความเพียร ..ลองนำไปเสนอสำนักพิมพ์อื่นดูนะครับ...

    ขอให้ประสบสิ่งดีที่ปรารถนา พ้นทุกข์โดยพลันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2013
  6. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ คิดว่าเราชดใช้เวรกรรมแล้วกันครับ สาธุ
     
  7. agga

    agga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +148
    ตอนเย็นนอนหลับไป รู้สึกเหมือนหลวงพ่ิฤาษีท่านมาปลอบผม ผมดีใจที่รู้สึกว่ามีหลวงพ่อกับผมตลอด และเพื่อนๆ พี่ใน palungjit ที่ช่วยให้คำแนะนำ ชี้แนะกับผม
     
  8. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    "ความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่หมายถึงการไม่เคยพ่ายแพ้ล้มเหลว แต่หมายถึงการที่ลุกขึ้นยืนได้ทุกครั้งที่ล้ม"

    ขงจื๊อ
     
  9. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    เขาสอนให้คุณลดอัตตาน่ะ ลองดูสิดีแน่ กลับไปอ่านผลงานอีกครั้งหรือให้ผู้อื่นช่วยวิจารณ์ดูคุณก็จะรู้ว่าอะไรที่ต้องแก้ไข ส่วนที่คุณต้องเจ็บตัวเพราะเขาสอนให้ลดโทสะกับโมหะ สติจะได้มาปัญญาจะได้เกิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...