กรรมฐานที่เหมาะกับนักธุรกิจนักศึกษา(หลวงปู่พุธ ฐานิโย)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 4 พฤษภาคม 2012.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ถามจริงๆเถอะ ประโยคนี้ไปเติมให้พระพุทธองค์รึเปล่า

    ผมอ่านแล้วแปล่งๆ
     
  2. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ตรงล้น ส่วนใหญ่จะเป็นการจงใจครับ ได้บ้างไม่ได้บ้าง
    ส่วนกายนั้น คงพูดในแง่ที่ไม่จงใจคิด แต่คิดให้เห็นเอง ทั้งคิดและภาพ โดยจะเอาความจำต่างๆมาแสดงขณะนั้นๆ โดยไม่เกินจากการกระทนั้นๆ จนหมดการกระทำ ฟุ้งออก ก็จบขณะไป
    ช่วงนี้จะเป็นเรื่องการกิน และถ่าย โดยมาก

    หากกายส่วนอื่นเพิ่งปรากฏครับ จริงๆจะเล่าเรื่องฝันในกษิณ แต่เห็นว่า ติดจะฟ้งเสียมากไป
    ค่อยเล่า อีกที น่าจะสนุกกว่า
    ปล.มีเหตุมากกว่านั้นหน่อย พี่น่าจะพอรู้ พอส่งไปมันเจออีก:'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2012
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อะไรที่เกิดดับ มันกว้างนะ รูป จิต เจตสิก ขณะนั้นอะไรที่เกิดดับ ^^

    กายในกาย ไม่ได้หมายถึงตับไตไส้พุงนะน้าเอก อสุภะก็อสุภะสิ

    จะละความเห็นผิด ละสักกายทิฏฐิ ไม่ได้เปลี่ยนตับ เปลี่ยนไต

    แต่หมายถึงรูปทั้งหมด ความเป็นผิดในขันธ์ ธาตุ อายตนะ อินทรีย์ ฯลฯ

    ที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้

    คงไม่ได้หมายถึงสมมุติบัญญัติ ที่จริงพระท่านให้พิจารณาครบนะ
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เจริญล่ะ ^^

    การเกิดดับเป็นเรื่องปัญญาเห็นธรรมขณะนั้น ซึ่งก็เป็นลักษณะของรูปและนามที่แสดงสามัญลักษณะให้รู้อยู่

    ที่พิจารณาคือ เห็นเกิดดับ หรือส่วนเกิด หรือส่วนดับ เป็นเรื่องของไตรลักษณ์ที่ปัญญาเห็น

    ในส่วนเกิด และส่วนดับก็เป็นเรื่อง อริยะสัจที่ละเอียดไปอีก
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เจริญล่ะ ^^

    การเกิดดับเป็นเรื่องปัญญาเห็นธรรมขณะนั้น ซึ่งก็เป็นลักษณะของรูปและนามที่แสดงสามัญลักษณะให้รู้อยู่

    ที่พิจารณาคือ เห็นเกิดดับ หรือส่วนเกิด หรือส่วนดับ เป็นเรื่องของไตรลักษณ์ที่ปัญญาเห็น

    ในส่วนเกิด และส่วนดับก็เป็นเรื่อง อริยะสัจที่ละเอียดไปอีก
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ......สัมมาทิฎฐิ มันยาก นะครับ...เอาแค่ มัชฌิมาอย่างธรรมดา...ยังไม่เต็มเลย....จึงยังไม่ถึงอุเบกขา ได้อย่างจริงจัง...:cool:ยังมี ล้ม ลุก ฟู แฟบ
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สติไม่ได้เกิดทั้งวันหรอกครับ ยิ่งข้องงานทางโลกมาก ยิ่งไม่ค่อยเกิด ก็อาศัยระลึกอิริยาบถบ้าง แยกรูปนามรู้จากสภาวะจริงบ้าง มันเฉือนกันนิดเดียว ไม่คาดหวังอะไร
     
  9. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ........................การ์ดตก เดี๋ยว มีคน ตุ๊ยท้องนะพี่หลง......ผมก็เหมือนกัน...จิตมันยังไม่ตั้งมั่นตลอด....จริงจริง ความโลภ อภิชฌา ฟู หรือ โทมนัส แฟบ...มันต้องไม่ลืมเห็นจริงจริง ไม่งั้นก็หลงไปในโลก จนหาทางกลับ ยากพอควร....จิตตั้งมั่นเป้นผู้รู้ผู้ดูกายใจ จึง สำคัญนัก......ใหนว่ามีสติวันละครั้งพอ...:cool:
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    มันมีกรณีอย่างนี้ สติไม่่เกิดตลอดเดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มีเป็นเรื่องปกติ

    สำหรับผู้มีปกติเจริญสติ ยังไงมันก็ไม่ข้ามวันหรอก อีกอย่างเมื่อสติระลึกได้ก็จะว่องไว


    เมื่อก่อนก็มีพิจารณาลักษณะรูปนามนานอยู่ หลังกระทบอารมณ์ก็รู้ชัดเห็นจะๆว่าธรรมใดปรากฎ


    เห็นพูด ฟูๆ แฟบๆ สังเกตุดีนะ อาการที่มันฟูจนรู้สึกได้ เป็นจิตที่ฟูจริงหรือ หรือว่าธาตุที่เกิดจากจิต มันเป็นรูปที่รู้อยู่ก็ได้
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    .............คงเป็นจิตสังขารประเภทโลภะ และ โทสะ อย่างความกลัวนี่ก้ใช่....ส่วนพี่หลงจะดูไปเป็นธาตุ ก็แล้วแต่ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่กายคตาสติก็มีให้ดูอยู่แล้ว....ส่วนที่พี่เล่าปังท่านกล่าวว่าถ้าไม่ย้อนกลับมาหลงโลกสุดตัว ก็พอ ไปเรื่อยเรื่อย ไม่พักไม่เพียร แม้เอื่อยหน่อยก็ยังดี:cool:
     
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ไม่ค่อยสนใจตามอ่านเล่าปังเพราะ เดี๋ยวอานาปาสุดยอด สูญตาสมาธิสุดยอด มาวันนี้กายคตาสติสุดยอด ออกแนวงงๆเลยไม่ได้สนใจเท่าไร

    ความกลัว ความง่วง ความโกรธ ความฟุ้ง พวกนี้ อยู่ในโทสะมูลจิต


    ก็ใส่ใจตรงเวทนา ความหยาบช้า ความแข็งกระด้างที่แสดงออก


    จิตมันฟูแฟบไม่ได้แน่นอน นอกจากรู้ ก็อย่าไปเข้าใจว่าฟูๆแฟบๆเป็นนาม เป็นเจตสิกก็แล้วกัน


    มันเกิดจากขันธ์ประชุม จิตสร้างรูป หนักๆร้อนๆที่เกิดพร้อมกับโทสะ พวกนี้ก็ธาตุเกิดร่วม


    เวทนาก็เป็นเรื่องรู้ว่าเสวยอารมณ์ที่ไม่ดีหรืิอดี


    ทีจริง โทสะเกิดนี่ มันฟูหรือแฟบล่ะ ทำอะไรไม่คิดปล่อยตามอารมณ์ มันฟูหรือแฟบ วัดได้หรือ
     
  13. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ...ยาธาตุ มาอีกแล้ว....วัดได้ไม่ได้ เราไม่ได้เอาจำนวน หรือ ขนาด เราเอาที่มีสติระลึกรู้..ระลึกรู้อะไร?ระลึกรู้ว่า เสวยอะไรอยู่ทั้งกายใจ...สติมีลักษณะถือกุศล เตือนให้รู้ถึงอกุศลเป็นธรรมชาติลักษณะของสติ...:cool:จนกว่าจะเห็นเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของสภาพธรรมที่เกิดดับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2012
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    (ต่อจากตอนที่แล้ว)

    วิชาความรู้ทุกสาขาวิชา
    หรือทุกศาสตร์ ที่เราเรียนรู้กันมานั้น
    ก็เป็นสภาวะธรรมเหมือนกัน

    ทำไมจึงว่าอย่างนั้น..!!

    เพราะสิ่งที่เรารียนรู้มานี้

    เรามองเห็นด้วยตาใช่มั๊ย
    ได้ยินด้วยหูใช่มั๊ย
    ได้สัมผัสด้วยกายคือการขีดเขียนใช่มั๊ย

    แล้วจิตของเราเก็บเอาไว้เป็นภูมิความรู้
    จนสะสมไว้เป็นผู้มีความรู้มาก
    ถึงขณะอยู่ในระดับปัญญาชน

    สามารถที่จะสอบ เลื่อนชั้น ตามวุฒินั้นๆได้
    ตามความประสงค์

    เพราะฉะนั้น ไอ่สิ่งทั้งปวง ดังที่กล่าวมานั้น
    จึงได้ชื่อว่า สภาวะธรรม
    เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ ด้วยกันทั้งนั้น
    เพราะฉะนั้น ในแนวทางที่จะนำธรรมมะ
    เข้ามา เพื่อเป็นประโชยน์แก่ชีวิตประจำวัน

    แล้วสามารถที่จะเอาทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เราเรียนรู้มา
    เอามาวิตก ขึ้นมาเป็นอารมณ์คู่ของใจ
    เอาใจรู้ไว้กับสิ่งนั้น จะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่ท่านเรียนมา

    ถ้าสมมุติว่า

    ท่านเรียนมาทางสายวิชาแพทย์
    ท่านเคย วิจัย วิจาร สรีระ ร่างกาย ของคนไข้
    หรือ ซากศพที่ท่านเคยผ่าตัด

    วิจัย วิจารมาเพื่อเป็นความรู้
    ตามขั้นตอนที่ท่านเรียนมา
    แล้วก็เอาเรื่องนั้น มาเป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ

    โดยกำหนดพิจารณาตามแนวทางที่เรียนมานั้น
    จนสามารถทำจิตของท่านให้คล่องต่อการพิจารณา
    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โดยหลักธรรมชาติของจิตแล้ว
    ในเมื่อจิตมีเครื่องรู้ แล้วสติมีเครื่องระลึก ย่อมเกิดความสงบขึ้นมาได้

    (อ่านต่อตอนต่อไป)​
     
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849

    เซียนค๊อฟ จะดิบ หรือ สุก
    หากเราไปคอยมองแต่ผลงานมันจะไม่ได้ผลงาน

    อะไรที่เป็นเหตุเป็นวิธีทำ สำคัญที่ตรงนี้

    ถนัดพากไม่เที่ยง ไม่เที่ยง ก็ต้องพากไม่เที่ยง ไม่เที่ยงให้ถึงที่สุด
    จนกว่ามันจะหยุดพาก
    แล้วมันพากด้วยตัวมันเอง ตรงนี้ถึงจะเริ่มเดินของจริง
    จริง ๆ ฟัง และอ่าน หลวงปู่พุธ ฐานิโย ทียกมาในกระทู้นี้
    อ่าน จำ ทำตาม เรื่อยๆเลยจ้า เซียนค๊อฟ
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    อนุโมทนาด้วยจ้า

    การฟังธรรมเป็นเหตุในการสร้างปัญญาได้
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849

    อ่านแล้ว คิดถึงพี่ห้าห่วง โอโจ้

    แกจะชอบเรียก เพื่อนพี่น้องที่สนทนากันว่า เหล่ามหาปาด หุหุ

    นี่ๆ เซียนค๊อฟ

    มีอะไรให้เห็นบ้าง ของการเป็นปกติ หรือ การทำซ้ำ มีอะไรมาให้
    ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก
     
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849

    แน่นอน อยู่แล้ว การเริ่มต้น ต้องเรียนรู้วิธีก่อน
    ศึกษา เป็นขั้นเป็นตอน แล้ว ลงมือทำ

    ทีนี้การนึกเอา คิดเอาก็แล้ว แต่ยังเป็นได้แค่ไล่ตามเงา หรือไกลออกไปอีกคือ คิดเอาเอง

    เจ่หลง ถ้าหากว่า ที่ขีดเส้นใต้นี่ เราฝึกนึกคิดเอา คิดเอา

    ถ้าเมื่อ มันชำนาญขึ้นมาล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ทำจนชำนาญ จนคล่อง
    เจ่หลงว่า มันจะเกิดอะไร
    เบื่องต้นนี่แค่นี้ก่อน อย่างเพิ่งไปไกล

    คบกับ นายชำนาญ ให้เป็นเพื่อนไว้ก่อนอื่น ^^
     
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ฟังพี่ปราบพูดถึงผล ก็เลยถามดูครับ
    ผมว่า เริ่มต้นด้วยดี เหตุดี ทำดี ผลมาเองๆครับ
    ส่วนเรื่อง พาก เที่ยงไม่เที่ยง มันไม่ปรากฏความเที่ยงไม่เที่ยงในคิดครับ
    แต่จะปรากฏในอาการใจ ที่แสดงขณะนั้น พี่ปราบว่าไว้ ว่าพ้นเจตนา ผมก็ว่า เจตนาที่ไม่เจตนา
    เรื่องฟัง ผมฟังได้ครับ ทำได้ ไม่ได้ ก็ว่ากันไปครับพี่ปราบ
     
  20. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    นี่ก็ส่วนหนึ่งครับ ที่แน่ๆ มักจะ ดำริให้เห็น กรรม มากกว่าครับ
    ทั้งเห็นภาพ และเห็นคิด ที่ทำให้ เฉยได้บ้างไม่ได้บ้าง

    ส่วนพี่ห้าห่วง โอโจ้ ไม่เข้าใจครับพี่ ป.ปราบ

    พี่ปราบ ฟัง คำนี้แล้วว่าอย่างไรบ้างครับ

    ละอภิชชา โทมนัส เสียจากโลกได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...