จิตของท่านผู้ไม่หลุดพ้น ...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นิพพิชฌน์55, 24 เมษายน 2016.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,435
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ปล.ประมาณนี้. ถือแลกเปลี่ยนประสบการณ์นะครับ
    ขอบคุณที่ยกเรื่องมาให้มาพิจารณาให้ขยายความเพิ่มนะครับ...
    แต่ขอรบกวนให้ คุณ Tboon ค่อยๆอ่าน ค่อยๆพิจารณา
    แล้วสังเกตุดูที่กิริยาทางจิตมากกว่าคำพูดนะครับ
    อย่าพึ่งรีบด่วนสรุปนะครับ..เพราะ
    ตัวสติทางธรรมและความ
    เข้าใจนามธรรมของคุณมีอยู่แล้ว..คุณจะพอเห็นได้อยู่และ
    เพราะคุณเน้นเรื่องปัญญา คุณเลยยกเรื่องให้มาพิจารณา
    เพราะคุณก็มีเจตนาที่ดีตั้งแต่เริ่มที่ได้อ่าน..
    โดยที่คุณไม่ติด เรื่อง ลาภ ยศ สุข สรรเสริญแบบลึกๆอย่างที่ไม่รู้ตัว...
    ถ้าเป็นแบบนี้ ณ ปัจจุบันนี้ ก็เหมาะแก่การสนทนาด้วย...
    ขอบคุณอีกรอบครับ
     
  2. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    ^__^ อนุโมทนา สาธุธรรม ทุกท่านครับ แต่ละท่านปัญญาบารมีไม่น้อยหน้ากันเลยครับ สาธุๆ ^__^
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ผมว่าเป็นเพราะ หลงไปยึดถือปรากฎการณ์เหล่านั้นว่า เป็นเราเป็นของของเราน่ะครับ ทั้งๆ ที่ตามความจริงแล้ว เป็นเพียงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยเท่านั้นเอง หรือมองอีกมุมก็คือ ทำกรรมอะไรไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นๆ ต่อไป ถ้าจะให้อยู่ดีมีสุข ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ที่เหลืออะไรจะเกิดก็ยอมรับความจริงไป


    อ้อ พอรู้ความจริงแล้ว ความสำคัญมั่นหมายก็จะค่อยๆ จืดจางไปเองครับ ถ้าว่าสิ้นสงสัยจริงๆ นะครับ มันจะเลิกให้ค่าให้ความสำคัญ คือเลิกติดใจไปเองเลยนะครับ ต่อให้มันเกิดก็ไม่สงสัย ไม่ติดใจ ไม่ยึดถือเอามาเป็นตัวกูของกูครับ สังเกตนะครับ ขันธ์ส่วนขันธ์ กิเลสกรรมวิบากเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ก็ส่วนหนึ่ง และความมีอุปาทานยึดมั่นถือมั่นก็ส่วนนึง ถ้าความยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวกูของกู สักกายทิฏฐิไม่มี ที่เหลือแล้วแต่เลยครับไม่ติดใจ แต่โดยสามัญสำนึกผู้รู้จะเลือกเดินบนทางแห่งความไม่ประมาทเป็นหลัก อย่างกิเลสเนี่ยถ้าว่าฆ่ากิเลสหมดแล้ว ทำไมครูบาอาจารย์บางท่านยังใช้คำว่า ใช้กิเลสให้เป็นประโยชน์ล่ะครับ กินอาหารเลือกได้ก็เลือกที่อร่อย ไม่ใช่ไม่รู้รสไม่สนรสชาติเลย ไม่ได้ฆ่าหรอก แค่ อะระหะโต คือเป็นผู้ไกลจากกิเลส (ให้เป็น) ก็เท่านั้นเอง ความสำคัญคือ ไม่ตั้งตนอยู่บนความประมาท แต่พระอรหันต์ท่านมีสติสมบูรณ์แล้ว ท่านพ้นแล้วซึ่งความประมาทหรือความไม่ประมาทครับ

    ยินดีที่ได้สนทนาธรรมกันครับ
     
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เมื่อจิตเกิดได้ ก็ดับได้ ตอนจิตเกิดนี่สำคัญ จะเท่าทันไหม บางทีรู้ทั้งรู้ว่าจิตเกิดแต่เอาไม่อยู่ จริงๆเขาไม่ได้ให้เอาให้อยู่หรือไม่อยู่อะไร หลงเกลียดต่อ เป็นปฏิฆะ หลงพอใจต่อเป็นราคะ ตามทันไหม วิปลาส 4 ตรงนี้ต่างหาก ถ้าว่าถึงความดับแล้ว มันโอละพ่อหมด คิดนึกหวั่นไหวไปเองทั้งนั้น นี่แหละอวิชชาเป็นปัจจัยใหัเกิดสังขารฯ เป็นต้นไป อย่างนี้เอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...