ร่องรอยอภิญญาใหญ่ โรดแมปสู่อภิญญาสาธารณะ

ลูกประคำ ลูกประคำมือ หลวงปู่ทวด


ขออนุญาตครับ

ขอนำภาพ ประคำ ๑๐๘ เม็ด ที่ได้รับมาในงานไหว้ครูครั้งสุดท้าย ที่สำนักของอาจารย์ใหญ่ปู่โทน หรำแพร

ประกอบด้วย

๑ ลูกประคำแก่นขามตายพราย(ฟ้าผ่าตาย) ร้อยเป็นสร้อย ๑๐๘ เม็ด

๒ พระหลวงปู่ทวด สร้างด้วยมวลสาร ผงธูปบูชาศาลหลักเมือง ทั่วประเทศ และ ผงดินจากสังเวชณียสถานทั่วอินเดีย เนปาล

๓ ลูกประคำมือ หยกเขียว ที่ครูบาอาจารย์ใหญ่ ได้รับประทานมาจากองค์หลวงปู่ใหญ่โดยตรง
วันที่ท่าน อาจารย์ตัดแจกนั้น หลายๆท่านคว้าไปหลายเม็ด
แต่ครูบาอาจารย์ บอกว่า "ไม่เป็นไร"

๔ จีจร ๑ แผ่น ตัดมาจาก จีวรที่ครูบาอาจารย์ท่านปัจจุบัน ได้รับการประทานมาจาก องค์หลวงปู่ใหญ่
ท่านก็มีเจตนาจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ครบผืน
แต่เนื่องจากศิษย์ขององค์หลวงปู่ใหญ่ที่โคราช ได้มาตัดแบ่งเอาไป ก็เลยต้องเลยตามเลย

๕ ผงตะใบ ที่ได้มาจากการหล่อพระประธานประจำสำนัก

๖ ยันต์พระคาถาตัวนะ ลายมือนี้ ปากกาแบบนี้ จำให้ดีนะครับ
เพราะเคยเห็นไปปรากฏอยู่ในวัตถุมงคลหลายๆที่
ท่านที่ไม่มีวาสนาผูกพัน ได้มาแล้ว โยนกลับเข้าไปในตลาดพระเครื่อง ราคาก็แค่สอง-สามร้อยบาทเอง

สร้อยประคำใหญ่นี้ ทำได้แค่จำนวน ๑๓ เส้น ส่วนเส้นเล็กมีมากกว่านี้

ลุงมหาขับรถกลับไปตลาดสถานีรถไฟตาคลีเพื่อ กด เอทีเอ็ม เอาเงินมาบูชาราคาทุน (ค่าแรงกลึงลูกประคำ + ค่าอัดกรอบพระ)
ด้วยความเกรงใจ เลยเอามาแค่ ๒ เส้น

ถวายครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติ ที่องค์ท่านมีความผูกพันกับองค์หลวงปู่ใหญ่ไป ๑ เส้น

เหลือเก็บเอาไว้เพียงเส้นเดียว

ตอนหลังครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า เส้นของท่านได้นำไปให้องค์หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต อธิฐานจิตเพื่มพลังให้อีกต่างหาก

ท่านบอกเล่าว่า องค์หลวงปู่ขาวท่านได้เมตตาทำอย่างละเมียด ละไม
โดยอธิฐานจิตอย่างละเอียด ทีละเม็ดๆ จนครบ ๑๐๘ เม็ด

ผมก็เลยตามมั่ง ก็เอาไปขอเมตตา วันก่อนงานกฐินนั่นล่ะครับ

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา



ถ้ารูป Error จะส่งให้ทีหลัง

 

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

อ้างอิงกันบ้างไหม?

ขออนุญาตครับ
ผมเห็นบางสายชอบฝึกทางฤทธิ์
เห็นว่ากันว่า ครูบาอาจารย์ใหญ่คือ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
องค์อาจารย์ใหญ่ท่านนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ผมดูๆแล้ว หลักสูตรขององค์ท่านนั้น ใกล้เคียงกับขององค์หลวงปู่ใหญ่มาก

ครั้นมาถึงรุ่นหลังๆ กลับแปลกแปร่งออกไป มันสับสนจนแม้กระทั่งว่า
ครูบาอาจารย์รุ่นหลังๆ ท่านเก่งอะไร ท่านเด่นทางไหน

เรื่องของครูบาอาจารย์ของตนนั้น
ผู้เป็นศิษย์ สมควรบอกเล่าให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างง่ายดาย

ไม่ใช่แบบมีแต่เรื่องโน้นเรื่องนี้บอกเล่ากันไป
จนทำให้จับใจความก็ไม่ได้

เมื่อสิ้นองค์หลวงปู่ปานแล้ว และเมื่อผมได้มีโอกาสไปกราบนมัสการ
ครูบาอาจารย์ที่ผมได้อ้างอิงเอาไว้ข้างบน

จึงได้รับฟังจากองค์ท่านโดยตรงว่า

องค์ท่านคือ ผู้ที่ปรารถนาเป็นพระอัครสาวกขององค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

แล้วครูบาอาจารย์รุ่นหลังก็ดี
แล้วศิษย์รุ่นหลังก็ดี

ไม่อยากไปพบ ไม่อยากไปเจอ ไม่อยากไปถามท่านหน่อยหรือว่า

ที่พากันฝึก ที่พากันสอนอยู่นี่

ใช่แบบที่ครูบาอาจารย์ต้นตำหรับท่านพาสอนพาทำกันหรือไม่

หรือไม่อยากจะอ้าง ไม่อยากจะอิง ก็ตามใจ

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ต้องอ้างและต้องอิง
ถ้าไม่อ้างไม่อิง ก็ต้องเพี้ยน !!

 

เรื่องพระพุทธศาสนา

ขออนุญาตครับ

เรื่องของเบญจวัคคีย์ในยุคปัจจุบัน
เรื่องของไสยเวทย์
เรื่องของสุดยอดหมอโบราณ
เรื่องของผู้ค้ำจุน(พี่เลี้ยง)

ในทุกพุทธกาล ในพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก็จะมี พุทธประเพณี

มีพระพุทธเจ้า
มีพระอัครสาวก
มีเบญจวัคคีย์

ในการสร้างสมบารมีไปนั้นจะมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

แม้ในยุคปัจจุบัหัวหน้าเบญจวัคคีย์ของพระพุทธเจ้าในอนาคต
ท่านเกิดในประเทศไทย เติบโตในลาว ท่านมีเชื้อสายตามลำดับดังนี้

เสด็จปู่ ร.๔
เสด็จพ่อ ร.๕
เด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร
เจ้าเมืองขุขันธ์
ลูกหลานเจ้าเมืองขุขันธ์ในปัจจุบัน

คนทั่วไปเข้าใจว่า ไสยเวทย์เขมร
เมื่อเจาะลึกลงไป กลายเป็นว่า เป็นสายเจ้ารัตนโกสินธุ์
และคนกลุ่มนี้ ก็ส่งลูกหลานไปเป็นองค์รักษ์ในวังไม่เคยขาดหาย

ในคนกลุ่มนี้ก็จะมีสุดยอดสายศาตร์หมอโบราณอยู่ด้วย
และที่แปลกคือ รักษาเฉพาะญาติพี่น้อง ลูกหลาน คนคุ้นเคยเท่านั้น

ส่วนสายพี่เลี้ยงก็คือ ปู่ฤๅษีพันปี ที่ชาวไสย์เวทย์รู้จักในพระนาม อาจารย์ของอาจารย์ว่า ปู่ฤๅษีหมื่นปี

ปู่ฤๅษีหมื่นปี ปัจจุบันท่านมีศิษย์ 3 องค์ เป็นฆราวาส 2 เป็นพระสงฆ์ 1
ปัจจุบันละขันธ์ ไปแล้ว 1 เลยเหลือแค่ 2
องค์ที่เป็นพระละขันธ์ไปก่อนแล้ว

สายไสย์เวทย์นี้เป็นสายรองลงมาไม่เกี่ยวกับสายพุทธภูมิ
เพราะสายไสย์เวทย์เท่าที่พบเป็นพี่เลี้ยงระดับเบญจวัคคีย์ลงมา

ส่วนพี่เลี้ยงใหญ่ของฝ่ายพุทธภูมิก็คือ องค์หลวงปู่ใหญ่ ที่องค์ท่านบอกว่า หลวงพ่อปานวัดบางนมโค เป็นลูกศิษย์ของลูกศิษย์ของท่านอีกที

ส่วนไสย์เวทย์ที่เที่ยวทำร้ายผู้คน ก็เป็นแค่ เครื่องมือหนึ่งของ กฏแห่งกรรม
แม้จะมีบางส่่วนที่เกินเลยสร้างกรรมใหม่ขึ้นก็น้อยมากๆ
และผู้เผลอไปสร้างกรรมใหม่ ก็จะได้รับผลของกรรมเองในอนาคต

การสืบทอด การเผยแผ่สายไสย์เวทย์
ก็คล้ายกับการเผยแผ่พระศาสนา ที่มีพระดี ที่มีพระไม่ดีปนมาด้วย
สายไสย์เวทย์ก็เป็นเช่นเดียวกัน มีทั้งคนดีและคนไม่ดี
บวกกับคนรักพวกพ้อง และความหยิ่งทรนง แห่งสายเลือดชาวไสย์เวทย์ผู้กร้าวแกร่ง
ใครแหยม ใครล้ำเส้นเป็นได้เรื่องแน่ๆ

แต่ก็มีความสมดุลย์ในการคานอำนาจระหว่าง

นักการเมืองระดับชาติในท้องถิ่น
นักการเมืองท้องถิ่น
ผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูล
ทายาทผู้สืบทอดอำนาจสูงสุดทางไสย์เวทย์
ที่ว่ากันว่าเมื่อท่านเสียชีวิตลงในชาติที่แล้ว ท่านกลับมาจุติต่อในครรภ์ของลูกสาวท่านเอง

และทายาทผู้สืบทอดอำนาจสูงสุดท่านนี้
มีความใกล้ชิดสนิทสนม กับชาวเสื้อแดงเป็นอย่างดี
คอยปรับไม่ให้เหตุการบุกกรุงเทพรุนแรงมากเกินไป

ฤทธิ์อำนาจทางไสย์เวทย์
ภูมิรู้ภูมิธรรม
ความกร้าวแกร่ง
ความหยิ่งทรนง
ความเมตตาต่อสัตว์โลก

กำลังหลอมรวมกันอยู่ในตัวตนของท่าน

เมื่อเกิดความสมดุลย์เมื่อไร ก็จะมีดาวเด่นดวงใหม่เกิดขึ้น

สายเลือดแห่งเจ้ารัตน์โกสินธุ์ แห่งเมืองขุขันธ์
ที่กระจายอยู่ในเขต ศรีสะเกษและสุรินทร์นี้

ดูจะเด่นล้ำกว่าสายเชียงใหม่มากมายนัก

น่าเสียดายที่ชาวพุทธบางกลุ่มไม่ยอมรับเรื่องไสย์เวทย์
ก็เลยไม่ทำความเข้าใจ ละเลยไสย์เวทย์

เมื่อละเลยไสย์เวทย์ เมื่อถูกไสย์เวทย์เล่นงาน ก็เลยแก้ไขไม่ได้ ก็เลยจะตายเปล่า

แต่ก็มีผู้มีบุญบารมีสูงๆบางท่าน ยอมตายเพราะไสย์เวทย์
ท่านให้เหตุผลว่า ลดเวรลดกรรมลงได้เยอะ เสียสละแค่ชาติเดียว คุ้มแสนคุ้ม

เพราะไสย์เวทย์นั้นสามารถร่ายพระเวทย์เพื่อเชิญ เจ้ากรรมนายเวรของคนผู้หนึ่ง
ที่มีจำนวนมากมายมหาศาล ให้เข้ามาทำร่้ายคนผู้หนึ่ง

แต่ภัยพิบัติและมหาภัยพิบัติ คือ การใช้อำนาจสูงสุดฝ่ายมาร
ระดมสรรพกำลัง ระดมเจ้ากรรมนายเวร ของมนุษย์จำนวนมหาศาล
เข้าทำร้าย เข้ากวาดล้าง คราวละมากๆ หรือในคราวเดียวทั่วโลก

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้ง สงครามโลก ครั้งที่1 และ 2

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในคราว เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่1 และ 2

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตั้งแต่ มหันตภัย ที่แหลมตะลุมพุก สึนามิที่ภาคใต้ น้ำท่วมใหญ่เชียงใหม่ยันกรุงเทพ

อย่าได้ชะล่าใจ ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก?

ส่วนพวกที่มองว่า ตนเป็นลูกศิษ์พระ
มองไสย์เวทย์ว่าเป็นเรื่องฤทธิ์

แล้วที่อาจารย์ของอาจารย์ไปเรียนไสย์เวทย์ จะว่าอย่างไร?

หรือพอเป็นพระแล้ว ไสย์เวทย์กลายเป็นฤทธิ์แล้วไม่เกี่ยวกันอีก

ผมเคยถามอาจารย์ว่าของวิเศษสุดยอดคืออะไร?
ท่านบอกว่า .......
ผมถามว่า ใช้ทำอะไร?
ท่านบอกว่า ใช้เดินทาง
ผมถามว่า ใช้เดินทางรอบโลกนานเท่าไร?
ท่านบอกว่า ประมาณ 10 นาที
ผมถามว่า ของๆท่านไปใหน?
ท่านตอบว่าอยู่กับศิษย์พี่

อ้อที่แท้ The Jumper ก็เป็นเรืี่องจริง Hollywood ไปเอาข้อมูลมาจากใหนกัน
คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นการย่นระยะทาง เป็นเรื่องทางฤทธิ์
แต่เมื่อได้พบปะพูดคุยกับผู้ที่เคยใช้จึงทราบว่าเป็นของวิเศษอย่างหนึ่ง
และต้องรู้วิธีใช้และต้องมีฌานบารมีสูงส่งพอ

ผมขอเรียกว่า The Jumper ก็แล้วกัน

ตัวอย่างการใช้ The Jumper ที่ชาวพุทธนักปฏิบัติคุ้ยเคยเป็นอย่างดีได้แก่

องค์หลวงปู่ใหญ่พาปู่โทนไปเที่ยวป่าหิมพาน
สามเณรมารับและมาส่ง องค์ปู่ขาว พุทธรักขิโต
และเหตุการรับและส่งของลูกศิษย์หลวงปู่ใหญ่ท่านอื่นๆ

ส่วนที่ว่า The Jumper เรียกภาษาไทยว่าอย่างไร? ต้องขออภัยผมบอกออกไปไม่ได้
ส่วนที่ว่า The Jumper มีจำนวนเท่าไร?
ส่วนที่ว่า The Jumper มีกี่รุ่น
ส่วนที่ว่า The Jumper มีลักษณะอย่างไร

ต่อให้ผมรู้ ผมก็ไม่บอกออกมา

สำหรับท่านที่ไม่ยอมรับไสย์เวทย์ ก็ขอให้พึ่งพึง พระอริยสงฆ์สายฤทธ์เอาเอง ก็แล้วกัน
เผื่อจะเอาต้วรอดในโลกยุคปัจจุบันไปให้ได้

เส้นทางเวียนว่ายตายเกิดอันยาวไกล
รู้ไม่หมด ก็ต้องทดไปเรียนรู้ในชาติถัดไป
ใครสะสมได้ก่อนใครเรียนรู้ได้ก่อน ภพชาติ การเวียนว่ายตายเกิด ก็เหลือสั้นลง

อภิญญานั้น เหมาะกับผู้สะสมบุญบารมีอันยาวนาน เหมาะเจาะเหมาะสม
ถูกภพถูกชาติ ถูกที่ถูกเวลา

ไม่อย่างนั้นจะสุกๆดิบๆ หรือเป็นตัวตลก หรือนักมายากลก็เท่านั้น

บุญไม่มี บารมีไม่ถึง สัมผัสไม่ได้ ก็รออ่านเอาก็แล้วกัน

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

อดีตชาติอันยิ่งใหญ่กับปัจจุบัน

ขออนุญาตครับ

ผมได้รับการติดต่อจากครูบาอาจารย์ที่ท่านยืนยันว่า ครูบาอาจารย์ของท่านคือ มหาฤๅษีชีวกะ แพทย์ประจำองค์พระศาสดาในสมัยพุทธกาล

ชาติปัจจุบันองค์ท่านเป็นศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่นยุคท้ายๆ อายุขององค์ท่านก็ทะลุ ๙๐ ไปแล้ว

แม้ว่าองค์ท่านจะมีความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ แต่สาธุชนทั่วไปรู้เพียงแค่ว่าองค์ท่านเป็นพระธรรมยุติเท่านั้น

ผมเลียบๆเคียงๆถามลูกศิษย์ลูกหาของท่านก็ไม่มีใครทราบความลับอันนี้

ลูกศิษย์ผู้รู้ท่านบอกออกมาว่า

อยากให้โยมไปพบอาจารย์ของอาตมา เพื่อองค์ท่านจะได้เมตตาเปิดจิต ต่อบุญบารมีของเดิมไปได้ง่ายขึ้นมากๆ

ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาขนาดนี้ ผมก็ยังหาโอกาส ไปรับความเมตตาจากองค์ท่านยังไม่ได้

แม้ว่าผมจะเข้าใกล้รัศมี ๑๐๐ กิโลเมตรแล้วก็ตาม

หน้าที่การงานอันรัดตัวก็พรากผมห่างองค์ท่านออกมาอีก

จะเห็นว่าครูบาอาจารย์ของจริงองค์จริง ที่ผู้คนเคารพกราบใหว้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

องค์ท่านกลับอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตัวตนของท่านในชาติปัจจุบัน โดยเอ่ยอ้างถึงอดีตชาติ กับคนไม่กี่คนเท่านั้น

สมกับการเป็นครูบาอาจารย์ผู้ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างยิ่ง

ขอโมทนาบุญๆๆ

ขอกราบนมัสการแด่องค์หลวงปู่ด้วยความเคารพอย่างสุงสุด

ลุงมหา

ก

 

มังกรซ่อนพยัฆ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ขออนุญาตครับ

แล้วผมก็หาพบ ครูบาอาจารย์ที่องค์ท่านเคยเรียนที่ ม.รามคำแหง เช่นเดียวกับผม

ตั้งแต่ท่านเริ่มปฏิบัติสมัยเรียน ราม จนท่านสำเร็จชั้นอริยะ ขั้นที่ 2 (สกิทาคามี)ทั้งๆที่องค์ท่านยังเป็นนักศึกษา

ท่านจึงจำเป็นต้องเลิกเรียน และออกบวช แม้ว่าองค์ท่านจะเป็นชั้นอริยะตั้งแต่ก่อนบวช

องค์ท่านก็ยังใช้เวลาประมาณ 20 ปี กว่าจะสำเร็จกิจ

ทำใมต้องใช้เวลามากขนาดนี้?

องค์ท่านบอกเล่าว่า ท่านเลยมีเวลาเล่นเรื่องฤทธิ์

ทำให้องค์ท่านทราบเรื่องราวมากหลายในกัปนี้

องค์ท่านยืนยันว่า แดนทิพย์แดนธรรม ของพื้นที่แถบนี้ก็คือ ภูลังกา

องค์ท่านมีเจตนาจะสร้าง สถานที่พุทธภูมิที่อดีตพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ในกัปนี้
ได้มาปักหลักพักค้าง อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดนครพนม

แต่องค์ท่านจะทำของท่านอย่างเงียบๆ
เงียบจนกระทั่งว่า ศิษย์ใกล้ชิด หรือแม้แต่มรรคทายกวัด ก็ไม่รู้ภูมิรู้ภูมิธรรมของท่าน

มีศิษย์ฆราวาสขององค์ท่าน ได้ญาณตาทิพย์ระดับสูงสุด คือ มองโลกทิพย์ด้วยตาเนื้อได้

องค์ท่านอยู่สำนักเล็กๆใกล้ตัวอำเภอ กับพระ เณร เพียงไม่กี่องค์

ครูบาอาจารย์ระดับนี้ กลับอยู่อย่างสงบเงียบเชียบ

มีเพียงผู้มีบุญบารมี จำนวนน้อยนิดที่ได้ข่าว และขอโอกาสเข้ากราบคารวะ

ที่แท้ ผู้ที่รู้ธรรม เห็นธรรม ขณะยังเรียนที่ ม.รามคำแหง ไม่ได้มีแต่ลุงมหาเพียงคนเดียว

เพราะครูบาอาจารย์ท่านนี้ ท่านสำเร็จชั้นสกิทาคามี ขณะอยู่ในห้องสมุด ม.รามคำแหงนั่นเอง

เมื่อครั้งช่วงท้ายๆขององค์หลวงปูมั่น ภูริทัตโต มีผู้ถามว่า เมื่อสิ้นองค์ท่านแล้ว จะพึ่งใคร

องค์ท่านตอบว่า "ท่านมหา'' ซึ่งก็คือ องค์หลวงตามหาบัว

เมื่อใกล้สิ้นองค์หลวงตามหาบัว ก็มีผู้ถามองค์ท่านว่า เมื่อสิ้นองค์ท่านแล้ว จะพึ่งใคร

องค์หลวงตาท่านตอบว่า "พระหนุ่ม อำเภอ ........." ซึ่งก็คือ ท่านอาจารย์ที่ผมบอกเล่าองค์นี้นี่เอง

ขอกราบนมัสการ ขอโมทนาบุญ ร่วมกับครูบาอาจารย์ อดีตนักศึกษา ม.ราม ท่านนี้ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด

ขอโมทนาบุญๆๆ

ลุงมหา

 

ธรรมของจริง เป็นเช่นไร?

ขออนุญาตครับ

เส้นทางการเดินในการทนุบำรุงพระพุทธศาสนาของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน

จะแตกต่างกันไป ตาม

บุญ วาสนา บารมี จริต นิสสัย ของแต่ละองค์ท่าน

สร้างคน(สร้างพระ)
เมตตาศิษย์ฆราวาสรุ่นแรกๆ
สร้างศาสนสถาน
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปสู่ศิษย์ฆราวาส
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปสู่ชาวพุทธทั่วๆไป

แต่ละองค์แต่ละท่าน ก็จะมี ท่วง ทำนอง จังหวะ จะ โคน ของท่านเอง

ทั้งจำนวน
ทั้งปริมาณ
ทั้งคุณภาพ
ทั้งลำดับ ก่อน หลัง
ทั้งควบคู่ ขนานกันไป

มีความซับซ้อน ตาม ญาณ บารมี ของแต่ละองค์ท่าน

ผมขออนุญาตนำธรรม ระดับสุดยอด ที่องค์ท่านได้ แสดงเอาไว้อย่างชัดเจน

ให้ผู้มี บุญ วาสนา บารมี ได้ พิจารนา เผื่อจะได้ประโยชน์ ตาม บุญ วาสนา บารมี ที่จะมารองรับเอา

ธรรมที่ครูบาอาจารย์ องค์ท่านได้ สรุป เอาไว้ให้ คือ

''การเพ่งจิตกับที่สงบ เป็น มรรค''
''การเพ่งจิตเห็นกริยาของจิต เป็น ความเพียร''
''ผลเกิดจากความเพียรเพ่งดูจิต เป็น นิโรธ''
''สติระลึกไปที่จิต จะรู้หมดทุกอย่างที่เกิดขึ้น''
''สิ่งสำคัญที่สุด คือ สติ ทัน จิต หรือ ไม่''
''สติ ทัน จิต ทุกขณะ จิต เหตุเกิด ของอวิชา ดับไป ในที่นี้เอง''

นอกจากนี้องค์ท่านยังได้เพิ่มเติมอีกว่า

''ความ อดทน เป็น พื้นฐานของ การทำงานทุกอย่าง''
''ความ เพียร เป็น พื้นฐานของ ความสำเร็จทุกอย่าง''
''สมาธิ เป็น พื้นฐานของกำลังทุกอย่าง''
''เจริญให้มาก ทำให้มาก จะเป็นกำลังของเราที่จะพ้นจากทุกข์ได้''

ญาติธรรมนักปฏิบัติทั้งหลาย ควรไคร่ครวญพิจารณา เปรียบเทียบ กับ ภูมิรู้ ภูมิธรรม ของตน

จะได้ทราบว่า

ตนมาถูกทางหรือไม่?
ตนรู้ตนเข้าใจบ้างใหม?
ตนปฏิบัติไปได้ถึงใหนกันแน่?

กำลังสติ ของตน เพียงพอ หรือไม่?
กำลังสมาธิ ของตน เพียงพอ หรือไม่?
ตนไปถึง การรู้ตัวทุกอิริยาบถ หรือยัง?
ตนทรง การรู้ตัวทุกอิริยาบถ ได้ติดต่อกันนานขนาดใหน?
ตน เห็น การเกิด ดับ หรือยัง?
ตนเห็นการดับของอกุศลจิต ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มคิด(เกิด) บ้างหรือยัง?

ขอโมทนาบุญร่วมกับครูบาอาจารย์ผู้มากบุญบารมีท่านนี้

ขอโมทนาๆๆ

ลุงมหา

 

ข่าวดีๆๆ

ขออนุญาตครับ

ก่อนหน้านี้ครูบาอาจารย์ท่านนี้ ท่านมีพระอยู่ในสำนักท่านเพียง ๓ องค์ เพราะพระลูกศิษย์ส่วนใหญ่เร่งความเพียรอยู่ที่ อีกสำนักหนึ่งที่ ''ภูลังกา''

และแล้วก็มีผู้มีบุญบารมีเข้ามาบวชใหม่เพิ่มอีกหนึ่งท่าน รวมเป็น ๔ องค์
แล้วมีครูบาอาจารย์โคจรมาร่วมอีก ๑ องค์รวมเป็น ๕ องค์พอดี

ออกพรรษาเราคงได้เห็น งานกฐินของวัด ที่องค์ท่านจะสร้าง ''ศาลาปฏิบัติธรรม'' เพื่อจะได้เผื่อแผ่ ''ญาติธรรม'' ได้คราวละมาก ซักที

เพราะตอนนี้ ถนน อบต. คอนกรีตเข้าสำนักยาว ๒ ก.ม. ก็เสร็จทันตามสัญญาแล้ว

ท่านที่เลือดร้อนไฟแรง

อยากรู้เรื่อง ''อตีตังค์''
อยากรู้เรื่อง ''อนาคตังค์''
อยากรู้เรื่อง ''ภัยพิบัติ''

จะได้เข้าไปถามด้วยตัวเอง หรือ หมู่คณะได้สะดวก

ส่วนเรื่อง อัดเทป ถ่ายวีดีโอ ก็ต้องไปถามท่านเอาเอง

ขอโมทนาบุญๆๆ

ลุงมหา

 

พระหนุ่มไฟแรง องค์รักษ์ยังไม่มี เข้าถึงได้ง่าย

ขออนุญาตครับ

ครูบาอาจารย์ท่านยังหนุ่มแน่น แถมองค์รักษ์ยังไม่มี เข้าถึงได้ง่าย ไปถึงสำนักพูดคุยได้เลย

บุคคลกลุ่มใหนที่ควรไปขอเมตตา

ท่านที่เคยฝึกแนวที่แผลงๆๆ พอครูบาอาจารย์ละขันธ์ไปแล้ว
ก็ปฏิบัติไปไม่ถูก พากันทั้งวกทั้งวนทั้งเวียนอยู่ที่เดิม
เมื่อวันเวลาผ่านไปๆ ก็แย่ลงๆๆ เหลือแต่กลุ่มเดียวกัน พากันหลงไปตามๆกัน

ท่านที่สงสัยนั่นสงสัยนี่ เลยปฏิบัติแบบ ไม่ไป ไม่มา ไม่ก้าวหน้าไป
ใหน แถมบางท่าน เอาตัวเองยังไม่รอด กลับเปิดกระทู้ เที่ยวเขียนตอบกระทู้ ก้นเหวโน่น

ท่านที่ธาตุไฟทางจิตแตกจะดีก็ดีไม่ได้

ท่านที่บุญบารมีสูงส่งถึงขั้นติดต่อ เคารพ บูชา พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ

ให้ไปๆๆ ไปดู ไปรู้ ไปถาม ให้แจ้งกระจ่าง ว่าอะไร เป็นอะไร จะได้ไม่เสียชาติเกิด

เกิดในยุคพุทธกาลของพระพุทธเจ้าสายปัญญา กลับไปฝึกแบบพระพุทธเจ้าสายมาร

พระพุทธเจ้าที่ผ่านมาทั้ง 28 พระองค์ ไม่มีพระพุทธเจ้าสายมารแม้แต่พระองค์เดียว
แต่ในอนาคตกาล ไม่ถึง10 พระองค์ กลับมีถึง 2 พระองค์

พิจารณาเอาๆๆ แล้วหาทางเอาตัวเองให้รอด อยู่ก้นเหวใช่ว่าจะขึ้นมาเองไม่ได้

ท่านที่น้อยอกน้อยใจในบุญวาสนาของตนว่า

หลวงปู่ใหญ่ก็ไม่มีวาสนาได้เจอ
หลวงปู่มั่นก็ไม่มีวาสนาได้เจอ
หลวงตามหาบัวก็ไม่มีวาสนาได้เจอ ได้เจอแบบจะๆ ได้เจอแบบใกล้ชิด ได้เจอแบบถามอะไรก็ได้เท่าที่อยากจะถาม

จะอยู่กับท่าน เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี ก็ยังได้

ถ้าแคล้ว ถ้าคลาดกับองค์นี้ ถ้าจะเสียชาติเกิดจริงๆ

ขอโมทนาบุญๆๆ

ลุงมหา

 

พอบอกสถานที่ที่ท่านปฏิบัติกิจถ้าอยู่ใกล้หรือจังหวัดเดียวกันจะเข้าไปกราบท่านขอเมตตาแนวอบรม ครับลุงมหา.ขอบคุณครับ

 

ใกล้ ไกล อยู่ที่ใจ ไป ไม่ไป อยู่ที่วาสนา

ขออนุญาตครับ

สำนักของท่านอยู่ห่างจาก ตัว จ.สกลนครแค่ไม่เกิน 60 ก.ม. เป็นถนนราดยาง + 2ก.ม.เป็นถนนคอนกรีต

แต่อยู่ห่าง ตัว อ.นาหว้า ไม่เกิน 8 ก.ม.

ส่วนใหญ่องค์ท่านก็พาคณะสงฆ์ของท่านมา ปาฎิโมกข์ ที่วัดป่าสุทธาวาส สถานที่ละขันธ์ของอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ใครไปใกล้ๆถึงรัศมี 100 ก.ม. ถามมาใหม่จะ พีเอ็ม บอกเบอร์โทรผมให้

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

สายตรงองค์หลวงปู่ใหญ่

ขออนุญาตครับ
สำนักสงฆ์สวนป่านครอาณาเขต อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
สืบทอดโดยท่าน อ.วันชัย หอมจันทร์ ที่ท่านต่อมาจาก ปู่โทน ศิษย์ฆราวาส ผู้โด่งดังขององค์หลวงปู่ใหญ่
ท่าน อ.วันชัยได้เมตตา อั๊พ ไทม์ไลน์มาให้เมื่อวานผมก็เลยรีบส่งต่อ

ท่านที่ตามหาสายตรงของหลวงปู่ใหญ่ ที่นี่ อยู่เลยวัดอัมพวัน ของหลวงพ่อจรัล ไปไม่ไกล

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ภัยพิบัติหายไปใหน? หายไปได้อย่างไร?

ขออนุญาตครับ

หลังจากไปช่วยสร้างพระใหญ่ชัยภูมิติดต่อกันนานหลายปี หวังจะได้ช่วยป้องกันแก้ไขภัยพิบัติ

ก็มาโดนฝ่ายบ้านเมืองมาสั่งระงับการสร้าง นัยว่าหาเงินให้ได้ก่อนค่อยสร้าง ว่าอย่างนั้น

ผมก็เฝ้าสืบเฝ้าตามหาว่า บุญอะไร พลังอะไร จึงระงับยับยั้ง ภัยพิบัติต่างๆเอาไว้ได้

นอกเหนือจากข้างฝั่งศิษย์ขององค์หลวงปู่ใหญ่ ที่ทำงานกันแบบสายตัวแทบขาด ทำงานแบบไม่มีการประชาสัมพันธ์ ทำงานแบบไม่ง้อใคร

เอาแต่ศิษย์สายตรงล้วนๆ ทำแบบตามมีตามเกิด ทั้งๆที่หลายๆทานเป็นแค่คนงานรายวันกันเท่านั้น

ต่อมาผมจึงได้พบว่า คุณลุงทองดี หรรษ์คุณารมณ์ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุในสังฆราชูปถัมป์

ท่านเล่าว่าท่านได้ช่วยแจกพระบรมสารีริกธาตุ กระจายไปทั่วทุกๆตำบลของประเทศไทย ทั้งที่นำไปบรรจุในพระพุทธรูป และพระเจดีย์ต่างๆ

ท่านยังได้ทำแผนผังแสดงตำแหน่งเอาไว้ ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ท่านยังดำริห์ที่จะสร้างพระมหาเจดีย์ เพื่อนำพระบรมสารีริกธาตุที่เหลืออยู่ทั้งหมดเก็บรวบรวมเอาใว้ในที่เดียวกัน

เมื่อนักข่าวถามท่านว่า "คุณลุงจะสร้างเองหรือ?"
ท่านตอบว่า "อีกไม่กี่ปี ผมก็จะอายุครบร้อยปีแล้วคงสร้างเองไม่ได้"
เมื่อนักข่าวถามต่อว่า "คุณลุงจะหาเงินมาสร้างเองหรือ?"
ท่านตอบว่า "แค่ค่าเขียนแบบก็ถึงหลัก ร้อยล้านแล้ว ผมจะหาเงินมาสร้างเองได้อย่างไร?"

งานนี้ลุงมหาคงสบายตัว เพราะไม่เคยรับปากใครว่าจะไปช่วย อะไรๆๆ

สรุป ภัยพิบัติเงียบๆไป ก็เพราะเรามีพลังของพระบรมสารีริกธาตุกระจายอยู่ทั่วทุกตำบลในประเทศไทยแล้ว

และยังมีพลังของการดำริสร้างพระมหาเจดีย์หนุนเสริมเข้าไปอีกแรง ทั้งๆที่เป็นแค่โครงการเท่านั้น

อนาคตจะเป็นอย่างไร เราชาวพุทธก็ต้องติดตามกันต่อไป!!!

ขอโมทนาบุญๆๆ

ลุงมหา

https://youtu.be/tv2GNoyslew

 

ภิกษุหนุ่ม ผู้มีญานหยั่งรู้แบบสูงสุด

ยกมาให้อ่านกันทั่วๆครับ

 

พระภิกษุคู่บุญบารมี

ขออนุญาตครับ

ตั้งแต่สมัยพุทธกาลเป็นต้นมา ในแผ่นดินชาวพุทธก็จะมีพระภิกษุคู่บุญบารมี ของกษัตริย์ทุกแว่นแคว้น
มาในแผ่นดินรัตนโกสินธุ์มักจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า พระสงฆ์ประจำรัชกาล และพระสงฆ์ที่ว่า อาจจะเป็นสมเด็จพระสังฆราชด้วย หรือไม่ก็ได้

เพราะจริงๆแล้ว เป็นเรื่องของผู้มีบุญบารมีจึงจะมีสิทธิ์รับรู้ได้

หลายๆรัชกาลภิกษุบางองค์ ก็เริ่มเป็นตั้งแต่องค์ชายยังทรงพระเยาว์บ้าง เป็นพระพี่เลี้ยงตอนบวชบ้าง สนับสนุนการบ้านงานเมืองบ้าง

องค์กษัตริย์ที่มีบุญบารมีมากๆ ก็ยิ่งจะมีพระสงฆ์เก่งๆ เด่นๆ หลายองค์ออกมาช่วย ด้านโน้น ด้านนี้ เรื่องโน้น เรื่องนี้ เหมือนที่เราได้เห็นในยุคปัจจุบัน

องค์กษัตริย์ และ พระภิกษุคู่บุญบารมี จะจับคู่กัน เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว

อาจจะไม่ต้องเป็นสมเด็จพระสังฆราช เพราะพระสงฆ์ที่เป็นพระคู่บุญบารมี ย่อมเพรียบพร้อมไปด้วย บุญบารมีเอนกอนันต์ ไม่ว่าด้านธรรม หรือ ด้านฤทธิ์

ซึ่งภิกษุเหล่านี้ ถ้าองค์ใหนเก็บตัวเงียบเชียบ ก็ต้องสืบหาจากลูกศิษย์ที่องค์ท่านฝึกฝนออกมา อาจารย์เก่ง ก็ต้องสามารถฝึกลูกศิษย์ให้เก่งขึ้นมาได้

ข่าวของพระภิกษุประจำรัชกาล แม้มีเพียงน้อยนิด ก็พอให้ทราบว่าเป็นท่านผู้ใด

ส่วนเรื่องวุ่นวาย ตั้งเร็วๆหน่อย จะตั้งหรือไม่ตั้ง อย่าได้ไปสนใจเลย
เพราะว่า สมมุติสงฆ์ ตั้งไปเป็นอะไร ก็ยังเป็นสมมุติสงฆ์อยู่นั่นเอง

เพราะพระสงฆ์ของพระพุทธองค์นั้นไม่ต้องตั้ง ใครเป็นเอง ก็รู้ได้ด้วยตนเอง เพราะมีแค่

พระโสดาบัน
พระสกิทาคามี
พระอนาคามี
พระอรหันต์

ยิ่งยุคนี้ ยุคกึ่งพุทธกาล พระสงฆ์ประจำรัชกาลต่อไป ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล เพราะองค์ท่านนั้น สุดยอดทางฤทธิ์ ไม่ต้องไปเปรียบกับที่ผ่านๆมากันเลย

ชาวพุทธ อย่าได้ห่วง อย่าได้กังวล และอย่าได้เอาตัวเข้าไปยุ่งเรื่อง ตั้งให้ใว ตั้งหรือไม่ตั้ง ปล่อยให้คนกล้าเขาบรรเลงของเขาไป

ท่านอาจารย์หลวงปู่พุทธ ฐานิโย ท่านเตือนว่า พระวัดเหนือ กับ พระวัดใต้ ไม่ถูกกันอย่าได้ไปเข้าข้างใดข้างหนึ่ง
เดี๋ยวพลาดไปเข้าข่าย ''อนันตริยกรรม'' ทำให้สงฆ์แตกแยก เป็นกรรมหนัก ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน เอนก อนันต์ชาติ

ตัวใครตัวมันกันนะครับ

ขอโมทนาบุญๆๆ

ลุงมหา

 

ศาตร์ชั้นสูง

ขออนุญาตครับ
ในกระบวนการอภิญญาญานก็ดี ศาตร์ชั้นสูงก็ดี เท่าที่ได้รับการเปิดเผยออกมา ก็มีนี่ล่ะครับที่เด่นที่สุด

เรื่องราวของทีมฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ กลุ่มคิงค์เพาเวอร์ ท่านเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา และ ท่านเจ้าคุณธงชัย

รับชมรับฟังเองเลยนะครับ เป็นเรื่องราวสุดยอดของศาตร์''พิชัยสงคราม''นำมาประยุคใช้กับธุรกิจฟุตบอลอาชีพ

www.youtube.com/watch?app=desktop&persist_app=1&v=oPW_4XO4kuA

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

......โมทนาสาธุในธรรมและมหาบารมีของครูบาอาจารย์ท่าน

......ตอนนี้ผมคิดไว้แล้วว่าจะหาโอกาสไปกราบท่านให้ได้ พอจะทราบสถานที่แล้ว ขอบพระคุณท่านลุงมหามากครับ สาธุๆๆ

 

จังหวะๆๆ

ขออนุญาตครับ
วันที่ลุงมหาไปกราบครูบาอาจารย์นั้น ศิษย์ขององค์ท่านที่เป็นนักแกะพระเอาพระมาส่ง เป็นพระพิมพ์สมเด็จไม้แกะและพิมพ์พระปางสมาธิ(องค์ท่านเรียกว่า''ตุ๊กตุ่น'')
ลุงมหาเลยโชคดีได้รับทั้งสองอย่างละองค์
องค์ท่านบอกว่า ''อยากสำเร็จอะไรอธิฐานเอาเลย'' ไม่ต้องมาบอกท่านอีก

มีบางคนได้ไปแล้วห้อยคอไปนั่งดูหนังเอ็กซ์ พอมาวัดองค์ท่านบอกว่า
''ถ้าจะทำแบบนี้ให้ถอดพระของท่านออกก่อน มิฉะนั้นองค์ท่านก็ต้องจำใจดูอยู่ด้วย''

ถ้าลูกศิษย์เอาพระแกะมาส่งองค์ท่านก็จะอธิฐานจิตแล้วแจกเลย องค์ท่านจะไม่เก็บเอาใว้

และของๆองค์ท่านให้เฉพาะเจาะจงของใครของมัน ไม่ควรเอาไปให้คนอื่นต่อ

ส่วนมากผู้แกะพระจะมาวัดวันพระเท่านั้น

มีพระผู้ใหญ่สายฤทธิ์ทั้งเตือนทั้งแนะองค์ท่านว่า ''ท่านๆดังได้แล้ว''
แต่องค์ท่านก็ยังนิ่งๆอยู่ แต่ถ้าศาลาปฏิบัติธรรมขององค์ท่านเสร็จเมื่อไร พลุแตกแน่

ผมอยากลงแผนที่ดาวเทียม และมาร์คตำแหน่งให้ แม้ว่าผมจะไปหลายครั้ง แต่ก็ยังหาตำแหน่งใน กูเกิ้ลแม็พไม่เจอเลย

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

......โมทนาสาธุ