เมืองบาดาลสวรรค์ & เรื่องดีดี..มีไว้แบ่งปัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย เกล็ดดาว, 30 พฤษภาคม 2015.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ภาพที่คุณนันทะชัยดีฝากลงกระทู้ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ถ้ามีเรื่องเล่าประกอบภาพด้วยคงจะดีนะคะ
    คุณนันทะชัยดีไม่มีเรื่องเล่ามาฝากหรือคะ รออ่านค่ะ
     
  3. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    เมื่อไปถึงวัดนี้ มีทัวร์เก้าวัดจากพิษณุโลกจำนวน ห้าคันรถกำลังพากันตักบาตรครับ แล้วก็มีโรงทานเล็กๆเลี้ยงดรุ๊ปทัวร์นี้ครับ บรรยากาศดีครับ
     
  4. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    รูปแรกนันทะชัยดีใช้มือเอื้อมจับเพิงหินแล้วทำใจให้สงบครับ สิ่งที่สัมผัสได้นั้น คือบรรยากาศของวังบาดาลครับ คือมีกลิ่นไอของนาคาครับ ซึ่งมีนาคามากจำนวนหนึ่งครับ
     
  5. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    พอเข้าไปข้างในก็ทราบว่า คือสายมุจลินทร์ครับ ก็เลยจะเข้าใจว่า ทำไมถึงสัมผัสได้แค่นาคา ไม่มีเหล่านาคี ณ ที่แห่งนี้ครับ
     
  6. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    รูปที่สองเป็นสถานที่ประสูติ เมื่อทำใจให้สงบปรากฏ สัมผัสได้ถึงเทพบีบม้วยผม ก็คงจะเป็นพระแม่ธรณีครับ และรุกขเทวดาแถวนั้นครับ
     
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    [​IMG]
     
  8. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    รูปที่สี่ เป็นสถานที่ตรัสรู้ครับ มีบันไดเดินขึ้นไปชั้นสองด้วยครับ พอนันทะชัยดีเปิดประตูชั้นสองของพระเจดีย์มหาโพธิ์ ในกำลังของฌานสัมผัสได้ถึง กลิ่นหอมอบอวลไปหมด ทั้งๆที่แถวนั้นไม่มีดอกไม้อะไร กลิ่นนี้นัยทะชัยดีเคยสัมผัสได้ ณ ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่วัดชัยเจเีย์ หรือวัดถ้ำผาย้อย ที่101 ครับ
     
  9. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    แสดงว่าบนเจดีย์นี้มีเหล่าเทวดาจากสี่ทิศ คือ บรรดาท้าวทั้งสี่เคยมาเยือน ณ เจดีย์แห่งนี้ เช่น ท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้นครับ นันทะชัยดีเลยเก็บใบโพธิ์ที่ร่วงหล่นที่พื้นมาหนึ่งใบด้วยครับ
     
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ขอเดาว่าเป็นกลิ่นของเทพเทวาใช่หรือเปล่าคะ
     
  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    วัดรอยพระพุทธบาทน้ำทิพย์ ต.สร้างค้อ กิ่ง อ.ภูพาน จ.สกลนคร

    รออ่านเรื่องเล่าจากคุณนันทะชัยดีค่ะ :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    เทือกเขาภูพาน มีวัดหนึ่งที่โดดเด่นบนเส้นทางสายสกลนครกับขอนแก่นครับ อยู่ช่วงกึ่งกลางของภูพาน วัดนี้เป็นสายหลวงพ่อฤษีลิงดำ หรือสายวัดท่าซุง อุทัยธานีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2015
  13. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    บรรยายกาศวัดจากอุทัย แตกต่างจากวัดแถวนี้คือ วัดนี้จะมีพระสงฆ์รอทำพิธีต่างๆ เช่น ถวายสังฆทาน ทำบุญสร้างพระ หรือถาวรวัตถุ อาคารเสนะต่างๆภายในวัดครับ หน้าบริเวณพระพุทธรูปองค์ปฐม มีรูปเหมือนหลวงพ่อปาน วัดบางโคนม และหลวงพ่อฤษีลิงดำครับ
     
  14. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    ฝั่งตรงข้ามของวัดมีทางไปรอยพระบาทครับห่างไปสัก 150เมตรครับ นันทะชัยดีเลยทำใจสงบ เดินภาวนาเมื่อถึงรอยพระบาทพบว่า รู้สึกสัมผัสถึงบรรดาของคนเมืองกลางหาว คือ ครุฑครับ และเมื่อเข้าฌานลึกๆพบว่า ณ จุดที่น้ำไหลออกมาเมื่อยืนเพ่งไปในสายน้ำผุดนั้น นิมิตรเห็นต้นน้ำนั้นไหลออกมาจากเมืองบาดาลครับ ส่วนรอบๆรอยพระพุทธบาทมีแต่พญาครุฑครับ ก็เป็นที่ ที่น่าพิศวง ดีครับ นันทะชัยดีเลยรองน้ำมาหนึ่งขวดเก็บไว้ครับ
     
  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    วัดถ้ำเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ

    [​IMG]
     
  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ประวัติวัดถ้ำเมืองนะ
    (ถ้าใครเคยไปให้นึกภาพตามนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปก็อ่านไปจินตนาการตามไปค่ะ)

    ถ้ำเมืองนะ ตั้งอยู่ที่ด้านขวา ติดกับเส้นทางเดินทัพสายสำคัญ สมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายพม่า อยู่ห่างจากเขตแดนไทย-พม่า ฝั่งประเทศไทย ประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร ขณะนี้บริเวณนี้เป็นที่ตั้งศูนย์อพยพไทยใหญ่ นับพันหลังคาเรือน ตามประวัติศาสตร์เส้นทางสายนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า ได้ใช้เดินทัพจะเข้าไปตีทัพอังวะที่มารุกราน เมืองงาย และเมืองแสนหวี ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา โดยเสด็จยกทัพไปทางเมืองเชียงใหม่ และทรงพักทัพที่เมืองเชียงใหม่ เพื่อสักการะพระพุทธสิหิงค์ และทรงเสด็จยกทัพไปตั้งค่ายใหญ่ที่ เมืองงาย จากเมืองงาย ก็ทรงเสด็จยกทัพผ่านเมืองนะ เข้าสู่เขตทุ่งแก้วของเมืองหาง (ขณะนี้ อยู่ในเขตประเทศพม่า เรียกว่า เมืองต่วน) เพื่อจะไปตีทัพอังวะ ที่บริเวณทุ่งแก้วนี้ พระองค์ท่านได้เกิดประชวรด้วย "ไข้ทรพิษ"

    [ทางขึ้นกุฏิหลวงตาม้า] ถ้ำเมืองนะ อยู่ติดกับเส้นทางเดินทัพ มีลักษณะตั้งอยู่สูงกว่าพื้นที่ราบประมาณ ๘ เมตร จุคนได้ประมาณ ๒๐-๓๐ คน เป็นถ้ำตัน สภาพเป็นพื้นเรียบ แต่ที่น่าแปลกคือ ที่ปากถ้ำมีร่องรอยของการทลายปากถ้ำให้กว้างออก และมีการนำหินจำนวนมากมาทำเป็นทางลาด (ลักษณะเดิมอาจจะเป็นหน้าผาค่อนข้างจะชัน เหมือนบริเวณใกล้เคียง) ขนาดกล้างประมาณ ๕ เมตร เพื่ออาจจะใช้เป็นทางขึ้นลง ด้วยคนจำนวนมากในคราวเดียวกัน (ผิดปกติจากถ้ำทั่วๆ ไป)
     
  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    สภาพของหินที่ถูกทำลายที่ปากถ้ำ และหินที่นำมาทำทางขึ้นลง มีการสึกกร่อนทางธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นร้อยๆ ปี ถึงจะมีสภาพแบบนั้นได้ และเมื่อย้อนหลังไปเมื่อหลายร้อยปี (ดูจากสภาพหินที่ถูกทลายปากถ้ำ และหินที่นำมาทำทางขึ้นลง) บริเวณนี้ก็ยังคงจะเป็นป่าดงดิบ จะมีคนจำนวนมากมายทลายปากถ้ำได้ และนำหินก้อนโตๆ มาถมเป็นทางขึ้น-ลงได้ ก็เฉพาะคนที่มากับกองทัพเท่านั้น และถ้ายามปกติ คนในกองทัพก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำลายปากถ้ำ ให้กว้างออกและทำทางขึ้นลงที่มีขนาดใหญ่ เพราะตัวถ้ำมีขนาดเล็กและตัน คงจะไม่มีสิ่งใดสำคัญที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ด้วยคนจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ขึ้นไปเก็บหรือนำลงมา หรือมีน้ำหนักมากจนต้องทำทางขนาดใหญ่ขึ้นไปรองรับ และในประวัติศาสตร์เท่าที่พอทราบอยู่บ้าง บางส่วนก็ไม่ปรากฎว่าได้ของสำคัญอะไร รวมทั้งไม่มีพวกโบราณสถาน หรือชุมชนใหญ่อยู่ในบริเวณแถวนี้
     
  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ลักษณะภายในถ้ำ

    ภายในถ้ำมีแท่นหินขนาดคนนอนได้สบาย แต่ขณะนี้ได้มีสำนักสงฆ์เกิดขึ้นที่นี่ และได้ใช้ไม้กระดานปูยกพื้นเหนือแท่นหิน เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูป และมีการตกแต่งพื้นถ้ำด้วยปูนซีเมนต์ทำให้เปลี่ยนสภาพที่แท้จริงไป สอบถามจากพระที่สำนักสงฆ์ได้ทราบว่า "หลวงปู่ดู่" แห่งวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่เคยออกนอกเขตวัด นับตั้งแต่อุปสมบทจนมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ (ท่านเคยออกธุดงค์ ๑ ครั้ง) ชาวอยุธยาถือว่าท่านเป็นเกจิรูปหนึ่งของอยุธยา ท่านได้บอกให้คณะศิษย์มาตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นที่ถ้ำนะนี้ เพราะว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า ทรงเสด็จมาสวรรคต ณ ถ้ำแห่งนี้ ด้วยการให้ พระวรงคต วิริยะธโร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ออกธุดงค์ไปค้นหาจนพบ และนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ได้สอบถามชายชาวไทยใหญ่อายุประมาณ ๖๐ ปี ความว่า ตั้งแต่เขตทุ่งแก้ว (เมืองต่วน) ในพม่า และตั้งแต่เขตแดนไทย ตามล่องเขาทางเดินทัพ จนถึงเมืองงายพบเห็นถ้ำที่ไหนบ้าง ที่มีการทำลายปากถ้ำให้กว้างออก และมีการทำทางขึ้น-ลงที่มีขนาดใหญ่ เหมือนกับถ้ำที่เมืองนะนี่บ้างหรือไม่ ก็ได้คำตอบจากชาวไทยใหญ่บอกว่า ไม่มี และยังบอกต่อไปว่า บริเวณแถวนี้ เคยเดินหาของป่า ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ก็เห็นลักษณะถ้ำแบบนี้ที่เดียว คือ ถ้ำเมืองนะ นี้เท่านั้น
     
  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ตำบลเมืองนะ จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ซึ่งเล่าเป็นนิทานว่า เมืองนี้เคยมีพระสมณโคดมมาโปรดมนุษย์สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมายังเทือกเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รวมของแม่น้ำหลายสาย ปัจจุบันเรียกว่า "สันดอยถ้วย" พระพุทธองค์ทรงประทับใต้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อประชาชนทั้งหลายทราบก็พากันไปสักการะบูชา ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นแม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ไปร่วมกันสักการะบูชาด้วย ในบรรดาสัตว์เหล่านั้นมีพญาช้างเผือกเชือกหนึ่งเกิดความศรัทธา ฏ็เก็บเอาผลไม้ถวายคือ ผลนะ (ลูกสมอ) พอพระพุทธเจ้ารับผลนะก็กลายเป็นทองคำทันที พญาช้างเผือกจึงถวายตัวรับใช้เป็นทาส ต่อมาวันหนึ่งพญาช้างเผือกลงไปเล่นน้ำในลำธารใกล้ ๆ มีพรานป่าใจอำมหิตมาพบเข้า จึงรุมทำร้ายพญาช้างเผือกจนขาดใจตาย ร่างของพญาช้างเผือกค่อย ๆ จมลง ๆ และหายไป ก็พอดีไปพบเข้ากับพระพุทธเจ้าเข้า พระองค์ท่านทรงเทศนาสั่งสอนจนพวกพรานป่าเลิกทำความชั่ว และตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนตั้งชื่อบริเวณนี้ "เมืองนะ" มาจนถึงปัจจุบัน
     
  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ข้อสันนิษฐาน

    เมื่อองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้าทรงประชวร และมีพระอาการหนักมากขึ้น แม่ทัพนายกองตลอดจนพระองค์ท่าน ก็อาจจะยกทัพกลับตามเส้นทางเดิมผ่านเมืองนะ เพื่อจะมารักษาพระวรกายที่ค่ายใหญ่ที่เมืองงาย ในระหว่างทาง พระอาการประชวรของพระองค์ท่าน อาจจะทรุดหนักลงมาก จนแม่ทัพนายกองที่ร่วมเสด็จ ต้องหาที่พักฉุกเฉินที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด และในเวลานั้น สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด ก็คือ "ถ้ำ" เพราะอาจจะไม่มีเวลาพอ ที่จะสร้างค่ายพักชั่วคราวในระหว่างทาง เพราะต้องรีบเดินทัพกลับค่ายใหญ่ที่เมืองงาย ด้วยอาการที่พระองค์ท่านประชวร และพระองค์ท่านก็อาจจะเสด็จสวรรคต ณ ถ้ำใดถ้ำหนึ่ง ที่ทรงเสด็จเข้าไปพักริมเส้นทางการเดินทัพในที่สุด

    จะเป็นไปได้ไหมว่า องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า ซึ่งทรงประชวรด้วยไข้ทรพิษ และเสด็จสวรรคตบริเวณนี้ อาจจะมาเสด็จสวรรคต ณ ถ้ำแห่งนี้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เขตทุ่งแก้วในประเทศพม่า ดังที่เข้าใจกันตามประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นไปได้ โดยได้มีการเคลื่อนย้ายพระบรมศพออกจากถ้ำ ด้วยคนจำนวนมาก เพื่อให้สมพระเกียรติ จึงมีการทลายปากถ้ำให้กว้าง เพื่อให้คนจำนวนมากเข้าออกได้สะดวก และทำทางลาดขึ้น-ลงที่มีขนาดใหญ่ เพื่อแห่พระบรมศพไปยังที่ตั้งค่ายใหญ่ที่เมืองงาย ก่อนจะแห่พระบรมศพกลับกรุงศรีอยุธยา และในบริเวณแถวนี้ ก็ไม่มีเจ้านายชั้นสูงพระองค์ใด ทั้งไทย-พม่า-เชียงใหม่ มาสิ้นพระชนม์ นอกจาก สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า พระองค์เดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...