ติดตามสถานะการณ์

ป.ป.ช.เรียก 3 ผอ.ของ สกสค.แจงปม 2,100 ล.- ระบบเบิกจ่ายเงิน-กองทุน
+โพสต์เมื่อวันที่ : 12 พ.ค. 2558

ป.ป.ช. เรียกสอบ 3 ผอ.สกสค. แจงข้อมูลปม 2,100 ล้าน ระบบ เบิกจ่ายเงิน และกองทุน ช.พ.ค.- ช.พ.ส. “พินิจศักดิ์” กำชับทุกคนให้ความร่วมมือ คตร. ศอตช. จี้ กก.สอบสวนข้อเท็จจริงเร่งสรุปข้อมูลรายงานบอร์ด สกสค. 15 พ.ค. นี้ ด้าน รมว.ศึกษาฯ เผยสั่งให้ทำหนังสือถึง “สมศักดิ์” ชี้แจงข้อมูลที่ต้องการ ระบุหากหนังสือที่ตอบกลับยังไม่เคลียร์อาจเชิญเจ้าตัวมาคุย

วันนี้ (11 พ.ค.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ตน ได้เชิญผู้บริหาร สกสค. และผู้เกี่ยวข้องมาประชุมพร้อมกำชับให้ความร่วมมือกับ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และศูนย์อำนวยการต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) รวมถึงคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ตนตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงใน การติดตามและตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกตรวจพบอยู่ในเซฟ ซึ่งถูกระบุว่าอยู่ในห้องของรองเลขาธิการ 1 คน และระดับผู้อำนวยการสำนัก 1 คน โดยกำชับให้ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เร่งตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินและโฉนดที่ดินรวมไปถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่พบจำนวน 6 รายการ คือ 1. เงินสกุลคูนา มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านคูนา 2. เช็คเงินสด จำนวน 2,100 ล้านบาท 3. ดราฟเช็ค หรือตั๋วแลกเงิน ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 4. โฉนดที่ดิน จ.เพชรบุรี ราคาประเมินประมาณ 30 ล้านบาท 5. หนังสือสัญญาค้ำประกันตัวเอง และ 6.หุ้นสโมสรฟุตบอล ที่ประเทศอังกฤษ

ทั้งนี้ ในส่วนของเช็คเงินสดก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าสามารถขึ้นเงินได้หรือไม่ หรือขึ้นเงินไปแล้ว กลายเป็นเช็คเด้งก็ต้องมาว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย ขณะเดียวกัน ตนได้กำชับให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตรวจสอบข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพื่อประมวลผลก่อนเสนอให้คณะกรรมการ สกสค. ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิจารณา ในวันที่ 15 พฤษภาคม ส่วน คณะกรรมการ สกสค. จะตัดสินใจอย่างไร ตนคงไม่สามารถก้าวล่วงได้ เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการ สกสค. นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ และปลัด ศธ. ได้สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่มีอยู่ภายในสำนักงาน สกสค. หอพัก สถานพยาบาลของ สกสค. และอาคารหอพัก สกสค. ว่า มีทั้งหมดกี่ตัว อยู่ในจุดใดบ้าง ที่สำคัญสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นแล้วกล้องไม่สามารถใช้งานได้จะต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการตรวจสอบของหน่วยงานอื่นๆ นั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือมายัง สกสค. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในส่วนต่างๆ เข้าให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงรวมทั้งรายงานเอกสารหลักฐานต่างๆ ต่อ ป.ป.ช. เบื้องต้นทราบว่า ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ เข้าให้ข้อมูลแล้วในวันที่ 11 พฤษภาคม จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางอำนวยพร วัฒนารมย์ ผู้อำนวยสำนักการคลัง ชี้แจงข้อมูลเรื่องการระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ นายพรเทพ มุสิกวัตร ผู้ อำนวยการสำนักกฎหมายและคุ้มครองสิทธิครู สอบถามเกี่ยวกับเรื่องการทำสัญญาข้อกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะกรณีเงินที่ไปลงทุนกับบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ต กรุ๊ป จำกัดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอหนองหญ้าป้อง จังหวัดเพชรบุรี พื้นที่ 1,200 ไร่ จำนวน 2,100 ล้านบาท และ นายสุเทพ ริยาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการกองทุน ช.พ.ค.- ช.พ.ส. เกี่ยวกับนำเงินไปร่วมลงทุนเช่นเดียวกัน ซึ่งตนก็ได้กำชับทั้ง 3 คนให้ความร่วมมือเต็มที่เรื่องใดที่เป็นที่สงสัยของสังคมก็ต้องทำให้เกิดกระจ่าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้ง นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค. ซึ่งอยู่ระหว่างพักการปฏิบัติหน้าที่รวมถึงผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ มาให้ข้อมูลเมื่อไร นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการสอบสวนฯ ว่า จะเชิญมาให้ข้อมูลเมื่อไร ส่วนกรณีการทุจริตการก่อสร้างอาคารพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จำนวน 360 ล้านบาท ซึ่งผลการสืบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลนั้น ตนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เช่นกัน เพราะผลการตรวจสอบได้ส่งให้ รมว.ศึกษาธิการ เรียบร้อยแล้ว ทราบว่า รมว.ศึกษาธิการ ให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าสามารถเลิกจ้างได้หรือไม่ โดยในข้อกฎหมายเองก็ระบุไว้ว่าจะสามารถยกเลิกสัญญาเลิกจ้างได้ในกรณีใดบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ สกสค.

ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สกสค. ที่ผ่านมานั้น ตนได้มอบหมายให้ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. ทำหนังสือไปถึง นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค. เพื่อให้ชี้แจงบางประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติม อาทิ กรณีนำเงิน ช.พ.ค. มูลค่า 2,100 ล้านบาทไปลงทุน หลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน เป็นต้น โดยเบื้องต้นขอให้ นายสมศักดิ์ ส่งหนังสือกลับมาภายในวันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานจากนายพินิจศักดิ์ ว่า ได้รับหนังสือตอบกลับมาหรือยัง ซึ่งจะต้องรอดูคำชี้แจงว่ามีความชัดเจน ครบถ้วนตามประเด็นที่ได้ถามไปหรือไม่ หากไม่ชัดเจนอาจจะต้องเชิญ นายสมศักดิ์ มาชี้แจงด้วยตนเอง ทั้งนี้ ในส่วนของ ศธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ของ สกสค. แต่เพราะเวลานี้มีหลายหน่วยงานเข้ามาทำการตรวจสอบอยู่ ก็จะต้องดูว่ามีการตรวจสอบเรื่องใดไปแล้วบ้าง หากพบว่าประเด็นใดขาดไป ศธ.ก็จะเข้าไปช่วยตรวจสอบเสริมเพื่อให้ครบถ้วน ส่วนกรณีที่ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ. ในฐานประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการสร้างอาคารพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่า 360 ล้านบาท ได้เสนอให้ยกเลิกสัญญาจ้าง นายสมศักดิ์ เนื่องจากทำผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างให้สำนักนิติการ สำนักงานปลัด ศธ. พิจารณาอยู่


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤษภาคม 2558

 

สหรัฐฯมีแผนการใหม่ในการจัดการอิหร่าน
สหรัฐเรื่องเด่นประเด็นร้อนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - พ.ค. 11, 2015



เจ้าหน้าที่อเมริกา ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อซาอุฯและกษัตริย์แห่งชาติพันธมิตรในการโจมตีเยเมนทางอากาศ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อเมริกาก็ยังเสนอเห็นชอบในการให้ความร่วมมือกับเหล่ากษัตริย์แห่งชาติอาหรับเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยพิเศษครั้งใหม่ ในการจัดการกับอิหร่าน โดยที่ มาตรการรักษาความปลอดภัยครั้งใหม่ของอเมริกา คือ การขายอาวุธให้กับรัฐบาลที่ปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในเขตภูมิภาคตะวันออกกลาง
เจ้าหน้าที่อเมริกา ได้อ้างแผน “การดำเนินการของอิหร่านที่สร้างความไม่มั่นคงในภูมิภาค” โดยกล่าวอ้างว่า ทางเรามีแผนการที่จะร่วมมือกับเหล่ากษัตริย์แห่งชาติอาหรับเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยพิเศษครั้งใหม่ ในการจัดการและเผชิญหน้ากับอิหร่าน

จอห์น แครี่ ไม่ได้ชี้ถึงการสร้างความไม่มั่นคงให้เกิดขึ้นในภูมิภาคของอเมริกาและซาอุดิอาระเบีย ในการโจมตีเยเมนทางอากาศ และการสังหารพลเรือนชาวเยเมนนับพันคนแต่อย่างใด แต่กลับเผยว่า อเมริกาและกษัตริย์แห่งชาติพันธมิตร ซึ่งจะมีการประชุมปรึกษาหารือในช่วงสุดสัปดาห์หน้านั้น จะมีการนำเสนอแผนการและ มาตรการรักษาความปลอดภัยพิเศษครั้งใหม่ ในการจัดการกับอิหร่าน
แผนการของตะวันตกในการขายอาวุธให้กับตะวันออกกลาง
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อเมริกาให้กับสนับสนุนซาอุดิอาระเบียในการโจมตีเยเมนทางอากาศ และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและช่วยเหลือด้านยุทธ์ศาสตร์ในการเข่นฆ่าและสังหารพลเรือนเยเมนอีกด้วย

ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดของการสนับสนุนและช่วยเหลือในครั้งนี้ของอเมริกา คือ การขายอาวุธ ยุทโธปกรณ์สู่ตลาดตะวันออกลางให้มากขึ้น และเพื่อกอบโกยกำไรและรายได้อันมหาศาลให้กับอเมริกาและชาติตะวันตก ซึ่งการแข่งขังในการขายอาวุธครั้งนี้ รวมทั้งการซื้อขายอาวุธระเบิดคลัสเตอร์ ที่เป็นอาวุธที่ต้องห้ามอีกด้วย
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็เช่นกัน เพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์รายได้ ในครั้งนี้ จึงเข้าสู่สนามแห่งการแข่งขังขายอาวุธเหมือนกับชาติอเมริกา โดยมีการเยือนประเทศกาตาร์และบางประเทศในภูมิภาค เพื่อทำการเซ็นสัญญาข้อตกลงขายอาวุธ

อะไรคือ มาตรการครั้งใหม่ของอเมริกา ในการเผชิญหน้ากับอิหร่าน ??
สำนักข่าว บีบีซี รายงานถึง กรณี “ แผนการใหม่ของอเมริกาและชาติอาหรับในการจัดการกับอิหร่าน” โดยเผยว่า ตะวันตกหวังว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน นี้ จะสามารถบรรลุข้อตกด้านอาวุธนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งประเด็นนี้เองสร้างความหวาดวิตกแก่ชาติพันธมิตรของอเมริกา
ทางอเมริกา ได้เชิญผู้นำชาติอาหรับในภูมิภาค ให้เยือนวอชิงตัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับพวกเขา
ในวันพุธหน้าที่จะถึงนี้ บารักโอบามา ได้เชิญ กษัตริย์อับดุลลอฮ์ เยือนอเมริกา โดยมีนัดหมายประชุมหารือที่ทำเนียบขาว
โฆษกทำเนียบขาว เผยว่า การเยือนครั้งนี้ เพื่อประชุมร่วมระหว่างผู้นำของอเมริกากับผู้นำหกชาติอาหรับ
โฆษกทำเนียบขาวเผยอีกว่า วัตถุประสงค์ในการเยือนและพบปะครั้งนี้ระหว่างกษัตริย์ซัลมาน กับบารักโอบามา เพื่อ พูดคุยเจรจาในประเด็นการเมืองที่เกิดขึ้นในภูมิภาค และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอาระเบีย

จอห์น แครี่ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ก็เผยในเรื่องนี้ว่า หกชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เซีย มีแผนการประชุมที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณามาตรการใหม่ “ในการจัดการกับอิหร่าน ที่สร้างความไม่มั่นคงในภูมิภาค”
สำนักข่าวรอยเตอร์ โดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านหนึ่งของอเมริกา ที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อจัดตั้งและสร้างระบบการป้องใหม่ในภูมิภาคในการรับมือกับ “ภัยคุกคามของอิหร่าน” และ อาจ รวมถึงความมุ่งมั่นของอเมริกาในด้านการดูแลความปลอดภัยให้กับชาติอาหรับในภูมิภาค การขายอาวุธรุ่นใหม่ และการฝึกซ้อมร่วมทางทหาร

เสียงจากอเมริกา VOA ได้พูดถึงมาตรการครั้งใหม่ ของอเมริกาครั้งนี้ว่า เป็นไปได้ว่า บารักโอบามา จะเรียกร้องให้ผู้นำชาติอาหรับ นำระบบป้องกันของตนเองรวมกันให้อยู่ภายใต้ร่มธงอันหนึ่งเดียวเพื่อสามารถเผชิญหน้าและรับมือกับขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งผลพวงของข้อเสนอดังกล่าวนี้จะสามารถช่วยส่งเสริมในการขายอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆของอเมริกาเพิ่มมากขึ้น
หาก “มาตรการใหม่เพื่อรักษาความปลอดภัย” ของอเมริกาที่มีต่ออิหร่าน คือการขายอาวุธยุทโธปกรณ์แล้ว ก็ยังถือว่าหาใช่แผนการใหม่และมาตรการใหม่ของอเมริกาแต่ประการใด

یمن - حمله عربستان

เหล่ากษัตริย์ในภูมิภาค ได้ใช้เครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่สั่งซื้อจากตะวันตกในการโจมตีเยเมนทางอากาศ แต่ในขณะเดียวกัน ทหารอเมริกาเป็นผู้ดำเนินการเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องบินรบเหล่านี้บนอากาศ โดยที่อเมริกาไม่ยอมทำการฝึกอบรม สอนและมอบอุปกรณ์ให้กับประเทศเหล่านี้เพื่อสามารถเติมเชื้อเพลิงเครื่องบินรบของตนเองบนอากาศ

جام نیوز :: JamNews - تدابیر امنیتی ویژه آمریکا و پادشاهان منطقه برای مقابله با ایران

สหรัฐฯมีแผนการใหม่ในการจัดการอิหร่าน | abnewstoday

 

ซาเลห์ อดีต ปธน เยเมน ชี้ ซาอุฯ “ขี้ขลาด”
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - พ.ค. 12, 2015



ซาเลห์ อดีต ปธน เยเมน ชี้ ซาอุฯ “ขี้ขลาด” พร้อมประกาศเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเฮาซีย์อย่างเป็นทางการหลังบ้านพักถูกซาอุฯถล่ม
อาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ อดีตประธานาธิบดีเยเมน ประกาศเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเฮาซีย์อย่างเป็นทางการ หลังบ้านพักถูกซาอุฯถล่ม พร้อมกับประณาม ซาอุฯ ว่า เป็น “พวกขี้ขลาด” ในการโจมตีเยเมน
presstv – เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา ออกมาชื่นชมนักรบผู้เสียสละแห่งกลุ่มอันศอรุลเลาะห์เยเมน ในการปกป้องเยเมน พร้อมกับย้ำว่า เราพร้อมแล้วที่จะเป็นพันธมิตรกับทุกคนที่ต่อสู้ปกป้องประเทศเยเมน และจัดการกับระบอบการปกครองของซาอุดิอาระเบีย
ซาเลห์ อดีตประธานาธิบดีเยเมน ได้กล่าวต่อกลุ่มเฮาซีย์ ณ. หน้าบ้านพักของตนที่ถูกซาอุดิอาระเบียบุกถล่มพังย่อยยับ ว่า ผมขอให้พวกท่านจงลุกขึ้นมาจับอาวุธ พลีตนเพื่อปกป้องมาตุภูมิ และจะต้องมีความพร้อมในการอุทิศชีวิตของตน

เขากล่าวต่ออีกว่า : การโจมตีนี้เป็นการโจมตีที่ขี้ขลาด หากพวกท่านมีความสัจจริงอย่างที่พูดก็จงเข้าสู่สงครามภาคพื้นดินกับเราเถิด แล้วพวกท่านจะได้เห็นว่าเราจะต้อนรับพวกท่านอย่างน่าจดจำ การที่พวกท่านทิ้งระเบิดและเครื่องบินรบของพวกท่าน โดยกำหนดเป้าหมายไปที่เยเมนนั้น พวกท่านจะไม่บรรลุเป้าหมายใดๆ ที่ตนต้องการได้ การที่ซาอุดิอาระเบียกำหนดเป้าการโจมตีไปที่บ้านของเขานั้นเป็นการกระทำที่ไม่สามารถหาเหตุผลมาแก้ตัวได้ และถือเป็นการดำเนินการที่น่าเกลียด
อดีตประธานาธิบดีเยเมน กล่าวว่า : พวกเขาได้ตั้งเป้าโจมตีเราทั่วทั้งเยเมน สิ่งที่ประชาชนเยเมนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สงครามคือการแก้แค้นและความเกลียดชังที่ได้เปิดฉากกระทำกับประชาชนเยเมน
เขา ได้เตือนเกี่ยวกับการดำเนินต่อไปในการโจมตีของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยกล่าวว่า ดุลอำนาจในภูมิภาคจะเปลี่ยนไป…
แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นพันธมิตรกับกลุ่มอันซอรุลลอฮ์ แต่วันนี้ผมขอประกาศว่าประชาชนเยเมนทั้งหมดจะเป็นพันธมิตรกับทุกคนที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศ ทุกพรรคการเมืองที่มีความจริงใจก็จะเป็นพันธมิตรกับบรรดาผู้ที่ปกป้องประเทศ… ผมขอเตือนต่อทุกคนที่ดำเนินการอยู่ในประเทศนี้ในฐานะผู้สอดแนม ผู้เป็นสมุนรับใช้ของผู้รุกรานที่ป่าเถื่อน
คำพูดเช่นนี้ ของซาเลห์ ถือเป็นการแสดงทัศนะที่รุนแรงที่สุดของเขา ที่มีต่อซาอุดิอาระเบียในการโจมตีเยมน ในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับเยเมน การที่เครื่องบินรบของซาอุดิอาระเบียโจมตีบ้านพักของซาเลห์ มันเป็นการแสดงความเกลียดชังของซาอุฯที่มีต่อเขาอย่างแน่นอน หลังจากที่เขาปกครองเยเมนเป็นเวลาสามทศวรรษ และมีความสัมพันธ์ที่ดีทีกับซาอุดิอาระเบีย

PressTV-صالح رسما به حوثی‌ها ابراز وفاداری کرد

ซาเลห์ อดีต ปธน เยเมน ชี้ ซาอุฯ “ขี้ขลาด” | abnewstoday

 

ปูตินจะพบหารือกับแคร์รีเรื่องปัญหายูเครน
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/05/12 11:59 AM



มอสโก 12 พ.ค. – นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมีกำหนดจะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในวันนี้ ในขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ทั้งรัสเซียและชาติตะวันตกอาจจะพร้อมที่จะผ่อนปรนท่าทีหลังจากเกิดความตึงเครียดจากปัญหายูเครนมาเป็นเวลากว่า 1 ปี

การพบกันที่เมืองโซชิ เมืองตากอากาศของรัสเซียในทะเลดำ จะเป็นการเยือนรัสเซียเป็นครั้งแรกของนายแคร์รีนับตัวแต่เกิดวิกฤติการณ์ในยูเครนเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา นายปูตินปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกที่ว่า รัสเซียส่งทหารเข้าไปสนับสนุนกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครน

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า นายแคร์รีจะพบกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและประธานาธิบดีปูติน ซึ่งอยู่ในระหว่างพักผ่อนที่เมืองโซชิ โดยการเดินทางไปรัสเซียในครั้งนี้เป็นความพยายามในการรักษาการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียและเพื่อให้แน่ใจว่า ทัศนะของสหรัฐได้ถูกถ่ายทอดต่อไปยังรัสเซียอย่างชัดเจน ทางด้านโฆษกของนายปูตินไม่ยืนยันว่า นายแคร์รีจะได้พบกับนายปูตินหรือไม่ แต่ยืนยันว่านายแคร์รีจะพบกับนายลาฟรอฟแน่นอน.- สำนักข่าวไทย

ปูตินจะพบหารือกับแคร์รีเรื่องปัญหายูเครน | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ผมก็เริ่มเป็นน่ะครับ ที่มือ คิดว่าไม่รักษาความสะอาด แต่ก็ดูแลอย่างดี แต่ยังเป็นสงสัยต้องลดอาหารหวานๆ ลงแล้วครับ

ฝากแชร์ เตือนภัย ได้แชร์โพสต์ของ Authentic Clinic ออเธนทิค คลินิกเวชกรรม

สัญญานโรค รักแร้ ขาหนีบ ข้อนิ้ว
(เบาหวาน)



หากมีปื้นดำที่ลำคอ รักแร้ ขาหนีบ และข้อนิ้ว เรียกว่า Aanthosis Nigricans เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าความเสี่ยงโรคเบาหวานของคุณสูงมาก เมื่อพบปื้นนี้รีบหาเวลาไปเจาะเลือดตรวจด่วนๆ เชื่อเถอะว่าหากระดับน้ำตาลไม่เกินก็ปริ่มๆ เกณฑ์แล้ว ปื้นนี้พบได้ไม่จำกัดช่วงวัย แม้แต่ในเด็กก็มีไม่น้อยเลย ควรลดสารพัดอาหารมันๆ เค็มๆ หวานๆ และควรกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล ซึ่งก็คืออาหารที่มีโครเมียม เช่น ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง อาหารทะเล มะเขือพวง มะระขี้นก และอบเชย

 

ช็อกโลก !นักข่าวดัง แฉ‘โอบามา’ โกหกอื้อ เรื่อง‘เด็ดชีพบิน ลาเดน’
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2558 13:09


@นายซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวสายสืบสวนคนดัง ชาวอเมริกัน

นักข่าวอาวุโสอเมริกัน ระดับมือพระกาฬ เปิดโปงความจริง แฉ บารัค โอบามา ‘โกหกคำโต’ ต่อชาวโลก ในเหตุการณ์สังหารบิน ลาเดน หวังเรียกเรตติ้งคะแนนนิยมทางการเมือง ก่อนเลือกตั้งชิง ปธน.สหรัฐฯ สมัย 2

เมื่อ 12 ม.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวที่กำลังโด่งดังครึกโครมอยู่ในเวลานี้ เมื่อนายซีย์มัวร์ เฮิร์ช นักข่าวอาวุโสชาวอเมริกัน วัย 78 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักข่าวสายสืบสวนคนเก่ง จนเคยคว้ารางวัลพูลิตเซอร์มาแล้ว เปิดหน้าท้าชน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ โดยออกมาแฉช็อกโลกว่า นายบารัค ‘โกหก’ ต่อชาวโลกในเหตุการณ์สังหารนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัล เคดา ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในคฤหาสน์ ซึ่งมีระบบป้องกันภัยอย่างแน่นหนา ที่เมืองอับบอตตาบัต ในปากีสถาน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2554 เนื่องจากหวังจะนำเรื่องนี้มาใช้เรียกคะแนนนิยมหาเสียงทางการเมืองก่อนเขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2

นายซีย์มัวร์ เฮิร์ช ได้เขียนบทความส่งไปลงวารสารลอนดอน รีวิว ออฟ บุ๊กส์ โดยใช้ชื่อบทความว่า ‘การสังหารบิน ลาเดน’ (The Killing of Osama bin Laden) เปิดเผยว่า ความจริงแล้ว รัฐบาลปากีสถานได้ควบคุมตัว บิน ลาเดน ไว้ในบ้านพักหลังนี้ ที่เมืองอับบอตตาบัต มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ขณะที่สำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯหรือ ซีไอเอ ได้รู้ตำแหน่งของ นายบิน ลาเดน ว่า พำนักอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองระดับสูงคนหนึ่งของปากีสถานนำความลับนี้มาบอก เพื่อหวังจะได้เงินรางวัลนำจับ บิน ลาเดน ที่สหรัฐฯ ตั้งไว้สูงถึง 25 ล้านดอลลาร์

จากการสืบสวนข่าวการบุกสังหารบิน ลาเดน ของเฮิร์ช พบว่า เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลโอบามาได้มีการเจรจาหารือกับรัฐบาลปากีสถาน และเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง จากหน่วยไอเอสไอเกี่ยวกับการบุกจู่โจมตัว บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มอัล เคดา ซึ่งสหรัฐฯ เพียรพยายามไล่ล่า หาตัวมานานนับ 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ทว่า รัฐบาลประธานาธิบดีกลับอ้างต่อชาวโลกว่า สหรัฐฯ ดำเนินปฏิบัติการนี้อย่างเป็นความลับสุดยอด แม้แต่รัฐบาลปากีสถานก็ไม่บอกแพร่งพรายให้รู้

เฮิร์ช อ้างแหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยตัวตนว่า หน่วยข่าวกรองปากีสถานได้ดำเนินการ ‘ตัดไฟ’ ที่เมืองอับบอตตาบัต ก่อนทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ‘ ซีล’ (SEAL) ของสหรัฐฯ จะบุกจู่โจมเข้าไปในบ้าน เพื่อไม่ต้องการให้ทหารปากีสถานเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยนักข่าวคนเก่งของสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่ได้มีการยิงต่อสู้ตามที่รัฐบาลโอบามารายงาน มีเพียงแต่การใช้กระสุนไม่กี่นัดยิงปลิดชีพ บิน ลาเดน เท่านั้น


‘เมืองตกอยู่ในความมืด กระแสไฟฟ้าโดนตัดตามคำสั่งของหน่วย ISI เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนทหารหน่วยซีลจะบุกจู่โจมเข้าไปในบ้าน’ นายเฮิร์ช แฉ พร้อมกับเผยว่า เหล่าทหารปากีสถานได้รับคำสั่งให้ออกไปจากบ้านที่ควบคุมตัวบิน ลาเดน ทันทีที่ได้ยินเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐฯ

นักข่าวอาวุโสอเมริกัน ระดับนักข่าวมือพระกาฬ ยังชี้ว่า บารัค โอบามา ‘ปิดบังความจริง’ ในการบุกจู่โจมสังหารบิน ลาเดน เพื่อหวังจะเรียกคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะมีขึ้นเพียงปีเดียว ก่อนที่โอบามาจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 นอกเหนือจากนั้น เฮิร์ช ยังแฉด้วยว่า ร่างของบิน ลาเดน ไม่ได้ถูกนำไปทิ้งในทะเล ตามที่ทางการสหรัฐฯ อ้าง แต่ความจริงแล้ว ศพของหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัล เคดา ถูกฝังอยู่ในอัฟกานิสถาน.

ช็อกโลก !นักข่าวดัง แฉ‘โอบามา’ โกหกอื้อ เรื่อง‘เด็ดชีพบิน ลาเดน’ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ฟ้ายังมีตาน่ะครับ

คลายปมไม่รับฏีกา แพรวา 9 ศพ หลังชาวเนตเข้าใจผิดถล่มศาล
วันอังคาร ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 11.23 น.



12 พ.ค. 58 สืบเนื่องจากกรณีศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกาคดีที่ น.ส.แพรวา (ขอสงวนนามสกุล) จำเลยในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ยื่นฎีกาขอลดโทษจากคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) จนเป็นเหตุให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะเข้าใจว่าการที่ศาลไม่รับฎีกาเป็นผลดีแก่จำเลย

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Nithi Nikita Laieddee" ซึ่งระบุว่าเป็นรุ่นพี่ของนักศึกษา 1 ใน 9 ศพที่เสียชีวิตในรถตู้ เผยว่า การที่ศาลไม่รับฎีกานั้น เป็นผลดีต่อญาติผู้เสียชีวิต เนื่องฝ่ายจำเลยเป็นผู้ยื่นฎีกาขอลดโทษ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 3 ปี (คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี) รอลงอาญา 4 ปี การที่ศาลไม่รับฎีกาจึงเท่ากับว่าฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชนะคดี และส่งผลให้ศาลแพ่งสามารถพิจารณาคดีให้ฝ่ายจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติผู้เสียชีวิตได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลดีแก่ญาติผู้เสียชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไม่รับฎีกา'คดีสาวซีวิค'ชนดับ9ศพ ญาติคนตายรับได้อยากให้คดีจบ

ระบุข้อความดังนี้

ผมไม่ได้เข้าข้างแพรวาหรือจะมาปกป้องศาลนะ รุ่นน้องคณะผมคนนึงก็เสียชีวิตในรถตู้คันนั้น ทีมทนายผู้เสียหายก็คืออาจารย์ของผมเอง แต่ก่อนจะด่าศาลหรือกฎหมายไทย ผมอยากให้ทำความเข้าใจก่อนว่าคดีนี้

-ศาลชั้นต้น ตัดสินว่า แพรวามีความผิดขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3 ปี รอลงอาญา 3 ปี
-แพรวาอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษเบาๆ หน่อย (คหสต.แมร่งคิดแค่ประวิงคดีแน่ๆ) ทีมทนายอ.ธรรมศาสตร์ เลยอุทธรณ์บ้าง บอกว่าการที่ท่านลงโทษจำเลยมันเบาไปนะ ขอให้ท่านลงโทษแพรวาให้หนักขึ้น กลายเป็น รอลงอาญา 4 ปี ซึ่งก็แปลว่าศาลเห็นตามที่ทนายฝั่งญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้อง ลงโทษแพรวาเพิ่ม
-ต่อมาแพรวายื่นฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ลงโทษแรงเกินไป ขอให้ลดโทษลงหน่อย ศาลฎีกาไม่รับฎีกาของแพรวา

***แบบนี้หมายความว่าศาลเห็นด้วยกับฝ่ายผู้เสียชีวิตนะครับ ฝ่ายผู้เสียชีวิตชนะคดีนะครับ ไม่ใช่แพรวาชนะ***

คดีอาญาควรจะจบให้เร็วที่สุดเพราะถ้าศาลรับฎีกา (ซึ่งแพรวาน่าจะยื่นเพื่อประวิงคดีถ่วงเวลาให้นานออกไป ศาลฎีกาน่าจะใช้เวลาในการวินิจฉัยอีกเป็นปี) หมายความว่าคดีจะยืดยาวไปอีก เวลาที่ผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาก็จะช้าออกไปอีก เพราะทำให้คดีแพ่งที่ผู้เสียหายฟ้องแพงแพรวา+ครอบครัวยืดยาวต่อไป (คดีแพ่งศาลสั่งว่ารอผลคดีอาญาก่อนจึงจะวินิจฉัยได้) ซึ่งสุดท้ายผลคดีแพ่งผู้เสียหายน่าจะชนะ 100% อยู่แล้ว ถ้าแพรวาไม่จ่ายก็ยึดทรัพย์ (ดูน่าจะมีให้ยึดเยอะอยู่) เพื่อบังคับคดีมาชดใช้ผู้เสียหายต่อไป

อันนี้ คหสต.แบบโลกไม่สวยนะ ผมเคยดูแลคดีให้ทั้งคนจน คนรวย ทั้งฝ่ายชนเขา กับผู้เสียหาย ถ้าเลือกได้ผมขอให้ถูกคนรวยชนมากกว่า คนรวยมีตังค์จ่ายค่าเสียหายเยียวยาผู้เสียหายแลกกับการที่ตัวเองจะไม่ติดคุก (ถ้าศาลเห็นว่ามีการเยียวยา+ความผิดครั้งแรก ศาลมักจะรอลงอาญา) แต่คนจนที่ไปชนเค้าตายมักจะบอกว่า กูยอมติดคุก อยากได้อะไรไปฟ้องเอาเอง กูไม่มีทรัพย์สินให้ยึด สุดท้ายญาติผู้เสียหายได้แค่กระดาษคำพิพากษาเปล่าๆ ตายฟรีไป

คดีนี้ยังดีที่แพรวาเป็นเยาวชน ถ้าแพรวาบรรลุนิติภาวะแล้ว ผู้เสียหายเครียดยิ่งกว่านี้อีก เพราะฟ้องพ่อแม่แพรวาให้รับผิดด้วยไม่ได้

***ย้ำอีกครั้ง ศาลไม่รับฎีกาของจำเลย = ผู้เสียชีวิตได้ประโยชน์เพราะคดีจบเร็ว แพรวาแพ้คดี****

ในประเทศ - คลายปมไม่รับฎีกา'แพรวา'9ศพ หลังชาวเน็ตเข้าใจผิดถล่มศาล

 

คิม จอง-อึน สั่งวางยาพิษอาแท้ๆ
เรื่องโดย Nation TV วันที่ 12 พฤษภาคม 2558 11:08 น.



สำนักข่าว CNN รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวที่ได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดแปรพักตร์มาจากเกาหลีเหนือว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุด สั่งการให้วางยาพิษนางคิม คยอง-ฮุย ซึ่งเป็นอาแท้ๆ

แหล่งข่าวซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อจริง เพราะเกรงว่าสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ ที่ยังอยู่ในกรุงเปียงยางจะถูกตามคิดบัญชี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 หรือ 6 พ.ค.ปีที่แล้ว นายคิม สั่งฆ่านางคิม คยอง-ฮุย และมีเพียงหน่วย 974 ซึ่งเป็นองค์รักษ์ประจำตัวของเขาทราบเรื่องนี้ และตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนทราบเช่นกันว่าเธอถูกวางยาพิษ เพราะนายคิม ต้องการปิดปาก หลังจากเธอตำหนิเขาอย่างรุนแรง ที่นายชาง ซอง-แต็ก สามีของเธอ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำหมายเลข 2 ถูกสังหารเมื่อเดือนธันวาคม 2556


นางคิม คยอง-ฮุย ไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณชนนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 ทำให้เกิดข่าวลือมากมายเกี่ยวกับชะตากรรมของเธอ เช่นป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวายฆ่าตัวตาย หรือแม้กระทั่งอยู่ในสถานะ "ผัก" หลังเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า เชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่


หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ ระบุด้วยว่า นับตั้งแต่ก้าวขึ้นกุมอำนาจ นายคิมเดินหน้าประหารชีวิตผู้ที่เป็นปรปักษ์ และสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างน้อย 15 คนในปีนี้


ส่วนนางคิม คยอง-ฮุย และสามี ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชี้แนะนายคิม ผู้ด้อยประสบการณ์ตลอดช่วงปีแรกๆ ที่เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่อำนาจ หลังการอสัญกรรมของบิดา นายคิม จอง-อิลแต่แหล่งข่าวระบุว่า นายคิมกับอาเขยไม่ลงรอยกันเรื่องเงิน


โดยหลังจากก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้ปีครึ่ง นายคิมอยากจะสร้าง "มาสิคเรียง สกี รีสอร์ต" และ "สวนน้ำมอนสุ" โดยอาศัยประสบการณ์จากสมัยที่เขาเคยอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตอนแรกนายชาง อาเขย เห็นชอบด้วย แต่ก็แนะนำให้เห็นความสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศก่อน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการกำจัดเสี้ยนหนาม


แหล่งข่าว ระบุว่า นายชางถูกจับดำเนินคดีและประหารชีวิตในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เขาถูกประหารชีวิตในห้องลับใต้ดิน ส่วนคนใกล้ชิดนายชางและภรรยาอีกราว 30 คนถูกประหารชีวิตอย่างเปิดเผย บางคนถูกยิงเป้าด้วยปืนกล


นายคิมอ้างว่า นายชางต่อต้านรัฐบาลและพยายามโค่นระบอบ ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่า เขาเคยทำงานใกล้ชิดนายชาง และข้อกล่าวหาของนายคิมไม่เป็นความจริง


คิม จอง-อึน สั่งวางยาพิษอาแท้ๆ - Nation TV

 

“หน่วยซีล”ของจริงรัสเซียจัดแมวน้ำโชว์ฉลองวันแห่งชัยชนะ | เดลินิวส์

<iframe width="750" height="500" src="https://www.youtube.com/embed/jSAEhGnRg5Y" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

„“หน่วยซีล”ของจริงรัสเซียจัดแมวน้ำโชว์ฉลองวันแห่งชัยชนะ รัสเซียเปิดตัวหน่วยซีลของจริง จัดแมวน้ำโชว์ควงปืน-ว่ายหลบหลีกสิ่งกีดขวางในวันครบรอบ70 ปี วันแห่งชัยชนะของกองทัพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2558 เวลา 17:44 น.









เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดอะ มิรเรอร์” รายงานจากเขตไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ว่า อควาเรียมในบริเวณทะเลสาบไบคาล เขตไซบีเรียของรัสเซียจัดโชว์หน่วย “เนวี ซีล”ตัวจริง ที่เป็นแมวน้ำ 2 ตัว ชื่อ “วินนีย์ เดอะ พูห์”และ “แลสกา” ที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีจนสามารถควงปืนของเล่น ทำความเคารพ ว่ายหลบหลีกสิ่งกีดขวางใต้น้ำและสามารถว่ายขึ้นมาชูธงชาติรัสเซียเหนือน้ำได้ พวกมันถูกแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารและติดเหรียญตราราวกับทหารอาชีพ แมวน้ำทั้ง 2 ตัวยังสามารถเล่นลูกบอล กระโดดข้ามห่วง วาดรูป ร้องเพลงและเต้นได้อีกด้วย พวกมันอยู่ในห้องจัดแสดงที่มีอุณหภูมิราว 3 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับบรรยากาศทะเลสาบไบคาลที่มันคุ้นเคย ทั้งนี้ “อีฟเจเนีย บารานอฟ”ครูฝึกหญิงกล่าวว่า พวกมันจะร่วมแสดงโชว์ในวาระการครบรอบ 70 ปี วันแห่งชัยชนะของกองทัพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม“

อ่านต่อที่ : “หน่วยซีล”ของจริงรัสเซียจัดแมวน้ำโชว์ฉลองวันแห่งชัยชนะ | เดลินิวส์

 

เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 7.4 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ละติจูด 27.84 ลองติจูด 86.11 ความลึก 10 กิลเมตร

 

ตามมาด้วยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 5.6 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ละติจูด 27.62 ลองติจูด 86.23 ความลึก 10 กิโลเมตร

 

In & Outside World



♪ หยุดเลยละกัน ป่วยการยื้อไป
ฉันทนไม่ได้ ทั้งอายทั้งเจ็บปนกัน ♪
♪ หยุดเลยละกัน หมดความสำคัญ
ถึงจะดึงดัน ไม่มีประโยชน์อันใด ♪
♪ ต้องการอะไรไม่เคย อยู่เฉยหรือทำไม่ได้
แต่ทำอะไรให้ไป ไม่เคยถูกใจ ♪
♫ เรี่ยวแรงฉันยังเหลือยังมี ใจซิมีไม่พอ
ที่มันท้อเพราะเธอไม่มีใจ ♫
♫ อย่างนี้ฉันคงได้แต่เพียง มองดูเธอใกล้ใกล้
แต่จะหวังให้เธอได้หัวใจ คงไม่มีทาง ♫
♫ หรือมันไม่จริง ( เสียใจอย่างเดียว )
♪ หยุดเลยละกัน จบกันเสียที หัวใจที่มี
เหลือเพียงแค่เศษของมัน หยุดเลยละกัน ♫
♪ จบความสัมพันธ์ แม้ทรมาน ไม่นานเท่าไรก็ชิน
https://www.youtube.com/watch?v=2GA8IYpmbWM

 

หยุดจริงๆ น่ะครับ ไปหยุดที่ 7.4 เนปาล

In & Outside World



7.4 เนปาล
....น่าสงสาร คนที่เนปาล
....จิตใจเขา จะอ่อนล่า สักเพียงไหน
....ร่างกาย สามารถยืนหยัด สู้ต่อได้ไหม
................................................................

7.4 Nepal quake jolts Bangladesh, in phases | The Daily Star

 

ThaiPBS
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่าเมื่อเวลา 14.05 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ใกล้เมืองกาฐมาณฑุของเนปาล ‪#‎ThaiPBS‬ Cr. Thai PBS News

 

Piyacheep S.Vatcharobol



จากสุมาตรา โดดไปเนปาล ๗.๑ ทันที
นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่อพยบนักปีนเขานะครับ
ที่สำคัญคือลึก ๒ กิโลเมตร แสดงว่าจุดศูนย์กลาง
อยู่ที่ความสูง ๔ กิโลเมตรจากน้ำทะเล
อยู่กึ่งกลางความสูงเอฟเวอร์เรส ที่สูง ๘.๘ กิโลเมตร

อะปะมาทะ

 

ครั้งที่ 3. ตามมาด้วยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 5.4 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ละติจูด 27.78 ลองติจูด 86.26 ความลึก 10 กิโลเมตร



ครั้งที่ 4 ตามมาด้วยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 6.0 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ละติจูด 27.60 ลองติจูด 86.18 ความลึก 10 กิโลเมตร

 

ข้อมูลจากเฟส Jaroen Compeerapap เมื่อ 6 พฤษภาคม เวลา 23:42 น. ·
รอดูกันดีกว่าครับว่าปาปัวนิวกินีจะมีแผ่นดินไหวระดับ 7 ตามมาไหม ผมว่ามีตามมาแน่นอน เพราะขนาดเนปาลเกิดแผ่นดินไหว 7+แค่ครั้งเดียว แต่ที่ปาปัวเกิดแผ่นดินไหว 7+ ตามมา 2-3 ครั้ง เราก็เตรียมระวังตัวกันให้มากๆ เลยครับ



จากเนปาล ถึง ปาปัวนิวกีนี : ขอขอบคุณทุกท่านที่อุทิศข้อมูลส่งมา เมื่อเราเอาข้อมูลของทุกท่านที่ได้รายงานเผยแพร่ ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล มาจนถึงวันสองวันก่อนที่ปาปัว ฯ ทำให้เราต้องคิดเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงมีอยู่ว่า บ้านเราตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกที่ชื่อ Eurasian Plate ช่วงปลายแหลมของมันไปไกลถึงอินโดนีเซีย ข้างซ้ายทิศตะวันตกชนติดกับแผ่น Indo-Australian Plate ขอให้ดูรูปประกอบ ด้านตะวันออกฝั่งอ่าวไทยติดแผ่น Pacific Plate บ้านของวงแหวนแห่งไฟ ประเด็นคือ แผ่นดินไหวระดับ 7.5 ที่ปาปัวนั้น ดันไปไหวตรงรอยต่อของแผ่น Indo-Australian Plate กับแผ่น Pacific Plate ซึ่งตรงจุดที่แผ่นดินไหวนั้น เป็นหุบเหวสูงชันลึกมากลงไปในทะเล บริเวณที่แห่งนี้เป็นจุดน้ำลึกที่สุดในโลก ย่อมแสดงให้เห็นเห็นสัญฐานของแผ่นดินตรงนี้ โดยเฉพาะทิศทางของแผ่นดินไหวที่ปาปัว ฯ ดันมีทิศทางจาก ตะวันออก มุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ East-Northeast ในทิศทางที่มุดลงแผ่น Pacific Plate ดังนั้นหัวไหวที่เนปาล ปลายมุดลง Pacific Plate ตรงปาบัวนิวกีนี 7.5 ตรงหุบเหวสูงชันใต้ทะเล จึงทำให้ กลาง ๆ แผ่น Indo-Australian Plate แถว ๆ ฝั่งอันดามัน กาญจนบุรี ที่แผ่น Indo-Australian Plate เบียบกับ แผ่น Eurasian Plate ที่ตั้งของประเทศไทย ขอให้มโนภาพดูประกอบรูปภาพ แล้วท่านจะเห็นว่ามันเรื่องใหญ่แล้วครับ ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณสูงสุด จะทราบอะไรเป็นอะไร เราจึงต้องมาวิเคราะห์กันจริง ๆ จัง ๆ แล้วล่ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัย อยู่ในความไม่ประมาท เตรียมการตามสมควรแก่กรณีจากนี้ไป… ทิศทางการเคลื่อนที่ปาปัว และ เหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล ส่งสัญญาณให้ชาวสยามจริง ๆ อยู่ที่เราจะได้ยินสัญญาณนีไหมเท่านั้น

 

เนปาลแผ่นดินไหวซ้ำ 7.4 แมกนิจูด | เดลินิวส์



„เนปาลแผ่นดินไหวซ้ำ 7.4 แมกนิจูด เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 แมกนิจูด ใกล้กับเบสแคมป์บนยอดเขาเอเวอเรสต์ในเนปาล เบื้องต้นยังไม่พบการเกิดความเสียหายรุนแรง วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:45 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่าสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 แมกนิจูด เมื่อเวลา 12.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 14.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 19 กิโลเมตร ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกราว 83 กิโลเมตร และห่างจากเมืองจางมู่ ในเขตปกครองตนเองทิเบต ทางตะวันตกของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเนปาลเพียง 22 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการเกิดความเสียหาย ขณะที่แรงสั่นสะเทือนมีศูนย์กลางอยู่ใกล้เบสแคมป์บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปลายเดือนเม.ย. ที่คร่าชีวิตนักปีนเขาและลูกหาบรวม 18 ศพ อีกทั้งยังสามารถรับรู้ได้ไกลถึงกรุงกาฐมาณฑุ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนซึ่งพากันวิ่งออกมารวมตัวกันนอกอาคาร เนื่องจากชาวเนปาลยังคงหวาดหวั่นว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้อาจสร้างความเสียหายรุนแรงเทียบเท่าแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งมีความรุนแรง 7.8 แมกนิจูด และคร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 8,000 ศพ“

อ่านต่อที่ : เนปาลแผ่นดินไหวซ้ำ 7.4 แมกนิจูด | เดลินิวส์

เนปาลแผ่นดินไหวซ้ำ 7.4 แมกนิจูด | เดลินิวส์

 

ไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ | เดลินิวส์



„ไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ ทางการสหรัฐพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในรัฐอินดีแอนาเป็นรัฐล่าสุด หลังพบการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้แล้วกว่า 10 รัฐ และเจ้าหน้าที่อาจต้องฆ่าสัตว์ปีกมากเกือบ 30 ล้านตัว มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:00 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่ากระทรวงเกษตรของสหรัฐออกแถลงการณ์เรื่องการพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในรัฐอินดีแอนา โดยเชื้อที่พบเป็นสายพันธุ์เอช5 เอ็น8 ถือเป็นรัฐที่ 14 และเป็นรัฐแรกที่มีการพบเชื้อชนิดดังกล่าว นอกเหนือจาก 13 รัฐที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์ เอช5 เอ็น2 ได้แก่ อาร์คันซอ ไอดาโฮ ไอโอวา แคนซัส เคนทักกี มินนิโซตา มิสซูรี มอนแทนา นอร์ทดาโกตา ออริกอน เซาท์ดาโกตา วอชิงตัน และวิสคอนซิน โดยมี 3 รัฐ คือ วิสคอนซิน มินนิโซตา และไอโอวา ที่ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยพบในสหรัฐ ส่งผลให้ทางการอาจต้องฆ่าไก่และสัตว์ปีกอีกหลายชนิดรวมกันมากถึง 30 ล้านตัว ขณะที่รัฐบาลกลางอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินมูลค่า 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10,890 ล้านบาท ) เพื่อให้กระทรวงเกษตรนำไปใช้ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่อุตสาหกรรมส่งออกไข่ไก่และเนื้อไก่แช่แข็งของสหรัฐ โดยเกาหลีใต้และแคนาดาประกาศงดนำเข้าสินค้าชนิดนี้จากสหรัฐชั่วคราว“

อ่านต่อที่ : ไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ | เดลินิวส์

ไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ | เดลินิวส์

 

สหรัฐอนุญาต "เชลล์" ขุดน้ำมันในอาร์กติก | เดลินิวส์



„สหรัฐอนุญาต "เชลล์" ขุดน้ำมันในอาร์กติก "เชลล์" ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ ให้เตรียมดำเนินการสำรวจและดำเนินการขุดเจาะน้ำมันในทะเลชุกชี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอาร์กติก ท่ามกลางการคัดค้านจากนักสิ่งแวดล้อม วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:58 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่าสำนักงานบริหารจัดการพลังงานมหาสมุทรของรัฐบาลสหรัฐ ( บีโออีเอ็ม ) อนุมัติใบอนุญาตให้ "รอยัล ดัชท์ เชลล์" บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ระดับโลกสัญชาติเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ เข้ามาสำรวจและดำเนินการขุดเจาะน้ำมันในทะเลชุกชี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอาร์กติกได้ อย่างไรก็ตาม เชลล์ยังคงต้อรอการอนุมัติจากทางการรัฐอะแลสกา ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ขุดเจาะเสียก่อนเป็นขั้นตอนสุดท้าย จึงจะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเป็นทางการตามแผนคือในช่วงฤดูร้อนนี้ ทั้งนี้ เชลล์ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลสหรัฐ ขออนุญาตตั้งแท่นขุดเจาะ 6 หลุม โดยแต่ละหลุมมีความลึกราว 40 เมตร และมีเรือตรวจการณ์ประจำการอยู่ในเขตปฏิบัติงาน 2 ลำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มกรีนพีซ และ "โอเชียนา" ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมต่อต้านการขุดเจาะน้ำมันในมหาสมุทรอาร์กติก ที่มองว่าเป็นการเข้ามาของเชลล์คือการทำลายหนึ่งในแหล่งทรัพยากรสำคัญทางทะเลของโลก ขณะที่ตัวแทนของเชลล์เผยเพียงว่า การได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของโครงการสำรวจแหล่งพลังงานใต้ทะเล“

อ่านต่อที่ : สหรัฐอนุญาต "เชลล์" ขุดน้ำมันในอาร์กติก | เดลินิวส์

สหรัฐอนุญาต "เชลล์" ขุดน้ำมันในอาร์กติก | เดลินิวส์