ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สื่อคาด "แคเมอรอน" เผชิญปัญหาหนักกว่าสมัยแรก Sat, 09/05/2015 - 14:15

    <iframe width="615" height="346" src="https://www.youtube.com/embed/GOwJZyNk0y4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    นายเดวิด แคเมอรอน นำพรรคอนุรักษ์นิยม คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.2558) ส่งผลให้เขาได้นั่งเก้าอี้ผู้นำอังกฤษต่อไปอีก 5 ปี โดยสื่ออังกฤษคาดว่าเขาจะต้องเผชิญปัญหาหนักกว่าการดำรงตำแหน่งในสมัยแรก


    สื่อมวลชนอังกฤษเสนอข่าวชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งได้ที่นั่งในสภาไปถึง 331 ที่นั่ง จากทั้งหมด 650 ที่นั่ง ส่งผลให้นายเดวิด แคเมอรอน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี

    สื่อท้องถิ่นวิเคราะห์ว่านายแคเมรอนจะต้องเผชิญภาระหนักกว่าการดำรงตำแหน่งในสมัยแรกอย่างแน่นอน เนื่องจากพรรคเนชันแนลสกอตติชหรือ SNP ได้คะแนนตามมาเป็นที่ 3 รองจากพรรคแรงงาน จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่พรรค SNP จะผลักดันให้มีการลงประชามติแยกสกอตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักรอีกครั้ง หลังจากประสบความล้มเหลวในการลงประชามติไปเมื่อ 7 เดือนก่อน จึงเป็นหน้าที่ของนายแคเมอรอนที่จะต้องพยายามรักษาอังกฤษให้เป็นหนึ่งเดียวต่อไปตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้

    นอกจากนี้นายแคเมอรอนยังต้องเผชิญกับแรงกดดันของสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้อังกฤษเป็นสมาชิกอียูต่อไป ท่ามกลางความกังวลว่านายแคเมอรอนจะเดินหน้าจัดการลงประชามติตัดสินอนาคตของสหราชอาณาจักรในอียูภายในปี 2560 ตามที่เคยประกาศไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

    สำหรับการเตรียมจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่สื่ออังกฤษคาดว่านายแคเมอรอนจะยังคงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ไว้ตามเดิม โดยนายจอร์จ ออสบอร์น จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลัง นางเธเรซา เมย์ จะดูแลกระทรวงมหาดไทย นายฟิลิป แฮมมอน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และนายไมเคิล ฟัลลอน จะคุมกระทรวงกลาโหม ซึ่งคาดว่ารายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะประกาศได้ภายในวันจันทร์นี้ (11 พ.ค.2558) และจะประกาศรายชื่อตำแหน่งที่สำคัญรองลงไปภายในสัปดาห์หน้า

    สื่อคาด "แคเมอรอน" เผชิญปัญหาหนักกว่าสมัยแรก - ข่าวไทยพีบีเอ...
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เตือนภัย พิบัติโลก
    9/5/2015 ชาวบ้านผวา!! จู่ๆ บ้านร้าว-ถนนแตกเป็นรอยแยก ยกตัวสูงจากพื้นจนรถวิ่งผ่านไม่ได้

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชาวบ้านทรัพย์สมบูรณ์ หมู่ 7 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ต่างแตกตื่น หลังจาก จู่ๆ ถนนมีรอยแตกและยกตัวขึ้นสูงจากพื้นดิน ระยะทางยาวกว่า 20 เมตร นอกจากถนนเกิดแตกแล้ว ที่บ้านนางแสงทอง ตาโสม อายุ 70 ปี หมู่ 7 บ้านซับสมบูรณ์ ต.แซร์ออ และบ้านนายสมบูรณ์ วงศ์วรรณ อายุ 60 ปี เกิดรอยแตกร้าวจนถึงหน้าต่าง ห่างกันไปอีกเล็กน้อย เป็นศูนย์เด็กเล็กบ้านทรัพย์สมบูรณ์ ก็เกิดรอยร้าวเช่นเดียวกัน

    ชาวบ้านบอกว่า กลางดึกของคืนวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านบอกว่า ได้ยินเสียงลั่น แต่ไม่ทราบสาเหตุของการลั่น ต่อมาคืนวันที่ 4 พ.ค. เกิดการลั่นอีก และเริ่มมีถนนแยกออก และเริ่มยกตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มากนัก จนมาเมื่อวานนี้ถนนเริ่มแยกออกมากและยกตัวสูงขึ้นจนรถไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ เนื่องจากติดท้องรถ ส่วนที่บ้านและที่ศูนย์เด็กเล็ก ก็มีรอยแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากมีรอยแตกเป็นรอยยาว

    ด้านนายพีรพงษ์ หมื่นผ่อง ปภ.จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากทางธรณีวิทยา ว่าได้มีสัญญาณเตือนภัยเกิดขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า สาเหตุที่ถนนมีการแตกแยก เป็นแผ่นดินไหว หรือ เกิดจากดินสไลด์กันแน่ คงต้องรอผลจากการตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน

    นายวุฒิดนัย สวัสดินฤนาท นายอำเภอวัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้ลงพื้นที่ และสั่งกำชับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงให้ช่วยกันระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้ยังมีเสียงลั่นให้ได้ยินอยู่ และพื้นถนนที่มีรอยแยกก็ยังมีอาการยกตัวสูงขึ้นมาเรื่อยๆ

    ด้าน ปภ.สระแก้ว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นให้ท่านผู้ว่าฯ สระแก้วทราบแล้ว และท่านได้มีคำสั่งให้ ปภ.สระแก้ว และอำเภอติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว
    http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จี้รัฐเร่งศึกษารอยเลื่อนมีพลัง “กทม.-เมืองใหญ่” พร้อมดึง 3 ฝ่ายรับมือแผ่นดินไหวสกัดการสูญเสีย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2558 15:43 น.

    [​IMG]
    @การขุดร่องสำรวจที่ตำแหน่งรอยเลื่อนเพื่อศึกษาโอกาสการเกิดแผ่นดินไหว

    [​IMG]

    หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแผ่นดินไหว ชี้แผ่นดินไหวที่เนปาลต้องสูญเสียมหาศาลเนื่องเพราะประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวนมาก และไม่มีมาตรการป้องกันหรือการเฝ้าระวังที่ดี แนะประเทศไทยต้องเข้าไปศึกษารอยเลื่อนมีพลังทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.และเมืองใหญ่ที่มีรอยเลื่อนพาดผ่าน พร้อมบูรณาการทั้ง 3 ส่วน คือด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมสถานฯ และภาคประชาชน เพื่อรับมือแผ่นดินไหวให้ครบทุกมิติ อีกทั้งขอให้ประชาชนที่พอมีทุนทรัพย์ต้องปรับปรุงบ้านเรือนให้แข็งแรงเพื่อรับมือแผ่นดินไหวในอนาคต


    จากกรณีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7.8 แมกนิจูดที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายหมื่นคน อาคารบ้านเรือนทรัพย์สินของมีค่า ต้องจมอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง ยังความเศร้าสลดให้กับประชาคมโลก ขณะเดียวกันรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็มีการระดมทีมงานและงบประมาณเข้าไปช่วยรัฐบาลและประชาชนชาวเนปาลเช่นกัน

    นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติชาวเนปาลในครั้งนี้

    สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงขนาดนี้มีโอกาสจะเกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่นั้น ผศ.ดร.ภาสกร ปนานนท์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐานของโลก (SEIS-SCOPE) ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักวิจัยชุดโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยข้อมูลกับ Special Scoop ว่า กรมทรัพยากรธรณี มีการศึกษาถึงรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทยทั้งหมด และในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 14 รอยเลื่อน ตั้งแต่เหนือจรดใต้ โดยในประเทศไทยมีการศึกษาข้อมูล “รอยเลื่อนมีพลัง” ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีโอกาสทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ในอนาคต ซึ่งเป็นการศึกษาเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

    เพราะการจะระบุรอยเลื่อนว่ามีพลังหรือไม่ ระบุได้จากหลักการศึกษาต่างๆ เช่น ศึกษาหลักฐานจากการเกิดแผ่นดินไหวในอดีต โดยวิธีการ “ขุดร่องสำรวจที่ตำแหน่งรอยเลื่อน” ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากี่ครั้ง ระยะเวลานานมากหรือไม่ โดยหลักฐานประเภทนี้จะใช้เวลาที่เจอหลักฐานของการเกิดแผ่นดินไหวมาประมาณ 11,000 ปี ซึ่งหากหลักฐานที่พบนั้นมีร่องรอยการเกิดแผ่นดินไหวที่มีอายุน้อยกว่านี้ จะถือว่ารอยเลื่อนนั้นมีพลัง และมีศักยภาพในการเกิดแผ่นดินไหวในอนาคต

    แต่ในทางกลับกันหากหลักฐานที่พบนั้นมีระยะเวลาการเกิดแผ่นดินไหวมากกว่า เช่นเป็นแสนๆ ปีขึ้นไป ก็จะยังไม่เรียกว่ารอยเลื่อนนั้นมีพลัง

    การศึกษา “รอยเลื่อนมีพลัง” ในอีกวิธีคือ ดูจาก ”ข้อมูล” การเกิดแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อน รอยเลื่อนใดที่มีหลักฐานบ่งบอกว่า “มีรอบการเกิดแผ่นดินไหวสั้นๆ” ก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น หรือรอยเลื่อนใดที่มี “อัตราการเลื่อนตัวสูง” ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นเช่นกัน

    สำหรับรอยเลื่อนที่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นกลุ่มรอยเลื่อนที่มีพลัง และมีศักยภาพจะเกิดแผ่นดินไหวได้ในอนาคต ซึ่งพบกระจุกตัวอยู่ในบริเวณภาคเหนือของไทยค่อนข้างมาก ภาคตะวันตก และภาคใต้บางส่วน ตามแผนที่ของกรมทรัพยากรธรณี แต่หากจะคาดการณ์ว่ารอยเลื่อนใดเสี่ยงกว่ากันเป็นสิ่งที่ตอบยาก เพราะประเทศไทยมีการศึกษาหาข้อมูลในเรื่องนี้น้อยมาก มีข้อมูลที่ชี้ว่าเราผ่านการเกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนนี้ย้อนหลังไปเพียง 50 ปีเท่านั้น จึงทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ณ เวลานี้รอยเลื่อนไหนสะสมพลังงานจนใกล้จุดแตกหัก ไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อไหร่บนรอยเลื่อนไหน

    นอกจากนี้ก็ยังศึกษาได้จากรอยเลื่อนที่มีขนาดใหญ่และยาวมากๆ ก็มีโอกาสจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้มากกว่า แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่สามารถชี้ชัดได้ว่ารอยเลื่อนไหนจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนหรือหลัง


    โอกาสที่รอยเลื่อนไม่มีพลังจะกลับมามีพลัง?

    ผศ.ดร.ภาสกร กล่าวว่า ตามหลักฐานที่บอกว่ารอยเลื่อนไม่มีพลัง คือ รอยเลื่อนที่เคยมีแผ่นดินไหวมานานมากแล้ว และมีอายุหลาย 10 ล้านปีเกิดพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก จะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังหรือไม่นั้น มีโอกาสเกิดขึ้นไม่มาก โดยอาจมีบางกรณีที่อยู่ใกล้กับแผ่นดินไหวใหญ่ รอยเลื่อนเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะกลับมามีพลังได้เช่นกัน แต่แผ่นดินไหวที่มากระตุ้นนั้นต้องมีขนาดใหญ่ มีแรงอัดที่รุนแรงมากๆ ซึ่งไม่สามารถระบุระดับเป็นตัวเลขได้ โดยปัจจัยที่จะเกิดแผ่นดินไหวคือพลังงานหรือความเค้นสะสม (Stress) เกิดจากการที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ไปชนกันและดันต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายๆ สิบล้านปี พลังงานสะสมก็เพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ จนถึงจุดที่ทานไม่ไหวก็จะหัก หรือมุดออกมาแตกออกมาจึงเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ พลังงานสะสมบอกได้เพียงคร่าวๆ เพราะใต้โลกมีความซับซ้อนมาก เช่นประเภทของหินที่แตกต่าง เป็นต้น จึงทำได้เพียงการประเมินคร่าวๆ ไม่สามารถประเมินวัน เวลาได้

    รอยเลื่อนที่มีพลังในไทย 14 แห่ง

    ขณะเดียวกันโอกาสจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในไทยนั้น ดูจากข้อมูลแผ่นดินไหวที่บันทึกไว้ ภาคเหนือมีอัตราการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดอยู่แล้ว เทียบกับทุกภาค โดยประวัติจะมีตัวเล็กตัวน้อยเยอะมาก และจากอีกปัจจัยคือภาคเหนืออยู่ติดกับทางฝั่งพม่าและลาว ซึ่งในบริเวณนั้นมีการชนกันของแผ่นธรณี แผ่นเปลือกโลกอยู่ ซึ่งในพม่าและลาวมีการเกิดแผ่นดินไหวตัวใหญ่ๆ ขึ้นตลอด

    ดังนั้นภาคเหนือจึงได้รับผลกระทบไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อม ถ้าไปดูสถิติแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด ขนาดปานกลางตั้งแต่ 5 แมกนิจูดขึ้นไปนั้น เกิดขึ้นในภาคเหนือเกินกว่าครึ่ง ดังนั้นภาคเหนือจึงมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากกว่าทั้งในทางสถิติและปัจจัยส่งเสริม

    “ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกและไม่อยากให้ประชาชนในภาคใดควรกังวลหรือภาคใดไม่ควรกังวล”

    อย่างไรก็ดีทางด้านวิชาการนั้น ควรต้องศึกษาให้เข้าใจในธรรมชาติของเหตุการณ์ และในส่วนของประชาชนและภาคสังคมก็ต้องเตรียมความพร้อมรับมือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้างที่แข็งแรง หรือการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความสูญเสียได้

    ความรุนแรงของแผ่นดินไหวมีมากขึ้น?

    ผศ.ดร.ภาสกร บอกด้วยว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเนปาลครั้งนี้นั้น สะท้อนให้เห็นถึงภัยธรรมชาติจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น และก็ไม่ได้มีสัญญาณใดที่ชี้ชัดได้ว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม โดยหากศึกษาข้อมูลจากสถิติย้อนหลัง พบว่าอัตราการเกิดแผ่นดินไหวไม่ได้เกิดบ่อยขึ้น ขณะเดียวกันเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ๆ ก็ไม่ได้มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน

    “แต่สิ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบ สร้างความเสียหายมาก มีคนเสียชีวิตมากขึ้น นั่นเพราะจำนวนประชากรที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวมีปริมาณมากขึ้น ตลอดจนการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือภัยแผ่นดินไหวก็ไม่ได้มีมาตรการป้องกันหรือการเฝ้าระวังที่ดี”

    ดังนั้น เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจึงมีความเสียหายมาก เช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่ประเทศเนปาลนั้น จากเดิมที่พื้นที่นี้มีประชากรอาศัยไม่กี่แสนคน และในเวลาอันรวดเร็วไม่ถึง 20 ปี ประชากรที่นี่ก็ทวีเพิ่มขึ้นเป็นหลักใกล้ๆ 2 ล้านคน เมื่อมีแผ่นดินไหวในชุมชนขนาดใหญ่จึงเป็นสาเหตุทำให้ส่งผลกระทบวงกว้าง

    เหตุการณ์เนปาลจะมีผลถึงไทย?

    ผศ.ดร.ภาสกร ย้ำว่าโอกาสการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย มักจะได้รับอิทธิพลจากรอยเลื่อนในประเทศพม่าและลาว ซึ่งมีรอยเลื่อนที่มีพลัง โดยที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ในเนปาลหรือแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ที่อื่น ก็มีแผ่นดินไหวเกิดในพม่ากับลาวตลอด ซึ่งแผ่นดินไหวที่มีขนาด 6-7 ก็เคยมี เช่นใน 2-3 ปีที่ผ่านมาในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

    แต่หากถามว่าเหตุการณ์ในเนปาลจะส่งผลมาถึงพม่าหรือไม่นั้น มีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะลักษณะการถ่ายเทพลัง ในเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวก็จะมีการส่งพลังงานออกมาและพลังงานนั้นก็จะวิ่งไปเรื่อยๆ แต่พลังงานก็จะลดลงอย่างรวดเร็วตามระยะทางที่มากขึ้น ประเทศเนปาลมีระยะทางห่างจากพม่าประมาณ 1,000 กม. ดังนั้นพลังงานที่มาถึงพม่าน่าจะน้อยมาก และคิดว่าโอกาสจะส่งผลกระทบโดยตรงมีน้อย นอกจากบังเอิญมีรอยเลื่อนใดที่มีพลังงานเต็มที่พร้อมใกล้จุดแตกหักและได้รับพลังงานจากเนปาลมาเติมพอดี

    ทั้งนี้ในความเป็นไปได้แล้ว การที่แผ่นดินไหวตัวใหญ่ไปกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวตัวใหญ่ในบริเวณใกล้ๆ นั้น มักเกิดขึ้นในแนวรอยเลื่อนเดียวกัน เช่นสมมติว่ารอยเลื่อนที่เนปาลยาว 1,000 กม. (ตัวเลขสมมติ) ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็มีโอกาสทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ในบริเวณรอยเลื่อนเดิม แต่การที่จะเกิดข้ามมาเป็น 1,000 กม. โอกาสที่จะเกิดนั้นน้อยมาก จึงไม่น่ากังวล คนที่อยู่รอบๆ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวในรัศมี 200-300 กม. อาจต้องกังวลมากกว่า ว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหวในรอยเลื่อนเดิม เพราะพลังงานถูกส่งต่อมาตามรอยเลื่อนได้ และเป็นรอยเลื่อนเดียวกัน สำหรับเนปาลนั้นเป็นคนละรอยเลื่อน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง


    อัตราการเกิดแผ่นดินไหวในไทย

    ขณะที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตามสถิติ มีบ่อย ระดับความรุนแรงปานกลาง รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ส่วนภาคตะวันตกแม้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่เนื่องจากเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ใกล้บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ แถวรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ จึงเป็นความกังวลของประชาชนว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่จะส่งผลกระทบอะไรมาถึงเขื่อนหรือไม่ ซึ่งถ้าดูในภาพรวมทั้งหมดของจังหวัดกาญจนบุรี เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ๆขึ้นประมาณปี 1980 หลังจากนั้นก็ไม่มีอีก จนปัจจุบันแผ่นดินไหวที่กาญจนบุรีมีประมาณครั้งหรือสองครั้งต่อปีซึ่งเป็นขนาดเล็กๆ เท่านั้น

    ส่วนทางภาคเหนือเกิดแผ่นดินไหวรวมทั้งหมดมีถึงประมาณปีละ 50 ครั้งทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โดยข้อมูลแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ภาคเหนือเกิดมากกว่าอยู่แล้ว แต่คนมักจะนึกถึงแผ่นดินไหวที่จังหวัดกาญจนบุรี เพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อเขื่อนศรีนครินทร์และจะส่งผลต่อพื้นที่ในปริมาณกว้าง

    สำหรับภาคใต้มีรอยเลื่อนสำคัญคือ ใน จ.พังงา มี 2 รอยเลื่อน คือ รอยเลื่อนระนอง ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยาวพอสมควร วิ่งจากฝั่งอันดามันมาถึงอ่าวไทย เป็นรอยเลื่อนที่มีศักยภาพทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน ส่วนรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งลากจากนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ไปออกตรงภูเก็ต สำหรับรอยเลื่อนนี้ตอนนี้เป็นประเด็นอยู่ เนื่องจากมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นแถวภูเก็ตหลายครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นผลพวงจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อหลายปีก่อนหรือไม่ ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ตำแหน่งที่เกิดแผ่นดินไหวสัมพันธ์กับกลุ่มรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย แต่ทั้งนี้ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาที่เป็นเรื่องราวว่ารอยเลื่อนนี้เป็นอย่างไร

    เตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหว

    ผศ.ดร.ภาสกร กล่าวถึงความพร้อมในด้านวิชาการของไทยนั้นมีอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับการศึกษาในประเทศที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่มีอัตราการเกิดแผ่นดินไหวมากกว่าเรา เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่นนั้น ประเทศไทยถือว่ายังมีการเตรียมความพร้อมน้อยกว่าประเทศเหล่านั้นมาก

    กรณีตัวอย่างการลงทุนในการศึกษารอยเลื่อน แซนแอนเดรอัสฟอลต์ (San Andreas Fault) ที่แคลิฟอร์เนีย รอยเลื่อนตัวเดียว สหรัฐอเมริกาใช้การลงทุนไปถึง 5-6 หมื่นล้านบาท เทียบกับการลงทุนในการศึกษาของไทย ภาพรวมการลงทุนทั้งประเทศของทุกหน่วยงานต่างกันมาก

    เพราะฉะนั้นสเกลของการได้ข้อมูลจึงน้อยกว่ากัน ทำให้เราไม่สามารถได้ข้อมูลเชิงลึก จึงเป็นความไม่แน่นอนอย่างหนึ่งในเรื่องระดับอันตรายที่เรามีอยู่จริง ต้องทำความเข้าใจว่าภัยพิบัติเกิดจาก 2 อย่างคือระดับอันตรายที่ทำให้เกิดภัยนั้นขึ้น กับผลกระทบที่เกิดขึ้นคือความเสี่ยง เช่นบ้านเรือนเราไม่แข็งแรงพอ หรือประชาชนเราไม่มีความรู้ มีสองส่วนประกอบกันคือส่วนธรรมชาติกับส่วนมนุษย์ ส่วนธรรมชาติหากจะพูดกันตรงๆ เราก็มีข้อมูลไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้เราทำนายหรือวางแผนอะไรได้ยากขึ้น

    “เราคาดการณ์ไม่ได้เลยว่าแผ่นดินไหวจะเกิดเมื่อไร สมมติว่าหากมีการเกิดแผ่นดินไหวในเมืองใหญ่ๆความเสียหายของเราจะเกิดขึ้นมหาศาล เพราะอาคารส่วนใหญ่ในประเทศไทย สร้างมาก่อนที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นก็จะต้านทานแผ่นดินไหวได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น”

    นับว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทยที่แผ่นดินไหวที่สำคัญๆ ทุกครั้ง ไม่เคยเกิดขึ้นในบริเวณกลางเมือง เมืองจึงยังไม่เคยได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเกิดแผ่นดินไหว เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่เชียงรายก็เกิดห่างจากอำเภอเมืองเชียงรายไปประมาณเกือบ 30 กม. ลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หากแผ่นดินไหวเกิดใกล้ตัวเมือง เราจะเสียหายมาก ที่สำคัญคือหลายๆ เมืองใหญ่ในประเทศไทยมีรอยเลื่อนอยู่ข้างใต้ แต่เราไม่เคยได้ศึกษาในระดับที่เพียงพอ ด้วยข้อจำกัดหลายประการ อันที่จริงเราทำอะไรได้อีกมาก เช่น เราต้องศึกษารอยเลื่อนที่มีพลังทั้งหมดใหม่ และเมืองใหญ่เมืองไหนที่คิดว่ามีรอยเลื่อนอยู่ต้องเข้าไปศึกษา

    แต่ประเทศไทยก็มีข้อจำกัดอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ไม่ได้ศึกษารอยเลื่อนอย่างจริงจัง เพราะบริเวณนั้นเป็นพื้นที่เอกชน หรือบริเวณนี้เป็นบริเวณต้องห้าม ทำให้เราเข้าไปศึกษาไม่ได้ แต่ถ้าจะศึกษาไปข้างหน้า ก็ต้องช่วยกันเสียสละ เพื่อให้การศึกษารอยเลื่อนเดินหน้าต่อไปได้

    กรณีที่มีการถกเถียงกันมานานว่ากรุงเทพฯ มีรอยเลื่อนหรือไม่ ก็จะยังเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป เพราะไม่มีใครศึกษาเป็นเรื่องเป็นราว บริเวณรอบๆ กรุงเทพฯ เองก็ยังศึกษารอยเลื่อนได้อีกมาก เพราะยิ่งรอยเลื่อนใกล้กรุงเทพฯ มากเท่าไร และถ้าเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง แน่นอนว่าเราต้องกลัวมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ แต่เป็นเมืองใหญ่ทุกเมือง จังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต มีรอยเลื่อนหรือไม่ ก็เป็นประเด็นที่พูดกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่ามีหรือไม่ ซึ่งต้องไปศึกษา และถ้ามีต้องคิดต่อว่าจะทำอะไรกับมัน ถ้ามีข้อมูลจะมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพิ่มเติมให้ศึกษา เพราะประเทศไทยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นบันทึกไม่มาก เมื่อเทียบกับทางตะวันตก หรือแม้แต่ของจีนหรือญี่ปุ่นที่มีบันทึกย้อนหลังเป็นพันๆ ปี เราจึงต้องอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ช่วย

    นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในการศึกษา สมมติเรามองว่าพื้นที่ตรงนี้มีหลักฐานที่มีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ วิธีที่ดีที่สุดคือจะต้องไปขุด และเมื่อเราเจาะจงได้แล้วว่าพื้นที่ตรงนี้ถ้าขุดเราจะเห็นร่องรอยแผ่นดินไหวในอดีต แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปศึกษา จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พื้นที่ตรงนั้นก็จะเป็นเครื่องหมายคำถามว่าสรุปมันเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังหรือไม่ ทำให้ข้อมูลที่ได้จึงไม่สมบูรณ์ กับคำถามว่าการขุดต้องขุดลงไปลึกมากเท่าไรนั้น ขุดลงไปเพียงประมาณ 5 เมตร แต่ถ้าเป็นหลังบ้านเรา เราก็อาจจะไม่อยากให้เข้ามาขุด ก็เข้าใจในมุมมองของเจ้าของที่ดินว่าอาจต้องการใช้ประโยชน์เพื่อการอื่น

    หลักการศึกษารอยเลื่อนมีพลังนั้น เนื่องจากรอยเลื่อนนั้นแต่ละรอยยาวมาก อาจจะเป็น 100 กม. และถ้าไปดูโดยละเอียด มันไม่ได้เป็นเส้นเดียว 100 กม. มันจะเป็นเส้นสั้นๆ เรียกว่า รอยเลื่อนย่อยต่อๆ กันเป็นแนว จึงเรียกว่าเป็นกลุ่มรอยเลื่อน แนวการศึกษาที่ดีและถูกต้องจริงๆ คือต้องศึกษาทุกรอยเลื่อนย่อย ยกตัวอย่าง รอยเลื่อน 100 กม. มีรอยเลื่อนย่อยอยู่ 10 ตัว เราก็ต้องไปศึกษาทั้ง 10 ตัวนั้น ถึงจะสรุปได้ว่าเป็นอย่างไร

    แต่ในปัจจุบันทำแบบนั้นไม่ได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดทั้งทางงบประมาณ เวลา บุคลากร และการเข้าพื้นที่ ดังนั้นถ้ากรณีแบบที่ยกตัวอย่าง มีรอยเลื่อนย่อย 10 รอยเลื่อน เราอาจจะศึกษาได้แค่ 3 รอยเลื่อนย่อย แล้วนำมาสรุปให้เป็นตัวแทนของทั้งรอยเลื่อน ซึ่งมันอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่ด้วยข้อจำกัด ซึ่งไม่เฉพาะเรื่องงบประมาณ จึงเป็นปัญหาที่แก้ยากเหมือนกัน

    “ได้ทำงานร่วมกับกรมทรัพยากรธรณีมาตลอด และยังมีนักวิชาการอีกหลายท่านที่ทำงานด้วยกันมาร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เรื่องรอยเลื่อนที่มีพลัง ซึ่งมีข้อมูลอยู่พอสมควร แต่จากข้อจำกัดต่างๆ จึงยังไม่ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ 100% อย่างที่ควรจะเป็น”

    เสนอแผนเชิงรุก-เชิงรับกับภัยพิบัติแผ่นดินไหว

    อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยอาจไม่ได้มองปัญหาเรื่องแผ่นดินไหวเป็นเรื่องสำคัญมากนักเพราะดูเป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงรายเมื่อปีที่แล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราต้องมีการวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้

    ซึ่งการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยที่ควรจะเริ่มได้แล้วในวันนี้ ทั้งในส่วนวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว คือ การศึกษารอยเลื่อนทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทยให้มากขึ้นกว่านี้ ส่วนนี้เป็นส่วนของปัญหาที่เรามีข้อมูลน้อยมาก โดยเฉพาะในส่วนของภาควิชาการนั้น เรายังไม่มีถึงระดับศูนย์ติดตามรอยเลื่อน รวมไปถึงการติดตั้งสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนให้มากขึ้นด้วย เพราะสิ่งที่ทราบในปัจจุบัน เรามีสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว เมื่อมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็จะรายงานได้ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ไหน ขนาดเท่าไร ถ้าไปตกใกล้ๆ รอยเลื่อนก็จะบอกได้ว่าใกล้รอยเลื่อนอะไร ทางกรมทรัพยากรธรณีพยายามที่จะไปติดโครงข่ายแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อน เสริมจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่มีสถานีแผ่นดินไหวทั่วประเทศอยู่แล้ว

    สำหรับอุปสรรคตรงนี้ ก็คือ แผ่นดินไหวไม่ได้เกิดตรงที่ใดที่หนึ่งประจำ สมมติเราไปติดตรงบริเวณนั้น ก็อาจจะไม่ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในจุดนั้นในรอบ 5 ปีก็ได้ เพราะฉะนั้นจึงตอบยากและไม่มีหน่วยงานใดไปทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ นอกจากกรมทรัพยากรธรณีที่เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งขุดศึกษารอยเลื่อนที่มีพลัง และมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณจึงทำได้ปีละไม่มากนัก ส่วนอื่นก็จะมีการศึกษาเรื่องรอยเลื่อนมีพลังจากกิจกรรมอื่น เช่นการทำ ERA เวลาจะสร้างเขื่อน จึงจะมีการศึกษาเรื่องนี้แทรกเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่มีการศึกษาสเกลใหญ่โดยตรง

    อีกส่วนก็เป็นภารกิจของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ซึ่งเป็นเรื่องการสร้างอาคารบ้านเรือนให้แข็งแรง และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่ง วสท.ต้องเข้ามาเป็นผู้ช่วย รวมไปถึงการปฏิรูปกฎหมายประกันภัยให้ครอบคลุมถึงความเสียหายจากแผ่นดินไหว ขนาดปานกลางหรือขนาดเล็กด้วย ไม่ใช่ครอบคลุมแต่แผ่นดินไหวขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะมีโอกาสเกิดในบ้านเราน้อย

    สำหรับภาคประชาชน คือ การเรียนรู้เรื่องการปฏิบัติตัวขณะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งวันนี้ถือว่ามีการตื่นตัวมากขึ้นแล้ว แต่ปัญหามองว่าอยู่ที่สารยังไปไม่ถึงประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดมากนัก เช่นการปฏิบัติตนขณะเกิดแผ่นดินไหว การสร้างบ้านเรือนที่ต้านทานแผ่นดินไหวได้มากขึ้น เช่น คนที่อยากจะสร้างบ้าน เขาควรต้องไปถามใคร เรามีกฎหมายที่บังคับอาคารสาธารณะ และอาคารสูงให้ทำตามกฎระเบียบ แต่สำหรับภาคประชาชน บ้านเรือนทั่วๆ ไป เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น การไปบังคับอาจจะถูกมองว่าไปลิดรอนสิทธิมนุษยชนของเขา แต่ควรจะต้องมีมาตรฐานกลางๆ สำหรับคนที่อยากจะทำนั้นต้องทำแบบไหน ตรงนี้อยู่ในระหว่างที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลา เรื่องโครงสร้างอาคารในรายละเอียดต้องเป็นเรื่องทางวิศวกรกำหนดได้ดีที่สุด

    นี่คือสิ่งที่ต้องมีการบูรณาการ 3 ส่วนนี้เข้าด้วยกัน โดยภาพรวมคือเราต้องรู้ว่าแผ่นดินไหวนั้นจะเกิดได้อย่างไร เกิดในพื้นที่ไหนในประเทศไทย คนจะต้องรู้ว่าจะเอาตัวรอดอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร เวลาเกิดแผ่นดินไหว อาคารบ้านเรือนต้องแข็งแรงพอ

    รวมทั้งกรณีที่เลวร้ายที่สุด ต้องพูดไปถึงว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น หน่วยงานที่ต้องเข้ามาฟื้นฟูต้องเป็นอย่างไร

    หากจะบูรณาการอย่างจริงจัง ต้องใช้งบประมาณสูงมาก ที่ผ่านมาเมื่อมองว่าเป็นปัญหาไกลตัว งบประมาณต่างๆ ก็จะลงไปสู่งานส่วนอื่นที่มองว่าเป็นปัญหาที่เร่งด่วนมากกว่า เช่นเรื่องปัญหาน้ำท่วม หรือภัยแล้ง เป็นต้น แต่อยากให้มองว่าปัญหาภัยแล้งหรือน้ำท่วมเมื่อเกิดแล้วก็จะค่อยๆ ดีขึ้น และใช้เวลาในการกลับมาสู่ภาวะปกติไม่นานนัก ส่วนในเรื่องที่นำมาใช้ศึกษาเรื่องนี้ เมื่อเทียบกับภัยพิบัติด้านอื่นนั้นน้อยมาก หากรัฐบาลจะให้ความสำคัญจะต้องมีการศึกษาเพื่อลงในรายละเอียดว่า ตรงไหนที่ต้องศึกษา จัดอันดับความสำคัญ เรื่องใดก่อนหลังที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถือว่าเรามีบุคลากร ในเชิงวิชาการ ในหลายๆ หน่วยงานที่จะฟอร์มทีมขึ้นมาได้ ส่วนนี้พร้อมที่จะทำได้ในระดับหนึ่งแล้ว

    แนะนำคนไทยรับมือแผ่นดินไหว

    ผศ.ดร.ภาสกร กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คนไทยต้องเรียนรู้ คือ เข้าใจธรรมชาติของแผ่นดินไหวทั้งในแง่สาเหตุการเกิดและความเสี่ยง เราจะมีภูมิต้านทานมากขึ้น อย่าเชื่อข่าวลือ โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย 90% ไม่เป็นความจริง จากคนนั้นคนนี้บอกนั้น ผิดเกือบทั้งหมด และอย่าเชื่อหมอดู เพราะแผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สิ่งเหนือธรรมชาติมาอธิบาย

    รวมถึงจะปฏิบัติตนอย่างไรเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ทั้งในแง่ของการเตรียมพร้อม เช่นหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ต้องรู้ว่าจะไปที่ไหน ไปหาใคร ขณะที่เกิดเหตุต้องรู้ว่าเราจะต้องรักษาตัวรอดอย่างไร

    สำหรับในภาคประชาชน หรือถ้ามีงบประมาณพอ ควรต้องปรับปรุงบ้านเราที่ไม่แข็งแรงให้แข็งแรงในระดับหนึ่งที่จะต้านทานกับแผ่นดินไหวได้บ้างถ้ามันถูกเขย่า เพราะการเสียชีวิตเกือบทั้งหมดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เกิดจากการถูกอาคารพังลงมาทับ ไม่ว่าจะเป็นการพังถล่มลงมาทั้งหลัง หรือพังบางส่วนก็ตาม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บที่เกิดจากแผ่นดินไหวโดยตรง หากอาคารเราแข็งแรงในระดับหนึ่ง ความเสียหายแบบนี้ก็จะลดลงไป

    ในหลายๆ ครั้งจะพบว่าไม่ได้ใช้งบประมาณที่สูงมากมายเลยในการปรับปรุงบ้านให้แข็งแรงที่ระดับหนึ่ง แต่เราอาจคาดการณ์เกินไปเองว่าจะต้องใช้เงินมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสาธารณะ ซึ่งต้องสร้างให้ถูกแบบ เพราะอาจเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต จนกระทบไปถึงตัวอาคาร ปัจจุบันนี้มีมาตรฐานต่างๆ ออกมามาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลเรื่องของการบังคับใช้ และคนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากด้วย

    “เรามีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงขนาดต้องวิตกกังวล เราควรมีความพร้อมในเรื่องนี้ในทุกๆ มิติ ไม่ใช่ด้านใดด้านหนึ่ง” ผศ.ดร.ภาสกรกล่าว

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บีบีซีไทย - BBC Thai
    เผยเทือกเขาหิมาลัยบางส่วนยุบตัวหลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เนปาล

    [​IMG]

    [​IMG]

    นักธรณีวิทยาสหรัฐฯแจ้งว่า ส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยยุบตัวลงราว 1-1.5 เมตร หลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เนปาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเทือกเขาลังตัง หิมาล ที่ทอดตัวเป็นระยะทางยาว 80-100 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงกาฐมาณฑุ

    นักวิจัยจากหน่วยสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียม ทำให้พบถึงการยุบตัวดังกล่าวในพื้นที่ใกล้กับศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวและตอนเหนือของเนปาล อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าในบางพื้นที่มีการยกตัวสูงขึ้นราว 1- 1.2 เมตร เช่นบริเวณกรุงกาฐมาณฑุและเมืองภัคตาปูร์

    ศ. ทิม ไรท์ จากมหาวิทยาลัยลีดส์ของอังกฤษอธิบายว่า การเคลื่อนไหวของแผ่นธรณีทำให้เนปาลถูกบีบอัดทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว โดยการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนใต้กรุงกาฐมาณฑุ ทำให้เกิดการบีบอัดตัวของแผ่นธรณีทางตอนใต้ จนเกิดเป็นแผ่นดินยกสูงขึ้น และในทางตอนเหนือแผ่นธรณีถูกดึงให้ยืดตัวออก จึงเกิดเป็นการยุบตัวลงของเทือกเขาดังกล่าว

    อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เป็นความเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาชั่วคราวหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเท่านั้น เนื่องจากโดยปกติเทือกเขาหิมาลัยจะยกตัวสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอจากการเคลื่อนไหวของแผ่นธรณีหลัก

    ทั้งนี้ การวิเคราะห์ทางธรณีวิทยาดังกล่าวมุ่งไปที่ตอนกลางของเนปาลเท่านั้น โดยยังไม่รวมถึงพื้นที่เขาเอเวอเรสต์ ซึ่งจะต้องมีการตรวจยืนยันความสูงของเขาเอเวอเรสต์ใหม่ ด้วยการสำรวจภาคพื้นดิน การใช้เครื่องวัด GPS และการสำรวจทางอากาศร่วมด้วยต่อไป

    ภาพประกอบ: ยอดเขาเอเวอเรสต์ (บน) แผนภาพแสดงพื้นที่ที่ยุบและยกตัวขึ้นในเนปาล โดยพื้นที่สีเขียว นำ้เงิน และเทา คือพื้นที่ที่ยุบตัว 1-1.5 เมตรตามลำดับ ในขณะที่พื้นที่สีเหลืองและแดงคือพื้นที่ที่ยกตัวสูงขึ้น 1-1.2 เมตรตามลำดับ (ล่าง)
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong

    เหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ ทำให้ 1 ใน 3 หน่วยของโรงไฟฟ้า ต้องปิด การใช้งานลง

    <object id="flashObj" width="480" height="270" classid="clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000" codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=9,0,47,0"><param name="movie" value="http://c.brightcove.com/services/viewer/federated_f9?isVid=1&isUI=1" /><param name="bgcolor" value="#FFFFFF" /><param name="flashVars" value="videoId=4227739893001&linkBaseURL=http%3A%2F%2Fwww.nationtv.tv%2Fmain%2Fcontent%2Fforeign%2F378455099%2F&playerID=3730666464001&playerKey=AQ~~,AAADZLs5Wlk~,2gHYUcEG-Xay6sXpQUsO0VOOq-RbU3xu&domain=embed&dynamicStreaming=true" /><param name="base" value="http://admin.brightcove.com" /><param name="seamlesstabbing" value="false" /><param name="allowFullScreen" value="true" /><param name="swLiveConnect" value="true" /><param name="allowScriptAccess" value="always" /><embed src="http://c.brightcove.com/services/viewer/federated_f9?isVid=1&isUI=1" bgcolor="#FFFFFF" flashVars="videoId=4227739893001&linkBaseURL=http%3A%2F%2Fwww.nationtv.tv%2Fmain%2Fcontent%2Fforeign%2F378455099%2F&playerID=3730666464001&playerKey=AQ~~,AAADZLs5Wlk~,2gHYUcEG-Xay6sXpQUsO0VOOq-RbU3xu&domain=embed&dynamicStreaming=true" base="http://admin.brightcove.com" name="flashObj" width="480" height="270" seamlesstabbing="false" type="application/x-shockwave-flash" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="always" swLiveConnect="true" pluginspage="http://www.macromedia.com/shockwave/download/index.cgi?P1_Prod_Version=ShockwaveFlash"></embed></object>
    เหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงไฟฟ้า รัฐนิวยอร์กสหรัฐ - Nation TV

    เหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงไฟฟ้า รัฐนิวยอร์กสหรัฐ - Nation TV
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong

    [​IMG]

    2โหรดัง! เตือนไทยดินไหวใหญ่ อ้างเขย่าทั่ว ปท. ชี้ระวังถึง12กค. อุตุฯแจงอาจเกิด แค่ ระดับกลางๆ
    โหรดังพยากรณ์เตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในไทย "โสรัจจะ นวลอยู่" นอสตราดามุสเมืองไทย เตือนให้ระวังถึง 12 ก.ค. ชี้รุนแรงชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลจากปรากฏการณ์ ดาวเสาร์ ดาวราหู และดาวมฤตยู โคจรตั้งมุมฉากกัน แถมยังมีดวงอาทิตย์เป็นตัวเร่ง ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทย คาดเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศเริ่มจากทางเหนือก่อนไล่ลงไปใต้ นายกสมาคมโหรนานาชาติก็ระบุ เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว มักตามมาด้วยเหตุแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรืออุบัติภัยร้ายแรง ขณะที่รองอธิบดีกรมอุตุฯแจงรอยเลื่อนในไทยอาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ความรุนแรงปานกลางเท่านั้น
    เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดัง เจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" กล่าวถึงกรณีการทำนายดวงเมืองประเทศไทยกับการเกิดแผ่นดินไหวว่า ในทางโหราศาสตร์มีสัญญาณที่ไม่เคยเกิดมาก่อนตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา คือปรากฏ การณ์ดาว 3 ดวง โคจรในมุมหักศอกกัน ประกอบด้วย ดาวเสาร์ ดาวราหู และดาวมฤตยู ขณะนี้ดาวเสาร์โคจรอยู่ในราศีพิจิก ดาวราหูโคจรอยู่ในราศีกันย์ และดาวมฤตยูกำลังจะโคจรเข้าอยู่ในราศีเมษในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ทำให้เกิดเป็นมุม 3 เหลี่ยม
    นายโสรัจจะกล่าวว่า ดาวทั้ง 3 ดวง ไม่เคยโคจรในลักษณะแบบนี้มาก่อน ถือเป็นมุมที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องภัยพิบัติ นอกจากนี้ ยังมีดาวอาทิตย์อีกหนึ่งดวงที่เป็นตัวเร่ง ซึ่งจะทำมุมกับดาวราหูช่วงกลางเดือนนี้ คือวันที่ 16 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นมุมที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มากชนิดที่ไม่เคยเกิดมาก่อน โดยเกิดขึ้นพร้อมๆ กันทุกภาคทั่วประเทศ โดยจุดศูนย์กลางอาจเกิดทางภาคเหนือ จากนั้นจะมีอาฟเตอร์ช็อกมาเรื่อยๆ ไล่ลงไปยังตอนล่างของประเทศ
    "เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ก่อนหน้านี้มักมีศูนย์กลางเกิดในต่างประเทศ ก่อนส่งผลกระทบต่อเราและประเทศอื่นๆ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจจะเกิดขึ้นในบ้านเราเอง ซึ่งผมก็ได้ทำนายเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เหตุอาจจะเกิดตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงก่อนวันที่ 12 ก.ค. ดังนั้นประเทศไทยต้องระมัดระวัง อย่าประมาท หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องให้ความรู้ประชาชนว่าจะมีวิธีป้องกันอย่างไร เพราะเราไม่เคยประสบและรับมือกับภัยพิบัติแบบนี้ ถ้าเกิดขึ้นอย่างรุนแรงก็คงสร้างความเสียหายหนักแน่นอน" นอสตราดามุสเมืองไทยกล่าว
    ด้านนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า เรื่องแผ่นดินไหวเป็นความรู้ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองและโหราศาสตร์อุตุนิยม ซึ่งตามตำราแบ่งเป็น 2 หลักใหญ่ คือ 1.เมื่อเกิดอุปราคาครั้งสำคัญๆ ขึ้น และมีดวงดาวใหญ่ๆ ตั้งแต่ 3 ดวงขึ้นไป เข้ามาทำมุมสัมพันธ์กับแนวอุปราคามักตามมาด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และอุบัติภัยครั้งสำคัญ
    "2.แม้ไม่มีปรากฏการณ์อุปราคา แต่เมื่อดาวใหญ่ เช่น ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ หรือดาวมฤตยู เข้ามาทำมุมที่สำคัญก็จะเกิดอุบัติภัยในทำนองเดียวกันเช่นกัน ฉะนั้น จะเห็นว่าตอนนี้เป็นช่วงหลังการเกิดอุปราคามาได้ 1 เดือน และมีดาวบนท้องฟ้าโคจรสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราหูสถิตที่ราศีกันย์ซึ่งเป็นธาตุดิน ส่วนพระมฤตยูเล็งพระราหูอยู่ที่ราศีมีนซึ่งเป็นธาตุน้ำ อยู่ในนวางค์ขาด (แนวโคจรของดวงดาวอยู่ในตำแหน่งที่เป็นโทษ) โดยมีดาวพฤหัสบดีทำมุมตรีโกณอยู่ตรงราศีกรกฎ ซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ" นายกสมาคมโหรนานาชาติกล่าว
    นายภิญโญกล่าวว่า นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดียังส่งกระแสไปถึงดาวพระเสาร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ที่โคจรถอยหลังอยู่ตรงราศีพิจิก ดาวเสาร์ถูกดาวอังคารที่อยู่ตรงราศีพฤษภเล็งทำมุม 180 องศาสนิท เพราะฉะนั้นที่ดาวเหล่านี้ทำมุมสัมพันธ์กันดังกล่าว จะนำมาซึ่งอุบัติภัยธรรมชาติเกี่ยวกับน้ำ ธรณีพิบัติ รวมไปถึงไฟด้วย ส่วนความรุนแรงก็จะแรงแบบเห็นได้ชัดเจน แต่มั่นใจว่าไม่ถึงขนาดแผ่นดินทางภาคใต้หรือแหลมมลายูจะหายไป อย่างที่เป็นข่าว แต่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเป็นที่น่าวิตก เพราะดาวทำมุมค่อนข้างแรง การทำนายทางโหราศาสตร์ที่ว่ามานี้ เป็นเครื่องมือเตือนภัยให้ช่วยกันเตรียมการป้องกัน และรับมือเพื่อบรรเทาความเสียหาย
    วันเดียวกันนายบุรินทร์ เวชบรรเทิง รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ธรรมชาติของแผ่นดินไหวเกิดจากแหล่งกำเนิดภายใน แหล่งแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในโลกมักเกิดในแนวปะทะของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเรา จุดที่ใกล้ที่สุดคือฝั่งอันดามัน หากเกิดการปะทะที่ใหญ่มากก็อาจส่งแรงสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้ แต่ที่นักวิชาการพูดว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศไทยนั้น ตามข้อมูลไทยมีรอยเลื่อนมีพลัง 14 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มก็มีแขนงของมันเอง ซึ่งรอยเลื่อนประมาณร้อยละ 80-90 มีโอกาสทำให้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับกลางๆ
    นายบุรินทร์กล่าวอีกว่า รอยเลื่อนเหล่านี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วแต่มีขนาดต่ำกว่า 6.5 แม็กนิจูด แต่การเฝ้าระวังแผ่นดินไหวอิงตามประวัติการเกิดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาคุณลักษณะของรอยเลื่อนแขนงต่างๆ ด้วย ซึ่งนักธรณีวิทยาใช้วิธีการขุดลอกสำรวจ แต่ที่ผ่านมาเราสำรวจไปได้แค่บางแขนงเท่านั้น จึงไม่สามารถระบุได้ว่ารอยเลื่อนใดมีความเสี่ยงบ้าง แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดต่ำกว่า 7 แม็กนิจูด ความรุนแรงขึ้นอยู่กับพื้นที่ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณค่าเท่านั้น
    สำหรับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่คนกำลังกังวลอยู่ตอนนี้ ซึ่งมีการอ้างอิงข้อมูลการเคลื่อนแผ่นเปลือกโลกในสเกลระดับโลก ยอมรับว่าเรายังมีความรู้ไม่มากพอ แต่นักธรณีวิทยาก็ทำงานอยู่ ยืนยันว่าหากมีการเกิดจริงจะไม่กระทบถึงประเทศไทยเนื่องจากระยะทางไกลมาก ส่วนในประเทศไทยแผ่นดินไหวเกิดด้วยแหล่งกำเนิดภายใน บริเวณรอยเลื่อนมีพลังทางภาคเหนือซึ่งมีมากถึง 7-8 รอยเลื่อน
    "ระบบการป้องกันภัยแผ่นดินไหวต่างจากภัยรูปแบบอื่น อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น ถ้ารู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่ใกล้รอยเลื่อนมีพลังก็อาจไปตั้งบ้านเรือนที่อื่น หรือสร้างอาคารให้เหมาะสมรับความเสี่ยง แผ่นดินไหวเกิดจากการขยับตัวเปลือกโลก บางครั้งมีปัจจัยบางอย่างวัดได้ เช่น การเคลื่อนตัวผิดปกติ ความเครียดสะสมมากขึ้น การปล่อยคลื่นกระแสวิทยุ ระดับน้ำใต้ดินเปลี่ยนแปลง หรือการปล่อยแก๊สเรดอน ส่วนการพยากรณ์แผ่นดินไหวนั้นทำได้ แต่ไม่แน่นอน มีความเม่นยำไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การพยากรณ์แผ่นดินไหวถูก 1 ครั้ง สามารถช่วยชีวิตคนได้มาก บางประเทศจึงมีการศึกษาวิจัยจนเกิดระบบและเครื่องมือป้องกันที่ดี" รองอธิบดีกรมอุตุฯ กล่าว
    Cr.วชิรศักย์ วงค์ธรรม / ข่าวสด
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong

    [​IMG]

    เตือนไทยแผ่นดินไหวใหญ่!! โหรทำนายกลาง เดือนก.ค.นี้
    'นอสตราดามุสเมืองไทย'ชี้ดวงเมืองปีนี้แรงสุดๆ ระบุไม่เคยเกิดตั้งแต่ตั้งประเทศมาก่อน ฟันธงมีสิทธิเจอแผ่นดินไหวใหญ่ ก่อนหรือหลัง 12 ก.ค.นี้ จุดศูนย์กลางอยู่ในประเทศ เตือนใต้-เหนือจุดเสี่ยง แนะภาครัฐเตรียมรับมืออย่าประมาท
    เมื่อวันที่ 9 พ.ค.นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดัง หรือฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" กล่าวทำนายว่าดวงเมืองประเทศไทยปีนี้แรง ส่งผลจากช่วงนี้ไปและรุนแรงสุดในเดือน ก.ค.มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มีจุดศูนย์กลางในประเทศไทยเอง ซึ่งไม่ใช่ภัยพิบัติทางธรรมชาติธรรมดา ขอเตือนหน่วยงานรัฐเร่งให้ข้อมูลแก่ประชาชนเพื่อตระเตรียมล่วงหน้ามีการซักซ้อมในจุดที่เคยเกิดแผ่นดินไหวอาจลดความสูญเสียลงได้บ้างเพราะการเกิดแผ่นดินไหวไม่มีนักวิชาการหรือประเทศที่เก่ง ๆ อย่างญี่ปุ่น ไม่สามารถหาสาเหตุของการเกิดได้ นอกจากให้ประชาชนมีความรู้และไม่ประมาท ซึ่งคนไทยต้องระมัดระวังการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในภาคใต้ และภาคเหนือของไทย
    "ไทยจะเกิดไหวรุนแรงเพราะดวงบ้านเมืองประเทศไทยจะพบอะไรที่ไม่เคยเกิดในอดีต เริ่มบอกเหตุโดยดวงดาว เหตุอันดับสองคือเกิดไหวทั่วโลกพลังงานส่งถึงกันอาจถึงเวลาของโลกจากน้ำมือมนุษย์ตักตวงจากทรัยพยากรมากไป"นายโสรัจจะ กล่าว
    โหรดัง กล่าวอีกว่า เหตุหลักเพราะดวงดาวที่เกิดการเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะดาวมฤตยูเกี่ยวกับแผ่นดินไหวโดยตรง ส่วนดาวอาทิตย์เข้าราศรีพฤษภเป็นตัวเร่งให้เกิดช่วงกลางเดือนนี้ต้องระวังพอดาวมฤตยูเข้ามาทับดวงเมืองจะมาเกิดไหวครั้งใหญ่ ทางภาคเหนือ และภาคใต้มีโอกาสใหญ่โตขึ้น เกิดศูนย์กลางที่เราแทนที่จะอยู่เกาะสุมาตรา ส่งแรงกันไปทั่วเหมือนที่ประเทศเนปาล เพราะดวงบ้านเมืองไทยมีอะไรเชื่อมกันกับดวงบ้านเมืองเนปาลคล้ายกันในเรื่องภัยพิบัติ
    นายโสรัจจะ กล่าวว่า แผ่นดินไหวประเทศเนปาลส่งแรงมาถึงเมืองไทยเป็นเหตุผลรอง แต่เหตุผลหลักคือ ดวงเมืองไทยที่ตกอยู่ในมุมสามเหลี่ยมหักศอกครอบไว้ ตนยืนยันว่าตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมาไม่เคยเกิดเหตุดวงดาวใหญ่ ๆทำมุมสามเหลี่ยมปกคุมเมืองอย่างนี้ โดยดาวเสาร์กับดาวพระราหูอยู่ราศีกันย์ ดาวเสาร์เล็งราศีพิจิก ดาวมฤตยูย้ายราศรีเมษ ตั้งแต่สงกรานต์เป็นต้นมา พอกลางเดือนนี้ดาวอาทิตย์เข้าราศรีเมษ เข้าราศีพฤษภก็จะทำมุมกันทั้งดาวเสาร์ดาวราหู และดาวมฤตยูในวัน 12ก.ค.อาจเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ก่อนหรือหลังช่วงนั้น ประชาชนอย่าประมาทให้เตรียมพร้อมไว้
    นายโสรัจจะ กล่าวอีกว่าอิทธิพลจากดาวมฤตยูเข้าราศีเมษ ส่งผลทุกด้านทั้งเปลี่ยนแปลงใหญ่การเมืองไทยและ เศรษฐกิจ เริ่มส่งผลหลังสงการนต์มา ซึ่งช่วงกลางเดือนนี้จะแรงมากขึ้นและแรงมากในเดือน ก.ค. ขอเตือนปัญหาเศรษฐกิจด้วยปีนี้หนักมากอย่างที่คนไทยไม่เคยพบเราจะปรับตัวไม่ค่อยทันกัน ซึ่งมีปัญหาถึงสองปีกว่าประชาชนต้องประหยัดมาก ๆ อย่าใช้จ่ายเกินตัว
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    9 พ.ค. อันตราย! ถนนสายเสนา-ลาดบัวหลวงกรุงเก่าทรุดตัวกว่า 100 เมตร จี้เร่งแก้ไขด่วน

    [​IMG]

    ถนนเลียบคันคลองสายเสนา-ลาดบัวหลวง พื้นที่เสนา พระนครศรีอยุธยา ทรุดตัวเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ชาวบ้านต้องนำท่อนไม้และแผ่นป้ายติดเตือนผู้ใช้ถนนให้ระวัง จี้หน่วยงานรับผิดชอบแก้ไขด่วน

    วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาว่ามีถนนเลียบคันคลองสายเสนา - ลาดบัวหลวง หมู่ 10 ต.สามตุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ทรุดตัวเป็นระยะทางยาว จึงเดินทางไปตรวจสอบ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 14-15 พบกลุ่มชาวบ้านกำลังช่วยกันนำท่อนไม้และแผ่นป้ายติดเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางเกรงจะเกิดอันตราย

    โดยถนนเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนลาดยางเลียบคันคลองเกิดการทรุดตัวลึกประมาณ 1.30 เมตร ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร ตัวถนนสไลด์ลงไปในคันคลอง เนื่องจากตอนนี้น้ำแห้งขอดคลอง รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ส่วนรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋งต้องใช้ความระมัดระวังที่จะต้องผ่านเส้นทางจุดเกิดเหตุ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้เส้นทางดังกล่าวจำนวนมาก จึงเลี่ยงไม่ได้

    นายธีรยุทธ พนารี อายุ 39 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.สามตุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตนเองผ่านมาเมื่อตอนเช้าเห็นถนนยุบตัวเล็กน้อย พอขับผ่านมาอีกรอบเห็นทรุดตัวหนักขึ้นจึงไปเอาไม้มาปักป้องกันไว้ เพื่อป้องกันอันตรายเนื่องจากถนนบริเวณนี้เป็นทางตรงรถมาเร็วอาจไม่ทันระวัง

    "อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขโดยเร็วเนื่องจากกลัวจะเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียได้ เนื่องจากกลางคืนจะมืดมากมองไม่เห็นทาง"

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    9 พ.ค. คิม จอง อึน โวลั่นเจ๋งจริง! เกาหลีเหนือซ้อมยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำสำเร็จ

    [​IMG]

    เกาหลีเหนือเปรี้ยวไม่เลิก...ซ้อมยิงขีปนาวุธอีกแล้ว คราวนี้เป็นการซ้อมยิงจากเรือดำน้ำ ขณะที่ ‘คิม จอง อึน’ เดินทางไปดูด้วยตนเอง คุยโวเป็นความสำเร็จที่มหัศจรรย์ และนี่คือ ‘ระเบิดเวลา’ สำหรับใช้จัดการกับชาติศัตรู

    สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและรอยเตอร์ อ้างข่าวจากสำนักข่าว KCNA กระบอกเสียงของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ เกาหลีเหนือ รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. 58 ว่า กองทัพเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จจากการซ้อมยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำในทะเล ซึ่งอยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 8 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น

    โดยนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือได้เดินทางไปดูการซ้อมยิงขีปนาวุธด้วยตนเอง และกล่าวถึงการซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งนี้ว่า เป็นความสำเร็จที่มหัศจรรย์ นอกจากนั้น นายคิมยังเรียกขีปนาวุธนี้ว่า คือ ‘ระเบิดเวลา’ ที่จะใช้ในการตอบโต้ศัตรูของเกาหลีเหนือได้ทุกเวลา ขณะที่ ซีเอ็นเอ็น ชี้ว่า การใช้คำพูดดังกล่าวของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ถือเป็นคำพูดที่แตกต่างไปจากการพูดถึงการซ้อมยิงขีปนาวุธหลายครั้งที่ผ่านมา

    ซีเอ็นเอ็น ยังระบุว่า ข่าวกองทัพเกาหลีเหนือซ้อมยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ มีขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากรัฐบาลกรุงเปียงยางได้ขู่จะเปิดฉากยิงใส่เรือรบเกาหลีใต้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า หากยังแล่นเข้ามาในน่านน้ำติดพรมแดนของสองประเทศ ซึ่งยังเป็นเขตแดนพิพาทที่กันอยู่ ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ตอบกลับมาว่า หากเกาหลีเหนือยิงเรือรบเกาหลีใต้จริง ก็จะตอบโต้การรุกรานของเกาหลีเหนือเช่นกัน

    คิม จอง อึน โวลั่นเจ๋งจริง! เกาหลีเหนือซ้อมยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong ได้แชร์รูปภาพของ อานนท์ สุขใจจริง

    กฟผ.ยัน!! แผ่นดินไหวเนปาล-พังงา ไม่กระทบเขื่อน!! ขอปชช.อย่าตื่นตระหนก
    2015-05-08 / 19:13:59 น.

    [​IMG]

    ผอ.กฟผ. ยัน แผ่นดินไหวเนปาล และพังงา ไม่ส่งผลกระทบใดต่อเขื่อนตามที่มีกระแสตื่นตระหนก ชี้เขื่อนสร้างมาแข็งแรงพอ

    วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเดชา บุณยะกาญจน ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยถึงกรณีแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล แรงสั่นสะเทือนขนาด 7.8 และแผ่นดินไหวที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา แรงสั่นสะเทือนขนาด 4.6 ที่เกิดึ้นนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์, เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนรัชชประภา เนื่องจากเครื่องมือตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งไว้ที่เขื่อนต่างๆ ตรวจพบว่าแรงแผ่นดินไหวที่มาถึงเขื่อน ต่ำกว่าค่าที่ออกแบบให้เขื่อนรับแรงแผ่นดินไหวไว้มาก

    ทั้งนี้ จากที่มีกระแสข่าวว่า เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ อาจแตกจากแผ่นดินไหว เนื่องจากทั้ง 2 เขื่อนตั้งอยู่บนรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ทำให้ จ.กาญจนบุรี อาจเกิดน้ำท่วมสูงถึง 22 เมตรนั้น ทาง กฟผ.ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการวิเคราะห์ความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณต่อแรงกระทำแผ่นดินไหว พบว่าเขื่อนทั้ง 2 สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้ถึง ระดับ 7.0 โดยไม่พังทลาย

    นอกจากนี้ หากเกิดแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากตัวเขื่อนตั้งแต่ 60 กิโลเมตรขึ้นไป จะไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนเลย

    กรณีที่มีผู้วิตกกังวลว่า หากเขื่อนแตก จ.กาญจนบุรี จะเกิดน้ำท่วมสูงถึง 22 เมตรนั้น เป็นการจำลองกรณีที่เขื่อนเกิดพังทลายทั้งหมดตลอดความยาวของตัวเขื่อน ซึ่งไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง จากลักษณะการพังทลายของเขื่อนทั่วโลกที่ผ่านมา น้ำจะกัดเซาะทำให้เกิดการพังทลาย เป็นช่องเปิดเพียงบางส่วนของตัวเขื่อนเท่านั้น

    ซึ่ง จากกรณีศึกษาของ กฟผ.ที่ได้จำลองเหตุการณ์ของเขื่อนศรีนครินทร์พิบัติ จะทำให้น้ำท่วม จ.กาญจนบุรี สูง 3.20 เมตร โดยน้ำจะเคลื่อนที่จากเขื่อนถึงตัวจังหวัดใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมง

    อย่างไรก็ตาม กฟผ.ได้ดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนเป็นประจำ และภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเตรียมพร้อมรับมือการเกิดภาวะวิกฤติของเขื่อนเนื่องมาจากการเกิดแผ่นดินไหวและภัยธรรมชาติ โดยได้มีการดำเนินการซ้อมแผนอพยพในสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัด (ปภ.) อย่างสม่ำเสมอ

    ที่มา manager.co.th
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong ได้แชร์โพสต์ของ บีบีซีไทย - BBC Thai

    [​IMG]

    จีนและเวียดนามขยายโครงการถมทะเล สร้างเกาะเทียมในทะเลจีนใต้

    รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า จีนขยายพื้นที่การถมทะเลสร้างเกาะเทียมในทะเลจีนใต้เพิ่มอีกราว 5,000 ไร่ ในพื้นที่ 5 จุดในหมู่เกาะสแปรตลี่ย์ นับแต่ต้นปี 2557

    รายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่า ยังไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงของโครงการขยายพื้นที่ดังกล่าว แต่เชื่อว่าจีนกำลังพยายามอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ ด้วยการเข้าไปก่อสร้างโครงการด้านการทหาร

    ด้านศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เวียดนามได้ขยายพื้นที่ถมทะเลเพิ่มอีกราว 52 ไร่ในหมู่เกาะที่เวียดนามอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้เช่นกัน และดูเหมือนเป็นการก่อสร้างโครงการด้านการทหาร

    ทั้งนี้ จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ซึ่งกล่าวหาว่า จีนเข้าครอบครองพื้นที่อย่างผิดกฎหมายเพื่อก่อสร้างเกาะเทียมโดยอาจมีจุดประสงค์ในด้านการทหาร แต่จีนอ้างว่าโครงการดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายและเป็นสิ่งที่จำเป็นในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ก่อนบรรดาผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวในที่ประชุมสุดยอดว่าโครงการถมทะเลในหมู่เกาะในทะเลจีนใต้นั้นเสี่ยงต่อการทำลายสันติสุขในภูมิภาค

    ภาพประกอบ: เกาะแซน เคย์ที่เวียดนามครอบครองเมื่อปี 2011 (ซ้ายบน) เกาะเดียวกันในปี 2014 (ซ้ายล่าง) ภาพการถมทะเลในเขตหมู่เกาะสแปรตลี่ย์ของจีน (ขวา)
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เยเมนได้พักหายใจ กบฏฮูตียอมรับข้อตกลงหยุดยิง 5 วันของซาอุฯ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2558 15:05 น.

    [​IMG]


    รอยเตอร์ - กบฏฮูตีในเยเมนได้ตัดสินใจในวันอาทิตย์ (10 พ.ค.) ยอมรับข้อเสนอหยุดยิง 5 วันของซาอุดีอาระเบีย แต่ได้เตือนว่าพวกเขาพร้อมจะตอบโต้หากมีการละเมิดข้อตกลง

    ซาอุดีอาระเบียได้ระบุเมื่อวันศุกร์ ว่าข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันอังคาร หากฝ่ายกบฏฮูตียอมรับข้อเสนอนี้

    ด้วยการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา ฝ่ายพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุฯ ได้เริ่มใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพวกฮูตีและบรรดาทหารที่ภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูรัฐบาลของประธานาธิบดี อับเบด รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี

    ขณะที่ทางฝ่ายฮูตีบอกว่า ปฏิบัติการของพวกเขานั้นมุ่งเป้าไปที่การสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธอัลกออิดะห์และปราบปรามคอร์รัปชั่น

    "การละเมิดข้อตกลงด้วยวิธีทางทหารใดๆ จากพวกอัลกออิดะห์และพวกที่คอยยืนเคียงข้างให้การสนับสนุนพวกมัน จะต้องได้รับการตอบโต้โดยกองทัพและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง รวมถึงกองกำลังคณะกรรมการประชาชน" พันเอกชารัฟ ลุคมัน โฆษกของฝ่ายฮูตี ระบุในคำแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวซาบา

    คำแถลงฉบับหนึ่งของฝ่ายฮูตีที่ออกมาเมื่อคืนวันเสาร์ ระบุว่า พวกเขาอาจจะตอบรับในเชิงบวกต่อควาสมพยายามใดๆ ก็ตามที่จะช่วยขจัดความทุกข์ยากให้แก่ชาวเยเมน ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพวกเขาจะตอบรับข้อเสนอหยุดยิง

    ฮูตียังได้ขอให้การเจรจาทางการเมืองภายใต้การดูแลของสหประชาชาติกลับมาดำเนินการต่อเพื่อจะได้ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในเยเมน

    การหยุดยิงครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่บรรดาผู้บริจาคได้ร่วมกันประสานงานขนส่งสิ่งของให้ความช่วยเหลือ จะเริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น

    ความกังวลของนานาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมได้เพิ่มมากขึ้น จากการสู้รบในเยเมนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,300 ราย ผู้คนในท้องถิ่นต้องทิ้งบ้านเพื่อหนีเอาตัวรอด นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายก็นำไปสู่การขาดแคลนอาหาร ยาและเชื้อเพลิง

    ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ฝ่ายพันธมิตรอาหรับได้บอมบ์ฐานที่มั่นของพวกฮูตีในภาคเหนือของเยเมนหนักมากขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวบ้านอพยพออกจากจังหวัดซาอาดา ซึ่งเป็นบริเวณที่ให้การสนับสนุนพวกฮูตีมากที่สุด

    มีการโจมตีทางอากาศ 3 รอบที่มุ่งเป้าทำลายที่พักของอดีตประธานาธิบดีซาเลห์เมื่อช่วงรุ่งสางวันอาทิตย์ แต่สำนักข่าวกาบาร์ของเยเมนระบุว่า ซาเลห์และครอบครัวปลอดภัยดี


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พบหวัดนกสายพันธุ์ H5N2 ระบาดในรัฐไอโอวา สั่งฆ่าไก่มากกว่า 4 ล้านตัว หวั่นเชื้อลุกลาม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2558 03:49 น. (แก้ไขล่าสุด 10 พฤษภาคม 2558 11:13 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมลรัฐไอโอวาตรวจพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 ในฟาร์มเลี้ยงไก่ 2 แห่ง ส่งผลให้ต้องมีการสั่งฆ่าไก่มากกว่า 4 ล้านตัว หวั่นเชื้อมรณะลุกลาม

    รายงานข่าวล่าสุดที่มีการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 ในฟาร์มเลี้ยงไก่ 2 แห่งที่รัฐไอโอวา ส่งผลให้ต้องมีการสั่งฆ่าไก่เพิ่มอีกมากกว่า 4 ล้านตัว

    ขณะที่จำนวนของไก่ที่ถูกสั่งฆ่าในรัฐแห่งนี้ส่อเค้าพุ่งสูงแตะระดับ 25 ล้านตัว หรือเกินกว่า 40% ของไก่ที่เลี้ยงในรัฐนี้ เช่นเดียวกับจำนวนไก่งวงอีก 750,000 ตัว

    ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกมายืนยันว่าพบการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 แล้วใน 13 มลรัฐนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีการสั่งฆ่าสัตว์ปีกทั่วเมืองลุงแซมไปแล้วมากกว่า 30 ล้านตัว แต่ยังไม่พบการติดต่อสู่มนุษย์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โคลอมเบียประกาศเลิกใช้สาร “กลัยโฟเซต” พ่นทำลายไร่โคคา หลัง WH0 ออกโรงเตือนเสี่ยงมะเร็ง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2558 09:32 น. (แก้ไขล่าสุด 10 พฤษภาคม 2558 11:17 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - โคลอมเบียประกาศเลิกใช้สารปราบวัชพืช “กลัยโฟเซต” ในการทำลายต้นโคคาในประเทศ ซึ่งเป็นพืชที่นำมาใช้ผลิตยาเสพติดโคเคน หลังจากองค์กรอนามัยโลก WHO ประกาศเตือนความเสี่ยงที่อาจทำให้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง

    บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (10) ว่า สารปราบวัชพืชกลัยโฟเซตนั้นได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ใช้ในโครงการกวาดล้างยาเสพติดในทวีปอเมริกาใต้เพื่อทำลายไร่โคคา ซึ่งสามารถนำมาสกัดเป็นยาเสพติดโคเคนได้สำเร็จ

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส (Juan Manuel Santos) ออกแถลงว่า โคลอมเบียจำเป็นต้องหาเครื่องมืออื่นมาทดแทนเพื่อทำลายการทำไร่โคคาต่อไป และแผนกปราบปรามยาเสพติดโคลอมเบียยังมีเวลาเตรียมหาวิธีการใหม่ที่ปลอดภัยมากขึ้นแค่ตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อจะทำลายการทำไร่โคคาในประเทศ

    “ผมจะร้องขอเจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลอมเบียในคณะปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติโคลอมเบีย ให้ประกาศห้ามการพ่นสารรปราบวัชพืชกลัยโฟเซตในการทำลายการทำไร่โคคาในที่ประชุมของคณะครั้งหน้า” ซานโตสแถลง

    และประธานาธิบดีโคลอมเบียแถลงเพิ่มเติมโดยอ้างอิงไปถึงการออกมาเตือนของ WHO ที่เกี่ยวโยงกับโรคมะเร็งว่า “ในการศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขโคลอมเบีย รวมไปถึงได้ให้คำแนะนำ ได้ยืนยันว่าสารกลัยโฟเซตนั้นมีอันตรายถึงชีวิตจริง” และซานโตสยังย้ำว่า “แต่กระนั้นโคลอมเบียจะยังคงเข้มงวดต่อการต่อต้านยาเสพติดต่อไป”

    บีบีซีรายงานว่า โครงการกวาดล้างยาเสพติดอย่างขุดรากถอนโคนของโคลอมเบียเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่โคลอมเบียจะเพ่งเล็งไปยังพื้นที่ในเขตอิทธิพลของกบฏโคลอมเบีย “Farc” ที่รัฐบาลโคลอมเบียอ้างว่า กลุ่ม Farc ได้ใช้เม็ดเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดโคเคนในการซื้ออาวุธสงครามเพื่อสู้กับรัฐบาลโคลอมเบีย

    นอกจากนี้ สื่ออังกฤษยังชี้ว่า ประเทศอื่นๆในแถบนี้ที่มีปัญหาการลักลอบการทำไร่โคคา รัฐบาลของชาตินั้นๆ ต่างใช้วิธีพ่นสารปราบวัชพืชกลัยโฟเซตในการทำลายด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงระบุว่า สารเคมีที่ถูกพ่นลงมานั้นได้ทำลายไร่กาแฟทั้งไร่ รวมไปถึงผลผลิตการเกษตรอื่นๆ

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เพนตากอนชี้ “โครงการอวกาศจีน” รุดหน้าไว-หวั่นซุ่มพัฒนา “อาวุธต้านดาวเทียม”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2558 11:28 น. (แก้ไขล่าสุด 10 พฤษภาคม 2558 11:01 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยโครงการอวกาศของจีนรุดหน้าไวที่สุดในโลก โดยมีการพัฒนาเครื่องยิงเลเซอร์ เครื่องตัดสัญญาณดาวเทียม และอาวุธอื่นๆ ที่มุ่งโจมตีทรัพย์สินด้านอวกาศของประเทศคู่แข่ง

    เพนตากอนได้ส่งรายงานประจำปีว่าด้วยปัญหาการทหารและความมั่นคงที่เกี่ยวพันกับจีนแก่สภาคองเกรส โดยระบุว่าจีนได้ตระเตรียม “โครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินขนาดใหญ่” เพื่อผลิต ส่ง และควบคุมดาวเทียม

    รายงานนี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามของเพนตากอนที่จะย้ำให้เห็นถึงภัยคุกคามต่อระบบดาวเทียมของอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ได้เสนองบประมาณเสริม 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อปรับปรุงระบบดาวเทียมทหารและดาวเทียมสอดแนมให้มีความปลอดภัย และทนต่อการโจมตีมากยิ่งขึ้น

    จากข้อมูลในเดือน ต.ค. ปี 2014 สหรัฐฯ พบว่าจีนส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ 16 ครั้ง ซึ่งช่วยให้เครือข่ายดาวเทียมสื่อสารและสอดแนมแผ่ขยายออกไปมาก และยังมีดาวเทียมดวงหนึ่งซึ่งสามารถเก็บภาพถ่ายที่มีความละเอียดคมชัดสูง

    รายงานฉบับนี้ยังเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี “ต่อต้านอวกาศ” ของปักกิ่งซึ่งสหรัฐฯ กำลังวิตกไม่น้อย แม้จีนจะยืนยันว่าใช้พื้นที่อวกาศเพื่อจุดประสงค์เชิงสันติเท่านั้นก็ตาม

    “สหรัฐฯ กำลังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่อต้านอวกาศของจีนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน” ไบรอัน วีเดน จากมูลนิธิ ซีเคียวร์ เวิลด์ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร กล่าว

    “เห็นได้ชัดว่าเพนตากอนไม่ไว้วางใจในศักยภาพด้านอวกาศและต่อต้านอวกาศของจีนที่กำลังรุดหน้าไปมาก”

    จรวดที่จีนส่งขึ้นไปในอวกาศเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2014 ไม่ได้ทำลายดาวเทียมหรือก่อให้เกิดขยะอวกาศ แต่มีรายงานที่อ้างอิงหลักฐานว่า มันเป็นการ “ติดตามผล” ทดสอบเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2007 ซึ่งจีนสามารถทำลายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาดวงหนึ่งที่ขัดข้อง และก่อให้เกิดขยะอวกาศนับร้อยๆ ชิ้น

    ก่อนหน้านั้นในเดือน พ.ค. 2013 จีนก็ได้ส่งยานลำหนึ่งขึ้นสู่อวกาศ โดยมีวิถีโคจรสูงถึง 30,000 กิโลเมตรใกล้เคียงกับวงโคจรค้างฟ้า (geosynchronous orbit) ซึ่งเป็นระดับความสูงของดาวเทียมสื่อสารและดาวเทียมสำรวจโลก

    เพนตากอนชี้ว่า ยานลำดังกล่าวกลับสู่วงโคจรของโลกในเวลาเพียง 9.5 ชั่วโมง ซึ่งไม่เหมือนการส่งยานอวกาศ ขีปนาวุธ หรือจรวดที่ใช้เพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์ทั่วๆไป และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจต่อต้านอวกาศ

    เมื่อสหรัฐฯ และองค์กรอื่นๆ ตั้งคำถามเกี่ยวกับจุดประสงค์และรายละเอียดของการส่งยานอวกาศครั้งนั้น รัฐบาลจีนก็ทำเป็นนิ่งเฉย

    เพนตากอนระบุด้วยว่า เอกสารทางทหารของจีนมีถ้อยคำเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้อง “ทำลาย สร้างความเสียหาย และรบกวนระบบสอดแนมหรือดาวเทียมสื่อสารของชาติศัตรู” เพื่อทำให้ฝ่ายศัตรู “หูหนวกตาบอด”


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    9 พ.ค. แบ่ง 4 กลุ่ม 76 จังหวัดทั่วไทย บ้านใครเสี่ยง-ไม่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว

    [​IMG]

    เปิดรายชื่อการแบ่งกลุ่มจังหวัดเสี่ยงแผ่นดินไหวทั่วไทย 4 กลุ่ม จากการจัดทำของกรมทรัพยากรธรณี พบ 3 จังหวัด เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก เสี่ยงสุด ขณะที่อีก 16 จังหวัดปลอดภัยไม่มีความเสี่ยง

    เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) ในสังกัดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ มท 0616/ว 1661 เรื่องการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่ม ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้อำนวยการจังหวัด โดยกล่าวอ้างถึง เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 4.6 เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลา 04.18น. และขนาด 4.5 เมื่อเวลา 00.30น. โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในทะเลบริเวณอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ซึ่งทำให้สามารถรับรู้การสั่นไหวได้ในจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่

    ทั้งนี้จดหมายฉบับดังกล่าวมีการแนบ "รายชื่อจังหวัดเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของประเทศไทย" มาด้วย 1 ชุด ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่าเป็นรายชื่อการแบ่งเขตจังหวัดเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของประเทศไทยที่จัดทำโดยกรมทรัพยากรธรณี ทั่วประเทศจำนวน 76 จังหวัด

    รายชื่อดังกล่าวมีการแบ่งกลุ่มจังหวัดออกเป็น 4 เขต ด้วยกันคือ เขตที่ไม่มีความเสี่ยง, เขตที่มีความเสี่ยงน้อยแต่อาจมีความเสียหายบ้าง, เขตที่มีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายในระดับน้อยถึงปานกลาง และเขตที่มีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายระดับปานกลาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

    เขต 0 : ไม่มีความเสี่ยง จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่
    จังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด

    เขต 1 : มีความเสี่ยงน้อยแต่อาจมีความเสียหายบ้าง จำนวน 29 จังหวัด ได้แก่
    จังหวัดสกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู นครพนม หนองคาย บึงกาฬ เลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส

    เขต 2ก : มีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายในระดับน้อยถึงปานกลาง จำนวน 28 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และจังหวัดสตูล

    เขต 2ข : มีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายในระดับปานกลาง จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก

    http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052920
     
  18. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    รถถัง Armata T-14 ของรัซเซีย คือรถถังอมตะ นี่เองเอาภาษาบ้านเราไปใช่ ^^
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    อิหร่านและบราซิลประสานพลังสร้างโรงกลั่นน้ำมันในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา

    [​IMG]

    --------------
    หันมาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศที่สหรัฐฯมองว่าเป็นศัตรูและหาทางทำลายในทุกทางครั้งแล้วครั้งเล่าบ้าง เมื่อวานนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อิหร่านกับบราซิลลงนามข้อตกลงเบื้องต้นในการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา
    จากรายงานของสำนักข่าว Mehr ของอิหร่านบอกว่า นาย Abbas Kazemi รมช.กระทรวงน้ำมันของอิหร่านกล่าวว่า "หากข้อตกลงขั้นสุดท้ายระหว่างอิหร่านกับบราซิลบรรลุผล ทั้งสองประเทศก็จะสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ขึ้นในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตน้ำมันได้วันละ 300,000 บาร์เรลต่อวัน การกลั่นน้ำมันดิบเพียงอย่างเดียวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อความมั่นคงระยะยาวในการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน นอกจากนี้กรุงเตหะรานก็กำลังเจรจากับทางบริษัทของอินเดียเพื่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันในประเทศอินเดียที่มีขีดความสามารถในการผลิตน้ำมันดิบได้ถึง 400,000 (ต่อวัน?) อีกด้วย"
    เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาคณะผู้แทนระดับสูงของอินเดียได้เดินทางไปยังกรุงเตหะรานประเทศอิหร่านเพื่อเจรจาข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันในอิหร่าาน อินเดียเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของอิหร่านรองจากจีน
    นี่ก็เป็นอีกความเคลื่อนไหวหนึ่งของอิหร่านที่ถูกสหรัฐฯกลั่นแกล้ง เนื่องจากไม่ยอมให้สหรัฐฯสามารถเข้าไปควบคุมกิจการน้ำมันของตนเองได้อย่างอิรัค อิหร่านก็หันมาจับมือกลับกลุ่ม BRICS ที่มีทั้งจีน รัสเซีย และอินเดียหนุนก็ได้ สหรัฐฯพยายามทำตัวกร่างไม่ให้ประเทศที่ตัวเองแซงชั่นค้าขายกับกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ ประเทศที่ถูกสหรัฐฯกดหัวเพื่อที่จะเอารัดเอาเปรียบก็จะหาช่องทางในการอยู่รอดของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐฯ โดยหันไปค้าขายกันเองในกลุ่มประเทศที่เป็นพันธมิตรและพร้อมที่จะร่วมมือกันในด้านการค้าต่อกันซึ่งไม่ง้อสหรัฐฯก็ได้
    น้ำมันดิบในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกานั้นไม่ใช่น้อยๆ เมื่อประเทศเหล่านี้จับมือกันกับรัสเซียและจีน ก็ยากที่สหรัฐฯจะเข้าไปขอส่วนแบ่งในเค้กก้อนนี้ได้ ดังนั้นสหรัฐฯจึงพยายามเล่นทุกทางเพื่อที่จะทำให้ตัวเองเข้าไปมีส่วนในเค้กก้อนนี้ของกลุ่มลาตินอเมริกาให้ได้ เช่นเริ่มหันไปสานความสัมพันธ์กับคิวบา และลดท่าทีแข็งกร้าวต่อเวเนซูเอล่าลง หลังจากที่ตอนแรกคิดว่าใช้ไม้แข็งกับเวเนซูเอล่าแล้วจะสามารถสร้างความวุ่นวายทางการเมืองของเวเนซูเอล่าให้เกิดขึ้นอย่างในยูเครนได้จนเปิดช่องให้สหรัฐฯสามารถเข้าไปจัดการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่ได้ แต่ผลกลับไม่เป็นไปอย่างที่สหรัฐต้องการเมื่อกลุ่มประเทศลาตินอเมริการวมพลังต่อต้านสหรัฐฯกันเต็มที่ โอบาม่าจึงต้องรีบบินขอเจรจาโดยด่วนกับกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาตามที่เป็นข่าวคึกโครมเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
    ป.ล. นี่… สไตล์การเขียนข่าวของ The Eyes ก็จะเป็นแบบนี้แหละครับ คือนำเสนอข่าว แล้วก็มีวิจารณ์ วิเคราะห์เสริมให้ เม้าท์กันนิดหน่อย บางครั้งก็หาข้อมูลเพิ่มให้ด้วย น่าจะคุ้นเคยกันแล้วนะครับ
    The Eyes
    11/05/2558
    ----------
    Iran, Brazil to Build Oil Refinery in Latin America / Sputnik International
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 10 พ.ค.58 ไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เหนือนครนิวยอร์ก สหรัฐ
    เกิดเหตุไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อินเดียน พอยท์ ของบริษัทเอเนอร์ยี คอร์ปอเรชั่น ทางตอนเหนือของนครนิวยอร์ก สหรัฐ ส่งผลให้ต้องปิดการผลิตกระแสไฟฟ้าราว 1 ใน 3 ส่วน ไฟเริ่มลุกไหม้ที่หม้อแปลง และถูกดับลงด้วยระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ
    อืมม..ระบบรักษาความปลอดภัย ที่ว่าดีระดับโลก ใช่ดังคำคุยโวจริงหรือ ?? และสังเกตุอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มักเกิดกับประเทศที่ว่ามีระบบที่ดี เช่น เกาหลีใต้ , ญี่ปุ่น , อเมริกา ฯลฯ
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     

แชร์หน้านี้

Loading...