ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คน ‘เกาะยาว’ ผวา! แผ่นดินไหว 3 ครั้งติด จัดเวรยาม-เพิ่มระบบเตือนภัย
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 พ.ค. 2558 11:26

    [​IMG]
    @ผู้ว่าฯพังงา พร้อมเหล่าข้าราชการ สั่งเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดกับประชาชน กรณีเกิดแผ่นดินไหวซ้ำถึง 3 ครั้งติดกัน

    ชาว อ.เกาะยาว พังงา ที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวในทะเล 3 ครั้งในช่วง 2 วัน จัดเวรยามคอยเฝ้าระวังในช่วงกลางคืน ผวจ.เผยยังไม่มีความเสียหาย ส่วนการอพยพทางศูนย์เตือนภัยพิบัติจะเป็นผู้สั่งการ พร้อมแจ้งขอติดตั้งระบบการเตือนภัยเพิ่ม

    ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเลใกล้เกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา หลายครั้งติดต่อกัน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 6 พ.ค.58 ที่ผ่านมา รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ทั้ง จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ จนล่าสุดเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 พ.ค. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ตรวจพบว่าที่บริเวณทะเล อ.เกาะยาว จ.พังงา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมืองภูเก็ต ประมาณ 15 กม. ได้ เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 4.7 ความลึก 8 กม. แม้จะยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งที่เคยเกิดเหตุการณ์สึนามิ อยู่กันอย่างหวาดผวา


    เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 พ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่เกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา หลังจากมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในทะเลบริเวณเกาะยาว ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต่างตื่นตัวและเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นได้ จึงได้จัดเวรยามขึ้น โดยมีการผลัดเปลี่ยนกันในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น 3 ครั้งเกิดตอนกลางคืน ดังนั้น ในช่วงกลางคืนจึงควรมีการป้องกัน หรือเฝ้าระวัง ส่วนผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด

    ทางด้าน นายประยูร รัตนเสนีย์ ผวจ.พังงา กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวจำนวน 3 ครั้ง ในพื้นที่เกาะยาว มีความรุนแรงประมาณ 4.2, 3.2 และ ล่าสุด 4.6 นั้น ยังไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้น และยังไม่มีผลกระทบในพื้นที่ หากมีผลกระทบทางศูนย์เตือนภัยพิบัติจะเป็นผู้สั่งการให้อพยพ หรือดำเนินการตามแผนที่วางไว้

    อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้สั่งให้ทางอำเภอเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวและรีบรายงานให้ทางจังหวัดทราบหากพบสิ่งผิดปกติ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ซักซ้อมแผนกรณีแผ่นดินไหว และได้ประสานกับทางส่วนกลางให้มีการติดตั้งระบบการเตือนภัยเพิ่มในพื้นที่เกาะยาวด้วย.

    คน ‘เกาะยาว’ ผวา! แผ่นดินไหว 3 ครั้งติด จัดเวรยาม-เพิ่มระบบเตือนภัย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'เขย่าเตือนย้ำ!'ไทย 'ตั้งรับธรณีไหว' สำคัญที่'สิ่งก่อสร้าง'
    โฟกัสที่อาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ กับภัยแผ่นดินไหว ในไทยก็มีหลายส่วนที่ออกมาให้ความรู้ วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558 เวลา 6:30 น.

    [​IMG]

    การเกิด “แผ่นดินไหว” ขนาดระดับเกิน 4 เกือบ 5 ในทะเล อ.เกาะยาว จ.พังงา เมื่อเช้าวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลายจังหวัดรับรู้แรงสั่นสะเทือน นี่ก็เสมือนสัญญาณเตือนย้ำว่าแผ่นดินไหวก็เป็นภัยไม่ไกลตัวคนไทย จากที่เมื่อปีก่อน เมื่อ 5 พ.ค. 2557 ก็เคยมีสัญญาณเตือนแรง ๆ เคยเกิดแผ่นดินไหวระดับเกิน 6 ที่ จ.เชียงราย

    ’ภัยแผ่นดินไหว“ อย่าแตกตื่นแต่ต้องตื่นตัว

    รวมถึง ’ต้องตื่นตัวเรื่องอาคารบ้านเรือน!!!“

    ทั้งนี้ โฟกัสที่อาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ กับภัยแผ่นดินไหว ในไทยก็มีหลายส่วนที่ออกมาให้ความรู้ เช่น... วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.), สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นต้น ขณะที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยนักวิจัยหลายคน ก็มีบทบาทในเรื่องนี้มากเช่นกัน ซึ่งเมื่อ 29-30 เม.ย. ที่ผ่านมา สกว. ทีมนักวิจัยโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทย ก็ลงพื้นที่ อ.แม่ลาว อ.พาน จ.เชียงราย มีกิจกรรมย้อนรอย 1 ปีแผ่นดินไหว การเปลี่ยนแปลงและการรับมือ

    นักวิจัยที่ลงพื้นที่ ก็มีอาทิ ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย นักวิชาการสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หัวหน้าโครงการฯ, รศ.ดร.ไพบูลย์ ปัญญาคะโป คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม รศ.ดร.สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

    แผ่นดินไหวที่ จ.เชียงราย เมื่อ 5 พ.ค. 2557 เกิดที่ระดับ 6.3 ตามมาตราริคเตอร์ ทำให้โครงสร้างอาคารต่าง ๆ ที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อรับมือแผ่นดินไหวเสียหายหลายแห่ง บ้างก็พังถล่ม บ้างก็แตกหักเสียหาย บางแห่งโครงสร้างบิดเบี้ยวจนไม่ปลอดภัย ซึ่งก็รวมถึงโรงเรียนแม่ลาววิทยาคม โรงเรียนพานพิทยาคม โรงเรียนโป่งแพร่วิทยาคม ที่เสียหายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอาคารเรียนที่ต้องรื้อทั้งหลัง ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ทดแทน และมีการ ใช้โครงเหล็กต้านทานแผ่นดินไหว เป็นครั้งแรกในไทย ซึ่งผ่านการออกแบบโดย วสท.

    หากจะดูกันในภาพรวม กรณี ’สิ่งปลูกสร้าง“ กับ ’ภัยแผ่นดินไหว“ นั้น ทาง ศ.ดร.อมร พิมานมาศ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกหนึ่งนักวิจัยโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทย ก็มีการให้ความรู้ โดยอ้างอิงกรณีแผ่นดินไหวที่เนปาล และที่เชียงราย โดยสังเขปคือ... ที่เนปาล สาเหตุใหญ่ของการเสียชีวิตคือสิ่งก่อสร้างถล่มทับ ส่วนที่เชียงราย ก็มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ จากผนังบ้านล้มทับ

    การรับมือภัยแผ่นดินไหว ที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะทำได้ขณะนี้คือ เตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างอาคารบ้านเรือนให้รองรับแรงสั่นสะเทือนได้โดยไม่พังทลาย ซึ่งหมายถึงออกแบบและก่อสร้างให้โครงสร้างโยกตัวตามแรงแผ่นดินไหวได้ อาจมีการแตกร้าว แต่โครงสร้างต้องคงรูปร่างอยู่ได้โดยไม่ถล่ม

    กับ โครงสร้างที่มีความเสี่ยงจากภัยแผ่นดินไหว นั้น หลัก ๆ คือ... 1. โครงสร้างที่สร้างจากอิฐหรือดินหรือหินกอง โดยไม่มีเหล็กยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งเสี่ยงอันตรายมากเป็นลำดับแรก ๆ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก สามารถถล่มกระจายเป็นชิ้น ๆ และทับคนเสียชีวิตได้, 2. โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กประเภทที่กำลังรับน้ำหนักของคอนกรีตต่ำ หน้าตัดเสามีขนาดที่เล็กเกินไป เช่น เล็กกว่า 20 ซม. เสาตอม่อสั้น การเสริมเหล็กในเสาไม่มาตรฐาน ใช้เหล็กเส้นขนาดเล็ก หรือจำนวนเหล็กน้อยกว่า 4 เส้น เสริมเหล็กปลอกห่างเกินไป และ 3. โครงสร้างที่ชั้นล่างเปิดโล่ง มีโอกาสเสี่ยงถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหวทำลายเสาชั้นล่าง

    “โครงสร้างที่มีความเสี่ยงทั้งสามลักษณะนี้ สามารถแก้ไขให้รองรับแผ่นดินไหวได้ ปัจจุบันการปรับปรุงหรือเสริมความแข็งแรงโครงสร้างอาคารที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่ยากเกินไป และผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวก็ ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวอีกที่ไหนและเมื่อไหร่ การ เตรียมความพร้อมกันไว้ก่อน จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด” ...ศ.ดร.อมร ระบุ

    สลับมาที่ ศ.ดร.เป็นหนึ่ง ซึ่งก็ได้ระบุไว้ในกิจกรรมย้อนรอย 1 ปีแผ่นดินไหว การเปลี่ยนแปลงและการรับมือ ที่เชียงราย บางช่วงบางตอนคือ... ที่เชียงรายนั้น ผ่านไป 1 ปี ในภาพรวมเรื่องมาตรฐานการก่อสร้างก็ได้รับการใส่ใจ-ได้รับการปฏิบัติบ้างแล้ว ซึ่งก็มีที่ยังไม่สมบูรณ์บ้าง แต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาของการเปลี่ยนแปลง ที่จะให้เปลี่ยนกัน 100% ในเวลาอันสั้น คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่สิ่งที่ดีคือ ก็ได้มีการพยายามทำให้ดีขึ้น

    ’หากอธิบายให้ง่ายต่อความเข้าใจของคนทั่วไป คือ อาคารในแถบภาคเหนือนั้นต้องออกแบบให้รองรับแรงแผ่นดินไหวได้ขนาด 6.5 ส่วนพื้นที่อื่นตามแนวรอยเลื่อนต่าง ๆ ต้องรองรับแรงจากแผ่นดินไหวขนาด 6.8-7.2 ได้“ ...นักวิจัยหัวหน้าโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทย สกว. ระบุไว้

    ทั้งนี้ แม้ในเชิงเทคนิคกับเรื่องนี้ ณ ที่นี้ไม่อาจแจกแจงได้หมดด้วยเนื้อที่จำกัด แต่ประเด็นที่เน้นได้ชัด ๆ ก็คือ... ’สิ่งก่อสร้างสำคัญต่อการรับมือแผ่นดินไหว“ ซึ่งก็ ’รวมถึงบ้านเรือนประชาชนทั่วไป“ ด้วย…

    และนอกจากประชาชนเอง...รัฐก็ต้องช่วยดูแล!!!.

    'เขย่าเตือนย้ำ!'ไทย 'ตั้งรับธรณีไหว' สำคัญที่'สิ่งก่อสร้าง' | เดลินิวส์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 ปีกลียุค ค.ศ. 2011-2017 ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
    กลียุค 7 ปี ช่วงระยะเวลาซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก (ค.ศ.2011 - 2017)
    พระคัมภีร์ไบเบิ้ลทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี"
    ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)
    พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง เขาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราเอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาติให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า
    ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน
    ที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้น
    จะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า
    จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)

    จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้

    ความหมายของตราทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 6-8)

    ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
    ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
    ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
    ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
    ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
    ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน บางคน เชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
    ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก 7 อันข้างหน้า

    ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)
    แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
    แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1 ใน 3
    แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
    แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
    แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมัน ทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
    แตรที่ 6 มนุษย์ชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
    แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครองเป็นนิจนิรันดร์

    ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร
    เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก

    ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

    ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
    ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
    ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
    ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
    ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัวแต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
    ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
    ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหาย

    ข้อมูลจากบอร์ด AiNews
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สัปตะที่ 70 ของดาเนียล (7 ปี กลียุค) (ตอนแรก) วันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคม 2553
    Posted by Joseph , 15:57:22 น. หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน

    เรื่องราวของ 70 สัปตะ นั้นนับว่าเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างเข้าใจยากพอสมควร เพราะเกี่ียวกับกับตัวเลข วันเวลา และการพยากรณ์ ผมเองในฐานะที่ศึกษาเรื่องนี้ก็ยังไม่เข้าใจแตกฉานทั้งหมด เรื่องของ สัปตะที่ 70 นี้ เป็นคำพยากรณ์ของ 7 ปี สุดท้าย ของยุคเก่าที่จะสิ้นสุดไป ดังที่พระธรรมดาเนียลได้กล่าวไว้ว่า....

    มีเจ็ดสิบสัปดาห์ (เจ็ดสิปสัปตะ) กำหนดไว้สำหรับชนชาติของท่าน และนครบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อให้เสร็จสิ้นการละเมิด ให้บาปจบสิ้น และให้ลบความชั่วช้าเพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์เข้ามา เพื่อประทับตราทั้งนิมิตและคำพยากรณ์ไว้ และเพื่อจะเจิมสถานบริสุทธิ์ที่สุด

    เพราะฉะนั้นจงทราบและเข้าใจว่า นับตั้งแต่การที่พระบัญชานั้นออกไปให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนถึงสมัยพระเมสสิยาห์ ผู้เป็นประมุขก็เป็นเวลาเจ็ดสัปดาห์และเป็นเวลาหกสิบสองสัปดาห์ และถนนจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยกำแพงเมือง แต่ในยุคลำบาก

    หลังจากหกสิบสองสัปดาห์แล้ว พระเมสสิยาห์ก็จะถูกตัดออก แต่มิใช่เพื่อตัวท่านเอง และประชาชนของประมุขผู้หนึ่งที่จะมานั้นจะทำลายกรุงและสถานบริสุทธิ์เสีย ที่สุดปลายของมันจะมาถึงด้วยน้ำท่วม และจนสงครามสิ้นสุดลงก็มีการรกร้างกำหนดไว้

    ท่านจะยืนยันพันธสัญญากับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ และในระหว่างกลางสัปดาห์นั้นท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไป และเพราะเหตุมีความสะอิดสะเอียนแพร่กระจายไปทั่ว ท่านจะกระทำให้มันร้างเปล่าจนสำเร็จเสร็จสิ้น และสิ่งที่กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้ที่ร้างเปล่านั้น"

    พระธรรมดาเนียล บทที่ 9 ข้อที่ 24 - 27
    (Thai KJV)

    ผมได้ค้นพบบทความของ นพ. ท่านหนึ่งที่ได้เขียนอรรถธิบายเรื่องราวของ "เจ็ดสิบสัปตะ" หรือ
    "สัปตะที่ 70" ได้อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย และสอดคล้องกับสิ่งที่ผมเข้าใจ ผมจึงได้ทำการขออนุญาตนำบทความของ นพ. ท่านนี้มาเผยแพร่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันอย่างทั่วถึง สำหรับผู้ที่สนใจ และศึกษาเรื่องราวของอนาคตศาสตร์อยู่ โดย นพ. ท่านนี้มีชื่อว่า นพ.วิกสิต วีสมิทธ์ คริสตจักรนครสวรรค์ ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง


    นพ.วิกสิต วีรสมิทธ์
    คริสตจักรนครสวรรค์

    โดยเนื้อหาที่นำเสนอมีความยาวพอสมควร ผมจะแบ่งเป็นที่ละตอน เพื่อจะง่ายต่อการศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากที่สุด
    _________________________________________________________________

    ตอนแรก : "รู้จัก สัำปตะที่ 70"

    ความสัมพันธ์ระหว่างพระธรรมวิวรณ์กับพระธรรมดาเนียลนั้นใกล้ชิดกันมาก เราจะไม่สามารถทำความเข้าใจกับพระธรรมวิวรณ์ได้เลย ถ้าเราไม่โยงกับพระธรรมดาเนียลโดยฉพาะอย่างยิ่งจากพระธรรมดาเนียล 9:27 แต่ถ้าเรานำมาพูดโดด ๆ โดยไม่เริ่มต้นที่ข้อ 24 ก็จะทำให้เราหาที่มาที่ไปของ "สัปปตะที่ 70 ของดาเนียล" ไม่ได้และจะไม่เข้าใจที่มาที่ไปของคำๆนี้

    ความพิเศษสุดของพระธรรมดานเนียล 9:24 -27 ซึ่งเป็นที่สนใจของพี่น้องคริสเตียนที่ศึกษาอนาคตศาสตร์ เพราะดาเนียลแท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในชนชาติอิสราเอลที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย ณ กรุงบาบิโลนเมื่อคราวที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งมหาอาณาจักรบาบิโลนได้ยก กองทัพถล่มกรุงเยรูซาเล็ม เผาพระวิหารหลังแรกที่สร้างโดยกษัตริย์โซโลมอน ทำลายกรุงเยรูซาเล็ม และกวาดต้อนชาวยิวไปเป็นเชลยเมื่อ 586 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งขณะนั้นดาเนียลยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั้งดาเนียลเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเมื่อ 538 ปีก่อน ค.ศ. พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์กาเบรียล องค์เดียวกันกับที่พระองค์ทรงใช้มาหานางมารีย์เพื่อบอกเธอเรื่องการตั้ง ครรภ์ของเธอ โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพระผู้ช่วย ให้รอดจะบังเกิดหรือเสด็จลงมารับสภาพเป็นมนุษย์แท้ๆในครรภ์ของเธอ

    เราอาจแยกการอรรถาธิบายพระธรรมดาเนียล 9:24 -27 โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆเพื่อความเข้าใจดังต่อไปนี้
    (-1-) คำพยากรณ์นี้กินเวลา 70 สัปตะ
    (-2-) สัปตะที่ 1 จนถึง สัปตะที่ 69 ได้สำเร็จแล้ว
    (-3-) สัปตะที่ 70 หรือ สัปตะสุดท้าย ยังไม่สำเร็จ

    รายละเอียดของแต่ละประเด็นมีดังต่อไปนี้
    (-1-) คำพยากรณ์นี้กินเวลา 70 สัปตะ

    ก่อนอื่นเราคงต้องทำความเข้าใจกับคำว่า "สัปตะ" เสียก่อน เป็นคนละเรื่องกับคำว่า "สัปดาห์" ที่เราคุ้นเคยว่า 1 สัปดาห์ = 7 วัน ส่วนคำ "สัปตะ" หมายถึง ช่วงระยะเวลา 7 ปี และคำว่า "ปี" ในที่นี้เป็นปีของชาวยิวหรือปีแห่งพันธสัญญาเดิมซึ่งมีจำนวนวันอยู่ 360 วัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับปีในปฏิทินสากลซึ่งมี 365 วัน คำพยากรณ์นี้จึงกินเวลาทั้งสิ้น = 70 x 7 = 490 ปี

    (-2-) สัปตะที่ 1 จนถึง สัปตะที่ 69 ได้สำเร็จแล้ว

    จากดาเนียล 9:24 -26 ก็อยากสรุปสั้นๆว่า
    คำพยากรณ์ส่วนนี้คือคำพยากรณ์ตั้งแต่สัปตะที่ 1 จนถึงสัปตะที่ 69 ซึ่งกินเวลา = 69 X 7 = 483 ปี (ปีของยิวหรือของพันธสัญญาเดิม)

    สรุปอย่างง่ายๆอย่างนี้ว่า ระยะเวลา 69 สัปตะ หรือ 483 ปีนั้นก็คือระยะเวลาเริ่มต้นสัปตะที่ 1 เมื่อ
    445 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นปีที่เริ่มลงมือซ่อมแซมกรุงเยรูซาเล็ม และเริ่มก่อสร้างพระวิหารหลังที่สอง

    สัปตะที่สองที่สามและต่อเนื่องมาเรื่อยๆมาสิ้นสุดที่สัปตะที่ 69 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อ ค.ศ.33
    เมื่อองค์พระเยซูคริสต์ทรงสิ้นประชนม์บนไม้กางเขน นี่คือข้อความที่ว่า "ท่านผู้หนึ่งที่ถูกเจิมจะต้องถูกตัดออก"(ดาเนียล 9:26) นี่คือการสิ้นสุดของสัปตะที่ 69 ซึ่งกินเวลา = 69 X 7 = 483 ปี

    ณ จุดนี้เองที่เกิดช่องว่าง คือ กาลเวลาไม่ได้ต่อเนื่องด้วย"สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ทันที ซึ่งเป็นสัปตะสุดท้าย หรือ "7 ปีสุดท้าย" มนุษยชาติและมีเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เกิดช่องว่างดังต่อไปนี้

    (-๑-) ภายหลังการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเมื่อ ค.ศ. 33 ประมาณ 50 วัน เป็นวันเพนเตคอส ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาประทับตราและสถาปนา "คริสตจักรสากล" ขึ้นอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้บันทึกไว้ในพระธรรม กิจการบทที่ 2 ซึ่งอาจารย์เปโตรได้เทศนาในวันนั้นและมีคนที่กลับใจเสียใหม่นับพัน ๆ คนพระ กิตติคุณของพระเยซูคริสต์เริ่มประกาศไปทั่วโลก ทำให้เกิดยุคต่างๆ ของคริสตจักรจนถึงปัจจุบันกินเวลาประมาณ 2,000 ปี

    ซึ่งเราได้เรียนรู้มาแล้วจาก "ทฤษฎีการแบ่งยุคสมัย" (Dispensationalism) คริสตจักรท้องถิ่นทั้งเจ็ดแห่งไม่เพียงแต่มีตัวตนเท่านั้น แต่เป็นแม่แบบของยุคต่างๆตั้งแต่ยุคอัครทูตซึ่งมีคริสตจักรเอเฟซัสเป็นแม่แบบ จนกระทั่งถึงคริสตจักรเลาดีเซียซึ่งเป็นแม่แบบของคริสตจักรยุคสุดท้ายคือคริสตจักรยุคปัจจุบัน เป็นคริสตจักร "อุ่นๆ" จะเป็นก็ไม่ใช่ จะตายก็ไม่เชิง เป็นคริสตจักรยุคบิดเบือนพระคำ (Apostasy)

    (-๒-) กรุเยรูซาเล็มล่มสลาย ชนชาติอิสราเอลกระจักกระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่ ค.ศ. 70 ไม่มีประเทศอิสราเอลอยู่ในแผนที่โลกประมาณ 2000 ปี สิ่งที่จำเป็นต่อคำพยากรณ์ของดาเนียลคือการมีตัวตนของประเทศอิสราเอลซึ่งได้ เกิดขึ้นมาใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1948 และกรุงเยรูซาเล็มได้กลับมาอยู่ภายใต้การครอบครองของชาวยิวใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1967 และที่สำคัญจำเป็นต้องมีพระวิหารหลังที่สามเกิดขึ้นบนภูเขาโมริยาห์ ณ กรุงเยรูซาเล็มจึงจะทำให้สัปตะที่ 70 ของดาเนียล หรือ "7 ปีสุดท้ายของมนุษยชาติ" บรรลุผลตามคำพยากรณ์ได้

    (-3-) สัปตะที่ 70 หรือ สัปตะสุดท้าย ยังไม่สำเร็จ (ดาเนียล 9:27)

    “ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปตะ ท่านกระทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไปครึ่งสัปตะ ผู้ที่จะทำให้เกิดความวิบัตินั้น จะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียน จนความอวสานได้กำหนดไว้ จะถูกเทลงเหนือผู้กระทำให้เกิดความวิบัตินั้น” (ดาเนียล 9:27)

    (โปรดอ่านตอนจบ)

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สัปตะที่ 70 ของดาเนียล (7 ปี กลียุค) (ตอนจบ) วันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคม 2553
    Posted by Joseph , 16:14:38 น.

    ตอนที่ 2 : "ยุคต่าง ๆ ในสัปตะที่ 70"
    "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" จากพระธรรมดาเนียล 9:27 ยิ่งใหญ่มากจริงๆที่นักอนาคตศาสตร์ทั่วโลกจับตาดูอย่างไม่กระพริบ ถึงแม้นักอนาคตศาสตร์อาจมีความเห็นที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่า "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ได้เกิดขึ้นแล้วต่อเนื่องทันทีกับสัปตตะที่ 69 ซึ่งตรงกับ ค.ศ. 33 เมื่อองค์พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
    แต่ดูเหมือนว่าส่วนมากจะมีความเห็นว่ายังไม่สำเร็จ คำพยากรณ์ในดาเนียล 9:27 ยังไม่เกิดขึ้น เพราะเกิดช่องว่างของกาลเวลาเนื่องจากการเกิดของคริสตจักรยุคต่าง ๆ ซึ่งดาเนียลเองก็มองไม่เห็น อย่างไรก็ตาม นักอนาคตศาสตร์ได้แบ่ง "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ซึ่งจะกินเวลา 7 ปี ออกเป็นยุคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    (-๑-) ยุคแสนเข็น (สามปีครึ่งแรก) (Time of Sorrows)

    เราทราบแล้วว่า "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" นั้นเป็นเจ็ดปีสุดท้ายของมนุษยชาติ ในการเริ่มต้นนั้น ดาเนียล 9:27 บอกเราว่า “ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปตะ…" (ดาเนียล 9:27) คำว่า “ท่าน" ในที่นี้นักอนาคตศาสตร์ลงความเห็นว่านี่คือ "ปฏิปักษ์พระคริสต์" (Antichrist) เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในวาระสุดท้ายของมนุษยชาติ เป็นบุคคลที่ซาตานได้เข้าสิงด้วยตัวของซาตานเอง เช่นเดียวกับที่เคยทำกับยูดาอิสการิโอด เป็นบุคคลที่มีความโดดเด่นในทางการเมือง และที่สำคัญเป็นตัวตั้งตัวตีในการทำสนธิสัญญาสันติภาพซึ่งกินเวลา 7 ปีพอดิบพอดี สนธิสันญานี้ทำขึ้นเพื่อปกป้องประเทศอิสราเอล เพื่อที่คนอิสราเอลจะไม่ต้องพะว้าพะวงกับศึกเหนือเสือใต้ และที่สำคัญเพื่อที่ชนชาติอิสราเอลจะมีโอกาสได้สร้างพระวิหารหลังที่สาม

    แม้ว่าในยุคปัจจุบันเราทราบดีว่า มีองค์กรชาวยิวจำนวนมากที่ก่อสร้างขึ้นมาเพื่อการทำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในพระวิหาร และพวกเขาพยายามสุดความสามารถที่จะสร้างพระวิหารขึ้นให้ได้ บนภูเขาโมริยาห์ซึ่งเป็นที่ๆอับราฮัมถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา และเป็นที่ตั้งเดิมของพระวิหารหลังที่หนึ่งและหลังที่สอง นักอนาคตศาสตร์ทั่วโลกกำลังจับตาดูเรื่องนี้อยู่ว่าจะลงมือสร้างจริงๆเมื่อใด

    (-๒-) ยุคแห่งความสะอิดสะเอียนจนเกิดมหาวิบัติ (The Abomination of Desolation)

    จุดกึ่งกลาง เรื่องนี้ยากแก่ความเข้าใจเพราะเป็นการแปลคำมาจากภาษาฮีบรู ที่ชาวยิวใช้เรียกสิ่งที่พวกเขาคิดว่าน่าสะอิดสะเอียนที่สุด และถ้าสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนเกิดขึ้นแล้วผลที่ตามก็คือมหาวิบัติ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการนำรูปเคารพเข้าไปตั้งยังสานที่ที่บริสุทธิ์ของพระ วิหารเพื่อการนมัสการ แทนที่จะเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าเที่ยงแท้แห่งอิสราเอล ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือมหาวิบัติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ข้อความที่ดาเนียลบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ "…ท่านกระทำให้การถวายสัตว์บูชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไปครึ่งสัปตะ ผู้ที่จะทำให้เกิดความวิบัตินั้น จะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียน…" (ดาเนียล 9:27) แปลอย่างง่ายๆก็คือเมื่อได้เริ่มเซ็นสัญญาสันติภาพแล้ว อิสราเอลก็จะสร้างพระวิหารหลังที่สาม แล้วปฏิปักษ์พระคริสต์จะเข้าไปยังที่ที่บริสุทธิ์แห่งพระวิหาร เมื่อถึงจุดกึ่งกลางของสัปตะที่ 70 ของดาเนียล คือสามปีครึ่ง แล้วสั่งห้ามการถวายสัตวบูชาและประกาศว่าตนเองคือพระเจ้า การกระทำของปฏิปักษ์พระคริสต์ก็เป็นที่น่าสนใจของนักอนาคตศาสตร์ และกำลังมองไปข้างหน้าว่าเวลานั้นคือเมื่อใด ?

    (-๓-) มหากลียุค (สามปีครึ่งหลัง) (Great Tribulation)

    นี่คือเหตุการณ์แห่งความโกลาหล ที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติบนโลกใบนี้ ความทุกขเวนาอย่างไม่เคยมีมาก่อนเลย พระเยซูได้ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ด้วยว่าในคราวนั้น จะเกิดความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และในเบื้องหน้าจะไม่มีต่อไปอีก" (มัทธิว 24:21) มหากลียุคมีอีกชื่อหนึ่งว่า "เวลาแห่งความทุกข์ลำบากของยาโคบ" (Time of Jacob's trouble)

    ขอขอบคุณ
    นพ.วิกสิต วีรสมิทธ์ (คริสตจักรนครสวรรค์)

    โปรดติดตาม
    สามทฤษฏีเกี่ยวกับเรื่อง "การถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น" (Rapture)
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความซบเซาในเศรษฐกิจอินโดนีเซีย

    [​IMG]

    ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอินโดนีเซียกำลังลดลง สืบเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อให้เกิดบรรยากาศซบเซาอย่างหนักในระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558 เวลา 13:59 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 8 พ.ค. อ้างรายงานวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียประจำไตรมาสแรกของปีนี้ โดยบริษัทธอมสัน รอยเตอร์ส พบว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตสินค้าบริโภคลและอุปโภค 10 แห่งของประเทศ มีผลประกอบการรวมกัน 12.7 ล้านล้านรูเปียห์ ( ราว 32,142 ล้านบาท ) ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปีที่แล้ว

    ทั้งนี้ หนึ่งในบริษัทที่ประสบปัญหามากที่สุด รวมถึง "พีที แอสตรา อินเตอร์เนชั่นแนล" บริษัทจัดจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งเผยว่าผลประกอบการตลอดทั้งไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมากถึงร้อยละ 9 คาดเป็นผลจากการที่รัฐบาลยกเลิกนโยบายอุดหนุนราคาเชื้อเพลิง และค่าเงินรูเปียห์ที่อ่อนตัวลงอย่างมาก

    ขณะที่บริษัท "พีที อินโดฟู้ด ซักเซส เมกเมอร์ ทีบีเค" หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ระดับโลก เผยว่าผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ผิดจากความคาดหมายอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากราคาเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น

    เศรษฐกิจของอินโดนีเซียซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบกับภาวะซบเซาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา โดยอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ( จีดีพี ) อยู่ที่ร้อยละ 5.01 เมื่อปีที่แล้ว ลดลงจากเมื่อปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.35 ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ( ซีซีไอ ) ลดลงจาก 116.9 ในเดือนมี.ค. ลงมาอยู่ที่ 107.4 เมื่อเดือนเม.ย. หมายความว่าผู้บริโภคจำเป็นต้อง "คิดหนัก" มากขึ้นก่อนนำเงินออกมาจับจ่ายใช้สอย

    สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในการบ้านชิ้นสำคัญของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ซึ่งเข้ามาบริหารประเทศเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางความหวังจากทุกฝ่ายเรื่องการปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจของอินโดนีเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ความซบเซาในเศรษฐกิจอินโดนีเซีย | เดลินิวส์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เศรษฐกิจจีนซบเซานำเข้า-ส่งออกลดต่อเนื่อง

    [​IMG]

    ตัวเลขการนำเข้าและส่งออกสินค้าของจีนประจำเดือนเม.ย.ลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนบรรยากาศซบเซาของเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558 เวลา 10:52 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ( เอ็นบีเอส ) เผยแพร่รายงานสถานการณ์นำเข้าและส่งออกสินค้าของประเทศประจำเดือนเม.ย. ว่ามูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 176,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 5.81 ล้านล้านบาท ) ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าในเดือนเดียวกันอยู่ที่ 142,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.69 ล้านล้านบาท ) ลดลงจากสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมากถึงร้อยละ 16.2

    สถิติมูลค่าการค้าดังกล่าว ที่การส่งออกลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และมูลค่าการนำเข้าสินค้าลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ส่งผลให้มูลค่าการค้าของจีนประจำเดือนเม.ย. ยังอยู่ในระดับเกินดุลที่ 34,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.12 ล้านล้านบาท )

    ทั้งนี้ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ( จีดีพี ) ของจีนขยายตัวเพียงร้อยละ 7.4 เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี สะท้อนบรรยากาศซบเซาของเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย

    เศรษฐกิจจีนซบเซานำเข้า-ส่งออกลดต่อเนื่อง | เดลินิวส์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผวา! พบเชื้ออีโบลาแฝงใน “ดวงตา” ผู้ป่วยนานนับเดือน หลังตรวจไม่พบในเลือด
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2558 09:33 น. (แก้ไขล่าสุด 8 พฤษภาคม 2558 12:33 น.)

    [​IMG]

    เอพี - แพทย์พบเชื้ออีโบลาแฝงอยู่ใน “ดวงตา” ของคนไข้รายหนึ่งเป็นเวลาหลายเดือน หลังจากที่อาการป่วยหายไปและตรวจไม่พบเชื้อในเลือดแล้ว

    ไวรัสอีโบลาซึ่งระบาดหนักในแอฟริกาตะวันตก ทำให้มีผู้คนล้มป่วยมากกว่า 26,000 คนตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2013 ผู้รอดชีวิตบางคนแจ้งว่ามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่ากรณีเช่นนี้เกิดบ่อยแค่ไหน

    ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า ไวรัสอาจแฝงตัวอยู่ในน้ำอสุจิของผู้ป่วยเพศชายได้เป็นเวลาหลายเดือน

    รายงานชิ้นนี้เกี่ยวข้องกับอาการป่วยของ ดร. เอียน โครเซียร์ แพทย์ชาวอเมริกันวัย 43 ปี ซึ่งถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้ออีโบลาเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ระหว่างทำงานกับองค์การอนามัยโลก (WHO) ในเซียร์ราลีโอน 1 ใน 3 ประเทศที่พบการระบาดของโรคมากที่สุด

    โครเซียร์ถูกส่งตัวไปรักษาที่แผนกพิเศษอีโบลาของโรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยเอมอรี เมืองแอตแลนตา และออกจากโรงพยาบาลเมื่อเดือนตุลาคม หลังจากตรวจไม่พบเชื้อในเลือดแล้ว

    2 เดือนถัดมา โครเซียร์มีอาการตาอักเสบ ความดันภายในลูกตาพุ่งสูงผิดปกติ และเกิดปัญหาในการมอง จนต้องกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

    จักษุแพทย์ ดร.สตีเวน เยห์ ได้ดูดของเหลวในดวงตาไปตรวจสอบและพบว่ามีเชื้ออีโบลาแฝงอยู่ ทว่าในน้ำตาและเนื้อเยื่อรอบนอกดวงตากลับไม่พบเชื้อ ซึ่งทำให้ เยห์ สรุปได้ว่า ผู้ป่วยอีโบลาที่รอดชีวิตไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาจนต้องมาพบแพทย์อีกเป็นระยะๆ

    ดร.เจย์ วาร์กี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อในโรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยเอมอรี เตือนให้แพทย์และพยาบาลที่ดูแล โครเซียร์ สวมชุดป้องกันทุกครั้ง และต้องหมั่นสำรวจตนเองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ว่ามีอาการคล้ายผู้ติดเชื้ออีโบลาหรือไม่

    คณะแพทย์ได้หยิบยกกรณีของโครเซียร์ไปหารือระหว่างการประชุมสมาคมวิจัยด้านการมองเห็นและจักษุวิทยาที่เมืองเดนเวอร์ เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ขณะที่วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ได้เผยแพร่รายงานทางเว็บไซต์

    WHO รายงานวานนี้ (7) ว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลาในกินีและเซียร์ราลีโอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วลดลงต่ำสุดในปีนี้ ส่วนไลบีเรียซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดกว่า 4,700 คนมีแผนที่จะประกาศการสิ้นสุดของโรคระบาดชนิดนี้ในวันเสาร์ (9) หากไม่พบผู้ป่วยรายใหม่


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พันธมิตรซาอุฯ ประกาศแก้แค้น “กบฏฮูตี” หลังยิงถล่มข้ามแดน-ข้อเสนอหยุดยิงส่อเป็นหมัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2558 10:33 น. (แก้ไขล่าสุด 8 พฤษภาคม 2558 12:34 น.)

    [​IMG]

    @จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าหารือกับ อเดล อัล-ญุเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่กรุงริยาด วานนี้ (7 พ.ค.)

    เอเอฟพี - กองกำลังพันธมิตรซาอุดีอาระเบียประกาศกร้าววานนี้ (7 พ.ค.) จะแก้แค้นกบฏฮูตีให้สาสม หลังฝ่ายกบฏเหิมเกริม “ข้ามเส้น” ยิงถล่มพลเรือนในเขตแดนซาอุฯ ซึ่งส่อแววจะทำให้แผนหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมที่กรุงริยาดเพิ่งเสนอไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเสี่ยงเป็นหมัน

    กระสุนปืนครกที่กบฏฮูตีนิกายชีอะห์ยิงจากฝั่งเยเมนได้คร่าชีวิตพลเรือนซาอุฯ ไปหลายคนในสัปดาห์นี้ ซึ่งนับเป็นการโจมตีพื้นที่ชุมชนของซาอุฯ ครั้งแรก หลังจากที่กองกำลังพันธมิตรเริ่มใช้ปฏิบัติการทางอากาศถล่มพวกกบฏในเยเมน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม

    “สถานการณ์เวลานี้แตกต่างไปจากเดิม การเผชิญหน้าก็ไม่เหมือนเดิม และพวกเขาจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม” พลจัตวา อาเหม็ด อัล-อัสซิรี โฆษกกองกำลังพันธมิตรซาอุฯ แถลง

    “ความปลอดภัยของซาอุดีอาระเบียคือสิ่งที่พันธมิตรและกองทัพซาอุฯ ให้ความสำคัญสูงสุด สิ่งที่พวกกบฏทำถือเป็นการข้ามเส้น”

    อัสซิรีระบุด้วยว่า ปฏิบัติการตอบโต้นั้น “เริ่มขึ้นแล้ว” โดยจะมุ่งไปที่ “แกนนำกบฏฮูตี พื้นที่ชุมนุม สถานที่พำนักของผู้นำกบฏ รวมถึงผู้ที่วางยุทธศาสตร์ให้แก่กบฏ และปฏิบัติการของเราจะดำเนินไปอย่างไม่จำกัด”

    หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่กองกำลังพันธมิตรมุ่งโจมตีคือเมืองซาดา ทางตอนเหนือของเยเมน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของกบฏฮูตี

    ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้กบฏฮูตีที่เชื่อกันว่ามีอิหร่านหนุนหลังอยู่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเป็นเวลา 5 วัน ตามที่ทางการซาอุฯ ได้เสนอไป

    อเดล อัล-ญุเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ประกาศ “แผนหยุดยิงเป็นเวลา 5 วัน เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” ซึ่ง เคร์รี ชี้ว่าเป็น “โอกาสสำคัญ” ที่จะทำให้วิกฤตการณ์ในเยเมนผ่อนคลายลงได้

    อย่างไรก็ดี อัล-ญุเบร์ ย้ำว่าแผนการนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อ “กบฏฮูตีและสมัครพรรคพวกรับปากจะปฏิบัติตาม และไม่ก่อความรุนแรงก้าวร้าว”

    ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียนอกจากไม่สามารถหยุดการรุกคืบของกบฏฮูตีได้แล้ว ยังทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นทุกวัน


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052454
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ความขี้อิจฉาของบางคน : สหรัฐฯเตรียมยื่นข้อเสนอทางเลือกท่อส่งแก็สให้กรีซแข่งกับรัสเซีย

    [​IMG]

    [​IMG]

    ---------------
    เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่่านมา (8-9 เม.ย.58) นาย Alexis Tsipras นายกรัฐมนตรีของกรีซได้เดินทางเข้าพบปูตินที่กรุงมอสโคว์ ลงนามบรรลุข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองประเทศประมาณ 20 ฉบับ ทำเอาทั้งอียูและสหรัฐฯเกิดอาการตัวร้อนเหมือนจะเป็นไข้กระวนกระวายนั่งไม่ติดออกมามโนผ่านสื่อฯวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ ในข้อตกลงระหว่างกรีซกับรัสเซียนั้นมีหลายเรื่อง แต่หลักๆก็คือเรื่องรัสเซียอนุญาตให้กรีซส่งออกอาหารและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเข้ามายังรัสเซียได้ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเรื่องกรีซยินดีเข้าร่วมโครงการท่อส่งแก๊สสาย Turkish Stream กับรัสเซียที่จะส่งแก๊สจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรปตอนใต้โดยผ่านตุรกีและกรีซ ส่วนกรีซนั้นก็เป็นฮับจ่ายแก๊สในยุโรปโซนนั้นกินหัวคิวสบายไป รายละเอียดเคยเล่าให้ฟังแล้ว สามารถอ่านย้อนหลังได้จากลิ้งค์นี้ https://www.facebook.com/fisont/posts/1652832311603569 สำหรับท่านที่พึ่งมาใหม่
    ปัญหาก็มีอยู่ว่า มีบางคนไม่อยากให้รัสเซียมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น และไม่อยากเห็นรัสเซียประสบผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากการกลั่นแกล้งของพวกต่อต้านรัสเซีย และอิจฉาที่รัสเซียสามารถบรรลุข้อตกลงกับกรีซได้ จึงพยายามมายื่นข้อเสนอบางอย่างให้กรีซ เพื่ออะไร? ต้องหาคำตอบจากข่าวต่อไปนี้
    เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.58) สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า สหรัฐฯกำลังจะส่งทูตไปยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องท่อแก็สให้กรีซแทนของรัสเซียในวันศุกร์นี้หลังจากที่ปูตินให้สัญญากับผู้นำรัฐบาลของกรีซไปว่าจะรัสเซียจะให้เงินสนับสนุนในโครงการนี้แก่กรีซ
    รายงานข่าวบอกว่าก.ต่างประเทศของสหรัฐฯกำลังจะส่งนาย Amos Hochstein ทูตพิเศษเข้าพบรมว.ต่างประเทศและรมว.ฟื้นฟูผลผลิตของกรีซ เพื่อเจรจายื่นข้อเสนอบางอย่างให้กรีซเพื่อเป็นทางเลือกแทนโครงการท่อส่งแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซีย
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาปธน.วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า "รัสเซียตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนด้านการเงินในการก่อสร้างโครงการท่อส่งแก๊สสาย Turkish Stream ผ่านกรีซ" โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมาปูตินกล่าวว่า "การร่วมือกันกับกรีซในครั้งนี้ จะเป็นศูนย์กลางการกระจายพลังงานขนาดใหญ่ไปยังยุโรป และสามารถทำรายได้ปีหละหลายร้อยล้านยูโรจากค่าส่งแก๊ส"
    ก่อนหน้านี้ Ernest Moniz รมว.พลังงานของสหรัฐฯได้กล่าวว่า "สหรัฐฯกำลังวางแผนที่เสนอท่อส่งแก๊สจากอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกรีซ" ซึ่งจะรวมถึงบอสเนีย (Bosnai) และอัลบาเนียด้วย (Albania)
    หลังจากที่รัสเซียเสนอผลประโยชน์ร่วมกันให้กับกรีซและได้ลงนามไปแล้ว สหรัฐฯก็ทะลึ่งพุ่งพรวดเข้ามาทำเป็นเสนอแข่งกับรัสเซียซะงั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Wolfgang Schaeuble รมว.คลังของเยอรมันได้ออกมากล่าวว่า "ในโลกนี้ไม่มีใครพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตทางการเงินของกรีซได้แม้จะเป็นบางส่วน กรีซไม่ต้องไปมองหาความช่วยเหลือจากจีนหรือรัสเซียหรอก" (แต่รัสเซียก็กำลังทำเป็นตัวอย่างให็เห็น)
    ขอเสริมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับท่อแก๊สสาย Baku–Tbilisi–Ceyhan จากอาเซอร์ไบจานให้สักนิดนะครับ เป็นโครงการท่อส่งแก๊สจากทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) ผ่านจอร์เจีย ตุรกี เข้าสู่บัลกาเรียและยุโรป ผ่านเงินกู้จาก World Bank ที่สหรัฐฯคุมหัวเรือใหญ่และธนาคารด้านการฟื้นฟูและพัฒนาของอียู โคงการนี้มีบริษัทสัญชาติอังกฤษถือหุ้น 30.1$ อาเซอร์ไบจาน 25% สหรัฐฯ (รวม) 13.76% นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศเช่นฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น ตุรกี นอร์เวย์ถือหุ้นร่วมด้วย
    ก่อนหน้านี้กรีซประสบปัญหาวิกฤตการเงินเป็นอย่างมาก พวกเจ้าหนี้ทรอยก้า (Trioka : EU, ECB และ IMF) ต่างก็พากันรุมทวงหนี้กรีซจะเป็นจะตายให้ได้ ไม่มีใครออกมายื่นเสนอความช่วยเหลือ มีแต่จะพากันรุมกินโต๊ะกรีซอย่างเดียว การจะให้เงินช่วยเหลือกรีซรอบใหม่นั้นจะต้องแลกกับมาตรการรัดเข็มขัด ด้วยการบีบให้กรีซขายกิจการดีๆของตนในราคาเลหลังให้กับพวกเจ้าหนี้มหาโหด พูดภาษาชาวบ้านเรียกว่าขายสมบัติชาติอย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับไทยในปี 40 นั่นแหละ
    พอกรีซวิ่งเข้าขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย ทั้งด้านการเงินและการการส่งออกสินค้าการเกษตรจากกรีซมายังรัสเซีย แลกกับให้ท่อแก๊สของรัสเซียผ่านกรีซได้ โดยกรีซจะนั่งเก็บค่าหัวคิวจากลูกค้าในอียูเอง สหรัฐฯเห็นท่าไม่ดี เพราะว่าจะทำให้รัสเซียสามารถขายแก๊สของตนในอียูได้อีกทางหนึ่ง และทำให้กรีซเหินห่างจากสหรัฐฯมากขึ้นไปอีก อีกทั้งอียูก็จะต้องพึ่งพาแก๊สจากรัสเซียเพิ่มมากขึ้นด้วย แบบนี้สหรัฐฯมองว่าไม่ดีแน่ๆ เพราะจะทำให้สหรัฐฯสูญเสียโอกาสในการขายแก๊สของตนจากอาเซอร์ไบจาน และอำนาจในการควบคุมอียูของสหรัฐฯก็จะลดลงตามไปด้วย ดังนั้นจึงรีบทำเป็นมายื่นข้อเสนอให้กับกรีซแทน เพื่อให้อียูหันมาพึ่งพาแก๊สจากสหรัฐฯและอังกฤษที่ทำท่าอยากจะออกจากสหภาพยุโรปเต็มทีแล้ว
    แล้วกรีซว่าอย่างไรบ้าง? ล่าสุดยังไม่พบว่ากรีซออกมาแสดงท่าทีอย่างไรเกี่ยวกับกรณีนี้ ต้องดูหลังจากการพูดคุยกันแล้ว แต่ฝั่งรัสเซียกับกรีซได้เซ็นลงนามร่วมกันไปตั้งหลายฉบับแล้วนี่ กรีซจะกล้าหักหลังรัสเซียเชียวหรือ ไม่มีทางเด็ดขาด กรีซบอกว่าเข็ดแล้วกับพวกนายทุนหน้าเลือดพวกนั้น ขืนไปหลงคารมของสหรัฐฯมีหวังดิ่งลงเหวอีกรอบแน่ ผลไม้และสินค้าการเกษตรของตนก็จะขายให้รัสเซียไม่ได้อีก การประท้วงใหญ่ในประเทศก็จะตามมา หนี้เก่าก็จะไม่มีทางใช้คืนหมดแน่ เชื่อปูตินดีกว่า มีความจริงใจกว่าเยอะ
    The Eyes
    08/05/2558
    ----------
    My Big Fat Greek Pipeline: US to Present Counter Offer to Russia's Stream / Sputnik International
    TASS Infographics: Russia's gas pipelines to Europe by 2018
    http://en.wikipedia.org/…/Baku–Tbilisi–Ceyh…
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อียูเสอนแผนถ่วงดุลอำนาจทางทหารแข่งสหรัฐฯด้วยการก่อตั้ง "Joint EU Army" ขึ้นมาอีกครั้ง

    [​IMG]

    ---------------
    เรื่องแผนสร้างกองทัพอียูแบบนาโต้ที่ไม่มีสหรัฐฯร่วมด้วยนี้เคยเล่าให้ฟังแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา (https://www.facebook.com/fisont/posts/1636338486586285) ความคิดนี้ริเริ่มโดย Jean-Claude Juncker ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เมื่อวานนี้มาอีกแล้ว Jean-Claude Juncker ออกเรียกร้องอีกครั้งให้สหภาพยุโรป 28 ประเทศสร้างกองทัพ Joint EU Army ร่วมกันซึ่งเขากล่าวว่าปัจจุบันนี้ศักยภาพทางกองทัพของประเทศสมาชิกด้อยประสิทธิภาพยิ่งกว่า "ฝูงไก่" ซะอีก
    Jean-Claude Juncker กล่าวว่า "ฝูงไก่มีลักษณะเหมือนการต่อสู้ (มากกว่า) เมื่อเทียบกับนโยบายด้านการต่างประเทศและด้านความมั่นคงของสหภาพยุโรป ผมได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองทัพยุโรปในระยะยาวมาโดยตลอด มันไม่ใช่บางสิ่งที่คุณสามารถจะสร้างขึ้นมาได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น"
    เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Juncker อ้างเหตุผลในการจัดตั้งกองทัพร่วมของอียูว่า "คุณไม่ต้องสร้างกองทัพยุโรปขึ้นมาเพื่อใช้งานในทันทีหรอก แต่การตั้งกองทัพของยุโรปนั้นเพื่อเป็นการส่งสารไปยังรัสเซียว่า พวกเราให้ความสำคัญในด้านความมั่นคงกับสหภาพยุโรปของพวกเราอย่างจริงจัง"
    กระแสนี้ฮือฮาในยุโรปมากพอสมควร ฝ่ายเยอรมันดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวโดยบอกว่าเป็นโครงการระยะยาว ที่จะต้องคุยกันในอนาคต ส่วนอังกฤษค้านแนวคิดนี้ บอกว่าเรื่องการป้องกันประเทศและความมั่นคงนั้นเป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ ไม่ใช่ของอียู ในขณะที่นักการเมืองชาวอเมริกันกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นที่อียูจะจัดตั้งกองทัพของตัวเองขึ้นมาแทนนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ
    นักวิเคราะห์มองว่า ที่อียูยกเรื่องการคุกคามจากรัสเซียเป็นข้ออ้างในการจัดตั้งกองทัพอียูนั้นเป็นเพียงเป้าหลอกบังหน้าเท่านั้น แท้ที่จริงนั้น จุดมุ่งหมายก็คือ "สหรัฐฯ" โน่นต่างหาก เพราะตอนนี้นาโต้ถูกควบคุมโดยสหรัฐฯโดยสิ้นเชิงแล้ว สังเกตได้จากการที่กลุ่มประเทศยุโรปรวมตัวกันเป็นสหภาพยุโรปสิ ก็เพราะต้องการจะกลายเป็นมหาอำนาจอีกขั้วหนึ่งเพื่อคานอำนาจสหรัฐฯนั่นเอง โครงการงานวิจัยทั้งทางด้านเทคโนโลยีและอวกาศต่างๆ อียูก็พยายามที่จะลดการพึ่งพาจากสหรัฐฯและหันมาพึ่งพาตนเองให้มากขึ้น
    ประจวบกับการที่สหรัฐฯพยายามขยายฐานทัพของตนในกลุ่มประเทศยุโรปเพิ่มขึ้นโดยใช้โลโก้ "นาโต้" เป็นใบเบิกทาง ทั้งการเคลื่อนทัพผ่านชาตินาโต้เพื่อไปซ้อมรบในกลุ่มประเทศบอลติก (เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย) เมื่อเร็วๆนี้ ต่่างก็ทำให้ชาติสมาชิกนาโต้หลายประเทศไม่พอใจแต่ก็แสดงออกอย่างชัดเจนไม่ได้ อีกทั้งอียูก็พยายามที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกเข้าในอียูเพิ่มขึ้นด้วยโดยเป้าหมายล่าสุดก็คือยูเครนนี่แหละ แต่เนื่องจากรัสเซียไม่เห็นด้วยจึงเกิดวิกฤตยูเครนขึ้นมาอย่างทุกวันนี้
    อันที่จริงรัสเซียก็พยายามจะสร้างกลุ่มเศรษฐกิจของตนเองขึ้นมาในแถบนั้นเหมือนกันซึ่งก็คือ "ยูเรเซีย" (Eurasia) เป็นเขตเศรษฐกิจการค้าเสรีกับกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตเพื่อเชื่อมเข้ากับเส้นทางสายไหมของจีนและพยายามที่จะชวนยูเครนให้เข้าร่วมด้วย แต่อียูก็ต้องการยูเครนมาร่วมกับฝ่ายตนด้วย เพราะถ้ายูเครนไปร่วมกับ Euraisa ของรัสเซียมีหวังความฝันของอียูก็ไม่สามารถเดินต่อได้ ในกลุ่ม Eurasia เองก็กำลังมีการจัดตั้งกองทัพร่วมกันเช่นกัน แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมีเพียงการซ้อมรบร่วมกันเท่านั้น นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่อียูและสหรัฐฯกังวลใจเป็นอย่างมาก
    อียูหวังว่าจะดึงยูเครนเข้ามาร่วมกับอียูให้ได้ แม้ว่ารัฐบาลก่อนของยูเครนจะไม่เห็นด้วย แต่อียูก็ยังไม่ยอมเพราะวิกฤตเศรษฐกิจของตนเริ่มหนักขึ้นทุกวัน ต้องการหาสมาชิกมาเพิ่มเพื่อช่วยแบ่งเบาวิกฤตของอียูในอีกทางหนึ่ง จึงได้ปลุกระดมกระแสคลั่งอียูขึ้นมาในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นเยาวชน วัยรุ่น นักศึกษา ให้ออกมาประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนรวมเข้ากับอียู เมื่อรัฐบาลเก่าปฏิเสธก็ก่อการจลาจล (ไมดาน) เผาบ้านเผาเมือง ชายชุดดำยิงคนทั่วไปที่มาชุมนุม มีการก่อตั้งพวกหัวรุนแรงนักรบรับจ้างขึ้นมา สุดท้ายแล้วยูเครนก็พินาศอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ (เคยเล่าแบบละเอียดมาแล้ว)
    แต่กระนั้นอียูและสหรัฐฯก็ยังไม่รามือจากยูเครน จริงๆแล้วยูเครนนี่เป็นเหมือนเค้กที่สหรัฐฯและอียูต้องการมาก สหรัฐฯต้องการยูเครนมาเป็นลูกน้องเพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯสามารถเข้าไปตั้งฐานทัพของตนในยูเครนใกล้กับรัสเซียได้มากขึ้น และเพื่อหวังทรัพยากรของยูเครนด้วย ส่วนอียูนั้นต้องการทั้งด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีทางกองทัพของอดีตโซเวียตในยูเครน ลึกๆแล้วต่างฝ่ายต่างก็แย่งกัน สำหรับสหรัฐฯแล้วไม่ว่ายูเครนเข้าร่วมกับอียูหรือไม่นั้นไม่สำคัญ เพราะว่าสหรัฐฯสามารถควบคุมรัฐบาลของยูเครนได้อยู่แล้วในตอนนี้ เพราะตั้งมาเองกับมือ ดังนั้นอียูจึงต้องรีบหาทางสร้างกองทัพของตนเองที่เป็นอิสระจากสหรัฐฯขึ้นมาให้ได้
    The Eyes
    08/05/2558
    ----------
    Fluttering Feathers: Juncker Calls for EU Army to Boost 'Chicken' Defenses / Sputnik International
    Creation of EU Army Would 'Liberate Europe From US and NATO' / Sputnik International
     
  12. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    มาเฝ้าอ่านข่าวห้องนี้ทุกวันเลย ขอบคุณสำหรับข่าวดีๆนะคับ เป็นกำลังใจให้คับ^^
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 8 พ.ค.58 หลุมนี้มันดูดน้ำทั้งทะเลสาบหายไปไหน ??
    เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นที่ทะเลสาบสาบลอสต์ ขนาดใหญ่ ในอุทยานแห่งชาติเมาท์ฮู๊ด รัฐออริกอน สหรัฐฯ ซึ่งในช่วงเวลาปกติ ทะเลสาบแห่งนี้จะดูสงบเงียบเหมือนทะเลสาบทั่วไป แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว หลุมลึกลับจะเริ่มปรากฏให้เห็น
    จากนั้นจะดูดระบายน้ำจนหมดทั้งทะเลสาบ เหลือไว้เพียงภูมิประเทศที่แห้งแล้ง สร้างความงงงันให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์มานานหลายศตวรรษ นักธรณีวิทยาบางคน ได้แค่สันนิษฐานว่า พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่ภูเขาไฟ
    และการที่น้ำไหลลงหลุมอย่างรวดเร็วนั้น น่าจะเกิดจากท่อลาวาใต้ทะเลสาบดูดน้ำลงไป แต่สิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้คือ น้ำทั้งหมดที่ไหลลงหลุมลึกลับนี้ "หายไปอยู่ที่ใด"
    -------------------------->
    ถ้าดินเป็นรูพรุน จะดูดซับน้ำมากมหาศาลได้หมดทะเลสาบเลยหรือ ?? แล้วทำไมมันต้องดูดลงไปเฉพาะฤดูหนาวด้วย?? ถ้า กทม.มีสักหลุมเวลาฤดูน้ำหลากนี่จบเลย..น้ำไม่ท่วม !!
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 8 พ.ค.58 ทหารใช้มาตรา 44 บุก รวบเจ้าหน้าที่อิสราเอลขณะสาธิตอุปกรณ์ดักฟังตำรวจ
    หลังการข่าวกรองจากสายลับมาว่า จะมีสายลับต่างชาติ จะเข้ามาล้วงความลับหน่วยงานความมั่นคงไทย ทหารได้จัดกำลังมาซุ่มเฝ้ารอตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนของอิสราเอล จำนวน 9 คน ได้มาสาธิตการใช้เครื่องดักฟัง และการเช็คพิกัด ขณะกำลังสาธิต ทหาร จำนวน 3 คันรถฮัมวี่ รวมกว่า 10 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้บุกเข้ารวบตัวเจ้าหน้าที่ชุดอิสราเอลชุดดังกล่าวทันที
    สอบสวนแล้วทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจเก่า ของอิสลาเอล ทำให้ตำรวจสันติบาลที่อยู่ในห้องประชุมต่างหน้าเสีย ทหารได้มีการชี้แจงว่า เป็นการควบคุมตัวตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ และได้นำเจ้าหน้าที่อิสราเอลทั้งหมดไปควบคุมไว้ที่ พล.ม.2
    ------------------------------------->
    อาจแค่สงสัยเพราะไม่ได้เข้ามาทางช่องทางทางการทูต แต่อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจยิว เพราะคนของหน่วยมอสสาดนั้น หากเราใช้อุปกรณ์เขา ๆ สามารถดักฟังความเคลื่อนไหว และจับพิกัดของหน่วยงานความมั่นคงของเราที่จะเชื่อมกันได้ทั้งหมด ประเด็นไม่ใช่อุปกรณ์ แต่อยู่ที่ " คน "
    ไม่ได้ขออนุญาตในการนำเข้า และใช้งาน อุปกรณ์ต้องห้าม จากฝ่ายความมั่นคง เช่น สภาความมั่นคงแห่งชาติ และระหว่างการสาธิต มีการไปดักฟังคลื่นของฝ่ายความมั่นคงอีกด้วย โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน และการนำเข้า เครื่องมืออุปกรณ์ ที่สามารถใช้รับหรือแปลงสัญญาณ ต้องขออนุญาต กสทช. และด้านศุลกากรด้วย..ผิดกฎหมายไทยเต็มๆ
    เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่ประเทศ EU ที่ต่างโดนกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ตัวผู้นำประเทศเยอรมัน ก็โดนมะกันดักฟัง และรู้ขนาดว่าวันนี้ใส่กางเกงในสีอะไร จนมีการขับไล่ CIA มะกันออกจากประเทศภายใน 24 ชั่วโมง..ล่าสุดไฟไหม้อาคารผู้โดยสารสนามบินอิตาลีโดยไม่ทราบสาเหตุ หนีตายอลหม่าน ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร??
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 8 พ.ค.58 มึนทั้งโลก รัฐบาลเนปาล ขอเก็บภาษีสิ่งของบริจาคช่วยประชาชน
    เป็นอาการมึนทั้งโลก เมื่อรัฐบาลเนปาลจ่ายค่ายังชีพจากแผ่นดินไหวให้ประชาชนครอบครัวละ 2,300 บาท แล้วโลกก็มึนซ้ำอีก เมื่อรัฐบาลเนปาล ทะยอยไล่ทีมกู้ภัยนานาชาติกลับประเทศ อ้างว่า งานจบและ รัฐบาลจะรับมือต่อเอง
    แล้วโลกก็ช็อคต่อ เมื่อรัฐบาลเนปาล ออกมาฉะประเทศต่างๆ ว่า "บริจาคของไม่ตรงตามความต้องการของรัฐบาล" และออกกฎใหม่ที่แสนมึน และเวียนหัวให้กักของบริจาคจากนานาชาติไว้ที่สนามบิน
    โดยจะต้อง " ประเมินภาษีของบริจาค และต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาลก่อน" จึงจะยอมปล่อยของบริจาคให้ประชาชนได้ มิฉะนั้นของจะค้างที่สนามบิน.. ป๊าด..แต่ถ้าบริจาคเป็นตัวเงิน..โอนมาเลยก๊าบ..เป็นไงล่ะ นักการเมืองเลือกตั้ง ระบอบที่หลายคนว่าดีหนักหนา

    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 8 พ.ค.58 คอมพิวเตอร์ย่อเหลือขนาดเท่านี้เอง และจะเล็กลงจนเท่าเมล็ดถั่วเขียว
    คอมพิวเตอร์ ณ เวลานี้เหลือขนาดเพียงเท่านี้แหละ เรียกว่า Compute Stick ขนาดประมาณ 3.9 x 1.5 x 0.4 นิ้ว น้ำหนักอยู่ที่ 45 กรัมเท่านั้น มีขายในไทยแล้ว ใช้งานกับ LCD TV หรือต่อตรงมอนิเตอร์ ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 หน่วยความจำภายในขนาด 32GB
    สามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วยช่อง micro-SD ได้ เชื่อมต่อไร้สาย WiFi และ Bluetooth ได้ด้วย ราคาราว 5 พันกว่าบาท ในอนาคตมันจะเล็กลงและราคาถูกลงอีกเรื่อยๆ ไม่นานนัก นักวิทยาศาสตร์คาดว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีขนาดแค่เมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น
    และสามารถ Upload ไฟล์จากสมองมนุษย์ไปเก็บในคอมพิวเตอร์ได้ ถึงตอนนั้นปัญญาประดิษฐ์กับมนุษย์คงต้องมาแข่งขันกันวิวัฒนาการ ว่าใครจะอยู่รอด ??
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 8 พ.ค.58 รัสเซีย โชว์ยุทโธปกรณ์ทหารใหม่งานฉลองชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2
    รัสเซียซ้อมจัดพิธีสวนสนามแสดงแสนยานุภาพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวันพรุ่งนี้ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปี ชัยชนะเหนือกองทัพนาซีเยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีการเผยโฉมอาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่มากมาย
    พิธีจัดขึ้นในย่านใจกลางกรุงมอสโก เป็นการเผยโฉมครั้งแรกของบรรดายานเกราะและอาวุธยุทโธปกรณ์ไฮเทครุ่นใหม่ล่าสุดของรัสเซีย โดยนวัตกรรมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ รถถัง Armata T-14 ซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ ที่ถูกนำมาประจำการแทนที่รถถังรุ่นเก่าในยุคอดีตสหภาพโซเวียต
    และมีเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับสั่งการให้ทำงานอัตโนมัติ ซึ่งกองทัพรัสเซียระบุว่า อาจเป็นเทคโนโลยีต้นแบบสำหรับผลิตรถถังหุ่นยนต์เต็มรูปแบบในอนาคต รถถัง Armata T-14มีระบบควบคุมระยะไกลปืนใหญ่รถถังชนิดลำกล้องเกลี้ยงขนาด 125 มม. ซึ่งสามารถใช้ยิงจรวดนำวิถี และกระสุนปืนใหญ่ได้
    ขณะที่พลขับ 3 นายจะนั่งอยู่ภายในแคปซูลที่ถูกเสริมความทนทานบริเวณส่วนหน้าของตัวรถ นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งยุทโธปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้อีกด้วย ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆที่น่าสนใจมี อาทิ
    - ยานลำเลียงหุ้มเกราะ Kurganets-25 ซึ่งสามารถใช้ลำเลียงทหารและยังมีระบบปืนใหญ่ที่ทรงพลัง
    - ยานลำเลียงหุ้มเกราะ Boomerang ซึ่งเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบก
    - ขีปนาวุธข้ามทวีป RS-24 Yars ซึ่งสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ อีกทั้งยังสามารถยิงได้ทั้งโดยระบบควบคุมระยะไกลและใช้ฐานยิงจากใต้ดิน ระบบ
    - ปืนใหญ่อัตตาจร Koalitsiya-SV ซึ่ง สามารถโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 70 กม.
    - เครื่องยิงขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศ Buk ซึ่งสามารถยิงได้สูงถึง 25,000 เมตร
    - จรวดต่อต้านรถถัง Kornet-D ซึ่งใช้โจมตีได้ทั้งรถถังและอากาศยาน โดยสามารถเจาะยานเกาะหนา 130 ซม.ได้
    ---------------------------------->
    ของเล็กๆ น้อยเอง อเมริกา และ EU ไม่น่าตื่นเต้นมั้ง และอีกไม่นาน รัสเซียจะขนขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่เรือไปจัดแสดงโชว์ในงานแสดงอาวุธที่แผ่นดินอเมริกา แต่ถ้าเห็นว่ายุ่งยากนัก..อาจยิงไปลงก็ได้ แทนที่จะขนไปทางเรือให้หนัก
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Richard Whitt

    [​IMG]

    นักธรณีวิทยาอย่าง Bill Mcguire ไม่คิดเช่นนั้น โดยมองว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงขึ้นนั้น เป็นผลกระทบทางอ้อม จากสภาวะโลกร้อน

    ลองจินตนาการพื้นผิวของโลก เช่นเดียวกับแท่นสปริงบอร์ด หรือแทรมโพลีนที่สมดุลด้วยมวลน้ำแข็ง ขนาดมหึมาที่หนาร่วมร้อยเมตร และน้ำแข็งเหล่านั้นกำลังละลาย เพิ่มมวลน้ำขนาดมหาศาล กดทับลงไปบนแผ่นเปลือกโลก และแรงกดเหล่านั้น จะส่งผลสะท้อนกลับเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่นักธรณีวิทยาเรียกว่าปรากฎการณ์ (Isostatic Rebound) ที่จะปลุกรอยเลื่อน เพิ่มโอกาสการเกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นดิน รวมทั้งลดความดันที่เคยกดทับแม็กม่า ซึ่งปรากฎการณ์นี้อาจเกิดขึ้นทันที หรือในอีกร้อยปีข้างหน้าก็ได้

    Allen Glazner หนึ่งในนักธรณีวิทยาอธิบายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งในอดีต ช่วงหลังยุคน้ำแข็ง (Ice Ages) ซึ่งการละลายของน้ำแข็งปริมาณมหาศาล ก่อให้เกิดการปะทุของภูเขาไฟทั่วโลก โดยคาดว่าเกิดจากกลไกที่มวลน้ำแข็ง ลดความดันต่อแม็กม่าใต้พื้นผิวโลก ทำให้เกิดการปะทุอย่างรุนแรง

    "ปัจจุบัน แผ่นน้ำแข็งกำลังกดทับแผ่นดินไหว และเมื่อน้ำแข็งเหล่านั้นละลาย ก็ไม่ต่างจากการกดปุ่ม ให้เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก Patrick Wu อีกหนึ่งในนักธรณีวิทยาแสดงความเห็น “การเกิดแผ่นดินไหวในปัจจุบัน อาจเป็นปรากฎการณ์ Isostatic Rebound ของยุคหลังยุคน้ำแข็ง (Post - Glacial Period) โดยมีจุดเสี่ยงอยู่ในบริเวณยุโรปตอนเหนือ”

    ปัจจุบัน มีการทำวิจัยมากมายที่แสดงความสัมพันธ์ ระหว่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวกับการเคลื่อนที่ของรอยเลื่อนมีพลัง เช่นบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาแอนดีส แต่ความกังวลส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณโดยรอบกรีนแลนด์ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง จนอาจทำให้เกิดคลื่นยักษ์

    นอกจากแนวคิดที่ว่า การละลายของน้ำแข็งทำให้เกิดแผ่นดินไหว ยังมีการศึกษาโดย Shimon Wdowinski จากมหาวิทยาลัย Miami ที่มองความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดแผ่นดินไหว กับพายุโซนร้อน โดยมองว่าปริมาณน้ำฝนคือ กลไกทำให้เกิดแผ่นดินไหว

    “ฝนที่ตกหนัก จะชะล้างมวลดินปริมาณมหาศาล และก่อให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นการลดปริมาตรบนพื้นผิวดิน และก่อให้เกิดการเคลื่อนที่ของรอยเลื่อน ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์แผ่นดินไหว” Shimon Wdowinski กล่าว

    ผลงานวิจัยชิ้นนี้ ศึกษาการเกิดเหตุแผ่นดินไหวใน ไต้หวัน และเฮติ โดยศึกษาแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกิน 6 โดยพบว่าทั้งสองภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นมีความสัมพันธ์กัน โดยแผ่นดินไหวจะเกิดภายใน 4 ปี นับตั้งแต่เกิดฝนฟ้าคะนองครั้งใหญ่ และการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศเอง ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวการ ที่ทำให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้น ครับ

    แม้จะยังไม่มีข้อสรุปว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหว จะเกี่ยวโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือสภาวะโลกร้อนหรือไม่ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ภัยพิบัติทั่วโลกมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และอาจจะรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต ครับ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    1. กำเนิดทางสายไหม
    เมื่อประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีนเสนอแนวความคิดเรื่องเส้นทางสายไหมด้านเศรษฐกิจ (Silk Road Economic Belt and Road) ที่คาซัคสถานในเดือน กันยายนปลายปีที่แล้ว ถือว่าเป็นการเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ของศตวรรษที่ 21
    ผู้นำจีนเลือกที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์โดยอ้างถึงเส้นทางการค้าในอดีต ที่รู้จักกันในชื่อ “เส้นทางสายไหม” ให้กับ นักศึกษาและคณาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนาเซอบาเยฟ เขาเสนอว่าจีนและเอเชียกลางควรร่วมมือกันสร้าง เส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ท่านประธานาธิบดีสีได้เปิดไต๋หมากเด็ด
    ต่อมา ประธานาธิบดี สี ได้เดินทางไปยังอินโดนีเซีย และเสนอการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ระหว่างจีนและภูมิภาคอาเซียนด้วยเส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road) จีนและอาเซียนเองก็มีความสัมพันธ์กันอยู่แล้ว ด้วยข้อตกลงด้านการค้าเสรี (FTA) ผู้นำจีนมองข้ามความขัดแย้งในภูมิภาคเรื่องทะเลจีนใต้ ด้วยการเสนอเส้นทางสายไหมทางทะเล ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการเดินเรือทางทะเล ซึ่งจะเชื่อมโยง จีนและอาเซียน เข้ากับเอเชียใต้ แอฟริกาและยุโรปเข้าด้วยกัน
    เขตเศรษฐกิจของเส้นทางสายไหมจะมีทั้งถนน รถไฟและการเดินเรือที่เชื่อมโยงจากด้านปลายของเอเชียตะวันออกไปยังยุโรป ยิ่งไปกว่านั้น วิสัยทัศน์นี้ยังนำจีน เอเชียกลาง รัสเซีย และยุโรป ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงจีน กับ อ่าวเปอร์เซียและทะเล เมดิเตอร์เรเนียนผ่านทางเอเชียกลางและมหาสมุทรอินเดีย เส้นทางสายไหมทางทะเลยังเชื่อมโยงชายฝั่งของ จีนไปยังยุโรปได้อีกสองเส้นทาง ทางแรกโดยผ่านทางทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดีย ทางที่สอง จากชายฝั่ง ของจีนผ่านทางแปซิฟิคใต้
    เป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่าการเปิดตัวเส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจครั้งนี้นั้น เป็นการนำจีนเข้าสู่ผู้นำระดับโลกใน ศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะเปลี่ยนประเทศจีนจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกไปเป็นเครื่องจักรในการลงทุน ทำให้จีนสามารถก้าวข้ามความเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการบริโภคภายใน กลายเป็นประเทศที่จะเน้นการลงทุน โดยจะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจของจีนที่เป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป
    ในขณะที่ขั้วอำนาจเก่าของโลกใช้นโยบายสร้างความขัดแข้ง กดขี่ แบ่งแยกและปกครองภายใต้อุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และครอบงำประเทศต่างๆผ่านระบบการเงินและบรรษัทที่ตัวเองถือหุ้น จีนกำลังดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่จีนจะเป็นผู้ควักเงินจากกระเป๋ารายใหญ่ ช่วยลดบรรยาการของการเผชิญหน้ากันในภูมิภาค
    ถือได้ว่าเส้นทางสายไหมเป็นหมากที่สำคัญที่สุดของจีนในการก้าวเข้ามาเป็นมหาอำนาจใหม่ของโลกในศตวรรษที่21 ในขณะที่ขั้วอำนาจเก่าไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นกำลังเสื่อมถอยลงทั้งการเศรษฐกิจ การเงินและการเมือง หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
    มีคำกล่าวโบราณที่ว่า เมื่อเริ่มต้นได้ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
    thanong
    8/5/2015
    หมายเหตุ: ขอบคุณ คุณMark Piathanom ที่ช่วยแปลบทความของผมจากภาคภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทยได้อย่างดีเยี่ยม
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,654
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    2. กำเนิดทางสายไหม
    มีคำถามเหมือนพุ่มพวง ดวงจันทร์ว่า "เงินน่ะมีไหม" เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลย เพราะว่าระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการ ณ ประเทศ อินโดนีเซีย ในเดือนตุลาคม ปี2013 นั้น ประธานาธิบดี สี ยังเสนอที่จะจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเอเซีย (AIIB) ซึ่งจะไฟแนนซ์การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มหึมาของทางสายไหม
    พิมพ์เขียวมีครบหมดแล้ว นับว่าเป็นการเตรียมการที่ดี สอดคล้องกับการพัฒนาทางสายไหมที่จำเป็นต้องการการลงทุนและการไฟแนนซ์ที่เพียงพอ ในตอนแรกที่ผู้นำจีนเสนอก่อตั้งAIIB ปรากฎว่าสหรัฐฯตั้งป้อมคัดค้านอย่างหัวชนฝา โดยอ้างว่าตั้งมาแล้วจะได้ประโยชน์อะไร เพราะว่าจะปล่อยกู้หรือทำงานซ้ำซ้อนกับธนาคารโลกที่สหรัฐคุมอยู่ หรือธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียที่ญี่ปุ่นดูแลอยู่
    สหรัฐฯรู้ตัวดีว่า ถ้าหากAIIBได้แจ้งเกิด บทบาทหรืออิทธิพลของธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเซียและธนาคารของโลกตะวันตกจะลดลงไป รวมทั้งเงินดอลล่าร์ด้วยที่จะอับแสง เพราะว่าจีนมีการเตรียมการใช้เงินหยวนเพื่อไฟแนนซ์ทางสายไหมเป็นหลัก และธนาคารของจีน หรือระบบการเงินของจีนบวกเอเซียจะเข้ามามีบทบาทในการให้เงินสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของทางสายไหม
    ทำให้สหรัฐฯพยายามล๊อบบี้ประเทศต่างๆ ไม่ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับAIIB โดยอ้างว่ามาตรฐานการปล่อยกู้ของAIIBจะเป็นอย่างไร เรื่องสิ่งแวดล้อมจะเอามาพิจารณาด้วยหรือเปล่า หรือว่าจะปล่อยกู้แบบอีลุ่ยฉุยแฉก พูดง่ายๆ ทำทุกอย่างเพื่อขัดแข้งขัดขาAIIBไม่ให้ได้เกิด ตอนแรกประเทศต่างๆก็เกรงใจสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป แต่หลังจากบวกลบคูณหารแล้ว มีความเห็นว่าถ้าไม่ได้เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นของAIIB ซึ่งจีนเปิดกว้างให้ทุกประเทศเข้าร่วมได้ จะตกรถไฟขบวนสุดท้ายที่จะสร้างโลกใหม่ในศตวรรษที่21
    ทำให้ประเทศอย่างอังกฤษทิ้งสหรัฐทันทีขอกรอกใบสมัครเป็นสมาชิกAIIBชาติแรกๆในยุโรป ตามมาด้วยเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ส่วนประเทศในเอเซียไม่ต้องห่วง เข้ามาแจมอยู่แล้วประเทศอาเซี่ยนมากันถ้วนหน้า ไทยเราก็เป็นสมาชิกแรกเริ่มกับเขาด้วย แต่ตอนแรกดูท่าแล้วเข้าไปร่วมAIIBแบบขอไปที เพราะว่ายังมองไม่เห็นความสำคัญของสถาบันการเงินแห่งใหม่นี้ คิดว่าก็แค่งั้นๆ แต่ที่ไหนได้ หลังจากยุโรปแห่กันเข้ามาเป็นสมาชิกถึงตกใจไปตามๆกัน เพราะว่าใครไม่เข้าร่วมต่อไปจะทำธุรกิจลำบาก บริษัทของประเทศตัวเองจะเข้าไปประมูลงาน หรือเป็นซับไพลเออร์ลำบาก เพราะว่าAIIBต้องให้โครงการกับบริษัทประมูลงานของประเทศสมาชิกก่อนอยู่แล้ว
    สหรัฐฯและญี่ปุ่นเล่นตัวจนนาทีสุดท้าย ปิดใบสมัครไปแล้ว ยังไม่เข้าร่วม ญีุ่่ปุ่นยอมตายกับนาย
    จีนยิ้มปากแทบฉีกเพราะว่ามี57ประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกแรกเริ่มของAIIB แสดงว่ายอมซูฮกให้จีนเป็นผู้นำ
    นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ BRICS ซึ่งนำโดยจีนและรัสเซีย ได้ตกลงที่จะร่วมกันก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่ง ใหม่ (New Development Bank) สถาบันการเงินแห่งนี้จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซียด้วย โดยจะให้การช่วยเหลือทางการเงินต่อ ประเทศในตลาดเกิดใหม่เพื่อลงทุนในโครงการที่ต้องการเงินทุนสูงๆ อย่างเช่น โทรคมนาคม ทรัพยากรน้ำ ถนน ทางรถไฟ และ พลังงาน
    แน่นอนจีนกระเป๋าหนักที่สุดในหมู่BRICS หรือมหาอำนาจของประเทศเกิดใหม่ที่ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ เพราะฉะนั้นNew Development Bankจะปล่อยกู้เป็นเงินหยวน หรือเงินสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลล่าร์ เพราะว่าBRICSต้องการล้มดอลล่าร์อยู่แล้ว เพื่อลดอิทธิพลทางการเงินและการเมืองของสหรัฐฯ
    กลายเป็นว่าNew Development Bankที่จะมีเงินทุนเบื้องต้น$100,000ล้านและAIIBที่จะมีเงินทุนประเดิมเท่ากัน$100,000ล้านจะมาเชื่อมกันพอดี ในการไฟแนนซ์โครงสร้างพื้นฐานที่จะเป็นหัวใจของทั้งยูเรเซียและเส้นทางสายไหม
    จีนเตรียมแท่นพิมพ์เงินหยวนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
    thanong
    8/5/2015
     

แชร์หน้านี้

Loading...