จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. pattranit uk

    pattranit uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +1,446
    สุขสันต์วันสงกรานต์ สวัสดีปีใหม่ไทยมาบรรจบ

    วาระครบรอบปีศรีสมัย
    ขออำนาจคุณพระรัตนตรัย
    อำนวยชัยบันดาลประทานพร
    ให้มั่งมีสมบัติ พัสถาน
    สำเร็จงานรุ่งเรืองประภัสสร
    พูนและเพิ่มเติมค่าฐานันดร
    เกียรติกำจรยืนนานกาลเวลา
    ปราศจากเภทภัยสิ้นไร้โรค
    ประสบโชคคืนวันสุขหรรษา
    มีแต่คนรักใคร่และเมตตา
    เป็นที่รักปรารถนาของผู้คน

    ขอพรพระสัมฤทธิ์เพื่อมิตรสหาย ทั้งหญิงชายพรประเสริฐบังเกิดผล
    เถลิงศกสงกรานต์ผ่านมาดล ขอทุกคนมีสุขทั่วหน้าเทอญ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99 KB
      เปิดดู:
      71
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043

    **************************
    สาธุๆๆ ขอพรนี้ย้อนกลับไปสู่คุณครูแพทด้วยค่ะ:cool:
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]
    [​IMG]
    “หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี” ประลองฤทธิ์กับ “หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค”

    ย้อนหลังไปกว่า ๓๐ ปีที่แล้ว ที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มีหลวงปู่รูปหนึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านนามว่า “คำคะนิง จุลมณี” แห่งวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ภิกษุรูปนี้ได้ยึด “ญายปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ”

    หลวง ปู่คำคะนิงนั้นท่านเป็นภิกษุที่ไม่เหมือนใคร ผ่านการเป็นฤๅษีชีไพรมาก่อน ๑๕ ปี จึงค่อยบวชเป็นพระ เมื่อบวชเป็นพระแล้วก็มักแสวงหาธรรมอันแปลก ด้วยการธุดงค์ไปที่ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่ตามป่าเขา

    ครั้ง หนึ่งหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) วัดบางนมโค อ.สนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำศิษย์เอก ๔ รูปไปด้วย มีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง) หลวงพ่อฤาษีลิงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก และพระเขียน หลวงพ่อปานพาลูกศิษย์ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรเพื่อบำเพ็ญสมณธรรม มุ่งหน้าไปทางภาคเหนือ ข้ามเขตชายแดนลึกเข้าไปกระทั่งเข้าเขตเชียงตุง

    วัน หนึ่ง...คณะของหลวงพ่อปานได้ผ่านไปถึงถ้ำแห่งหนึ่ง และได้พบกับ “ปะขาวคำคะนิง” ขณะนั้นท่านปล่อยผมยาวรุงรังมาถึงเอว หนวดเครางอกยาวรุ่ยร่าย นุ่งห่มด้วยผ้าซึ่งดูไม่ออกว่าเป็นผ้าสีอะไร เพราะปุปะและกระดำกระด่าง หลวงพ่อปานถึงกับตะลึงเลยทีเดียว จึงเปรยขึ้นลอยๆ ว่า

    “เออ...นี่ พระหรือคนเนี่ย ?”

    “ไอ้พระมันอยู่ที่ไหน ? เฮ้ย ! พระมันอยู่ที่ไหนวะ ?” พูดสวนด้วยน้ำเสียงขุ่นเหมือนไม่พอใจ

    “อ้าว...ก็เห็นผมยาว ผ้าก็อีหรุปุปะ สีเหลืองก็ไม่มี แล้วใครจะรู้ว่าเป็นคนหรือพระล่ะ ?”

    “พระมันอยู่ที่ผมหรือวะ ?”

    “ไม่ใช่” หลวงพ่อปานตอบยิ้มๆ

    “แล้วพระมันอยู่ที่ไหนเล่า ?”

    “พระน่ะอยู่ที่ใจใสสะอาด”

    “ถ้าอย่างนั้นละก้อ เสือกมาถามทำไมว่าเป็นพระหรือคน”

    “เห็นผมเผ้ารุงรังอย่างนั้นนี่ ใครจะไปรู้เล่า ?”

    “ก็ ในเมื่อพระไม่ได้อยู่ที่ผม ไม่ได้อยู่ที่ผ้าแล้วเสือกมาถามทำไม ทำไมไม่ดูที่ใจคน ไอ้พระบ้านพระเมืองกินข้าวชาวบ้านแบบนี้อวดดี มันต้องเห็นดีกันละ”

    พูด จบ ปะขาวคำคะนิงก็หยิบเอาหวายยาวประมาณหนึ่งวาโยนผลุงไปตรงหน้า หวายเส้นนั้นกลายสภาพเป็นงูตัวใหญ่ยาวหลายวาน่ากลัว ชูคอร่าก่อนจะเลื้อยปราดๆ เข้ามาหาหลวงพ่อปาน พระลูกศิษย์เห็นอย่างนั้นต่างถอยไปอยู่เบื้องหลังหลงพ่อปาน

    หลวง พ่อปานไม่ได้แสดงอาการแปลกใจหรือตื่นกลัว ท่านก้มลงหยิบใบไม้แห้งขึ้นมาใบหนึ่งแล้วโยนไปข้างหน้า ใบไม้นั้นก็กลายเป็นนกขนาดใหญ่คล้ายเหยี่ยวหรือนกอินทรี

    นก ซึ่งเกิดจากอิทธิฤทธิ์โผเข้าขยุ้มกรงเล็บ จับลำตัวงูใหญ่เอาไว้แล้วกระพือปีกลิ่วขึ้นไปเหนือทิวยอดไผ่ ต่อสู้กันเป็นสามารถ งูฉกกัดและพยายามม้วนตัวขนดลำตัวรัด ขณะที่นกใหญ่จิกตีและจิกขยุ้มกรงเล็บไม่ยอมปล่อย แต่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแพ้ชนะ ตราบกระทั่งร่วงหล่นลงมาทั้งคู่พอกระทบพื้นดิน งูกลายเป็นช้างป่าตัวมหึมา งายาวงอน ส่วนใบไม้แห้งแปรรูปเปลี่ยนเป็นเสือลายพาดกลอน แล้วสองสัตว์ร้ายก็โผนเข้าสู้กันใหม่ เสียงขู่คำรามของเสือ เสียงโกญจนาทของพญาคชสารแผดผสานกึกก้องสะท้านป่า

    นี่ ไม่ใช่ภาพมายา แต่เกิดจากฤทธิ์อภิญญา ! ครั้นสองตัวประจัญบานไม่รู้แพ้ชนะได้ ครู่หนึ่งก็หายไป ปะขาวหนวดยาวเครารุงรังได้บันดาลให้เกิดไฟลุกโชติช่วงประหนึ่งจะมีเจตนาจะ ให้ลามมาเผา แต่หลวงพ่อปานก็บันดาลพายุฝนสาดซัดลงมาดับไฟ เกิดฝุ่นตลบคลุ้งไปทั้งป่า

    ลองฤทธิ์กันหลายครั้งหลาย ครา ปรากฏว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แทนที่ทั้งสองฝ่ายจะโกรธเกรี้ยว กลับทรุดลงนั่งหัวเราะด้วยความขบขัน ชอบใจในอิทธิอภิญญาของกันและกัน ต่างฝ่ายชมกันและกันและถ่อมตนใส่กัน
    คณะศิษย์ของหลวงพ่อปานพากันประหลาดใจ หลวงพ่อปานจึงอธิบายว่า “เขากับฉันเป็นเพื่อนกัน” พร้อมกันนั้นก็หันไปพูดกับปะขาวผมยาวหนวดเครารุงรังว่า ลูกศิษย์ของท่านนั้น “เอาจริง” หมายถึงปรารถนาบรรลุสู่พระนิพพานกันจริงๆ ทุกรูป การที่ท่านและปะขาวผมยาวเล่นฤทธิ์ประลองกันก็เพื่อให้ศิษย์ทุกคนได้เห็น “ของจริง”

    แล้วหลวงพ่อปานก็ให้คณะ ศิษย์ของท่านเข้าไปทำความเคารพ ซึ่งปะขาวคำคะนิงผมยาวก็ได้นอบน้อมถ่อมตนว่า ท่านไม่ได้เก่งกาจเกินว่าหลวงพ่อปานเลยแม้แต่น้อย

    หลวง พ่อปานและศิษย์ของท่านพักอยู่กับปะขาวผมยาวนานนับครึ่งเดือน เพื่อให้ทุกรูปได้รับคำแนะนำสั่งสอนด้านอภิญญาเพิ่มเติม เมื่อพักอยู่ที่คูหาถ้ำพอสมควรแก่เวลาแล้ว หลวงพ่อปานและคณะศิษย์ก็ออกธุดงค์ต่อไป ปะขาวผมยาวคนนั้นก็คือปะขาวคำคะนิง หรือหลวงปู่คำคะนิงนั้นเอง

    หลังจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และคณะศิษย์ของท่านจากไปแล้ว ปะขาวคำคะนิงก็ออกเดินทางต่อไป โดยด้นไปยังภูอีด่าง ซึ่ง สมเด็จลุน พระอริยเจ้าแห่งราชอาณาจักรลาว จำพรรษาอยู่ พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ของตนให้ท่านทราบ สมเด็จลุนให้ความปราณีมอบคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ให้ปะขาวคำคะนิงไปค้นคว้าศึกษา ครั้นท่านศึกษาธรรมจากพระคัมภีร์เรียบร้อยก็เอาเก็บไว้ที่เดิม มิได้นำมาเป็นสมบัติส่วนตัว ปะขาวคำคะนิงลงจากภูเขาได้พบชาวบ้าน และได้ทำการรักษาคนป่วยจนหายทุเลา ท่านเดินทางไปเรื่อย เจอใครก็รักษาโรคภัยให้หมด

    ที่มา
    ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี
    แสดงกระทู้ - หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี • ลานธรรมจักร

    ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
    แสดงกระทู้ - หลวงพ่อปาน โสนันโท • ลานธรรมจักร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2015
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    กลยุทธ์ รักษาจิต.avi

    https://www.youtube.com/watch?v=xu0l8C3XjFI



    Published on Apr 26, 2012

    Dr. Sanong Voraurai, ดร.สนอง วรอุไร

    ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    อ ธิ ษ ฐ า น จิ ต
    ค ว า ม ตั้ ง ใ จ - จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ใ น ใ จ

    การอธิษฐาน ก็คือการตั้งจิต การตั้งใจมั่น การตั้งจุดมุ่งหมาย ตั้งเป้าหมาย ในใจ
    เหมือนเป็นการตั้งเข็มทิศของชีวิต เขียนแผนที่ทางเดินที่มุ่งมั่น

    หากว่ากันโดยแก่นธรรมแล้ว

    เมื่อสรรพสัตว์เห็นทุกข์โทษภัยในวัฏฏสงสาร
    ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย หวาดกลัวต่อทุกข์ ต่อการเวียนว่ายตายเกิด

    ผู้ที่มุ่งออกจากทุกข์ จึงมักมุ่งตั้งจิต ตั้งใจมั่นหรือเรียกว่าอธิษฐานก็ได้
    ว่าขอให้ได้พ้นทุกข์ เป็นสำคัญ

    การอธิษฐานหรือตั้งจิต จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ ตั้งใจให้มั่น ระลึกถึงอยู่ เนืองๆ ก็ได้
    ท่านว่าเหมือนเป็นการสั่งซ้ำย้ำเตือนจิต ตอกตะปูความ ตั้งใจ
    และความมุ่งมั่นให้ลึกลงๆ หนักแน่นขึ้นๆ เรื่อยๆ ไปตามกาล

    อย่างเช่น ในการจบทานทุกครั้ง
    หลังการเดินจงกรมนั่งสมาธิทุกครั้ง ในการสวดมนต์ไหว้พระทุกครั้ง
    และตลอดเวลาเมื่อไหร่ก็ตามที่นึก ถึงเรื่องนี้

    คำอธิษฐาน สำหรับผู้ที่มุ่งพ้นทุกข์ ก็อาจเป็นอะไรสั้นๆ ประโยคเดียว ว่า

    ขอให้ … เหล่านี้ (แล้วแต่ว่าเรากำลังทำอะไร)
    เช่น ขอให้ผลบุญ เหล่านี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้สิ้นทุกข์โดยเร็ว ฯลฯ

    ถ้าจะเอาให้ละเอียดปลอดภัย ก็อาจเป็นประมาณนี้ว่า

    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้เที่ยงต่อความเป็นสัมมาทิฏฐิ
    ตราบเท่าที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ก็ขอให้เป็นผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ
    ได้เกิดและอยู่ในแวดล้อมของผู้มีสัมมาทิฏฐิ
    มีผู้มีสัมมาทิฏฐิเป็นกัลยาณมิตร
    ขอให้ได้เกิดดี ได้มีโอกาสมาพบพระพุทธศาสนา
    เข้าถึงแก่นแห่งพระธรรม ได้มีโอกาสปฏิบัติสติปัฏฐานสี่
    และวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางที่ตรงและถูกต้องต่อเนื่องกันไป
    จวบจบได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ฯลฯ


    สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ตั้งจิตจะต้องปฏิบัติตนคือปฏิบัติกายและใจ
    โดยเพียรพยายามฝึกฝนตนเองให้เกิดปัญญารู้แจ้ง
    เพื่อให้ได้รู้เท่าทันโลก และสรรพสิ่งตามความเป็นจริง

    รู้เท่าทันทุกข์ รู้เท่าทันพระไตรลักษณ์
    รู้เท่ากันกิเลสตัณหา อุปาทาน ให้ยิ่งๆ ขึ้น
    ด้วย การเจริญสติ (สติปัฏฐานสี่) และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ให้เนืองๆ


    รวมทั้งหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาธรรม เจริญพรหมวิหารสี่
    มีชีวิตอยู่ในบุญในกุศลและมีสติอยู่เป็นนิจ



    (ที่มา : ธรรมะและธรรมปฏิบัติอย่างง่ายๆ
    http://www.geocities.com/easydharma/dm005008.html)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. pattranit uk

    pattranit uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ปัญหาส่วนมาก
    ของผู้ปฏิบัติธรรมคือ
    ความลังเลสงสัย
    ความกังวลใจ
    ความคับข้องใจ
    สิ่งเหล่านี้
    เป็นอุปสรรคต่อความเพียร
    และกำจัดได้ยาก
    ต้องเพียรฝึกฝนให้มากๆ
    พยายามประคองจิตด้วย
    ...สติ...
    ระวังเรื่องการปรุงแต่ง
    เพราะเป็นอุบายของกิเลส
    ยิ่งรู้สึกตัว
    ยิ่งเข้าใจธรรมชาติยิ่งขึ้น
    ขอให้ตั้งใจปฏิบัติ
    เพื่อพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.8 KB
      เปิดดู:
      58
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    . .[​IMG]
    คาถาบูชาหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน​

    ตั้งนะโม ๓ จบ
    อิมินาสักกา​เรนะ​ พุทธะมหานุภา​โว​
    ​อิมินาสักกา​เรนะ​ ธัมมะมหานุภา​โว​
    ​อิมินาสักกา​เรนะ​ สังฆะมหานุภา​โว​
    ​อิเมยันตา​ มหาเตชา มหานุภาตะชาติกา​
    ​มหามังคะละ​ สัมพุทตา​ อันตรา​เยวินาสะกา​
    ​สัพพะถะสุขะ​ สัมพุทตา​ อเนกาคุณันตา​นานับปะ​โก​
    ​สัพพะทุกขัง​ สัพพะภะยัง​ สัพพะ​โรคัง​วินาสสันติ​
    ​สัพพะลาภัง​ สัพพะสุขัง​ ภะวันตุ​เมฯ


    คาถาหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน สวดคาถาสักการะหลวงพ่อโตเป็นประจำ จะเป็นสิริมงคลและมีอภินิหารป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    1011027_483537395091154_648137347_n.jpg https://th-th.facebook.com/watputta...824919.66709.104053099706254/483537395091154/

    วัดพุทธพรหมปัญโญ : วัดถ้ำเมืองนะ
    ธรรมโอวาท ของหลวงปู่ดู่

    ".....เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ"

    "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือ กรรม"...

    "คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร"

    "ของดีอยู่ที่ตัวเราหมั่นทำ(ปฏิบัติ)เข้าไว้"

    "ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต"

    "อย่าลืมตัวตาย"

    "ให้หมั่นพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"

    "ที่แกปฏิบัติอยู่ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เพื่อข้า แต่เพื่อตัวแกเอง"

    "ตราบใดก็ตามที่แกยังไม่เห็นความดีในตัว ก็ไม่นับว่าแกรู้จักข้า
    แต่ถ้าเมื่อใดที่เริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้ว
    เมื่อนั้น ข้าว่าแกรู้จักข้าดีขึ้นแล้ว"

    "บุญนั้นหมั่นทำไว้ปฏิบัติไว้ คนไหนที่เขาว่าทำได้ดีได้เห็นอะไรก็ตาม
    โมทนาไปเลยไม่มีเสียมีแต่ได้ อย่าไปขัดเขา"

    "หมั่นทำเข้าไว้...ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต
    ...ของดีอยู่ที่ตัวเรา ของไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเรา"

    "ปฏิบัติแล้ว โลภ โกรธ หลง แกลดน้อยลงหรือเปล่าล่ะ ถ้าลดลงข้าว่าแกใช้ได้"

    "นั่งไปเถอะ สว่างก็ได้บุญ มืดก็ได้บุญ"

    "โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม"

    "ธรรมนั้น อยู่ฟากตาย"

    "ผู้ปฏิบัติต้องหมั่นตามดูจิต รักษาจิต"

    "ตัวตายน่ะ ตัวสำเร็จ"

    "นิพพาน อยู่ฟากตาย"

    "ถ้าไม่เอา(ปฏิบัติ) เป็นเถ้าเสียดีกว่า"

    "เรื่องของคนอื่น เราไปแก้เขาไม่ได้ ที่แก้ได้คือตัวเรา แก้ข้างนอกเป็นเรื่องโลก แต่แก้ที่ตัวเรานี่เป็นเรื่องธรรม"

    "เชื่อไหมหละ ถ้าเราเชื่อจริง ทำจริง มันก็เป็นของจริง ของจริงมีอยู่ แต่เรามันไม่เชื่อจริง จึงไม่เห็นของจริง"

    "ติดวัตถุมงคล ยังดีกว่าที่จะให้ไปติดวัตถุอัปมงคล"

    "เอาของจริงดีกว่า พุทธังฯ ธัมมังฯ สังฆังฯ สรณัง คัจฉามิ นี่แหละของแท้"

    "ของจริง ต้องหมั่นทำ"

    "ถ้าแกเกลียดกิเลสเหมือนหมาเน่า หรือของบูดเน่าก็ดี ให้เกลียดให้ได้อย่างนั้น"

    "ข้าไม่มีอะไรให้แก
    (ธรรม)ที่สอนไปนั้นแหละ ให้รักษาเท่าชีวิต"

    "แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก
    แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็ยังคิดถึงแก"

    "หมั่นทำเข้าไว้ พระท่านคอยจะช่วยเราอยู่แล้ว แล้วเราได้ช่วยเหลือตัวเองก่อนหรือยัง"

    "ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เป็นหนุ่ม เป็นสาวนี่แหละดี เพราะเมื่อแก่เฒ่าไปแล้ว จะนั่งก็โอย จะลุกก็โอย หากจะรอไว้ให้แก่เสียก่อน แล้วจึงค่อยปฏิบัติ ก็เหมือนคนที่คิดจะหัดว่ายน้ำเอาตอนที่แพใกล้จะแตก มันจะไม่ทันการณ์"

    "ถ้ามันไม่ดีหรือไม่ได้พบความจริงก็ให้มันตาย ถ้ามันไม่ตายก็ให้มันดี หรือได้พบกับความจริง"

    "แกจะรู้เหรอว่า แกจะตายเมื่อไหร่ ไม่แน่ว่าแกเดินออกไปจากกุฏิข้าแล้ว อาจถูกงูกัดตายเสียกลางทางก่อนไปจับปลา จับกุ้ง ก็ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อตอนนี้แกยังไม่ได้ทำบาปกรรมอะไร ยังไง ๆ ก็ให้มีศีลไว้ก่อน ถึงจะมีศีลขาดก็ยังดีกว่าไม่มีศีล"

    "ครูอาจารย์ดี ๆ แม้จะมีอยู่มาก แต่สำคัญที่ตัวแกต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มากนั่นแหละจึงจะดี"

    "คนเราทุกวันนี้ โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม เรามัวพากันยุ่งอยู่กับโลกจนเหมือนลิงติดตัง เรื่องของโลก เรื่องเละ ๆ เรื่องไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ไขเขาไม่ได้จะต้องแก้ไขที่ตัวเราเอง ตนของตนเตือนด้วยตนเอง"

    "ขยันก็ให้ทำ ขี้เกียจก็ให้ทำ ถ้าวันไหนยังกินข้าวอยู่ก็ต้องทำ วันไหนเลิกกินข้าวแล้ว นั่นแหละ จึงค่อยเลิกทำ"

    "ภาวนาได้เห็นแสงสว่างเท่าปลายหัวไม้ขีด ชั่วประเดี๋ยวเดียว เท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ยังมีอานิสงส์มากกว่าตัดบาตรจนขันลงหินทะลุ"

    "หมั่นทำเข้าไว้ หมั่นทำเข้าไว้ ต่อไปจะได้เป็นที่พึ่งภายหน้า"

    นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ


    https://www.youtube.com/watch?v=Y_K7pkfY6z0

    สารคดีสัญญานวันสินโลกที่ถูกระบุในอัลกรุอ่านและฮาดิษ
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .


    เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ
    สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต
    นารีนํ วสงฺคโต น ภาสติ
    ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา

    ขุ.ชา. ๒๘/๓๑๓


    ถีงเป็นคนมีเดช มีปัญญาเฉียบแหลม อันคนเป็นอันมากสักการบูชา อยู่ในอำนาจสตรีเสียแล้วย่อมไม่รุ่งเรือง เหมือนพระจันทร์ถูกพระราหูบังฉะนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2015
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • word5.jpg
      word5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      724
  16. pattranit uk

    pattranit uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ต้องมองหา แต่เป็นสิ่งที่ต้องมองเห็น.

    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่นำธรรมะมาลงในกระทู้ด้วยนะค่ะ:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180.3 KB
      เปิดดู:
      89
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    [​IMG]. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    คนตาบอดถือโคมไฟ

    ยังมีตรอกสายหนึ่งที่ทั้งมืดทั้งแคบ ทั้งยังไม่มีดวงไฟส่องทางให้ความสว่างแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อถึงยามค่ำคืน การเดินทางในตรอกแห่งนี้จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก

    คืนวันหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม ทว่าด้วยความที่ตรอกนี้มืดมิดกระทั่งนิ้วมือทั้งห้าของตนเองยังไม่อาจมอง เห็นได้ เมื่อเดินไปเรื่อยๆ พระรูปนี้จึงทั้งเดินไปชนผู้อื่น และถูกผู้อื่นเดินมาชนไม่หยุดหย่อน สร้างความลำบากยิ่งนัก

    ในตอนนั้นเอง มีคนผู้หนึ่งถือโคมไฟเดินเข้ามายังตรอกดังกล่าว พลันทำให้ในตรอกเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร พระรูปนั้นได้ยินคนเดินผ่านทางกล่าวว่า "คนตาบอดผู้นั้นช่างแปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ๆ ใยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย" เมื่อพระได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ รอจนกระทั้งคนตาบอดถือโคมไฟคนนั้นเดินผ่านมา จึงเอ่ยถามขึ้นว่า "ขออภัย ท่านตาบอดจริงๆ หรือ?"

    คนผู้นั้นตอบว่า "ถูกแล้ว ข้าเกิดมาก็พิการ ตาสองข้างมองไม่เห็น สำหรับข้านั้นไม่ว่าจะยามเช้าสายบ่ายเย็นล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่าแสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร"

    พระได้ยินดังนั้นก็ยิ่งงุนงงมากขึ้น เอ่ยถามต่อไปว่า "เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปเพื่ออะไร?"

    คนตาบอดตอบว่า "เนื่องเพราะข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าในยามกลางคืนไร้แสงสว่าง คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้าคือมองไม่เห็นสิ่งใด ดังนั้นข้าจึงถือโคมไฟไปไหนมาไหนเสมอ"

    พระได้ยินดังนั้นก็เกิดความซาบซึ้งใจ เอ่ยคำ อมิตาพุทธออกมา และกล่าวต่อไปว่า "ท่านช่างมีเมตตาธรรม ห่วงใยเพื่อนมนุษย์"

    มิคาดคนตาบอดกลับกล่าวว่า "ผิดแล้ว ข้าทำไปเพื่อตัวเอง"

    "ทำเพื่อตัวเองอย่างไร?" พระถามต่อด้วยความสงสัยใจ

    คนตาบอดอธิบายว่า เมื่อครู่ท่านเดินอย่างมืดมนในตรอกใช่โดนคนเดินสวนไปมาชนเอาหรือไม่ ท่านดูข้าเองนั้นแม้เป็นคนตาบอด แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่านคือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง แต่เมื่อข้าถือโคมไฟทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่ข้าจุดโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้นข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย

    ปัญญาเซน : การช่วยเหลือผู้อื่น ประโยชน์สูงสุดล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...