เปิดตำนานหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่

กราบกราบกราบ ครูบาจาอาจารย์ หลวงปู่ทิม หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อสาคาร ใน วัน มาฆบูชา 15 ค่ำ เดือน 3 ด้วยความเคารพศรัทธา สูงสุด



​

 

กราบหลวงปู่ทิมครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม ,ลุงสาย และ ข้อมูลดีๆ จาก อ.แก้วสว่าง ครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

 

เรียน คุณ แก้วสว่าง

ขอรบกวนสอบถาม
เมื่อครั้งลุงสายให้คุณแก้วสว่างดูพระขุนแผนชุดแรกของหลวงปู่ทิม ที่ลุงสายหวงแหนมาก ไม่ทราบว่า คุณลุงสายท่านได้เก็บพระชุดนี้ไว้มากน้อยเท่าไรครับ

 

สวัสดีครับพี่ ผมบอกนิดหนึ่งครับการสร้างพระขุนแผนนั้นมีการทำในหลายครั้งหลายหนมาก จนไม่สามารถจับประเด็นการสร้างกับครั้งไหนที่เป็นมาตราฐาน แต่ที่สำคัญคือฟอร์มการสร้างนั้นยังคงสามารถสังเกตุได้ เพราะฝีมือการทำแบบชาวบ้านมันพิสูจน์ได้ถ้าได้ทันต่อเหตุการณ์และได้รับความรู้เบื้องต้นไว้

ปัจจุบันมีการเก๊ในหลายระดับฝีมือเนื้อหาดูจัดและสวยคมตามากจนเก๊แบบพยายามให้เป็นฝีมือชาวบ้านก็มีมากมายตามแต่จะเล่นหากัน

และโดยเอกลักษณ์การสร้างของวัดนั้นสิ่งสำคัญคือ รูปแบบและโซลเนื้อหา ซึ่งต้องพยายามจำให้ได้ แต่อาจจะเป็นการยากมากกับคนรุ่นหลังๆที่ไม่เคยได้สัมผัสกันมาแต่แรก อาจจะได้ศึกษากันตามหนังสือและแบบที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันไป จึงอาจจะยากแก่การเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เล่นหา

ซึ่งความจริงหลายคนที่ทันคงเข้าใจเพราะความบิดเบือนกันมาแต่ก่อน จึงต้องปล่อยกันเลยตามเลย ชอบแบบไหนเล่นแบบนั้นไป ทำให้จึงต้องมีการถกเถียงกันเป็นวรรคเป็นเวร แต่ถ้าจะเอาเข้ากันจริงๆก็หาเหตุผลกันไม่ได้สักคน และการยอมรับกับบุคคลที่เชื่อถือได้ เพราะทุกอย่างมันเป็นเรื่องราวไม่ใช่เรื่องเล่าที่จับเอามาพูดขยายความกันเอง แล้วใครกันล่ะที่อยู่ในยุคสมัยนั้นที่ทันต่อเหตุการณ์การทำขุนแผนตามความเป็นจริง? แบบนี้แหละครับที่ควรนำมาขยายกันมากกว่า

เมื่อสิ้นนายสาย แก้วสว่างผู้ดำเนินการสร้างขุนแผนของวัดละหารไร่ทุกอย่างมันอาจจะไม่ได้จบลงเลยกันหมด ความจริงเรื่องราวมันยังมีอยู่เพราะคนที่ทันยุคต่อเหตุการณ์การทำยังมีอยู่ อยู่ที่ความเป็นรูปแบบกันเท่านั้น เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกยาว.............

ขุนแผนที่พี่ส่งมาให้ผมดูเป็นของแท้ทั้งสิ้นครับแต่การสร้างมากน้อยนั้นผมก็คงไม่ทราบจำนวนได้เพราะเป็นการสร้างในหลายครั้ง แต่ต้องเข้าใจนะครับวงการซื้อขายกำหนดราคาจะเล่นกันแบบไหนสมัยนี้คงอธิบายยาก เอาเป็นว่าเรามีของจริงไว้ใช้มั่นใจกว่า

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

สำหรับการทำพระเครื่องของวัดละหารไร่นั้นทุกท่านที่อ่านต้องทำความเข้าใจ กับแบบองค์รูปลักษณ์และเนื้อหากันให้ถ้วนถี่ เพราะถือเป็นหลักในเชิงวิเคราะห์กัน แบบการสร้างทำส่วนผสมโดยนำหลักการใช้ตัวประสานโดยจะใช้น้ำข้าวหรือจะเป็น ข้าวเหนียวตามสูตรโบราณการสร้างในแต่ละครั้งที่ไม่มีความตายตัวของเนื้อหา การวิเคราะห์แบบเจาะลึกกับความเป็นไปได้ที่จะออกมาในรูปแบบอย่างเป็นเช่นไร นั้น เหตุผลสิ่งนี้จึงต้องทำความเข้าใจกับรายละเอียดการสร้างอย่างถูกต้อง


ส่วนใหญ่เราจะมองในรูปแบบพระขุนแผนในแต่ละโซนเนื้อหากันมาก เพราะมีราคาและการบุกบั่นกันสูงกว่าพิมพ์อื่นๆ ทุกวันนี้เราจะเห็นกันในแบบรูปลักษณ์ที่เล่นหากัน แต่โดยในความจริงแท้เป็นอย่างเช่นไรนั้น จึงควรต้องมีการศึกษาและพิจารณากันให้เข้าใจ เมื่อความเป็นมากับการสร้างขุนแผนที่ไม่เป็นรูปแบบมาตราฐานการสร้างในครั้ง เดียว เพราะต้องเน้นการพัฒนาเนื้อหาและฟอร์มของพิมพ์เพื่อให้มีความเรียบร้อยและ ชัดเจนกับความรู้สึกที่มองกัน โดยมีการกระทำตั้งแต่ครั้งแรกเริ่มและการดำเนินการทำในครั้งต่อๆมา ต้องมีความเข้าใจซึ่งกันให้ดี ด้วยเหตุนี้ทำให้เป็นเรื่องยากมากแน่นอนในการอธิบายความชัดเจนกับเหตุการณ์ การกดทำขุนแผนได้ตลอดทั้งหมด



ในแต่ละครั้งนั้นเราอาจจะหาจุดความสำคัญของเนื้อเรื่องได้กับการทำในแต่ละบท สำคัญในแต่ละตอน อย่างการสร้างทำขุนแผนตอนร่ำลือกันว่าไฟลุกครก โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการกดทำที่บ้านของนายครอกเองที่ถือเป็นการทำอัน แตกต่างจากในวัดโดยเป็นการแยกประเด็นเนื้อหาการผสมสร้างอย่างชัดเจน



จะเห็นว่าในบทตอนสำคัญต่างๆที่เรามักจะได้ยินกับที่มาการสร้างขุนแผนในบท เรื่องราวต่างๆด้วยเหตุฉะนั้นเราต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันถ้ามีจิตที่ จะเล่นหาหรือการนำมาใช้อย่างมีพุทธคุณ ทุกวันนี้ความเข้าใจมันเปลี่ยนแปลงและสับสนกันไปในหลายรูปแบบเพราะมีราคาและ ผลประโยชน์กันอย่างไม่น่าเชื่อเลย ทั้งๆที่ในยุคสมัยนั้นตอนที่หลวงปู่ท่านดำรงขันธ์อยู่พระขุนแผนแทบจะไม่มี ราคาอย่างแสวงหาหรือความอยากได้กันเลย ด้วยรูปแบบทรงที่ลูกศิษย์ลูกหาหรือคนที่ทันยุคสมัยหลวงปู่ทิมอาจจะเห็นกันใน ส่วนหนึ่งกับแบบองค์พระที่ได้บูชาจากวัดหรือได้รับมากับมือหลวงปู่โดยตรงว่า มันมีรูปร่างเป็นเช่นใดกันบ้าง เพราะเหตุที่ความไม่ได้ยึดเป็นรูปแบบมาตราฐานที่สร้างกันในวัด เหตุผลแก่การอธิบายความจริงจึงยากกันพอควร เพราะประเด็นหลักนี้เองจึงต้องมีการศึกษาและพิจารณากันให้เข้าใจต่อไป ................

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

“ตะกรุดตะกั่วทุบ “ ลุงสาย ท่านเล่าว่า เป็นวัตถุมงคลของวัดละหารไร่ที่สร้างกันตั้งแต่ยุคแรก โดยนำตะกั่วที่อยู่ในวัดมาทำกันเอง ด้วยเจตนาของหลวงปู่ทิมที่ดำหริเครื่องรางเพื่อการพกพาติดตัวเอาไว้ป้องกันภัยและอันตรายต่างๆด้วยเพราะสมัยแต่เดิมนั้นทางวัดยังไม่มีการสร้างพระเครื่องเนื้อผงและเหรียญใดๆของหลวงปู่เลย ด้วยยุคเหตุการณ์สมัยดังกล่าวจึงมีแต่ตะกรุดเครื่องรางที่สร้างกันสะดวกที่สุด แต่เดิมตะกรุดชุดนี้แช่อยู่ในขวดโหลน้ำมันงาไว้ในกุฎิของท่าน เวลาจะหยิบแจกหลวงปู่ท่านจะล้วงลงหยิบตะกรุดในขวดโหลนั้นมาแจกแก่ผู้คน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มากราบเพื่อต้องการนำไปไว้ใช้ติดตัวกันเพราะหลวงปู่ท่านคงทราบดีว่าในยุคสมัยนั้นภยันตรายมีรอบด้าน จึงเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของวัดที่ต้องสร้างกันขึ้นมา

ตะกรุดชุดนี้ถือเป็นการสร้างในครั้งแรกของวัดละหารไร่นับกันตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ.2500 หลังจากนั้นถึงจะมีการทำตะกรุดด้วยเนื้อหาที่เป็นทองแดง ฝาบาตร สังกะสีหรือวัสดุท้องถิ่นที่ตามแต่จะหาได้กัน ซึ่งอาจจะหาความเป็นมาตรฐานไม่ได้ เพราะสมัยแต่ก่อนไม่ได้คิดถึงราคาหรือการยอมรับ เขาเพียงต้องการนำไปไว้ใช้ติดตัวคู่กายกันถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต

 

เรียน อ.แก้วสว่าง

เป็นปกติครับที่คนหลายคนย่อมคิดเห็นและมีความเชื่อที่หลากหลาย พระสมเด็จวัดระฆังก็มีการสร้างหลายครั้งและต่างคนต่างเชื่อกันไป

เรื่องของพระขุนแผนที่เขาเล่นหากันทั่วไป เราก็ปล่อยเขาไป เพราะเรารู้ว่าเป็นพระที่ออกมาในช่วงท้ายหลังจากพระขุนแผนชุดไฟลุกครก เนื่องจากมีไฟลุกครกเลยทำให้การพิมพระขุนแผนมีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนการพิมพระขึ้นใหม่ แต่ก็เป็นเพียงการปรับวิธีการพิมพระ เอกลักษณ์หลักของมวลสารยังคงอยู่เช่นเดิม ผู้ที่เข้าใจนัยยะจะสามารถแยกแยะพระขุนแผนที่พิมออกมาตอนท้ายได้ไม่ยาก

ที่ผมสนใจคือพระขุนแผนชุดแรกที่หลวงปู่ท่านบรรจงสร้างขึ้นโดยบรรจุของวิเศษหลายอย่างลงไป และพิมขึ้นด้วยวิธีการเฉพาะ จนทำให้พระพุทธห้าเหลี่ยมกลายเป็นพระขุนแผน ชื่อพระขุนแผนก็ได้มาจากที่หลวงปู่ต้องการให้เป็นพระเครื่องที่สุดยอดในทุกด้าน สูงส่งด้านมหานิยม พระขุนแผนพิมใหญ่ชุดแรกนี้มีจำนวนประมาณ ห้าพันกว่าองค์ กำหนดเวลาการสร้างชัดเจนแน่นอน ฤกษ์การปลุกเสกกำหนดไว้แน่นอน ผู้เข้าร่วมการปลุกเศกก็แน่นอน วัตถุประสงค์ของการสร้างพระชุดแรกเพื่อหาทุนเอามาสร้างพระชุดโลหะชินบัญชรซึ่งสร้างขึ้นในหลายปีต่อมาเพื่อใช้เป็นทุนในการสร้างวัด แม้แต่พระเครื่องชุดโลหะองค์สำคัญๆหลวงปู่ยังอุดด้วยผงวิเศษเพื่อความเป็นพิเศษ

พระขุนแผนชุดแรกนี้สำหรับผู้รู้ความเป็นมาจะถือว่าเป็นของวิเศษสุดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลังปี 2500 และเป็นที่หวงแหนมากเหมือนที่คุณลุงสายท่านหวง พระขุนแผนชุดนี้สามารถแสดงฤทธิ์ให้เห็นได้ด้วยตาเนื้อ รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงรอบข้าง และบรรลุคำอธิฐานได้เพียงสิ้นคำขอ ไม่ต้องรอให้ฝันตอนหลับ ไม่ต้องรอเวลาค่ำมืด แสดงให้เห็นเวลากลางวันสว่างแจ้ง ไม่ผิดจากที่กล่าวกันว่าใช้แทนพระสมเด็จได้เลย

ผมก็อยากเก็บเหมือนกัน ถ้าท่านลุงสายเคยมีเก็บไว้หลาย คงต้องวนในพื้นที่ใกล้เคียงเผื่อฟลุคครับ

 

ครับขุนแผนชุดแรกที่สร้างกันขึ้นมานั้นมีการปรับเนื้อหากันไปในระดับชั้นการทำและพิมพ์ทรงเพื่อให้มีความเรียบร้อย งามตา แต่ยังว่าเพราะเป็นการทำตามแบบฉบับชาวบ้าน ความเรียบร้อยจึงต้องมีการพัฒนา

และการสร้างในยุคแรกนั้นถือเป็นตำนานการสร้างของวัดที่วงการนั้นไม่ได้เข้ามารับรู้เรื่องราวการสร้างอย่างเป็นจริง เหตุนี้จึงมีการถกเถียงกันอย่างไม่วายเว้น เพราะมีราคาเล่นหากันในหลายระดับ ซึ่งมีทั้งพิมพ์ที่ทำก่อนและตามลำดับชั้นกันไปเรื่อยๆ จนท้ายสุด และมีการสร้างในยุคหลังกันเข้ามาอีก แบบนี้ทำให้คนยุคหลังจึงเกิดความสับสนกับแบบที่เล่นหา จึงอาจมีการแบ่งแยกกับในวงการซึ่งแน่นอนชาวบ้านยุคเก่าที่เขาเคยสัมผัสเขาย่อมทราบดีว่าของจริงที่สร้างนั้นเป็นแบบไหน ลักษณะการสร้างเป็นอย่างเช่นใด ผมบอกว่าพี่เริ่มเข้าใจดีแล้วครับ ว่าความจริงแท้นั้นเป็นอย่างเช่นใดกัน

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เมื่อกล่าวถึงหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่กับพระยุคต้นที่เป็นวัตถุมงคลการสร้างอันถือกำเนิดขึ้นมาด้วยจิตศรัทธาของเหล่าสาธุชนอย่างมากล้น ด้วยเหตุสิ่งที่เป็นความยึดมั่นถือมั่นจึงเกิดความยึดเหนี่ยวแห่งจิตใจกันขึ้นมา

ในยุคกาลครั้งนั้นวัดละหารไร่ยังถือความเป็นเพียงวัดบ้านนอกที่ห่างไกลความเจริญอย่างมาก ผู้คนก็ยังถือเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านและหมู่บ้านละแวกข้างเคียง ซึ่งการสัญจรไปมาหาสู่นั้นถือว่าลำบากมาก เราจะเล็งเห็นว่าชุมชนหมู่บ้านนั้นจะเป็นไปอย่างเช่นไรกับภูมิสภาพตามท้องถิ่นที่ดำเนินชีวิตกันไปอย่างเช่นนั้น

ถ้าจะกล่าวถึงวัตถุมงคลของวัดละหารไร่ที่มีกันมาเนินนานโดยแรกเริ่มจะมีกันก็แต่เพียงเครื่องรางต่างๆที่ทางวัดสร้างขึ้นมาเองโดยมีวัตถุประสงค์แด่การแจกจ่ายให้กับผู้คนที่มาขอของดีเพื่อเอาไว้ติดตัวกัน แต่วัตถุมงคลที่เป็นเครื่องรางนั้นสร้างกันมาแต่ครั้งใดคงสืบหากันยากมากด้วยกาลเวลาอันเนิ่นนานกับคนในรุ่นเก่าๆที่ล้มหายตายจากกันไป แต่ผมจะขอกล่าวถึงในยุคสมัยที่ลุงสาย แก้วสว่างได้รับการครอบครูอย่างเป็นทางการกับหลวงปู่ทิม อิสริโกตั้งแต่ปีพ.ศ.2500 หลังจากนั้นลุงสายก็เริ่มมีบทบาทกับวัดละหารไร่เรื่อยมาตั้งแต่บัดนั้น

ข้อมูลที่นำเอามาเขียนเรื่องราวต่างๆนั้นผมได้รับการถ่ายทอดมาจากนายสาย แก้วสว่างเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งแน่นอนเนื้อหาต่างๆนั้นย่อมมีทั้งความเป็นจริงที่มุ่งเน้นเพื่อถวายแด่เกียรติคุณของครูบาอาจารย์ที่นับถือ ส่วนอีกข้อหนึ่งที่ถือเป็นประเด็นมากคือการบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ สิ่งนี้ถือว่าเป็นบทสำคัญมากในวงการพระเครื่องเพราะเป็นมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันขึ้นมา ซึ่งมีสองข้อประเด็นที่ต้องแยกแยะเข้าใจกันให้ดีกับเนื้อหา ซึ่งประเด็นหลังผมจะไม่ขอเอ่ยกล่าวอะไรมากเพราะคงทราบดีกับความจริงที่เกิดขึ้นมาแต่ก่อนและในยุคปัจจุบันที่มีฝีมือการทำพิมพ์และเนื้อหากันจนดูเกลื่อนตากันไปหมดโดยเฉพาะพิมพ์ขุนแผน..

ข้อมูลหลายสิ่งที่ผ่านมาหลายคนที่ประสบพบเจอหรือพลาดพลั้งก็ขอให้เป็นข้อคิดและบทเรียนกันไป ดูอย่างเซียนพระหลายคนถ้าไม่โดนของเก๊มาก่อนก็คงไม่จำขึ้นใจ เรื่องแบบนี้โดนกันทุกคนครับไม่ว่าเซียนใหญ่ เซียนน้อย ถือเป็นประสบการณ์กันครับอย่าคิคมาก

เรื่องมาตรฐานความเป็นจริงกับข้อมูล สิ่งที่พิสูจน์กับการยอมรับคือบุคคลที่อยู่ในวัดโดยเฉพาะพระเณรในยุคสมัยดังกล่าวนั้นและชาวบ้านที่ได้คลุกคลี เรื่องนี้จะมองข้ามกันไม่ได้เลยเพราะถือเป็นตัวบทสำคัญ อย่างว่านะครับถ้าพระเครื่องไม่มีราคาอันไปไกลเรื่องราวก็คงไม่มีปัญหาอะไรให้มันยุ่งยากและการถกเถียงกัน ด้วยเพราะบารมีและอาคมอันแก่กล้ากับจริยวัตรอันน่าเลื่อมใส หลวงปู่ทิมท่านจึงมีชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลือกันถ่ายทอดมาจากคนรุ่นเก่า การไขว่คว้าหาวัตถุมงคลของท่านจึงเริ่มเป็นที่นิยมกันขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้น ตามคำร่ำลือในเรื่องพุทธคุณและอานุภาพต่างๆ ด้วยเหตุสิ่งนี้ชื่อเสียงของหลวงปู่ทิมจึงได้ขจรไกลไป.ฉะนั้นความศรัทธาและการเรียนรู้จึงเป็นส่วนสำคัญกันอย่างยิ่ง..........

 

เรียน อ. แก้วสว่าง
ผมขอร่วมแสดงความเห็นครับ

พระขุนแผนที่สร้างโดยวัดระหารไร่ จะมีสองชุด
หลังจากการสร้างพระขุนแผนชุดแรกแล้ว วัดได้นำเงินทุนที่ได้มาได้มาใช้ในการสร้างพระเครื่องชุดโลหะในหลายปีถัดมา

พร้อมการสร้างพระชุดโลหะ เพื่อให้สามารถหาทุนได้มากขึ้น ทางวัดได้ดำเนินการสร้างพระขุนแผนชุดที่สองขึ้นเพื่อเพิ่มพระเนื้อผงสำหรับสมนาคุณณาติโยมที่มาร่วมงาน แต่การสร้างพระขุนแผนชุดที่สองมีเวลาการเตรียมการและการสร้างนาน ต่อเนื่องจากกลางปี 2516 จนเกือบกลางปี 2517 ซึ่งการสร้างพระขุนแผนชุดที่สองนี้ เหตุการเหมือนที่ท่าน อ.แก้วสว่างกล่าวคือมีการปรับการพิมพระเป็นลำดับ ในช่วงแรกพระขุนแผนมีลักษณะเดียวกับพระขุนแผนชุดแรก และมีการนำแม่พิมเหล็กมาใช้ทำให้พระขุนแผนมีความคมชัดมากขึ้น จนต่อมาเกิดเหตุการไฟลุกครกทำให้ต้องคิดวิธีพิมเพื่อให้ผงวิเศษที่แสดงฤทธิ์เกิดไฟเอง ได้มีโอกาสแสดงฤทธิ์ได้เต็มที่ ปรับการพิมพระโดยโรยผงวิเศษที่ติดไฟได้เองพร้อมผงตะใบตะกรุดทองคำทั้งด้านหน้าและด้านหลังองค์พระ และบรรจุตะกรุดที่ด้านหลัง ซึ่งพระขุนแผนชุดไฟลุกครกนี้มีความสวยงามอย่างยิ่ง ขอบอกว่าสวยสุดๆ ผงตะไบตะกรุดทองคำสะท้อนแสงพร่างพราย แต่พระขุนแผนนี้มีจำนวนน้อยเพราะผงวิเศษที่ติดไฟได้เองในครกมีจำนวนจำกัด

หลังจากการพิมพระแบบใหม่ให้องค์พระที่สวยงาม แต่เนื่องจากผงวิเศษไฟลุกครกมีจำนวนน้อยและหมดไปแล้วจึงเปลี่ยนใช้วิธีทาทอง ซึ่งพระขุนแผนที่ทาทองก็มีความสวยงามอร่ามตายิ่ง พระขุนแผนส่วนนี้อยู่ช่วงปลายของการพิมพระขุนแผน เวลาประมาณใกล้กลางปี 2517 ซึ่งก็คือพระขุนแผนที่กล่าวขานกันทั่วไป

นอกเหนือจากพระขุนแผนที่สร้างโดยทางวัดระหารไร่แล้ว อาจจะมีบุคคลนอกที่สร้างเพิ่มแล้วอาจให้หลวงปู่ปลุกเศก แล้วร่วมงานบุญกับวัดบ้างก็อาจเป็นได้ แต่พระขุนแผนส่วนนี้จะมีลักษณะล้อแบบเดียวกับพระขุนแผนทาทองเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากพระขุนแผนเดิมโดยสิ้นเชิง และมวลสารก็แตกต่างไปจากพระของวัด

 

ผมขอทราบที่มาของข้อมูลนี้ครับ....ถือเป็นข้อมูลใหม่ที่ผมได้ยินเลยทีเดียว เป็นการวิเคราะของพี่เองหรือพี่ได้ฟังมาจากใครครับ เพราะดูข้อมูลแล้วค่อนข้างสับสนในความเป็นไปได้พอสมควร รบกวนชี้แจงด้วยครับ...ขอบคุณครับ

 

เรียน ท่าน naygood

ยินดีตอบครับ

ไม่ทราบว่าท่าน naygood สงสัยส่วนไหนของข้อความครับ

ถ้าท่านได้อ่านหนังสือที่มีการพิมพ์ หลังปี 2520 ตอนต้นๆ ข้อความก็จะออกแนวนี้ครับ การสร้างพระขุนแผนมีสองชุด และสิ้นสุดลงหลังจากพวกเซียนพระจากเมืองกรุงเข้ามาเพื่อการสร้างพระเนื้อโลหะ

และถ้าเราศึกษาจากพระองค์จริงเรียงลำดับมาก็จะพบว่าเป็นไปตามนี้ครับ

 

ยินดีต้อนรับสู่วังวนครับท่าน

 

เรียน ท่าน ekasit S

ขออนุญาตแสดงความเห็นครับ

เราแบ่งกลุ่มคนได้สองกลุ่มครับ
คนกลุ่มแรกอยู่กับพระเนื้อขาวที่เป็นพระของหลวงปู่ที่สร้างก่อนมีการสร้างชุดพระขุนแผน
คนกลุ่มที่สองอยู่กับพระขุนแผนทาทองอร่ามที่เป็นพระขุนแผนช่วงท้ายของการสร้าง
ทั้งสองกลุ่มคนนี้ยังไม่ได้เดินผ่านเข้าสู่ช่วงสำคัญ คงยืนอยู่ที่ประตูหน้า และ ประตูหลัง และยังไม่ได้เข้าสู่ห้วงแห่งความลี้ลับแต่อย่างใด


ระหว่างตรงกลางคือช่วงก็กำเนิดพระขุนแผนจนผ่านไปหาช่วงสุดท้าย เป็นห้วงแห่งกาลเวลาประมาณสามปี ช่วงอุโมงค์ลี้ลับแห่งกาลเวลานี้มีผู้ได้ผ่านมาบ้างแล้วทำให้มีเสียงลือบางส่วนเช่น พระขุนแผนไม่สวยเลย เป็นพระผงเนื้อขาวทาทอง พระขุนแผนสร้างจากว่านดอกทอง และอีกหลายคำกล่าว

ถ้าเราก้าวเข้าไปในอุโมงค์ลี้ลับนี้ เราสามารถใช้แผนที่และรหัสผ่าน และเราจะผ่านไปได้โดยไม่หลงวกวนครับ

 

ขอบคุณครับ ท่าน Prajean สำหรับผมคงจะยืนอยู่ตรงปากทางอุโมงค์ครับ เพราะเคยเข้าไปในมิติอันลี้ลับแล้ว ก็ได้เห็นแสงทางออกอยู่ 2 ทาง คือ ทางเข้า กับ ทางออก แน่นอนครับ ผมเลือกกลับไปที่ทางเข้าคือจุดเริ่มต้นครับ ขอบคุณครับ

 

ถูกต้องมากแล้วครับ กับการกำเนิดสร้างพระขุนแผนขึ้นมา ซึ่งมีอยู่สองช่วงวาระจริงคือช่วงแรกที่เป็นการสร้างที่ไม่มีความสวยงามใดๆและยังเป็นเนื้อหาเดิมที่ไม่ได้ทาทองใดๆ ซึ่งจะต่างวาระกับยุคทองที่มันอร่าม การแยกหาจึงต่างกัน ฉะนั้นการศึกษาอย่างให้เข้าใจต้องควรรับรู้เนื้อความตั้งแต่ต้นเลยถึงจะถูกต้องครับ

 

เรียน ท่าน ekasit S

ขอขอบคุณด้วยความจริงใจที่กรุณาทักทาย

อุโมงค์ลี้ลับแห่งกาลเวลานี้ไม่มีใครกีดกันใคร จะเข้าหรือไม่แล้วแต่ใจจะเลือกครับ

อุโมงค์แห่งกาลเวลาที่ลี้ลับนี้เริ่มต้นด้วยเทวพิธีที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยบุญฤทธิ์และเทวฤทธิ์ พิธีปลุกเศกพระขุนแผนชุดแรกมีฤกษ์ที่สูงสุดเลื่องลือไปสามโลก หลวงปู่ทิมท่านเป็นเจ้าพิธี โดยมีพระผู้สูงส่งยิ่งซึ่งเป็นครูอาจารย์ของหลวงปู่ทิมเป็นประธานในพิธี และมีพระอาจารย์ที่เรืองฤทธิ์หลายท่านอันเป็นศิษย์ร่วมครูอาจารย์ร่วมปลุกเศก บรรจงสร้างพระขุนแผนให้เป็นของวิเศษสุด เป็นดังดวงแก้ววิเศษมอบให้กับผู้มีวาสนา เสริมชีวิตให้รุ่งเรือง ทุกสิ่งในอุโมงค์ลี้ลับแห่งกาลเวลานี้ล้วนดีงามและเป็นมงคลสูงส่งยิ่ง

หลังปี 2500 ผ่านมาผมยังไม่เคยได้ยินพิธีปลุกเศกที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้อีกเลย ด้วยพิธีที่ยิ่งใหญ่นี้ส่งให้พระขุนแผนลือลั่นไปทั่ว ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งจะสูงส่งและล้ำค่ายิ่ง

พระขุนแผนไม่ใช่พระเครื่องทั่วไป มีทั้งความลี้ลับ ทรงอิทธิฤทธิ์ เปี่ยมด้วยวาสนาบารมี ย้ำครับ ที่สุดของสุดยอด

คงต้องขอใช้คำพูดแบบหนังสือกำลังภายในว่า ถ้าไม่เข้าไปในอุโมงค์แห่งกาลเวลาที่สุดยอดแห่งมงคลวิเศษนี้ ช่างน่าเสียดายยิ่ง ๆ