++ร่วมแชร์เรื่องราว++หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ดุจเพชร, 22 พฤศจิกายน 2014.

  1. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    หลวงปู่บุดดาฯ กับครูบาวงศ์ฯ
    <table style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px" id="table10" border="0" cellspacing="1" align="left"> <tbody> <tr> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> หลวงปู่บุดดา
    </td></tr></tbody></table>
    หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญ จ.สิงห์บุรีกับ ครูบาวงษ์ ท่านนับถือกัน สนิทสนมกันดี
    มีอยู่วันนึง ในงานบุญของวัดห้วยต้ม ผมก็คอยช่วยดูแลครูบาท่าน ตอนครูบาท่านทำพิธี แถวศาลพระอุปคุตข้างศาลาพรหมจักโก ในตอนนั้น ได้พบกับหลวงพ่อองค์นึงมาจากสิงห์บุรี ท่านมาคุยด้วย ท่านบอกว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่บุดดา ก็เลยคุยกันหลายเรื่อง หลวงพี่องค์นั้นถามเรื่องเกี่ยวกับครูบาท่านหลายอย่าง คงเห็นว่าผมอยู่กับครูบา ผมก็เล่าให้ท่านฟัง ท่านก็เล่าเรื่องของหลวงปู่บุดดาเป็นการแลกเปลี่ยนบ้าง
    ท่านถามถึงเหตุการณ์ตอนก่อนหลวงปู่บุดดาจะมรณภาพ ที่หลวงปู่มาที่วัด ว่า ผมอยู่ในเหตุการณ์ หรือไม่
    ตอบท่านไปว่า วันนั้นไม่ได้อยู่
    เรื่องคือ หลวงปู่ฯ ท่านมางานบุญของวัดห้วยต้ม พวกชาวบ้านพวกกระเหรี่ยง แห่พวกหลวงพ่อ หลวงปู่ฯ ขึ้นเสลี่ยง ตอนที่อยู่บนเสลี่ยง หลวงปู่บุดดาท่านทำนิ้วชี้ไปบนท้องฟ้า ส่งสัญลักษณ์บางประการบอกครูบา คล้ายจะบอกครูบาท่าน
    หลวงพี่บอก หลวงปู่ฯ ท่านทำให้ครูบาฯ ดู...
    พวกคนในเหตุการณ์ก็ตีความกันไปต่างๆนาๆ บางคนก็บอกว่า ท่านบอกว่า ท่านจะไปข้างบนแล้วนะ บางคนก็บอกว่า อีก 1 ปีท่านจะไปข้างบนนะ
    ต่อมา หลวงปู่บุดดาฯ ท่านก็มรณภาพ เหมือนที่ท่านทำนิ้วชี้ไปบนฟ้า เหมือนในวันงาน
    ตอนเลิกงาน ครูบาฯ มานั่งพักที่กุฏิ อยู่กับท่านสองคน ถามครูบาว่า "หลวงปู่บุดดาฯ กับครูบาเป็นอะไรกันครับ"
    ครูบาบอก "หลวงปู่บุดดา บอกว่าท่าน (เคย) เป็นพี่ ส่วนนี่ เป็นน้อง"
    ถามท่านว่า "เคยเกิดกันมาหลายชาติเหรอครับ"
    ครูบาท่านยิ้ม ๆ บอก..อือ
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้เดินทางขึ้นไปกราบครูบาวงศ์ ที่วัดพระบาทห้วยต้มมาครับ ครั้งนี้มีเวลาพอสมควรได้เดินไปชมหลายๆจุดแต่ก็ยังไม่ทั่ว คงต้องหาโอกาสไปกราบท่านอีกครับ
     
  3. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือส่งท้ายปีก่อนเข้าสู่ปีใหม่ถือว่าเป็นมงคลที่สุดกับชีวิต ขออนุโมทนาด้วยครับ:cool:
     
  4. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    [​IMG]

    ในศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ ขอบารมีหลวงปู่ครูบาวงศ์ แห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จงดลบันดาลให้ทุกๆท่านพร้อมครอบครัว ประสบแต่ความสุขด้วยจตุรพิธพรชัย สมบูรณ์พูนผลในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการเทอญ​
     
  5. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    พระพรหม ครูบาวงศ์
     
  6. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125

    น้อมกราบครูบาวงศ์....สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ...
     
  7. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    พระเหนือพรหมรุ่นนี้หลวงปู่ครูบาวงศ์ปลุกเสกให้แน่นอนแถมยังมีผงจักพรรดิ์หลวงปู่ดู่ วัดสะแกอีก เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าบูชามากเลยครับ
     
  8. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    โคะพะโด๊ะ หรือ โฆ๊ะพะโด๊ะ
    <table id="table34" border="0" cellspacing="1" align="right" width="170"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript" valign="bottom"> [​IMG]
    </td> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">[​IMG]</td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript" colspan="2"> พระเจดีย์โลกะวิทุ ที่ดอยโฆ๊ะพะโด๊ะ
    </td></tr></tbody></table>
    โคะพะโด๊ะ (โด๊ะบือ) เป็นชื่อดอยลูกหนึ่ง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแม่ตื๋นน้อย ต.แม่ตื๋น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ บนยอดดอยแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท และพระเจดีย์เก่าแก่อยู่องค์หนึ่ง ชื่อเจดีย์โลกะวิทู หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาเล่าว่า เจดีย์นี้สร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อครั้งพระองค์เสด็จมาประกาศศาสนาที่นี่
    เจดีย์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน หากฝนฟ้าไม่ต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านซึ่งเป็นชาวไร่ชาวนาก็จะไปขอฝน โดยการนำข้าวตอกดอกไม้และขนมข้าวต้มไปถวายองค์พระเจดีย์ หลังจากนั้นฝนจะตกตามที่ขอ นอกจากนี้ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ชาวบ้านมักจะเห็นแสงพุ่งออกจากองค์พระเจดีย์เป็นประจำ
    <table id="table35" border="0" align="left"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">คุณอมรา พวงชมพู</td></tr></tbody></table>
    สมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ ได้สั่งให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และหลังจากที่หลวงปู่มรณภาพไปแล้ว ๒ ปี คุณอมรา พวงชมพูและคณะศรัทธาจากกรุงเทพได้นิมนต์หลวงพ่อสมชาย วัดป่าวิเวก จ.กาญจนบุรี เป็นองค์ประธาน พาคณะศรัทธามาสร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ครอบองค์เก่าเอาไว้ ซึ่งเดิมอยู่ในสภาพปรักหักพัง โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ ๙ ธันวาคม ๒๕๔๗ แล้วเสร็จเมื่อปลายปี ๒๕๔๙
    ปัจจุบันที่ตั้งของพระเจดีย์อยู่ห่างจากปากทางเข้า เป็นระยะทาง ๑๙ กิโลเมตร ซึ่งได้ทำการลาดยางไปแล้ว ๒ กิโลเมตร เมื่อต้นปี ๒๕๕๐ โดยงบประมาณของกองบัญชาการทหารสูงสุด และจากปากทางเข้าจะมีหมู่บ้านอยู่ประมาณ ๖ หมู่บ้าน ได้แก่หมู่บ้านพะนอดี-เลเคาะ-เลอะกรา-บราโว-ทุ่งต้นงิ้ว และโด๊ะผะโด๊ะ
    (ข้อความต่อไปนี้โพสท์โดย hero_ultra ในเวบพลังจิต เมื่อ 23-05-2008)
    ตอนสมัยที่ครูบายังดำรง ขันธ์ 5 อยู่ ท่านเคยเล่า ให้ฟัง ว่าบนดอยแห่งนี้ มีสถานที่สำคัญของพระศาสนา ซ่อนอยู่ ถ้ามีบุญวาสนา ก็ให้ไปค้นหา และสร้างเจดีย์ไว้ และครูบาท่านก็อธิษฐานขอพระธาตุ (ไม่ทราบว่าพระธาตุอะไร เพราะไม่ได้ถามครูบาท่านไว้) ลักษณะสีเขียว มอบให้กับพระอาจารย์อ่อนแก้ว ไว้ ผมคิดเอาเองว่า ท่านคงมองเห็นในอนาคตแล้วว่า เจดีย์แห่งนี้คงได้ค้นพบ และได้สร้างสำเร็จตามที่ท่านสั่งไว้
    ในความจริงแล้ว ท่านบอกว่า....เจดีย์นี้ สร้างมาก่อนสมัยพระเจ้าอโศก เป็นเหมือน แม่แห่งพระเจดีย์ทั้งหลาย ในชมพูทวีป
    <table id="table36" border="0" cellspacing="1" align="right" width="170"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript" valign="bottom"> [​IMG]
    </td></tr></tbody></table>
    ครูบา ท่านชอบมีโจทย์ยากๆ ให้เราทำเสมอ การผจญภัย ค้นหา พระเจดีย์แห่งนี้ ก็เริ่มต้น ไปตามที่ท่านบอก การคมนามคมไม่ต้องพูดถึง ขนาดปัจจุบันยังไปมาลำบาก ถ้าครูบาท่านไม่บอกให้ไป คงไม่ไปกันแน่นอน (ขนาดชาวบ้าน แถวนั้น อยู่กันมาชั่วลูกหลาน ยังไม่ทราบ) สภาพเจดีย์ที่มองเห็นครั้งแรก เสมือนเนินดิน หรือจอมปลวก มองยังไง ก็คงไม่ทราบว่าเป็นเจดีย์เก่าแก่ จนคณะที่ไปค้นหา เจอซากก้อนอิฐ และลักษณะหลายๆ อย่างที่บ่งชี้ว่าเป็นเจดีย์ที่ค้นพบกัน ใต้ลงไปในฐานของเจดีย์ที่ค้นพบ มีพระธาตุสำคัญบรรจุไว้ภายใน เป็นการยืนยันว่า เป็นเจดีย์ที่เราค้นหาจริงๆ การก่อสร้างถาวรวัตถุ จึงได้เริ่มต้นตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย เนื่องจากการคมนาคมลำบากมากที่สุด และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย
    ช่วงการก่อสร้าง ในช่วงแรก ปัญหาที่เจอคือ มีการต่อต้านจากหัวหน้าเผ่าของชาวเขาแถวนั้น เนื่องจากชาวบ้านซึ่งเป็นชาวเขา ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ด้วยบารมีครูบาทำให้ผ่านพ้นไปได้ดี เนื่องจากการขนส่งทำได้ลำบาก การหาแรงงานก็ต้องใช้แรงจากชาวบ้านแถวนั้นช่วย บ้างก็เป็นกระเหรี่ยงคริสต์ บ้างก็เป็นชาวเขาเผ่าอื่น มาช่วยกันสร้างวัด ขอโมทนาบุญกับเพื่อนต่างศาสนาทั้งหลาย ที่น้อมเข้ามาในพระศาสนาด้วยบารมีครูบา หันหน้ามาเข้าวัดทำบุญในเขตพระพุทธศาสนากัน

    พญานาค ปรากฏกาย
    ในช่วง 2 ปีแรก เนื่องจากการขนส่งลำบากมาก ต้องใช้ชาวบ้านช่วย พระที่ไปจำพรรษาไปรับคนงาน ชาวบ้านมาช่วย ก็โดนกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ตามขึ้นมาต่อว่า เพราะเค้าไม่ค่อยพอใจ (คงกลัวชาวบ้านจะเปลี่ยนศาสนามานับถือพุทธ) ก็มาขนคนงานกลับหมด พออีกวันรุ่งขึ้น คนงานชุดใหม่มาทำงานแทน
    ประมาณ 10.00 น ตอนเช้า ได้ยินเสียงเด็กกระเหรี่ยงเล็กๆ ร้องเอะอะโวยวาย ว่า "อะไร อะไร" แล้วชี้ไปบนเจดีย์ที่สร้าง ขณะนั้นมีคนอยู่ประมาณ 40 คน มองที่บนเจดีย์ เห็นพญานาคตัวใหญ่เท่าพระเจดีย์ ทำการพัน เหมือนทักษิณาวัตร รอบพระเจดีย์ ประมาณ 15 นาที ทุกคนเห็นหมดพร้อมกัน ลักษณะพญานาคเหมือนที่บันไดทางขึ้นโบสถ์ เป็นสีเขียวสีแดง แสดงให้เห็น 15 นาที ก็เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้งชาวบ้านทั้งคนงาน ต่างก้มลงไหว้ทั่วกัน
    เหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีกล้องบันทึกไว้ (ไม่เหมือนภาพดอกบัวบนท้องฟ้า ที่วัดห้วยต้ม) แต่มีคนในเหตุการณ์ที่เห็นด้วยตาเป็นพยานครบทุกคน ใครจะไปคิดว่าเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก จะเป็นเรื่องจริง คิดทีไร ขนลุกทุกที หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ไม่มีชาวบ้านที่ต่อต้านอีกเลย และยังช่วยกันมาทำบุญที่วัดด้วย ผมคิดว่าบางอย่างที่เราทำ อย่าคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เค้าไม่รู้ไม่เห็น จริงๆ แล้วเค้ามองเราตลอด
    นอกเรื่องนิดนึง บริเวณวัดโลกะวิทู จะมีน้ำผุดบ่อน้อย ซึ่งเห็นมีคนว่าศักดิ์สิทธิ์ มีคนที่มาทำบุญเป็นเจ้าของกิจการโรงงานทอผ้าจากกรุงเทพ ซึ่งประสพปัญหา กิจการขาดทุน ไปอธิษฐานกราบไหว้ ขอให้กิจการดี ปรากฏว่ากิจการที่จะต้องปิด กลับมาเจริญรุ่งเรือง ได้คำสั่งซื้อ กำไรหลายล้าน ถ้าใครได้มีโอกาสขึ้นไปทำบุญบนวัด ก็ไปลองอธิษฐานกันดู ให้ชีวิตทางโลกประสพผลสำเร็จกันทุกคน
    <table id="table38" border="0" cellspacing="1" align="right"> <tbody> <tr> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">พระอาจารย์อ่อนแก้ว</td></tr></tbody></table>
    บริเวณยอดดอยที่ตั้งของวัดโลกะวิทู นี้มองไปจะเห็นดอยอีกลูกซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือ หน่อการ่า ...ซึ่งใครติดตามอ่านกระทู้พี่มหาหิน คงได้ทราบกันไปบ้าง ดอยนี้ ท่านตุ๊ดี ลูกศิษย์อีกองค์ของครูบาเจ้าชัยยะวงศา ได้นำคณะศรัทธาไปช่วยกันสร้างไว้
    ที่เจดีย์โฆ๊ะพะโด๊ะ หรือโลกะวิทู แห่งนี้ ทุกวันนี้ยามค่ำคืน ก็จะปรากฏดวงไฟ เหมือนลูกแก้ว ลอยไปมา เห็นกันถ้วนหน้า อยู่เนืองๆ เป็นเรื่องจริงๆ ดั่งที่เค้าเล่ากันมา ทำให้เชื่อว่าสถานที่นี้คง มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ครูบาท่านถึงได้บอกให้มาค้นหา และสร้างทำไว้

    ครูบามาแนะนำตอนสร้างโบสถ์
    นึกเรื่องเกี่ยวกับโฆ๊ะพะโด๊ะได้ อย่างที่ทราบกัน พระเจดีย์แห่งนี้ได้สร้างหลังจากครูบาได้มรณภาพแล้ว ตอนระหว่างที่หลวงพี่เต๋ (พระอาจารย์อ่อนแก้ว) ต้องการจะสร้างพระอุโบสถ ก็ได้จัดการสร้างตามที่ตกลงกับพวกช่าง แต่ธรรมเนียมทางภาคเหนือ ก่อนการก่อสร้างหรือรื้อถอน จะมีการสวดถอน เนื่องจาก (พระอาจารย์อ่อนแก้วคิดว่าพระอุโบสถที่กำลังจะสร้างนี้) เป็นพระอุโบสถใหม่ หลวงพี่เต๋จึงไม่สวดถอน ก่อนการก่อสร้าง ครูบาวงท่านมาตำหนิ (ดุ) ในนิมิต "ทำไม ไม่สวดถอน" ตกลงคณะที่ก่อสร้างอุโบสถใหม่ จึงต้องทำการสวดถอน ตามที่ครูบาท่านมาบอกในนิมิต
    [​IMG]
    เรื่อง พญานาค ปรากฏด้วยกายเนื้อนั้น
    พระอาจารย์อ่อนแก้ว ชัยยะเสนโน ท่านอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ท่านบอกว่า..
    หากท่านเห็นเพียงคนเดียว ท่านก็จะไม่พูด.. พูดไม่ได้..
    แต่ทว่า.. นี่ คนเข้าเห็นกัน ประมาณ 40 คน.. พยานมีมาก
     
  9. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ความชำนาญในเชิงช่าง
    <table id="table30" border="0" cellspacing="1" align="left"> <tbody> <tr> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript" colspan="2"> เจ้าแม่จามรี
    วัดพระธาตุดวงเดียว อ. ลี้
    </td></tr></tbody></table>
    ในรูปคือเจ้าแม่จามรี เจ้าเมืองลี้ ไม่ใช่เจ้าแม่จามเทวี คนละองค์กัน ครูบาท่านให้ช่างเขียนตามที่ท่านบอก รูปวาดจะอยู่ในกุฏิของท่าน ท่านจะตั้งใจมาก ให้แก้ไขแบบตามรูปจนท่านพอใจ
    ครูบา ท่านมีความสามารถหลายอย่าง
    ในงานช่างงานศิลป์ ช่วงบ่าย ๆ เวลาว่างจากญาติโยม และงานต่าง ๆ ท่านจะใช้เวลาออกแบบงานอาคารในวัด ซึ่งท่านทำได้ดีมากๆ เสียด้วย...
    <table id="table31" border="0" align="right"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">รูปปั้นพระอุบาลี</td></tr></tbody></table>
    ส่วนภาพวาดเจ้าแม่จามรี ท่านให้ช่างแก้ไข และเขียนอยู่นาน ตอนแรกไม่เข้าใจว่าท่านให้เขียนภาพใคร ภายหลังจึงได้มีการสร้างรูปปั้นตามแบบภาพที่ท่านให้ช่างเขียน
    ปกติลูกศิษย์มักจะเกรงใจและไม่ค่อยมีคนกล้ารบกวนท่าน
    มีอยู่ครั้งนึง ท่านเคยให้คนปั้นรูปพระอุบาลี เพื่อไปถวายวัดอุบาลีที่ศรีลังกา ครูบาท่านก็ควบคุมงานเอง ช่างปั้นก็ทำตามแบบที่ท่านแนะนำ นัยว่าหน้าตาพระอุบาลี เป็นแบบที่ครูบาบอก นั่นเอง
    (รูปพระอาจารย์อุบาลี เอามาจากเวปพุทธวงศ์
    <hr>
    ครูบา เรียกฝน ที่เขื่อนภูมิพล
    <table id="table29" border="0" cellspacing="1" align="left"> <tbody> <tr> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td></tr></tbody></table>
    ตั้งแต่สมัยครูบาท่านเป็นเณร ได้ติดตามครูบาชัยยะลังก๋า กับ ครูบาศรีวิชัย ท่านก็อาศัยเดินทางเส้นทาง เหล่านี้ จวบจนบั้นปลาย ท่านได้ไปบูรณะวัดพระธาตุแก่งสร้อย ท่านก็ยังต้องนั่งเรือไปตรวจงานบ่อยๆ
    สมัยท่านยังดำรงขันธ์อยู่ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าของทางเขื่อน จะนิมนต์ครูบาทุกปี เพื่อไปทำบุญ สืบชะตาเขื่อน ผมเคยได้ตามครูบาไปด้วย ได้สวดมนต์กับครูบา นอนเฝ้าท่านหน้าห้อง กับ หลวงพี่เต๋
    เรื่องนี้ มีลูกศิษย์มาเล่าให้ฟัง ตอนเริ่มแรก ปีนั้น น้ำในเขื่อนแห้ง ไม่รู้จะทำอย่างไร เจ้าหน้าที่เค้านิมนต์ครูบามาทำพิธี เค้าขอให้ท่านเรียกฝนให้ หลังครูบาอธิษฐานฝนก็ตก ตามที่เจ้าหน้าที่ขอไว้
    หลังจากนั้นมา เค้าก็นิมนต์ท่านมาทำพิธีสืบชะตาเขื่อนทุกปี
    เรื่องนี้ ไม่มีโอกาสได้ถามครูบา แต่บันทึกเอาไว้
    คิดถึงเรื่องครูบาเรียกฝนทุกครั้งที่ไปเที่ยวเขื่อน....
    ลูกศิษย์เล่าให้ฟังอีกที เห็นว่าแปลกดี
     
  10. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    เนื้องอกหายไปไหน?
    โพสท์ใน http://palungjit.org โดย ตามดูจิต เมื่อ 19-03-2007
    โดย มัลลิกา กาญจมาภรณ์
    มีลูกน้องของศิษย์หลวงพ่อท่านหนึ่ง ป่วยเป็นโรคเจ็บในช่องท้องน้อยมานาน บางครั้งปวดมากจนทนไม่ไหว จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล ได้ตรวจเช็คอยู่หลายครั้ง จนหมอสรุปได้ชัดเจนว่าเป็นเนื้องอกที่ปีกมดลูก ต้องผ่าตัด และได้นัดผ่าตัดในราวกลางเดือนพฤษภาคม 2543
    ศิษย์ท่านนั้นจึงได้แนะนำว่า ก่อนจะไปผ่าตัด ให้หาโอกาสไปกราบหลวงพ่อครูบาชัยวงศ์ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มสักครั้ง ขอให้ท่านผ่อนหนักเป็นเบา พอดีกำลังจะมีงานวันเกิดหลวงพ่อที่วัด ลูกน้องคนนั้นจึงได้ไปร่วมงาน เมื่อวันที่ 23-24 เมษายน 2543 แล้วได้บนกับท่านว่า ขอให้หลวงพ่อช่วยให้ หายจากโรคร้ายนี้ โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยเถิด แล้วลูกจะช่วยงานบุญงานโรงครัวโรงทานที่วัดหลวงพ่อ
    หลังจากเสร็จงานกลับมาถึงบ้าน ตกกลางดึกก็ได้หลับและฝันไปว่า หลวงพ่อท่านมาหา ท่านได้ถามว่าลูกตั้งใจจะไปช่วยงานที่วัดจริงหรือ แล้วท่านได้ขึ้น ไปเหยียบที่ท้อง ในฝันนั้นเหมือนกับว่า ได้มี
    น้ำอะไรไม่รู้ไหลออกจาก ช่องท้องจนนองที่นอน จึงตกใจตื่นขึ้นมา ยังได้จับดูที่นอนว่าเปียกหรือมีน้ำอะไรหรือไม่ ปรากฏว่าที่นอนก็ไม่ได้เปียกเปื้อนน้ำอะไรเลย
    เมื่อถึงวันที่นัดผ่าตัด หมอได้ทำการตรวจเอ็กซเรย์อีกครั้งก่อนทำการผ่าตัด ปรากฏว่าเนื้องอกไม่พบ ที่แรกหมอไม่แน่ใจจึงได้นัดตรวจดูอีกครั้ง แต่ไม่พบเนื้องอก หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ทั้งที่แปลกใจอย่างนั้น หาสาเหตุในทางการแพทย์ไม่ได้เลยว่าเป็นไปได้อย่างไร
    แสดงว่าหลวงพ่อครูบาชัยวงศ์ได้เมตตามาช่วยจริงๆ เหมือนในนิมิตฝัน คงเป็นอภินิหารของหลวงพ่อแน่ๆ เธอเชื่ออย่างนั้น จึงได้ตั้งใจว่าจะไปช่วยงานบุญ 100 วัน ที่ท่านมรณภาพ เพื่อเป็นการแก้บนและตอบแทนบุญคุณของหลวงพ่อ.............
    <hr>
    พระรอด....ครูบาเปลี่ยนชีวิตคนๆ หนึ่ง
    โดย ธรรมสานห์
    คุณพ่อของข้าพเจ้านั้นเป็นคนที่ศรัทธาครูบาชัยยะวงศามากและเจอประสบการณ์จากท่านมามากก็จะขอเล่าเรื่องพระรอด.....ครูบาเปลี่ยนชีวิตคนๆ หนึ่ง
    พ่อผมได้เดินทางไปภาคเหนือกับเพื่อนพ่อผม เพื่อนผมเล่าว่า ภรรยาเขาเปลี่ยนศาสนาคริสต์เป็นพุทธได้เพราะท่านครูบา เพื่อนพ่อผมได้พาภรรยาไปกราบครูบาวงศ์ที่วัดพระบาทห้วยต้ม ภรรยาเพื่อนพ่อผมเป็นคนที่ศาสนาคริสต์ เลยไม่ศรัทธาครูบา ครูบาท่านได้คายชานหมากออกมา และได้หยิบทิชชูและท่านก็นำชานหมากห่อทิชชูไว้ และกล่าวว่าว่า ห้ามเปิดห่อชานหมาก ภายใน 7 วันถึงเปิดได้ วันที่เจ็ด ภรรยาได้เปิดห่อชานหมากปรากฏว่าชานหมากของท่านได้กลายเป็นพระรอดชานหมาก หลังจากนั้นภรรยาเพื่อนพ่อผมจึงหันมาศรัทธาครูบาวงศ์ และเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ
    ครูบาวงศ์ท่่านมีเมตตามาก ขนาดช่วยคนให้มานับถือศาสนาพุทธได้อย่างอัศจรรย์
     
  11. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    [​IMG]
     
  12. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    วัว หลังวัด
    มีอยู่วันนึง เพื่อนมาบอกให้ไปทำบุญไถ่ชีวิตโค ก็เลยช่วยซื้อชีวิตโคฝูงนั้น แล้วก็เอาไปถวายครูบาที่วัด ครูบาท่านก็มารับโคฝูงนั้น ตอนแรกไปวัดระยะนั้น ยังเห็นท่านทำคอกให้วัวอยู่ พอมาระยะนึง ไม่เห็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าวัวไปไหน
    ช่วงบ่ายไปนั่งคุยกับ ตุ๊กร ที่กุฏิท่านหลังวัด ก็เล่าเรื่องถวายวัวให้ตุ๊กรฟัง ตุ๊กรบอกว่า วัวที่ผมถวาย ครูบาเอาไปปล่อยให้หากินหลังวัด ครูบาจะอธิษฐานหินเป็นหลักเขตเอาไว้ วัวฝูงนั้นจะหากินอยู่ในเขตบริเวณที่ครูบาท่านทำไว้ ไม่ออกนอกเขตนั้น ไม่มีรั้วกั้น
    เคยมีขโมย พยายามจะลักวัวไป แต่ก็จะหลงหาทาง ไม่สามารถออกจากบริเวณที่ครูบาอธิษฐานไว้
    บันทึกเอาไว้ ครูบาท่านอธิษฐานก้อนหินเป็นหลักเขต ตอนนั้น อยากได้สัก 4 ก้อน เอาไปเป็นรั้วบ้าน ไม่มีโอกาสได้ขอท่าน

    ครูบา กับวัดพระพุทธบาทตะเมาะ
    <table border="0" cellspacing="1"> <tbody> <tr> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> ครูบาเจ้าที่
    วัดพระพุทธบาทตะเมาะ
    </td></tr></tbody></table>​
    <table id="table39" border="0" cellspacing="0" align="left" width="200"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; BORDER-LEFT: rgb(128,0,0) 2px solid; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; PADDING-LEFT: 4px; PADDING-RIGHT: 4px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2); BORDER-TOP: rgb(128,0,0) 2px solid; BORDER-RIGHT: rgb(128,0,0) 2px solid" class="pic_descript"> [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="BORDER-BOTTOM: rgb(128,0,0) 2px solid; TEXT-ALIGN: center; BORDER-LEFT: rgb(128,0,0) 2px solid; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; PADDING-LEFT: 4px; PADDING-RIGHT: 4px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2); BORDER-RIGHT: rgb(128,0,0) 2px solid" class="pic_descript"> มณฑปไม้ที่ครูบาวงศ์ได้พาศรัทธาสร้าง เมื่อปี ๒๕๐๐ ท่านบอกว่าเป็นการก่อสร้างที่ยากที่สุดในชีวิตของท่าน เพราะต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานับปการ การแกะสลักต่างๆ ส่วนมากเป็นฝีมือของท่านทั้งหมด
    ภาพและคำบรรยายจากเวบwww.wattamor.com
    </td></tr></tbody></table>
    ภาพนี้ (ภาพบน) ครูบา ถ่ายที่วัดพระพุทธบาทตะเมาะ (เต่าหมอบ) เป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี และครูบาวง ท่านเคยได้มาพักและจำพรรษา วัดนี้มีแท่นบรรทมของพระพุทธเจ้า (เมื่อครั้ง พระองค์เสด็จมาบริเวณนี้) และของพระอรหันต์สาวก
    ครูบาท่านชอบวัดนี้มาก เคยบอกว่า ถ้าไม่ได้อยู่ที่ห้วยต้ม จะมาอยู่ที่ตะเมาะ
    ว่ากันว่า ใครที่ชอบปฏิบัติให้มาที่วัดนี้ เพราะจะทำให้สงบได้เร็วขึ้น
    <table id="table4" border="0" align="right"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> พระมหานพดล สิริวฑฺฒโน
    เจ้าอาวาสวัดพระบาทตะเมาะ
    พ.ศ. ๒๕๒๕-ปัจจุบัน (๒๕๕๓)
    </td></tr></tbody></table>
    อาคารที่เห็นในรูป (ด้านหลังครูบาเจ้า) เป็นอาคารที่ครูบาวงท่านสร้างโดยใช้วิธีเข้าลิ่มไม้ ไม่มีตะปู ผมไม่ทราบว่าอัจฉริยภาพทางด้านการก่อสร้างของท่านเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ไม่ทราบว่าท่านเรียนทางการก่อสร้างและงานศิลปะต่างๆ จากอาจารย์องค์ไหน
    ความเชี่ยวชาญทางการก่อสร้างนี้เอง ครูบาศรีวิชัยถึงได้ไว้วางใจ ให้ท่านควบคุมงานสำคัญหลายแห่ง เคยอ่านว่านักวิทยาศาสตร์เอกของโลก ท่านเซอร์ไอแซค นิวตั้น ก็เคยสร้างสะพานไม้เล็กๆ แบบไม่ใช้ตะปูเลยคล้ายกันนี้ ในมหาวิทยาลัยอ๊อซฟอร์ด ที่อังกฤษ
    วัดพระบาทตะเมาะในปัจจุบันมีพระอาจารย์นพดล ซึ่งเป็นลูกศิษย์องค์หนึ่งของครูบาจำพรรษาอยู่ ซึ่งตรงกับคำทำนายที่ครูบาได้เคยบอกไว้ว่า "วัดนี้จะมีพระทางใต้ มาอยู่" (พระใต้ หมายถึงพระภาคกลาง)
    <hr>
     
  13. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    we are the vegetarian...
    <table style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px" id="table37" border="0" cellspacing="1" align="right"> <tbody> <tr> <td style="FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif">[​IMG]</td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">ครูบาชัยลังก๋า</td></tr></tbody></table>
    พวกเรา ลูกหลาน ลูกศิษย์ ครูบา เป็น พวก ไม่ทานเนื้อสัตว์ พวกหมู่คนเฒ่าคนแก่ ที่ติดตามมาหลายรุ่นตั้งแต่สมัย ครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี นำพาพวกลูกศิษย์รุ่นต่อมาไม่ทานเนื้อสัตว์กันไปด้วย หลายร้อยหลายพันคน เป็นหมู่คณะ พวกเราที่ตามครูบาวง ท่านก็นำพวกเรา ไม่ให้ทานเนื้อสัตว์ไปด้วย
    ครูบาท่านฉันมังสวิรัติ อย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 12 ปี ตอนไปอยู่กับครูบาชัยลังก๋า(อาจารย์องค์สำคัญของครูบา) ซึ่งท่านก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์เช่นกัน
    ถึงแม้ตอนเมื่อครั้งครูบาท่านยังเด็กเล็กสมัยยังไม่ได้บวช ท่านก็มีจิตนิยมในการไม่ทานเนื้อสัตว์ ท่านเล่าว่าท่านจะกินหัวกลอย หัวมัน ผักหญ้า มาตลอด
    ท่านให้เหตุผลว่า
    "สัตว์ทุกตัว มันก็รักชีวิตของมันเหมือนกัน เมื่อเราฆ่ามันตายเพื่อกินเนื้อมัน จิตของมันไปที่สำนักพญายม ก็จะฟ้องร้องว่าคนนั้นฆ่ามันตาย คนนี้กินเนื้อของมัน (ถึงแม้จะไม่ได้ฆ่า) คนกินก็เป็นจำเลยด้วยก็ย่อมต้องได้รับโทษ(เช่นเดียวกับกฎหมายของบ้านเมือง) แต่จะออกมาในรูปของการเจ็บไข้ได้ป่วย และความไม่สบายต่างๆ ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้สึก เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา"
    ครูบาวงศ์ ท่านได้อบรมพระเณร และชาวกระเหรี่ยงทั้งหลายที่มาอาศัยใบบุญของท่านให้กินมังสวิรัติไปด้วย โดยเฉพาะในบริเวณวัดพระพุทธบาทห้วยต้มถือเป็นพุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ปลอดการทานอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ครูบาท่านสอนว่าการไม่ทานเนื้อสัตว์จะทำให้การปฏิบัติกรรมฐานของเราได้ไวด้วย
    พวกลูกศิษย์สายตรง ที่เป็นหมู่คณะของครูบาชัยลังก๋า ครูบาศรีวิชัย ครูบาขาว ครูบาวงศ์ ก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ตามรอยอาจารย์ของพวกเรา ชักชวนหมู่คณะญาติพี่น้องเพื่อนฝูงให้ไม่ทานเนื้อสัตว์ไปด้วย ทานเนื้อคนอื่นมาหลายชาติแล้ว เลิกมันเสียในชาตินี้
    ค่อยๆเพียรพยายามกันไปตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ของพวกเราไม่ว่าจะครูบาชัยลังก๋า ครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี ครูบาวงศ์ ท่านก็ไม่ทานเนื้อสัตว์
    ตั้งใจกันให้ดี ตามรอยเท้าของครูบาวงศ์ ที่ท่านทำเป็นแบบอย่างเอาไว้
     
  14. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    เมืองลับแล....
    กัลยาณมิตรคนนึงที่วัด บอกว่าวันก่อนที่ผมจะเข้าไปวัดมีพวกเมืองลับแลมาถวายผ้าป่าครูบาตอนหัวค่ำ แล้วก็คณะผ้าป่าก็เดินหายไปหลังวัด
    วันหลังมีโอกาสถามท่านเรื่องนี้ ถามท่านว่า "ครูบาครับ เมืองลับแลมีจริงไหม "
    ครูบาท่านบอก "ตอนนั้น (สมัยหนุ่มๆ) เดินธุดงค์ไป เดินผ่านหมู่บ้าน เห็นรอยพระบาท (พระพุทธบาท) ที่ริมน้ำ พอเดินผ่านหันไปอีกที หมู่บ้านหายไปแล้ว"
    ท่านบอกว่า "วันหลังจะไปกราบก็หาไม่เจอ รอยพระบาทนี้อยู่ในหมู่บ้านพวกลับแล เค้าดูแลอยู่"
    ถามครูบาว่า "อยู่ที่ไหนครับ"
    ท่านชี้นิ้วบอก ไปหลังวัดห้วยต้ม "อยู่ทางโน้น"
    ...................................................................................
    มหาหิน เพิ่มเติม
    ที่ด้านหลังวัดฯ
    กำลังก่อสร้างเจดีย์ปู่แก้วมาเมือง สมเด็จองค์ปฐม พร้อมวิหารแก้ว อยู่ในเวลานี้
    <table id="table33" border="0" align="right"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: right; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">
    [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: right; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">
    พระอาจารย์ตุดี โฆสิตธัมโม​
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม.​
    </td></tr></tbody></table>
    โดย.. พระคุณเจ้าตุดีฯ ศิษย์ของหลวงปู่ฯ ตั้งแต่เป็นเด็กขโยม (เด็กวัด อยู่แบบต้องโกนหัว) ต่อมาบรรพชาเป็นสามเณร ปฏิบัติดูแลหลวงปู่ฯ และท่านได้สั่งกำชับไว้ ตั้งแต่เป็นสามเณร ว่า....
    "ให้อายุ 22 ปี ค่อยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ"
    เหมือนท่านจะรู้ว่า เมื่อถึงเวลานั้น ท่านก็คงไม่ได้อยู่แล้ว....
    ก็เป็นจริงตามนั้น ปี 2543 หลวงปู่ฯ ก็จากไป
    สามเณรตุดีฯ ได้อุปสมบทในปี 2544
    เป็นพระภิกษุ ชุดแรกที่อุปสมบทในอุโบสถ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับวันที่ตัดลูกนิมิต และฉลองอุโบสถ นั่นเอง
    <hr>
    ครูบา บิณฑบาตนอกวัด....
    ตอนครูบาท่านอายุมากแล้ว ท่านก็ไม่ได้ออกไปบิณฑบาต แต่ท่านก็จะเอาบาตรวางไว้ที่ศาลาด้านนอกให้พวกคนที่ศรัทธาได้ใส่บาตร
    ตอนสายๆพวกลูกศิษย์ก็จะยกบาตรเข้ามาถวายประเคนท่านที่กุฏิ ปกติท่านจะฉันอาหารที่แม่ครัวประจำทำให้ อาหารก็เป็นอาหารง่ายๆ พวกผัก จิ้มน้ำพริก ต้มผัก
    แต่ที่จะได้ยินอยู่เนืองๆ จากคนที่มาที่วัด ว่า เห็นครูบาท่านไปบิณฑบาตตามที่ต่างๆ หลายจังหวัด คนเฒ่าคนแก่บางคน คนรู้จักบางคนที่เล่าให้ผมฟังด้วยความตื่นเต้น เราก็พลอยตื่นเต้นไปกับคนที่เล่าด้วย
    คนที่เล่าให้ผมฟังแต่ละคนก็น่าเชื่อถือทั้งนั้น คนที่เล่าให้ผมฟังบอก พวกญาติเค้าและชาวนาแถวนั้นเห็นท่านเดินกลางทุ่งนา บางคนจำท่านได้จะวิ่งตามท่าน เค้าจะเข้าไปไหว้ท่าน เห็นท่านมารูปเดียว แต่ท่านเดินหายไปเลย
    วันที่พวกชาวบ้านกลุ่มนั้นเจอครูบา จริงๆ แล้วท่านอยู่ที่วัด ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ท่านฟัง
    ท่านก็ไม่พูดอะไร เลยไม่กล้าถามอะไรท่าน
     
  15. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    [​IMG]
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,505
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG]
     
  17. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    กราบหลวงปู่ครูบาวงค์ กราบ กราบ กราบ
     
  18. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ขออนุโมทนาสาธุทั้งสองท่านด้วยครับ
     
  19. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    เส้นผมที่เป็นพระธาตุ ....พระโพธิสัตว์ ก็เป็น
    <table id="table11" border="0" align="right"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript">พระอาจารย์นพดล</td></tr></tbody></table>
    ตอนบ่ายวันนึง ไปทำบุญที่ วัดพระบาทตะเมาะ เจอหลวงพี่นพดล ที่วัดพระพุทธบาทตะเมาะ
    ท่านเรียกมาดู ท่านบอกจะให้ดูของดี เคยเห็นไหม เป็นเส้นเกศาครูบา ที่กลายเป็นพระธาตุสีทับทิม เราก็โมทนาด้วย
    อีกครั้งนึงถ้าจำไม่ผิด
    รู้สึกจะเป็น อาจารย์ปฐม
    เอาแก้วมาก้อนนึง มีเส้นผมอยู่ข้างใน มาให้ท่านดู
    ครูบาบอกเป็นเส้นผมท่านในอดีต (ผมไม่ได้อยู่ด้วย ลูกศิษย์อีกคนบอกเรื่องนี้ให้ฟัง)
    พอมีโอกาสก็เลยเรียนถามท่านว่า เส้นผมที่เป็นพระธาตุ เกิดกับพระอรหันต์เหรอครับ
    ครูบาท่านบอก...พระโพธิสัตว์ ก็เป็น
    (ผมค่อยใจชื้นหน่อย) ผมเลยบ่นน้อยใจกับท่านว่า....
    แล้วเมื่อไรเส้นผมของครูบาที่อยู่กับผมจะเป็นสักที
    ครูบาท่านหัวเราะ...ท่านบอก
    เก็บเอาไว้ เดี๋ยวก็เป็น (พระธาตุ) เอง
    <hr>
    ดี ที่ไม่ได้ขอ
    <table id="table12" border="0" align="left"> <tbody> <tr> <td style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0pt 10pt 10pt 10px; FONT: 10pt/19px Tahoma; COLOR: rgb(2,66,2)" class="pic_descript"> [​IMG]
    </td></tr></tbody></table>
    เป็นที่ทราบกันดี เรื่องครูบา ท่านอธิษฐานขอพระธาตุ บางทีก็เทวดาให้ท่านมาบ้าง เหมือนภาพที่ลูกศิษย์เคยถ่ายไว้ ตอนแกะดอกบัวออกมาแล้วมีพระธาตุอยู่ข้างใน พระธาตุข้อพระหัตถ์ซึ่งมาแสดงที่พุทธมณฑล
    ตรงที่บริเวณครูบาสวดมนต์ท่านจะเก็บพระธาตุสำคัญต่างๆ ไว้ตรงตู้นั้น
    ก่อนครูบามรณภาพ ท่านให้ลูกศิษย์ถ่ายภาพเก็บไว้ แล้วให้จด ท่านกลัวคนภายหลังจะไม่ทราบ เรื่องหอพระเขี้ยวแก้วที่วัด ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ลูกศิษย์ใหม่ๆ บางคนก็ไม่ทราบ
    ครูบาจะเก็บพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้าไว้ที่นั่น
    ถ้าได้ไปวัด ก็จะอยู่ข้างเจดีย์ หลังรอยพระบาท เมื่อก่อนจะเปิดสรงน้ำพระธาตุปีละครั้ง
    ผมเคยนึกสนุก ขอพระเขี้ยวแก้วกับครูบา เรียนท่านว่า
    ครูบาครับผมอยากได้พระธาตุพระเขี้ยวแก้ว แบบที่ครูบาเอามาจากศรีลังกา ขอครูบาอธิษฐานเรียกขอให้ผมหน่อย
    ครูบาตอบยิ้มๆ...บ่ได้ มันแพง เพราะต้องขึ้นเครื่องบินมา
    ก็ดีแล้วที่ท่านไม่อธิษฐานขอให้
    เพราะได้มาคงลำบาก ของสูงไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน
     
  20. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    <center>
    </center>
    [​IMG]ปาฏิหาริย์และบุญฤทธิ์บางส่วน
    ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา
    <center>
    คัดลอกเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ "พระชัยวงศานุสสติ"
    โพสท์ในเวปกองทัพพลังจิต โดย wit โพสท์เมื่อ 30-07-2005
    [​IMG]
    </center>
    เกศากลายเป็นพระธาตุ
    ศิษย์เก่าแก่ของหลวงพ่อท่านหนึ่งซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งได้นิมนต์หลวงพ่อครูบาชัยวงศ์มาพักที่บ้าน ระหว่างที่เดินทางมาบ้านของเธอ หลวงพ่อได้เมตตามอบหลอดแก้วเล็กๆ ซึ่งบรรจุเส้นเกศาของท่านไว้ มาให้บูชาติดตัว เมื่อเธอได้รับหลอดแก้วบรรจุเส้นเกศาของหลวงพ่อ ก็ได้เก็บไว้เฉยๆ ประมาณ ๔-๕ ปี จึงได้เอาหลอดแก้วนั้นไปเลี่ยมทอง เพื่อใช้ห้อยคอติดตัวเป็นประจำ
    วันหนึ่งได้มีคนรู้จักและสนิทกันมาทักทาย และได้ขอดูหลอดแก้วที่ได้มานั้น เมื่อได้พิจารณาดูสักครู่ ก็ได้ถามว่า หลอดแก้วนี้บรรจุทับทิมเอาไว้ด้วยหรือ เธอรู้สึกแปลกใจที่ถูกถามเช่นนั้น ได้ตอบไปว่าไม่ได้ใส่อะไรเพิ่มเข้าไปเลย ตั้งแต่ได้มา คงมีแต่เส้นเกศาของหลวงพ่อสีเทาขาวบรรจุอยู่เต็มภายในนั้นอย่างเดียว คงยืนกรานเช่นนั้น
    แต่ทว่า เพื่อนคนนั้นได้ท้วงว่า ก็เห็นอยู่นี่ไง จึงได้หยิบมาพิจารณาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วก็ต้องแปลกใจและดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นว่าภายในหลอดแก้วนั้น นอกจากจะมีเส้นเกศาของหลวงพ่อ แล้วยังมีเม็ดทับทิมเล็กๆ อยู่ภายในนั้นด้วย ต่างคิดว่าคงเป็นเพราะบุญฤทธิ์และความเมตตาของหลวงพ่อเป็นแน่ เส้นเกศาของท่านจึงได้กลายเป็นพระธาตุสีทับทิมเหมือนปาฏิหาริย์
    ต่อมาอีกระยะหนึ่ง เส้นเกศาที่เหลือของท่านก็ได้เริ่มกลายเป็นเส้นสีทองไปบ้างแล้วอย่างเห็นได้ชัด โอ้หลวงพ่อท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ศิษย์ท่านนั้นเล่าด้วยความปีติใจ
    (โดย สุวรรณา)
    <hr>
    พระธาตุเสด็จในสำลี
    เจ้าของพระธาตุ เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเธอได้มีโอกาสเดินทางไปทำธุระกับหลวงปู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางที่หยุดเติมน้ำมัน หลวงปู่ควักเอาสำลีเปล่าๆ ออกมาเช็ดขี้ตา เช็ดเสร็จแล้วท่านก็ส่งให้เธอ จากนั้นเธอก็ได้เก็บติดตัวมาโดยตลอดเพราะปกติเป็นคนชอบกลัวผี จึงเอาสำลีที่ได้พับเก็บไว้ในผ้ายันต์มาตลอดเป็นเวลานับ ๑๐ ปี
    หลังจากหลวงปู่มรณภาพ ได้มีสารวัตรคนหนึ่งซึ่งเคยได้ยินมาว่า เธอมีผ้ายันต์ของหลวงปู่ จึงอยากจะเห็น และได้ขอเธอดู เมื่อเธอเปิดให้ดูก็พบว่ามีพระธาตุจำนวน ๖ องค์อยู่ในสำลี ซึ่งเธอเก็บไว้ในผ้ายันต์ เธอจึงแปลกใจว่าพระธาตุที่ไหนมาอยู่ในสำลีของเธอ ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่หลวงปู่ให้มา เป็นเพียงแค่สำลีเปล่าๆ ที่ใช้เช็ดขี้ตาของหลวงปู่ ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่แท้ๆ แม้แต่ขี้ตาก็ยังกลายเป็นพระธาตุขึ้นมาได้ และยังมีพระธาตุอื่นๆ เสด็จมารวมอยู่ด้วย
    (โดย อุบาสิกา จิตสมา)
     

แชร์หน้านี้

Loading...