ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

นวัตกรรมแพโรงเห็ด​

เผยแพร่เมื่อ 27 มี.ค. 2013

 

เรื่องของเห็ด [สถานีเห็ด]​

 

ผลิตก้อนเห็ดขาย ทำรายได้หกหลักต่อเดือน​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=p1IXJY3IScg]YouTube[/ame]

 

แปรรูปเห็ด​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=CwkwKmkWyD0]YouTube[/ame]

 

รายการ กินอยู่คือ​

 

ขนมปังแบบทำเองที่บ้าน​

 

ในหลวงพระราชทานผ้าห่มกันหนาว​

​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเพื่อจัดพระราชทานผ้าห่มกันหนาวจำนวน 500 ผืน มอบให้กับประชาชนที่ประสบภัยหนาวในจังหวัดกาฬสินธุ์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ให้กับกับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอากาศหนาวในพื้นที่ อ.นามน จำนวน 250 ผืน และ อ.กุฉินารายณ์ จำนวน 250 ผืน นอกจากนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ร่วมมอบอีก 100 ผืน รวมจำนวน 600 ผืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยมี นางจารุวรรณ โพธิกุฏสัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการร่วมมอบ

ด้าน นายภุชงค์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวกาฬสินธุ์ จึงได้พระราชทานผ้าห่มกันหนาวผ่านทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เพื่อใช้บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเมตตาต่อพสกนิกร อ.นามน และ อ.กุฉินารายณ์ จึงขอให้พี่น้องชาวกาฬสินธุ์ทุกคนสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ และร่วมกันทำความดีเป็นพลเมืองที่ดี รู้รัก สามัคคี เพื่อน้อมถวายแด่พระองค์ท่าน.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 18:31 น.

นักโทษฟื้นฟูจิตใจสวดมนต์รับปีใหม่​

​

เรือนจำมหาสารคามอบรมธรรมปฏิบัติรับปีใหม่ เพื่อผู้ต้องขังเพื่อขัดกล่อมจิตใจ สร้างภูมิคุ้มกันลดปัญหาการกระทำผิด

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ลานปฏิบัติธรรมภายในเรือนจำจังหวัดมหาสารคามนายสุชัย บุตรสาระปลัดจังหวัดมหาสารคามเปิดโครงการอบรมธรรมปฏิบัติเรือนจำเรือนธรรม แก่ผู้ต้องขังจำนวน 300 คนโดยมีหลวงปู่เที่ยง วัดใต้ดงน้อย มาเป็นพระวิปัสสนาจารย์ บรรยายธรรมนำปฏิบัติตลอดการจัดอบรม เพื่อแก้ไข ฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม บำบัดความเครียด ผ่านกระบวนการการปฏิบัติธรรมตามแนวทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นยังส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามวิถีทางพระพุทธศาสนา ชี้ให้เห็นคุณค่าการกระทำความดี ละทิ้งความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส รู้จักประกอบสัมมาอาชีพที่เหมาะสม ลดปัญหาการกระทำผิดวินัยขณะถูกคุมขังในเรือนจำ เป็นพลเมืองที่ดีของชุมชน และเป็นคนดีของครอบครัวภายหลังพ้นจากโทษ.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 19:24 น.

เปิดวังเต่ากระดองคล้ายรูปพระสมเด็จ​

​

จังหวัดสุรินทร์เปิดวัดศรีโพธิ์ทองหรือวังเต่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวรับนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ สุดฮือฮาเต่ากระดองคล้ายพระสมเด็จ

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นางสลักจิต สกุลรักษ์ นายกเหล่ากาชาดกิ่งอำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้ทำการเปิดตัว วัดแจ้งศรีโพธิ์ทอง บ้านตึกชุม ต.ชุมพลบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เยี่ยมชม "วังเต่า" ที่มีเต่ากรนจำนวนมากมายนับพันตัวมารออาหารจากผู้ใจบุญ แถมหลังกระดองเต่าทุกตัวยังมีลวดลายสวยงามคล้ายพระสมเด็จอีกด้วย

พระอาจารย์สมพงศ์ ญาณวีโร รองเจ้าอาวาสวัดแจ้งศรีโพธิ์ทอง เล่าว่า ชาวบ้านมีความเชื่อว่าวิญญาณบรรพบุรุษสถิตย์อยู่ที่เต่า จึงไม่มีใครกล้าทำร้ายเต่า และถือว่าเต่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน นอกจากนั้นทุกวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปีจะมีการเซ่นไหว้ปู่ตาประจำหมู่บ้าน ซึ่งนำอาหารหวานคาวเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อเซ่นไหว้ปู่ตาด้วย

ด้านนางสลักจิต ได้เชิญชวนให้ชาวบ้านทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นการเพิ่มสิริมงคลให้กับชีวิต และร่วมทำบุญกับเต่าให้อาหาร ซึ่งเต่าถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่เสริมสิริมงคลให้กับชีวิต เพราะเต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาวและสุขภาพแข็งแรง.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 19:53 น.

คลื่นซัดเรือล่มกลางทะเลสูญหาย 1 ราย​

​

คลื่นสูงกว่า 4 เมตร ซัดเรือบรรทุกสินค้าระหว่างกระบี่-เกาะพีพี อับปางกลางทะเลบริเวณอ่าวรันตี จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือลูกเรือไว้ได้ 14 คน สูญหาย 1 ราย

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ฆารเจริญ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำกระบี่ นำเรือตรวจการณ์ 523 พร้อมเจ้าหน้าที่ 10 นาย ออกช่วยเหลือลูกเรือ “ส.จตุพร“ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าระหว่างกระบี่-เกาะพีพี ที่ประสบเหตุล่มกลางทะเล บริเวณอ่าวรันตี หมู่ 7 ต.อ่าวนางอ.เมือง จ.กระบี่ ห่างจากท่าเรือเกาะพีพีประมาณ 2 กม. ทำให้สินค้าที่อยู่ในเรือได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนลูกเรือและกัปตันเรือ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือไว้ได้ รวม 14 คน และยังคงสูญหายอีก 1 คน คาดว่าเป็นลูกเรือชาวพม่า

ด้าน นายต่อศักดิ์ ประดิษฐ์เจริญอายุ 59 ปี เจ้าของเรือ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเสกสรร ช่างเรือ อายุ 50 ปี กัปตันเรือ พร้อมลูกเรือทั้งหมด 14 คนเป็นคนไทย 1 คน ที่เหลือเป็นชาวพม่า ได้ขับเรือบรรทุกสินค้าออกจากฝั่งท่าเทียบเรือ ที่แพ ป.ต่อศักดิ์ หมู่ 7 ต.ไสไทย เพื่อนำสินค้าไปส่งที่เกาะพีพี แต่ระหว่างทางเมื่อไปถึงบริเวณอ่าวรันตีได้เกิดคลื่นลมแรง คลื่นสูงประมาณ 4 เมตรซัดเข้าลำเรือ ทำให้เรือเกิดพลิกตะะแคงก่อนจมลงอย่างช้าๆ ทำให้สินค้าได้รับควสามสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทส่วนลูกเรือต้องลอยคออยู่กลางทะเลกว่า 30 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือไว้ได้แอย่างปลอดภัย ส่วนอีก 1 คนที่สูญหายคาดว่าเป็นลูกเรือชาวพม่า ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหา แต่ยังไม่พบ.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 20:05 น.

แข่งพายเรือคลายเครียดน้ำท่วม​

​

ชาวบ้านใน ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี จัดการแข่งขันพายเรือบนถนนที่ถูกน้ำท่วมขัง เพื่อเป็นการคลายเครียดจากภาวะน้ำท่วมติดต่อกันเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเริ่มลดลง แต่ยังคงมีปริมาณมากจนเอ่อล้นตลิ่งและไหลเชี่ยวกราก โดยยังคงท่วมพื้นที่ราบลุ่มและที่ติดริมแม่น้ำปัตตานี เป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว ถนนที่เป็นสายหลักในการเดินทางทั้งไปพื้นที่ จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา คือ ถนน สาย 42 ปัตตานี-หาดใหญ่ และ ปัตตานี-นราธิวาส บริเวณหมู่ 1 ต.ปะกาฮารัง รวมทั้งถนนสาย 418 ปัตตานี-ยะลา บริเวณหมู่7 บ้านกอแลบีเละ ต.ปะกาฮารัง น้ำเริ่มลดลงจนสามรถสัญจรไปมาได้แล้ว ส่วนพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูง เป็นพื้นที่ใน ต.ปะกาฮารัง ต.บาเราเฮาะ ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง เพราะระดับน้ำยังท่วมในหมู่บ้านสูงตั้งแต่ 1-2 เมตร

ขณะที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถึงแม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมสูงที่ชุมชน ต.จะบังติกอ ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจร ซึ่งทางกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี นำโดย พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้นำตำรวจชุมชนสัมพันธ์เข้าไปพบปะกับชาวบ้าน และเล่นเกมกับเด็กๆ พร้อมทั้งแจกลูกอมอย่างสนุกสนาน เพื่อเป็นการสร้างกิจกรรมคลายเครียด นอกจากนี้ชาวบ้านใน ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมืองปัตตานี ยังได้มีการจัดการแข่งขันพายเรือบนถนนด้านข้างของถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ที่ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซม. เพื่อเป็นการคลายเครียด และสร้างความสามัคคีในชุมชน หลังถูกน้ำท่วมกว่า 2 สัปดาห์ โดยมีผู้เข้าร่วมกันอย่างคึกคัก.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 20:58 น.

กองโจรลิงเขาใหญ่ ดักปล้นอาหาร​

​

กองโจรลิงเขาใหญ่ ดักปล้นอาหาร

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค นายอำนวย อินทรักษ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า อุทยานฯ เขาใหญ่ เป็นอุทยานที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน คือพฤติกรรมของสัตว์ป่า โดยเฉพาะลิงบนอุทยานฯ เขาใหญ่ที่น่าเป็นห่วงมาก ประชากรลิงเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ค่อนข้างดุร้าย ก้าวร้าว และสามารถเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ทำให้มนุษย์รู้สึกสงสารจนต้องให้อาหาร เช่น ทำท่ายื่นมือขออาหารและส่งสายตาอ้อนวอน ยักคิ้ว เพื่อให้คนเอ็นดู จนยอมให้อาหาร หรือหากไม่ให้ก็จะเข้าแย่ง ทำให้ลิงไม่ยอมหากินในป่าตามธรรมชาติ แต่ยกฝูงออกมารอคอยอาหารจากนักท่องเที่ยวตามริมถนน จุดชมวิว ลานกางเต็นท์ หรือบ้านพักนักท่องเที่ยว สร้างปัญหาให้ทั้งคนและสัตว์ป่า

“ลิงเป็นสัตว์ที่มีความฉลาด และเรียนรู้ได้เร็ว ลูกลิงที่เกิดมาในช่วงหลัง 10 ปีให้หลังมานี้ เริ่มหาอาหารในป่ากินเองไม่เป็น เพราะเรียนรู้จากลิงรุ่นใหญ่ที่พาฝูงออกมาหากินริมถนน จากเดิมที่ทำตัวเป็นขอทานพาลูกลิงออกมารอคอยขออาหารจากนักท่องเที่ยว จนกระทั่งมาเป็นการขโมยอาหารจากท้ายรถที่จอดตามจุดชมวิวทางขึ้นเขา หรือรื้อค้นขโมยอาหารตามเต็นท์ บ้านพักนักท่องเที่ยว ที่น่าเป็นห่วงคือขณะนี้เชื่อว่าลิงกำลังสะสมข้อมูลใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น จากการสังเกตพฤติกรรมบางอย่างเริ่มมีให้เห็นแล้ว คือการแบ่งทีมกันออกดักหน้ารถนักท่องเที่ยวเพื่อให้รถชะลอหรือจอด แล้วให้อีกส่วนหนึ่งออกมาขอ หรือฉวยอาหาร หากไม่ให้ก็ถึงขั้นกรรโชกด้วยการแยกเขี้ยวใส่ คาดว่าอีกไม่เกิน 2 ปี ลิงบนเขาใหญ่ จะพัฒนาพฤติกรรมเป็นกองโจรที่ออกปล้นอาหารจากนักท่องเที่ยวได้ ”นายอำนวย กล่าว

ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาอุทยานฯ เขาใหญ่ ใช้ความพยายามในการแก้ไขปัญหาการให้อาหารสัตว์ป่า โดยรณรงค์ปลูกจิตสำนึกของนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎของอุทยานฯ จนกระทั่งใช้มาตรการทางกฎหมายปรับครั้งละ 500 บาท แต่นักท่องเที่ยวก็ยังมีการให้อาหารสัตว์ป่าอยู่ เพราะความสงสารและคิดว่าเป็นการนำของดีมีประโยชน์ให้สัตว์กิน โดยไม่ทราบถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศที่จะตามมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็หาแนวทางแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา โดยมีการจัดชุดเจ้าหน้าที่เพื่อไล่ลิงกลับเข้าป่า หรือแยกตัวจ่าฝูงออกมาเพื่อนำไปปล่อยที่อื่นต่อไป และใช้มาตรการทางกฎหมายกับนักท่องเที่ยวที่ให้อาหารสัตว์ป่าอย่างเข้มข้น ความร่วมมือของนักท่องเที่ยวในการไม่ให้อาหารสัตว์ป่านั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้.

เดลินิวส์ วันอังคาร 30 ธันวาคม 2557 เวลา 11:17 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

แผ่นดินไหวอิหร่าน 5.3 แมกนิจูด​

​

โทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.3 แมกนิจูด สร้างแรงสั่นสะเทือนในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบางทางตอนใต้ของอิหร่าน โดยยังไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ว่าสถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่าน รายงานว่าเมื่อวันอังคารที่ 30 ธ.ค.ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.3 แมกนิจูด ในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ทางตอนใต้ของอิหร่าน โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เขตชอนเบห์ 120 กม.ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบูเชห์ เมืองริมอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของอิหร่าน สร้างขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือจากรัสเซีย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

เมื่อปีที่แล้วได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.1 แมกนิจูด คร่าชีวิตผู้คนไป 37 ศพและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนในพื้นที่เดียวกันนี้ แต่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ถึง 8.0 แมกนิจูด อิหร่านเผชิญภัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้งเช่น เมื่อปี 2546 มีผู้เสียชีวิตมากถึง 26,000 ศพ จากแผ่นดินไหว 6.6 แมกนิจูด ทำให้เมืองบาม ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่านพังราบ

เดลินิวส์ วันอังคาร 30 ธันวาคม 2557 เวลา 16:44 น.

แผ่นดินไหว 3.9 แมกนิจูด เขย่าทางใต้แอลเอ​

​

เกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อม 3.9 แมกนิจูด ในพื้นที่ทางใต้ของเมืองลอสแองเจลิสในสหรัฐ เบื้องต้นยังไม่มี รายงานผู้เสียชีวิต บาดเจ็บหรือความเสียหาย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองลอสแองเจลิสรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.อ้างรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐที่ระบุว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมระดับ 3.9 แมกนิจูด เขย่าทางตอนใต้ของเมืองลอสแองเจลิส เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ

โดยแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.36 น.หรือตรงกับ 06.26 น.ตามเวลาในไทยของเช้าวันพุธ ห่างจากเมืองซาน เปโดรไปทางใต้ราว 16 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1.1 กิโลเมตร นายคริสดูรี ซึ่งอยู่ใกล้ย่านการค้าของลองบีช บอกว่า แม้สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาบอกว่าแผ่นดินไหว 3.9 แมกนิจูด แต่เขามีความรู้สึกว่าแผ่นดินไหวรุนแรงกว่า 3.9 แมกนิจูด กระนั้นไม่พบความเสียหายใดๆ

เดลินิวส์ วันพุธ 31 ธันวาคม 2557 เวลา 11:01 น.

แผ่นดินไหวรุนแรง 5.5 แมกนิจูด นอกชายฝั่งทางเหนือไต้หวัน​

​

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 5.5 แมกนิจูด ในทะเลนอกชายฝั่งเทศมณฑลอี๋หลาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันเมื่อวันพุธ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง วัดได้ 5.5 แมกนิจูด ในทะเลนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน เมื่อเวลา 15.54 น. ตามเวลาท้องถิ่น (14.54 น. ตามเวลาในประเทศไทย) จุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ทะเล 83.1 กม. ห่างชายฝั่งเทศมณฑลอี๋หลานไปทางตะวันออกเแียงใต้ประมาณ 87.5 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย แต่รายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน ระบุว่า แรงไหวสะเทือนรู้สึกได้ชัดเจนในหลายพื้นที่ของไต้หวัน รวมถึงเมืองหลวงกรุงไทเป ซึ่งอาคารสูงจำนวนมากสั่นไหว

ไต้หวันตั้งอยู่ใกล้เขตรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยครั้งรุนแรงสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว วัดแรวงสั่นสะเทือนได้ 6.3 แมกนิจูด มีผู้เสียชีวิต 4 คน และทำให้เกิดดินภูเขาถล่มในหลายพื้นที่ ส่วนแผ่นดินไหว 7.6 แมกนิจูดที่กระหน่ำไต้หวันในเดือน ก.ย. 2542 ทำให้มใีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,400 คน.

เดลินิวส์ วันพุธ 31 ธันวาคม 2557 เวลา 16:19 น.

ฮ่องกงฆ่าไก่หมื่นตัวหลังพบไข้หวัดนก​

​

ทางการฮ่องกงฆ่าทิ้งไก่นับหมื่นตัวในเขตเกาลูน หลังพบไก่ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช7

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเกาะฮ่องกงเขตบริหารพิเศษของจีนเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ว่า ทางการฮ่องกงเริ่มฆ่าทิ้งไก่ 15,000 ตัว ที่ตลาดค้าสัตว์ปีกแห่งหนึ่งเมื่อวันพุธ และระงับการนำเข้าจากตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ หลังพบสัตว์ปีกบางตัวติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก โดยจะปิดตลาด จ่าง ซา วันในเขตเกาลูน และงดนำเข้าเป็นเวลา 21 วัน ไก่บางส่วนมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงในมณฑลกวางตุ้งและนำมาตรวจสอบ พบว่าติดเชื้อหวัดนก เอช7 ซึ่งทางการวิตกอย่างยิ่งในการป้องกันไม่ให้ไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น ระบาด ทำให้ทางการฮ่องกงจะฆ่าทิ้งสัตว์ปีกและระงับการนำเข้าจากจีน

ส่วนเมื่อวันอังคาร ทางการฮ่องกงประกาศว่า จากการตรวจสอบพบสัตว์ปีกบางตัวจากฟาร์มเพาะเลี้ยงในเขตฮุยโจว ในมณฑลกวางตุ้งติดเชื้อไวรัสหวัดนก เอช7 อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาทางการฮ่องกงทำลายสัตว์ปีก 20,000 ตัว หลังไก่จากมณฑลกวางตุ้งติดเชื้อ เอช7เอ็น9

เดลินิวส์ วันพุธ 31 ธันวาคม 2557 เวลา 13:36 น.

ยังพบแค่ 7 ศพเหยื่อแอร์เอเชียคิวแซด 8501​

​

การค้นหาเครื่องบินโดยสารของแอร์เอเชียอินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ที่ตกลงในทะเลชวาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ถึงวันพุธพบผู้เสียชีวิตแค่ 7 ศพ แหล่งข่าวเผยผลการตรวจข้อมูลเรดาร์เบื้องต้น นักบินนำเครื่องไต่ระดับสูงขึ้นอย่างมาก ก่อนเครื่องจะตกดิ่งลงทะเล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ว่า ปฏิบัติการร่วมของหน่วยค้นหาและกู้ภัยนานาชาติ หลังเครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ320 สายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 บรรทุกผู้โดยสาร 155 คน และลูกเรือ 7 คน ตกลงในทะเลชวา ระหว่างเกาะเบลิตุงและเกาะบอร์เนียว หลังออกเดินทางจากเมืองสุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ผ่านมา นายเฮนรี บัมบัง โซลิสต์โย หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการค้นหาและกูภัย เผยในวันนี้ ว่า พบผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แล้ว 7 ศพ โดย 3 ศพพบเมื่อวันอังคาร และอีก 4 ศพในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งรวมถึงแอร์โฮสเตส 1 คน โดยเธออยู่ในชุดเครื่องแบบสีแดงของพนักงานต้อนรับบนเครื่องแอร์เอเชีย ส่วนนายตาตัง ซาอีนูดิน รองหัวหน้าหน่วยฯ กล่าวปฏิเสธรายงานก่อนหน้านี้ ที่ว่า หนึ่งในศพที่พบในวันนี้อยู่ในสภาพสวมเสื้อชูชีพ นายตาตังกล่าวว่า ศพรายนี้พบลอยอยู่บนผิวน้ำเมื่อเวลา 8.20 น. ส่วนเสื้อชูชีพพบลอยอยู่อีกจุด เมื่อเวลา 10.32 น. การค้นหาระงับลงเมื่อมืดค่ำ และจะสานต่อใหม่อีกครั้ง ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้

ส่วน พล.อ.ต.ซูนาร์โบโว ซานดี ผู้ประสานงานการค้นหา ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองปังกาลาน บัน บนเกาะบอร์เนียว กล่าวว่า การค้นหาเครื่องบินและผู้ที่อยู่ในเครื่อง ประสบความยากลำบาก จากฝนตกหนัก คลื่นทะเลแปรปรวน และกระแสลมแรง เศษชิ้นส่วนที่หลุดจากเครื่องหลายชิ้น ถูกคลื่นซัดลอยห่างจากจุดที่คาดว่าเครื่องบินจะจมอยู่ก้นทะเลไปไกลถึง 50 กิโลเมตร การค้นหาล่าสุดประกอบด้วย เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และเรือหลายสิบลำ จากหลายประเทศ

ทางด้านแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่วงการบินอินโดนีเซ๊ย ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อรายหนึ่ง กล่าวว่า จากข้อมูลเรดาร์ที่ผ่านการตรวจสอบ โดยคณะเจ้าหน้าที่สอบสวน ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ทำการไต่ระดับสูงชันขึ้น "อย่างไม่น่าเชื่อ" เกินขีดจำกัดของเครื่องบิน ก่อนที่เครื่องจะพุ่งดิ่งลงสู่ทะเลข้างล่าง โดยข้อมูลดังกล่าวถูกถ่ายทอด ก่อนที่เครื่องบินจะหายไปจากจอภาพของหอควบคุมการบินในกรุงจากการ์ตา เมื่อเช้าวันอาทิตย์ "ตามตัวเลขที่ได้จากข่้อมูลในเรดาร์ เครื่องบินไต่ระดับสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สูงมากเกินไป และดูเหมือนจะสูงเกินขีดจำกัดสมรรถนะของเครื่องบินรุ่นนี้" แหล่งข่าวกล่าว และว่า เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (ซีวีอาร์) ที่มีอายุใช้งาน 6 ปี และเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน หรือ กล่องดำ หากค้นพบ จะเป็นกุญแจสำคัญสุดในการไขปริศนา สาเหตุที่ทำให้ คิวแซด 8501 ตกในครั้งนี้

ในวันนี้ เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียได้นำศพผู้เสียชีวิต 2 ศพแรก จากเที่ยวบิน คิวแซด 8501 ซึ่งยังไม่ระบุชื่อ ใส่โลงเขียนหมายเลข 001 และ 002 ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศ จากเกาะบอร์เนียวไปยังสนามบินเมืองสุราบายา โดยเมื่อไปถึงสนามบิน ญาติพี่น้องของผู้โดยสารและลูกเรือ ที่รอฟังข่าวความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหา ต่างร่ำไห้ระงม แต่เจ้าหน้าที่ได้นำศพขึ้นรถพยาบาล ตรงไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง เพื่อทำการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ก่อนจะประกาศระบุตัวตนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการต่อไป.

เดลินิวส์ วันพุธ 31 ธันวาคม 2557 เวลา 22:20 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th

 

2 จังหวัดร่วมสวดมนต์ข้ามปีแน่นวัด​

​

วัดเมืองกรุงเก่า-สิงห์บุรี เดินทางเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีเป็นจำนวนมาก เฉลิมฉลองปีใหม่แบบไทย และเพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา พระครูสิริชัยมงคลชยธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นประธานฝ่านสงฆ์ นำคณะพระภิกษุ และประชาชนชาว พระนครศรีอยุธยา และนักท่องเที่ยว ร่วมพิธีสวดมนต์ ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เสริมสิริมงคลให้กับชีวิตและครอบครัว ส่วนที่วัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก นอกจากมีการสวดมนต์ข้ามปีแล้วพระเกษมจันทวิมล หรือพระอาจารย์แดงเกจิดัง ยังทำพิธีสวดคาถานะ เศรษฐีของพ่อปู่ชูชก พร้อมลงนะเมตตาและแจกวัตถุมงคลให้แก่ผู้ที่มาร่วมในพิธีอีกด้วย ด้านวัดใหม่บางกะจะ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา มีประชาชนคนหนุ่มคนสาวเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปี พร้อมรับวัตถุมงคลจาก พระครูวัชราภรณ์ธรรมคุณ เจ้าอาวาส พร้อมหมอนสวดมนต์ ซึ่งมีบทสวดสกรีนติดเอาไว้เพื่อนำไปสวดมนต์ก่อนนอนทุกวัน เพื่อความเป็นสิริมงคล

ขณะเดียวกันที่วัดโบสถ์ ต.อินทร์บุรีอ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี คณะสงฆ์ ร่วมกับจังหวัดสิงห์บุรี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ โดยมี นายรังสรรค์ ตันเจริญปลัดจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ท่านเจ้าคุณพระราชวินัยเมธี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี (ธรรมยุต ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน.

เดลินิวส์ วันพุธ 31 ธันวาคม 2557 เวลา 21:25 น.

ชาวพุทธแห่ตักบาตรวันแรกของปี​

​

ประชาชนชาวพุทธหลายพื้นที่ตื่นนอนตั้งแต่เช้า ลูกหลานจูงมือผู้เฒ่าผู้แก่ไปทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ เสริมความเป็นสิริมงคลต้อนรับวันแรกของปีใหม่

หลายจังหวัดตื่นเช้ามาร่วมทำบุญตักบาตรต้องรับวันแรกของปีใหม่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 1 ม.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง และถนนชายกว๊าน ริมกว๊านพะเยา ประชาชนและนักท่องเที่ยวกว่า 1,000 คน มาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 88 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี นายชูชาติ กีฬาแปง ผวจ.พะเยา เป็นประธาน ก่อนที่ พระเทพญาณเวที เจ้าอาวาสวัดศรีอุโมงค์คำ(วัดสูง) เจ้าคณะจังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นประธานสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมอวยพรปีใหม่ให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ

ด้าน ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผวจ.สุพรรณบุรี นายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี นำชาวพุทธตักบาตรข้าวสารแห้งแด่พระสงฆ์ บริเวณถนนหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี พร้อมทั้งขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้พระองค์ทรงหายจาก พระอาการประชวร สร้างความอิ่มเอมสุขใจเป็นอย่างมาก

เช่นเดียวกับที่ สนามกีฬากลางเทศบาลนครตรังอ.เมืองจ.ตรัง นายชวนหลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผวจ.ตรัง นำญาติโยมนับพันชีวิตทำบุญตักยาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ 125 รูป ก่อนที่ พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ จะให้ศีลให้พร และรดน้ำพระพุทธมนต์

ส่วน จ.สุราษฎร์ธานี นายไพบูลย์ โอมาก นายอำเภอเกาะสมุย และหัวหน้าส่วนราชการ ก็ตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ที่ท่าเทียบเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย โดยมีบรรดาลูกหลานต่างจูงมือพ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ มาร่วมทำบุญด้วยความอบอุ่นสมเป็นวันครอบครัว โดยมี พระมงคลทีปาจารย์ เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ได้เทศนาให้พรแก่ญาติโยม เพื่อให้สิ่งเลวร้ายผ่านพ้นไป

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 1 มกราคม 2558 เวลา 11:31 น.

แห่รับแสงแรกที่ผาแต้ม-เชียงคาน​

​

ประชาชนกว่า 20,000 คน พากันไปรอรับแสงแรกอรุณศักราชใหม่ 2558 ที่ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่เช้าตรู่ เช่นเดียวกับ เชียงคาน จ.เลย นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสแสงแรก-ทะเลหมอก แน่น

เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปฉลองส่งท้ายปีเก่า กว่า 20,000 คน ได้พากันเดินไปยังบริเวณลานหินผาแต้มตั้งแต่เวลา 04.00 น. เพื่อจับจองที่นั่งรอรับชมความงามของแสงแรกของปีใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลกับตนเองในการเริ่มชีวิตในปีใหม่นี้ ซึ่งพระอาทิตย์แรกได้พ้นเหลื่อมเขาฝั่ง สปป.ลาว เวลา 06.20 น. จากนั้นได้มีการร่วมกันปล่อยลูโป่งสวรรค์ จำนวน 2558 ลูก เพื่อเป็นการส่งทุกข์โศก และความวุ่นวายของประเทศไปพร้อมกับปีเก่า ซึ่งหลังจากที่ทุกคนได้รับแสงแรกของอรุณกันอย่างเต็มที่แล้ว ก็ได้ไปทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์จำนวน 99 รูป ซึ่งทาง อบจ.อุบลราชานี เจ้าภาพจัดงานได้นิมนต์ขึ้นไปรับบาตรจากประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ด้วย

ที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวได้พาครอบครัวมาท่องเที่ยวเมืองเชียงคาน นับหมื่นคน เพื่อสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น และสัมผัสแสงแรกของปีใหม่ นอกจากจะได้ตักบาตรข้าวเหนียวที่บริเวณถนนคนเดินแล้ว ยังได้พากันแห่ขึ้นสัมผัสทะเลหมอกบนยอดภูทอก ซึ่งได้พากันเก็บภาพความประทับใจไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น 15 องศาฯ ขณะที่อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ภูหลวง 6 องศาฯ.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 1 มกราคม 2558 เวลา 10:40 น.

ไทยเหนือหนาวสะท้านใต้คลื่นลมแรง​

​

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยไทยตอนบนอุณหภูมิลดอีก 2-4 องศา กับมีลมแรง จากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังแรง ระลอกใหม่ ส่วนภาคใต้ตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นลมแรง จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เตือนชาวเรือควรระมัดระวัง

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 1 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. 2558 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส และบริเวณยอดเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ม.ค. ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 1 มกราคม 2558 เวลา 07:43 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th

 

ชุมนุม"โหร"ส่องกล้อง สำรวจดวงเมืองปี 2558​

ภิญโญ พงศ์เจริญ, อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา
หมอลักษณ์ เรขานิเทศ, นงลักษณ์ ศุภผล​

สำหรับคนไทยแล้ว ในเรื่องดวงบ้านดวงเมืองจนถึงดวงบุคคล บางคนเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง และเชื่อสนิทใจก็มีเช่นกัน แต่บางคนขอความรู้เพื่อประดับสมอง สำหรับในปีหน้าหรืออีก 12 เดือนนับจากนี้ จะมีอะไรขึ้นอีก จะดีหรือร้าย เราลองมาฟังการหยั่งรู้ฟ้าดินที่อาศัยหลักของโหราศาสตร์ การดูดวงดาวหลายดวงที่มีส่วนเชื่อมโยงกับโลก เหล่าโหรชื่อดังคับฟ้าเมืองไทยจะพยากรณ์ดวงเมือง 2558 เป็นอย่างไร ต้องติดตาม....

ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ พยากรณ์ถึงดวงเมืองไทยปี 2558 ว่า มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองทั้งด้านดีและร้าย ขอกล่าวถึงด้านดีก่อน ว่าดาวพฤหัสบดีเป็นตัวแทนของเรื่องการศึกษา การศาสนา การแพทย์ และกฎหมาย จะโคจรอยู่ราศีกรกฎในครึ่งปีแรก ตั้งแต่ต้นปีถึง 11 กรกฎาคม ถือเป็นภพที่ดีอันจะให้คุณในการพัฒนา ปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ แต่อาจจะมีปัญหาบ้าง เนื่องจากดาวพฤหัสบดีบางช่วงจะโคจรถอยหลัง บางเรื่องที่ทำๆ มาอาจจะต้องทบทวนกัน ในปี 2558 กฎหมายที่ไม่เคยมีก็จะมี ส่วนที่ล้าสมัยจะมีการปรับปรุง โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินหลักทรัพย์ ความเท่าเทียมกันของบุรุษ-สตรีจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้เท่าเทียมกัน โดยไม่ได้อยู่ในหนังสืออย่างเดียว แต่จะได้รับการพัฒนา

"ตอนปลายปี 2558 ดาวพฤหัสบดีที่เป็นตัวแทนฝ่ายเทพจะโคจรสวนกับราหูที่เป็นตัวแทนฝ่ายมารตรงราศีกันย์ เป็นภพที่ 6 ของดวงเมือง ชื่อว่า อริ แปลว่าอุปสรรค ราหูเป็นเจ้าเรือนที่ 11 หมายถึงรัฐสภา เกิดขึ้นหนึ่งครั้ง และเกิดอีกครั้งตอนต้นปี และกลางปี 2559 รวม 3 ครั้ง ราหูจะมีอิทธิพลอยู่ในภพที่ 6 ถ้าเลือกตั้งเร็วนักการเมืองฝ่ายราหู ผู้มีอิทธิพล ผู้ประกอบอาชีพสีเทาจะเข้ามามีบทบาทมาก ถ้าเลือกตั้งช้าหน่อยสักกลางปีถึงปลายปี 2559 ดาวพฤหัสบดีจะมีอิทธิพลมากกว่าราหู จะทำให้คนเปรียบเทียบและเห็นว่าควรเลือกใคร

"มันเป็นโอกาสที่จะปฏิรูป โอกาสอย่างนี้หาไม่ได้ที่ดาวพฤหัสบดีกับราหูอยู่อย่างนี้ อย่าปล่อยให้เสีย ดังนั้น ควรใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูป สร้างประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง" ภิญโญกล่าว

ภิญโญยังพยากรณ์ด้านเศรษฐกิจว่า "ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะราหูอยู่ราศีกันย์เล็งกับดาวศุกร์อยู่ราศีมีน เป็นตัวแทนเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ภาพของดวงดาวในปี 2558 ต่อ 2559 กับปี 2539 ต่อ 2540 มีลีลาที่คล้ายคลึงกัน ราหูอยู่ในตำแหน่งเดิม ในปี 2539-2540 ดาวเสาร์อยู่ราศีมีนทับดาวศุกร์ ดาวมฤตยูอยู่ราศีมังกร แต่ปี 2558-2559 ดาวเสาร์อยู่ราศีพิจิก ดาวมฤตยูอยู่ราศีมีนทับดาวศุกร์ ต้องระวังปัญหาเศรษฐกิจที่อาจคาดไม่ถึง ในครั้งนี้ปัญหาอาจซึมลึก ครัวเรือนได้รับผลกระทบ ดังนั้น รัฐบาลต้องดูแลความเป็นอยู่เรื่องปากท้องของประชาชน เกษตรกรด้วย"

โหรภิญโญแนะนำว่า "แม้มีราหูเข้า ประชาชนต้องใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ไม่ฟุ้งเฟ้อ เริ่มเตรียมตัวแต่บัดนี้ เพราะอดีตเป็นรากฐานของปัจจุบัน ปัจจุบันรากฐานของอนาคต อนาคตใกล้ๆ เป็นรากฐานของอนาคตไกลๆ"

อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา โหราศาสตร์ชื่อดังอีกคน พยากรณ์ถึงภาพรวมดวงเมือง และเหตุการณ์ที่ควรระมัดระวังในปี 2558 ว่า ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน จะเกิดความรุนแรง เป็นลักษณะความปั่นป่วนทั่วโลก ส่วนไทยก็ได้รับผลโดยตรง จะมีเหตุการณ์สะเทือนขวัญหลายอย่าง เนื่องจากดวงเมืองขนาบด้วยราหูอยู่ภพศัตรู ดาวเสาร์อยู่ภพมรณะ ซึ่งคือความสูญเสีย

"ในช่วงรอยต่อสิ้นสุดปี 2558-2559 ดาวมฤตยูครอบดวงโลก อาจเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 สงครามนิวเคลียร์ เชื้อโรค คนตายเป็นแสน ส่วนประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน"

เมื่ออาจมีเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น โหรอรรถวิโรจน์แนะนำการรับมือว่า ตามหลักโหราศาสตร์อยู่ที่การปฏิบัติ การกระทำที่ไม่ปล่อยตามยถากรรม อยู่ที่ตัวเราจะต้องฟังข่าว ฟังหมอดูประกอบกัน และระมัดระวังตัวไว้ ในด้านความเป็นอยู่ของประชาชนควรเน้นเกษตรกรรม ปลูกพืชผักที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อลดราคาอาหาร เมื่อวัตถุดิบราคาถูกลง ส่วนรัฐบาลควรสนับสนุนการเกษตรกรรมด้วย เมื่อเรารู้ดวงว่าไม่ดีก็แก้ไป

หมอลักษณ์ เรขานิเทศ (หมอลักษณ์ฟันธง) บอกถึงดวงเมืองปี 2558 ว่า สถานการณ์ในปีใหม่เหมือนสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้าวยากหมากแพง ก็คือดวงเมืองเกิดราศีเมษ แต่สิ่งเลวร้ายสุดสุดผ่านไปแล้ว แต่มีสิ่งที่แก้ได้อย่างหนึ่งคือความสามัคคี ที่ผ่านมาถือว่าคนไทยขาดความสามัคคีอย่างรุนแรง แบ่งพรรคแบ่งพวกกันมา ปัจจุบันจะไม่ชัดเจนเรื่องความสงบ อย่างไรก็ดี ทิศทางไปในทางที่ดี ประเทศไทยวางพระจันทร์ไว้เป็นเกษตร หากประชาชนมีความสามัคคีก็จะทำให้ประเทศไทยมุ่งไปในทางที่ดี ทางที่ไม่ดีเกิดจากภัยธรรมชาติคงแก้ยาก แต่ภัยร้ายที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ แก้ได้

ที่บอกว่าปีหน้าจะมีวิกฤตคล้ายสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ใช่สงครามสู้รบกัน เป็นสงครามทางเศรษฐกิจ พอเข้าประชาคมอาเซียนก็จะมีการเคลื่อนไหวทางพลเมืองได้ง่าย ทุนต่างชาติก็จะมาโจมตีด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ตอนนี้เราเปิดกฎระเบียบให้ต่างชาติเข้ามาได้โดยสะดวก ซึ่งดูจากดวงเมืองแล้วจะเกิดเหตุการณ์การเคลื่อนย้ายเงินทุน เรื่องดีก็จะเกิดขึ้นคือเกิดเศรษฐีใหม่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

คนที่ขยันเท่านั้นที่จะดำเนินชีวิตไปได้อย่างสบาย คนที่หวาดกลัวไม่กล้าทำอะไร ภาวะเศรษฐกิจก็จะชะลออยู่ คนมีเงินจะหยุด แต่ขณะเดียวกันก็จะเกิดคนรุ่นใหม่คนยุคใหม่ ประเด็นสำคัญ สิ่งไม่ดีได้ผ่านจุดนั้นไปแล้ว ดูจากดาวพฤหัสโคจรเข้าอยู่ในราศีกรกฎ ประมาณวันที่ 24 ธันวาคม 2557 เป็นมหาอุตม์ ซึ่งจะมีผลประโยชน์รายได้ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย หมอลักษณ์บอกว่า "หลักง่ายๆ ในการดำรงชีวิต ในปี 2558 ก็คือคนไทยต้องรู้รักสามัคคี ต้องเร่งสร้างกุศล ใครขยันจะไม่จน"

นงลักษณ์ ศุภผล อุปนายกและกรรมการบริหารสมาคม โหราศาสตร์นานาชาติ บอกว่า โดยภาพรวมในปีนี้ ดาวที่มีอิทธิพลต่อดวงเมืองเป็นพิเศษ คือ มฤตยู (0) เทพเจ้าแห่งภัยอาเพศ เป็นการโคจร มณฑ์ ย้ายราศีมีน มากุมลัคนาดวงเมืองไทยในราศีเมษ วันที่ 4 กรกฎาคม จนถึง 7 กันยายน 2558 เป็นดวงโคจรพักร์ย้ายราศีกลับเข้าสู่ราศีมีนอีกครั้ง

อิทธิพลของมฤตยู (0) ในราศีเมษ จะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดการปฏิรูปครั้งสำคัญมากมายหลายด้าน ลึกลับ ซับซ้อน พิสดาร เกินกว่าที่จะกล่าว รัฐบาลจะถูกโจมตีไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล เศรษฐกิจ สังคม การปกครอง การเมือง เกิดความวุ่นวายรูปแบบการโคจรของดาวตรีเทพ 3 องค์ พฤหัสบดี (5) ดาวเสาร์ (7) และ ราหู (8) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทงลัคนา และดาวอาทิตย์ (1) เป็นตนุเศษดวงเมือง

หลังจากนั้น มฤตยู (0) โคจรพักร์ (ถอยหลัง) ราศีสู่ราศีมีน 7 กันยายน 2558 ส่งผลเกิดรูปแบบตรีโกณกับอังคาร (3) จนในกรกฎและเสาร์ (7) ในพิจิกทั้งหมดสถิตในธาตุน้ำ ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายช่วงกรกฎาคมจนถึงสิงหาคม ถึงสงบลงแต่จะเกิดภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว สึนามิจะเกิดแบบฉับพลัน ทันใจ ไร้เค้าลางมาก่อน อากาศตามมฤตยู (0)

และดาวพระเสาร์ (7) เข้าภพเสียมรณะ จะเกิดความสูญเสียในผู้สูงวัย ประชาชนตกงาน อุตสาหกรรมหนักต่างๆ ป่วน อภิมหาโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ รถไฟ คนใช้แรงงาน ประชาชนป่วยมาก ข้าวของแพง ธุรกิจโรงแรม อสังหาฯ ถ่านหิน น้ำมัน ทรัพยากรธรรมชาติ จะเกิดตกต่ำอย่างรุนแรง ช่วงวันที่ 1 มกราคม จนถึง 21 เมษายน ดาวพฤหัสบดี (5) เป็นกาลกิณีจร ส่งผลดีปนเสีย แต่ผ่านไปได้ วันที่ 11 กรกฎาคม ดาวพฤหัสบดี (5) เป็นมนตรีจร ย้ายเข้าสู่ราศีสิงห์ ภพที่ 5 การพัฒนาบ้านเมือง จะมีคนดีเข้ามาเสนอตัวเข้ามาช่วย

ช่วงท้ายปีจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในราศีกันย์ เพราะว่าดาวพฤหัสบดี (5) เป็นมนตรีจร มณฑ์ เข้าสู่ราศีกันย์ในวันที่ 15 ธันวาคม 2558 จะปะทะกับราหู (8) เป็นกาลกิณีจร จะทับกันสนิทในวันที่ 28-29 ธันวาคม 2558 ครั้งสำคัญ ของสองดาวตรีเทพ รัฐบาลสั่นคลอนอย่างรุนแรง ปัญหาเกิดแบบเปิดเผย และไม่เปิดเผย ช่วงชิงกันสุดท้ายก็จะผ่านไปได้

ดวงโลก ลัคนาอยู่ที่เดียวกับดวงเมืองไทย เกิดปัญหาวุ่นวายเช่นกัน เงินตราปั่นป่วนหนัก หลายประเทศเกิดความไม่สงบ เสี่ยงต่อการเกิดสงครามโลก บางประเทศยังไม่มีความพร้อม อิทธิพลของมฤตยู (0) ปัญหา พลังงาน การทดลองขีปนาวุธใหม่ๆ ปัญหาโลกร้อน แร่ธาตุ น้ำมัน ทองคำ เหล็กโลหะ เกิดสภาวะตกต่ำ การลงทุนมีการช่วงชิงการได้เปรียบเสียเปรียบ ยังเป็นปีแพะที่เหน็ดเหนื่อย

ทั้งหมดเป็นการวิเคราะห์ตามหลักของดวงดาว เพื่อเตรียมรับมือในปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่ประมาท

มติชนรายวัน 31 ธ.ค.2557

ที่มา www.matichon.co.th

 

'ปูติน' รุกฆาตทองคำ​

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=qOzg0nQe1U0[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 1 ธ.ค. 2014​

 

ขนทองกลับบ้าน​

เผยแพร่เมื่อ 22 ธ.ค. 2014​

 

ตัดเวรหยุดกรรม อ.เจน ญาณทิพย์​

เผยแพร่เมื่อ 23 ธ.ค. 2014​

 

บอก 9 เล่าสิบ หมอปลาย​

เผยแพร่เมื่อ 29 ธ.ค. 2014​

 

ฝนตกหนักศรีลังกาน้ำท่วมดินโคลนถล่ม​

​

ฝนตกหนักทำให้น้ำเอ่อท่วมภาคกลางศรีลังกา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย อพยพจากบ้านเรือนกว่า 1 ล้านคน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่า ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมหลากฉับพลัน และดินโคลนภูเขาถล่ม ทางภาคกลางของศรีลังกา ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย บาดเจ็บ 20 คน และ 2 คนสูญหาย ทางการต้องอพยพประชาชนออกพ้นพื้นที่เสี่ยงกว่า 1 ล้านคน

แถลงการณ์ของศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติศรีลังกา ระบุว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ จังหวัดนอร์ธ เซ็นทรัล และจังหวัดอีสเทิร์น ซึ่งพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายหลายหมื่นไร่

เมื่อเดือน ต.ค. ฝนตกหนักทำให้ดินโคลนภูเขาถล่ม ฝังกลบหมู่บ้านเกษตรกรปลูกชาบนไหล่เขา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ศพ สูญหายกว่า 100 คน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีหลังสุด ฤดูมรสุมระหว่างเดือน ต.ค. - ม.ค. มีแนวโน้มฝนตกหนักมากกว่าช่วงเดือน มี.ค. - พ.ค.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 01:54 น.

'ฟิลิปปินส์'ฉลองปีใหม่ดุ เพลิงไหม้ตาย-เจ็บระนาว​

​

การจุดประทัด พลุไฟดอกไม้เพลิง และยิงปืนเพื่อฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ 14 แห่งทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ว่า บรรยากาศการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ของชาวฟิลิปปินส์ เป็นไปอย่างครึกครื้นสนุกสนานไม่แพ้ที่อื่นๆ ของโลก และดูเหมือนจะสนุกดุเดือดเกินเหตุ เมื่อการจุดประทัด พลุไฟดอกไม้เพลิง และยิงปืนขึ้นฟ้าสนั่นหวั่นไหว ทำให้พลุไฟตกใส่บ้านเรือนประชาชน เกิดเพลิงไหม้ 14 แห่ง รวมถึงย่านชุมชนแออัดในเกซอนซิตี ทางเหนือของกรุงมะนิลา ซึ่งเพลิงเผาผลาญบ้านเรือนกลุ่มคนรายได้น้อยจนวอดประมาณ 200 หลังคาเรือน ประชาชนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยทันทีกว่า 4,000 คน

นายเรนาโต มาร์เซียล โฆษกสำนักงานป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติฟิลิปปินส์ เผยว่า ได้รับรายงานเพลิงไหม้จากการฉลองปีใหม่ทั่วประเทศ 14 แห่ง โดย 2 แห่งในจำนวนนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ

ทางด้านนางเจเนต การิน รัฐมนตรีสาธารณสุข เผยว่า การจุดประทัด พลุไฟ และยิงปืนฉลอง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 354 คนในปีนี้ โดย 351 คนบาดเจ็บจากประทัดและพลุไฟ ส่วนอีก 3 คนจากกระสุนลูกหลง ผู้บาดเจ็บ 14 คนรวมถึงเด็กชายวัย 5 ขวบ ต้องเข้ารับการผ่าตัดแขนหรือขาทิ้ง โดยตัวเลขของผู้ที่กลายเป็นผู้พิการเสียแขนขาปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึงมีทั้งหมด 8 ราย

นางการิน กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามรณรงค์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง ในการจุดพประทัด พลุไฟ หรือยิงปืน ในการฉลอง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร งานฉลองปีใหม่ปีที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 793 คน.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 1 มกราคม 2558 เวลา 18:59 น.

ปี 2557 สงครามกลางเมืองซีเรียนองเลือดสุด​

​

ตลอดปี 2557 สงครามกลางเมืองซีเรียมีผู้สังเวยชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งเกือบ 4 ปี โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 76,000 คน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 76,000 ศพ จากการสู้รบในซีเรียตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นปีที่นองเลือดที่สุด นับตั้งแต่เริ่มเกิดความขัดแย้งเมื่อเดือน มี.ค. 2554 จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบในปัจจุบัน โดยรายงานของศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า ตลอดปี 2557 มีผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในซีเรีย 76,021 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 17,790 คน รวมถึงเด็ก 3,501 คน

รายงานระบุอีกว่า ตลอดปีที่ผ่านมา กองกำลังความมั่นคงรัฐบาลซีเรีย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือนอาสาสมัคร เสียชีวิตอย่างน้อย 22,627 คน นักรบกลุ่มกบฏหลายกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เสียชีวิตมากกว่า 15,000 คน ส่วนกลุ่มนักรบสงครามศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรวมถึง กลุ่มไอเอส กลุ่มแนวร่วมอัล-นุสรา และแนวร่วมกลุ่ม อัล-กออิดะห์ เสียชีวิตรวมกันเกือบ 17,000 คน

ตัวเลขผู้เสียชีวิตในปี 2556 อยู่ที่ 73,447 คน ปี 2555 เสียชีวิต 49,294 คน และ 7,841 คนในปี 2554 สรุปรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตในสงครามซีเรียกว่า 200,000 คน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2554 จนถึงสิ้นปี 2557.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 02:46 น.

ปีที่แล้วเหตุรุนแรงคร่าชีวิตชาวอิรักกว่า 15,000 ศพ​

​

รัฐบาลอิรักเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในประเทศตลอดทั้งปี 2557 อยู่ที่ 15,538 ศพ สูงที่สุดในรอบ 7 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่าสถิติของรัฐบาลอิรักเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงทั่วประเทศในปี 2557 ซึ่งเป็นการจัดทำร่วมกันโดยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหม เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี สรุปผู้เสียชีวิตเอาไว้ที่ 15,538 ศพ สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 และเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากสถิติเมื่อปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 6,522 ศพเท่านั้น ขณะที่จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 22,000 คน

แม้รายงานของรัฐบาลแบกแดดจะไม่ได้จำแนกจำนวนพลเรือนกับทหารออกมาอย่างชัดเจน แต่ข้อมูลของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เผยตลอดทั้งปีที่แล้วมีพลเรือนชาวอิรักเสียชีวิตจากเหตุรุนแรง 12,282 ศพ ขณะที่สถิติของ "อิรัก บอดี้ คอร์ท" หน่วยงานอิสระติดตามความเคลื่อนไหวในอิรัก ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกรุงลอนดอน เผยตัวเลขการเสียชีวิตของพลเรือนสูงกว่าหลายเท่า คือ 17,073 ศพ มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546

ทั้งนี้ อิรักเป็นหนึ่งในประเทศที่ยังคงสูญเสียพื้นที่บางส่วนทางตอนเหนือให้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ที่ประกาศควบรวมพื้นที่บางส่วนทางเหนือของซีเรียเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ( เอสโอเอชอาร์ ) สรุปจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองในซีเรียตลอดทั้งปีที่แล้วเอาไว้ที่ 76,021 ศพ ในจำนวนนี้ราว 17,800 ศพเป็นพลเรือน มากที่สุดนับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อปี 2554

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 11:25 น.

ฮ.ตำรวจมาเลย์ตกช่วยเหลือน้ำท่วมภาคเหนือ​

​

เฮลิคอปเตอร์ตำรวจมาเลเซียตก ในรัฐกลันตันเมื่อกลางดึกคืนวันพุธ ขณะออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมทางภาคเหนือใกล้เขตแดนไทย ลูกเรือบาดเจ็บ 4 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ว่า เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจมาเลเซีย ประสบอุบัติเหตุตกในป่าลึก เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันพุธ ในเขตเมืองตานาห์ เมราห์ รัฐกลันตัน ใกล้เขตแดนไทย ขณะลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในรอบหลายสิบปี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้นักบินและผู้ที่อยู่บนเครื่องได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ไม่มีผู้เสียชีวิต

นายมาซลัน ลาซิม ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 4 นายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมือง แต่นายหนึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว แม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ตำรวจจะเดินหน้าร่วมภารกิจส่งสิ่งของช่วยเหลือทางอากาศต่อไป เนื่องจากหลายพื้นที่ถนนถูกตัดขาด หรือสะพานถูกกระแสน้ำซัดพังชำรุด ความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงโดยทางบกได้

จากภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมหลากฉับพลัน ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักหลายสายเอ่อล้นฝั่ง เกิดอุทกภัยครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปีของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ รายงานระบุมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย ประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อหนีน้ำกว่า 167,000 คน.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 1 มกราคม 2558 เวลา 19:51 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

จักรยานพ่วงแบบต่างๆ​

(ดูไว้เป็นไอเดียเพื่อนำมาดัดแปลงไว้ใช้ประโยชน์)​

 

กังหันลม-จักรยานผลิตไฟฟ้า​

 

คุณเกษม ขอขอบคุณสิ่งที่มาลง ผมเห็นเรื่องจักรยานแล้วน่าสนใจ น้ำมันหายากแน่และมอเตอร์ไชต์ััเล็กและดัดแปลงให้บรรทุกคน1-2หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมากขึ้นมาหน่อยในการเดินทางระยะไกลประมาณ100-200กม. ใช้แทนรถเพราะคนมีรายได้น้อยเข้าไม่ถึงอยู่แล้ว แต่จะให้ดีแนะนำร้านที่สร้างหรือผู้มีใจรัก คนผู้สร้างที่มีใจรัก ที่ชอบคิดประดิษฐ์สิ่งเหล่านี้ให้ด้วยในประเทศไทย กทม. เห็นแต่คนประเทศจีนชอบทำเช่นเรือดำน้ำเล็ก,เครื่องบินถึงยังบินไม่ได้แต่ก็ทำ,ม้า คนลากรถ แต่อยู่ต่างประเทศไปหาไม่ได้ เคยได้ยินมาคนหนึ่งชอบทำประดิษฐอยู่ จ.ชลบุรี
ภรรยาเขาเป็นครู ส่วนตัวเขาเป็นร้านรับซื้อของเก่าเอาสิ่งของมาประดิษฐ์ ถ้าพวกเรารู้ที่ไปติดต่อให้ทำก็อาจจะได้สิ่งต้องการราคาก็อาจจะไม่แพงก็ได้(เอาไว้ใช้ขนของการเกษตรในป่าในไร่ก่อนก็ได้)หรือใครคนอื่นๆที่รู้จักแนะนำคนใจรักสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆบ้าง

 

Deep impact​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=VNtsVP42bOE"]YouTube[/ame]

พ่วงท้ายจักรยาน คนไทยที่ทำขายก็คงหาได้ไม่ยากครับ ผมเข้าไปค้นดูในยูทูปก็มีคนไทยที่ทำได้แล้ว ส่วนพ่วงข้างมอเตอร์ไซต์ ก็มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปครับ จักรยานจะมีประโยชน์มากในยามที่เกิดภัยพิบัติ เพราะคนๆหนึ่งจะแบบเป้สัมภาระได้ก็คงไม่เกิน 30-40 กิโลกรัม แต่ถ้าใช้จักรยานก็จะสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 100-200 กิโลกรัม และเดินทางได้ไกลกว่าเดินด้วยเท้ามากเลยครับ

ถ้าใครได้เคยดูหนังเรื่อง Deep impact ก็คงเข้าใจดีว่าเมื่อยามเกิดภัยพิบัติ คนจะแห่กันใช้ถนนจนรถติดกันยาวเหยียด ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย แต่คนที่มีมอเตอร์ไซต์หรือจักรยาน จะสามารถหนีภัยไปได้ทันเวลาครับ

 

ฉลามป่วนชายหาดออสเตรเลีย​

​

ทางการออสเตรเลียสั่งปิดหาดบอนไดในเมืองซิดนีย์ชั่วคราว หลังพบฉลามเข้ามาเพ่นพ่านใกล้ชายฝั่ง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่า บรรดานักว่ายน้ำหลายร้อยคน ถูกสั่งให้ขึ้นหาดและปิดชายหาดบอนไดในเมืองซิดนีย์ชั่วคราวเมื่อวันศุกร์ หลังมีคนพบเห็นฉลาม ทำให้เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดต้องออกค้นหา จนกระทั่งฉลามว่ายน้ำออกห่างจากชายฝั่ง ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์บอกว่า ฉลามตัวนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งราว 150 เมตร โดยมองเห็นได้จากเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ

นายแอนโทนีคาร์โรลล์ ไลฟ์การ์ดประจำชายหาดบอนไดกล่าวว่า ในอ่าวแห่งนี้ มีปลามากมายรวมทั้งฉลาม อย่างไรก็ตามเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้วนักว่ายน้ำจำนวนมาก เคยถูกสั่งให้ขึ้นฝั่งหลังพบฉลามเข้ามาป้วนเปี้ยนใกล้เขตที่คนกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นฉลามขาวยักษ์ที่หลุดพ้นตาข่ายที่ดักสัตว์ไม่ให้เข้ามาทำร้ายนักว่ายน้ำ ทั้งนี้ ชายหาดทั่วซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์มีการวางตาข่ายบางจุดมาตั้งแต่ปี 2480 โดยตาข่ายไม่ได้ครอบคลุมความยาวทั้งหมดของชายหาดบอนได เพียงแต่วางตาข่ายกั้นระหว่างคนกับฉลาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายล่วงล้ำเข้ามาในบริเวณที่มีคน

เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เด็กชายวัย 17 ปี เสียชีวิตเพราะถูกฉลามกัดขานอกชายหาดทางตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าฉลามโจมตีคนมากขึ้น เนื่องจากกีฬาทางน้ำกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 14:19 น.

ผู้เชี่ยวชาญชี้กัปตันนำแอร์เอเชียลงจอดบนน้ำแต่ถูกคลื่นซัด​

​

ผู้เชี่ยวชาญชี้กัปตันเครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 อาจนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินบนผิวน้ำทะเลเพื่อเลี่ยงพายุ แต่ต้องเผชิญคลื่นสูงจนทำให้เครื่องจม

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์มาเลเซีย “เดอะ สตาร์” รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ว่า ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบินชี้ นายไอริยันโต กัปตันของเครื่องบินแอร์เอเชีย รุ่นแอร์บัส 320-200 เที่ยวบิน คิวแซด 8501 อาจนำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินบนผิวน้ำทะเล ทำให้ส่วนลำตัวเครื่องบินไม่ได้รับความเสียหายแต่ท้ายที่สุดกลับถูกคลื่นสูงซัดจนเครื่องจมแทน

นายดูดี ซูดิเบียว บรรณาธิการอาวุโสนิตยสารการบิน “อังกาซ่า” ได้แสดงความเห็นว่า ระบบส่งสัญญาณฉุกเฉินเพื่อแจ้งตำแหน่งเครื่องตก (อีแอลที) จะต้องส่งสัญญาณ หากเครื่องตกกระทบปะทะกับแผ่นดิน พื้นน้ำหรือภูเขา แต่ในเหตุการณ์นี้ระบบดังกล่าวไม่ทำงานแสดงว่า นักบินอาจเป็นผู้นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินบนผิวน้ำเอง ทำให้แรงปะทะที่เกิดมีไม่มากพอที่จะทำให้ระบบทำการส่งสัญญาณ

เครื่องบินลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 162 คน ตกลงในทะเลชวาจากความสูง 32,000 ฟุต ขณะมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. เมื่อกัปตันส่งสัญญาณขอไต่ระดับความสูงเพื่อเลี่ยงพายุ เขาได้รับอนุญาตให้เบี่ยงออกไปทางซ้าย แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไต่ระดับความสูงโดยทันที เนื่องจากการจราจรทางอากาศหนาแน่น หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินก็หายไปจากจอเรดาร์

ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดเดาว่า สาเหตุอุบัติเหตุบางส่วน เกิดจากการสูญเสียความเร็วหรือการเชิดหัวทะยานขึ้นสู่ความสูงที่ชันเกินไป ทั้งนี้ นายแชบบี้ ฮาคิม อดีตผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซีย เผยว่า เครื่องบินไม่ได้มีการระเบิดกลางอากาศอย่างแน่นอน รวมทั้งไม่ได้เกิดแรงปะทะมากมายเมื่อตกลงสู่พื้นน้ำ เนื่องจากศพที่พบนั้น ไม่ได้รับความเสียหาย และส่วนลำตัวเครื่องบินก็ยังคงสภาพรูปร่างเดิมไว้ได้ จนสามารถมองลงมาจากที่สูงแล้วเห็นชัดเจนว่า เครื่องบินตกอยู่บริเวณใด

นอกจากนี้ นายจัสมาน ไซอาฟี ดีจามาล อดีตรัฐมนตรีขนส่งยังกล่าวว่า ประตูฉุกเฉินและเบาะสไลด์ของเครื่องบินก็เป็นชิ้นส่วนแรกๆ ที่หน่วยกู้ภัยพบ จึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า กำลังมีการอพยพผู้โดยสาร และพวกเขากำลังรอให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องกางแพช่วยชีวิตอยู่ แต่ระดับคลื่นที่สูงและรุนแรงได้พัดพาให้เครื่องบินจมลงสู่ทะเลในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายก็ยังต้องรอกล่องดำบันทึกการบินที่จะมาเฉลยปริศนาทุกอย่างอีกที

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 15:02 น.

เผยเหยื่อแอร์เอเชียยังนั่งติดอยู่กับเก้าอี้​

​

หลังค้นหานานเกือบ 1 สัปดาห์ สำหรับผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโดยสารแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องผจญกับคลื่นลมแรงในทะเลในช่วงฤดูมรสุม แต่ก็พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 30 ศพแล้ว บางศพยังนั่งติดอยู่กับเก้าอี้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองปังกาลันบัง ประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่าหลังค้นหามานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว เพื่อค้นหาศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารแบบแอร์บัส เอ320-200 ของสายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด8501จากเส้นทางบินเมืองสุราบายาประเทศอินโดนีเซียมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมาพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องรวม 162 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องผจญกับคลื่นลมแรงในทะเลชวา ในช่วงฤดูมรสุมแต่ก็ประสบผลสำเร็จเมื่อสามารถกู้ศพขึ้นมาได้อีก 21 ศพ ในวันเดียวส่วนใหญ่โดยเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐ รวมเป็นทั้งหมด 30 ศพแล้ว

เครื่องบินโดยสารของแอร์เอเชีย ประสบอุบัติเหตุตกบนเส้นทางบินที่ผ่านมาครึ่งทาง แต่ช่วงเวลาไม่กี่นาทีก่อนที่จะขาดการติดต่อนั้น นักบินได้แจ้งหอบังคับการบินว่ากำลังเผชิญกับกลุ่มเมฆ จึงขออนุญาตไต่ระดับความสูงขึ้นไปแต่ถูกปฏิเสธ เพราะสภาพอากาศจราจรแออัด จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินตก

น.อ.ยายานโซฟิพาน ผู้บังคับการเรือบังโทโม ของกองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยว่า 5 ศพ ที่ลูกเรือของเขาช่วยเหลือขึ้นมาได้นั้น ยังนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่กับเก้าอี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคาดว่าจะยังมีอีกหลายศพ ที่ติดอยู่ในซากเครื่องบินซึ่งยังไม่รู้ตำแหน่ง

หลายประเทศเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหา โดยใช้อุปกรณ์โซนาร์อันนำสมัยและตรวจจับโลหะกวาดจับวัตถุทุกอย่างใต้พื้นทะเล เพื่อค้นหาซากเครื่องบินและที่สำคัญคือกล่องดำ หรือเครื่องบันทึกข้อมูลการบินซึ่งจะเป็นตัวไขปริศนาสาเหตุของเครื่องบินตกในครั้งนี้

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 20:42 น.

ฝูงบินรบสหรัฐ-พันธมิตร ถล่มหนักไอเอสฉลองปีใหม่​

​

สหรัฐและพันธมิตร ส่งฝูงบินขับไล่โจมตีเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธไอเอสไม่ต่ำกว่า 12 ครั้ง ในช่วงวันขึ้นปีใหม่

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเบรุตประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่า เครื่องบินรบหลายลำของสหรัฐและพันธมิตร ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมากกว่า 12 ครั้ง ตลอดคืนวันที่ 1 ม.ค.ปี 2558 หรือวันขึ้นปีใหม่ทั้งในและรอบเมืองรัคก้า เมืองหลวงของกลุ่มติดอาวุธไอเอส ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย การโจมตีทางอากาศครั้งนี้นับเป็นการโจมตีอย่างหนักหน่วงของสหรัฐและพันธมิตร ต่อเมืองรัคก้าริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีส ตั้งแต่กลุ่มไอเอสจับนักบินชาวจอร์แดน ภายหลังเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ตกใกล้เมืองดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา

กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านไอเอส บอกว่าสหรัฐและพันธมิตรโจมตีเป้าหมายต่างๆของไอเอสไม่ต่ำกว่า 13 ครั้ง โดยเขตฟูรอสซิเยห์และฐานทัพ 17 แห่ง ตกเป็นเป้าหมายโจมตี ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนซีเรีย อ็อบเซิร์พเวทอรีฟอร์ ฮิวแมน ไรท์ส ยืนยันว่าสหรัฐและพันธมิตรส่งเครื่องบินรบโจมตีไอเอส แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือการสูญเสียชีวิต

เดลินิวส์ วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 16:02 น.

อิตาลีลากเรือขนผู้อพยพเถื่อนเข้าฝั่ง​

​

กองทัพเรืออิตาลีลากจูงเรือบรรทุกผู้อพยพผิดกฎหมายราว 450 คน ที่ลอยเคว้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเข้าฝั่ง เมื่อวันศุกร์ ถือเป็นลำที่ 2 ในรอบสัปดาห์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่ากองทัพเรืออิตาลีออกแถลงการณ์เรื่องการเข้าควบคุมเรือโดยสารข้ามฟาก "ดิ เอซาดีน" ติดธงชาติเซียร์ราลีโอน พร้อมผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายราว 450 คน เมื่อวันศุกร์ แล้วสามารถลากจูงเรือเข้าเทียบท่าในเมืองกอริเกลียโน กาลาโบร ทางตอนใต้ของประเทศได้สำเร็จ เมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยหลังจากนี้จะให้ความช่วยเหลือผู้อพยพบนเรือทั้งหมด "ตามความเหมาะสม" ต่อไป

ขณะที่สื่อท้องถิ่นของอิตาลีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้อพยพบนเรือลำดังกล่าวซึ่งออกเดินทางมาจากเมืองฟามากุสตา ทางตอนเหนือของไซปรัส และหน่วยยามชายฝั่งพบลอยเคว้งอยู่กลางทะเล ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศราว 40 กิโลเมตร เมื่อวันพฤหัสบดีนั้น ล้วนเป็นชาวซีเรีย และหนึ่งในนั้นติดต่อผ่านวิทยุมายังหน่วยยามชายฝั่งเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากระบบไฟฟ้าบนเรือขัดข้อง ส่วนลูกเรือ 5 คน สละเรือด้วยการกระโดดลงเรือชูชีพแล้วขับหนีออกไป จุดประเด็นให้เริ่มมีการวิเคราะห์กันว่า อาจเป็นยุทธวิธีใหม่ของเหล่านายหน้าในการเอาตัวรอด

กรณีของเรือดิ เอซาดีน เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังกองทัพเรืออิตาลีและหน่วยยามชายฝั่งให้ความช่วยเหลือเรือ "บลู สกาย เอ็ม" สัญชาติมอลโดวา ที่ลอยเคว้งอยู่กลางทะเลพร้อมผู้โดยสารราว 970 คน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความช่วยเหลือ เรือทั้งสองลำอาจต้องพบจุดจบด้วยการอับปางกลางทะเล ไม่ต่างจากเรือบรรทุกผู้อพยพอีกหลายสิบลำก่อนหน้านี้ เนื่องจากเรือเหล่านี้ล้วนบรรทุกผู้โดยสารและสัมพาระเกินมาตรฐาน

เดลินิวส์ วันเสาร์ 3 มกราคม 2558 เวลา 08:33 น.

ภาคใต้ออสเตรเลียเจอไฟป่ารุนแรง​

​

ภาคใต้ของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับไฟป่าที่ว่ากันว่า มีความรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ โดยเผาผลาญบ้านเรือนไปแล้ว 5 หลัง และขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่าสำนักงานดับเพลิงรัฐเซาท์ออสเตรเลียรายงานการเกิดไฟป่ารุนแรงในเมืองแอดิเลด ฮิลส์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแอดิเลด ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ โดยเปลวเพลิงลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว จากเพียง 154 เฮกตาร์ เมื่อวันศุกร์ เป็น 4,741 เฮกตาร์ ในวันนี้ และมีแนวเส้นรอบวงยาวถึง 38 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่เชื่อไฟป่าอาจไดรับปัจจัยหนุนจากกระแสลมในบริเวณนั้น ที่มีความเร็วลมศูนย์กลางสูงถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขณะที่นายเจย์ เวเธอริล มุขมนตรีรัฐเซาท์ออสเตรเลีย แถลงเรียกร้องให้ประชาชนในเมืองแอดิเลด ฮิลส์ ราว 40,000 คน ให้อพยพออกนอกพื้นที่เป็นการชั่วคราว หรือหากสมัครใจอยู่ต่อขอให้ระมัดระวังในการใช้ชีวิตให้มากที่สุด เนื่องจากเมืองตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นด่านหน้าของการเผชิญกับอิทธิพลจากไฟป่าในครั้งนี้ ซึ่งอาจมีความรุนแรงเทียบเท่าไฟป่า "แอช เวนสเดย์" ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อปี 2526 คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 75 ศพ

ทั้งนี้ หนึ่งในไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย คือ "แบล็ค แซเทอร์เดย์" ในรัฐวิกตอเรีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือนก.พ. 2552 ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 173 ศพ บ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายกว่า 2,000 หลัง

เดลินิวส์ วันเสาร์ 3 มกราคม 2558 เวลา 12:35 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/