ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใจไม่แข็งห้ามดู !!! ชมคลิปบีบ "อภิมหาหัวสิว" บนต้นคอของชายชาวแคนาดา
    วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 15:22:00 น.

    คลิปที่ท่านจะได้ชมต่อไปนี้ เป็นคลิปบีบสิวขนาดใหญ่ที่ผุดขึ้นบนต้นคอของชายหนึ่ง และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจเผด็จศึกมันในรอบกว่า 2 ทศวรรษ !!!

    <iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/iQq7cBkjCYU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    สิวระดับ "หัวช้าง" ดังกล่าว ฝังและเจริญเติบโตอยู่บนต้นคอของชายผู้นี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว

    ชายเจ้าของอภิมหาหัวสิวเม็ดนี้ เป็นคนแคนาดา ซึ่งขอใช้นามแฝงว่า "แอนดี้ เป๊ปเปอร์ส" เขาเปิดเผยกับเมล์ออนไลน์ว่า เจ้าสิวคู่กรรมได้อยู่ในภาวะสุกเต็มที่ ขณะที่เขาและภรรยาเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในประเทศลาว

    [​IMG]

    จนเขาตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าคราวนี้คงถึงเวลาที่ตนเองจะต้องบีบสิวเม็ดนี้เสียทีหลังจากมันกลัดหนองหรือขึ้นหัวขาวๆมาหลายครั้งหลายคราวแล้ว

    โดยแอนดี้รับหน้าที่บีบสิวด้วยสองมือของเขาเองขณะที่ฝ่ายภรรยารับหน้าที่เป็นผู้บันทึกภาพเคลื่อนไหวออกมาเป็นคลิปซึ่งมียอดคนคลิกเข้ามาดูเกิน 1 ล้านครั้งไปแล้ว

    "ผมรู้สึกได้เป็นอย่างยิ่งว่า แรงกดดันทั้งหลายได้สูญสลายไป ผมรู้สึกดีขึ้น และมันไม่เจ็บปวดเลยตอนที่ผมบีบสิวเม็ดนี้ ผมเพียงรู้สึกว่าแรงกดดันทั้งหลายได้ถูกระบายออกไปแล้ว เมื่อสิ่งต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ในเม็ดสิวได้ทยอยหลั่งไหลออกมา มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากๆ และความเจ็บปวดก็ได้หายไป"

    [​IMG]

    ทั้งนี้ เม็ดสิวบนต้นคอของแอนดี้ยังคงมีอาการบวมอยู่นิดหน่อย แต่มันก็ลดขนาดลงไปมาก จบแทบไม่เป็นที่สังเกตเห็นของบุคคลทั่วไปแล้ว

    ใจไม่แข็งห้ามดู !!! ชมคลิปบีบ "อภิมหาหัวสิว" บนต้นคอของชายชาวแคนาดา : มติชนออนไลน์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮือฮา พบภาพวาดงานศิลป์ของ"เผด็จการฮิตเล่อร์"สมัยยังเป็นจิตรกรเปี่ยมแรงบันดาลใจ (ชมภาพ) วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 07:15:00 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ว่า มีการพบภาพวาดงานศิลปะของ "อดอลฟ์ ฮิตเล่อร์" เมื่อครั้งที่อดีตผู้นำเผด็จการนาซียังคงเป็น "จิตรกร" โดยภาพดังกล่าวเตรียมถูกนำไปประมูลในสัปดาห์นี้แล้ว

    [​IMG]

    รายงานระบุว่า ภาพวาดดังกล่าวถูกวาดขึ้นเมื่อครั้งที่ผู้นำนาซีรายนี้ยังเป็นศิลปินที่มีแรงบันดาลใจ เป็นภาพวาดเมืองมิวนิค และได้รับการยืนยันว่าเป็นภาพของฮิตเล่อร์อย่างแท้จริง และจะถูกประมูลในสัปดาห์นี้โดยสถานประมูลในเมืองนูแรมเบิร์กในวันเสาร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเท่ากับว่า คนรักงานศิลป์จะมีโอกาสได้ครอบครองหนึ่งในงานศิลป์ของ "อดีตเผด็จการโลก" โดยภาพวาดนี้ถูกขายโดนหญิงสองพี่น้องนิรนามที่เชื่อว่า ได้ครอบครองภาพนี้มานานหลายปีแล้ว และปฎิเสธที่จะนำไปโชว์แสดง โดยทั้งสองได้ภาพนี้จากป้าของพวกเธอ และเก็บซ่อนไว้ในลิ้นชัก และห่อกระดาษทิษชู่ไว้

    [​IMG]

    ฮือฮา พบภาพวาดงานศิลป์ของ"เผด็จการฮิตเล่อร์"สมัยยังเป็นจิตรกรเปี่ยมแรงบันดาลใจ (ชมภาพ) :
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    15 พ.ย. ผู้นำโลกร่วมประชุมสุดยอด “G 20” ที่ออสเตรเลีย

    [​IMG]

    เมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) ผู้นำกลุ่มชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก 20 ประเทศ หรือ “จี 20” รวมถึงผู้นำสหรัฐฯ จีน รัสเซีย อินเดีย อังกฤษ ญี่ปุ่น ทยอยเดินทางถึงนครบริสเบน เมืองเอกรัฐควีนแลนด์ของออสเตรเลีย ก่อนเริ่มประชุมสุดยอดประจำปีในช่วงสุดสัปดาห์ 2 วัน(15-16 พ.ย.)โดยนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบ็อต ผู้นำออสเตรเลีย เน้นย้ำเนื้อหาหลักการประชุมคือเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การสร้างงาน การแก้ปัญหาเลี่ยงภาษี และมุ่งสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจโลกให้ได้ตามเป้าหมายเฉลี่ย 2 เปอร์เซ็นต์ภายใน 5 ปี โดยชาติสมาชิกต่างจะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ใหม่ของแต่ประเทศมากเกือบ 1,000 มาตรการ

    [​IMG]

    อย่างไรก็ตาม เวทีประชุมครั้งนี้ก็ถูกบดบังจากปัญหาเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึงกรณีเครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ที่ถูกชี้ว่าโดนขีปนาวุธยิงตกเหนือน่านฟ้าภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อหลายเดือนก่อน คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 298 ชีวิต รวมถึงชาวออสเตรเลีย 38 ราย ซึ่งชาติตะวันตกคาดว่ารัสเซียเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วย

    [​IMG]

    ส่วนปัญหาอื่นๆ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ร้องขอให้ชาติสมาชิกตระหนักแก้ปัญหากลุ่มก่อการร้ายอิสลามิกจีฮัด นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เรียกร้องความร่วมมือด้านกลาโหมใกล้ชิดมากขึ้นกับสหรัฐฯและออสเตรเลีย ขณะเดียวกัน การเตรียมพื้นที่ใกล้สถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยทางการออสเตรเลียระดมกำลังตำรวจเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยมากราว 6,000 นาย ส่วนกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆที่คาดว่าจะประท้วงระหว่างการประชุมครั้งนี้มากถึง 27 กลุ่ม ถูกเจ้าหน้าที่กันพื้นที่ให้อยู่ห่างจากสถานที่จัดประชุมเพื่อความสะดวก โดยกลุ่มผู้ประท้วงรวมถึงกลุ่มผู้เรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหาชั้นบรรยากาศโลกเปลี่ยนแปลง

    จากภาพ...เวทีจี 20–นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ (ซ้าย) หารือแบบทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดี ของอินเดีย นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในโลก 20 ประเทศ หรือจี 20 ที่เมืองบริสเบนของออสเตรเลียเมื่อ 14 พ.ย. (เอเอฟพี)

    ผู้นำโลกร่วมประชุมสุดยอด “จี 20” ที่ออสเตรเลีย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    14 พ.ย. รัสเซียเตือนยูเครนเจอหายนะหากคืนสู่สมรภูมิรบกับกบฏนิยมมอสโก

    [​IMG]

    มอสโกและเคียฟในวันพฤหัสบดี (13 พ.ย.) ต่างกล่าวหากันและกันไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่รัสเซียเตือนหากคืนสู่ความเป็นปรปักษ์กับพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออก ยูเครนก็อาจต้องเผชิญกับหายนะเลวร้าย

    เคียฟกล่าวหามอสโก ส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือกบฏเพื่อเปิดฉากรุกรานรอบใหม่ในความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 4,000 ศพ

    ท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเหตุละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง กรณีล่าสุดเกี่ยวกับรายงานขบวนทหารไม่ทราบฝ่ายกำลังเดินทางจากพรมแดนรัสเซียข้ามไปยังยูเครน โหมกระพือความกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามกันเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา อาจพังครืนลง

    อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าพวกเขาส่งทหารและรถถังข้ามพรมแดนเข้าไปยังยูเครนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พร้อมยืนยันข้อตกลงหยุดยิงที่ผ่านการลงนามที่กรุงมินสก์ คือทางออกเดียวของความขัดแย้งนี้ “เราต้องไม่ปล่อยให้ข้อตกลงหยุดยิงพังครืน มันจะเป็นหายนะต่อสถานการณ์ในยูเครน” เล็กซานเดอร์ ลูคาเชวิช โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าว

    องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ซึ่งทำหน้าที่สังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิง รายงานว่าพบเห็นขบวนทหารและรถถังไม่ทราบฝ่ายเดินทางมาจากชายแดนรัสเซีย ส่วนผู้สื่อข่าวรอยเตอร์เสริมว่าขบวนดังกล่าวมุ่งตรงไปยังเมืองโดเนตสก์ ป้องปราการของฝ่ายกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครนในวันอังคาร (11 พ.ย.) ในนั้นยังรวมไปถึงปืนใหญ่และระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วย

    เคียฟซึ่งเสริมการป้องกันทางภาคตะวันออกของประเทศเพื่อรับมือกรณีมีการจู่โจมรอบใหม่ บอกว่ารายงานเกี่ยวกับการพบเห็นขบวนรถนั้น คือข้อมูลที่สนับสนุนคำกล่าวหาของพวกเขาที่ว่ารัสเซียกำลังเสริมกำลังให้แก่พวกกบฏ "เป็นไปได้อย่างสูงที่ทหารรัสเซียจะรุกรานดินแดนยูเครนอีกรอบ มันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยยูเครนกล่าว

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    14 พ.ย. รัสเซียขู่ฝรั่งเศสระวังจะเจอดี หากไม่ยอมส่งมอบเรือรบภายในเดือนนี้

    [​IMG]

    สื่อแดนหมีขาวรายงานข่าวว่า รัสเซียได้เตือนฝรั่งเศสในวันนี้ (14 พ.ย.) ให้ระวังถึงผลที่จะตามมา หากรัฐบาลแดนน้ำหอมไม่ยอมส่งมอบเรือรบชั้นมิสทรัลภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่มีการเลื่อนส่งมอบเพราะวิกฤติยูเครน

    "เรากำลังเตรียมการสำหรับสถานการณ์บางอย่างที่ต่างไปจากเดิม เราจะรอจนถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น หลังจากนั้นเราจะดำเนินการอย่างจริงจัง" อาร์ไอเอ โนวอสตี สำนักข่าวแห่งชาติแดนหมีขาว รายงานคำพูดของแหล่งข่าวระดับสูงของรัสเซีย

    เรือบบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นมิสทรัลลำแรก จากทั้งหมด 2 ลำ เดิมทีนั้นมีกำหนดจะต้องส่งมอบในวันนี้ (14 พ.ย.) ตามสัญญาข้อตกลงที่ทำไว้ในปี 2011 เรือรบทั้งสองลำนี้มีมูลค่ารวมกันกว่า 1.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท)

    บริษัทอาวุธที่บริหารโดยทางการรัสเซียนั้นคาดหวังว่าจะได้ฉลองการส่งมอบเรือรบลำแรกกันในวันนี้ แต่เนื่องจากวิกฤติการสู้รบในยูเครน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกนั้นย่ำแย่ลงไปทุกที

    ฝรั่งเศสผู้ขายเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ให้กับรัสเซียนั้น ต้องเจอกับแรงกดดันจากพันธมิตรชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา จนทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสต้องเลื่อนการส่งมอบเรือรบดังกล่าว

    สื่อแดนหมีขาวยังรายงานคำพูดของแหล่งข่าวในกรุงมอสโก ที่ระบุว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญกำลังประเมินความเสียหายของรัสเซียจากการที่ไม่ได้รับเรือรบ และคาดว่าน่าจะมีการประกาศเรื่องนี้ต่อสาธารณชน

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Love Pon Pon

    คุณเจน บอกว่า...

    เจน ญาณทิพย์ ฉ.เต็ม part1 เห็นกรรม รู้อดีต ส่องอนาคต จริงหรือไม่!? คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง2
    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/8GYrB9y0VwY?list=PLXReA96RSPCxXB1MJolg0stU4x9xObq6X" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เจน ญาณทิพย์ ฉ.เต็ม part2 ใช้ญาณทิพย์ช่วยคนได้ จริงหรือไม่!? คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง2
    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/Y5pgz65Pk1s?list=PLXReA96RSPCxXB1MJolg0stU4x9xObq6X" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เจน ญาณทิพย์ ฉ.เต็ม part3 เตือนภัยพิบัติในไทย ปี 58 คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง2
    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/lXk5k2WgUb0?list=PLXReA96RSPCxXB1MJolg0stU4x9xObq6X" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เยเมน: การปฏิวัติอาหรับที่ไม่มีใครคาดคิด รายงาน 2014-11-14, 12:15:43

    ด้วยตระหนักว่าคำพูดมักคมกว่าดาบ หน่วยรักษาความปลอดภัยเก่าของเยเมนจึงปล่อยกระแสสื่อเข้าใส่อีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังกระตุ้นการสนับสนุนจากชาวเยเมนที่ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่และนักการเมืองเหมือนเช่นที่เคย

    [​IMG]
    ----
    @(ภาพ) นักรบชีอะฮ์เฮาซีตะโกนคำขวัญหลังยึดกองกำลังหุ้มเกราะที่หนึ่งของกองทัพในกรุงซานาอฺ เยเมน ได้ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2014
    ----

    เมื่อขบวนการปฏิวัติเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีศูนย์กลางอยู่ในตะวันออกกลางเมื่อปี 2011 โลกไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากจ้องมองด้วยความตะลึง ในขณะที่เผด็จการคนแล้วคนเล่าถูกโค่นล้มลงไปต่อหน้าความปรารถนาของมหาชน โดยไม่สามารถต้านทานเสียงเรียกร้องหาเสรีภาพของประชาชนได้อีกต่อไป เหล่ามหาอำนาจเช่นสหรัฐฯ เคยผูกตัวเองไว้กลับถูกปลดออกในทันใด เหลือไว้เพียงช่องโหว่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งผลประโยชน์ของตะวันตก

    สิ่งที่เริ่มต้นเสมือนหนึ่งเป็นความปรารถนาอันล้นปรี่ต่อความเปลี่ยนแปลง ความโหยหาความยุติธรรมทางสังคมและความมั่นคงของกฎแห่งพลเรือน แต่แล้วกลับถูกปกคลุมด้วยแนวคิดอิสลามหัวรุนแรงไปในไม่ช้า ประเทศต่างๆ เหล่านั้น เช่น อียิปต์ ลิเบีย และตูนีเซีย ซึ่งเปรียบเสมือนเรือนำธงสำหรับขบวนการปฏิวัติอาหรับสปริง กลับตกเป็นเหยื่อของกลุ่มนิยมแนวคิดอิสลามหัวรุนแรงไปอย่างรวดเร็ว ไม่หลงเหลือจิตสำนึกของความเป็นชาติใดๆ เลย

    แต่ทว่า เยเมนกลับเปลี่ยนสู่การปฏิวัติที่แตกต่างด้วยประการทั้งปวง ถ้าประเทศที่ยากจนที่สุดในคาบสมุทรอาหรับแห่งนี้ประสบความสำเร็จในการนำเผด็จการของตน – ประธานาธิบดีอาลี อับดุลลอฮ์ ซอเลห์ – ออกจากตำแหน่ง ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มประเทศสภาความร่วมมือแถบอ่าวเหมือนอียิปต์หรือตูนีเซีย การเดินขบวนเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยของมันก็ได้ผลออกมาแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้เป็นอย่างยิ่ง

    ขณะที่ติดอยู่ในการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างไม่จบสิ้น เยเมนก็ได้เห็นอำนาจทางการเมืองที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่สุดเกิดขึ้นมาจากสุญญากาศทางอำนาจที่ลุ่มลึกลงไป นั่นก็คือ “กลุ่มเฮาซีแห่งเยเมน”

    นับตั้งแต่เฮาซี กลุ่มซัยดีที่ไม่มีชื่อเสียงในอดีตจากซาดาทางภาคเหนือที่ตั้งขึ้นภายใต้การนำของ “อับดุลมาลิก อัล-เฮาซี” เริ่มรุกผ่านเข้ามาทางที่ราบสูงของเยเมน โดยขับเคี่ยวกับกลุ่มอิสลาห์ กลุ่มการเมืองที่ทรงอิทธิพลและโดดเด่นที่สุดของประเทศ ประเทศนี้ก็ได้เห็นการพลิกผันในอำนาจที่ไม่มีนักการเมืองคนใดและนักวิเคราะห์ไม่กี่คนเคยคิดว่าจะเป็นไปได้

    ด้วยความเลวร้ายของนโยบายทางการเมืองของเยเมน กลุ่มเฮาซีต้องทนกับการลบหลู่และการทำลายล้างด้วยน้ำมือของระบอบการปกครองของอดีตประธานาธิบดีซาเลห์ ที่ใช้อำนาจเพื่อปราบปรามด้วยเหตุผลทางนิกาย และเพื่อโดดเดี่ยวทางการเมืองด้วยข้อกล่าวหาว่าพวกเขา “เป็นมิตร” กับอิหร่าน แต่ในความเป็นจริง มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการกดขี่เช่นนั้น ที่กลุ่มชนเผ่ากลุ่มนี้ได้จัดตั้งตัวเองขึ้นเป็นกองทหารอาสาเพื่อปฏิบัติการตอบโต้ภายใต้การผลักดันของเชคฮุเซน บัดริดดีน อัล-เฮาซี

    ถึงแม้ว่ากลุ่มเฮาซีจะประสบความสำเร็จในการกระตุ้นการสนับสนุนจากประชาชนได้ โดยใช้ประโยชน์จากความท้อแท้ของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วจึงวางตำแหน่งตัวเองเป็นทางเลือกที่ถูกต้องและมีศักยภาพต่อหน่วยรักษาความปลอดภัยเก่าของเยเมน ความสำเร็จของพวกเขากระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรงจากสื่อและฝ่ายการเมือง

    เหมือนเป็นเหยื่อของความสำเร็จของตนเอง ตอนนี้กลุ่มเฮาซีพบว่าตัวเองอยู่ในสายตาของการโหมกระหน่ำโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาว่าใช้อำนาจในทางที่ผิด ใช้ความรุนแรงเกินไป บิดเบือนศาสนา และทุจริต อำนาจทางทหารและการเมืองของกลุ่มอิสลาห์ลดน้อยลง พวกเขาจึงเลือกที่จะโจมตีกลับไปยังปรปักษ์ทางการเมืองและศาสนาของตน ไม่ใช่ในสมรภูมิรบ แต่เป็นในหน้าหนังสือพิมพ์ ด้วยตระหนักดีว่าคำพูดมักจะคมกว่าดาบเสมอ



    เส้นทางสู่อำนาจ


    [​IMG]
    ----
    @(ภาพ) นักรบชีอะฮ์เฮาซีถืออาวุธขณะยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ใกล้สถานที่ประท้วงในเมืองซานา เยเมน 19 กันยายน 2014
    ----

    กลุ่มซัยดี – สาขาหนึ่งของศาสนาอิสลามนิกายชีอะฮ์ - เริ่มถือกำเนิดขึ้นจากปฏิกิริยาที่มีต่อการมีอคติต่อนิกายชีอะฮ์ในเมืองซานา เมื่อปี 1994 ในครั้งนั้น ประธานาธิดีซอเลห์ได้เรียกร้องการสนับสนุนทางทหารและการเงินจากซาอุดิอารเบียเพื่อบดขยี้กลุ่มที่เชิญชวนให้แยกตัวทางตอนใต้ของเยเมน กลุ่มนี้จึงรีบขึ้นประจำตำแหน่งเดิมของตนบนหลังของขบวนการปฏิวัติอาหรับสปริงปี 2011 โดยได้ชัยชนะทางการเมืองมาด้วยการสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยของเยเมน

    แกะดำที่สุดจากแกะดำทุกตัวประสบความสำเร็จในการผันเข้าสู่การเมืองกระแสหลักอย่างราบรื่นด้วยการปลดการยึดโยงกับชนเผ่าและถ่ายทอดสารของตัวเองออกไปภายใต้ชื่อใหม่ทางการเมือง นั่นคือ “อันซอรอลลอฮ์”

    ทันทีที่ฐานอำนาจของซอเลห์พังทลายลงกับพื้น กลุ่มเฮาซีก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในฐานะผู้กำหนดตัวประมุขของรัฐคนใหม่ของเยเมนโดยได้ประโยชน์จากสูญญากาศทางอำนาจที่เกิดขึ้นด้วยแรงเสียดสีของการปฏิวัติ

    การขึ้นสู่อำนาจของกลุ่มเฮาซีมาถึงจุดสูงสุดในเดือนกันยายน เมื่อกลุ่มนี้เข้าควบคุมกรุงซานา เมืองหลวงไว้ได้สำเร็จ หลังจากที่เหมือนไม่ต้องใช้กำลังอาวุธใดๆ เลย

    ก่อนที่กลุ่มเฮาซีจะมาถึงซานา พวกเขากราดมาทั่วภาคเหนือของเยเมน โดยขับไล่และท้าทายขุมอำนาจหลักของเยเมนคือ “กลุ่มอิสลาห์” กลุ่มที่กระทำตัวเป็นร่มเงาทางการเมืองให้แก่กลุ่มต่างๆ รวมทั้งกลุ่มภราดรภาพมุสลิมและกลุ่มซาลาฟี อดีตผู้ไม่เป็นที่ปรารถนาของเยเมนกลับทำสำเร็จในสิ่งที่ไม่มีใครเคยคิดว่าจะเป็นไปได้เมื่อพวกเขาเอาชนะ “ตระกูลอะห์มาร” ผู้ก่อตั้งอิสลาห์ ในเมืองอัมรานถิ่นบรรพบุรุษของพวกเขา แล้วจึงเหวี่ยงดุลอำนาจของประเทศออกจากแกนของมัน

    ด้วยความรู้สึกถึงอำนาจใหม่ อับดุลมาลิก อัล-เฮาซี แสดงตนเป็นสื่อสะท้อนความไม่พอใจของชาวเยเมน เป็นโฆษกของคนอ่อนแอและคนยากจน เป็นผู้กู้อิสรภาพของเยเมน

    ด้วยการตำหนิประธานาธิบดีอับดู รอบบู มันซูรฺ ฮาดี สำหรับปัญหาความยุ่งยากหลายอย่างของเยเมน และการเสื่อมถอยของคุณภาพชีวิต กลุ่มเฮาซีได้ทำการชักชวนให้เกิดรัฐบาลผสม โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีในทันที และปฏิรูปทางการเงินโดยไม่มีการเจรจา รวมถึงการกลับมาใช้การอุดหนุนราคาน้ำมัน



    การจัดการทางการเมือง

    ความสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นการเมืองของเยเมนและกลุ่มเฮาซีมีความซับซ้อนมาตั้งแต่แรกเริ่มของกลุ่ม ติดหล่มอยู่ในความสงสัยเป็นปริศนาด้วยการกล่าวหาต่างๆ ความเชื่อทางศาสนาของกลุ่มเฮาซี เช่น ความผูกพันกับนิกายชีอะฮ์ ทำให้เกิดการทึกทักเอาว่าพวกเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดทางการเมืองและทางแนวคิดของอิหร่าน เป็นอีกภาคหนึ่งของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อัล-ฮายาตเมื่อต้นปีนี้ ประธานาธิบดีฮาดีได้กล่าวหาเตหะรานอย่างเปิดเผยว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของเยเมนผ่านทางฮิซบุลลอฮ์ด้วยการสนับสนุนกลุ่มเฮาซี ฮาดี ทั้งกล่าวหาเตหะรานว่าพยายามสร้างตัวแทนทางการเมืองและสร้างอิทธิพลต่ออนาคตของเยเมนด้วยการเล่นบทเป็นนายใหญ่ทางแนวความคิด เขายังกล่าวหาอิหร่านด้วยว่าสนับสนุนให้มีการเชื่อมไมตรีทางการเมืองกันระหว่างกลุ่มอัล-ฮารัก ขบวนการแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ และกลุ่มเฮาซีเพื่อให้กรุงซานาอยู่ในอำนาจของตน

    ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศของอิหร่านออกมาปฏิเสธบ่อยครั้งว่าไม่ได้มีบทบาทใดๆ ในกิจการภายในของเยเมน นักการเมืองของเยเมนและสื่อก็ยังคงไม่ประทับใจต่อการประกาศว่าไม่มีการแทรกแซงใดๆ อยู่ดี

    ฮานี อะห์มัด อัล-ซูฟี นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวอธิบายกับสำนักข่าวมินท์เพรสว่า การอุปถัมภ์ของต่างชาติเป็นน้ำหนักที่หนักอึ้งอยู่บนนโยบายทางการเมืองของเยเมนมาตลอด ซึ่งมักจะทำให้ฝ่ายต่อต้านต่างๆ กล่าวหากันและกันว่ากำลังเล่นเกมกับผลประโยชน์ของชาติ

    “ความคิดที่ว่าเฮาซีเป็นตัวแทนของอิหร่านไม่ใช่เรื่องใหม่ มันเป็นเพราะเฮาซีขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองอย่างไม่มีใครเสมอเหมือน ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องกลับไปใช้การพูดให้ร้ายทางการเมือง” ซูฟีกล่าว

    “ก็เหมือนกับที่กลุ่มอัล-อิสลาห์ถูกเข้าใจและอธิบายว่าเป็นตัวแทนที่ได้รับการอุดหนุนจากซาอุดี้ฯ กลุ่มเฮาซี และแม้แต่กลุ่มอัล-ฮารัก ก็ถูกมองว่าเป็นเบี้ยของอิหร่าน ส่วนประธานาธิบดีฮาดี เขาถูกอธิบายว่าเป็นคนของวอชิงตัน เป็นผู้คอยไกล่เกลี่ยท่ามกลางความวุ่นวายของอิทธิพลจากต่างชาติ”



    สงครามคำพูด

    ถ้ากลุ่มอิสลาห์ถูกถอนออกไปจากฐานของมันด้วยใครก็ตามที่มันคิดว่ามีอำนาจควบคุมทางการเมือง ทางศาสนา และทางทหาร การเป็นผู้นำของมันจะได้กลับคืนมาจากกลุ่มเฮาซีก็ด้วยการต่อสู้ทางสื่อ โดยการกล่าวหาว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มกองโจร ใช้อำนาจในทางที่ผิด ฉ้อโกงและยักยอกที่ดิน ตามที่ฮัยธัม อุษมาน นักวิจัยและนักประวัติศาสจตร์การเมืองจากเลบานอน ได้ระบุไว้ว่า “ในสงครามคำพูดกับเฮาซีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่หลายคนได้เข้าร่วมด้วย ส่วนใหญ่เพราะพวกเขากลัวความเสี่ยงที่จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง”

    เขาแสดงความคิดเห็นกับมินท์เพรสว่า “มันน่าสนใจมากที่ได้เห็นว่า การกระทำความผิดและอาชญากรรมที่อดีตผู้ปกครองกระทำต่อประชาชนและศัตรูทางการเมืองถูกนำไปปักไว้บนกลุ่มเฮาซี”

    อุษมานอธิบายทฤษฎีของเขาด้วยการระบุถึงข้อกล่าวหาฉ้อโกงและยักยอกในซานาของสมาชิกตระกูลอะห์มารฺ และนายพลอาลี มุฮ์ซิน อัล-อะห์มารฺ อดีตนายทหารระดับสูงของเยเมน

    “เมื่อกลุ่มเฮาซีเริ่มรณรงค์กวาดล้างกลุ่มอัล-อิสลาห์ พวกเขามุ่งเป้าไปที่ธุกิจและผลประโยชน์ส่วนตัวของกลุ่มนี้ ด้วยการเข้าควบคุมที่ดิน ที่พักอาศัย และวิสาหกิจการค้า ส่วนใหญ่จะเป็นการเข้ายึดบ้านของฮามิด อัล-อะห์มารฺ (หัวหน้าพรรคพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปเยเมน [Yemeni Alliance for Reform party]) และนายพลมุฮ์ซิน”

    เขาเสริมว่า “ขณะที่อัล-อิสลาห์และคนอื่นๆ เริ่มประณามการกระทำแบบโจรกรรม เพื่อทวนคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่นิยมอิสลาห์บางคน หลายคนทำท่าว่าจะลืมเมื่อปี 1994 อัล-อะห์มารฺและผู้สนับสนุนเคยเข้าปล้นเอเดน โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของคนทางภาคใต้ของพวกเขาเองและเป็นที่ดินของรัฐ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังหากำไรเกินควรทางการเมืองและใช้อำนาจในทางที่ผิดมาสามทศวรรษ”

    อาลี อัสซาดี นักข่าวอิสระ กล่าวว่า ถ้ากลุ่มเฮาซีเข้ายึดทรัพย์ที่เคยเป็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและทรงอำนาจของอิสลาห์จริง ทางกลุ่มก็ทำไปด้วยเจตนาที่จะคืนมันกลับไปให้กับเจ้าของที่ถูกต้องของมัน

    “กลุ่มเฮาซีได้มอบคืนบ้านให้กับอดีตประธานาธิบดีอาลี ซาลิม อัล-บัยด์ ของเยเมนใต้ ซึ่งบ้านของเขาถูกขโมยไปเมื่อหลายสิบปีก่อน (ปี 1994) เมื่อกองกำลังของประธานาธิบดีซอเลห์เข้าบดขยี้กลุ่มกบฏทางภาคใต้ ตั้งแต่นั้นมา ตระกูลอัล-อะห์มารฺได้อ้างความเป็นเจ้าของที่พักอาศัยและที่ดินหลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกยักยอกไป ประเด็นนี้ทำให้เกิดเรื่องราวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอัล-ฮารัก และทำให้เกิดความปรารถนาเอกราชของเยเมนใต้ สำนวนการยักยอกที่ดินเป็นหนามทิ่มแทงฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีฮาดีมาตั้งแต่ปี 2012” อัสซาดีอธิบาย

    เขาเสริมว่า “กลุ่มเฮาซีได้แสดงให้เห็นถึงการจำกัดตัวเองอย่างมากนับตั้งแต่พวกเขาเข้าควบคุมซานา เป็นคุณลักษณะที่อัล-อิสลาห์และซอเลห์ไม่เคยแสดงออก ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาการทรงตัวและเป็นผู้ถูกเพ่งเล็งเมื่อมีการตำหนิและกล่าวหา... กลุ่มเฮาซีไม่ได้เลวถึงครึ่งของที่หนังสือพิมพ์กำลังทำให้พวกเขาเป็น ทั้งหมดมันเป็นการจัดการและการโฆษณาชวนเชื่อจริงๆ”

    ขณะเดียวกัน แอนทอยน์ แฟรกซัส ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การเมือง ได้ชี้ให้เห็นถึงความคิดที่ว่าสงครามคำพูดของเยเมนถูกขับเคลื่อนโดยการควบคุมอำนาจและความปรารถนาที่จะลบล้างความชอบธรรมและลดความสำคัญของฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของตนมากกว่าจะเป็นการปะทะทางแนวความคิด

    “ความตึงเครียดและความแตกแยกทางการเมืองและศาสนาของเยเมนไม่ได้มีความลึกล้ำเหมือนอย่างที่นักการเมืองอยากจะให้ประชาชนเชื่อ การเมืองของเยเมนถูกขับเคลื่อนโดยตัวบุคคล ประชาชนต้องให้การสนับสนุนปัจเจกบุคคลและกลุ่มอำนาจ ไม่ใช่โครงการหรือแนวคิด นี่คือสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับเยเมน... ความแตกแยกเกิดจากความต้องการเข้าควบคุมทรัพยากรในประเทศของฝ่ายต่างๆ ศาสนา การหนุนหลังของต่างชาติ และแม้แต่พันธมิตรทางการเมือง ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธและเครื่องมือในการเรียกร้องการสนับสนุนจากประชาชน”

    เขายังระบุด้วยว่า ไม่มีนักการเมืองคนใด “สามารถแสร้งทำว่าปราศจากความผิดได้” เขายังบอกด้วยว่า ไม่ว่าจะด้วยน้ำมือของกลุ่มเฮาซีหรือรัฐบาลผสม การกระทำผิดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

    “คำถามก็คือ ประชาชนจะได้รับโอกาสที่แท้จริงในการตัดสินอนาคตทางการเมืองของพวกเขาไหม?” เขาสรุป



    แปล/เรียบเรียง กองบรรณาธิการเอบีนิวส์ทูเดย์
    เขียนโดย Catherine Shakdam
    ที่มา MintPress News | Independent, non-partisan journalism

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลวิจัยชี้ว่าจะเกิดฟ้าผ่าเพิ่มขึ้นในสหรัฐเนื่องจากโลกร้อนขึ้น
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/11/14 2:54 PM

    [​IMG]

    วอชิงตัน 14 พ.ย.- ผลการวิจัยล่าสุดระบุว่า ฟ้าฝ่าในสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 ภายในสิ้นคริสตศตวรรษนี้ เนื่องจากโลกร้อนและชื้นมากขึ้น

    นักวิจัยใช้ข้อมูลสภาพอากาศในการศึกษาว่า จะเกิดฟ้าผ่าบ่อยขึ้นเท่าใดหลังจากอุณหภูมิสูงขึ้นและมีฝนตกมากขึ้น โดยผลวิจัยพบว่า ในอนาคตเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ 1 องศาเซลเซียส จะเกิดฟ้าผ่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 นายเดวิด รอมพ์ส นักวิทยาศาสตร์ด้านบรรยากาศของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์คเลย์ และผู้นำการวิจัยครั้งนี้กล่าวว่า อากาศที่ร้อนขึ้นจะกักเก็บไอน้ำที่ระเหยขึ้นไปมากขึ้น และไอน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งจะทำให้เกิดฟ้าผ่ามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    ผลวิจัยชี้ว่าจะเกิดฟ้าผ่าเพิ่มขึ้นในสหรัฐเนื่องจากโลกร้อนขึ้น | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทีมเจ้าหน้าที่จีนเดินทางไปประจำศูนย์รักษาผู้ป่วยอีโบลาในไลบีเรีย
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/11/16 12:40 PM

    [​IMG]

    มอนโรเวีย 16 พ.ย.- ทีมเจ้าหน้าที่จีนราว 160 คนเดินทางถึงไลบีเรียวานนี้ และจะประจำการที่ศูนย์รักษาโรคไข้เลือดออกอีโบลาแห่งใหม่มูลค่า 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,353 ล้านบาท) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการสร้างและจะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่จีนทั้งหมด

    นายจาง เย่ เอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่า จนถึงขณะนี้จีนเป็นประเทศเดียวที่ไม่เพียงแต่สร้างศูนย์การรักษาโรคไข้เลือดออกอีโบลา แต่ยังบริหารและดำเนินการ รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำการที่ศูนย์ฯดังกล่าวด้วย และคณะเจ้าหน้าที่ที่เดินทางถึงไลบีเรียวานนี้ รวมถึงแพทย์ พยาบาล ช่างเทคนิกและวิศวกร นายจางยังกล่าวว่า การตั้งศูนย์ฯแห่งนี้ทำให้จำนวนเงินที่จีนบริจาคเพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสอีโบลาเพิ่มเป็น 122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,026 ล้านบาท) .-สำนักข่าวไทย

    ทีมเจ้าหน้าที่จีนเดินทางไปประจำศูนย์รักษาผู้ป่วยอีโบลาในไลบีเรีย | เว็บไซต์สำนักข่าวไ
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิลปินเพลงรวมพลังระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเชื้ออีโบลาระบาด
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/11/16 12:29 PM

    [​IMG]

    ลอนดอน 16 พ.ย.- นักร้องและนักดนตรีชื่อดัง อาทิ วงวันไดเร็กชัน โบโน่และเอลลี กูลดิง ร่วมกันบันทึกเพลงการกุศลให้กับมูลนิธิเพื่อระดมทุนบรรเทาวิกฤตไวรัสอีโบลาระบาดในภูมิภาคแอฟริกา
    เพลงที่ใช้ระดมทุนครั้งนี้เป็นเวอร์ชันใหม่ของเพลง Do They Know It’s Christmas? ของมูลนิธิแบนด์เอด ซึ่งบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกเมื่อ 30 ปีที่แล้วเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอดอยากในเอธิโอเปีย

    บ็อบ เกลดอฟ ผู้จัดงานนี้กล่าวว่า วงวันไดเร็กชันเป็นผู้ร้องท่อนเปิดของเพลง โดยมีศิลปินคนอื่นๆ อาทิ ริตา โอราและเอ็ด ชีแรน คริส มาร์ตินแห่งวงโคลเพลย์ ซิเนด โอคอนเนอร์และเอมิลี ซานเด ร่วมบันทึกเสียงที่กรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้รัฐบาลอังกฤษยังได้ยกเว้นภาษีให้กับเพลงนี้ด้วยซึ่งหมายความว่ารายได้จากเพลงดังกล่าวจะนำไปมอบให้กับมูลนิธิทั้งหมด-สำนักข่าวไทย

    ศิลปินเพลงรวมพลังระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเชื้ออีโบลาระบาด | เว็บไซต์สำนักข่าวไท
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำรัสเซียเดินทางออกจากออสเตรเลีย หลังประชุมจี20
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/11/16 12:25 PM

    [​IMG]

    บริสเบน, ออสเตรเลีย 16 พ.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย นั่งเครื่องบินเดินทางออกจากออสเตรเลียแล้ววันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเข้าร่วมการประชุมจี20 ที่ตัวเขาต้องเผชิญหน้ากับบรรดาชาติตะวันตกในประเด็นวิกฤตยูเครน
    ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียเดินทางกลับก่อนที่แถลงการณ์สุดท้ายของที่ประชุมจี20จะได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่ได้เข้าร่วมการรับประทานอาหารมื้อเที่ยง อีกทั้งยังกล่าวชมเชยว่าการประชุมจี20 ครั้งนี้ เป็นการพูดคุยที่เป็นไปในทางสร้างสรรค์ .-สำนักข่าวไทย

    ผู้นำรัสเซียเดินทางออกจากออสเตรเลีย หลังประชุมจี20 | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตือนเครื่องบินเลี่ยงเส้นทางใกล้ภูเขาไฟในรัฐอะแลสกา
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/11/16 12:22 PM

    [​IMG]

    16 พ.ย.- ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐประกาศเตือนให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางใกล้กับภูเขาไฟในรัฐอะแลสกาที่กำลังปะทุ หลังจากที่ภูเขาไฟลูกนี้พ่นเถ้าถ่านสูงถึง 9,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

    ภูเขาพาฟลอฟในรัฐอะแลสกาเริ่มปะทุและมีลาวาไหลออกจากมาจากปล่องใกล้กับยอดภูเขาไฟเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และพ่นเถ้าถ่านสูงถึง 4,800 เมตร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักธรณีฟิสิกส์กล่าวว่า การปะทุทวีความรุนแรงเมื่อเวลา 06.00 น. วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น มีเถ้าถ่านพวยพ่นออกมาจากปล่องภูเขาไฟสูงขึ้น และกระแสลมพัดพาเถ้าถ่านค่อนไปทางตะวันตกถึงตะวันตกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามยังไม่แน่ชัดว่าภูเขาไฟลูกนี้จะปะทุไปถึงเมื่อใด โดยอาจกินเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนด้วยระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน

    ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าภูเขาพาฟลอฟซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแองเคอเรจไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 1,005 กิโลเมตร เกิดการปะทุกว่า 40 ครั้ง ซึ่งรวมถึงเมื่อปีแล้วและต้นปีนี้ -สำนักข่าวไทย

    เตือนเครื่องบินเลี่ยงเส้นทางใกล้ภูเขาไฟในรัฐอะแลสกา | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit ได้แชร์รูปภาพของ Yellowstone National Park

    [​IMG]

    13 - 11- 14 อุณหภูมิที่เยลโล่สโตนในวันนี้ ช่วงกลางวันอยู่ที่ -13.8C แต่กลางคืนลดฮวบลงไปอยู่ที่ -32C ถึง -23C โดยประมาณ ตามการย้อยลงของกระแสอากาศเย็นขั้วโลกหรือปรากฎการณ์ Polar Vortex ที่ส่งผลให้ 42 รัฐของสหรัฐต้องเผชิญกับภาวะอากาศที่หนาวจัดแบบขั้วโลก

    Another cold night is in the forecast for tonight. It’s 7 degrees in the sunshine at Mammoth Hot Springs now and the forecast for tonight is -10. Wind chill values could be as low as -25 (all temps in degrees Fahrenheit).
    Yellowstone National Park
    Another cold night is in the forecast for tonight. It’s 7 degrees in the sunshine at Mammoth Hot Springs now and the forecast for tonight is -10. Wind chill values could be as low as -25 (all temps in degrees Fahrenheit).
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankij ได้แชร์โพสต์ของ Lifeplus โดย สมาคมพัฒนามนุษย์และสิ่งแวดล้อม

    [​IMG]

    ข้อเท็จจริงของเรื่อง น้ำมะนาวโซดารักษามะเร็งค่ะ

    น้ำมะนาวโซดา ... คิดกันสักนิด...ก่อนแชร์หรือเชื่อ
    เรียบเรียงโดย ... ดาวรัชช์ ปรีชาธรรม, 20 กรกฎาคม 2556

    [​IMG]

    ...........
    ชาวเฟซบุ๊คทั้งหลายคงได้รับแชร์เรื่องน้ำมะนาวโซดากันบ้างนะคะ เรียกได้ว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องราวยอดนิยมที่มีการแชร์กันในโลก social media กันเลยทีเดียว ก่อนที่เพื่อนๆ จะเชื่อหรือแชร์ต่อ โปรดคิดพิจารณาสักนิดนะคะ ที่ว่าดื่มน้ำมะนาวใส่โซดาเพื่อให้กรดในมะนาวฆ่าเซลล์มะเร็งนั้น ในฐานะที่ดิฉันเป็นหนึ่งในคนไข้โรคมะเร็ง (breast cancer IDC Grade II) ผ่านการรักษามาเป็นปีๆ ครบเครื่องทั้งผ่าตัด รับคีโม ฉายแสง กินยาต่ออีก 5 ปี ...พอได้อ่านปุ๊ป บอกได้ทันทีเลยว่า ไม่เชื่อ แต่สิ่งที่ื่เชื่อคือ นี่เป็นกลเม็ดอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจบนเฟซบุ๊ค คือการสร้างยอด Like ยอด share คนที่ศึกษาเรื่อง digital marketing คงทราบดีว่าดิฉันหมายถึงอะไร

    เอาล่ะค่ะ มาดูกันว่า “ทำไม” ดิฉันจึง “ไม่เชื่อ” นี่ไม่ได้พูดด้วยความรู้สึก แต่หลังจากหาข้อมูลมาสักพัก ก็สรุปให้อ่านง่ายๆ ได้ดังใน Note นี้ (สำหรับท่านที่มีพื้นฐานความรู้ทางชีวเคมีหรือทางการแพทย์อยากจะอ่านรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม ตามอ่านใน comments ด้านล่างนะคะ จะแปะ link ที่เป็นความรู้ในระดับที่ละเอียดขึ้นไว้ให้ค่ะ)

    เรื่องน้ำมะนาว+โซดานี้ ดิฉันเข้าใจว่าต้นเรื่องคนคิด ได้นำเอาสองทฤษฎีมายำรวมกัน นั่นคือ ทฤษฎีเรื่องของเบคกิ้งโซดารักษาโรคมะเร็ง และทฤษฎีเรื่องของมะนาวรักษาโรคมะเร็ง มาพิจารณาทีละอย่างนะคะ

    “โซดา”
    ต้นเรื่องของคำว่า “โซดา” ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งนั้น น่าจะมีที่มาจากข่าวน่าตื่นเต้นชิ้นนึงเมื่อกลางปี 2555 ที่สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์ มาร์ค เซอร์คัส (Mark Sircus) ได้รับทุน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้ทำการศึกษาถึงผลของการใช้ Sodium Bicarbonate (NaCO3) หรือที่เรียกง่ายๆว่า baking soda เบคกิ้งโซดา ซึ่งมีสภาวะความเป็นด่างสูงในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง

    โดยการศึกษาของคุณหมอท่านนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่า เซลล์มะเร็งมีสภาพเป็นกรดและเจริญเติบโตได้ดีในภาวะร่างกายที่เป็นกรด ดังนั้นการใช้เบคกิ้งโซดาซึ่งมีความเป็นด่างสูงเข้าไปเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ (ต้นเรื่องคนคิดค้นเรื่องนี้เป็นท่านแรกคือ นายแพทย์ Tullio Simonchini ที่อิตาลี เผยแพร่มาตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางผู้ทำการศึกษาได้ย้ำว่า การใช้เบคกิ้งโซดาในการรักษานี้ หากเป็นไปได้จริงโดยมีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์รองรับและได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลก กระนั้นก็ตามมันก็จะเป็นเพียงการรักษาเสริมเท่านั้น ไม่ใช่แนวทางหลักในการรักษา การรักษาโรคมะเร็งตามแผนปัจจุบันหลักๆ ยังคงเป็น การผ่าตัด ให้คีโม ฉายแสง ยา ฯลฯ … และการจะใช้วิธีบริโภคเบคกิ้งโซดานี้ก็จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ มีการตรวจร่างกาย วัดสภาวะความเป็นกรดด่างอะไรต่างๆ มากมายกว่าหมอท่านจะสั่งทำการรักษาได้ และต้องมีกำหนดวิธี ความถี่ห่างในการรับและปริมาณในการรับด้วย ไม่ใช่อยู่ๆ คนไข้โรคมะเร็งจะเดินไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วหยิบเบคกิ้งโซดาที่ใช้ทำขนมเค้กมาชงน้ำกินเองได้

    เริ่มเห็นเค้าลางมั้ยคะ ว่าคำว่า “น้ำโซดา” มาจากไหน … เข้าใจว่า คงมีบางท่านไปอ่านเจอบทความนี้เข้า และทึกทักเอาว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต หรือเบคกิ้งโซดา ก็คือน้ำโซดา เลยหวังดีแล้วก็จับแพะชนแกะไปบวกกับอีกทฤษฎีนึงเรื่องการดื่มน้ำมะนาวรักษามะเร็ง จึงได้เอาสองเรื่องที่มาจากคนละทิศละทางจับยำเข้าด้วยกันเป็นน้ำโซดา+มะนาว ไปซะงั้น คิดเองเออเองไม่พอ ยังมีการแชร์กระจาย คนที่ได้รับหรือไปอ่านเจอ ก็ไม่ได้คิดอะไร ด้วยความหวังดีก็เลยแชร์กันต่อเนื่องจนคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

    “มะนาว”
    มาถึงมะนาว แนวคิดการใช้มะนาวรักษาโรคมะเร็งนี้ มาจากทฤษฎีการบำบัดรักษาโรคมะเร็งทางเลือกด้วยการบริโภคอาหารที่เป็นด่าง หรือ Alkaline Diets ซึ่งคล้ายคลึงกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นั่นคือ เซลล์มะเร็งมีสภาวะเป็นกรด ดังนั้นการรับประทานอาหารที่เป็นด่างสูงมากเข้าไปจะช่วยปรับค่า pH ในตัวผู้ป่วยให้มีความเป็นด่างมากขึ้นจนเซลล์มะเร็งฝ่อไป สมมุติฐานนี้มากจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ สรุปได้ว่า คือ เซล์มะเร็งจะเจริญเติบโตได้ดีในภาวะที่เป็นกรดสูง (ค่า pH ต่ำกว่า 7 มากๆ) และในสภาวะที่ร่างกายเป็นด่างถึงระดับค่า pH ประมาณ 8.5 เซลล์มะเร็งจะค่อยๆ ตายไป

    หลายท่านคงจำได้ว่าเมื่อสี่ห้าปีก่อน เกิดกระแสดื่มน้ำด่างอย่างมาก มีคนเอาน้ำด่างมาขาย หรือบางทีก็ขายเครื่องทำน้ำด่าง ว่ากันว่าสรรพคุณของน้ำด่างช่วยบำบัดรักษาหรือป้องกันโรคภัยได้หลายอย่าง นั่นก็เป็นเพราะโรคร้ายแรงทั้งหลายเกิดจากความไม่สมดุลของค่า pH ในเลือดหรือในบริเวณรอบๆ เซลล์ที่เกิดปัญหา ดังนั้นทฤษฎีน้ำด่างไม่ใช่เรื่องโคมลอย และก็มาจากหลักการของ Alkaline Diets เช่นกันค่ะ

    แล้วมะนาวที่เปรี้ยวจี๊ดนี่มันน่าจะเป็นกรดไม่ใช่เหรอ ... คำตอบคือ ไม่ใช่ค่ะ มะนาวเป็นอาหารที่เมื่อร่างกายรับเข้าไปแล้วจะเกิดสภาวะเป็นด่าง จัดเป็น alkaline food นะคะ (อาหารที่เป็นด่างมีสองแบบ คือ ตัวมันมีค่า pH เป็นด่าง กับอีกแบบคือ เมื่อร่างกายรับเข้าไปและผ่านระบบการย่อยจะช่วยปรับค่า pH ในร่างกายให้สูงขึ้นจนมีสภาวะเป็นด่าง)

    ตามทฤษฎีนี้ จึงเชื่อว่าการกินมะนาวเข้าไป โดยการบีบใส่น้ำที่มีค่า pH เป็นกลาง จะช่วยปรับค่า pH ในร่างกายได้ นักโภชนวิทยาจึงได้จัดให้มะนาวเป็นอาหารประเภทด่าง แต่การกินร่วมกับน้ำโซดาตามอ้างนั้น มันไม่ใช่นะคะ เพราะน้ำโซดาคือสารละลายของคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีสภาวะเป็นกรดสูง (ค่า pH ประมาณ 3.0-4.0) มันคนละขั้วกับเบคกิ้งโซดาเลย (ค่า pH ของ baking soda ประมาณ 8.5-9.0) มันต่างกันชนิดฟ้ากับเหวก็ว่าได้

    ดังนั้น การบริโภคมะนาวตามทฤษฎี Alkaline Diets นั้น เป็นไปได้เพื่อปรับค่า pH ในร่างกายดังที่มีหลายสำนักในต่างประเทศเค้าก็แนะนำกัน แต่ไม่ใช่เป็นการใช้กรดมะนาวฆ่าเซลล์มะเร็งอย่างที่กล่าวอ้่างกัน (อย่าลืมนะคะ...ความเป็นกรดของร่างกายคือสภาวะที่เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดีที่สุด)

    การบริโภคอาหารที่เป็นด่าง (Alkaline Diets) ... อย่างย่อที่สุด
    ตามทฤษฎีของการบริโภคอาหารที่เป็นด่าง จึงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่มะนาวนะคะ มีอาหารหลายชนิดที่มีค่าความเป็นด่างสูง อาทิ คะน้า คึ่่นฉ่าย ถั่วงอก แตงกวา ผักโขม วอเตอร์เครส บาร์เล่ย์ วีทกราส ถั่วเหลืองทุกชนิด เมล็ดฟักทอง เมล็ดอัลมอนด์ ใบเพรสลีย์ น้ำมันมะกอก หญ้าหวานหรือน้ำตาลจากหญ้าหวาน (พวกน้ำตาลขัดสีทั่้วไปและสารทดแทนน้ำตาลทั่วไป มีความเป็นกรดสูงมากนะคะระวังด้วย) ผักและผลไม้ที่ีมีสีเขียวเข้ม ฯลฯ

    และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ได้แนบตารางอาหารที่บอกค่าความเป็นกรดด่างมาให้ดูด้วย ก็พิจารณากันไปนะคะ

    ใครที่นิยมรักษาร่างกายด้วยแนวทางเลือก อย่างเช่น แผนจีน คำที่มักจะได้ยินเสมอจากคุณหมอคือ ความเจ็บไข้ไม่สบายของคนเรา เป็นผลมาจากความไม่สมดุลในร่างกายที่เรียกว่า หยินหยาง ไม่สมดุล ซึ่งในเรื่องนี้ แม้แต่การแพทย์ทางเลือกสมัยใหม่ในกลุ่มประเทศทางตะวันตก ก็เชื่อในเรื่องเดียวกัน แต่ใช้คำเรียกว่า สมดุลของ pH

    กล่าวคือ ค่า pH ของเลือดและระบบสำคัญๆต่างๆ ในร่างกายของคนสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์อยู่ที่ประมาณ pH 7.4 ซึ่งหมายถึงมีความเป็นด่างเล็กน้อย จากค่าเต็มสเกลของ pH คือ 14 หากว่าค่า pH นี้ต่ำกว่า 7 หมายความว่ายิ่งมีความเป็นกรดและมีปริมาณอ็อกซิเจนยิ่งน้อย เป็นภาวะที่เชื้อโรคและโรคภัยต่างๆ ชื่นชอบเป็นพิเศษ

    จำไว้เสมอนะคะว่า ยิ่งภาวะร่างกายมีความเป็นกรดมาก นั่นคือ แม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดสูงต่อความชราของร่างกาย เกิดภาวะของเหลวมากเกินหรือที่เรียกว่าบวมน้ำ และโรคต่างๆ โดยเฉพาะการกลายเซลล์เป็นเซลล์มะเร็ง การรับประทานอาหารที่มีความเป็นด่างจะช่วยปรับค่า pH ในร่างกายและทำให้เกิดกระบวนการสร้างอ็อกซิเจนในเซลล์ต่างๆ ทำให้การทำงานของอวัยวะภายในเป็นไปอย่างสมบูรณ์และยังเป็นปราการป้องกันโรคภัยได้ดี

    เรื่องทฤษฎี Alkaline Diets ขอเล่าเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ เพราะจุดประสงค์ของบทความนี้ต้องการเพียงแค่ อยากให้เพื่อนๆ มีความเข้าใจที่ถูกต้องและพิจารณาด้วยเหตุผลว่าอะไรควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ ควรแชร์หรือไม่ควรแชร์ การแชร์แพร่กระจายเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายที่มันไม่จริง แทนที่จะเป็นผลดี กลับจะเป็นผลเสียหากว่าผู้ที่เชื่อบางรายนำไปปฏิบัติอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แทนที่ผู้ที่แชร์หรือเผยแพร่จะได้บุญกุศลกลับกลายเป็นสร้างเคราะห์กรรมซ้ำเติมให้กับผู้ป่วยไปซะอีก

    ปล. ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้เขียนจากจินตนาการหรือนั่งเทียนนะคะ ได้ศึกษาโดยการอ่านจากข้อมูลมากมายของสถาบันหลายแห่งทั้งในอเมริกาและยุโรป มีแนบ link ไว้ให้ดูบ้างใน comments นะคะ ท่านที่สนใจก็ค้นหาเพิ่มเติมได้ค่ะ

    ขอขอบคุณ Noteเพจ คุณดาวรัชช์ ปรีชาธรรม www.facebook.com/notes/10151478259231316/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โจพุฒิพงศ์ ก้อนวิมล (ข้อมูลเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน เวลา 12:40 น.)

    [​IMG]

    สำนักข่าวnhkของญี่ปุ่นรายงานว่าได้เกิดหิมะตกอย่างหนักมากในขณะนี้ที่เกาะฮอกไกโดและตกมานานกว่า47ชม.แล้ว
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนดล แซ่เล้า ได้แชร์โพสต์ของ Piyacheep S.Vatcharobol

    https://www.facebook.com/Piyacheep/posts/766339943433424

    ๑๓๑๑๕๗๑๑๓๐ ข่าวสั่น บีบคั้นดวงใจ เที่ยงวัน ไม่ค่อยทันเหตุการณ์

    [​IMG]

    นาซาเอง บุคลากรของนาซ่าเอง ออกข่าวยืนยันว่า พลังงาน รังสี ที่มาทำอันตรายโลกนั้น ไม่ได้มาจากดวงอาทิตย์แหล่งเดียว แต่มาจากหลายแหล่งนอกระบบสุริยะ ไม่ว่าซุปเปอร์โนวา หลุมดำในจักรวาล หรือ จากกาแลคซี่อื่นๆ ซึ่งยืนยันชัดเจนว่า ไม่ใช่เกราะสนามแม่เหล็กที่ป้องกันโลกอ่อนตัวลงเท่านั้น แต่สนามแม่เหล็กที่เกิดจากลมสุริยะที่ป้องกันระบบสุริยะเองก็อ่อนตัวลงด้วยเช่นกัน ทำให้พลังงานต่างๆเข้ามายังภายในระบบสุริยะได้ ทำให้มากระทบโลกและดาวบริวารของดวงอาทิตย์ได้ ตามที่ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ค้นพบและสอนเรามานานแล้ว

    [​IMG]

    โดยเฉพาะ นาซ่าเองก็บอกว่า ระบบสุริยะเราเคลื่อนผ่านกลุ่มเมฆในจักรวาล กลุ่มเมฆเหล่านี้ประกอบด้วยอะไรบ้างนาซ่าก็ไม่รู้ ไม่มีข้อมูล แต่นาซ่าวางแผนส่งยาน Voyager 1 และ 2 ออกไปหลายสิบปีแล้ว ยานทั้ง ๒ ได้ผ่านพ้นออกไปนอกระบบสุริยะแล้ว อยู่ใน Interstellar อยู่ในกลุ่มเมฆอวกาศขนาดมหึมาที่ใหญ่กว่ากาเลคซีอยู่ในขณะนี้แล้ว

    กลุ่มเมฆใหญ่กว่ากาแลคซี่??? งง งง ไหมครับ ระบบสุริยะอยู่ในกาแลคซ่ทางช้างเผือก แล้วไอ้เมฆที่ว่านี้ ไหงใหญ่กว่ากาแลคซี่ ??? ชั่งมันนะค่ะ ปล่อยไว้อย่างไม่เข้าใจ ตาใจกับข้อมูลของนาซ่าที่ขัดแย้งกันเองต่อไป

    ดังนั้น เรามาสรุปอันตรายที่โลกได้รับได้ว่า มาจากปัจจัย จากแหล่งที่มาหลากหลาย ไม่ใช่แค่จากดวงอาทิตย์อย่างเดียว อย่างที่หลายท่านสงสัย แย้งผมบ้าง ไม่แย้งผมบ้างว่า ดวงอาทิตย์ไม่ระเบิด CME หลุมดำไม่ใหญ่ไม่ปล่อยสนามแม่เหล็กได้ไม่มาก แต่ทำให้ภูิอวกาศสะเทือน แปรปรวน ทำไมภูมิอากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สารพัดพายุ คงเข้าใจแล้วนะครับ ว่าสิ่งที่ ดร.ก้องภพ สอน นักวิชาการอิสระ ไม่อิสระ แต่ใจอิสระศึกษาและมาแชร์ข้อมูลกัน แล้วผมเป็นโฆษกกระจายเสียงต่อมานั้น มันเป็นเรื่องจริงที่เขาค้นพบกันมานานแล้ว แม้นไม่ได้เปิดสอนเป็นวิชาในสถาบันการศึกษา แม้นไม่มีหลักสูตรการสอนในสถาบันการศึกษา

    เอาแค่การโดยสารเครื่องบินที่บินสูงกว่า ๑๐ กิโลเมตร มีปริมาณรังสีคอสมิคมากกว่าเหนือพื้นดินระดับต่ำถึง ๓๐ เท่า

    คนที่บินนานๆครั้งก็ไม่น่าห่วง(จริงๆน่าห่วง) คนที่บินปีละเกิน ๑๐๐,๐๐๐ ไมล์ จะโดนรังสี เหมือนโดน X-Ray ปอด ๒๐ ครั้ง ซึ่งผมว่าเขาพูดให้ดูดี เพื่อไม่ให้คนแตกตื่น โดยเฉพาะพนักงานสายการบิน กัปบิตันเครื่องบินต่างๆ ที่อาบรังสีคอสมิคทุกครั้งที่บิน (ไม่นับรวมรังสีแมมาและเอ็กซ์)

    นาซ่าออกข่าวแค่รังสีคอสมิค ไม่ได้กล่าวถึง เอ็กซ์ และ แกมมา ซึ่งก็มีอยู่ด้วย มีมานานแล้ว ไม่งั่้นสิ่งมีชีวิตจะเริ่มกลายพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆในรอบ ๒๐ ปีที่ผ่านมาได้อย่างไรกัน

    ที่นี้ ข่าวนี้ มีผลข้างเคียงคือ เป็นการยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่า โลกถูกปูพรหมด้วยรังสีคอสมิค มาก และมากขึ้นเรื่อยๆ

    โลกจึงมีปริมาณน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ (๘๐%ของนิวเครียสในคอสมิคคือไฮโดรเจน) และโลกมีแน่โน้มว่าจะเกิดเหตุการน้ำท่วมโลกแบบ Noah ซึ่งน้ำท่วมโลกนี้ ไม่นับรวมถึงน้ำกระฉอกจากโพลชิ้ปนะครับ เราต้องแยกออกจากกันก่อน

    ที่นี้ พอมาพูดถึงน้ำท่วมโลก ผมก็ได้ข้อมูลจากนาซ่าที่ออกมาสรุปยอมรับว่า น้ำแข็งขั้วโลกละลายหายลงมาเติมเต็มน้ำทะเลให้สูงขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆจริง

    ที่ผ่านมาเราจะพบข่าวจริงที่ลวงว่า พอเข้าฤดูหนาว น้ำแข็งขั้วโลกก่อตัวรวดเร็วกว่าปกติ ที่ฟังดูผิวเผินแล้วพบว่า ขั้วโลกไม่ได้ละลายแถมน้ำแข็งจะมากขึ้นด้วยซ้ำไป แต่จริงๆไม่ใช่นะครับ

    [​IMG]

    ภาพที่ ๓ เป็นการบอกพื้นที่ปริมาณน้ำแข็งในปี ค.ศ. 1979 กับ 2013 ท่านจะเห็นว่า วงพื้นที่ของน้ำแข็งเล็กลง

    [​IMG]
    ภาพที่ ๔ แสดงปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกในปี ต.ศ. 1979

    [​IMG]
    ภาพที่ ๕ แสดงปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกในปี ต.ศ. 2013
    ท่านจะเห็นว่าปริมาณน้ำแข้งลดลงมากจากระดับความสูง

    [​IMG]
    ภาพที่ ๖ แสดงปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกที่หายไปทั้งพื้นที่และปริมาณ จากความสูงระหว่างปี ต.ศ. 1979-2013

    น้ำแข็งที่ละลายไปไปไหนหละ?

    น้ำแข็งที่ละลายไปก็มาเพิ่มความสูงให้กับน้ำทะเล

    รังสีคอสมิคที่มาเพิ่มน้ำในโลก แล้วน้ำที่เพิ่มขึ้นไปไหนหละ?

    ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากรังสีคอสมิคก็ไหลลงสู่ทะเล ใช่ไหมครับ

    ดังนั้น เมืองชายทะเลต่างๆจะรอดพ้นจากปริมาณน้ำทะเลที่เพิ่มมากขึ้น สูงขึ้นอย่าถาวรไหม? สหประชาชาติเตือนมาว่าประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ น้ำทะเลจะท่วมขึ้นสูงถาวรทั้วโลก ๒-๖ เมตร

    เอาข้อมูลเพียงแค่นี้ กทม. และภาคกลางที่ราบลุ่มปากน้ำเจ้าพระยาก็ล่มจมน้ำ ไกลไปถึง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยาแล้ว

    ชาวกรุงเทพที่มาจากต่างจังหวัด ส่วนมากมีที่ดินในบ้านเกิดตนเองแล้ว กรุงเทพจมน้ำ ก็กลับไปทำไร่ไถนาได้

    แต่ชาวกรุงเทพโดยกำหนัด ทีไม่มีนิวาสถานบ้านช่องต่างจังหวัดนี่หละจะไปไหน???

    ผมขอย้ำนะครับว่า ให้ท่านที่อยู่ กทม เมืองชายทะเลทั้งหลายแหล่ มองหาที่สูงๆไว้ ไปซื้อไปหา หรือ ไปปลูกสัมพันธไมตรีกับเพื่อน หรือ คนรู้จัก ที่อาศัยบนพื้นที่สูงไว้ น้ำเข้าพื้นที่ที่ท่านอยู่เมื่อไหร จะได้มีที่ไป ซึ่งที่พูดมานี่เพียงแค่น้ำทะเลสูงขึ้น ๖ เมตร จากน้ำแข็งละลายและน้ำเพิ่มจากรังสีคอสมิคที่มาจากอวกาศเท่านั้น ยังไม่เกี่ยวกับโพลชิ้ป ที่น้ำจะถาโถมเข้าบนฝั่งสูงประมาณ ๒๓๕ เมตรเลย ก็รู้สึกแย่แล้วใช่ไหมครับ

    อย่าหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่าหวังพึ่งพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม อย่าห่วงพระองค์ท่านและราชวงศ์ ให่ห่วงตัวเองและครอบครัวก่อน ว่าทำอย่างไรจะได้ไม่ต้องพระราชภาระ ให้พระองค์ท่านต้องพระราชทาน ถุงยังชีพพระราชทานกันดีกว่าไหม ????

    ใครช่วยตนเองได้ ขยับขยายหาทาง หาโอกาสได้ เลือกทำซะตอนนี้ดีกว่าไหม??

    ย้ายครอบครัว และธุระกิจออกจากภาคกลางไปภาคเหนือสูงๆดีหว่าไหม ???

    และที่สำคัญ ฝึกฝนการเกษตรแล้วหรือยัง ???? ปลูกข้าวกินเองได้ไหม ปลูกกลว้ย มัน เผือก มะม่วง ส้ม ฯลฯ กินเองเป็นไหม???

    สรรพสิ่งทั้งจักรวาลล้วนตกอยู่ใต้กฏไตรลักษณ์ เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป
    พระพุทธเจ้า พระเยซู พระนบีโมฮัมหมัด ยังต้องดับไป กรุงโรมและอาณาจักรโรมันยังพังทลาย
    ดังนั้น ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้า จึงเป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับ

    ต้องทำแล้วนะครับ ทำให้เรียบร้อยก่อนสิ้นปีนี้ดีที่สุด หรือ อย่างช้าสุดๆๆๆแบบรถด่วนขบวนสุดท้ายคือก่อนตรุษจีน ยิ่งช้ายิ่งหมดโอกาส ยิ่งช้ายิ่งเสี่ยงมากขึ้น

    อย่าหวังว่าจะมีการเตือนจากรัฐบาลชาติไหนในโลกเลยครับ
    อย่าหวังว่านาซาจะยอมรับและเตือนในช่วงนี้
    เพราะการเตือนคือการยอมรับ การยอมรับด้วยว่าจะเกิดการโกลาหน จราจลคนหนีตายไปทั่วทุกชุมชน ปล้น ฆ่า ข่มขืน สารพัดอาชญากรรม เกิดขึ้น จำนวนทหาร ตำรวจทั้งหมดทุกชาติก็เอาไม่อยู่

    หากโลกจะไม่เปลี่ยนแปลง คงไม่มีการสร้างที่หลบภัยใต้ดินกันไปทั่วโลกหรอกใช่ไหมครับ ลองเสริทกูลเกิ้ล disaster underground shelter ดูนะครับ หรือ ถามเพื่อนๆ หรือ คนรู้จักที่ทำงานที่นาซ่าว่า เขามีขั้นตอน มีการซ้อม วางแผนการอพยพเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีในภาวะฉุกเฉินแล้วใช่ไหม ใครจะไปขึ้นรถบัสคันไหน แถบป้ายสีอะไร ไปที่ไหน

    เขาซ้อมและเตรียมการรับมือเพื่ออะไร ในเมื่อโลกปกติดีอยู่ และจะปกติตลอดไป
    ข่าวร้ายต่างๆ นาซ่าปฏิเสธเสมอมาไม่จริง จะไม่เกิดขึ้น แต่นาซ่าวางแผนอพยพ ซ้อมอพยบบ่อยๆ หาที่หลบภัยทำไม ???

    Eyes Open No Fear

    RADS ON A PLANE: On Nov. 11th, Tony Phillips of spaceweather.com flew from California across the USA to attend a science communications meeting in Washington DC. As an experiment, he decided to take a radiation sensor onboard the plane. The results were eye-opening. During the apex of his flight to DC, cruising 39,000 feet above the desert between Reno and Phoenix, he recorded a dose rate almost 30 times higher than on the ground below:

    There was no solar storm in progress. The extra radiation was just a regular drizzle of cosmic rays reaching down to aviation altitudes. This radiation is ever-present and comes from supernovas, black holes, and other sources across the galaxy.

    In a single hour flying between Reno and Phoenix, the passengers on Phillips's flight were exposed to a whole day's worth of ground-level radiation--or about what a person would absorb from an X-ray at the dentist's office. That's not a big deal for an occasional flyer, but as NASA points out, frequent fliers of 100,000 miles or more can accumulate doses equal to 20 chest X-rays or about 100 dental X-rays. Lead aprons, anyone?

    The radiation sensor is the same one that Earth to Sky Calculus routinely flies to the stratosphere to measure cosmic rays. It detects X-rays and gamma-rays in the energy range 10 keV to 20 MeV. These energies span the range of medical X-ray machines and airport security scanners. Indeed, when the sensor passed through TSA security at the Reno airport, it began to buzz loudly, signaling a heavy dose of X-rays in the carry-on baggage scanner. TSA agents gathered around the instrument to investigate and they were quite interested when Phillips explained its function. Several wanted to know if they themselves were exposed to radiation in the vicinity of the luggage scanner; a quick survey of the area revealed no leaks.

    After boarding the plane, Phillips monitored radiation levels closely. Dose rates tripled within 10 minutes of take-off and remained high for the duration of the flight. This simple experiment shows that space weather can touch us even when the sun is quiet. Imagine what an actual solar storm could do.

    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids

    คลิปน้ำแข็งขั้วโลกละลาย
    https://www.youtube.com/watch?v=f4H7SO47pH8
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนดล แซ่เล้า

    ข้อมูลทางวิชาการจากสารคดีสำรวจสะดือทะเลที่ลึกกว่า ๗ ไมล์ ก็ยืนยันว่า โลกมีการสลับขั้วสนามแม่เหล็ก 180' ทุกๆ ๓,๐๐๐ ปี
    ก็ถือว่ามูลต่างๆยืนยันตรงกันนะครับว่าโลกสลับขั้วตามวัฎจักรสามพันกว่าปี

    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/yODlRbpv2PA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    [​IMG]

    ทำลายสถิติในรอบเดือนพฤศจิกายน กับปรากฏการณ์ฤดูหนาวสุดหฤโหด ของสหรัฐฯ

    หลายพื้นที่ในประเทศสหรัฐฯ เช่น ภาคเหนือ , กลาง , ตะวันออก , ใต้ กำลังเผชิญพายุหิมะพัดถล่มและอุณหภูมิลดต่ำลงจนติดลบมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ -27 C ถึง 3 C โดยที่รัฐวิสคอนซิน มีหิมะตกสูงถึง 50 นิ้ว ขณะที่อุณหภูมิในเยลโล่สโตน ช่วงกลางวันอยู่ที่ -13.8C แต่กลางคืนลดฮวบลงไปอยู่ที่ -32C ถึง -23C โดยประมาณ ตามการย้อยลงของกระแสอากาศเย็นขั้วโลกหรือปรากฎการณ์ Polar Vortex ที่ส่งผลให้กว่า 50 รัฐของสหรัฐต้องเผชิญกับภาวะอากาศที่หนาวจัดแบบขั้วโลก

    ที่มา
    ทำลายสถิติในรอบเดือนพฤศจิกายน กับปรากฏการณ์ฤดูหนาวสุดหฤโหด ของสหรัฐฯ | สถานการณ์ภัยพิบ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    สัตว์ทะเลเกยตื้นเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 4-12 พ.ย.57

    [​IMG]

    - วันที่ 4-12 พ.ย.57 ปลิงทะเลนับหมื่นตัว ถูกคลื่นพัดมาเกยตื้นบนชายหาดมาเลเซีย ชาวบ้านลือสนั่น หวั่นเป็นลางบอกเหตุภัยสึนามิ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยปลิงทะเลโล้นลื่นนิ่มสายพันธุ์โบรน็อก (Bronok) ชาวบ้านหลายคนจึงพากันมาเก็บไปทำทำอาหารจานเด็ด "เคราบู โบรน็อก" (Kerabu Bronok) เมนูสลัดปลิงทะเลอันโด่งดังของแถบนี้

    - วันที่ 10 พ.ย.57 ซากวาฬหลังค่อมยาว 10 เมตร พบลอยตายอยู่ในทะเล ห่างออกไปประมาณ 20 ไมล์ จากชายฝั่งของเมือง เพิร์ท ด้านตะวันตกออสเตรเลีย ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า การตายของวาฬตัวนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีรายงานตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เราพบวาฬและโลมาตายมากถึง 12 ครั้ง จากรายงานที่มีในทวีปออสเตรเลีย ซึ่งบางตัวก็ตายตามธรรมชาติสิ้นอายุไข และบางตัวตายอย่างลึกลับเช่น ป่วยเป็นโรค หรือ การสูญเสียทิศทาง

    - วันที่ 10 พ.ย.57 วาฬขึ้นอืดถูกพัดมาเกยตื้นที่ชายฝั่ง Saintes-Maries-de-la-Mer ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส ด้านทางการหวั่นระเบิดสั่งให้ประชาชนอยู่ห่าง ส่วนสาเหตุการตายนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

    - วันที่ 9 พ.ย.57 พบวาฬหลังค่อมเกยตื้นตายบนชายหาด Gold Coast ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย ด้านเจ้าหน้าที่เตรียมผ่าพิสูจน์ศพวาฬ

    - วันที่ 8 พ.ย.57 ชาวบ้านของ ต.ขนาบนากและต.ท่าพญ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แห่เก็บหอยนานาชนิด หลังคลื่นซัดเกยตื้นริมชายหาดปากพนังนับ 10 ตัน ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดฝนตกหนักและมีคลื่นลมแรงในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2-3 วัน ที่ผ่านมา

    - วันที่ 8 พ.ย.57 ซากปลาตายนับพันตัวประมาณ 20 ตัน และมีซากเต่าทะเลอีก 4 ตัว ถูกซัดเข้ามาในอ่าวกวานาบารา ของนครรีโอเดจาเนโร ที่ประเทศบราซิล ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่หาคำอธิบายไม่ได้ เพราะว่ายังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามลพิษในน้ำเป็นสาเหตุทำให้ปลาตาย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากอุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นไปอยู่ที่ 27-30 องศาเซลเซียส ในช่วงหลายวันก่อนทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลงจนเป็นเหตุให้ปลาตายจำนวนมาก

    - วันที่ 3-4 พ.ย.57 ปลาซาร์ดีนจำนวนมหาศาลเกยตื้นตายตลอดชายฝั่งยาว 4 กิโลเมตร ที่ฮอกไกโด ของญี่ปุ่น คาดอาจจะเกิดจากพายุไต้ฝุ่นนูรี แต่ชาวประมงท้องถิ่นเผยว่า เกิดมา 60 ปีไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์อันน่าแปลกใจแบบนี้ หมายความว่าพายุลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย จึงไม่น่าเกี่ยวกัน อย่างไรก็ตาม มีผู้แสดงความคิดเห็นว่า มีการปล่อยน้ำเสียจำนวนมากที่อาจปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีลงทะเลจากโรงงานไฟฟ้าฟูกูจิมะ รวมไปถึงมีผู้แสดงความคิดเห็นว่าอาจเกิดจากก๊าซมีเทนใต้ทะเลที่รั่วออกมา

    สัตว์ทะเลเกยตื้นเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 4-12 พ.ย.57 | สถานการณ์ภัยพิบัติ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nuttawut Meungjaruen

    14 พ.ย. เตือนห้ามนำส้มจีนที่มีใบติดเข้ามาขายในเมืองไทย โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท

    [​IMG]

    กรมวิชาการเกษตร เตือน ห้ามนำส้มจีนที่มีใบติดเข้ามาจำหน่ายในไทย เพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช หากพบมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนผู้บริโภคท่านใด พบเห็นผู้ค้าขายส้มจีนมีใบสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมได้ทันที
    นายธีระ รัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีการนำส้มจีนที่มีใบติดเข้ามาจำหน่ายในไทยแบบผิดกฎหมาย เพราะขายได้ราคาดีกว่าส้มไม่มีใบ ความผิดในลักษณะนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.กักพืช มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    อย่างไรก็ดี แม้ว่าส้มจากจีนจะสามารถนำเข้ามาประเทศไทยได้อย่างถูกกฎหมายก็ตาม แต่ก็ต้องมาจากสวนหรือโรงคัดบรรจุที่ผ่านการรับรอง มีใบรับรองสุขอนามัย และต้องไม่มีกิ่ง ก้านใบ ดิน ติดเข้ามาด้วย เพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช ที่สร้างความเสียหายต่อระบบการเกษตร แต่คนไทยนิยมซื้อส้มมีใบติด เลยทำให้เกิดการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายแบบผิดกฎหมาย เพราะขายได้ราคาดีกว่าส้มไม่มีใบ
    ทั้งนี้ หากตรวจพบการกระทำผิดครั้งแรกจะแจ้งเตือนก่อน ส่วนส้มที่มีใบติดมาต้องเอาใบออกทั้งหมด หรือทำการเผา-ฝัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีศัตรูพืชติดมาด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายผู้นำเข้าต้องรับผิดชอบทั้งหมด ส่วนบริษัทที่ถูกตรวจพบจะถูกขึ้นบัญชีเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด หากยังทำผิดต่อเนื่องจะถูกระงับการนำเข้าทันที ขณะเดียวกันจะทำหนังสือแจ้งไปยังประเทศจีน ให้เข้มงวดบริษัทผู้ส่งออกรายนั้นด้วย
    สำหรับสถิติปีที่ผ่านมา นายธีระ เผยว่า มีการนำเข้าส้มจีนทั้งสิ้น 722 เที่ยว จำนวน 18,050 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,330 ล้านบาท พบบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย 11 บริษัท จำนวน 56 เที่ยว ปริมาณ 1,400 ตัน คิดเป็นมูลค่า 24 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบัน มีผู้ประกอบการ 20 บริษัท นำเข้าส้มจำนวน 230 เที่ยว หรือประมาณ 5,750 ตัน คิดเป็นมูลค่า 960 ล้านบาท แต่ยังไม่มีรายงานว่าพบบริษัทกระทำผิดกฎแต่อย่างใด
    เตือนห้ามนำส้มจีนมีใบติดเข้ามาขายในเมืองไทย โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท : มติชนออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...