ติดตามสถานะการณ์

ขอปิดสถานที่

พฤหัส-ราหู..ย้ายเรือนพร้อม สวด “ยัญญกิจ”..ส่งพลังกันภัย
โดย ก้อง กังฟู 9 พ.ย. 2557 05:01


ผู้ศรัทธาเข้าร่วมพิธีกรรม.

ดวงดาว...ที่ล่องลอย อยู่ในห้วงอวกาศในคาบเวลาอันเนิ่นนาน จนเป็นอนันต์ หรือ...อินฟินิตี้

...คือวัตถุธาตุอันเป็นสสารกอดเกาะกันเป็นก้อน จะสะสม พลังงานสำแดง ดูดดึงดีดผลักมวลสารก้อนอื่นๆ ให้เกิดความเคลื่อนไหวตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า ก้อนมวลสาร หรือ “ดาว” ดวงนั้นๆจะมีความเหมือนหรือแตกต่าง...

O O O

จาก...หลักการและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็จะผกผันเข้าสู่ดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับว่าผู้ที่มีวิชาการในศาสตร์ใด จะยกเอามาอ้างเอ่ยตามความรู้ความถนัดของตน

มวลมนุษยชาติ ผู้ชาญฉลาดรู้จักนำเอาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นตัวกำหนดถึงความเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคมหรือแม้แต่วิถีชีวิตของมวลมนุษย์ทั้งหลาย โดยสมมติกันว่า ดาวแต่ละดวงคือเทพเจ้าแต่ละองค์ ซึ่งมีอุปนิสัยใจคอที่แตกต่าง สามารถบันดาลสิ่งดี หรือร้ายแก่ผู้อยู่ภายใต้อิทธิพล

ทั้งนี้ทั้งนั้น...ขึ้นอยู่กับการสืบสานจากชนกลุ่มใด ...กรีก หรือว่า ฮินดู...!!


ฮินดู หรือ พราหมณ์...มี คติความเชื่อว่าวิถีโคจรของเทพเจ้า (ประจำดวงดาว) เคลื่อนย้ายเข้าในเรือนราศี ถ้าได้เรือนดีก็จะให้ความเป็นสิริมงคล แต่หากเป็นเรือน ไม่พึงพอใจก็จะส่งผลร้าย...

กับความเลื่อมใสศรัทธาต่อศาสตร์...แม้แต่กษัตริย์รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ “พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ก็ยังศึกษาและ

นำมาพยากรณ์สถานการณ์ต่างๆได้อย่างแม่นยำ และใช้ในการเปลี่ยนดวงเมืองอีกด้วย

O O O

ความเลื่อมใสศรัทธา...แม้จะนานวันนานปีก็ยังไม่เสื่อมถอย โหรยูรศิษย์ครูเทพย์ชฎาทอง เป็นผู้หนึ่งที่นำเอาศาสตร์นี้มาวิเคราะห์ตามปรมาจารย์สายโหราเวทย์ถึง 3 ภาค เพื่อให้เกิดความแม่นยำ

...ที่สำคัญสุดคือ เมื่อรู้จักทำนาย หรือเรียนผูกแล้วต้องเรียนแก้ คือจักต้องรู้จัก พิธีกรรมสลายภัย หรือสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นจากวิถีโคจรของดวงดาว...

อย่างปีนี้ ล่วงถึง ร.ศ.222 หรือ พ.ศ.2557...คาบเกี่ยว นักษัตรม้ากระทืบโรง (มะเมีย) ถึงแพะราชครู (มะแม) ดาวใหญ่โยกย้ายราศรีถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกและที่ 2 ผ่านไปแล้ว คือ ช่วงพระพฤหัสบดียกเมื่อวันที่ 17 มีนาคมและพระราหูย้าย 30 มิถุนายน...


หลวงพ่อปู่นริศ.
ครั้งนี้เป็นที่ 3... ถือว่าแรงสุดและเข้มขลังด้วยโยกย้าย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พร้อมกัน 2 ดวงดาว เวลา 08.55 น. ดาวพฤหัสฯมณฑ์ (เดินเป๋ไม่ตรงทาง) ถึง 16.29 น. ดาวพระเสาร์ ก็มณฑ์เช่นกัน

(...โบราณท่านว่า ดาวเดินเร็วเดินผิดปกติ ดาวเดินเป๋ๆ ผิดปกติ เสมือนกับคนมึนเมา มนุษย์โลกได้รับเหตุจากมหันตภัยธรรมชาติ โรคระบาดผู้คนล้มตาย บ้านเมืองร้อนระอุและอื่นๆ รวมถึงภาวะวิกฤติของสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งไม่ดีไม่เป็นมงคล...)

โหรยูร...จึงได้รับบัญชาจากครูให้จัดพิธีกรรมสวดหนุนสวดเสริมดวงชะตาให้มั่นคงเข้มแข็ง เชิญเทพยดามาคุ้มครองให้พ้นภยันตรายทั้ง 108 เภทภัยที่อาจจะเกิดขึ้นช่วงกาลอาเพศ...

O O O

กับบัญชา...จึงกำหนดเอาวัดแจ้งสิริสัมพันธ์ (ใกล้ๆกับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า) ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอเมืองนนทบุรี เป็นมณฑลพิธีจัดสวดมหายัญญกิจ (เป็นพราหมณ์พิธีที่สืบสานกันมากว่า 2 พันปี ด้วยบัตรพลีดาวนพเคราะห์ชุดใหญ่ เชื่อกันว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง)
ถือฤกษ์...ช่วงดาวทั้ง 2 ดวงเข้าเรือนพักตร์เรียบร้อย 2 ราตรี คือ...23 พฤศจิกายน

โดย...เริ่มพิธีกรรมตั้งแต่ 06.45 น. ด้วยการตั้งบายศรีแห่งมหายัญญกิจพิธีชุดใหญ่ พร้อมเครื่องสังเวยกระยาบวช ฉัฎฎะมังสาหาร อาหารคาว 16 อาหารหวาน 16 และผลไม้ตามฤดูกาล... อย่างเต็มสูตร


O O O

ยามดี 09.08 น. ....... เรื่องการเงินการคลัง อ่านโองการบวงสรวงเทพยดาทั้ง 31 ภูมิ อัญเชิญครู พระครูเทพย์ ครูโพธิสัตโต พระแม่กวนอิมและ....

ช่วงบ่าย...ได้ยามคู่ธาตุไฟหมายถึง “ธุรกิจการงาน” เข้าพิธีตั้งจิตอธิษฐานให้ 108 สาขาอาชีพขอพร 108 มหาสำเร็จ ให้โชติช่วงชัชวาลรุ่งเรืองตลอดปีมะเมียและปีมะแม...

และ...เสริมพลังด้วยสวดสะเดาะเคราะห์ สวดบูชาพระเคราะห์กับเทพเจ้าทีละองค์ และถือโอกาสขอเงินเทวดาให้ทุกๆคนได้สมปรารถนาทำมาหากินได้คล่องๆรวยๆ พร้อม สวดโองการพระปริตร ใน 12 ตำนาน รับเทวดาประจำวันเกิดทีละองค์ให้ทุกท่านที่เข้าร่วมพิธี...


ก้อง กังฟู

ข่าวไทยรัฐ

 

ไขปริศนาความสยอง งูโผล่จากโถส้วมได้ไหม
6 พ.ย. 57 16.22 น. |



สนับสนุนเนื้อหา ไขปริศนาความสยอง งูโผล่ขึ้นมาจากโถส้วมได้อย่างไรยังเป็นข้อสงสัยของหลายคน นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

ไขปริศนาความสยอง งูโผล่ขึ้นมาจากโถส้วมได้ไหม ยังเป็นข้อสงสัยของหลายคน

จากข่าวงูเหลือมเลื้อยโผล่ขึ้นมาจากคอห่าน กัดแขนเจ้าของบ้านแล้วพยายามดึงลงไปในโถส้วม เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บเย็บไป 20 เข็ม ข่าวนี้สร้างความสยองที่มาพร้อม ๆ กับคำถามที่เกิดขึ้นทันทีแล้วงูเหลือมเลื้อยแทรกตัวเข้าไปอาศัยอยู่ในโถส้วมได้อย่างไร ตามรายงานข่าวล่าสุดงูตัวดังกล่าวเจ้าของบ้านเปิดเผยว่ายังไม่สามารถจับได้ ยังคงสร้างความหวาดผวาให้กับคนในบ้านไม่กล้าเข้าห้องน้ำต้องหันมาใช้กระโถนในการปลดทุกข์แทน

มาดูวิธีการสร้างส้วม แบบระบบบ่อเกรอะ บ่อซึม จากโถส้วมด้านล่างจะต่อเข้ากับบ่อเกรอะซึ่งจะมีท่อเชื่อมต่อเข้าสู่บ่อซึมและจากบ่อซึมจะมีท่อเชื่อมเข้ากับท่อระบายน้ำสาธารณะด้านนอกเป็นบ่อรวมใหญ่

ส่วนส้วมระบบถังสำเร็จ ระบบการต่อจากโถส้วมด้านล่างจะต่อเข้ากับถังสำเร็จและจากถังสำเร็จจะมีท่อเชื่อมต่อเข้ากับท่อระบายน้ำสาธารณะเช่นเดียวกันกับระบบบ่อเกรอะเพียงแต่มีแค่ถังเดียวเท่านั้น

และคำถามที่ว่าเหตุใดงูเหลือมตัวดังกล่าวถึงได้โผล่มาจากคอห่านได้ จากข้อสันนิษฐานงูอาจจะเลื้อยผ่านเข้ามาจากท่อระบายน้ำและหลุดเข้ามาที่บ่อเกรอะจากนั้นแทรกตัวเข้ามาผ่านในท่อเชื่อมเข้ากับคอห่านจนกระทั่งสามารถโผล่มาจากคอห่านได้ โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้นั้นสามารถเป็นไปได้หากมันไม่ขาดอากาศชิงตายไปเสียก่อน

ทั้งนี้ จากในคลิปเหตุการณ์จำลองว่าสิ่งมีชีวิตสามารถโผล่ขึ้นมาจากโถส้วมได้หรือไม่ โดยการนำหนูมาปล่อยในระบบชักโครก คลิปดังกล่าวมีชื่อว่า Toilet Rat - Szczur w sedesie ในภาพปรากฏเป็นหนูกำลังวิ่งขึ้นมาจากท่อด้านล่าง หนูวิ่งผ่านมาจากท่อที่จะไหลลงสู่บ่อเกรอะ โดยหนูตัวดังกล่าวได้วิ่งขึ้นมาตามท่อและเข้าสู่โถชักโครกซึ่งใช้เวลาไม่นานในการโผล่มาที่โถคอห่าน ซึ่งตามธรรมชาติแล้วบ่อกักเก็บสิ่งปฏิกูลนี้จะมีช่องสำหรับเปิดสูบ ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถเล็ดลอดแทรกตัวเข้ามาได้

<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/P6EN0P6VYQc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


จากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและฝ่ายปกครองของจังหวัดปทุมธานีได้แนะนำให้ประชาชนทำส้วมใหม่โดยการเอาตะแกรงกันงูมาติดตามท่อน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันงูจะได้ไม่เลื้อยเข้ามาโผล่ที่คอห่านได้อีก

ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!

ไขปริศนาความสยอง งูโผล่จากโถส้วมได้ไหม

 

ผู้นำธุรกิจแอฟริกา ตั้งกองทุนฉุกเฉิน สู้วิกฤติอีโบลา
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2557 05:37



กลุ่มธุรกิจชั้นนำในทวีปแอฟริกา ตกลงร่วมมือกันจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่าเกือบพันล้านบาท ช่วยสู้วิกฤติอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มธุรกิจชั้นนำในทวีปแอฟริกา จัดการประชุมกันที่กรุง แอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย ตกลงร่วมมือกันจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 28.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 934 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนในการส่งเจ้าหน้าที่การแพทย์อย่างน้อย 1,000 คน ไปยังประเทศกินี, เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ชาติในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเชื้อไวรัสอีโบลาอยู่ในขณะนี้

ดลามินี ซูมา ประธานสหภาพแอฟริกา กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงแอดดิสอาบาบา ว่า การระดมทุนครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ใหญ่กว่า เพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้ออีโบลาในอนาคต ส่วนนาย สไตรฟ์ มาซิยิวา ประธานบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ 'อีโคเน็ต ไวร์เลส' กล่าวว่า บริษัทชั้นนำหลายแห่งสัญญาว่าจะมอบเงินสมทบในกองทุนฉุกเฉินนี้ ซึ่งจะบริหารโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งแอฟริกา (เอดีบี)

ด้านสถานการณ์การระบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก คริส สโตกส์ หัวหน้าทีมตอบสนองการระบาดของอีโบลาขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) เผยว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไลบีเรียน้อยลง ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ยกระดับการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน สโตกส์กล่าวว่า การระบาดในกินีกำลังเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

ทั้งนี้ หลังจากไวรัสอีโบลาเริ่มระบาดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะชนิดนี้ล่าสุดอยู่ที่ 4,960 ราย จากผู้ป่วยทั้งหมดประมาณ 14,000 คน โดยไลบีเรียเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด 2,766 ราย

ผู้นำธุรกิจแอฟริกา ตั้งกองทุนฉุกเฉิน สู้วิกฤติอีโบลา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เฒ่ามะกันวัย 90 จ่อนอนคุก ฐานจัดเลี้ยงอาหารคนไร้บ้าน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2557 02:46



นักเคลื่อนไหววัย 90 ปี ขององค์กรไม่แสวงกำไร ถูกจับกุมตัวและอาจถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 เดือน ฐานจัดเลี้ยงอาหารแก่คนไร้บ้าน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อาร์โนลด์ แอ็บบ็อตต์ นักเคลื่อนไหววัย 90 ปี ขององค์กรไม่แสวงกำไร 'เลิฟ ไธ เนเบอร์' (Love Thy Neighbor) ซึ่งคอยจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารแก่คนไร้บ้านจำนวนหลายร้อยคน ในเมือง ฟอร์ต เลาเดอร์เดล ทางใต้ของรัฐฟลอริดามานานหลายสิบปี กำลังจะต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 2 เดือน ฐานละเมิดกฎหมายห้ามเลี้ยงอาหารคนไร้บ้านในที่สาธารณะ ซึ่งเพิ่งบังคับใช้ในปีนี้

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (5 พ.ย.) นายแอ็บบ็อตต์จัดเลี้ยงอาหาร 4 อย่างให้แก่คนไร้บ้าน โดยมีตำรวจถ่ายวิดีโอจากที่ไกลๆ โดยพวกเขายอมให้นายแอ็บบ็อตต์และอาสาสมัครเสิร์ฟอาหารแก่คนไร้บ้านทุกคน ก่อนเข้าจับกุม


---
@อาร์โนลด์ แอ็บบ็อตต์ เลี้ยงอาหารคนไร้บ้าน
---
ก่อนหน้านั้นในวันเสาร์ (1 พ.ย.) นายแอ็บบ็อตต์เคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนายแอ็บบ็อตต์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า ในครั้งนั้นตำรวจนายหนึ่งบอกกับเขา ให้วางจานลงเดี๋ยวนี้ เหมือนกับว่าเขาถืออาวุธอยู่ และเขายืนยันว่าจะทำกิจกรรมการกุศลนี้ต่อไป แม้ว่าจะต้องเข้าคุกก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ตำรวจเมืองฟอร์ต เลาเดอร์เดล ออกมากล่าวปกป้องตัวเองว่า พวกเขาเพียงบังคับใช้กฎหมาย "เราขอเน้นย้ำว่า จุดประสงค์ของกฎหมายนี้ไม่ใช่การห้ามให้อาหารแก่คนไร้บ้าน แต่เพื่อรักษาสมดุลที่จำเป็นต่อประชากรทั้งหมดของเมืองนี้"


---
@อาร์โนลด์ แอ็บบ็อตต์ ปั๊มลายนิ้วมือขณะตำรวจเข้าจับกุมเมื่อวันพุธ
---
ด้านกลุ่มสิทธิ์ผู้ไร้บ้านระบุว่า กรณีของนายแอ็บบ็อตต์แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลท้องถิ่นทั่วสหรัฐอเมริกา เริ่มควบคุมการแบ่งปันอาหารแก่คนไร้บ้านมากขึ้น ซึ่งพวกเขาเข้าใจว่ารัฐบาลท้องถิ่นต้องการลดจำนวนคนไร้บ้านลง แต่วิธีนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ทั้งนี้ กฎหมายใหม่ของเมือง ฟอร์ต เลาเดอร์เดล ไม่เชิงห้ามเลี้ยงอาหารคนไร้บ้าน แต่กำหนดว่า จุดที่จัดเลี้ยงต้องอยู่ห่างกันมากกว่า 152 เมตร และห่างจากที่อยู่อาศัยของประชาชน 500 ฟีต หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 เดือน และปรับอีก 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ

เฒ่ามะกันวัย 90 จ่อนอนคุก ฐานจัดเลี้ยงอาหารคนไร้บ้าน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ยูเครนอ้าง รัสเซียลอบส่งรถถังหลายสิบคันเข้าประเทศ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 พ.ย. 2557 04:24



รัฐบาลยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า ลอบส่งรถถังและพาหนะทางทหารหลายสิบคนข้ามชายแดนเข้าไปในดินแดนของพวกเขาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนออกมากล่าวหาประเทศรัสเซียว่า ลักลอบส่งรถถังและพาหนะทางทหารหลายสิบคนข้ามชายแดนเข้าไปในดินแดนของพวกเขา ขณะที่รัฐบาลรัสเซียออกมาปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และคำกล่าวหาของยูเครนถือเป็นการยั่วยุ

อันเดรย์ ลีเซนโก โฆษกกระทรวงกลาโหมแห่งยูเครน กล่าวในงานแถลงข่าวสั้นๆเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ย.) ว่า รัสเซียส่งรถถัง 32 คัน, ปืนใหญ่ 'D-30 howitzers' 16 กระบอก และ รถบรรทุกขนาดใหญ่ 'KamAZ' อีก 30 คัน ผ่านด่านตรวจบริเวณชายแดนเข้ามาในประเทศ และมุ่งหน้าสู่แคว้นลูฮานสก์ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.)

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนอีกคนคือ ดีมีโตร ทีโมชุค อ้างว่าในขบวนรถหุ้มเกราะดังกล่าว ยังมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์จากกองทัพรัสเซียรวมอยู่ด้วย ด้าน องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า กำลังตรวจสอบรายงานของยูเครน และรับรู้ถึงการเพิ่มขึ้นของกองทัพรัสเซียและยุทโธปกรณ์ที่ประจำการในภาคตะวันออกของรัสเซีย

ต่อมาในวันศุกร์ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกมาโจมตีข้อกล่าวหาของรัฐบาลยูเครนอย่างรุนแรง ระบุว่า รายงานยั่วยุเช่นนี้ มีเป้าหมายเพื่อทำให้ความตึงเครียดสูงขึ้นเท่านั้น และทางการยูเครนได้รายงานนี้มาจากข่าวลือในเครือข่ายสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนยังไม่สงบลง นับตั้งแต่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนเข้าควบคุมแคว้นโดเนตสก์ และลูฮานสก์ เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏ และส่งทหารมาร่วมต่อสู้ด้วย

ยูเครนอ้าง รัสเซียลอบส่งรถถังหลายสิบคันเข้าประเทศ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าภาคตะวันตกกรีซ



เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในทะเลทางภาคตะวันตกของกรีซช่วงรุ่งสางวันอาทิตย์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

วันอาทิตย์ 9 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:57 น.
สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง วัดได้ 5.1 แมกนิจูด ในทะเลทางภาคตะวันตกของกรีซ โดยรายงานของสถาบันธรณีพลศาสตร์เอเธนส์ ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.15 น. เช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น (6.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย) จุดกำเนิดอยู่ลึกใต้ทะเลประมาณ 5 กิโลเมตร ทางตะวันตกของเกาะคีฟาโลเนีย ในทะเลไอโอเนียน แรงไหวสะเทือนรู้สึกได้ทั่วภาคตะวันตกของแผ่นดินใหญ่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือมีผู้บาดเจ็บล้มตาย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกาะคีฟาโลเนียเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.7 แมกนิจูด เจ้าหน้าที่กรีซเผยว่า พื้นที่นอกชายฝั่งทางภาคตะวันตกเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้งมาก โดยครั้งรุนแรงสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2496 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเล ระหว่างเกาะคีฟาโลเนียกับเกาะซาคินธอส มีผู้เสียชีวิต 455 ราย อาคารบ้านเรือนบนเกาะทั้งสองพังทลายเกือบทั้งหมด.

แผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าภาคตะวันตกกรีซ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

บริษัทเรือส่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของโลกล้มละลาย



บริษัทขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแห่งเดนมาร์กประกาศการล้มละลาย หลังขาดสภาพคล่อง และผู้บริหารบริษัทสาขาในสิงคโปร์ฉ้อโกง

วันเสาร์ 8 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22:05 น.
สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า โอดับเบิลยู บังเคอร์ บริษัทขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแห่งเดนมาร์ก ประกาศล้มละลายแล้วในวันนี้ พร้อมกับแจ้งความตำรวจ ถูกพนักงานระดับผู้บริหารที่บริษัทสาขาในสิงคโปร์ 2 คนฉ้อโกง

โอดับเบิลยู บังเคอร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองอัลบอร์ก ทางเหนือของเดนมาร์ก แถลงเมื่อวันพุธ ว่า บริษัทประสบความสูญเสียคิดเป็นมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความล้มเหลวในกองทุนบริหารความเสี่ยง และการฉ้อโกงของพนักงานระดับผู้บริหาร 2 คน ของ ไดนามิค ออยล์ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของ โอดับเบิลยู บังเคอร์ ในสิงคโปร์ บริษัทยังไม่สามารถเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการฉ้อโกงได้

โอดับเบิลยู บังเคอร์ เป็นหนี้ธนาคาร 13 แห่งรวม 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ หากไม่ได้รับสินเชื่อใหม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีธนาคารใดปล่อยกู้ให้บริษัท นายนีลส์ เฮนริค เจนเซ่น ประธานบริษัท โอดับเบิลยู บังเคอร์ เผยเมื่อคืนวันศุกร์ ว่า บริษัทตัดสินใจยื่นขอล้มละลายต่อศาลในเมืองอัลบอร์ก หลังพิจารณาถี่ถ้วนแล้วว่า หมดหนทางที่จะรักษาธุรกิจส่วนที่เหลือของบริษัทไว้ได้.

บริษัทเรือส่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของโลกล้มละลาย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

จีนลงขัน 4 หมื่นล้านดอลลาร์กองทุนเส้นทางสายไหม



ผู้นำจีนประกาศลงขัน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งกองทุนสาธารณูปโภค "เส้นทางสายไหม" เพื่อกระตุ้นการเชื่อมต่อทั่วเอเชีย

วันเสาร์ 8 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22:45 น.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ประกาศที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ ว่า จีนพร้อมจัดสรรเงินจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการจัดตั้งกองทุนสาธารณูปโภค "เส้นทางสายไหม" เพื่อกระตุ้นการเชื่อมต่อทั่วเอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งของแผนรื้อฟื้นเส้นทางการค้าในอดีต ที่เคยเชื่อมต่อระหว่างจีนกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

สี ซึ่งกล่าวในระหว่างการพบปะกับผู้นำจาก บังกลาเทศ กัมพูชา ลาว มองโกเลีย เมียนมาร์ ปากีสถาน และทาจิกิสถาน ในกรุงปักกิ่งในวันนี้ เผยว่า เป้าหมายของกองทุนก็เพื่อ "ขจัดอุปสรรคการเชื่อมต่อถึงกัน" ในเอเชีย และกองทุนนี้จะ "เปิดกว้าง" สำหรับนักลงทุนทั่วเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ที่ต้องการมีส่วนร่วมในโครงการ

สัปดาห์ที่แล้ว สีเปิดเผยโครงการก่อตั้ง ธนาคารเพื่อการลงทุนด้านสาธารณูปโภคแห่งเอเชีย (เอไอไอบี) ที่จีนเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ ด้วยวงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกมองว่าเป็นความท้าทายต่อ ธนาคารโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) 2 สถาบันการเงินผู้ให้กู้นานาชาติรายใหญ่ ที่มีสหรัฐและกลุ่มประเทศพันธมิตรทางการเงินเป็นผู้สนับสนุน.

จีนลงขัน 4 หมื่นล้านดอลลาร์กองทุนเส้นทางสายไหม | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นจี้ชาติยุโรป-ลาติน-เอเชียช่วย “ออกตังค์” หนุนภารกิจรักษาสันติภาพ ระบุ จะหวังพึ่งแต่เงินชาติพัฒนาแล้วไม่ได้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤศจิกายน 2557 22:56 น.



@ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำองค์การสหประชาชาติ

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สหรัฐฯเรียกร้องประเทศในยุโรป ลาตินอเมริกา และเอเชีย ให้เพิ่มการมีส่วนร่วมให้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้าน “การเงิน” ต่อภารกิจรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติทั่วโลก ทั้งนี้ เป็นท่าทีล่าสุดของทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น

ในขณะนี้ องค์การสหประชาชาติมีการจัดส่งกองกำลังรักษาสันติภาพที่ประกอบไปด้วยทหารและตำรวจมากกว่า 110,000 นายเข้าร่วมภารกิจใน 16 ประเทศทั้งในแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย รวมถึงในเฮติ โดยยูเอ็นต้องพึ่งพากำลังพลส่วนใหญ่จากประเทศสมาชิกที่เป็นชาติ “กำลังพัฒนา”

อย่างไรก็ดี ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำองค์การสหประชาชาติ ระบุ ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบัน American Enterprise Institute ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันศุกร์ (7 พ.ย.) โดยระบุ แนวทางดังกล่าวถือเป็นรูปแบบการจัดกำลังที่ไม่มีความเหมาะสมอีกต่อไป และไม่สอดรับกับความท้าทายของภารกิจรักษาสันติภาพในศตวรรษที่ 21

“ที่ผ่านมา กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นมีแต่จะต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางการเงิน จากประเทศที่พัฒนาแล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายเป็นฝ่ายที่นำเงินของเราไปบริหารจัดการ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศอื่นๆจะต้องช่วยออกเงินสนับสนุนภารกิจเหล่านี้แทนการหวังพึ่งแต่เงินของประเทศที่พัฒนาแล้ว” ทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นกล่าว

พาวเวอร์ซึ่งเข้ารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติคนที่ 28 ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วระบุว่า กองทัพของชาติต่างๆในยุโรป ซึ่งกำลังถอนตัวออกจากอัฟกานิสถาน สมควรกลับไปมีบทบาทนำในกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นอีกครั้งเหมือนกับเมื่อช่วงทศวรรษ 1990 เช่นเดียวกับกำลังทหารจากชาติในลาตินอเมริกาและเอเชีย ที่สมควรต้องแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของตนในเวทีโลกมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงในนิวยอร์ก เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของภารกิจของกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็น โดยมีรายงานว่า ทางการโคลอมเบีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สวีเดน ชิลี และจีน ได้แสดงจุดยืนว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับยูเอ็นมากขึ้นในด้านนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯได้มอบเงินจำนวน 110 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,605 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนภารกิจของยูเอ็นใน 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาแต่ทางวอชิงตันประกาศจะทบทวนการช่วยเหลือดังกล่าวหากยังคงไม่มีประเทศอื่นใดช่วยรับภาระด้านการเงินต่อภารกิจรักษาสันติภาพในกาฬทวีปในอนาคตอันใกล้นี้

 

กล้องถ่ายในน้ำกลางอวกาศ กับสภาวะไร้น้ำหนัก
by Yawittha Kannu
7 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22:36 น.

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/9ZEdApyi9Vw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คลิปวิดีโอที่ถ่ายโดยนักบินอวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ เมื่อนักบินอวกาศว่างจากการทำงาน พวกเขาก็ถ่ายทำคลิปวิดีโอชิ้นนี้ขึ้น เป็นการเล่นกับกล้อง GoPro กับหยดน้ำ และสภาวะไร้น้ำหนักที่ทดลองไม่ได้บนโลก

ในสภาวะไร้น้ำหนักบนสถานีอวกาศนานาชาติ ขององ์การนาซา ที่นักบินอวกาศอย่าง สตีฟ สวอนสัน, เรด ไวส์แมน และอเล็กซานเดอร์ เกิร์สต์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ พวกเขาได้ทำการทดลองอย่างหนึ่งที่ทั้งสนุกและเป็นวิทยาศาสตร์ อย่างปรากฏการณ์แรงตึงผิวของน้ำเมื่ออยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก

นักบินอวกาศทั้ง 3 ทำการสร้างฟองอากาศจากน้ำ จนเกิดเป็นลูกบอลน้ำขนาดใหญ่ ลอยอยู่กลางห้อง จากนั้นใส่กล้อง GoPro เข้าไปกลางลูกบอลน้ำ และทำการเปิดกล้องบันทึก เหมือนการเอากล้องไปถ่ายจากใต้น้ำ

แต่ความยากอยู่ที่ตอนเอากล้อง GoPro ออกจากมวลน้ำก้อนนั้น ซึ่งไม่ได้ง่ายเหมือนตอนใส่เข้าไป เพราะน้ำเมื่อปราศจากแรงโน้มถ่วงให้อยู่เป็นที่นั้น จะครอบคลุมทุกอย่างที่มันสัมผัสอยู่ เป็นการยากที่จะเอากล้องออกจากมวลน้ำก่อนนี้ได้สำเร็จ สุดท้ายจึงต้องใช้ผ้าซับเอาน้ำพวกนี้ออกไปแทน เป็นคลิปการทดลองที่สนุกสนานสำหรับการทดลองที่ทำไม่ได้ในห้องทดลองบนพื้นโลก

ที่มา : metro.co.uk
youtube : NASA's Marshall Center

กล้องถ่ายในน้ำกลางอวกาศ กับสภาวะไร้น้ำหนัก - VoiceTV

 

คลิปพายุงวงช้างถล่มบางปะกง

ข่าวคลิปพายุงวงช้างถล่มบางปะกง บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง (มีคลิป)

คลิปมือถือของนายธรวิชญ์ เงินยวง ชาวบ้านที่กำลังขับรถกลับบ้าน และพบกับพายุงวงช้าง เป็นลมหมุนขนาดใหญ่ที่พัดถล่มบ้านเรือนประชาชน ในบริเวณ หมู่ 5 ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หอบเอาหลังคาบ้านเรือนไปกับแรงลมเสียหายไป 5 หลัง ขณะที่นายสุชิน กล้าเกิดผล ผู้ใหญ่บ้าน ได้สำรวจความเสียหาย และแจ้งไปยังอำเภอบางปะกงและทหารเข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยพบว่านอกจากบ้านเรือนจะได้รับความเสียหายแล้ว ยังมีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการเกษตร รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายด้วย
Tag : พายุงวงช้าง คลิปพายุงวงช้าง บางปะกง คลิปพายุงวงช้างถล่มบางปะกง

<iframe src='http://www.ch7.com/embed/94826?w=640&h=360&auto=true&' allowtransparency='true' frameborder='0' width='640' height='360' scrolling='no'></iframe>

ข่าวคลิปพายุงวงช้างถล่มบางปะกง บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง (มีคลิป)

 

ยาเสพติดตัวใหม่ ที่จะทำให้ผู้เสพกลายร่างเป็น ซอมบี้!!
พฤศจิกายน 4, 2014 6:50 am



ถ้าพูดถึงยาเสพติดที่รุนแรงที่สุดในโลกตอนนี้ก็คงต้องกล่าวถึงเจ้า krokodil ซึ่งเพื่อนๆสามารถเข้าไปอ่านถึงความรุนแรงของยาเสพติดชนิดนี้กันได้ภายในลิ้งค์ที่ชื่อเลยนะครับ ส่วนตอนนี้ Flagfrog จะขอพูดถึงยาเสพติดชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า


@เมื่อเสพเข้าไปจำนวนหนึ่ง

“Bath Salts” (ชื่ออย่างกับเกลือขัดผิว) ซึ่งเจ้าสารเสพติดตัวนี้ ถือว่าเป็นสารเสพติดที่มีส่งผลต่อผู้เสพรุนแรงมาก และถ้าเสพในปริมาณมากก็สามารถทำให้เสียชีวิตคาที่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเจ้า “Bath Salts” ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก แต่เจ้ายาตัวนี้ก็โลดแล่นอยู่ในอเมริกามานานพอสมควร ลักษณะของมันจะมีรูปร่างคล้ายเกลือ ส่วนวิธีการเสพขอไม่ระบุละกันนะครับ


@เสพแล้วไล่กัด

นักวิทยาศาสตร์ยังบอกอีกว่า มึนมากกับส่วนผสมทางเคมีของ “Bath Salts” เพราะมันทั้งเยอะและรุงรังเต็มไปหมดคล้ายๆกับว่าเอาสูตรของยาเสพติดรุ่นพี่มาผสมๆกันเข้าไปเพื่อเพิ่มความแรง จึงทำให้ผู้เสพรู้สึกถึงใจและพึงพอใจกับคุณภาพ เพื่อนๆคงจะจำข่าวที่ว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ดีดีก็ไล่กัดคนอื่นไปทั่วจนไม่สามารถควบคุมได้จึงต้องจัดการด้วยการยิงสะ ซึ่งในตอนนั้น ก็มีกันพาดหัวข่าวว่า หรือจะถึงเวลาที่ซอมบี้ระบาดแล้ว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอกครับ สาเหตุที่ชายคนนั้นไล่กัดคนอื่นไปเรื่อยเพราะ เจ้ายา “Bath Salts” นี้นั่นเอง


@เสพจนมีสภาพเป็นแบบนี้

จากรายงานของโรงพยาบาลอเมริกากล่าวตรงกันว่า “Bath Salts” จะส่งผลให้ผู้เสพเสียสติแบบถาวร เกิดภาพหลอนรุนแรง ใช้ความรุนแรงเนื่องจากหวาดระแวง ควบคุมตัวเองไม่ได้ หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ มีความร้อนในร่างกายสูงมาก ในระดับที่รุนแรงว่ายาไอซ์หลายเท่าตัว เห็นไหมล่ะครับว่ายาเสพติดไม่ดีเลย เพราะฉะนั้นถ้ารักตัวเอง รักครอบครัว รักพ่อแม่ ก็อย่าแม้แต่จะลองเลยนะครับ ด้วยความหวังดีจาก Flagfrog

http://www.flagfrog.com/bath-salts-dengerous-zombie/

 

Jeerachart Jongsomchai ได้แชร์ รูปภาพ ของเขา

... “นักธุรกิจทุนนิยมยิวในอเมริกาหนุนเงินช่วย คอมมิวนิสต์บอลเชวิคโค่นล้มซาร์ในรัสเซีย”


.
https://www.facebook.com/photo.php?...34424510396.2081333.1530201845&type=1&theater


... "คนยิว" อยู่อาศัยใน "รัสเซีย" มาหลายร้อยปีแล้ว ตอนช่วงปลาย ศตวรรษที่19 นั้นประเทศที่มีคนยิวอยู่มากที่สุดในโลกคือรัสเซีย และก็เหมือนทุกๆที่ที่คนยิวจะครอบครองการค้าการเงิน การธนาคารของทุกประเทศไว้ในกำมือตอนนั้นทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลีต่างอยู่ภายใต้การเงินการค้าของนายธนาคารชาวยิว โดยเฉพาะตระกูลร็อทไชล์ด

... ช่วงปลาย 1880 – 1906 มีการปลุกกระแสต่อต้านคนยิวขึ้นทั่วรัสเซียโดยหาว่าเป็นต้นเหตุแห่งความอดอยากของรัสเซียที่เอาเปรียบคนรัสเซีย ส่วนคนยิวเองก็มองว่าเป็นการหาแพะของระบบเจ้าซาร์ของรัสเซียในการเบี่ยงเบนความสนใจของคนรัสเซียจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศที่ล้าหลังของระบบเจ้าซาร์เอง มีการสังหารหมู่ชาวยิวอย่างโหดร้ายมากมายจากทางการรัสเซีย

... ย้อนกลับไปเมื่อปี 1897 ที่มีการก่อกำเนิด “ไซออนนิสต์” ขึ้นในโลกตามการประชุมครั้งแรกที่เมืองบาเซิ่ลในสวิสเซอร์แลนด์นั้น โดยหนึ่งในนโยบายคือการครองโลกทางการเงินเอาไว้ในมือให้ได้ ก็เป็นปีเดียวกันกับที่ในรัสเซีย ชาวยิวในรัสเซียได้ตั้งพรรคทางการเมืองขึ้นมาคือพรรค BUND เพื่อจะปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของชาวยิว และมีหลายกลุ่มทั้ง Menshevik, Bolshevik โดยช่วงแรกเน้นว่าประชาธิปไตย ตอนหลังต้องการมวลชนมาเป็นแนวร่วมบวกกับมุ่งแนวคิดคอมมิวนิสต์ จึงแตกออกมาเป็น Bolshevik ที่เน้นเพื่อกรรมาชน แต่ว่าจำนวนสมาชิกพรรคที่มีมากและระดับผู้นำใหญ่ๆล้วนเป็นเชื้อสายยิวแทบทั้งสิ้น ใน "สภาดูมา" เอง ก็มีคนยิวกว่า 3 ใน 4 ระบบซาร์จึงหวาดกลัวยิวจะครองประเทศ

... จึงมีขบวนการ”ไซออนนิสต์” ของชาวยิวคอยอุดหนุนให้การช่วยเหลือแก่พรรคต่างๆของรัสเซียในการโค่นล้มระบบซาร์ของรัสเซียให้ได้ โดยก่อนนั้นนายธนาคารยิวต่างก็มีอำนาจเหนือการเงินการธนาคารในประเทศใหญ่ๆหมดแล้วเหลือแต่ขั้นต่อไปคือการเชื่อมโยงเข้าหากันเป็นเครือข่าย ยังเหลือก็แต่รัสเซียที่ยังไม่ได้ เพราะระบบเจ้าซาร์ไม่ยอม โดยนอกจากจะตอบโต้โดยการปลุกกระแสต่อต้านชาวยิวแล้ว ยังเอาเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องด้วยโดยกดขี่ต่อต้านคนนอกศาสนาที่ไม่ใช่ แบบศาสนาคริสต์ออร์โธดอกซ์แบบรัสเซีย ซึ่งก็หมายถึงยิวจูดายนั่นเอง ดังนั่นสาเหตุเบื้องลึกของการ “ปฎิวัติรัสเซีย” จึงคือสงครามระหว่าง “เจ้านายชาวรัสเซียกับนายทุนกระฎุมพีชาวยิว” นั่นเอง โดยต่างก็เอาชาวบ้านประชาชนมาเป็นแนวร่วมและเครื่องมือ

... โดยฝ่ายนายทุนนักการเงินชาวยิวที่เป็นตัวหลักในการเอาเงินหนุนพรรคบอลเชวิคที่นำโดยเลนินและทร๊อตสกีคือ “นาย Jacob Schiff “ ที่เป็นชาวยิวเกิดในเยอรมันแต่ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 1865 เขากลายมาเป็นนักธุรกิจที่โด่งดังและกว้างขวางใน Wallstreet นิวยอร์ค เป็นคนหลักที่ประสานการระดมทุนจากชาวยิวในอเมริกา ( และเยอรมัน อังกฤษ )เข้ามาอุดหนุนช่วยเหลือกับบอลเชวิคมาตลอด เขาเคยติดต่อให้ ลีออน ทร๊อตสกี้มากล่าวปราศรัยระดมทุน ( เหมือนที่ ซุนยัดเซน มากล่าวระดมทุนแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนโค่นล้มราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู ) ที่อเมริกามาแล้ว ซึ่งตอนนั้นทร็อตสกี้โดนกล่าวหาอย่างหนักกับการหน้าไหว้หลังหลอก ที่ว่าทุนนิยมแต่ไปอยู่ที่อเมริกาแบบหรูหราช่วงนั้น ( ดังนั้นผู้นำคอมมิวนิสต์จึงไม่ได้รังเกียจทุนนิยมเข้าลำไส้ใหญ่อย่างที่วาทะกรรมที่ออกมาตามหน้าหนังสือแต่อย่างใด )

... โดยนักวิเคราะห์หลายคมองว่า Jacob Schiff คงคาดหวังจากการได้ประโยชนทางธุรกิจกลับคืนมากแน่ ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ว่าเขาเองก็เป็นเครือข่ายของ” ไซออนนิสท์” ด้วยเช่นกัน โดยหลานเขาบอกว่า Jacob Schiff ได้หาเงินหนุนในการโค่นล้มซาร์ของรัสเซียมากถึง 20 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น นอกจากนั้นเขายังได้ให้นาย Takahashi Korekiyo รองผู้ว่า “ธนาคารคารแห่งญี่ปุ่น” กู้เงินไปทำสงครามกับรัสเซียมากถึง 200 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี1904 – 5 เพื่อจะทำทุกวิถีทางในการตัดกำลังทำให้รัสเซียอ่อนแอลง ซึ่งสุดท้ายญี่ปุ่นก็ชนะรัสเซีย โจมตีหนักจนรัสเซียต้องถอนกองทัพออกจาก Port Arthur เมืองท่าน้ำลึกทางตะวันออกไกล

... รัสเซียของระบบซาร์ ต้อง "ทำศึกสองหน้า" ทั้งภายในกับพรรคต่างๆของยิวและภายนอกกับญี่ปุ่น การเงินก็หร่อยหรอ สังคมยิ่งวุนวาย สุดท้ายระบบซาร์ของราชวงศ์โรมาน๊อฟก็แตกล่มสลายไป

... และสุดท้าย 1917 ระบบซาร์ของราชวงศ์โรมานอฟก็สิ้นสุด “บอลเชวิค” ที่ได้การช่วยเหลือทางการเงินจากนายทุน แต่สุดท้าย “ยิว”ที่ร่วมช่วยเหลือกันมาในการล้มรัสเซียก็มาแตกกันเอง

... หลังชนะ “บอลเชวิค” ที่ตอนหลังเน้นเพื่อกรรมาชน และการไม่เอาพิธีกรรมทางศาสนามาเป็นอุดมการณ์ โดยเน้นความเป็นสากล ได้ก่อตั้งหน่วย “ Yevsektsiya” ที่เป็นกลุ่มของชาวยิวโดยเฉพาะ ตั้งขึ้นมาเพื่อกำจัดคู่แข่งภายในฆ่ากลุ่ม “BUND” , ศาสนายูดาย และ กลุ่ม “ไซออนนิสท์” ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชาวยิวด้วยกันเองทั้งนั้น และสุดท้ายจึงเกิดการอพยพชาวยิวหนีจากรัสเซียอีกรอบ

... แต่ความสัมพันธ์ระหว่างชาวยิวในรัสเซียกับนายทุนอเมริกันยิวยังมีอยู่เช่นกรณียิวรัสเซียคนหนึ่งจะขายกิจการรัฐวิสาหกิจน้ำมันขนาดใหญ่ให้แก่อเมริกาในช่วงต้นสมัยของ วลาดิเมียร์ ปูติน แต่สุดท้ายปูตินยึดเอามาเป็นของรัฐบาล และ “คนยิวไซออนนิสท์” หลายคนอาจยังไม่ทิ้งความฝันในจะพิชิตระบบการเงินในรัสเซียให้ได้ แต่มีปูตินขวางอยู่ในเวลานี้

.
Who financed Lenin and Trotsky?
History of the Jews in Russia - Wikipedia, the free encyclopedia
Jacob Schiff - Wikipedia, the free encyclopedia
Jeerachart Jongsomchai

 

Jeerachart Jongsomchai ได้แชร์ รูปภาพ ของเขา
3 พฤศจิกายน เวลา 13:54 น.



... "กาฬโรค ... จากทางสายไหม สงคราม สู่การเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก"
.
https://www.facebook.com/photo.php?...set=a.1634424510396.2081333.1530201845&type=1

... เส้นทางโลกาภิวัฒน์ครั้งแรกของโลกคือ "ทางสายไหม" นั้นมีการค้าขายจากเมืองฉางอัน ( ปัจจุบันคือ ซีอาน ) ของจีน ผ่านอัฟกานิสถาน อิหร่าน(เปอร์เซีย) ผ่านสู่ เอเชียกลาง ไครเมีย เจนัว และเวนิซ ในอิตาลีปัจจุบัน ที่ไม่เฉพาะการค้าขายของพ่อค้า นักบวชผู้แสวงบุญ นักเดินทาง เท่านั้น แต่ยังมี "กาฬโรค" ที่อาศัยเส้นทางนี้ในการแพร่กระจายออกไปทั่วเอเชียและยุโรป

... ในครั้งแรกที่มีการเแพร่ระบาดของโรคนั้นอยู่ในช่วง ปี คศ. 1346 – 1353 ที่ช่วงนั้น "ชาวมองโกล" ได้มาปกครองหลายส่วนของอาณาจักรของชนชาวรัสเซียแล้ว ( ชาวมองโกลปกครองรัสเซีย คศ. 1223 - 1480 ) โดยจุดที่แพร่ระบาดครั้งแรกนั้นบางทฤษฏีว่าเกิดที่ "เอเชียกลาง" ด้านใต้ของรัสเซียและตะวันตกของจีน แต่นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่บอกว่าน่าจะมีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนก่อน แล้วจึงถูกชาวมองโกลนำมาผ่าน "ทางสายไหม" โดยพบว่าระบาดจากเห็บของหนูดำ ที่พบได้ทั่วไปกับเรือสินค้าหรือกองคาราวานขบวนสินค้าของพ่อค้า

... โดยผลของการระบาดนั้นได้ฆ่าประชากรของยุโรปไปกว่า 30–60% ของทั้งหมด. ทำให้ประชากรโลกลดจาก 450 ล้านคนเหลือแค่ 350–375 ในช่วงคริสศตวรรษที่ 14 และการเสียชีวิตของคนและการแพร่ระบาดได้ทำให้เกิดกลียุคมากมาย ทั้งด้านสังคม ศาสนา เศรษฐกิจทั่วทั้งยุโรป และมีผลอย่างมากกับการเปลี่ยนโฉมใหม่ของประวัติศาสตร์ยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนโลกในเวลาต่อมา ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 150 ปีในการฟื้นตัว

... นอกจากนั้นยังพบว่ากาฬโรคได้แพร่ระบาดไปไกลทั่วทั้งเมืองท่าต่างๆของยุโรป เมโสโปเตเมีย(อิรัก) อินเดีย ซีเรีย อาร์เมเนีย ตาร์ตารี่

... "กาฬโรค ถูกใช้ในสงคราม คือจุดเปลี่ยนการระบาด"

... และที่สำคัญคือ "จุดเปลี่ยน" ที่ทำให้ระบาดสู่ยุโรปนั้น ระบาดเพราะได้ถูกใช้ใน "การสงคราม" โดยครั้งนั้นในปี 1347เมืองCaffa ของ Crimea ทหารมองโกลภายใต้การนำของ Jani Beg หลังจากที่ตรึงล้อมเมืองอยู่นาน ทหารมองโกลได้ใช้ "ศพคนป่วย" ยิงกับเครื่องยิงหนังสติ๊กเข้าไปในเมือง Caffa ทำให้ภายในเมืองเกิดโรคระบาดไปทั่ว และพ่อค้าชาวเจนัว ที่อยู่ในเมืองได้หนีไปก็ได้นำเอากาฬโรคติดไปด้วยที่เกาะซิซิลี ตามด้วยเมืองเจนัวและเวนิซ ในปี 1348 และลามไปทั่วยุโรปตอนใต้ในที่สุด ซึ่งทั้งสงคราม ความอดอยากปากแห้ง และสภาพอากาศได้ส่งเสริมให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น

... จากนั้นระหว่างปี 1348–50 ก็ระบาดจากอิตาลี ฝรั่งเศศ สเปน โปรตุเกศ อังกฤษ เยอรมัน สแกนดิเนเวีย ไอซ์แลนด์ เบลเยี่ยม เนธอร์แลนด์ โปแลนด์ ,ครึ่งหนึ่งของประชากรในปารีสจาก 100,000 คนตายจากโรคนี้, เมืองฟลอเรนซ์คนตายเกือบ 70,000 คน , ในเยอรมันตายไปแสนกว่าคนในเวลาสองปี , 40% ของพลเมืองชาวอียิปต์ตาย

... "ผลกระทบทางสังคม"

... เมื่อมีคนตายมากขึ้น แรงงานในระบบก็หายไป การเพาะปลูกก็น้อยลง อาหารการกินฝืดเคืองเศรษฐกิจก็แย่ลง เมืองก็วุ่นวายเกิดกลียุค เริ่มมีการกล่าวโทษคนที่เป็นคนพาโรคมา หนีไม่พ้น "พ่อค้า นักบวช นักเดินทาง คนต่างถิ่น ขอทาน ผู้แสวงบุญ" โดยเฉพาะ "คนยิว" ที่เป็นพ่อค้า ที่อาจจะมีการไม่ชอบในความเป็นคนหัวการค้าและเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว ทำให้คนยิว ถูกฆ่าตายเพราะถูกอ้างว่า เป็นต้นเหตุนำโรคมาที่ยุโรป

... ปี 1349 ในแคว้น Mainz , Cologne และ Strasbourg มีการบุกทำลายชุมชน "ชาวยิว" และฆ่าชาวยิวหลายพันคนทั้งพ่อค้า และ ขุนนาง ในข้อกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุแห่งโรคร้าย ( ไม่รู้ว่ามีการเมืองมาแทรกแทรงหรือเปล่า แบบโครงการสงครามยาเสพติดในไทยหลายปีก่อน ที่คนที่ไม่กินเส้นกับตำรวจ ถูกยัดข้อหานี้ แล้วตายอย่างน่าปริศนา )

... และหลังจากนั้นมา ประวัติศาสตร์ยุโรปก็เปลี่ยนแปลงไป เหมือนล้างบ้านใหม่ หลายอย่างได้ปรับเปลี่ยนแนวทางมีการจัดระเบียบการปกครอง ชุมชน การค้าให้ปลอดภัยมากขึ้น ( เพราะเมื่อไม่มีคนยิวการค้าก็ต้องปรับเปลี่ยนไป สังคมก็เปลี่ยนไป )

... จากประวัติศาสตร์ทำให้เรารู้ว่า "โรคระบาด" สามารถถูกเอามาใช้ใน "การสงคราม" ได้ จากผู้ที่ต้องการครอบครองดินแดนอื่น และสามารถเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของโลกได้ ... ( ลองนึกภาพว่าถ้าเรือสินค้าจากอาฟริกา พา "โรคอีโบล่า" ไป "จีน" ที่ประชากรเป็นพันล้านคน ไปยุโรป หรืออเมริกาใต้ แล้วระบาดออกไปมากขึ้น โลกเราจะปั่นป่วนเพียงไร ) แม้จะไม่ถูกหลักศีลธรรมหรือมนุษยธรรมก็ตาม แต่เพื่อการได้เป็นใหญ่ ผู้ชนะและครองโลก พวกเขาไม่สนใจ

.
Black Death - Wikipedia, the free encyclopedia
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=kScxc9DPrnY]The Black Death - Worst plague in history - YouTube[/ame]
Jeerachart Jongsomchai

 

ข่าวนี้เงียบไปเลย สรึปว่าเอาอยู่ไหมเพราะถ้าเอาอยู่น่าจะมีข่าวออกมาว่าคุมโรคอยู่น่ะครับ เงียบแบบนี้หรือว่าเอาไม่อยู่

จีนปิดเมืองในกานซู่ กักประชาชน 30,000 คน กันกาฬโรคระบาดวงกว้าง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2557 10:21 น.



เอเจนซี- จีนสั่งปิดเมืองอี้ว์เหมินในมณฑลกานซู่ 9 วัน ห้ามประชาชนราว 30,000 คน ออกจากเมืองและ คนนอกเข้ามาในพื้นที่ พร้อมกักกันประชาชน 151 คนไว้ในด่านตรวจโรค หลังพบชายเสียชีวิตด้วยกาฬโรคเมื่อสัปดาห์ก่อน

จีนปิดเมืองในกานซู่ กักประชาชน 30,000 คน กันกาฬโรคระบาดวงกว้าง
รถบรรทุกขนน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดเมืองยู่เหมินทั้งเมือง (ภาพ: เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์)

สถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน หรือซีซีทีวี (CCTV) รายงาน ประชาชนกว่า 30,000 คนในเมืองอี้ว์เหมิน มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ถูกทางการจีนสั่งห้ามออกจากเมือง นอกจากนี้ทางการยังกักกันประชาชน 151 คนไว้ในด่านกักกันโรค เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อกาฬโรค ในขณะที่ตำรวจต้องตั้งด่านอยู่นอกเมือง คอยแจ้งให้ผู้สัญจรไปมา ใช้ถนนเส้นอื่นเพื่อเลี่ยงการผ่านเข้ายู่เหมิน

การปิดเมืองอี้ว์เหมินครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการเสียชีวิตของชายวัย 38 ปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16 ก.ค.) โดยก่อนเสียชีวิต ชายคนดังกล่าวสัมผัสกับซากตัวมาเมิต (marmot) (สัตว์ขนฟูตัวเล็กคล้ายกระรอก ในตระกูล Marmota อาศัยอยู่ในรูในทุ่งหญ้าแถบยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชียเหนือ ) เพราะสับเนื้อของมันเป็นอาหารให้สุนัข จากนั้นในวันเดียวกันเขาก็มีไข้ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประชาชนในอี้ว์เหมิน ทว่าอาการของเขากลับทรุดหนักลงภายในเวลา 2 วัน

ทั้งนี้ ซินหวาอ้างเจ้าหน้าที่กองควบคุมโรค มณฑลกานซู่ ที่ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17 ก.ค.) ว่า เขาได้รับเชื้อกาฬโรคปอด


@ตัวมาเมิต พาหนะนำโรคกาฬโรค จนจีนต้องสั่งปิดเมืองทั้งเมืองป้องกันการแพร่ระบาด (ภาพ: เอพี)

อย่างไรก็ตาม นอกจากการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายผู้คน ยานพาหนะ และสิ่งของ ออกจากย่านใจกลางเมืองเก่าของอี้ว์เหมิน ยังมีการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ ในตำบลชือจิน ซึ่งผู้ตายอาศัยอยู่และเป็นแหล่งที่เขาได้รับเชื้อ ซีซีทีวี รายงาน

ในด้านการจัดการ “เมืองอี้ว์เหมินมีข้าว แป้ง และน้ำมันเพียงพอให้ประชาชนทุกคนใช้ได้ถึงหนึ่งเดือน” ซีซีทีวี รายงานเพิ่มเติม “ตอนนี้ประชาชนในท้องถิ่นและกลุ่มที่ได้รับการกักตัวยังมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี”

นอกจากนี้ ซีซีทีวี ยังรายงานอีกว่า “เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ใครออกจากเมือง” แม้ว่าก่อนหน้านี้ ไชน่า เดลีจะรายงานว่า มีการตั้งด่านกักกันโรคในเมืองไปแล้วถึง 4 แห่ง ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ ยังไม่มีรายงานออกมาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในประเทศจีน กาฬโรคจัดเป็น “โรคติดเชื้อระดับ A” ซินหวา สื่อทางการของจีน เผย “และถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดในกฎหมายจีนว่าด้วยการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ”

อย่างไรก็ตาม กานซู่ ลีกัล เดลี (Gansu Legal Daily) รายงานอ้างคำกล่าวเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ระบุ ในรายงานเมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ก.ค.) ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในกลุ่มประชาชน 151 คนที่ถูกกักกันโรค “เนื่องจากมีการวินิจฉัยได้ทันกาลและมีการจัดการได้อย่างเหมาะสม ทำให้ตอนนี้ทางการสามารถควบคุมโรคได้แล้ว”

อนึ่ง การปิดเมืองอี้ว์เหมินจะครบกำหนด 9 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์ ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.)


กาฬโรค หรือที่รู้จักกันในนาม แบล็กเดท (Black Death) หรือ กาฬมรณะ เป็นโรคระบาดที่ก่อความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ เป็นสาเหตุให้มีชาวยุโรปหลายสิบล้านคนเสียชีวิต ในศตวรรษที่ 14 กาฬโรคมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย เยอซิเนีย แพสทิซ (Yersinia pestis) ซึ่งแพร่ระบาดอยู่ในสัตว์จำพวกหนูในแถบตอนกลางของเอเชีย

อาการของกาฬโรคขึ้นอยู่กับบริเวณที่มีเชื้อมากในแต่ละบุคคล เช่น กาฬโรคที่ต่อมน้ำเหลือง (bubonic plague) กาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ (septicemic plague) ในหลอดเลือด กาฬโรคแบบมีปอดบวม (pneumonic plague) ในปอด

ทั้งนี้ กาฬโรคปอดเป็นประเภทที่รุนแรงที่สุด และเป็นประเภทเดียวที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านละอองเสมหะ

ปัจจุบัน กาฬโรคเป็นโรคระบาดหนึ่งในสามโรคที่ต้องรายงานต่อองค์การอนามัยโลก (อีกสองโรค คือ อหิวาตกโรคและไข้เหลือง)

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (US Centers for Disease Control and Prevention) ระบุในเว็ปไซด์ขององค์กรไว้ว่า ยาปฏิชีวนะสมัยใหม่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการรักษากาฬโรค แต่จำต้องใช้ทันที เพราะเชื้อกาฬโรคสามารถทวีความรุนแรงและทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

“การติดเชื้อกาฬโรคในคนยังคงมีให้เห็นทางตะวันตกของอเมริกา แต่ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือในแอฟริกาและเอเชีย” ศูนย์ควบคุมฯให้ข้อมูลเพิ่ม เติม

 

Aey Wanwara

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ให้ศูนย์โลหิตแห่งชาติค่ะ

 

Ammy Chumnankit ได้แชร์รูปภาพของ Bank of Thailand Scholarship Students



(Nov 8) คอลัมน์ ธุรกิจโลก: 'ปฏิวัติร่ม' ถล่มเศรษฐกิจฮ่องกงพังแล้วเฉียด 2 แสนล้านการเงิน-ท่องเที่ยว-ค้าปลีก-อสังหาริมทรัพย์แสนสาหัส : เคราะห์กรรมกำลังคุกคามเกาะฮ่องกงอย่างหนักหนาสาหัสสากรรจ์ ถึงขั้นเปลี่ยนสถานะแห่งความเป็น "เกาะหอม"...ความเป็น "สวรรค์ของการจับจ่าย"...ความเป็น "สนามการค้าการลงทุน" ที่ทรงเสน่ห์ ให้กลายเป็น "ป่าช้าอเวจี" ที่ใครต่อใครพากันหวาดหวั่นขวัญผวา

ปรากฏการณ์เปลี่ยนฮ่องกง จากสวรรค์ของการจับจ่าย ให้กลายพันธุ์เป็นป่าช้าอเวจี ปะทุขึ้นเมื่อเดือน ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มขบวนการนักศึกษาเป็นแกนนำ ด้วยการนัดหมายชุมนุมเรียกร้องสิทธิในการปกครองตัวเองโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำจากรัฐบาลจีน

ขบวนการนักศึกษาที่หลอมรวมเข้ากับพลังประชาชนชาวฮ่องกง ซึ่งชุมนุมเคลื่อนไหวทวงสิทธิในการปกครองตัวเองของชาวฮ่องกง เรียกขานตัวเองว่า "ขบวนการปฏิวัติร่ม" ด้วยเหตุที่กลุ่ม ผู้ชุมนุมใช้ร่มเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการชุมนุม

ขณะเดียวกันขบวนการปฏิวัติร่ม ได้เรียกขานปฏิบัติการทวงสิทธิในการปกครองตัวเองว่า "ปฏิบัติการออคคิวพายเซ็นทรัล" ด้วยการยึดใจกลางธุรกิจของเกาะฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการชุมนุม เลียนแบบ

ปฏิบัติการออคคิวพายวอลล์สตรีทในมหานครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา นับจากจุดเริ่มต้นการเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิวัติร่ม เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 2 ตุลาคม ได้ส่งผลกระทบกระเทือนต่อภาคธุรกิจหลักในระบบเศรษฐกิจฮ่องกงไปแล้วคิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 176,000 ล้านบาท

ภาคธุรกิจที่ถูกกระทบกระเทือน

จากการชุมนุมรุนแรงที่สุด กระจุกตัวอยู่ในภาคธุรกิจค้าปลีก ภาคธุรกิจการเงิน ภาคธุรกิจท่องเที่ยว และภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ในจีดีพีของระบบเศรษฐกิจฮ่องกงรวมกันถึงประมาณร้อยละ 30

รูปธรรมความกระทบกระเทือนจากการชุมนุมทางการเมืองต่อชีพจรการเคลื่อนไหวของธุรกิจในฮ่องกง สามารถสัมผัสรับรู้ได้ผ่านหลายมิติ

มิติแรก "Chow Tai Fook Jewellery Group" ซึ่งเป็นเครือข่ายศูนย์ การค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง ได้สั่งปิดร้านกว่า 20 แห่งทั่วเกาะฮ่องกง ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการคือความปลอดภัย และขาดแรงซื้อจากลูกค้า

มิติที่สอง ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างเอชเอสบีซี และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด รวมทั้งธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กรวมกันกว่า 20 แห่ง สั่งปิดบริการสำนักงานสาขาและเครื่องเอทีเอ็มกว่า 44 จุด

มิติที่สาม โรงแรม และอพาร์ต เมนต์ให้เช่าถูกยกเลิกการเช่าแบบปัจจุบันทันด่วน เป็นเหตุให้มีห้องพักว่าง พื้นที่เช่าว่างเหลือเฟือ ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องทุบราคาค่าเช่ากันกราวรูด

มิติที่สี่ บริการขนส่งมวลชนสาธารณะในระบบถนนย่านใจกลางธุรกิจ หยุดสนิททั้งรถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ เหลือเพียงระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเท่านั้นที่ยังคงมีการเปิดให้บริการตามปกติ

มิติที่ห้า ระดับราคาหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกง ที่สะท้อนผ่านดัชนีฮั่งเส็ง มีการทรุดตัวลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่องนับจากวันที่ 26 กันยายนเป็นต้นมา

นอกเหนือจากนี้กิจกรรมงานเฉลิมฉลองวันชาติจีนที่เคยจัดต่อเนื่องเป็นประจำคู่ขนานไปกับทุกเมืองใหญ่ในประเทศจีน ก็มีอันต้องถูกระงับไปโดยปริยาย

เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวแสดงพลังปลดแอกจากรัฐบาลจีนและทวงสิทธิการปกครองตัวเองครั้งนี้ มีเสบียงเป็นผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังสัญชาติอเมริกัน

Source: สยามธุรกิจ

 

สิ่งที่นายแพทย์ทำให้ "เด็กแรกเกิด" อาจทำให้คุณใจละลายได้

เหมียวก็ไม่ค่อยทราบเรื่องการแพทย์สักเท่าไหร่นะ ว่าการคลอดบุตรมีวิธีการอย่างไรบ้าง ก็เคยได้ยินแต่จับเด็กห้อยหัวลง แล้วก็ตีก้นป้าบๆให้ร้องให้ ซึ่งก็โบราณมากๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว

แต่ที่โรงพยาบาล Magee-Womens แห่งมหาวิทยาลัย University of Pittsburgh Medical Center แห่งนี้มีสิ่งหนึ่งที่แปลกออกไป แต่เมื่อดูแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

Dr. Carey Andrew-Jaja เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งนี้ เขาได้ทำอะไรบางอย่างแก่เด็กแรกเกิด ซึ่งดูท่าทางเด็กและคุณแม่จะชอบเอามากๆเลย เหมียวหวังว่าทุกคนก็คงจะชอบเหมือนกันนะ

ไปดูกันดลยดีกว่าว่าคุณหมอเขาทำอะไรกัน

<iframe width="630" height="480" src="//www.youtube.com/embed/NBrhF77Hqag" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


สิ่งที่นายแพทย์ทำให้ “เด็กแรกเกิด” อาจทำให้คุณใจละลายได้ | CatDumb.com สำนักข่าวแมวเหมียว

 

In & Outside World



Orion space capsule
4 ธันวาคม 2014 NASA จะปล่อย the Orion แคปซูลอวกาศ
Orion จะใช้นักบินอวกาศไปยังสถานที่ห่างไกล เช่นดาวเคราะห์น้อยในวงโคจรของโลก หรือแม้แต่ดาวอังคาร
หลังจากที่การปล่อยยานอวกาศล้มเหลวก่อนหน้านี้ ทำไม NASA ยังเร่งจะปล่อย Orion space capsule
- โลกเริ่มไม่ปลอดภัย หรือ ต้องการทดสอบการห้ามเดินทางสู่อวกาศจากมนุษย์ต่างดาว
.........4 ธันวาคม ได้รู้กัน.......


http://www.space.com/27672-orion-test-flight-preview-webcas…

 

In & Outside World
นักวิทยาศาสตร์งุนงงเหตุปลาตายเกลื่อนอ่าวรีโอเดจาเนโร
8 พ.ย. 57 15.40 น. | เ สำนักข่าวไทย อ.ส.ม.ท.

[/IMG]

สนับสนุนเนื้อหา ซากปลาตายนับพันตัวถูกซัดเข้ามาในอ่าวกวานาบาราในนครรีโอเดจาเนโร สร้างความงุนงงให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่หาคำอธิบายไม่ได้
นักวิทยาศาสตร์งุนงงเหตุปลาตายเกลื่อนอ่าวรีโอเดจาเนโร
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
8 พ.ย. - ซากปลาตายนับพันตัวถูกซัดเข้ามาในอ่าวกวานาบาราในนครรีโอเดจาเนโรของบราซิลที่เต็มไปด้วยความสกปรกอยู่แล้ว สร้างความงุนงงให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่หาคำอธิบายไม่ได้ ขณะที่อ่าวดังกล่าวจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันแล่นเรือใบในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2016
ความสกปรกจากขยะต่างๆ ที่ผู้คนทิ้งลงในน้ำทำให้อ่าวกวานาบาราสกปรก และสร้างความวิตกแก่นักแข่งเรือใบที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) แสดงความมั่นใจว่า อ่าวนี้จะสะอาดทันการแข่งขัน แต่ซากปลาตายหลายพันตัวและเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งแล้วเป็นจำนวนมากทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ทางการให้บริษัทเอกชนนำรถตักมากำจัดซากปลาไป 20 ตัน และมีซากเต่าทะเลอีก 4 ตัว
นักวิทยาศาสตร์ยังสบสนกับปรากฏการณ์ดังกล่าว และว่ายังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามลพิษในน้ำเป็นสาเหตุทำให้ปลาตาย นักสมุทรศาสตร์มหาวิทยาลัยรัฐรีโอเดจาเนโรและนักวิจัยจากสถาบันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่างชี้ว่า ผลการตรวจสอบน้ำไม่พบสารเคมีพิษหรือการเปลี่ยนแปลงผิดปกติของค่าความเป็นกรดด่าง ความเค็มหรือปริมาณออกซิเจน จึงยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้านชาวประมงและชาวบ้านโดยรอบพากันโทษว่า สาเหตุมาจากเปโตรบราส บริษัทปิโตรเคมีของรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากอุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นไปอยู่ที่ 27-30 องศาเซลเซียสในช่วงหลายวันก่อนทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลงจนเป็นเหตุให้ปลาตายจำนวนมาก - สำนักข่าวไทย
http://news.sanook.com/…/นักวิทยาศาสตร์งุนงงเหตุปลาตายเกลื…/